คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ความเสมอภาคระหว่างเพศและความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพ
เมื่อเดือนกันยายนปีค.ศ. 2000 มีการประชุมระดับสูงสุด (Summit) ขององค์การสหประชาชาติ เป็นการประชุมผู้นำประเทศทั่วโลก ครั้งใหญ่ที่สุด มีผู้นำประเทศของ 147 ประเทศและรัฐบาล 189 ประเทศเข้าร่วมประชุม และได้ตกลงที่จะเริ่มกำหนดเวลาและเป้าหมายที่ ตรวจสอบได้ ชุมชนระหว่างประเทศหวังที่จะยุติความยากจน ความหิวและความไม่เสมอภาคภายในปีค.ศ. 2015
จุดมุ่งหมายขององค์การสหประชาชาติสำหรับแผนการพัฒนาแห่งสหัสวรรษภายในปีค.ศ. 2015 (Millennium Development Goals to achieve the following targets by 2015) มีแปดประการ คือ
จุดมุ่งหมายที่ 1 ลดความยากจนและความหิวที่รุนแรงในโลกลงครึ่งหนึ่ง
จุดมุ่งหมายที่ 2 บรรลุถึงการให้การศึกษาระดับประถมศึกษาทั่วโลก
จุดมุ่งหมายที่ 3 ส่งเสริมอำนาจให้ผู้หญิงและส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย
จุดมุ่งหมายที่ 4 ลดการตายของเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปีลงสองในสามส่วน
จุดมุ่งหมายที่ 5 ลดการตายของมารดาที่คลอดบุตรลงสามส่วน
จุดมุ่งหมายที่ 6 ยุติการระบาดของโรคต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเอชไอวี/เอดส์ และมาเลเรีย
จุดมุ่งหมายที่ 7 รับประกันความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
จุดมุ่งหมายที่ 8 สร้างความร่วมมือระดับโลกเพื่อการพัฒนาโดยมีเป้าหมายในการให้ความช่วยเหลือการค้าและการปลดเปลื้องหนี้สิน
แม้ว่าจุดมุ่งหมายที่สามจะเน้นการส่งเสริมอำนาจให้ผู้หญิงและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศแต่ก็มีความเห็นกันเป็นการกว้างขวางว่าความเสมอภาคระหว่างเพศเป็นองค์ประกอบสำคัญในทุกด้านที่จะทำให้ เป้าหมายทั้งหมดสำเร็จลงได้ Kofi Annan เลขาธิการองค์การสหประชาชาติกล่าวว่า “ในการที่จะบรรลุ วัตถุประสงค์ทั้งหลายได้นั้นความเสมอภาคระหว่างเพศ มิใช่เป็นแต่เพียงจุดมุ่งหมายเท่านั้น แต่เป็นเรื่องสำคัญที่ตัดผ่านประเด็นทุกด้านที่จะทำให้เราสามารถบรรลุวัตถุประสงค์อื่นๆทั้งหมดด้วย งานศึกษาชิ้นแล้วชิ้นเล่าได้แสดงให้เห็นว่าไม่มียุทธศาสตร์การพัฒนาอันใดที่จะมีประสิทธิผลเลยหากผู้หญิงไม่มีบทบาทสำคัญในยุทธศาสตร์นั้น”
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับพ.ศ.2540 มาตรา 30 "บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน" ความหมายและประเด็น ความเสมอภาคระหว่างเพศ (gender equality)
ความเสมอภาคอย่างไร
• เสมอภาคในชีวิตประจำวัน
• เสมอภาคในความเป็นมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรี
• ความเสมอภาคในสถานภาพทางเศรษฐกิจรวมถึงค่าจ้าง เงินเดือน การเข้าทำงานตำแหน่งต่างๆ การได้รับค่าตอบแทนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกัน การแบ่งส่วนสินสมรสอย่างเท่าเทียมกัน
