คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [OS] Still missed
ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมนึกถึงคนคนนึงมาตลอด เราไม่ได้ไม่ได้เจอกันมาสักพัก ถึงตอนที่เราอยู่มหาลัยเดียวกัน เราเจอกันบ่อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกันเท่าไหร่ ถามว่าสนิทไหม ผมอาจจะตอบว่าสนิท แต่เขาอาจจะตอบว่าไม่สนิท ไม่รู้สิ เราคุยกันผ่านความเงียบ ผมเป็นคนเข้าใจยาก เขาก็เป็นคนเข้าใจยาก เราไม่ได้พยายามเข้าหากัน แต่ไม่รู้นะ .. เขาเป็นคนฉลาด ฉลาดพอที่จะรู้ว่าผมกำลังจะสื่ออะไรโดยที่ผมไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ
เขาเป็นพี่ผมสองปี เรารู้จักกันผ่านทางรุ่นพี่ของผม เขาอยู่ในกลุ่มนั้นด้วยเลยทำให้เราเจอกันบ่อย แต่ผมไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นพี่เลย ไม่เคยเรียกพี่นำหน้าด้วยซ้ำ ด้วยความที่เป็นเขาง่ายๆเลยไม่ได้ถือสาเอาความอะไร เขาพูดน้อย แต่การกระทำของเขามันไม่น้อยด้วยเลย ผมถูกชะตากับเขาเอามากๆ
วันที่เราได้คุยกันอย่างจริงจังก็คงเป็นตอนที่รุ่นพี่ของผมกับกลุ่มเพื่อนที่นัดกันไปห้างสรรพสินค้า เพื่อนผมประมาณ 5 คน กลับรุ่นพี่อีก 3 คน ก็นัดไปดูหนังกัน มีเพียงแค่ผมกับเขาที่ไม่ได้เข้าไปดูหนัง เราเลยเดินเล่นกันสองคนส่วนใหญ่จะไปหยุดอยู่ที่ร้านหนังสือบ้าง ร้านขายแผ่นซีดีบ้าง ถ้าผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองเขาก็คงจะถูกชะตาผมเหมือนกัน เราสองคนเลยแลกเบอร์กัน แต่เราก็ไม่โทรหากันเลยสักครั้ง..
เวลาผ่านไปประมาณสองเดือน เขาเหมือนมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ผมก็มีแฟนของผม แฟนของผมที่กำลังนอกใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่สามารถนับได้ เขาทักไลน์ผมมาครั้งแรกหลังจากที่รู้ว่าผมยังยอมให้ผู้หญิงคนนั้นหลอกครั้งเล่า เขาทักมาบอกแค่ว่า ‘ถ้าเป็นงี้ก็เลิก’ เขาพิมพ์มาแค่นั้น ผมกดอ่านแต่ก็ไม่ได้ส่งอะไรกลับไป เขาบอกผมเหมือนที่เพื่อนๆเคยบอก แต่ผมก็ยังยืนยันที่จะเชื่อตัวเอง
ยังยอมให้เธอหลอก ..
เวลาก็ล่วงเลยมาเรื่อยๆจากที่เขาเข้ามามีบทบาทในชีวิตของผมมากขึ้น ทั้งกินข้าวกลางวันที่โรงอาหารด้วยกันบ้างบางที เจอกันก็คุยกันมากขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน ก็เลยทำให้แฟนของผมเริ่มมีอาการหึงหวงขึ้นมามากขึ้นถนัดตา แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ดีขึ้นเลย .. เธอทำเป็นหวงผมกลบการหลอกของเธอครั้งที่ร้อย ผมไม่ทนอีกต่อไป ตัดสินใจก้าวออกมาจากตรงนั้น ผมร้องไห้ให้กับอดีตบ้าๆที่เคยเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า กะว่าจะร้องให้ตายไปเลยกับหนึ่งอาทิตย์ ผมซึมและไม่ได้ไปเรียนสามวันนับจากที่บอกเลิกกับอดีตบ้าๆนั่น วันนั้นเป็นเวลาประมาณเกือบหกทุ่ม ผมกำลังนอนอยู่บนเตียงน้ำตาที่ไหลแห้งเหือดไปหมดแล้ว เหลือเพียงแต่ตะกอนความคิดที่ตกข้างอยู่ในสมอง ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น มันเหนื่อยกับการที่จะมาพูดอะไรตอนนี้ ความเหนื่อยล้ากับการร้องไห้ทำให้ผมกำลังใกล้จะหลับไป แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น แต่มันก็เป็นเสียงที่น่ารำคาญสำหรับผม ไม่รู้ว่าโทรศัพท์ดังเป็นเวลานานเท่าไร แต่รู้แค่ว่าผมตื่นมาอีกที โทรศัพท์ก็ยังดังอยู่ ผมหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปลายสายคือใคร รับโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกไป แล้วก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนโทรมา ..
