ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] Fiction Singular #Fever+

    ลำดับตอนที่ #1 : ลำดับตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 55



               

               Introduction | First Impression 







             "ไอ้นัท กูเซ็ทเครื่องเสียงให้แล้ว ไม่ต้องเสือกไปปรับห่าอะไรอีกนะ" เสียงทุ่มจากรุ่นพี่คนสนิทสั่งห้าม เมื่อร่างโปร่งสูงหยิบเครื่องดนตรีคู่ใจออกจากกระเป๋าหนังสีดำใบใหญ่ เขาหันไปพยักหน้าให้อีกฝ่ายแบบส่งๆ ก่อนจะลงมือต่อสายแอมป์เข้ากับกีต้าร์โปร่งตัวโปรด... ลองดีดเทสเสียงอยู่สองสามรอบก็ต้องขมวดคิ้วมุ่ย เมื่อเสียงมันเพี้ยนเสียจนเขาต้องเริ่มเซ็ทสายใหม่


    "เป็นไรวะ? มึงดูหงุดหงิดๆ"โดม หรือดนัย เจ้าของห้องอัดเสียงย่านพัฒนาการเอ่ยถาม...อาจเป็นเพราะเขารู้จักกับคนตรงหน้าเป็นอย่างดี เลยพอจะมองออกว่าวันนี้รุ่นน้องเขาดูอารมณ์แปรปรวนผิดปกติ



    "ป่าวพี่ ผมแค่ปวดท้อง" คนถูกถามตอบพลางขยับจูนเนอร์ ไล่ดีดเช็คเสียงทีละสายด้วยใบหน้ายุ่งเหยิง

     



    นัทหรือ โชติวุฒิ บุญญสิทธิ์ นักศึกษาปี4ของมหาลัยรัฐชื่อดังอย่างศรีนครินทรวิโรฒ คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกดุริยางคศาสตร์สากล เป็นหนึ่งในเด็กวัยรุ่นไม่กี่คนที่ดนัยชื่นชมในความสามารถ เพราะนอกจากจะมีฝีมือแล้วมันยังเป็นคนที่จริงจังกับงาน ไม่ว่าจะงานเล็กหรือใหญ่ดนัยก็ค่อนข้างวางใจหากมอบหมายให้รุ่นน้องคนนี้จัดการ... ถึงมันมีข้อเสียก็ตรงนิสัยที่ชอบทำหน้าบอกบุญไม่รับ หนำซ้ำยังเป็นพวกทำอะไรแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ยิ่งพอรู้ว่ามันรับจ็อบเล่นดนตรีในผับเป็นอาชีพเสริม ดนัยก็ยิ่งรู้สึกเป็นห่วง...กลัวรุ่นน้องจะตายก่อนวัยอันควรเพราะปากและหน้าที่ดูวอนหาเรื่องอยู่ตลอดเวลา... 




    "ไหวป่าววะ เดี๋ยวกูลงไปเอายามาให้"


    "ไม่เป็นไรผมกินมาจากบ้านแล้ว...พอดีท้องเสียนิดหน่อยหนะ โดนพวกไอ้เจนลากไปกินอาหารป่ามา" ประโยคหลังเจ้าตัวบ่นอุบเมื่อนึกถึงหน้าเพื่อนสาวตัวแสบที่คะยั้นคะยอแกมบังคับให้เขากินเนื้ออะไรสักอย่าง...มันรสชาติแปลกเสียจนอยากจะคายทิ้ง ยิ่งพอมารู้เอาที่หลังว่าเป็นเนื้อตัวบ่าง เขาก็ยิ่งอยากจะโบกหัวมันให้ทิ่มดิน แต่ติดว่ายังเกรงใจในความเป็นเพศแม่ของมันอยู่เลยทำได้แค่เขม่นเขี้ยวใส่อย่างเสียไม่ได้


