คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : You're my KEY!!! ฉันจะกินตับนาย!!!
ทำไมมันใช้ไม่ได้นะ
ฉันนั่งอยู่ที่โซฟาโซนรับแขก กับคีย์ที่นังอ่านหนังสือเงียบๆอีกฟากหนึ่ง สายตาฉันมองไปยังจอโทรทัศน์ตรงหน้าสลับกับใบหน้าหล่อน่ารักของคีย์ ใจก็พลันคิดไปถึงเรื่องเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว
ถ้าเสื้อผ้าใช้ไม่ได้
ของที่ซื้อมาทั้งหมดก็ใช้ไม่ได้น่ะสิ
แล้วทำไมทานข้าวยังทานได้ล่ะ
“คีย์ หยิบเสื้อผ้ามาให้ฉันชุดนึงสิ”ว่าเสร็จคีย์ก็หันหน้ามาทางฉันพลางมองไล่ลงมายังร่างกายฉัน
“เธออยากโป๊อีกหรือไงยัยผีโก๊ะ”
“ไปเอามาน่า อย่าเรื่องมากได้มั๊ย”
“ฟู่ว์”คีย์พ่นลมหายใจออกมาแรงๆก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องนอนโดยไม่ลืมคั่นหนังสือในมือแล้ววางอย่างเบามือบนแขนโซฟา
ความอยากรู้คืบคลานเข้ามาเมื่อเขาจากไป ฉันเอื้อมมือไปหยิบหนังสือเล่มไม่เล็กไม่ใหญ่มาวางบนมือแต่มันก็ทะลุผ่านตัวออกไป เมื่อหยิบไม่ได้จึงย้ายร่างตัวเองไปข้างๆหนังสือ พลางไล่สายตามอง แค่ดูเพียงหน้าปกก็ทำเอาอยากจะโยนไอหนังสือบ้าบอนี่ออกไป
หนังสือจิตวิทยา...ศาสตร์ที่ฉันไม่เคยคิดจะสนใจมันสักนิด
คีย์ชอบอ่านหนังสือแนวนี้จริงๆน่ะหรอ แต่เอาจริงๆถ้าอ่านหนังสือพวกนี้บ่อยก็ไม่น่าจะนิสัยเสียแต่เขานี่คงเป็นพวกนิสัยเสียจนขุนไม่ขึ้นแล้วล่ะมั๊ง หนังสือแบบนี้มาอยู่กับคนแบบนี้ฉันล่ะสงสารคนเขียนจริงๆ
ได้แต่คิดเองเออเองจนกระทั่งเสียงประตูเปิดดังขึ้นพร้อมกับผ้าที่ลอยมาจากด้านหลัง เป็นเสื้อยืดกับกางเกงขาสั่นล่องหนผ่านตัวฉันลงมายังตำแหน่งที่ซ้อนทับกับบั้นท้ายของฉันพอดีเป๊ะ ฉันยันร่างตัวเองขึ้นมามองเสื้อผ้าสองชิ้นที่คีย์เพิ่งนำมาให้
“อ่ะเอาไป”
ร่างสูงที่อยู่ด้านหลังโซฟาพูดขึ้น ฉันเงยหน้ามองคีย์ที่อยู่ห่างกันแค่หนึ่งแขน ฉันเอื้อมมือไปยังคีย์อีกครั้งเพื่อยืนยันโหมดล่องหนของตนเอง มือเรียวฉันยุบเข้าไปในตัวคีย์อย่างที่คาดคิดไว้
ร่างกายฉันกำลังอยู่ในโหมดล่องหนเป็นที่แน่นอนแล้ว
พิสูจน์เสร็จก็เอื้อมมือลงไปหยิบเสื้อยืดตัวบางที่นอนแผ่หลาอยู่บนโซฟา เสื้อยืดนั้นติดมือฉันขึ้นมา ความตื่นเต้นแล่นพล่านไปทั่วร่างกาย ฉันก้มลงไปมองยังโซฟาอีกครั้ง เสื้อยืดที่อยู่ในมือฉันก็ยังอยู่ที่โซฟาเหมือนเดิมโดยตัวในมือของฉันสีซีดกว่า เป็นเหมือนกล่องอาหารกลางวันในสตูดิโอไม่มีผิด
เย้! มันใช้ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ
