ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You're my Key!!!

    ลำดับตอนที่ #1 : You're my Key!!! ตอนที่ 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 32
      0
      7 ก.ค. 57

    YOU'RE MY KEY!!!

    ปรอทแตก

    1

     

     

    “ไป
                    ไม่ไป...
                    ไป...
                    ไม่ไป...
                    เฮ้ออ”
                    อยากไปจัง
    TToTT ไม่สิ!ไปไม่ได้เด็ดขาด มันเกินไป ทำอย่างนั้นไม่ได้ ไม่ได้ๆๆ!

                    ฉันยืนบ่นพึมพำในมุมเล็กๆของห้องสมุด หนังสือที่วางอัดแน่นเต็มทุกชั้นทั่วทุกบริเวณและยังเงียบสงัดแบบนี้เหมาะสำหรับอาการใจลอยอย่างแรง มือที่ควรจะหยิบเลือกหนังสือมาทำรายงาน กลับทำได้แค่ปัดแกว่งผ่านหนังสือไปเรื่อยๆ สลับกับโยกหนังสือเหล่านั้นไปมา พลางทิ้งศีรษะพิงชั้นหนังสืออย่างเหนื่อยใจ

    ทุกคนคงงงกันสินะ ว่ามันเรื่องอะไร ทำไมถึงเหนื่อยใจนัก ใช่มั๊ยล่ะ

     เรื่องมันมีอยู่ว่า ฉันอยากไปคอนเสิร์ต คีย์ แทบบ้า เหตุผลก็เพราะเขาหล่อมาก น่ารักมาก มากๆๆ ร้องเพลงก็เพราะ

    น่าเสียดายที่ไม่ได้อยู่ประเทศเดียวกัน เป็นนักร้องเกาหลีอ่ะ และอีกหนึ่งอาทิตย์เขากำลังจะมาเปิดคอนเสิร์ตที่ไทย แงๆ แต่ก็น่าเสียดายอีกนั่นแหละ คนอย่าง “ไอ” เกิดมาในครอบครัวปานกลาง เวลาจะใช้จ่ายอะไร ซื้อได้แต่ของจำเป็น ฉันถูกสอนมาแบบนั้น ดังนั้นในบ้านไม่มีสมบัติ ผลงาน อัลบั้มหรือรูปภาพอะไรก็แล้วแต่(ที่เสียเงิน)เกี่ยวกับ ที่รักในบ้านเลย เหตุผลน่ะหรอ

    เพราะมันไม่จำเป็น TT^TT

    มือข้างหนึ่งคว้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ส่วนอีกมือก็ยังคงปัดแกว่งผ่านหนังสือไปอย่างไร้ทิศทาง พอจะปลดล็อคหน้าจอก็ทำเอาใจหายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ภาพหนุ่มหล่อน่ารักในจอทำท่ากุมมือแนบอก ริมฝีปากได้รูปที่เม้มนิดๆ นัยน์ตาแววใส สีหน้าออดอ้อน ผมสั้นสีม่วงเซ็ตเป็นทรงสวย ทุกครั้งที่เห็นภาพนี้ฉันมักจะได้ยินเสียงเขาแว่วเข้ามาในโสตประสาทว่า ผมรักไอนะ เป็นกำลังใจให้เสมอ สู้ๆเพียงแค่คำนั้นทำเอาฉันฟินไปทั้งวัน แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม เสียงที่ก้องกังวานในหัวกลับเป็น ไอจะไม่ไปจริงเหรอ ไม่รักโอป้าเหรอ

    เศร้า TTTOTTT

                    จู่ๆภาพก็ดับลงเพราะไม่ยอมปลดล็อคโทรศัพท์ซะที

                    ‘ไอจะไม่ไปจริงเหรอ ไม่รักโอป้าเหรอ

                    ถึงแม้ภาพหน้าจอกลายเป็นสีดำสนิทแล้วแต่เสียงนั้นยังย้ำเตือนดังกังวานขึ้นเรื่อยๆและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเสียด้วย

                    ไอจะไม่ไปจริงเหรอ ไม่รักโอป้าเหรอ

                    รักสิ ไอรักมากด้วย

                    ฉันเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งจัดการปลดล็อคหน้าจออย่างรวดเร็วหวังจะหลบหนีคนในหน้าจอนั้น แต่กรรม

                    หน้าจอหลักก็เป็นคีย์และยังตั้งเป็นรูปเดียวกับภาพปลดล็อคหน้าจออีก ร่างที่ยืนพิงกับชั้นวางหนังสือเลื่อนตัวลงจนไปนั่งกับพื้นพิงชั้นหนังสือแทน  นิ้วที่ขณะนี้เลื่อนไปสัมผัสหน้าจอตามที่ใจเรียกร้องก็จิ้มลงไปที่วีดีโอเกี่ยวกับคีย์และรีบหยิบเอียร์โฟนออกมาจากกระเป๋ากระโปรงแล้วเสียบเข้าที่โทรศัพท์นั้น

                    เฮ้อ~ น่ารักขนาดนี้จะไม่ให้รักได้ยังไงเล่า

                    ทุกอิริยาบถของคีย์มักจะทำให้เผยยิ้มออกมาตลอด ไม่เว้นแม้กระทั่งครั้งนี้ทำไมนะ ทำไมถึงต้องหลงเขาขนาดนี้ด้วย

    ภาพคนในโทรศัพท์ยังคงเล่นต่อไปเรื่อยๆ

    ดูสิขนาดเขาตกใจยังน่ารักเลย

    ยิ้มนั้นก็ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่

    ขนาดหน้าเฉยๆก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อน่ารักนั้นหายไปเลยด้วยซ้ำ

    อยากเจอๆ อยากเจอที่สุดเลย

                    จะไปคอนเสิร์ตดีมั๊ยนะ

                    คำถามนี้วิ่งวนอยู่ในจิตใจตลอดเวลาพร้อมทั้งสายตาที่ยังจับจ้องไปที่โทรศัพท์อย่างไม่ลดละ

                    คำถามนี้ฉันเคยตอบอยู่สองแบบคือ ดีสิ ไปเลยๆและ ไม่!! ห้ามไปเด็ดขาด!’