    "กรรมตามสนองเลยมึง หนีไปสนุกไม่ชวนกู"ดนัยตัดพ้อเสียงขัน ปล่อยให้คนน้องหันมาค้อนใส่ "ว่าแต่แกะคอร์ดเรียบร้อยแล้วใช่ไหม? ติดขัดตรงไหนหรือป่าวกูจะได้ช่วยแก้"


    "ไม่มีปัญหาครับ เสร็จตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว รอลูกค้ามาก็เริ่มได้เลย"


    "ดีแล้วๆ...งานนี้กูขอเนียบๆนะเว้ย อย่าให้พลาด"


    "โถ่ ระดับไหนแล้วพี่" กีต้าร์แมนขยับมุมปากยิ้มกวนๆ "แล้วจะเริ่มเมื่อไหร่ ตอนเย็นผมมีสอน---.."

     






                "เฮียโดมมม ลูกค้ามาถึงแล้ว...รออยู่ตรงชั้นหนึ่งค้าบบ"

     





    เสียงตะโกนจากชั้นล่างที่ดังขัดขึ้นมาแทนคำตอบของเขา ก่อนจะดนัยจะหันมาชี้นิ้วเป็นเชิงสั่งให้เด็กหนุ่มจัดการตัวเองให้เรียบร้อย "เดี๋ยวกูลงไปรับซินแปป อย่าลืมยิ้มตอนทักทายด้วยนะมึง....ไอ้ห่า ยิ้มดีๆไม่ใช่ยิ้มกวนตรีน คนนี้กูขอ ขอแบบหนักๆเลย เด็กเพื่อนกูครับ อย่าทำเสียชื่อ"


    "รู้แล้วครับ รู้แล้วๆ"


    "เออ เดี๋ยวมา
    !"



    เมื่อพี่เจ้าของห้องอัดฯเดินลับตาไป โชติวุฒิก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่...ทำไมจะไม่รู้ว่าลูกค้าคนนี้สำคัญสำหรับดนัยขนาดไหน ห้องอัดเสียงที่มีชื่อเสียงในวงกว้างของดนัยหากไม่จองล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือน ก็อย่าหวังว่าจะได้ใช้บริการ แถมตัวเขาเองก็ใช่ว่าจะมีเวลา ยิ่งช่วงนี้มีสอบบวกกับยังต้องวิ่งไปสอนกีต้าร์ให้เด็กนักเรียนในคลาสอีก


    ถ้าไม่ติดว่าโดนดนัยสั่งแกมขอร้อง เขาคงไม่ว่างแกะคอร์ดรวมถึงมาอัดเสียงกีต้าร์ให้เช่นกัน...

     

    แต่จะว่าไปเมื่อสองวันก่อนที่ดนัยส่งคลิปเสียงร้องสดของลูกค้าคนนี้มาให้ฟัง เขาก็แอบทึ่งเบาๆกับเนื้อหาของเพลงนะ รวมไปถึงเสียงร้องที่ดูมีเอกลักษณ์นั้นด้วย...ถ้ามองให้ในแหง่ดี ต่อให้อีกฝ่ายเป็นแค่นักร้องโนเนม แต่การที่เขาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในผลงานเพลงดีๆแบบนี้ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีใช่เล่น

     

    "พี่จั๊ก เดี๋ยวผมมานะ"เด็กหนุ่มเอ่ยบอกพี่ทีมงานที่เพิ่งเข้ามานั่งประจำอยู่ในห้องคุมเสียงผ่านทางเฮดโฟน ก่อนเขาจะเดินออกทางประตูด้านหลัง เพื่อไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำที่อยู่ติดกันกับห้องอัดเสียง...







     

     





     



    "ครับป๊า...ขอโทษนะครับที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า"

    ...


    "ครับๆ รู้แล้วฮะ ฝากบอกม๊าด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง"

    ...