• ความเสมอภาคในทางสังคมวัฒนธรรม รวมถึงการได้รับการศึกษา การมีโอกาสพักผ่อนนันทนาการ และความเท่าเทียมกันในการหมั้น การสมรสและความสัมพันธ์ในครอบครัว การแบ่งความรับผิดชอบในงานบ้าน เหตุหย่าที่เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นฝ่ายสามีหรือภริยาเป็นผู้ฟ้องหย่า
• ความเสมอภาคในการที่หญิงและชายจะสามารถเลือกใช้นามสกุลของสามีหรือภริยาก็ได้เมื่อทำการสมรสแล้ว
• ความเสมอภาคที่จะได้รับการปฏิบัติต่ออย่างไม่มีอคติ หรือทวิมาตรฐานในเรื่องเพศสัมพันธ์ หรือ มิติทางประเวณี ที่ใช้ไม้บรรทัดคนละเล่มระหว่างหญิงชาย “ผู้หญิงดีต้องรักษาพรหมจรรย์” “ผู้หญิงคนชั่ว คือ ผู้หญิงสำส่อนขายตัว” แต่ไม่มี “ผู้ชายดีที่รักษา พรหมจรรย์” “ผู้ชายคนชั่วคือผู้ชายสำส่อนทางเพศ”
• สิทธิของผู้ชายและผู้หญิงที่จะมีความสัมพันธ์ที่มั่นคงและดีงาม ไม่ปฏิบัติต่อบุคคลหรือให้คุณค่าจากลักษณะเฉพาะประจำเพศที่สังคม วัฒนธรรมที่สร้างขึ้นจากโครงสร้างผู้ชายเป็นใหญ่ (gender stereotype) เช่น ผู้หญิงโลเล อ่อนแอ ขี้อิจฉาริษยา ใจน้อย เจ้าอารมณ์ ไม่กล้าตัดสินใจ ซึ่งเป็นลักษณะที่ติดลบ ฯลฯ ในขณะที่ให้ภาพพจน์และลักษณะผู้ชายว่าเป็นผู้นำ เด็ดขาด กล้าหาญ ฉลาดเฉลียว รักความก้าวหน้า อารมณ์มั่นคง การใช้ความรุนแรงเป็นลักษณะธรรมดาของผู้ชาย ฯลฯ ซึ่งเป็นลักษณะที่เป็นด้านดี
• เสมอภาคในสิทธิของพลเมือง เช่น การแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกในความคิดเห็นในความเชื่อและศาสนา
• ความเสมอภาคทางการเมือง รวมถึงการมีส่วนร่วมและในการเป็นตัวแทน คือออกเสียงลงคะแนนได้เหมือนกันสมัครรับเลือกตั้ง และได้รับเลือกตั้งได้อย่างเท่าเทียมกัน การมีอำนาจตัดสินใจในการแบ่งสรรทรัพยากร
• ความเสมอภาคในหลักการและการปฏิบัติของโอกาสที่เท่าเทียมกันความเสมอภาคในความคาดหวังและการได้รับการเกื้อหนุนที่เท่าเทียมกัน
• วางนโยบายที่เอาใจใส่ในความคิดเห็นของผู้หญิงเท่าๆกับที่เอาใจใส่ในความคิดเห็นของผู้ชาย ให้ความสนใจในประสบการณ์และความประสงค์ของผู้หญิงอย่างที่สนใจในประสบการณ์และความประสงค์ของผู้ชาย
• ในขณะที่ความไม่เสมอภาคยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องมีการดำเนินมาตรการเฉพาะเป็นการพิเศษที่จะช่วยผู้หญิงให้ก้าวไปสู่ความเสมอภาคได้รวดเร็วยิ่งขึ้น (รัฐธรรมนูญฉบับ ๒๕๔๐ มาตรา ๓๐ วรรคท้าย มาตรการที่รัฐกำหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรค หรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่นย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม)
• จากปรากฏการณ์เห็นว่า เจตนารมณ์ทางการเมืองจะนำความเปลี่ยนแปลงในการเสริมอำนาจและความก้าวหน้าให้กับผู้หญิงและความเสมอภาคระหว่างเพศได้ เช่นกรณีประเทศอาฟริกาใต้ อาร์เจนตินา และคอสตาริกา ที่พยายามปรับปรุงระบบให้ผู้หญิงได้รับการศึกษา จ้างงานและส่งเสริมอำนาจทางการเมืองในช่วงเวลา 2-3 ปีที่แล้วนำหน้าประเทศอื่นใดหมด ในขณะที่ประเทศมั่งคั่ง เช่น ฝรั่งเศสที่ได้ตกลงอย่างแข็งขันที่จะมีมาตรการชั่วคราวพิเศษในปีค.ศ. 2000 กลับไม่ได้ทำอะไรที่จะมีผลให้พรรคการเมือง ส่งผู้หญิงลงสมัครรับเลือกตั้งเพราะกำหนดให้เสียค่าปรับเล็กๆน้อยๆก็จบกัน