ฉันจัดการหยิบกางเกงขาสั้นอีกตัวมาอย่างไม่ลังเลพลันวิ่งจู๊ดเข้าไปเปลี่ยนชุดทันที
คนตัวสูงมองการกระทำของยัยผีโก๊ะ ร่างเล็กยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองเสื้อยืดในมือพลางพลิกไปพลิกมาอย่างชอบใจ เสียงหลุดขำดังบ้างในบางช่วงก่อนจะวิ่งหายวับทะลุกำแพงห้องเข้าไป
“ประตูก็อยู่ห่างกันนิดเดียว ดีใจจนทะลุกำแพงไปเลยเหรอ”
ยอมรับว่าบางครั้งก็เขากลัวยัยผีนั่น แต่ผีบ๊องๆหลุดๆแบบนี้จะมีอะไรให้น่ากลัวกันเล่า การกระทำของร่างเล็กก็อดยอมรับไม่ได้ว่าเอาทำให้ร่างสูงคนนี้ลอบยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เมื่อร่างเล็กหายวับเข้าไปคีย์ก็จัดการย้ายร่างตนเองมานั่งอ่านหนังสือเล่มเดิมอีกครั้ง
ไม่สิ ยังอ่านไม่ได้
ของที่ซื้อมายังไม่ได้จัดเลย
ดวงตาเรียวกระพริบตาถี่ยิบ แสงแดดอ่อนๆจากภายนอกทำให้เห็นวิวของกรุงโซลยามเช้ามันดูสว่างสดใส เหมือนอารมณ์ฉันไม่มีผิด
คิกๆ
“เช้าแล้ว”
ฉันพึมพำกับตัวเองด้วยความตื่นเต้นพลางยืดตัวบิดขี้เกียจก่อนจะดีดตัวเองออกมาจากห้องนอนคีย์ ฉันเปิดประตูออกมาเงียบๆเดินย่องเพราะไม่อยากให้ร่างสูงที่นอนขดตัวอยู่ที่โซฟารู้สึกตัว มือเรียวคว้าสมุดใกล้มือมาถือพร้อมกับหย่อนตัวลงไปนั่งใกล้ๆคีย์
ฉันยกยิ้มรู้สึกพอใจในระดับหนึ่งเมื่อมองใบหน้ายามนิทราของคนใกล้ตัว หลับตาพริ้มเชียว เขาเป็นเทพบุตรรึเปล่าเนี่ยถึงได้หล่อไปหมดไม่เว้นแม้กระทั่งตอนนอนอย่างนี้
วันนี้อากาศดี ไม่แปลกเลยที่ร่างสูงจะเข้าสู่ห้วงนิทราพร้อมรอยยิ้มละมุน
ฉันยกยิ้มอีกครั้งอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือคีย์พร้อมกับสอดปากกาด้ามสวยลงไปที่นิ้วเรียวสวยเกินชายของร่างหลับใหล
มือของฉันอีกข้างก็เอื้อมไปหยิบหนังสือมาวางไว้บนหน้าท้องคีย์ ฉันจับมือคีย์แน่นๆเพื่อให้เจ้าตัวกุมปากกาแน่นๆแล้วจัดการจรดปลายปากกาลงในสมุดอย่างทุลักทุเล
เอ้า ฮึบ!
แทบกลั้นหายใจเขียน ทำไมมือเขาหนักจัง
อื้อๆ
เสียงทุ้มครางในลำคอดังมาเบาๆ ก่อนจะลากมือพร้อมปากกานั้นเอื้อมไปถกเสื้อตนเองขึ้นมาจนเห็นซิคแพคอ่อนๆ สมุดจดได้ปะทะเข้ากับหน้าฉันจังๆ ฉันได้แต่ปัดมันลงไปข้างล่างอย่างลวกๆ พลางจ้องมือพร้อมปากกาของร่างนิทราที่กำลังเกาหน้าท้องตัวเองแต่ไม่ใช่แค่มือตนจะโดนหน้าท้องเท่านั้น ปากกาสีเข้มก็กำลังละเลงเป็นวงน้อยใหญ่ บางรอยเหมือนกับกำลังขีดเน้นสัดส่วนผู้ชายให้ชัดขึ้น
อ๊าย! อกอีแป้นจะแตก!
