ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] Fiction Singular #Fever+

    ลำดับตอนที่ #4 : ลำดับตอนที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 55


                  




                    Chapter 03 | Irritated  





      








                    ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศ สัมผัสผิวเนื้อบางที่กำลังสั่นทะท้าน...

     

    ใบหน้าหวานขมวดคิ้วเรียวสวยได้รูปจนแทบจะผูกกันเป็นปม ฝ่ามือเล็กกำช่อช็อกโกแลตแบรนด์ดังที่ถูกจัดมาอย่างบรรจงด้วยแรงโทสะที่ทำเอาเขาแทบเสียสติ...ทศพรสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจช้าๆซ้ำไปซ้ำมา ก่อนจะสาวเท้าเดินขึ้นลิฟท์ท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทาจากพนักงานต้อนรับของบริษัทเอเยนซี่แห่งหนึ่งที่เขาทำงานอยู่

     

    ไม่ได้เกลียดหรอกนะ...ไอ้เม็ดช็อกโกแลตห่อทองๆที่อิมพอร์ทจากอิตาลีหนะ ออกจะชอบด้วยซ้ำไป(ยิ่งฟรียิ่งชอบ) เว้นก็เสียแต่ข้อความในกระดาษโน้ตรูปกีต้าร์ใบเล็กที่ห้อยมาด้วยนี้สิ...

     

     







    Dear Sincere,

    Eat up, it make you happy
    “I hope
     to see you soon.”

                                      NUT

     

     








    ......ด--เดียร์พ่องงงงงงงง!!

     

    ถ้าไม่ติดว่าเกรงใจพนักงานจัดส่งดอกไม้ เขาคงปาไอ้ช่อช็อกโกแลตฯนี้ลงพื้นตั้งแต่อ่านข้อความจบแล้ว!

    ซียง ซียูอะไรกัน...ใครเขาจะไปอยากเจอมึง!!

     




    ว่าแล้วก็กระแทกเท้าเดินออกจากลิฟท์ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ทศพรผลักเปิดบานประตูไม้ที่สลักชื่อแผนก ‘Creative Department’ ซึ่งเป็นแผนกที่เขาประจำตำแหน่งอยู่ในฐานะกราฟฟิคดีไซเนอร์...แต่หากยังไม่ทันจะได้กลับไปนั่งประจำที่โต๊ะทำงานของตัวเอง  ก็โดนเสียงห้าวที่พยายามดัดให้เล็กของ พีรพล หัวหน้าแผนกรั้งไว้เสียก่อน

     

    “ต๊ายน้องซิน!! ใครให้มาหละนั้น น่ารักเชียว”

     

    ...เป็นคำถามที่ตอบยากมากกก...

    ร่างบางทำหน้าครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ จนคนยืนมองหลุดยิ้มออกมาอย่างรู้ทัน “แฟนหรอจ้ะ?”

     

    “ไม่ใช่ครับพี่พี!” ปฏิเสธทันควัน แถมยังเสียงดังเสียจนเพื่อนร่วมแผนกอีกสองชีวิตถึงกับหันมาส่งเสียงแซว

     

    “ฮู้ยย มีแฟนแล้วก็ไม่บอก ปล่อยให้กูตามจีบมาได้เป็นปี” กิตติพัฒน์บ่นอุบ ควงปากกาในมือด้วยใบหน้าที่เฟคว่าเซ็งสุดขีด “แม่ง เล่นส่งของมาแสดงความเป็นเจ้าของถึงบริษัทด้วยอะ...ขี้หวงชิบหาย!

     

    “ฟายเถอะไอ้อาร์ม เจ้าของฟรอเรโร่ฯอะแค่กิ๊ก แต่ตัวจริงอะกู!...ใช่ไหมครับน้องซิน?” ณัฐธีร์ที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆหันมาหลิ่วตาให้รุ่นน้องร่วมแผนกที่เริ่มจะหน้าหงิกหนักกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

     

    ไม่ใช่แฟน” เจ้าตัวว่าเสียงแข็ง “แล้วก็ไม่มีวันใช่ด้วย” พูดจบก็ยื่นช่อฟอเรโร่ฯที่แซมด้วยดอกกุหลาบสีขาวให้พีรพล ก่อนจะผละกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองตามเดิม

     

    “ง่า เอามาให้พี่ทำไมอะน้องซิน”

     

    “ถือว่าซินยกให้พี่พีแล้วกัน พอดีซินไม่ค่อยชอบกินช็อกโกแลต...”

     

    ...ยิ่งรู้ว่าไอ้เด็กเปรตนั้นเป็นคนให้ เขายิ่งกลืนไม่ลง!!