• การเรียกร้องความเสมอภาคเป็นสิทธิในระบอบประชาธิปไตย หากไม่มีความเสมอภาคระหว่างเพศก็จะไม่อาจบรรลุถึงหลักการประชาธิปไตย ประวัติศาสตร์ได้บันทึกว่าการเรียกร้องประชาธิปไตยมีผู้หญิงเป็นแรงผลักดันสำคัญเสมอ
• การเรียกร้องความเสมอภาคระหว่างเพศมิได้หมายถึงการสลายไม่มีเพศ เพราะหากไม่มีเพศมันจะทำให้มนุษยชาติถึงจุดจบเพราะมนุษยชาติประกอบไปด้วยเพศสองเพศที่จะทำให้การผลิต การสืบทอดเผ่าพันธุ์ และการสืบทอดการผลิตดำรงต่อไปได้ หากเราพยายามที่จะขจัดความแตกต่างระหว่างเพศก็จะเป็นการทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์มากกว่าการทำลายล้างใดๆที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์คำถาม ตุลาการเป็นกลาง ปราศจากอคติจริงหรือ เมื่อสำรวจตนเองแล้วเป็นจริงก็ดี แต่ถ้าไม่เป็นจริงจะแก้ไขหรือไม่
ความเสมอภาค กับความแตกต่าง (equality vs. difference)
ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพ (gender sensitivity)
สิทธิมนุษยชนของผู้หญิง (women’s human rights)?
คำถามพื้นฐาน คือ รัฐและกฎหมายควรจะปฏิบัติต่อผู้หญิงอย่างเสมอภาคกับผู้ชายด้วยสิทธิและความรับผิดชอบเท่าเทียมกัน หรือ รัฐและกฎหมายควรจะปฏิบัติต่อผู้หญิงเป็นพิเศษ บนพื้นฐานที่ว่าผู้หญิงมีความสามารถและลักษณะพิเศษ การเรียกร้อง การปฏิบัติที่แตกต่างนี้มีข้ออ้างถึงการตั้งครรภ์และการเป็นมารดาซึ่งเป็นหน้าที่ทางกายภาพที่ผู้ชายไม่อาจทำได้ ความแตกต่างทางด้านกายภาพ นี้หมายถึงว่า ผู้หญิงปฏิบัติภารกิจภายใต้ข้อจำกัดที่แตกต่างจากผู้ชาย ดังนั้นการปฏิบัติต่อผู้หญิงเช่นเดียวกับผู้ชายจะกลายเป็นการทำ ให้พวกเธอเสียเปรียบอย่างมหันต์ ในขณะที่แนวทางความเสมอภาคโต้แย้งว่าผู้หญิงทั่วไปจะได้รับประโยชน์มากกว่า หากละเลย ความแตกต่างไปเสียและผู้หญิงสามารถยกระดับตนเองขึ้นมาให้เท่าเทียมกับผู้ชายในทุกด้าน
อย่างไรก็ดี มีผู้คิดว่าทั้งสองแนวทางนี้ถือเอาผู้ชายเป็นบรรทัดฐานวัดว่าผู้หญิงจะแตกต่างหรือผู้หญิงจะเท่าเทียมกับผู้ชาย เพราะ ความสามารถในการเจริญพันธุ์ของผู้หญิงสร้างปัญหาให้กับบรรทัดฐานของผู้ชายที่ฝังรากอยู่ในกฎหมาย แต่การที่ผู้ชายสละบทบาท ในการดูแลผู้อื่นกลับไม่ใช่ปัญหา (เช่นจะให้ผู้หญิงลาคลอดได้กี่วัน ได้รับสวัสดิการอย่างไรบ้างฯลฯ หรือจะรับผู้หญิงเข้าทำงานหรือไม่ เพราะ ผู้หญิงอาจตั้งครรภ์และกระทบกระเทือนการงาน หรือจะจัดสถานเลี้ยงดูเด็กในที่ทำงานเพื่อช่วยผู้หญิงที่ต้องกลับไปทำงานระหว่าง ให้นมลูกหรือไม่ เป็นต้น)
• ความเสมอภาคระหว่างเพศหมายถึงว่า เราต้องการความเสมอภาคระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย หรือว่าเราต้องการความยุติธรรมให้กับมนุษย์สองประเภทที่มีความแตกต่างกันโดยพื้นฐาน