“ไอ้ทน่าเ ทำไอด้ะมยดเ เรีนกสทแกดว@!$#%% ทำไมไม่หสกพา ลำโพงเสบำเทบ” ผมไม่เข้าใจคำพูดที่ผ่านมาเท่าไหร่ แต่เขาพูดก็ชัดนะ ผมเลือกที่จะไม่ฟังมากกว่า รู้แค่ว่าปลายสายเป็นเสียงที่คุ้นหู ผมเลือกที่จะไม่ตอบอะไรกลับไป ผมเงียบ ..
“เป็นเหี้ยอะไรได้ยินยัง”
ผมสะดุ้งหลุดจากพวังค์ของตัวเองตอนนั้น มันเป็นเสียงที่คุ้นหูแต่ก็ยังฟันธงไม่ได้ว่าใคร ผมตัดสินใจถามโง่ๆออกไป
“ใคร..”
“แบค” ปลายสายตอบกลับมาห้วนๆ เขาคนที่โลกไม่เข้าใจได้โทรหาผมงั้นเหรอ
“บยอน .. แบคฮยอน ?”
“เออ กูเอง” ชัดแล้วครับ เขาโทรมาหาผมจริงๆ ผมเงียบเหมือนเดิมไม่ตอบอะไรกลับไป เวลาผ่านไปสักพักเราก็ยังเงียบ จนผมได้ยินเสียงถอนลมหายใจของปลายสาย
“พรุ่งนี้มาเรียนด้วย แฟนทิ้ง หรือ พ่อตาย หวังว่าจะเจอพรุ่งนี้ บาย” สายถูกตัดไปแล้ว เสียงนั่นไม่แน่ใจว่ามีอิทธิพลมากน้อยแค่ไหน แต่ก็มากพอที่จะทำให้ผมหอบสังขารไปเรียนในวันพรุ่งนี้ ..
“จะร้องทำไมนักหนา” เป็นประโยคที่เขาทักผมหลังจากที่ผมก้าวเท้าก้าวเดียวจาก ประตูรั้วมหาลัย ผู้ชายที่ตัวเล็กๆปากแดงๆยืนกอดอกอยู่ข้างประตู เขาน่ะเป็นคนซับซ้อนแต่มันก็ไม่ได้มากขนาดนั้น จะว่ายังไงดีละ เขาซับซ้อนแต่ผมก็เข้าใจ เหมือนที่เขาเข้าใจผม
“พ่อตายไง มึงบอกเองนิ”
“กวนตีน” สัมผัสหนักๆที่ตบลงมาที่หัว ทำผมหัวเราะน้อยๆออกไป ไม่รู้ว่าทำสีหน้าแบบไหนออกไปตอนเจอเขา แต่เราก็เดินเข้าเรียนพร้อมกัน ทั้งที่ผมเรียนเช้า .. แล้วเขาเรียนบ่าย ..
เวลาผ่านไปรวดเร็วนะครับว่าไหม ผ่านไปอีกหนึ่งอาทิตย์ ผมเริ่มดีขึ้นโดยที่ไม่หันกลับไปมองอดีตเน่าๆนั่น เรายังใช้ชีวิตปรกติดี มีเพียงแค่เขาที่ไลน์มาหาผมกับความรักที่แสนจะน่าเบื่อของตัวเอง คือ เขาแอบชอบเพื่อนคนนึงที่ไม่เคยสนใจใยดีอะไรเขาเลย กับรุ่นน้องที่เพิ่งสารภาพรักเขาไปเมื่อวาน ผมไม่อธิบายอะไรมาก นอกจากบอกให้เลือกคนที่รักเรา .. เขาเลยเลือกคบกับรุ่นน้องที่มาบอกรัก แต่แฟนคนนี้เป็นคนที่ค่อนข้างขี้หวงมากสักหน่อย เราเลยเริ่มห่างๆกันไปตั้งแต่ช่วงนั้น แต่ยังไงผมว่าเราก็เข้าใจกันดีนะ เราไม่ได้คุยกันมากเหมือนเมื่อก่อน เราไม่ได้กินข้าวกลางวันด้วยกันบ่อย ผมก็กินกับเพื่อน เขาก็กินกับแฟน ต่างคนต่างไม่ยุ่งวุ่นวายกันและกัน ถ้าเขากับแฟนซื้อน้ำ ผมก็จะเดินไปซื้อร้านข้างๆแทน ถ้าเราบังเอิญเดินเจอกัน เขาก็จะเป็นคนเดินเลี่ยง เราสบตากันบ่อยแต่เราไม่ได้พูดอะไรกันเลย ผมเข้าใจเขา แล้วผมคิดว่าเรา เข้าใจกัน ... แต่แล้ววันนึงหน้าฟีดข่าวเฟสบุ๊คของผม มีการบ่นของใครคนนึงผ่านทามไลน์ไป
'น่าเบื่อวะ ก็บอกว่าไม่มีใครไง'
ผมก็งงนะ ทำไมถึงได้ขี้หวงมากขนาดนั้น ผมเชื่อเลยถ้าคนอย่างเขาบอกไม่มีใคร คือไม่มีใครจริงๆ ผมได้ทักไลน์ไปหาเขา คำถามสั้นๆที่เหมือนกับเขาเคยถามผม
"เลิกไหม" สักพักก็มีเสียงแจ้งเตือนตอบกลับมา
"ก็ว่าอยู่ เบื่อมากเลย"
"อือ เลิกก็ดีนะ สบายใจดี เราจะได้คุยกันไง" ไม่รู้ว่าอะไรดลใจผมให้พิมพ์แบบนั้นออกไป แต่ก็คงแก้ไขอะไรไม่ทันหลังจากที่กดปุ่มส่งไปแล้ว..