     

    “ลาปปากเลยเจ๊!! แบ่งผมด้วยดิ!

     

    “บ้านแกสิยะ!” กระเทยสาว(?)หันไปยันหัวณัฐธีร์ อาร์ตไดเรกเตอร์หนุ่มด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะถือช่อช็อกโกแลตฯเดินไปคืนให้เจ้าของมันที่โต๊ะ “น้องซินจ้ะ พี่ไม่รู้หรอกนะว่าเราผิดใจอะไรกับคนให้ แต่ของมันไม่ผิดเพราะฉะนั้นก็รับมันไว้เถอะ” 

     

    “....”

     

    “เอาไปฝากน้องฝากนุ่งที่บ้านก็ได้ พี่เองก็ไม่อยากกิน ช็อกโกแลตมันทำให้พี่อ้วนนน”

     

    “ซินเป็นลูกคนเดียวแถมที่บ้านก็มีแค่ป๊ากับม๊า ถ้าพี่พีไม่เอาก็ยกให้พี่ตั๊มก็ได้ครับ”

     

    “นั้นไง เสร็จกู!

     

    “เชี่ยตั๊ม! แบ่งกูด้วยดิ!! ครึ่งนึงๆ” กิตติพัฒน์รีบขอสิทธิ์ แต่กลับโดนเจ๊ใหญ่ของแผนกเดินมาเขกมะเหงกเข้าให้

     

    “เงินเดือนพวกมึงไม่พอซื้อแดรกเองหรือไง ถึงได้เที่ยวไปขอของคนอื่นเขาหนะ” หล่อนถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด...พีรพลประคองช่อฟรอเรโร่ฯเจ้าปัญหาไปวางไว้บนชั้นหนังสือ ที่อยู่ติดกันกับโต๊ะทำงานของกราฟฟิคดีไซน์เนอร์หนุ่ม “พี่วางทิ้งไว้ตรงนี้แล้วกัน ถ้าเปลี่ยนใจก็เอากลับไปนะ....ส่วนพวกมึง อย่าให้กูเห็นนะว่าแอบมาตอด แม่จะตบให้หัวทิ่ม!” ประโยคหลังหัวหน้าแผนกหันไปชี้หน้าสั่งสองลิงทโมนวัยเหยียบเลขสาม

     

    “ครับๆ ไม่ยุ่งครับเจ๊ พวกผมไม่จะหยิบไปแดรกกกแม้แต่เม็ดเดียว!!” รับปากเสียงแข็ง แถมกิตติพัฒน์ยังชูนิ้วสาบานตามคำพูดของดูโอ้ เล่นเอาคนฟังลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเปลี่ยนไปสั่งงานลูกน้องจอมกะล่อนแทน

    “รีบๆเคลียร์งานให้เรียบร้อย ไม่เสร็จไม่ต้องไปกินข้าว...ส่วนไอ้อาร์มถ่ายเอกสารต่อด้วย ฉันจะเอาไปเสนอที่สตูฯ”

     

    “เคเจ๊! ขอเวลาสิบนาที ไปนั่งจิบกาแฟรอเลยครับ”  

     

    “ปากดีจริงๆ กูไม่เคยเห็นมึงจะทำทันอย่างที่พูดสักงาน!!” หล่อนแดกดัน ส่วนคนโดนด่าก็หัวเราะร่าแบบไม่สำเหนียก

     

    ก็นะสุดท้ายแล้วแผนกครีเอทีฟฯก็กลับสู่สภาวะปกติ ทศพรหยิบหูฟังมาเสียบกับไอพอต เปิดเพลงกลบเสียงล้งเล้งของพี่ๆในห้องที่ตะโกนเถียงกันไปมาอย่างสนุกสนาน ถ้าเป็นปกติเขาคงร่วมวงกับพีรพลจิกกัดความเอื่อยเฉื่อยของณัฐธีร์กับกิตติพัฒน์ เพียงแต่วันนี้เขารู้สึกว่าตัวเอง ไม่ปกติ’ อย่างแรง และค่อนข้างเชื่อว่าพี่ๆคนอื่นก็คงจะดูออกเช่นกัน ถึงเลือกที่จะไม่มายุ่งย่ามอะไรกับเขาต่อ

     

    อาจเพราะทำงานร่วมกันมานานเกือบปี ทำให้ทั้งสามพอจะเดาอารมณ์เด็กหนุ่มได้ ว่าพวกเขาไม่ควรซักไซ้ น้องซิน’ เวลาอารมณ์เสีย...การที่ปล่อยให้เจ้าตัวได้อยู่คนเดียวเงียบๆ อีกสักพักเดี๋ยวก็หายหงุดหงิดไปเองนั้นแหละ...