• ความเสมอภาคระหว่างเพศหมายถึงว่า ผู้หญิงที่ทำงานนอกบ้านได้รายได้มาสู่ครอบครัวและกลับมาทำงานบ้านต้องมีผู้ชายในครอบครัวแบ่งรับภาระงานบ้านไปเท่าเทียมกัน
• ความเสมอภาคระหว่างเพศหมายถึงว่า เมื่อผู้หญิงทำงานบ้านต้องเห็นว่าเป็นงานที่สำคัญและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจคิดคำนวณเป็นตัวเงินได้เป็นคุณูปการที่ไม่ใช่ “อยู่บ้านเฉยๆ” หรือ “เป็นแม่บ้านธรรมดา” แต่เมื่อผู้ชายทำงานบ้าน ทำกับข้าวกลายเป็นเรื่องยิ่งใหญ่น่าเคารพยกย่อง หากแต่ต้องถือว่าฝ่ายใดทำก็ตามเป็นเรื่องที่มีคุณค่าน่ายกย่องและเป็นการลดรายจ่าย เท่ากับเป็นการเพิ่มรายได้ด้วยกันทั้งสิ้น
• ความเสมอภาคระหว่างเพศหมายถึงว่าเมื่อหย่ากันมารดาและบิดามีสิทธิที่จะได้ลูกสาวหรือลูกชายที่เป็นผู้เยาว์ไปปกครองแล้วแต่กรณีความผาสุกและผลประโยชน์สูงสุดของลูก (หรือสิทธิของเด็กที่จะได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่เหมาะสม) และความพร้อมทางสภาวะทางสังคมสุขภาพอนามัย ภูมิหลัง การศึกษาและจิตใจของมารดาและบิดาเป็นสำคัญ มิได้ขึ้นอยู่กับเพศของลูกว่าหากเป็นลูกสาวแล้วต้องอยู่กับบิดาเพื่อบิดาจะได้คุ้มครองหรือ หากเป็นลูกชายแล้วจะต้องอยู่กับมารดาเพื่อโตขึ้นจะได้คุ้มครองมารดา และก็มิได้ขึ้นอยู่กับฐานะทางเศรษฐกิจว่าผู้ร่ำรวยกว่าควรจะได้ลูกไปดูแล เพราะความ เป็นมารดาและบิดามิได้ทำให้ปลอดจากความรับผิดชอบแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพ (gender sensitivity)
• ความละเอียดอ่อนเป็นเรื่องที่ดีงามเพราะเป็นการเอาใจเขามาใส่ใจเรา ความละเอียดอ่อน (Sensitivity) ในเรื่องเพศสภาพ (Gender) คือการเข้าใจในสภาวะของการประกอบสร้างทางสังคมของความเป็นเพศหญิงเพศชาย และระมัดระวังมิให้มีการปฏิบัติต่อบุคคลใดตามเพศสภาพอันเป็นการอคติกีดกันและนำไปสู่การละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์
• เพศสภาพคือบทบาททางสังคมวัฒนธรรม ความคาดหวังและข้อจำกัดที่กำหนดต่อผู้หญิงและผู้ชายเพียงเพราะเพศของเขาเรียกง่ายๆว่าเป็นเพศทางวัฒนธรรมมิใช่เพศทางสรีระ (sex)
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพหมายถึงว่าการไม่ละเลยผู้หญิง เพราะคิดว่าเป็นกลุ่มเพศที่ไม่สำคัญทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการเมือง เนื่องจากเท่าที่ผ่านมาและที่เป็นอยู่ขณะนี้ผู้หญิงในฐานะที่เป็นชนชั้น เป็นกลุ่มเพศอยู่ในสถานภาพดังกล่าวที่ถูกกีดกันกดขี่เอารัดเอาเปรียบและถูกมองข้าม
• ประสบการณ์ ความเห็น ความจำเป็น และความประสงค์ของผู้หญิงถูกทำให้ต่ำต้อยเพราะเพศสภาพที่สังคมอุปโลกน์ขึ้นมา เช่นว่า ความเป็นผู้หญิงต้องพูดเพ้อเจ้อ ซุบซิบนินทา ไม่ต้องรับฟังไม่ควรเอานิยมนิยายด้วย เช่นนี้ทำให้เกิดความไม่ละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพทำให้การรับฟังพยานบุคคลที่เป็นหญิงอาจมีน้ำหนักน้อยลงไป
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพ หมายถึงว่าต้องเอาใจใส่รับฟังความเห็นของผู้หญิงเพราะผู้หญิงมิได้เกิดมาเป็นผู้ตาม และผู้ชายมิได้เกิดมาเป็นผู้นำ หากเป็นสภาพที่สังคมสร้างให้กับผู้หญิงและผู้ชายเหล่านั้น