                    แต่ขณะนี้คำตอบที่วิ่งวนคู่กับคำถามมีแค่คำตอบเดียวเท่านั้นและมันทำให้รู้สึกดีมากถึงขั้นก้มหน้าลงไปจรดริมฝีปากลงบนหน้าจอซ้ำแล้วซ้ำเล่า จริงๆคงพอจะรู้กันแล้วใช่มั๊ยว่าฉันตอบอะไรออกไป

    และคำตอบก็คือ ดีสิ ไปเลยๆ

                    แล้ว...

    คุณคิดว่าฉันจะทำยังไงกับคำตอบนี้ล่ะ

                   

    เอาล่ะ...ไอจะไปคอนเสิร์ตคีย์  (-*-)!!


     

    หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

                    กรี๊ด!!! ไม่อยากเชื่อเลย ทุกอย่างผ่านฉลิว (ใช่มันคือพรหมลิขิตที่จะได้พบกับคีย์ เขิล) พ่อแม่ไม่ว่า คงเพราะเป็นเด็กดีและเชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้มีพระคุณ แน่ล่ะฉันเป็นผู้ที่เปี่ยมล้นไปด้วยกตัญญูกตเวที  จริงๆน่าจะถูกส่งชื่อไปรับรางวัลเชิดชูเกียรตินะเรา เอิ๊ก เอิ๊ก -.,-

                    ฉันมองร่างของตัวเองในกระจก ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ในมือถือชุดตัวใหม่สีชมพูลายน่ารักกุ๊กกิ๊กๆเหมาะที่จะไปชมคอนเสิร์ตของคีย์เอามากๆ

    “พี่บีๆ ชุดนี้ เป็นไงบ้าง”ฉันทาบชุดตัวใหม่บนร่างตัวเองและหันหน้าออกไปหาพี่ พี่บี  ละสายตาจากจอคอมและเหลียวหลังมามอง

    “อืม”พี่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ และกลับไปเล่นคอมตามเดิม

    ฉันหันกลับไปมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง พลางมองตาตัวเองในกระจก ฮึๆวันนั้นฉันต้องสวย ต้องสวย

    “ไอ ไม่เสียดายเงินมั่งหรอ พี่รู้นะว่าเสียเงินไปเป็นหมื่นกับคีย์ ยังไม่พอโกหกพ่อแม่ว่าได้บัตรฟรีอีก ชอบมันขนาดนั้นเลยหรอ”ไม่ได้ชอบแค่รัก หน้าฉันร้อนวาบขึ้นมาทันที ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาแต่ก็ถูกกลบด้วยความโกรธ ใช่ มันเป็นเรื่องจริง แต่แค่อยากเจอคีย์ก็เท่านั้น   

    “พี่อย่าเรียกคีย์ว่า มันไอไม่ชอบ ”

    “จะไปชอบอะไรนักหนา พี่ไม่เข้าใจอ่ะ”พี่ละสายตาจากจอคอม มามองหน้าฉันอีกรอบ  ให้ตายสิฉันเกลียดคำนี่ที่สุด

    “พี่ก็ไม่เคยเข้าใจอะไรเลยไอบอกไว้แล้วไอไม่ได้ชอบเขา เขาเป็นมากกว่าคนที่ชอบ”

    “นี่คิดอะไรอยู่ไอ”

    “พี่ไม่เข้าใจไอหรอก”ทุกวันคิดถึงเขาตลอดเวลา ขอให้ได้เจอเขา เพ้อก็เพ้อแต่เรื่องเขา อยากอยู่ใกล้ๆเขา

    “มันเกินไป เขาที่แกหมายถึงเป็นดารานะ”พี่แค่นหัวเราะ

    “ไม่ใช่ คีย์เป็นไอดอล”ฉันเถียงเสียงแข็ง

    “เหมือนๆ กันนั่นแหละ สรุปเธออยากเป็นแฟนเขางั้นสิ”พี่มองฉันด้วยสายตาของคนไม่อยากเชื่อ สายตานั้นชวนให้รู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก“เมื่อไหร่แกจะตื่น พอๆๆ พี่ไม่อยากรู้อะไรไปมากกว่านี้แล้ว”

    “ไม่ แค่อยากอยู่กับเขา อยากให้เขารัก...”น้ำเสียงค่อยๆ เอ่ยออกมา แต่ว่าคนที่สนทนาด้วยกลับรีบใส่หูฟังพร้อมเอามือคลุมหูทั้งสองข้างอย่างแรงอีกทบ และหันกลับไปเล่นคอมพิวเตอร์ตามเดิม

    ฉันรู้ว่าตัวเองเพ้อเจ้อ แต่มันก็ไม่แน่เสมอไปสุดท้ายเขาอาจจะมารักกับเราก็ได้ ถึงมันจะมีความเป็นไปได้แค่ จุดศูนย์ๆๆ หนึ่งเปอร์เซ็นต์ ก็ยังหวังว่าตัวเองจะเป็นคนในจุดศูนย์ๆๆ หนึ่งเปอร์เซ็นต์นั้น ถึงจะไม่ได้สวยหยาดเยิ้มแต่ก็ไม่ได้หน้าตาน่าเกลียดซะหน่อย นิสัยก็...

    ชั่งมันเถอะ...

     ฉันไม่คู่ควรกับคีย์เลย  

     

    ณ อิมโพคอาโรเน่ เมืองแพงธานี

                    กรี๊ด!!!! 
                    กรี๊ดดด!!!!!!
                กะ..กรี๊ดดดดดด!!!!!!