     

     □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ 






     


    ช่วงพัเที่ยงของบริษัท พนักงานส่วนใหญ่จะเลือกออกไปทานข้าวที่ร้านอาหารใกล้ๆตึกสำนักงาน ร่วมถึงพวกพีรพลเองเช่นกัน เพียงแต่วันนี้เด็กหนุ่มเลือกที่จะขอทำงานต่อโดยไม่พักทานข้าวกลางวัน แม้ว่าจะโดนพี่สาว(?)คะยั้นคะยอด้วยความเป็นห่วงเป็นใยก็ตาม...แต่สุดท้ายหล่อนก็ต้องยอมแพ้กับความดื้อเพ่งของรุ่นน้องคนโปรด

     

    “ไว้พี่จะซื้อขนมมาฝากแล้วกันนะจ้ะ”

     

    “อ่าฮะ...ขอบคุณมากครับพี่พี” ว่าแล้วก็ส่งยิ้มให้หัวหน้าแผนก ก่อนจะลงมือเคลียร์เอกสารงานบนโต๊ะต่อ

     

    ร่างบางเพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับรายละเอียดโปรเจคตัวใหม่ที่เขาเป็นผู้รับผิดชอบ ก่อนจะขีดแก้เนื้อหางานที่ละชิ้นให้ลงตัว เขาพยายามจดจ่ออยู่กับตัวหนังสือบนแผ่นกระดาษสีขาวตรงหน้าให้ได้มากที่สุด แต่หากพอนั่งนึกนานๆก็อดเผลอคิดถึงใบหน้ายียวนกวนประสาทนั้นไม่ได้...

     

    ให้ตายสิ!! นอกจากมันจะทำให้เขาประสาทเสียแล้ว ยังจะมาพาลให้เขาทำงานไม่รู้เรื่องอีกงั้นหรอ?!

     

    ใบหน้าหวานเริ่มหงิกอีกครั้ง ยิ่งเมื่อเหลือบไปเห็นช่อช็อกโกแลตฯเขาก็ยิ่งรู้สึกไม่สบอารมณ์! ทำยังกับว่าเขาเป็นผู้หญิงไปได้!! มาให้ช่อดอกมงดอกไม้...ห่าเอ้ย!..แค่คิดก็สยองไปถึงกรวยไตแล้ว! ถึงจะไม่ปฏิเสธก็เถอะว่าไอ้ช่อที่มันส่งมาให้...ก็สวยดี...เพียงแต่ได้ถามเขาสักคำไม๊ ว่าอยากได้หรือป่าว!!?


    แต่ก็ยังดีที่มันไม่เสร่อถ่อมาหาเขาถึงบริษัท เหมือนกับครั้งที่บุกไปหาที่บ้านเมื่อสองอาทิตย์ก่อน

    หนอยย!! แม่งปล่อยให้กูตายใจไปสองอาทิตย์!! คิดว่ามันจะยอมรามือเลิกยุ่งย่ามกับเขาไปแล้วซะอีก เขาถึงไม่เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้พี่โดมกับพี่ยอดฟัง เพราะกลัวว่าจะเผลอทำให้อนาคตของชาติตกงาน ข้อหาริดรอนสิทธิ์ส่วนบุคคลของลูกค้า!! แต่ดูท่าความเห็นใจของเขาจะไร้ค่า เมื่อมือกีต้าร์ไร้มารยาทคนนั้นมันไม่ได้สำนึกแม้แต่น้อย!!

     

    คราวนี้แหละมรึงงง! พ่อไม่ปล่อยไว้แน่!!...ถ้าขืนยังใจดีกับมันไม่เลิก เขาคงไม่วายโดนบั้นทอนความเป็นส่วนตัวไปเรื่อยๆ

     

    ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์มือถือมากดหาเบอร์ของยอดชาย พี่ในสายรหัสที่เขารู้จักมาเกือบห้าปี...ใจจริงก็ว่าจะโทรหาดนัยอยู่หรอก แต่เขาก็เองใช่ว่าจะสนิทสนมอะไรกับเจ้าของห้องอัดฯคนนั้นมากมาย ไอ้ครั้นจะให้ไปฟ้องเจ้าตัวตรงๆว่า นักดนตรีของพี่มันเป็นสตอกเกอร์!’ ก็กลัวว่าจะเกรงใจพูดไม่ออก...ดังนั้นพี่ยอดจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเขา

    .
    .
    .


     

     

    นิ้วมือเรียวจิ้มกดปุ่มโทรออก ก่อนจะยกเครื่องมือสื่อสารแนบหู 
    ฟังเสียงเพลงรอสายของวงดนตรีอินดี้ชื่อดังอย่างสครับ กลบอารมณ์ร้อนให้ทุเลาลง
    ...