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพจะทำให้การพิจารณาเรื่องภาวการณ์ความยากลำบากของผู้หญิงชัดเจนและลึกซึ้งยิ่งขึ้น เห็นการต่อสู้ดิ้นรนของผู้หญิงในสังคมที่ทอดทิ้งผู้หญิงและย่ำยีผู้หญิงว่าเป็นสิ่งยากยิ่งกว่าผู้ชายหลายเท่านัก
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพคือการมองเห็นว่าภาพ “ความเป็นผู้หญิง” เช่นความเรียบร้อยอ่อนโยนนิ่มนวล สวยพริ้ง พูดจา ไพเราะ สะอาดสะอ้าน เป็น “ความเป็นผู้หญิงที่สังคมจัดสร้างขึ้น” และเห็นว่าผู้หญิงที่ไม่มีคุณลักษณะเช่นนั้น ก็ยังเป็นผู้หญิงตามเพศสรีระที่เป็น ของแท้ มิใช่ “ผู้หญิงตามเพศสภาพ”
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพคือ การไม่มีเจตคติที่จะเอารัดเอาเปรียบผู้หญิงเพราะคิดว่าเขาเป็นเพศที่ “อ่อนแอ” กว่า ไม่กล้าสู้รบตบมือด้วย จึงคุกคามทางเพศเพราะเล็งว่ามีแต่ได้กับได้
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพคือการไม่เห็นผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศ รองรับความต้องการการแสดงออกทางเพศที่สังคมสร้างขึ้น
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพคือ การไมใช่ภาษาที่สืบทอดการกดขี่ ละเลยผู้หญิง ให้ผู้ชายเป็นศูนย์กลางหรือเป็นใหญ่
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพคือ การเข้าใจว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อผู้หญิงและผู้ชายในเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจก็ดี เรื่องสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมก็ดี ในเรื่องหยูกยาอาหารเป็นพิษก็ดีมีความแตกต่างกัน หาได้เป็นผลอย่างเดียวกันไม่ เพราะสภาวะทีสังคมสร้างความเป็น เพศขึ้นมา หรือสภาวะทางร่างกายที่แตกต่างกันก็ดีทำให้ “ความเป็นผู้หญิง” ในสภาวการณ์อย่างเดียวกันกับผู้ชายมีผลกับผู้หญิงแตกต่างไปจากผลที่ผู้ชายได้รับ เพราะผู้หญิงมิได้รับผลประโยชน์หรือมีสถานภาพในสังคมอย่างเดียวกับผู้ชาย
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพคือการเห็นความจำเป็นที่จะต้องเปิดโปงเผยโฉมและแก้ไขอคติต่อผู้หญิงที่มีอยู่ในสังคม
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพคือการเห็นว่าการบังคับให้ภริยาใช้นามสกุลของสามีและต้องเปลี่ยนคำนำหน้านามเมื่อทำการสมรสแล้ว เป็นการยกย่องให้ผู้ชายเหนือกว่าผู้หญิงเป็นอคติที่มีต่อผู้หญิง
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพคือความเคารพในศักดิ์ศรีของผู้หญิงว่าต้องไม่รบกวนคุกคามละเมิดเพราะถือว่าพวกเธอเป็นเพศที่ ี่ด้อยกว่า
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพคือ มองทะลุว่ากฎหมายเป็นเรื่องของเพศสภาพ เป็นเรื่องของการแสดงออกซึ่งอำนาจ และเป็นการเสียหายแก่ผู้หญิง เพราะกฎหมายควบคุมชีวิตผู้หญิง ไม่พิจารณามุมมองซึ่งเป็นประสบการณ์ของผู้หญิง