    เสียงกรี๊ดดังกึกก้องไปทุกที่ทั่วบริเวณ แน่นอนเสียงนั่นส่วนใหญ่มาจากผู้หญิง ฉันยืนต่อแถวตรงบู๊ทจำหน่ายของที่ระลึก เหอะๆ  ของพวกนี้อย่าหวังจะรอด แม่จะเหมาให้หมด วะฮะฮ่า

    จะยังไงมันก็เหมือนฝันเลย ฉันจะได้เจอคีย์ ตอนนี้ขอให้เจอเขาฉันก็พอใจแล้ว เธอมันสแตเบอหรอจริงๆเลยไอ ยอมสแตเบอหรอได้แค่วันนี้นะ รู้มั๊ย

    กรี๊ดดดดๆๆๆๆๆ!!!!!

    ขอปลดปล่อยหน่อยเถอะ  คีย์ๆๆๆ ซารางแฮ( >.<)

     

    ฉันเข้ามาอยู่ในคอนเสิร์ตแล้ว โห บรรยากาศมันน่าตื่นเต้นชะมัด แอร์เย็นๆบวกกับแท่งไฟที่เยอะจนนับไม่ถ้วนของแฟนคลับที่ทำให้ห้อง(ใหญ่ๆ)นี้ดูน่าหลงไหลมากขึ้น อิๆ  มันก็มีอยู่ในมือฉันเหมือนกัน ฉันอยู่ตรงหน้าคอนเสิร์ตเขาแปะ เป็นที่ๆใกล้เวทีที่สุดแถวแรกเลยล่ะ ก็ฉันบัตรวีไอพีนี่ อยู่ตรงนี้มันเห็นหมดเลยจริงๆ ฉากข้างบนเพดานที่จะใช้ในการแสดงยังเห็นเลย วู้ๆ ฉากทำไมมันแกว่งไปแกว่งมาอย่างนั้นล่ะ เขาจงใจให้ฉากแกว่งหรือเปล่านะ แกว่งไปมาอย่างนี้ก็เพลินดี นี่แหละความลุ่มหลงที่ฉันมีให้คีย์ เอ...โยงมาหาคีย์ได้ไงเนี่ย

     อ๊ากกก!! จะได้เจอคีย์แล้ว!!!! \O(oo)O/

    ทันใดนั้นแสงไฟที่เวทีการแสดงภายในคอนเสิร์ตก็ดับลงและมีชีวประวัติของคีย์ขึ้นมาแทน เขาหล่อเวอร์จริงๆ ไม่มีใครจะหล่อกว่านี้แล้ว คิกๆ

    “สวะ ดิ กับ(สวัสดีครับ)”เสียงคีย์ที่ดังมาจากทุกที่ และตามมาด้วยเสียงเหล่าแฟนคลับที่ส่งเสียงตอบรับ บนเวทียังเป็นรูปของเขาอยู่ แต่เสียงเป็นเสียงเขาแน่นอนพูดไทยด้วย ไม่ชัดอีก น่ารักอ่ะ

    “กรี๊ดดด!!!!!!!”เสียงเฮของเหล่าแฟนคลับที่ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง และแน่นอนมีเสียงของฉันผสมรวมอยู่ในนั้นด้วย

    “ป๋ม รัก กุน(ผมรักคุณ)”

    “อ๊าก!!!!!”แดดิ้น

    “นับ ป้อม ป๋ม นะ(นับพร้อมผมนะ)”

    “กรี๊ดๆๆๆๆๆ”

    ฉิบ(สิบ).....เก้า......แปด......เจท(เจ็ด).......หก.......ห้า.......ฉี่(สี่)....

    เสียงนับของคีย์บวกกับของแฟนคลับที่นับไปตามจังหวะกลอง

                    ซาม(สาม)..........

                    สอง..........

                    กลองเริ่มตีจังหวะถี่ขึ้นไปเรื่อยๆ

                    นึง(หนึ่ง)

                    กล่องตีถี่มาก รัวตามความบ้าคลั่งของคนในคอนเสิร์ต

                    ฉันมองเวทีและพยายามมองหา...คีย์ ก่อนที่สายตาจะเงยขึ้นไปมองบนเพดาน อะ ไอ้ ฉากที่แกว่งไปแกว่งมาทำไมมันแกว่งแรงตามจังหวะกลองล่ะ

    ไม่นะ  มะ...มันจะตกแล้ว

    มะ...มันจะตกแล้ว

    ศูนย์!!!!!.........ตึ่ง!!!!

    เสียงกลองตีดังมากพร้อมกับพรุ ทุกคนกำลังสนุก ฉากนั่นก็กำลังสนุก

                    โฮก!!! ส่ายใหญ่เลย OoO!!

                    ที่จริงถ้ามันส่ายอย่างนี้ไม่มีทางโดนฉันหรอกเพราะมันอยู่บนหัวฉันเป๊ะ ถ้าแกว่งไปแกว่งมาอย่างนี้ มันจะเข้าเวทีหรือไม่ก็คนที่อยู่รอบๆฉันต่างหาก  ฉันคงไม่มีอะไรที่ต้องกังวลแล้ว(มั๊ง)

                    กรี๊ด! นั่นคีย์นี่

                    คีย์ ปรากฏตัวขึ้นอย่างอลังการ แสงสปอตไลท์ส่องไปที่ตัวเขา เทพบุตรสุดที่รักของช้าน หล่อได้อีกอ่ะ ฉันละสายตาจากฉากที่แกว่งไปแกว่งมาทันที รูปร่างสูงโปร่ง ผมเซ็ตทรงสวยที่พึ่งเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ ภาพลักษณ์กึ่งเย็นชากึ่งขี้เล่นแลดูอบอุ่น เขาน่ะ หล่อที่สุดในสามโลกเลย กรี๊ด!!!!!

                    ระวัง!!!

                    เสียงเตือนดังมาจากด้านหลังก่อนที่

                    โคร่ม!!!!

     

                    “นา นึน ปิย่าน เน่ ฉะฉง ชง ออบ โซ โซ๋ ”

                    “คีย์บอกว่าผมขอโทษนะครับ ไม่อยากให้มันเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น...”

                    “.....”

                    “I’m so sorry.

                    “.....”

                    “Please,wake up.”