    - - - - 




    “ฮัลโหล พี่ยอด---..”

     

    ((โหซิน!! พี่ว่ากำลังจะโทรหาเราอยู่พอดี)) ปลายสายพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงขบขัน ((ดูท่าว่าใจเราจะตรงกันนะเนี้ย))

     

    “อ้วกเลยเถอะ” คนหน้าหวานบ่นอุบ พลางแกะยางรัดผมให้คลายออก... “ว่าแต่พี่ยอดจะโทรหาซินทำไมอะ?”

     

    ((อ่อ วันนี้วันเกิดไอ้ต้าลูกพี่ลูกน้องของนุ่นหนะ...เลยว่าจะโทรมาชวนเราไปด้วย ฉลองกันที่ฟังกี้ฯทองหล่อ นุ่นเองก็บ่นๆว่าคิดถึงซิน พี่เองก็คิดถึงเหมือนกัน ไม่ได้เจอเราเกือบเดือนไม่รู้ว่าป่านี้ซูบลงไปอีกกี่โล))

     

    “หยาบคายมาก ตอนนี้ซินหนักขึ้นตั้งสองโล!

     

    ((ขี้โม้ที่สุดอะ)) เสียงทุ่มหัวเราะร่า เพราะไม่ว่าจะกลับมาเจอหน้ากันกี่ครั้ง เขาก็รู้สึกว่าน้องชายคนนี้ตัวเล็กลงทุกครั้งที่เจอ ((สรุปว่าไปนะ เดี๋ยวพี่ไปรับเราที่บ้านประมาณทุ่มนึงแล้วกัน))

     

    “มัดมือชกเลยเหอะ...ยังไม่ทันได้ตอบตกลงสักคำ”

     

    ((ไม่รู้แหละยังไงก็ต้องไป! ไม่อยากฟังนุ่นบ่นว่าคิดถึงซินแล้ว...บางทีพี่ก็หึงนะ สงสัยอยู่ว่าแฟนพี่เป็นชู้กับซินหรือป่าว?))

     

    “ตายห่า พี่ยอดจับได้ซะแล้ว” แกล้งทำเสียงโอเว่อร์แอ็คติ้งใส่ปลายสาย ก่อนจะโดนเอ็ดกลับมาด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ “เอาเป็นว่าเดี๋ยวซินให้ป๊าไปส่งนะครับ จะได้ไม่ต้องอ้อมไปอ้อมมา.....วันนี้ซินเองก็มีเรื่องอยากคุยด้วยเหมือนกัน”

     

    ((โอเคๆ งั้นเจอกันที่ร้านสักสองทุ่ม บอกป๊าไม่ต้องรอนะเดี๋ยวขากลับพี่ไปส่งเราเอง))

     

    “อือ แล้วเจอกันครับ”

    ((ครับ แล้วเจอกัน)) การสนทนาระหว่างเขากับรุ่นพี่จบลง ก่อนร่างบางจะกดวางสายพร้อมล็อคหน้าจอมือถือเก็บใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงตามเดิม...

     

     


    ...ไม่ได้อยากจะใจร้ายหรอกนะ แต่ถ้ามันไม่มายุ่งกับเขาก่อนมีหรือคนอย่างทศพรจะไปหาเรื่องคนอื่น!!

     


     

     

     

      

















    To Be Continue.


    Talk: ขออภัยในความดิเลย์...พอดีติดเกม บวกกับเขียนนอกพล็อตหนักไปหน่อยเลยเฟลอะ
    (แก้ใหม่ประมาณ3รอบ หงุดหงิดมากพอๆกับชื่อตอน orz) เจอกันใหม่เร็วๆนี้นะคะ../ปั่นๆ
    ปล.รู้ตัวนะว่าใช้คำเปลือง(มาก) ไว้จะพยายามแก้ไขในตอนต่อๆไป
    #ถ้าเห็นแอบมาอิดิทก็อย่าตกใจไปเน้อพิมผิด+พิมงงเยอะมากกก 
    ปล.ขอบคุณสำหรับแรงกดดัน(?)จากนักอ่านทั่นนึงที่ส่งผ่านมาทางทวิต • 3 • )+ อุอุ





    หมายเห็ด * คำว่าเดียร์ใช้นำหน้าชื่อเวลาเขียนจดหมายอยู่แล้ว(ใช่ปะ?)
    ไม่ได้มีความหมายอะไรพิเศษนะคะ! เรื่องนี้รักกันช้าค่ะ..แอบสปอยเบาๆ  



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×