    "ไว้เสร็จแล้วเดี๋ยวโทรหานะครับ....ครับ....สวัสดีครับ"

     


      ติ้ด


    "เฮ้อ" ปลายนิ้วเรียวกดตัดสายก่อนจะลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก....นึกว่าจะโดนดุหนักกว่านี้ซะอีก....ถึงใจนึงจะรู้สึกผิดที่หนีออกมาโดยไม่บอกป๊าล่วงหน้า แต่อีกใจก็ยังอดตื่นเต้นไม่หาย...นานๆเขาจะได้ขับรถเองสักที แม้จะไม่ได้ชอบอะไรมากมายแต่มันก็สนุกกว่าการเป็นคนนั่งตั้งเยอะ

     


    "...ลูกแหง่ชะมัด..."

     

    "...ฮะ!?"

     

    "คุณยืนขวางทางหนะ ช่วยหลบหน่อยได้ไหม?" ร่างสูงเอ่ยบอกเสียงเรียบ...โชติวุฒิก้มมองคนตัวเล็กกว่าที่ยืนกำโทรศัพท์เอาไว้ด้วยแววตาที่ไม่ใคร่จะพอใจนัก ซึ่งคนถูกมองเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้ตัว ซินเซียร์(ซิน) หรือ ทศพร ขยับตัวหลบให้พ้นจากบานประตูปล่อยให้คนหน้ายุ่งเดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงออกมาด้วยแววตาที่ไม่สบอารมณ์พอกัน


    ...ไอ้ประโยคแรกที่บ่นลอยๆ ใช่ว่าเขาจะไม่ได้ยิน...

     
    ลูกแหง่บ้าอะไร! เขาเรียกว่าเคารพบุพการีว้อย!!

     

    ถึงจะหมั่นไส้แต่ก็ใช่ว่าจะอยากมีเรื่อง ร่างบางเบะปากออกด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะผลักเปิดบานประตูสีเข้มเพื่อเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำต่อจากไอ้คนนิสัยเสียเมื่อครู่

     

    เอาเถอะถือว่าเป็นเสียงนกเสียงกา! ถ้าให้เดาคงไม่พ้นเป็นลูกค้าของดนัย เพราะดูจากการแต่งตัวมันเองก็ไม่ได้ใส่เสื้อโปโลที่ปักโลโก้ของบริษัทเหมือนกับพนักงานคนอื่นๆ แถมยังนิสัยแย่เสียจนเขาเชื่อว่าดนัยไม่มีทางรับคนแบบนี้เข้าทำงานเป็นแน่!...มีอย่างที่ไหนมาวิจารณ์คนไม่รู้จัก แถมยังเสือกวิจารณ์ให้เจ้าตัวได้ยินอีก!!

     



    "เหอะ!!"

    .
    .
    .









     

    "ลูกค้าพี่แม่ง...โครตช้า" โชติวุฒิบ่นลอยๆ มองดูดนัยที่ยืนคุมเครื่องเสียงคู่กับพี่จั๊กในห้องกระจกตรงหน้า ก่อนจะโดนเจ้าของห้องอัดฯตะโกนด่าผ่านลำโพงให้หุปปากแล้วนั่งรอเงียบๆ แถมยังกำชับให้เขายิ้มแบบเป็นธรรมชาติอีกรอบ


    ((ทำตัวดีๆนะไอ้นัท ถ้ามึงไปด้วยกันกับซินได้กูจะชวนให้เขาทำวงกับมึง...รับรองว่ารุ่ง!))


    "ครับๆ เอาไงก็เอา"กีต้าร์แมนรับคำแบบขอไปที เพราะค่อนข้างมั่นใจว่าดนัยคงแค่พูดเล่น...แต่ไหนแต่ไรมาเขาเคยอยู่ร่วมวงกับคนอื่นรอดที่ไหนกัน ดนัยเองก็น่าจะรู้ดีว่าแนวเพลงที่เขาชอบมักไปกันไม่ได้กับคนส่วนใหญ่ แถมเขายังหัวรั้นพอที่จะไม่เล่นในสิ่งที่ไม่ชอบ ต่อให้ไม่แรงเข้าขั้นต่อต้าน แต่ก็เป็นพฤติกรรมที่ทำให้เพื่อนในวงก่อนๆเซ็งเกินกว่าจะทำงานร่วมกับเขาได้