                    “ใครเนี่ยหนวกหู”ฉันพูดด้วยความรำคาญก่อนจะลืมตาขึ้นมา

                    กรี๊ดๆๆๆ นี่ฝันชัดๆ

                    คะ...คีย์ มาอยู่ตรงหน้าฉันอ่ะ แถมยังมองมาด้วย เป็นไปได้ยังไง

                    “I’m sorry” คีย์พูดในขณะที่หลุบตาต่ำ

                    “I love you so much!!!!

                    ฉันแผดเสียงกึ่งพูดกึ่งกรี๊ดออกไปอย่างลืมตัว แต่ดูเหมือนว่าคีย์จะไม่ได้ยิน และออกไปจากห้องพร้อมฝ่าวงล้อมกับสื่อมวลชนที่เข้ามาทำข่าว ไม่ได้กาลล่ะไหนๆ เจอตัวเป็นๆกันอย่างนี้ต้องขอลายเซ็นเป็นที่ระลึกซะหน่อย ฉันลุกออกจากเตียงคนไข้ อ้าวอยู่โรงพยาบาลหรอ? เดี๋ยวค่อยคิดๆ ตอนนี้คีย์สำคัญที่สุด

                    ฉันพยายามจะเดินฝ่าวงล้อมนักข่าวหน้าห้องและการ์ดกันนักข่าวไม่ให้ตามคีย์

                    แงๆ เขากันไว้หมดเลย แล้วฉันจะออกยังไงเนี่ย

    เอาไงดีนะ อยากจะขอลายเซ็น ทักทายอะไรหน่อย เมื่อกี๊เขาคุยกับฉันแน่ ยังไม่ได้ทักทายอย่างเป็นทางการเลย ปล่อยไปอย่างนี้เสียดายอ่ะ

    เอาวะ เพื่อคีย์

    หลังจากที่คิดได้ ฉันรีบคลานฝ่าฝูงชน มุดลอดใต้ขาของการ์ดคนหนึ่งออกมาและวิ่งเข้าไปหาร่างสูงที่เดินอยู่กับผู้จัดการส่วนตัวและการ์ดอีกจำนวนหนึ่ง

                    “Hey!!! Key”ฉันตะโกนไปสุดพลังเสียงแต่ร่างข้างหน้ากลับเดินไปราวกลับไม่ได้ยิน

                    “......” คีย์ยังคงสาวเท้าเดินไปเรื่อยๆ

                    ฉันรีบสปีดสาวเท้าสุดแรงเกิดทำให้ใกล้ร่างเขามากขึ้น

                    “อย่าเพิ่งไปสิ Hey!!! Wait!!!”คีย์หยุดเดินและหันหลังกลับมา สายตามองเลยข้ามหัวฉันไปอย่างหวุดหวิด ก่อนจะหันหลังกลับเดินลับจากไป

    เรื่องนี้ฉันควรจะโทษส่วนสูงของตัวเองหรือความสูงของเขาดีนะ

    แต่ก็...

    ได้มองเค้าในมุมใกล้ก็ปลื้มสุดๆแล้ว

                    ฉันเดินขาลากกลับมาที่ห้องผู้ป่วย เหล่าบรรดาสื่อมวลชนทั้งหลายหายไปกันหมดแล้วทางโล่งเลย   เฮ้อ พักชะที ฉันเปิดประตูเข้าไป สายตาก็มองตรงไปที่เตียงของผู้ป่วย จู่ๆ ภาพตรงหน้าก็ทำให้แขนขาชะงักทันที

    บนเตียงนั่นมีฉันนอนอยู่ ล้อมรอบด้วยพ่อแม่และพี่ที่มองฉันที่นอนบนเตียง

    แต่...ฉันอยู่นี่

    ตลกล่ะ จะเห็นตัวเองได้ไง  นี่มันอะไรกัน

    “พ่อ!! ”ฉันเรียกพ่อแต่ท่านกลับไม่สนใจ และยังจ้องมองผู้หญิงที่อยู่บนเตียงด้วยแววตาเศร้าสร้อย

    “แม่”ฉันร้องเรียกแต่กลับไม่มีใครหันมาทางนี้เลย แม่น้ำตาไหล ร้องไห้ออกมา ตาก็จ้องไปที่ผู้หญิงบนเตียง และก็กอดกับพี่บี

    “ทุกคน ไออยู่นี่”เสียงที่ฉันพูด ไม่ได้ทำให้สมาชิกในครอบครัวหันมาทางนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินที่ฉันพูด ไม่....ไม่จริง....มันต้องไม่ใช่อย่างนี้สิ!!!!

    “ทุกคน ไออยู่นี่”

    “ไออยู่นี่!!!!”ฉันเริ่มตะโกนออกไป ความสับสนเริ่มถาโถมเข้ามา

    “หันมาบ้างสิ!!!!”เสียงแม่ยังคงร้องไห้และเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ

    “ไออยู่นี่!!!!!

    นี่ อำกันใช่มั๊ย

    ทุกคนเป็นอะไรกันหมด

    มันไม่สนุกนะ”ไม่มีใครสนใจฉันซักคน

    ฉันเดินไปหาแม่พยายามจะจับตัวเธอ แต่มือกลับทะลุผ่านไปราวกลับว่าเป็นอากาศธาตุ

    นี่มันเกิดอะไรขึ้น

    มือฉันเริ่มคว้าไปจับแขนพ่อผลก็ผ่านตัวท่านอีกเหมือนกัน พยายามจับอีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้งๆๆๆแต่ยังเป็นเช่นเดิม  ไม่สิ มันไม่ใช่อย่างนี้ ฉันเอื้อมมือไปสัมผัสแม่อีกครั้งแต่ไม่วายผ่านมือท่านออกไป มือเริ่มสั่นเทา และคว้าแรงขึ้น เร็วขึ้น แต่สุดท้ายไม่มีใครที่ฉันจะแตะต้องได้เลย ขอบตาเริ่มร้อนผ่าว น้ำใสๆเริ่มล้นตาจนไหลรินลงมาในที่สุด

