คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : บทที่ 11 พรรคอสูร ภาค ราชันย์ผยองเดช
"ตัดหัวมันซ้ะ !!"
หลินเฟยตัวปลอมหน้าตาบิดเบี้ยวทันทีความหวาดกลัวเข้าปลกคลุมจิตใจจนขยับตัวไปไหนไม่ได้มันได้แต่นั่งน้ำตานองหน้าและนึกเสียใจกับสิ่งที่มันทำลงไป
"ฮ่าๆๆๆ ข้าล้อเล่น ~! ๆ ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหลอกน่า ฮ่าๆๆๆ ข้าแค่อยากให้เจ้ารู้สึกสำนึกแค่นั้นเอง ถึงข้าจะเก่งขนาดไหนแต่ข้าฆ่าคนบริสุทธิ์ไม่ได้หรอกนะเพราะยังไงซ้ะเจ้าก็ใช้ชื่อข้าช่วยผู้คนไว้นิจริงมั้ย!?"
หลินเฟยตัวปลอมพอได้ยินสิ่งที่หลินเฟยพูดก็รีบก้มหัวทันที
"ข้าเซี่ยวเสิ่น !! จากตระกูลเซี่ยว !! ขอบพระคุณท่านหลินเฟย !!"
หลินเฟยยิ้มเล็กๆและกลุ่มตระกูลเซาก็รีบเข้ามาแนะนำตัวทันที
"ข้าเซาซี่ขอรับ !!"
"ข้าเซาเย่เจ้าค่ะ !!"
"ข้าเซาซิ่นขอรับ !!"
"ข้าเซาซวิ้นเจ้าค่ะ !!"
""""พวกเรามาจากตระกูลเซาเป็นเกียรติมากที่ได้พบท่านเจ้าค่ะ/ขอรับ!!""""
หลินเฟยโบกมือให้หนึ่งทีและกล่าวกับเค้าพวกว่า
"พวกท่านไม่ต้องมีมารยาทกับข้าขนาดนั้นก็ได้พวกท่านแต่ล่ะคนก็อายุเยอะกว่าข้าข้าต่างหากที่ควรทำความเคารพ"
ทั้งสี่คนรีบเอ่ยขึ้นทันที
""""มิได้เจ้าค่ะ/ขอรับ!!""""
"เอ๊ะ !?"
หลินเฟยเอียงคออย่างสงสัย
"ท่านน่ะเป็นถึงผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรแห่งแสงถึงตอนนี้ท่านจะอยู่ในอาณาจักรมังกรฟ้าแต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าท่านแข็งแกร่งที่สุดอยู่ดีเจ้าค่ะ!! ถึงท่านจะเป็นเด็กแต่กลับมีความสามารถสูงส่งมันก็สมควรที่พวกเราจะต้องเคารพแล้วเจ้าค่ะ"
หลินเฟยเข้าใจทันทีว่าอาณาจักรมังกรฟ้านั้นนับถือผู้ที่แข็งแกร่งเยี่ยงจักรพรรดิหลินเฟยเหลือบไปเห็นเท้าที่บวมเปล่งของเซาเย่
"นี้เจ้าบาดเจ็บ ?"
"ก็นิดหน่อยเองเจ้าค่ะ..."
หลินเฟยเดินมาตรงหน้าของเซาเย่และชี้นิ้วไปที่เท้าของเซาเย่ที่บวมเปล่งอยู่
ทันใดนั้นมีแสงสีทองเส้นหนึ่งค่อยเคลื่อนที่ไปบางบาดแผลทีละนิดๆจนในที่สุดแสงสีทองก็ค่อยๆคลอบคลุมเท้าที่บวมจนน่ากลัวจุดที่บวมค่อยๆยุบลงอย่างรวดเร็วจนสายตาของคนจากตระกูลเซานั้นมิอาจยับยั้งความตื่นเต้นเอาไว้ได้
"นี้ท่านใช้วิชาแพทย์ได้ ???!!!"
"สวรรค์.!! วิชาแพทย์มีแต่คนที่เรียนแบบเฉพาะทางเท่านั้นที่เรียนได้นิขอรับ ??? ทำไมท่านถึงมีทั้งวรยุทธ์และวิชาแพทย์ด้วยหล่ะ ??!! อัจฉริยะเกินไปแล้ว !!"
"ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดที่มีความสามารถของทั้งสองสายมาก่อนเลย ช่างเป็นวาสนายิ่งนักที่ข้าได้มาเจอท่านเจ้าค่ะ!!"
ในที่สุดเพียงไม่กี่นาทีเท้าของเซาเย่ที่ตอนแรกบวมเปล่งจนคล้ายจะแตกออกมากลับกลายเป็นหายดีเหมือนไม่เคยเป็นอะไรมาก่อนอย่างน่าตกใจ
"ขอบพระคุณมากเจ้าค่ะท่านหลินเฟย ข้านั้นจะตอบแทนให้ท่านสักวันนึง"
หลินเฟยยิ้มเล็กๆก่อนที่จะตอบกลับไป
"แค่พวกท่านบอกที่อยู่ของจตุรเทพมังกรฟ้าแก่ข้าก็ถือว่านั่นเป็นค่าตอบแทนที่เหมาะสมแล้ว"
ทุกคนต่างมีสีหน้าตกใจและเหงื่อออกดั่งเขื่อนแตกทุกคนต่างรู้ดีว่ามังกรฟ้าเป็นสี่จตุรเทพแม้แต่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรมังกรฟ้านั้นยังไม่สามารถครอบครองพลังของมันได้
"ข้าว่าอย่าดีกว่านะเจ้าค่ะ !! มังกรฟ้าเป็นถึงจตุรเทพไม่มีทางที่คนธรรมดาอย่างพวกเราจะสามารถครอบครองพลังได้หลอกเจ้าค่ะ!!"
"ใช่เจ้าค่ะ ! จตุรเทพนั้นเปรียบเสมือนเทพเจ้าแห่งอาณาจักรนี้ถ้าผู้ใดครอบครองมันจะเป็นดุจดั่งเทพเจ้าก็จริงแต่มันเป็นไปไม่ได้เจ้าค่ะที่จะดูดซับพลังของสี่จตุรเทพ"
เซาเย่และเซาซวิ้นต่างก็ห้ามปรามหลินเฟยอย่างสุดกำลังเพราะทั้งสองไม่รู้ว่าหลินเฟยนั้นถึงภายนอกจะคล้ายแต่ภายในไม่ใช่มนุยษ์
หลินเฟยยิ้มมุมปาก
"ชิงเอ๋อ ! มาทางนี้ !"
ชิงเอ๋อเดินมาข้างกายของหลินเฟยทันทีและสายตาของทุกคนก็จับจ้องอย่างขัดมิได้
"ถ้าข้าบอกว่านางคนนี้เป็นจตุรเทะเต่าดำพวกเจ้าจะเชื่อรึไม่ ?"
ทุกคนแทบล้มทั้งยืนหลังจากได้ยินที่หลินเฟยกล่าว
"เป็นไปไม่ได้หลอกขอรับ !! สี่จตุรเทพไม่เคยขึ้นตรงกับผู้ใดเลยขอรับ"
"ใช่เจ้าค่ะแถมยังเป็นจตุรเทพเต่าดำอีกข้าได้ยินมาว่าท่านเต่าดำนั้นรักศักดิ์ศรีเยี่ยงชีวิตเพราะฉะนั้นไม่มีวันก้มหัวให้ใครเด็ดขาดเจ้าค่ะ"
หลินเฟยแสยะยิ้มอย่างสนุกสนาน
"ฮิๆๆ งั้นพวกเจ้าก็อย่าเพิ่งเป็นลมกันหล่ะข้าจะทำให้พวกเจ้าดูว่า ! มนุษย์น่ะก็สามารถเป็นพระเจ้าได้....ชิงเอ๋อ !!"
"เจ้าค่ะ !!"
ซู้มมมมมมม !!!
ชิงเอ๋อระเบิดพลังของตนออกมาและออร่ารูปร่างเต่าที่มีสีดำทมิฬและดวงตาสีแดงปรากฏข้างหลังของชิงเอ๋อ
ทุกคนหน้าตาถอดสีทันทีถึงแม้ว่าพวกเค้าไม่เคยเห็นสี่จตุรเทพก็ตามแต่กลับสัมผัสได้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นมันไม่ใช่ความฝัน
แต่ล่ะคนมีสีหน้าที่ซีดราวกับคนตายความกดดันเข้าแทรกแซงจิตใจน้ำหนักตัวเริ่มหนักขึ้นจนทั้งหมดนั่งกองอยู่กับพื้นทันที
"ปะ.. เป็นไปไม่ได้!!!! จะ...จ....จตุนเทพเต่าดำ !!! สวามิภักดิ์.ต่อท่านหลินเฟยอย่างนั้นรึ !!!"
