ความรู้เกี่ยวกับเพศทางเลือก

ลำดับตอนที่ #14 : การโจมตีต่อความหลากหลายทางเพศต้องถูกประณาม ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มใดก็ตาม‏

การขู่ใช้ความรุนแรงต่อขบวนพาเหรดเชียงใหม่เกย์ไพรด์โดยกลุ่มเสื้อแดง “รักเชียงใหม่ 51″

 

ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องที่น่าสลดใจ แต่ยังเป็นเครื่องเตือนสติว่า คนรักเพศเดียวกันได้กลายเป็นเหยื่ออย่างเงียบๆ ของความขัดแย้งทางการเมืองที่ดำเนินอยู่ และไม่ใช่มาจากแค่กลุ่มเสื้อแดงเท่านั้น แต่ยังมาจากกลุ่มพันธมิตรเสื้อเหลืองอีกด้วย การรังเกียจความหลากหลายทางเพศได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองโดยแกนนำหลักของทั้งสองกลุ่มในวาระต่างๆ กัน ทำให้น่าสงสัยว่าแกนนำเหล่านี้มีความเป็นประชาธิปไตยและพหุนิยมอย่างแท้จริงเพียงใด

กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กล่าวโจมตีผู้จัดงานเกย์ไพรด์และบีบให้ต้องรื้อถอนเวทีสาธารณะ ในวันเสาร์ที่ผ่านมา เดอะเนชั่นรายงาน คำพูดของผู้นำกลุ่มเสื้อแดง นายเพชรวาต วัฒนพงษ์ศิริ ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนชาวเชียงใหม่ และกล่าวว่า: “ชาวเชียงใหม่ยอมรับเรื่อง นี้ไม่ได้ และจะหยุดยั้งขบวนพาเหรดทุกวิถีทาง แม้จะต้องใช้ความรุนแรง” หตุการณ์นี้สะท้อนไม่เพียงเฉพาะ การรังเกียจความหลากหลายทางเพศ แต่ยังแสดงให้เห็นความกลัวต่อความแตกต่างและผู้ที่มีความแตกต่าง ด้านอัตลักษณ์หรือความเชื่อ

เป็นเรื่องที่รู้กันค่อนข้างดีว่าในเว็บไซต์ต่างๆ สมาชิกเสื้อแดงบางคนได้โจมตีนายพลอาวุโสและเกษียณแล้วท่านหนึ่งที่ถูกกล่าว หาว่าอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 โดยเรียกอย่างเสียหายว่าเป็น “เกย์แก่” หรือ “ขันทีเฒ่า”ที่น่าขันก็คือ แม้แต่ศัตรูฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของพวกเขา คือฝ่ายพันธมิตร ก็มีการกระทำไม่ต่างกันในเรื่อง ใช้การรังเกียจความหลากหลายทางเพศเป็นเครื่องมือทางการเมือง

เพียงไม่กี่วันก่อนการขู่ใช้ความรุนแรงต่อพาเหรดเกย์ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการและเอเอสทีวีซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพันธมิตร ได้ลงพิมพ์การ์ตูนการเมืองที่มีรูปผู้นำหลายคนของ นปก. แต่งตัวเป็นเกย์ มีคนเดียวที่ยืนอยู่ตรงกลาง คือ ใจ อึ๊งภากรณ์ อาจารย์ภาควิชารัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์ ผู้หลบหนีออกจากประเทศก่อนหน้านี้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยทิ้งคำประกาศสนับสนุนระบอบสาธารณรัฐและระบอบสังคมนิยมไว้เบื้องหลัง การ์ตูนนี้ยังวาดภาพล้อเลียนบุคคลอื่นๆ รวมทั้งอดีตนายกทักษิณ นพ.เหวง นายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ และคนอื่นๆ ให้เป็นเกย์ นั่นคือใครก็ตามที่ไม่ยอมรับอุดมการณ์ทางการเมืองของตน และยังเป็นที่รู้กันดีว่าบ่อยครั้งที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ใช้ถ้อยคำเสียหายเรียกผู้นำ นปก. จักรภพ เพ็ญแขว่าเป็นเกย์อย่างสนุกสนาน

การรังเกียจความหลากหลายทางเพศและความกลัวต่ออัตลักษณ์อันหลากหลายและต่อผู้คนที่ไม่ตรง ตามนิยามของตนว่าสิ่งใดดีและยอมรับได้ เป็นภัยต่อการสร้างสังคมที่เป็นพหุนิยมและเป็นประชาธิปไตย กลุ่ม นปก. เสื้อแดง ควรเข้าใจว่า ข้ออ้างของพันธมิตร ในการต่อต้านอดีตนายกทักษิณในทุกวิถีทางก็มาจากความเชื่อเช่นเดียวกันว่า
อดีตนายกเป็น “สิ่งเลวร้าย” และ “ยอมรับไม่ได้” เช่นเดียวกัน ถ้าคนรักเพศเดียวกันในเมืองไทยถูกดูถูกเหยียดหยาม เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่สามารถยอมรับสิ่งที่พวกเขาเป็นได้ ความผิดก็ต้องตกอยู่กับสังคมส่วนใหญ่ที่ยังคงเลือกปฏิบัติ ระแวง หรือแม้แต่เกลียดชังพวกเขา ทำให้พวกเขาบางส่วนต้องใช้ชีวิตอย่างแอบซ่อน

ไม่ว่าจะคนรักเพศเดียวกันหรือคนรักต่างเพศที่ยึดมั่นในสิทธิของผู้ที่มีอัตลักษณ์ทางเพศแตกต่าง ควรที่จะประณามกลุ่มคนเหล่านี้ อย่างไม่เกรงอกเกรงใจไม่ว่าจะเสื้อแดงหรือเสื้อเหลืองหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและเอเอสทีวีสมควรที่จะต้องละอายในการกระทำของตนเองทั้ง ที่อ้างว่าเป็นสื่อสาธารณะที่เป็นแสงประทีปชี้นำประเทศไทย ผู้นำ นปก. ก็ควรทำการขอโทษอย่างไม่มีข้อแม้และปฏิญาณที่จะเคารพสิทธิทางเพศของผู้อื่น ส่วนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติก็ไม่ควรเงียบเฉยต่อการกระทำละเมิดสิทธิผู้อื่นอย่างโจ่งแจ้งของทั้งสองกลุ่ม

ทั้งสองฝ่ายอาจกล่าวอ้างว่าต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่การกระทำในประเด็นทางเพศกลับเป็นไปในเชิงเผด็จการ และเป็นภัยอย่างชัดเจนต่อสังคมพหุนิยมและประชาธิปไตย พวกเขาสมควรระลึกได้เสียทีว่ากำลังทำให้ตัวเองเป็นตัวตลก เพราะไม่มีสังคมใดจะสามารถเรียกตัวเองได้ว่าเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง หากยังคงเลือกปฏิบัติและปิดปาก ของผู้ที่มีความคิดเห็นหรืออัตลักษณ์ที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นคนรักเพศเดียวกันหรือแตกต่าง ในเรื่องอื่นก็ตาม

------------------------------------------

บทความโดย ประวิตร โรจนพฤกษ์/ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2551