    ไม่จริง

    ไม่แน่นอน

    มันไม่มีวันเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นสิ

    “กรี๊ดดดด!!!!!!! ได้ยินกันมั่งสิ เป็นอะไรกันไปหมด!!”ฉันกึ่งพูดกึ่งกรีดร้องแต่ไม่มีใครได้ยินฉันอยู่ดี ใบหน้าตอนนี้ชุ่มไปด้วยน้ำตา ก่อนจะล้มตัวลงไปกอดเข่าตัวเองแต่ต้องชะงัก

    ฉะ..ฉันไม่มีเท้า

    ฉันเอามือกุมหัวตัวเองในทันที พยายามรวบรวมความทรงจำ ภาพเหตุการณ์ก่อนที่จะมาที่นี่ แล้วไหนจะผู้หญิงหน้าเหมือนจนแยกไม่ออกบนเตียงคนไข้อีก ไม่มีใครเห็นหรือได้ยิน...ฉัน

    ฉันเป็นผีหรอ

    ไม่นะ

    ไม่จริง

    กรี๊ด!!!!!!!!

     

                    ฮือๆๆๆ

                    ทั้งหมดนี่เป็นเพราะคีย์ เขาคนเดียวที่ทำให้มันเกิดเรื่องนี้ขึ้น ถ้าไม่มีเขาฉันคงไม่เป็นแบบนี้ ครอบครัวฉันคงไม่เป็นแบบนี้ เรื่องทั้งหมดคงไม่ลงเอยแบบนี้

                    ไม่สิๆ เขาไม่เกี่ยวซะหน่อย

                    ฉันคงเศร้ากว่านี้ถ้าตัวเองตายก่อนที่จะเห็นคีย์ เธอก็โชคดีเหมือนกันนะไอ ได้เห็นเขาในระยะหนึ่งฟุต เขาหล่อทุกระยะจริงๆ เธอเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกเลย

    นี่ฉันจะปลอบตัวเองไปถึงไหน ยิ่งปลอบยิ่งเศร้า

    ฮือๆ

    ฮือๆๆๆๆ

    โฮๆๆๆๆๆ TTOTT…

    [ค่ะ จากข่าวหน้าหนึ่งของวันนี้ คือเรื่องของไอดอลหนุ่มไฟแรงคีย์ ที่เกิดเหตุฉากในคอนเสิร์ตตกลงมาที่เหล่าแฟนคลับ จากเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่งและมีนักเรียน ม.ปลายถึงกับกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ทางสังกัดได้ออกมาแก้ความเรื่องนี้แล้วค่ะ]ฉันค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปดูจอโทรทัศน์เรื่องนี้มันคุ้นๆ แฮะ

    [ทางต้นสังกัด XX ได้ออกมาแถลงว่าไม่มีเหตุการณ์ฉากตกลงมาที่แฟนคลับเกิดขึ้นแต่อย่างใด ไม่มีใครได้รับปาดเจ็บในนั้นเว้นแต่หญิงสาวที่เป็นโรคหัวใจระบุว่าเป็นเพราะการอยู่ในที่ที่มีคนหนาแน่น ประกอบกับอาการเหนื่อย หัวใจจึงหยุดเต้นชั่วขณะ ทำให้ไม่มีเลือดไปเลี้ยงสมองชั่วคราว ส่งผลให้หญิงสาว ม.ปลาย กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา หนุ่มน้อยคีย์ก็ได้ไปเยี่ยมผู้หญิงคนนี้เป็นการให้กำลังใจแฟนคลับของตัวเองแล้วค่ะ แหมจิตใจดีอย่างนี้ เจ้าตัวได้กลายเป็นหนุ่มผู้ใจบุญในโลกออนไลน์ไปแล้วค่ะ บลาๆๆๆ]

    ภาพในทีวีปรากฏเป็นฉันที่นอนนิ่งและมีคีย์อยู่ข้างเตียงกำลังพูดคำขอโทษ ให้กำลังใจและบอกให้ฉันฟื้น

    อะไรกัน ฉันไม่เคยเป็นโรคหัวใจ หลอกประชาชนปกปิดความผิดนี่ ฉันโดนฉากทับแน่นอน ทำไมเลวกันอย่างนี้ล่ะ คีย์ก็สมรู้ร่วมคิดด้วย ภาพพจน์เขาดีขึ้นเมื่อฉันเป็นแบบนี้ คีย์นายใจร้ายมาก อุตสาห์ยกย่อง ใช่สิ ที่มาเยี่ยมฉันเพราะจะสร้างภาพเทพบุตรขึ้นไปอีกสินะทำไมทำกันอย่างนี้

    นายทำลายชีวิตฉัน  ทำลายไปจนหมดสิ้น

    เจ้าอยากฟื้นขึ้นมาอีกครั้งหรือเปล่าจู่ๆ เสียงกึ่งหญิงกึ่งชายก็ดังก้องขึ้นมาในหัวฉัน

    อยากสิ ไม่งั้นไม่มานั่งตาช้ำอยู่อย่างนี้หรอก

    ถ้าอยากเจ้าต้องทำตามความปรารถนาสุดท้ายของเจ้าให้เป็นจริง

    หวายยย เสียงอะไรเนี่ยหนวกหู

    ข้าได้ยินทุกอย่างที่เจ้าคิดนะ

    ถ้าไม่ทำล่ะ

    เจ้าก็รอความตายได้เลย

    ทำไมเป็นงั้นอ่ะ แล้วข้าน้อยจะต้องทำอย่างไร(เล่นตามเขาซะหน่อย อิๆ)