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพหมายถึง การพยายามที่จะแก้ไขความไม่สมดุลและความไม่เป็นธรรมในระบบกฎหมายอันเกิดจากการใช้มุมมองที่ไม่เอาใจใส่สถานการณ์แวดล้อมของชีวิตผู้หญิงที่กำหนดโดยเพศ สภาพหรือแม้กระทั่งในประเด็นที่ส่งผลต่อชีวิตของพวกเธออย่างยิ่งยวด
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพหมายถึง การเข้าใจว่ากฎหมายครอบครัวที่กำหนดให้ชายหมั้นหญิงและต้องมีการส่งมอบ หรือ โอนทรัพย์สินที่เป็นของหมั้นจึงจะเป็นการหมั้นที่สมบูรณ์นั้นเป็นการมองผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศที่ซื้อขายกันได้ด้วยของหมั้น
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพหมายถึง การเข้าใจว่าการที่กฎหมายรับรองเรื่องการให้สินสอดแก่ผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง เพื่อตอบ แทนการที่หญิงยอมสมรสด้วยเป็นบทบัญญัติที่สนับสนุนการซื้อขายผู้หญิง
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพหมายถึง การเข้าใจว่าการที่กฎหมายอนุญาตให้สามีข่มขืนภริยาได้ การที่กฎหมายให้ชายคู่หมั้นอาจบอกเลิกสัญญาหมั้นและเรียกค่าทดแทนจากชายอื่นที่ได้ร่วมประเวณี หรือพยายามข่มขืนหญิงคู่หมั้นโดยรู้ว่าหญิงนั้นได้หมั้นกับตนแล้วเป็นบทบัญญัติที่กดขี่ผู้หญิง รับรองให้ผู้ชายเป็นเจ้าของประเวณีและควบคุมมิติทางประเวณีของผู้หญิง ดังนั้นจึงเป็นการให้อำนาจผู้ชายเหนือผู้หญิง เป็นการทำให้ผู้หญิงต่ำต้อย
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพคือ มองเห็นว่าความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงที่เกิดจากผู้มีความสัมพันธ์ทางเพศ เช่น คู่รัก คู่หมั้น สามีกระทำต่อผู้หญิง มิใช่เรื่องส่วนตัวหากแต่เป็นเรื่องส่วนรวมเรื่องของสาธารณะที่สังคม และรัฐจะต้องเอาใจใส่เพราะเป็นการกระทำต่อผู้หญิง เพราะเธอเป็นผู้หญิง
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพคือมองเห็นแนวคิด ระบบคุณค่าและสมมุติฐานที่ฝังรากอยู่ในระบบคิดของกฎหมายและสถาบันกฎหมายที่มีอคติต่อผู้หญิง
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพคือมองเห็นว่าการมีอคติต่อผู้หญิงนั้นนอกจากปรากฏอยู่ในกฎหมายแล้วยังอยู่ในสถาบันที่ใช้ กฎหมายทั้งหลายที่รวมถึงระบบคิดและวัฒนธรรมของบุคลากรในสถาบันกฎหมาย และบุคคลอื่นๆที่ใช้กฎหมายเป็นวาทกรรม เป็นภาษาของชีวิตประจำวันที่สร้างความเข้าใจและข้อสมมุติฐานเกี่ยวกับโลกที่เรามีชีวิตอยู่และในแบบแผนรวมทั้งระบบคุณค่าที่เราเทิดทูน
• ความละเอียดอ่อนในเรื่องเพศสภาพคือ การมองเห็นว่าการมีอคติทางเพศเพราะความเป็นหญิงที่สังคมสร้างให้เป็นของ ผู้หญิงเป็นเรื่องต้องแก้ไขและเป็นเรื่องของทุกคนมิใช่แต่เฉพาะผู้หญิงเท่านั้นที่จะต้องมีส่วนในการแก้ไขเปลี่ยนแปลง
ฯลฯ
------------------------------------------
ขอขอบคุณ
รองศาสตราจารย์วิระดา สมสวัสดิ์
บทบรรยายในการสัมมนาคณะผู้ช่วยผู้พิพากษา รุ่นที่ 46 วันที่ 29 กรกฎาคม 2546
ความคิดเห็น