ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You're my Key!!!

    ลำดับตอนที่ #9 : You're my KEY!!! โล่งอกไปที

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 57


    9

    “นี่ๆ อันนี้เราเอากลับไปด้วยดีมั๊ย”

    “ได้ๆ ดีเลย แล้วอันนี้ล่ะ”เย็นมากแล้วเจ้าหล่อนก็ยังไม่กลับ

    ฉันกลับไปนั่งยังโซฟาดังเดิม เหลียวมองยัยซาแซงแฟนเป็นบางครั้งบางครา พวกเธอกำลังม่วนอยู่กับการขโมยข้าวของของคีย์

    ใช่ ได้ยินกันไม่ผิดหรอก

    ฉันตกใจจนเลยจุดพีคมาแล้วทุกคน =.=

    ยัยซาแซงตัวแสบพวกนั้นกำลังคัดสรรเลือกข้าวของที่อยากได้กันอยู่ จากที่ฉันสังเกตุเห็น ถ้ายัยพวกนั้นยกคอนโดไปได้ก็คงทำไปแล้ว

    เมื่อไหร่คีย์จะกลับมานะ...

    สายตาฉันเหลือบมองยังซาแซงพวกนั้น ก่อนที่สายตาจะเบิกกว้างเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อเห็นว่าของสิ่งที่ยัยพวกนั้นถืออยู่ในมือคือ!!

     

     

    สมุดสัญญา!!!

     

    สมุดสัญญา!!!

    ยัยบ้าหยิบอะไรไม่หยิบ ของนั้นมันสำคัญมากนะว้อยย!!!

    ฉันที่นำตัวเองมายืนอยู่ร่วมกับยัยพวกนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เพ่งสายตามองไปยังสมุดขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ที่ยังไม่ได้ถูกเผยให้เห็นอักษรด้านใน แต่ขอโทษทีเห็นแค่นี้แขนขาฉันก็แทบจะหยุดสั่นไม่ได้ ถ้าพวกซาแซงแฟนเห็นข้อความในสมุดนี้ล่ะก็ คีย์ต้องแย่แน่ๆเลย

    อ๊ะ! ฉันไม่ได้เป็นห่วงเขานะ

    ฉันเกลียดเขาจะตาย

    แงๆๆ ถ้าเกิดยัยพวกนั้นมาเห็นจริงๆล่ะก็

    เดือดร้อนแน่เลย

    ทำไงดีๆ

    ออต๊กแคๆๆ

    ได้แต่มองสมุดสัญญาอยู่อย่างนั้น อยากจะเข้าไปทำอะไรสักอย่างแต่มันเป็นไปไม่ได้เลย

    จู่ๆแรงโน้มถ่วงที่เริ่มเพิ่มขึ้นมาทำให้ฉันใจชื้นขึ้นมาบ้าง

    คีย์กำลังคิดถึงฉัน

    ดีล่ะจะได้บอกเรื่องนี้ให้เขาจัดการเอง

    ฉันจัดการหลับตาลงก่อนจะลืมตาขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังนั่งบนเบาะนิ่มๆภายในรถของคีย์ ภาพตรงหน้าเป็นลานจอดรถฉันจึงหันหน้าไปด้านข้างเพื่อจะคุยกับคีย์ด้วยอาการร้อนรน

    “คะ...”

    ภาพตรงหน้าฉายให้เห็นคนที่ฉันกำลังจะเอ่ยชื่อกับแฟนสาว โซฮี

    เขาจูบกัน...