    ก็อย่างที่ข้าเปล่งวาจาออกไป เจ้าต้องทำความปรารถนาครั้งสุดท้ายของเจ้าให้เป็นจริง

    ป๊ะ! ก็บอกมาสิว่าฉันจะต้องทำยังไง

    ป๊ะ! ต้องให้ข้าบอกด้วยรึ

    ใช่ เจ้าค่ะ ลูกน้อยไม่รู้จริงๆ

    ก็ได้ๆ เจ้าต้องทำให้หนุ่มที่เจ้าชอบบอกรักเจ้าจากใจจริง ทำได้เมื่อไหร่เจ้าจะฟื้น

    แล้วถ้าไม่สำเร็จล่ะ

    เจ้าก็จะอยู่อย่างนี้ไปจนสิ้นอายุไข แน่นอนว่าเจ้าจะไม่ฟื้น

    ท่านหมายถึงใครคนที่ฉันชอบ ไม่มี

    ก็จะไม่มีได้ไง วันนี้หนุ่มคนนั้นยังมาเยี่ยมเจ้าอยู่เลย

    ท่านหมายถึงคีย์ใช่ หรือไม่

    อ่า หนุ่มผู้นั้นหล่ะ ใช่เลย

    ท่านจะบ้าเรอะ  ฉันเกลียดเขามากๆ เกลียดที่สุด ไม่อยากได้ยินชื่อเขา โอ๊ย! ท่านเคยให้ใครนอกจากฉันทำปรารถนาอะไรนั่นมั๊ยเนี่ย

    ไม่สนๆ นั่นคือปรารถนาสุดท้ายก่อนที่เจ้าจะมาเป็นแบบนี้ แล้วคนที่ต้องทำอย่างนี้มีมากมายนัก หนักกว่าเจ้ายังมีเลย มันเป็นไปตามกฎ

    โอเคๆ ฉันจะทำมัน อย่างน้อยก็พอมีหวัง อย่างน้อยก็สื่อสารกับเขาได้ ภาษาเกาหลี ฉันพูดคล่องเลย

    ดีๆ งั้นก็เริ่มเลย อ้อข้าลืมๆ เอาขาเจ้าคืนไป เจ้าไม่ใช่ผีแต่เป็นดวงวิญญาณ(ขาของฉันงอกออกมาในทันที) เจ้าสามารถอยู่ที่นี่ได้อีกสามวัน หมายถึง เจ้าจะไปหาคนในครอบครัวได้เมื่อเขานึกถึงเจ้าเพียงสามวัน สามวันเท่านั้นและหลังจากนั้นเจ้าก็จะต้องไปทำตามปรารถนาเมื่อสำเร็จเจ้าจะได้กลับมาในทันที

    ท่านหมายถึงฉันจะฟื้นทันทีใช่มั๊ย

    ข้าไม่รู้ ข้ามีหน้าที่แค่ทำการตกลงกับเหล่าวิญญาณ เรื่องนั้นไม่ใช่หน้าที่ของข้า อ้อ! งั้นข้าบอกสิ่งที่เจ้าควรรู้ จงจำไว้ไม่มีใครสามารถเห็นเจ้าได้นอกจากหนุ่มผู้นั้น เจ้าสองคนสามารถแตะต้องตัวกันได้ เพียงชั่วโมงเดียวต่อวัน นี่คือเวลาปกติเมื่อเขายังไม่มีความรู้สึกชอบหรือรักใคร่กับเจ้า จำไว้ถ้าเขายิ่งชอบเจ้ามากเวลาก็ยิ่งเพิ่มมาก เมื่อเจ้าจะไปที่ใด ถ้าหนุ่มผู้นั้นนึกถึงเจ้า เจ้าจะถูกดึงกลับไปหาเขาทันทีจงจำไว้เจ้าไม่ใช่ผีเจ้าจะไม่เป็นอะไรเมื่อเจ้าถูกผ้ายันต์หรือเครื่องรางทั้งหลายทั้งปวง ในทางเดียวกันเจ้าจะทำร้ายใครไม่ได้ คุณสมบัติเจ้าคือสามารถหายตัวได้ ข้าขอเตือนอย่ารักหนุ่มนั่นเด็ดขาด

    คนอย่างนั้นน่ะไม่มีค่าพอให้ฉันไปรักหรอก แต่ทำไมต้องเตือนไว้ด้วยล่ะ

                    ถ้าเจ้ารักเขา เจ้าจะนึกไม่ออกเลยว่ามันจะจบอย่างไร เอาล่ะมีอะไรสงสัยก็ถามมา

    ระยะเวลาไม่กำหนดหรอ

    มีกำหนดอยู่แล้ว ถ้าเขารักเจ้ามากขึ้นเจ้าจะได้วันทำภารกิจเพิ่มอีกหนึ่งอาทิตย์ ถ้าเขารักเจ้ามาก มากขึ้นไป เวลาก็จะเพิ่มเป็นทวีคูณ แต่ถ้าเจ้ารักเขา เจ้าจะเสียวันทำภารกิจไปทีละหนึ่งอาทิตย์และถ้ามากขึ้น มากขึ้นเวลาจะลดเป็นทวีคูณในทุกๆด้าน

    ไม่มีทางหรอกท่าน ฉันไม่มีทางรักคนอย่างนั้นแน่นอน คนใจร้าย คนเลว!

    พอๆ จะพูดอะไรก็พูดไป เอาล่ะ จงไปใช้เวลาสามวันอยู่กับครอบครัวเจ้าให้คุ้มเถอะ ข้าจะกลับมาอีกสามวันข้างหน้า

    ไม่ต้องหรอก งานนี้สำเร็จอยู่แล้ว รอทำไมตั้งสามวัน ท่านพาฉันไปหาคีย์เลยเถอะเจ้าค่ะ รีบๆทำไป จะได้รีบกลับมาเร็วๆ

    ก็ได้ ตามเจ้าปรารถนา เจ้าจงหลับตาและตั้งสติดีๆล่ะ ข้าขอให้เจ้าทำปรารถนาของเจ้าสำเร็จ โชคดี

    ฉันค่อยๆหลับตาลงพลางตั้งสมาธิ ขอให้ฉันทำสำเร็จ ใช่  มันต้องสำเร็จ  สำเร็จและสำเร็จเพื่อครอบครัว เพื่อตัวเอง

     

    โอยยย หนาว จังเลย

    นี่ท่าน...ฉันลืมตาได้หรือยังเจ้าคะ”อยากลืมตาจังตอนนี้ลืมตาได้มั๊ยเนี่ย

    “....