แล้วทำไมฉันต้องไปจ้องมันด้วยนะ
อย่าไปจ้องสิ!
บอกว่าอย่าไง!!!
ราวกับคนบ้าไม่มีผิดคิดได้ดังนั้นก็ตบเบาๆเข้าที่ตำแหน่งดวงตาของตัวเองซ้ำไปซ้ำมาก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบสมุดจดขึ้นมาวางทับซิคแพค
ไหนๆ ห้ามมองมันไม่ได้ก็ปิดมันซะเลย
ตอนนี้มือคีย์กับปากกานั้นอยู่คนละตำแหน่งซะแล้วและมือข้างนั้นคีย์ก็เอาไปพาดหน้าผากกันแสงแดดซะงั้น ฉันจึงคว้ามือคีย์อีกข้างขึ้นมาเขียนแทน
ข้างนี้ไม่ถนัดเลยง่ะ คิดได้ดังนั้นก็จัดท่าให่ง่ายต่อการเขียนมากขึ้น ฉันอ้อมมือคีย์มาโอบตัวฉันโดยที่แขนฉันหนีบแขนคีย์ไว้เบาๆและจัดการเขียนตามเดิม
เออ สะดวกกว่าเยอะเลย
เอ้า ฮึบๆ
ปลายปากกาจรดลงบนสมุดไปเรื่อยๆ ตัวอักษรภาษาเกาหลีบ้าง อังกฤษบ้างร้อยเรียงกันอย่างทุลักทุเล
ทำไมฉันต้องทำอย่างนี้น่ะหรอ
ถ้าฉันเขียนเองแล้วหมดเวลาปรากฎตัว กระดาษนี่ก็จะไร้รายลักษณ์อักษรที่ต้องการให้มันอยู่ยงคงกระพันน่ะสิ
เย้! เสร็จแล้ว!!
ฉันยกยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง มองดูผลงานตัวเอง
เฮ้อ กว่าจะเสร็จนี่นานเลย
“อื้อ”เสียงคีย์ดังออกมาอีกแล้ว สายตาฉันละจากกระดาษทันทีหันไปยังคีย์ทีตอนนี้ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
ถ้าเป็นแต่ก่อนฉันคงละลายแล้ว
ฮึ! แต่ตอนนี้น่ะหรอ
มันยิ่งกว่าละลายอีก
อ๊ากกกก!! น่ารักเว่อร์♥♥♥
จู่ๆแขนเกร่งที่โอบรอบฉันอยู่ก็เลื่อนลงไปโอบรัดแน่นที่เอว ฉันมองใบหน้าหลับแต้มรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อีกครั้ง ก่อนที่มืออีกข้างจะช้อนตัวฉันขึ้นมานอนทับคีย์ตามที่เขาตั้งใจไว้
ยังไม่ทันได้ตั้งตัวคีย์ก็กดตัวฉันลงไปอีกจนตัวเราสองคนแทบจะแนบกันเป็นเนื้อเดียวพร้อมกับสัมผัสอุ่นร้อนทาบลงมายังลำคอฉันจนทำให้ต้องเอี้ยวหลบ รู้สึกตัวเองร้อนวาบไปทั้งหน้า พลางมองรอยยิ้มคนเจ้าเล่ห์ที่หลับตาพริ้ม
อร๊าย!! มองใกล้ๆแบบนี้ขอตายแปบ
สายตาเหยี่ยวคมกริบที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์หลับพริ้ม พร้อมกับเรียวปากที่อมยิ้มยิ่งดันแก้มให้ดูน่ารักขึ้นไปอีกเท่าตัว นี่ถ้าเป็นคนอื่นคงอดไม่ได้ที่จะขโมยหอมแก้มซักฟอดสองฟอดแล้ว
แต่ฉันน่ะหรอ...ฉัน...
“โซฮีอ่า”เสียงออดอ้อนถึงบุคคลที่สามทำให้ฉันดันร่างคีย์และยันตัวเองออกมาอย่างแรง
ฉันเกลียดเขา!!!!!