    ฉันนั่งอยู่ในตำแหน่งเดียวกับโซฮีเพียงแต่เธอเอี้ยวตัวไปพลอดรักกับแฟนหนุ่มที่หลับตาสนิทปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกรับเพียงสัมผัสที่ร้อนรุ่มจากโซฮี

    ถ้าจะเคลิ้มกันขนาดนั้นไม่ไปจองโรงแรมมันซะเลยล่ะ

    แทนที่ฉันจะเบนสายตาไปทางอื่นแต่ร่างกายกลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น ฉันยังคงจ้องต่อไปจนกระทั่งร่างสูงเปิดเปลือกตาขึ้นมาประสานกับดวงตาฉันพอดี เมื่อเห็นดังนั้นสายตาฉันก็เบนหลบไปแทบจะทันทีพลางปิดเปลือกตาให้สนิทที่สุดปิดกั้นตัวเองจากภาพที่เพิ่งเห็นไปเมื่อครู่

    ทำไมนะทำไม...ภาพยังฉายชัดถึงแม้จะหลับตาแล้วก็ตาม

    “ออกไป”คีย์ว่า

    “โอป้า”โซฮีพูดน้ำเสียงสั่น เธอเข้าใจผิดแล้วแหละ เขากำลังพูดกับฉันต่างหาก

    “โซฮี ออกไปก่อนได้มั๊ย พี่มีเรื่องต้องสะสางนิดหน่อย”

    “...”ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับแต่กลายเป็นเสียงเปิดปิดประตูรถออกไปแทนพร้อมกับเสียงรองเท้าส้นสูงดังลอดเข้ามาแม้จะปิดประตูแล้วก็ตาม

    แน่นอนว่าเธอต้องโกรธ

    ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจหนักๆของคีย์กับเสียงเครื่องปรับอากาศ ความเงียบปกคลุมพวกเราทั้งคู่ก่อนที่ฉันจะนึกเรื่องที่ต้องทำเมื่อเจอเขา ความร้อนรนในตอนแรกได้หวนกลับคืนมาอีกครั้งถึงแม้จะทำมันอย่างเสแสร้งก็ตาม

    ก็ฉันมัน คนไม่สำคัญ นี่

    ถึงอยากพูดเรื่องเมื่อครู่ให้ตายเขาก็ไม่ฟังหรอก   

    “คีย์ ซาแซงแฟนเข้าคอนโดนายนะ”

    “...”

    “ยัยพวกนั้นขโมยสมุดสัญญาของเราสองคนไปด้วย”

    “...” 

    “คีย์อ่า”

    .

    .

    .

    “ออกไปจากฉันชีวิตที”

    “...”

    “...”

    “...”

    คีย์ว่าไม่แม้แต่จะมองหน้าฉันด้วยซ้ำ ฉันมองภาพด้านข้างของคนตรงหน้าที่ดูเย็นชาเหลือเกินก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ามันกำลังจะเคลื่อนไปยังเบื้องหน้า ฉันหลับตาอีกครั้งเมื่อคีย์เร่งความเร็วรถขึ้นตอนเราออกมาจากลานจอดรถ

    ไม่มีการสนทนาเกิดขึ้นระหว่างทาง เสียงเร่งเครื่องยนต์ทำให้รู้ว่ารถคันนี้มุ่งไปยังข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ฉันได้แต่เบนหน้าออกไปอีกทางและหลับตาพลางควบคุมอารมณ์ไปในเวลาเดียวกัน

    เวลาอันน่าอึดอัดได้จบลงเมื่อคนข้างๆเปิดประตูรถออก ฉันค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

     

    โรงพยาบาล

    ฉันเบิกตากว้างทันที ถึงจะดูเป็นสถานอนามัยเล็กๆมีผู้คนไม่มากแต่มันไม่ดีแน่ๆถ้าคนพวกนั้นจะเห็นคีย์ในเวลานี้

    ฉันรู้ดีว่าเขากำลังจะไปทำอะไรและฉันไม่เคยเดาผิด

    ฉันเดินทะลุประตูรถออกมาก่อนจะวิ่งไปดักหน้าคนที่เดินดุ่มๆเข้าไปยังโรงพยาบาล

    “คีย์!”

    “...”ร่างสูงไม่สนใจซ้ำยังเดินทะลุผ่านร่างฉันไป

    “ฉันรู้ว่านายจะทำอะไรนะ เรามาคุยกันก่อนเถอะ”ฉันว่าไปเดินตามหลังคีย์ไป

    “ฉันเครียดเกินไป มันคือภาพหลอน”

    “มันเป็นเรื่องจริงเข้าใจมั๊ย หยุดก่อนสิ!!