     “ท่าน...ฉันลืมตาได้หรือยัง”แงๆ นานเกินไปแล้ว กลัวความมืดอ่ะ

    จะลืมตาแล้วนะ... >.O

    O.O!>>>O.O!

    OoO!!!>>>OoO!!!

    สายตาอันกลมโต ได้ทำมุมตกกระทบกับอกที่แสนจะเซ็กซี่ก่อนที่จะเงยหน้ามองเจ้าของอกที่หน้าตาหล่อเหลา แบบโฮกฮาก สายตาตกใจคู่นั้นสบตากับฉันอย่างหวั่นวิตก

    และแล้ว...

    “ผี OoO!!!”สำเนียงเสียงเกาหลี พูดออกมาจากหนุ่มหล่อโฮกข้างหน้า ก่อนที่ร่างนั้นจะผละออกห่างฉันและรีบวิ่งออกจากห้องแต่งตัว ฉันก้มมองเสื้อยืดสีขาวสะอาดที่ตกอยู่ ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาและออกจากห้องตามเขาไป เขาที่ฉันแน่ใจว่าคนนั้นคือ

    คีย์

    ฉันเปิดประตูออกไปได้เกือบครึ่งบานก็เห็นคีย์อยู่ตรงหน้า เหมือนกับว่าเขาจะเข้ามาดูให้แน่ใจอีกรอบ ทันทีที่เราสบตากันร่างสูงเปลือยท่อนบนนั้นสะบัดหน้าสะบัดตาแล้วมองอีกครั้งก่อนจะวิ่งอย่างว่องไวแต่ไร้ทิศทางทั้งๆที่ร่างกายท่อนบนไม่มีอะไรปกปิด หึๆ อย่างนี้มันต้องตาม

    “จะไปไหน คิม ฮวาคยอง ฉันเอาเสื้อมาให้”สีหน้าคีย์ตกใจสุดขีดเมื่อฉันมาปรากฏตัวดักไม่ให้เขาหนีได้อีก ความรู้สึกภูมิใจที่เป็นผู้ถือไพ่เหนือกว่าโลดแล่นเข้ามา ฉันปรายตามองคนตรงหน้าด้วยแววตาเฉยชา แต่ข้างในกลับร้อนรุ่มไปหมด ภาพคนตรงหน้าหล่อราวกับรูปสลัก สายตาคมสวยได้รูปรับกับจมูกโด่งๆบวกกับริมฝีปากเซ็กซี่น่าจุ๊ปมากๆ และผมดำสนิทเปียกน้ำหน่อยๆขลับกับผิวขาวๆทำให้ยิ่งดูเซ็กซี่เข้าไปใหญ่ อย่าให้พูดถึงซิกแพค

    โฮกกกกก Q.,Q  

    นายจะสวยไปทุกส่วนเลยใช่มั๊ย

    จู่ๆภาพตรงหน้าที่ฉัน(เผลอ)เพ่งมองอยู่ก็ค่อยๆ เข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ ตาที่แสนจะมีเสน่ห์จ้องมองนัยน์ตาฉัน ไม่จริงน่า เขากำลังจะจูบฉันเหรอ ริมฝีปากสวยได้รูปใกล้เข้ามาทุกที ทุกอย่างเริ่มพล่ามัว และกลายเป็นมืดสนิท(ใช่แล้วทุกคน ฉันหลับตา)

    อ๊างงง เขิล

    เมื่อไหร่จะ...สักทีนะ >.<

    นานไปมั๊ยเนี่ย...

    ฉันที่แค่จะหรี่ตามองกลับก็ต้องเบิกตากว้างทันที

    อ้าว หายปายหนายอ่า

    อะ ไอ้บ้า!!!

    ยังไม่ทันตั้งตัวก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาดึงฉันให้ไปที่อีกที่หนึ่ง โอย มึนอ่า ฉันค่อยๆประคองตัวเองไม่ให้เซ เงยหน้ามองตรงออกไปก็เจอคีย์ยืนตัวสั่นหลบมุมอยู่ซอกกำแพงบริเวณระเบียงในคอนโดของเขาเอง  คงเป็นกฎที่ว่าเมื่อเขานึกถึงฉัน ฉันก็จะมาหาทันทีสินะ 

    ฉันเอื้อมมือไปจับไหล่คีย์และจิ๊กเบาๆที่ไหล่นั้น เขาหันหน้าไปมองที่ไหล่ของตัวเอง และบัดมือฉันออกไป

    “อย่าเข้ามา กลัวแล้วๆ”เขาหลับตาพริ้มตัวสั่น ท่าทางจะกลัวผีมากเลยนะ น่ารักอ่ะ คิกๆ อ๊าย!!! นี่ฉันคิดอะไร ที่จริงเราเกลียดเขาต่างหาก

    “บอกรัก ฉันมาเดี๋ยวนี้”

    “อะไรของเธอเนี่ย”คีย์ตอบโดยที่ยังไม่ลืมตา

    “บอกแค่ว่า ฉันรักเธอ แค่นั้นฉันก็จะไม่มาหลอกหลอนนายอีกต่อไป จะไม่มาเจอนายอีกเลย ฮึๆ บอกสิ”ฉันว่าพลางลูบไล้ไปมาที่ไหล่อันสั่นเทาของเขา ป๊าดด อะไรจะง่ายขนาดนี้

    ฉันรักเธอ ฉันรักเธอ ฉันรักเธอๆๆ!!!!”

    เย้!! ภารกิจสำเร็จ

    ฉันรีบหลับตาทันที กางแขนราวกับว่าจะรับรางวัลแห่งความสำเร็จ

    ฉันพร้อมแล้วพร้อมที่จะกลับไปหาพ่อแม่แล้ว มันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากซะอีก แหมๆ โลกนี้มันชั่งน่าอยู่จริงๆ

    ฉันรู้สึกถึงสายลมเย็นๆที่จะนำพาร่างกายล่องลอยไป เย่!