"ยังกับเราคุยกันมากเนอะ" ผมหัวเราะเบาๆใส่โทรศัพท์แล้วเลือกที่จะอ่านแล้วไม่ตอบ จริงครับ เราไม่ค่อยได้คุยกันจริงๆ ..
หลังจากที่เขาจบการศึกษาไปเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย ในขณะที่เขาจบไปทำงาน ผมก็ขึ้นปีสาม เราไม่ได้เจอกัน ไม่ได้คุยกัน ไม่รู้ว่าเขาจะลืมผมไปไหม มันเป็นเวลาสั้นๆนะครับ จริงๆแล้วเราสองคนไม่ได้รู้จักสนิทกันมากขนาดนั้น ต่างคนต่างเขามาในช่วงเวลาที่เราไม่ได้มีใคร ในช่วงที่ใจกำลังต้องการใครสักคนพอดี ก็แค่นั้น.. ผมไม่แน่ใจว่ามีอะไรผูกพันธ์กัน ผมแค่คิดถึง.. ในขณะที่เขาคิดไหม.. ผมก็ไม่รู้
เป็นอีกครั้งที่ผมบังเอิญเจอเขาในห้างสรรพสินค้าที่เดิม ที่เราเคยเดินด้วยกัน ผมกำลังจะก้าวเข้าร้านหนังสือ เขาก็กำลังเดินออกมาพอดี สบสายตากัน ผมรู้ว่าเขารู้แน่ๆว่าผมคิดอะไรอยู่ เราเหมือนมีอะไรจะพูดกันสักอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร .. ผมอยากจะใช้เวลากับเขาให้นานกว่านี้เลยออกปากชวนเขาไปดูหนัง
"มึง ไปดูหนังป้ะ ไม่เจอกันนานเลยนะ" คนที่เดินห่างจากผมไปเรื่อยๆค่อยๆหันกลับมา
"พูดไม่เพราะเลยนะ ไปดิ ไปดูกัน" ผมยิ้มให้เขาแล้วค่อยๆเดินตามกันไปที่โรงภาพยนต์
ผมเดินตามเขาไป .. ผมพยายามจะบอกเขาหลายทีว่าผมรู้สึกยังไง แต่เขาก็พยายามเปลี่ยนเรื่องทุกครั้ง ตอนแรกก็มีน้อยใจนะ แต่มาคิดดูดีๆอยู่แบบนี้ก็คงดีกว่า อยู่กันแบบนี้ เขาอาจจะไม่จบลงแบบเธอคนนั้นของผม ผมก็อาจจะไม่จบลงแบบใครคนนั้นของเขา ...
หลังจากที่เราดูหนังกันจบผมแทบไม่รู้ว่าหนังเรื่องนี้สนุกไหม เป็นยังไง ให้เล่าก็คงไม่ถูกแน่ รู้แค่ว่าคนนั่งข้างๆผมตอนนี้ ผมโครตรักเขาเลย เราต่างบอกลากัน แล้วแยกกันไป เป็นหนึ่งวันที่ผมคิดว่าเวลาเดินไปเร็วมากๆ เราต่างก็หายไปจากกันและกัน ไลน์เขาก็ไม่ทักมา ผมก็ไม่ได้ทักไป ชีวิตของเราปรกติดี ไม่ได้เจอกันแต่ยังคิดถึงเสมอ
"คิดถึงวะ" ผมส่งความคิดถึงผ่านทางสายตาอีกครั้งหลังจากที่เราเดินสวนกันวันนี้ เขามองกลับมายิ้มให้น้อยๆแล้วเดินจากไป
คิดถึงนะ คิดถึงตลอด ..
ทุกคนสงสัยใช่ไหมละว่าเรื่องนี้จะจบได้ยังไง ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน .. มันคือชีวิต ผมเขียนตอนจบมันไม่ได้ เราอาจจะเจอกันบ่อย .. หรือไม่ได้เจอกันเลย.. นั่นก็คือเรื่องของอนาคต :)
-----—-------—------- ♡—-----—--
ความคิดเห็น