    “อย่ามายุ่งกับฉัน”คีย์เผลอพูดเสียงดังกว่าเดิมก่อนจะฉุกคิดได้แล้วเหลือบมองผู้คนขนาดย่อมที่จ้องมองมายังเขาอย่างฉงน

    ก็ยังดี ไม่มีกลุ่มวัยรุ่นแถวนี้

    ฉันมองกลุ่มคนพวกนั้นตามคีย์ก่อนจะหันหน้ากลับไปเห็นคนตัวสูงเดินนำลิ่วไปไกลพอสมควร

     

    แฮ่กๆ

    วิ่งตามจนไปหยุดอยู่ที่สวนขนาดเล็กทางด้านหลังของโรงพยาบาล

    “ไหน มีอะไรจะพูด”คีย์หันหน้ามาเผชิญกับฉันอีกครั้งทว่าสายตาที่มองมามันทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออกเลย

    “...”

    “ว่ามาสิ”

    “...”

    “งั้นฉันพูดเอง”

    “...”

    “เพราะเธอฉันถึงต้องมีปัญหากับโซฮี”

    “...”

    “เธอรู้มั๊ย ตลอดเวลาที่เธอมา ฉัน โคตรไม่มีความสุขเลย”

    “...”

    “ชีวิตฉันมันกำลังจะพังแล้ว เธอจะรับผิดชอบยังไง!

    “แล้วชีวิตที่พังไปแล้วของฉันล่ะ นายจะรับผิดชอบยังไง!!”ฉันว่าออกมาอย่างเหลืออดหลังจากที่ฟังคำทำร้ายจิตใจของคนตรงหน้า มือที่วางอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะยกขึ้นมาทุบลงที่อกหนานั้น ขบกรามแน่นกล้ำกลืนน้ำตาสีใสไว้ไม่ให้ไหลเอ่อล้นออกมา

    “...”

    “ฉันก็โคตรไม่มีความสุขเหมือนกัน ไอ้คนเฮงซวย!”ว่าไปพลางทุบหน้าอกไปพลาง

    “...”

    “นายทั้งทิ้งฉัน”

    “...”

    “รู้ทั้งรู้ฉันไม่มีที่ไป...ทั้งที่รู้”

    “...”

    “แต่ก็ยังไป”

     

    ร่างสูงรวบมือซ้ายของฉันแล้วจับมันหงายขึ้นดู ข้อมือที่หงายนั้นปรากฏแถบสีดำสนิทเป็นทางยาวไม่มากนัก แต่แถบนั้นเริ่มลดลงเรื่อยๆทำเอาแขนขาฉันทรุดจนคนที่จับข้อมืออยู่ต้องเปลี่ยนเป็นประคองร่างฉันแทน

    อย่าบอกนะว่าเป็นเวลาทำภารกิจ

    มันเหลืออีกไม่ถึงสองนาทีด้วยซ้ำ

    ไม่นะ

    “ช่วยฉันด้วย ชีวิตฉันกำลังจะพังจริงๆแล้ว”ว่าพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรื้นขึ้นมา

    กลัวว่าตนเองจะหายไป

    กลัวการดับสูญ

    ความรู้สึกกระวนกระวายมากขึ้นเป็นทวีคูณเมื่อเห็นแถบสีดำนั้นลดลงเรื่อยๆ ฉันเริ่มหายใจติดขัด มือไม้ที่สั่นกว่าเดิม ทำเอาตัวเองและคนประคองลงไปกองกับพื้นหญ้าโดยปริยาย

    “ฮือๆ ช่วยฉันด้วย ช่วยด้วย”ว่าทั้งที่น้ำตานองหน้าพลันโยนตัวเข้าไปสวมกอดคีย์ ซุกใบหน้าลงไปที่ไหล่พลางมองเวลาที่เหลือไม่ถึงครึ่งนาทีพลันรัดอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก

    “...”