     





    "ขอโทษที่มาช้าครับ"


    "ช้ามาก..."เสียงทุ่มบ่นอุบทั้งๆที่ไม่ได้เงยหน้ามองผู้มาเยือนคนใหม่ เขาจับจูนเนอร์ที่ดูเบี้ยวๆให้เข้าที่ ก่อนจะได้ยินเสียงเขม่นเรียกชื่อเขาแบบแผ่วๆของดนัยดังผ่านมาจากลำโพง


    ((นั่งก่อนเลยครับน้องซิน เดี๋ยวลองให้ไอ้นัทมันเล่นกีต้าร์ให้ฟังก่อน แล้วเราค่อยใส่เสียงร้องอีกที))


    "......"


    ((...เอ่อ...น้องซินครับ? น้องซิน....โอเคไหมครับ?))


    "อะ...อ่อ...ครับ...โอเคครับพี่โดม"ร่างบางที่ยืนนิ่งจ้องหน้ามือกีต้าร์เมื่อครู่ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ก่อนจะรีบเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาสีครีมที่ตั้งอยู่ตรงมุมห้องด้วยใบหน้ายุ่งเหยิง


     ให้ตายสิ...ไอ้บ้านี้มัน!!....

     

    ((ไอ้นัท พร้อมยัง!!))

    "โอเคครับ พร้อมแล้วพี่โดม"ทันทีที่เหงยหน้าขึ้นมาตอบ แววตาคมก็หันไปสะดุดกับ 'ลูกค้า' ในวันนี้เข้าอย่างจัง...นิ้วมือเรียวที่กำลังจะกดคอร์ดหยุดชะงัก พร้อมๆกับลมหายใจที่ขาดห้วงไปชั่วครู่...ไม่ใช่ว่าเพราะตกใจที่เห็นเป็นคนๆเดียวกับที่เขาเพิ่งกวนตรีนใส่หน้าห้องน้ำไป

    แต่เป็นเพราะตอนแรกที่เจอ...เขาไม่ได้มองหน้าให้มันชัดๆเหมือนในตอนนี่นี้หว่า...

     

    แม่ง...นี้มันผู้ชายจริงๆหรอวะเนี้ย!!?

     



    ((ไอ้คุณนัท อย่าเพิ่งอึ้งครับ ทำงานก่อนทำงาน)) เสียงดนัยที่ดังผ่านลำโพงออกมาดูขบขันเสียจนคนโดนแซวต้องรีบจูนสติกลับร่างก่อนที่งานในวันนี้จะล่มไม่เป็นท่า (( 3...2...1...เข้า)) สิ้นคำนับจังหวะจากห้องคุมเสียง ปลายนิ้วเรียวก็กดสายเครื่องดนตรีในมืออย่างชำนาญ คอร์ดที่บรรจงแกะมาให้ตรงกับเนื้อร้องของลูกค้า ถูกถ่ายทอดให้คนแต่งเพลงที่นั่งอยู่ตรงมุมห้องฟัง

     

    ถึงแม้ว่าทศพรจะรู้สึกไม่พอใจกับมือกีต้าร์ในวันนี้เท่าที่ควร แต่หลังจากที่ได้ฟังผลงาน เขาก็อดเปรยยิ้มออกมาไม่ได้...ทุกโน๊ตเพลงตรงตามกับที่เขาหวังอยากให้เป็น แถมเสียงดนตรีที่ผู้ชายตรงหน้ากำลังเล่น ยังเป็นท่วงทำนองเดียวกันกับเสียงกีต้าร์ที่ใครบางคนเคยเล่นให้เขาฟัง...

     


     






    เอาหน่าซิน แค่ครั้งนี้เท่านั้นแหละ ขอแค่เดโม่ตัวนี้เสร็จก็ไม่ต้องเจอกันอีกแล้ว

     

    ...อดทนแค่นิดเดียวเอง...เพื่อเพลง 'ของเรา' ไง...













    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×