ผู้ชายอะไรบ้าผู้หญิงสิ้นดี
ฉันมองคีย์ตาขวาง เจ้าตัวเองก็ตกใจไม่หยอกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สายตาเหยี่ยวมองมาทางฉันอย่างคาดโทษ
“ฉันเกลียดนาย”
ฉันว่าพลางหยิบปากกาที่ตกอยู่บนพื้นพร้อมกับสมุดเมื่อครู่ จัดการแบสมุดออกเผยให้เห็นตัวอักษรบิดๆเบี้ยวๆในนั้น ก่อนจะยัดปากกาลงไปในมือคีย์แล้วจัดมันเขียนเป็นตัวอักษรใหญ่ๆ!! ติดดาวเน้นไว้สามดวง
‘***ห้ามมองฉันเป็นโซฮี!!!’
เขียนเสร็จก็ไม่ลืมสะบัดมือคีย์ให้ออกห่างตัว ทิ้งสมุดที่ยังกางอยู่เผยให้เห็นอักษรบนเนื้อกระดาษบนหน้าท้องคีย์อย่างไม่คิดจะหยิบติดมือมา คีย์ลอบมองมันเล็กน้อยก่อนจะหันมาสบตากับฉันตามเดิม
“ห้ามฝ่าฝืนด้วยล่ะ ไม่งั้นฉันจะกินตับนาย!!!”ว่าพลางชี้มือไปลูบบริเวณหน้าท้องคีย์พร้อมกับกระตุกมือทะลุเข้าไปราวกับจะล้วงตับเขาออกมาได้จริงๆ คีย์สะดุ้งเล็กน้อยพร้อมดีดตัวออกจากโซฟานั้นโดยเร็วทำให้หมอนอิงหรือแม้กระทั้งสัญญาร่างนั้นร่วงลงพื้นหมด ฉันค้อนใส่คีย์ที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลอีกรอบแล้วจึงทิ้งท้ายส่งๆด้วยอารมณ์หงุดหงิดก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาแทนที่คนเพิ่งตื่นจากการหลับใหล
“ฉันให้เวลาห้านาที ไปเตรียมเสื้อผ้ามาให้ฉัน...ด่วนเลย”ว่าจบก็โยนสมุดร่างกฎที่เพิ่งก้มเก็บไปให้คีย์เบาๆ
กฎห้ามคัดค้าน!
1.Cook for me…ทุกวัน อ๊ะ...กินข้าวพร้อมกันด้วย
2.เตรียมเสื้อผ้าให้ฉัน...ทุกวัน
3.ดูหนังด้วยกันอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง
4.นอนจับมือกับฉันทุกวัน
5.จะไปไหนต้องบอกกัน
6.ห้ามคุยกับผู้หญิงคนไหนเกินสิบนาที(ฝ่าฝืนกฏ จับกินตับ!)
7.บอกรักฉันทุกวันวันละสิบครั้งก่อนนอน
8.ห้ามทิ้งฉันไปหาคนอื่น
9..............................................
ปล.กฎจะเพิ่มตามอัตราเสี่ยงทางจิตใจของคิมฮวาคยองชี่ และตามฟีลลิ่งของฉัน ห้ามขัดขืนเด็ดขาด เข้าใจมั๊ย!! อ้อ ห้ามเรียกฉันว่า ยัยผี ยัยผีโก๊ะก็ห้ามด้วยนะ แล้วไม่ต้องสงสัยนะว่าข้อเก้าทำไมมันมีแต่จุดๆๆๆ ขอให้โชคดี ^+++^
***ห้ามมองฉันเป็นโซฮี!!!
555555555 ติดตามไรท์กันต่อไปนะ ขอบคุณรีดที่เข้ามาอ่านมากเลย จุ๊ฟทีๆ -3-
สปอยๆ
(กรี๊ด!!!!!!!!)
“กรี๊ดดดดดด!!!!!”
“นั่นมันเสียงโทรทัศน์ยัยโง่! เธออยากกลับไปมือเปล่าหรือไงนะ”คราวนี้เป็นยัยร่างอวบเอ็ดเสียงเบาให้บ้าง พร้อมมือตบหน้าผากยัยหัวฟู่ไปเต็มแรง
ความคิดเห็น