    ฉันรู้สึกถึงแสงสว่างที่ส่องทางชีวิต ย้าฮู!!

    ฉันรู้สึกถึงความสำเร็จ วะฮะฮ่า!!!

     “ทำไมเธอยังไม่ไปอีก”เสียงคีย์ทำให้ลืมตาอย่างอัตโนมัติ สายตามองตรงไปก็เจอชายคนเดิมที่นั่งกลัวจนตัวสั่น

    “แง้ง ทำไมฉันยังไม่ไปเนี่ย โฮๆ TTOTT…”โลกนี้มันชั่งไม่ยุติธรรม  

    “ขอร้องนะ อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย ฉันกลัวแล้ว”เจ้าตัวก็นั่งตัวสั่นเหมือนเดิม เสียงนั่นจะร้องไห้เรอะ ฉันล่ะเหนื่อยใจจริงๆ

    “นี่ ผู้ชายอะไรกลัวผี อุบาทว์สิ้นดี”

    “ไปสักทีสิ”คีย์พูดพร้อมกับตาที่กลับมาปิดสนิทอีกครั้ง ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ อ๊ากกก!

    “ไปได้ฉันไปแล้ว”

    “อะไรนะ!”คีย์ลืมตามองฉันอย่างลืมตัว

    “อย่าให้ฉันย้ำ งงเหมือนกันว้อย!”

    “...”

    “ทำไม ทำไมถึงไม่ได้ผล ก็บอกว่าถ้าคีย์บอกรักฉันจากใจจริง ภารกิจก็จะสำเร็จ”

    “...”

    “เดี๋ยวก่อน...บอกรักจากใจจริง  บอกรักจากใจจริง”

    “....”

    “นี่กวนประสาทฉันหรอ! ต้องบอกรักฉันจากใจจริงสิ”ฉันชี้นิ้วไปที่เขา ทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งเฮือก แต่หลังจากนั้นสีหน้าเบื่อโลกก็แสดงออกมาให้ฉันเห็น

    “โอ๊ย! ยัยผีโก๊ะ ก็ฉันไม่ได้รักเธอนี่”

    “แงๆๆๆ”มันยากกว่าปอกกล้วยเข้าปากเยอะเลยอ่ะ ร่างกายฉันเริ่มอ่อนยวบยาบ จนต้องทิ้งตัวนั่งระทมอยู่บนพื้น จนปัญญา ทำไงดีง่า เครียด

    “เธอหน้าคุ้นๆ นะ”

    “เพิ่งสังเกต สินะ”ฉันว่าพลางเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนถาม

    “...”

    “นายเพิ่งเจอกับฉันไปเมื่อวานนี้ บนเตียง...”

    “บ้าเรอะ ฉันไม่เคยนอนกับผี”คีย์โต้กลับทันควัน

    “ยังไม่จบ!! บนเตียงผู้ป่วย...ในไทย”

    “...(อึ้ง)”

    “ฉัน...คนที่นอนเป็นเจ้าหญิงนิทราเพราะฉากในคอนเสิร์ตของนายมันไม่ได้เรื่องยังล่ะ”

    “...”

    “แต่ทำไมคนทั่วไปถึงเข้าใจกันว่าฉันโรคหัวใจกำเริบล่ะ พวกนายคงจะมีอะไรตอบแทนพ่อ แม่ฉันล่ะสิ ท่านถึงได้ไม่เอาเรื่อง”

    “เขารับผิดชอบค่ารักษาให้”คีย์หลบตาก่อนที่เสียงเบาๆลอดออกมาจากริมฝีปากเขา  

    “นี่ๆ พูดให้มันชัดถ้อยชัดคำหน่อย จะลองภูมิกันหรือไง”ฉันค้อนใส่ เสียงก็ได้ยินอยู่หรอกแต่ เล่นพึมพำขนาดนี้ ฉันไม่ใช่เจ้าของภาษานะ คีย์หันมาสบตากับฉันอีกครั้ง

    “นี่ๆ เธอน่ะ ยิ่งกว่าฉันอีก เสียงเหน่อแล้วยังพูดไม่ได้ภาษา ฉันฟังรู้เรื่องก็บุญแล้ว”ว้อย  ไอ้บ้า!!

    “นายจำเป็นต้องฟังฉัน เพราะนายทำให้ฉันต้องมาที่นี่ เพราะนายทำให้ฉันต้องเป็นอย่างนี้ เรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นกับฉันมันเพราะนาย เพราะนายทั้งหมด ”

    “ฉันไปเกี่ยวอะไรกับเธอ”

    “กล้าเถียงกันขนาดนี้ ไม่กลัวฉันเลยใช่มั๊ย”

    “ผีโก๊ะอย่างเธอ ฉันจะกลัวทำไม”เขาว่าก่อนจะหยุดคิด “ไม่ใช่สิ ก็เพราะฉันรักเธอ รักเธอมาก ฉันจะกลัวทำไม”ไอ้บ้าแต่แอบเขินแฮะ ฉันลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับคีย์ เชยคางนิดหน่อยเพื่อความหยิ่ง กระแอมไอหน่อยๆเพื่อวอร์มเสียง(?)

    “ฉันขอประกาศไว้ ณ ที่นี้พร้อมวิวทิวทัศน์อันสวยงามเป็นพยาน ฉันจะไม่ไปจากนายเด็ดขาดเราจะตัวติดกันจนกว่านายจะรักและบอกรักฉันจากใจจริงขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ค่ะ” น้ำเสียงหนักแน่นที่ออกมาจากปอดอันทรงพลังกล่าวพลางถอนสายบัวอย่างงดงาม

    “เหอะ! ประสาท”

    เขาแค่นหัวเราะ หึๆ หัวเราะไปเถอะ แต่หลังจากนี้นายไม่เป็นสุขแน่ 














     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×