    “รักฉันเถอะนะ ช่วยด้วย ฮือๆ”ความกลัวกัดกร่อนจิตใจจนไร้ซึ่งสติ ร่างกายสั่นจนอีกคนต้องยกมือขึ้นมาโอบตอบ

    “...”

    “ฮือๆ ช่วยฉันด้วย ฉันกลัว”

    เหลืออีกไม่ถึงสิบวินาที

    “ฉัน ฮึก..กลัว”

                    คนแขนแกร่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นตามแรงกอดของฉัน

    อีก 5 วินาที

    “เขาบอกว่าถ้านายไม่รักฉัน ฉันจะต้องตาย ฮือๆ”

    อีก 4…

    “ช่วยด้วย”

     

    อีก 3…

                    “ฮึก ฮือๆ”

     

    2…

    “อย่า...ฮึก..ทิ้งฉัน ช่วยด้วย...ฮือๆ”

     

    1…

     

    “ไม่เป็นไรนะ”คีย์ว่า

     

    แถบสีดำที่แทบจะมองไม่เห็นทำให้ฉันหลับตาปี๋แทบจะทันที กอดคนตัวสูงพลางกดจมูกลงไปที่ไหล่กว้าง ไออุ่นจากลำคอคีย์แผ่มายังลำคอฉันพร้อมกับน้ำเสียงอ่อนโยนนั้นเอ๋ยปลอบประโลมทำให้รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นกว่าเดิม

    ฉันพร้อมไปหรือไม่พร้อมดีนะ

    อย่างน้อยตอนที่หายไปฉันก็ไม่ถูกทิ้ง

    สัมผัสทุกอย่างเลือนหายไปจนหมด ร่างกายเบาสบายเมื่อไร้ซึ่งพันธนาการก่อนหน้า ฉันยังคงหลับปี๋

     

     

    ฉันอยู่ที่ไหน...

     

     

    เปลือกตาค่อยๆลืมขึ้น ทอดมองออกไปยังเบื้องหน้า ก่อนจะสบกับใบหน้าหล่อน่ารักกับแววตาที่ติดกังวล

     

    ฉันยังอยู่ที่เดิม...

     

    ฉันยังไม่ตาย

    ฮึกฮือๆ

    ฉันค่อยๆเอื้อมมือไปแตะตัวคีย์

    นิ้วเรียวทะลุผ่านเขาไปทั้งๆที่ฉันต้องการจะแตะ

    แถบเมื่อกี้บอกเวลาสัมผัสตัวสินะ

    ทำไมฉันไม่เคยเห็นมันเลย

    แต่ก็...

    “ฉันยังไม่ตายแฮะ”

    “...”

    “โล่งอกไปที”แค่นหัวเราะพร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุดไร้ซึ่งเสียงสะอื้น




    ไรท์เศร้าอ่า มีใครเศร้าเหมือนไรท์บ้าง TTT^TTT 

    ขอบคุณนักอ่านมากๆเลยนะ ใครอ่านมาได้ถึงขั้นนี้มาให้จูบซักทีมา ^3^

    ไรท์อยากเป็นนักเขียน ยังไงไรท์ก็จะไม่หยุดเขียนและพัฒนาผลงานตัวเองต่อไป เจอกันตอนหน้านะคะ บายๆๆ


    สปอย



     

    “นั่นไง เธอหลงเสน่ห์ฉันเต็มเปาซะแล้ว”

                    “อะไร ฉันเกลียดนายจะตาย”

                    “เกลียดเหรอ”คีย์ว่าพลางเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้อีกจนฉันต้องเป็นฝ่ายถอยเอาซะเอง “จะเป็นไปได้ยังไง ก็ดวงตาคู่นี้มีแต่ฉัน”พูดไปพร้อมกับมองลึกลงไปในนัยน์ตาของฉัน  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×