"คะ..,!! คนคนนี้ ปะ...เป็นใครกัน !!"
"หยุดได้แล้วชิงเอ๋อ"
หลินเฟยเห็นว่าทุกคนคงรับแรงกดดันไม่ไหวแล้วจึงเอ่ยปากหยุดชิงเอ๋อไว้
ทุกคนลุงขึ้นยืนและสูดหายใจเข้าลึกๆปรับสภาพจิตใจเพื่อไม่ให้สติแตก
"ท่านหลินเฟย ? ท่านเป็นใครกันแน่เจ้าค่ะ !! ทำไมจตุรเทพถึงยอมอยู่ใต้อาณัติของท่าน !?"
เซาซวิ้นถามอย่างสงสัย
"เรื่องนี้ข้าคงบอกเจ้าไม่ได้นะน้ะ ~^^"
หลินเฟยเอานิ้วชี้มาแตะริมฝีปาก(ใครนึกภาพไม่ออกให้ดูรูปโปรของนิบยายเรื่องนี้นะครับ)ทำให้เสน่ห์ของหลินเฟยพุ่งตรงมายังเซาซวิ้นทันทีนางหน้าแดงก่ำและก้มหน้าก้มตาพูด
"จะ...เจ้าค่ะ >/////<"
ลี่เอ๋อที่ยืนอยู่ก็รีบเดินมาด้านข้างขวามือหลินเฟยทันที
"อ้อข้าลืมแนะนำ นี้คือมือขวาคนสนิทของข้านางชื่อหลิ--"
"""""ท่านหลินหงส์ลี่ใช่มั้ยขอรับ/เจ้าค่ะ!!!!"""""
ทั้งเซี่ยวเสิ่นและกลุ่มตระกูลเซาพูดสวนหลินเฟยและแววตาเป็นประกายจ้องมองลี่เอ๋ออย่างดีใจ
"เอ่อ...นายท่าน ~ นี้คือ"
ทุกคนรีบแนะนำตัวกับลี่เอ๋อทันทีและทุกคนก็ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหลินเฟยทันที
"อ่อ... เจ้าพวกชายชุดดำนั่นมาจากพรรคอสูรสินะข้าเคยเจอหัวหน้าพรรคของพวกมันตอนการประลองของสามตระกูลหลักน่ะ แล้วพวกเจ้าไปทำอะไรกับพรรคของพวกมันไว้หล่ะ?"
"พวกเราไปขอยืมเงินพวกนั้นมาน่ะเจ้าค่ะแต่ว่าระหว่างทางโดนพวกไหนข้าก็ไม่ทราบเช่นกันมาแย่งเอาเงินของเราไปทั้งหมดแถมตอนนี้ครบกำหนดวันที่สัญญาไว้แล้วน่ะเจ้าค่ะแต่ตระกูลข้าไม่มีเงินคืนให้พวกมันก็เลยจับท่านพอกับท่านแม่ข้าไว้และน้องเล็กข้องข้าอีกสองคนเมื่อวานข้าจึงออกเดินทางกับพี่น้องของข้าเพื่อไปขอความช่วยเหลือจากตระกูลพันธมิตรแต่กลับโดนพวกของมันบางส่วนสะกดรอยตามมาจนได้ท่านเซี่ยวเสิ่นช่วยไว้น่ะเจ้าค่ะ"
เซาซวิ้นเล่าเรื่องราวของตระกูลให้หลินเฟยฟังทันใดนั้นหลินเฟยก็พูดออกมาอย่างมั่นใจ
"งั้น ! ไปที่พรรคอสูรของพวกมันกันเลยดีกว่า !! ข้าจะช่วยเจ้าเอง.. แต่ว่าถ้าข้าจัดการเสร็จพวกเจ้าต้องบอกที่อยู่ของจตุรเทพมังกรฟ้าให้ข้านะ!^^!"
...
ติดตามตอนต่อไป
ความคิดเห็น