คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : You're my KEY!!! โล่งอกไปที
“นี่ๆ อันนี้เราเอากลับไปด้วยดีมั๊ย”
“ได้ๆ ดีเลย แล้วอันนี้ล่ะ”เย็นมากแล้วเจ้าหล่อนก็ยังไม่กลับ
ฉันกลับไปนั่งยังโซฟาดังเดิม เหลียวมองยัยซาแซงแฟนเป็นบางครั้งบางครา พวกเธอกำลังม่วนอยู่กับการขโมยข้าวของของคีย์
ใช่ ได้ยินกันไม่ผิดหรอก
ฉันตกใจจนเลยจุดพีคมาแล้วทุกคน =.=
ยัยซาแซงตัวแสบพวกนั้นกำลังคัดสรรเลือกข้าวของที่อยากได้กันอยู่ จากที่ฉันสังเกตุเห็น ถ้ายัยพวกนั้นยกคอนโดไปได้ก็คงทำไปแล้ว
เมื่อไหร่คีย์จะกลับมานะ...
สายตาฉันเหลือบมองยังซาแซงพวกนั้น ก่อนที่สายตาจะเบิกกว้างเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อเห็นว่าของสิ่งที่ยัยพวกนั้นถืออยู่ในมือคือ!!
สมุดสัญญา!!!
สมุดสัญญา!!!
ยัยบ้าหยิบอะไรไม่หยิบ ของนั้นมันสำคัญมากนะว้อยย!!!
ฉันที่นำตัวเองมายืนอยู่ร่วมกับยัยพวกนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เพ่งสายตามองไปยังสมุดขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ที่ยังไม่ได้ถูกเผยให้เห็นอักษรด้านใน แต่ขอโทษทีเห็นแค่นี้แขนขาฉันก็แทบจะหยุดสั่นไม่ได้ ถ้าพวกซาแซงแฟนเห็นข้อความในสมุดนี้ล่ะก็ คีย์ต้องแย่แน่ๆเลย
อ๊ะ! ฉันไม่ได้เป็นห่วงเขานะ
ฉันเกลียดเขาจะตาย
แงๆๆ ถ้าเกิดยัยพวกนั้นมาเห็นจริงๆล่ะก็
เดือดร้อนแน่เลย
ทำไงดีๆ
ออต๊กแคๆๆ
ได้แต่มองสมุดสัญญาอยู่อย่างนั้น อยากจะเข้าไปทำอะไรสักอย่างแต่มันเป็นไปไม่ได้เลย
จู่ๆแรงโน้มถ่วงที่เริ่มเพิ่มขึ้นมาทำให้ฉันใจชื้นขึ้นมาบ้าง
คีย์กำลังคิดถึงฉัน
ดีล่ะจะได้บอกเรื่องนี้ให้เขาจัดการเอง
ฉันจัดการหลับตาลงก่อนจะลืมตาขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังนั่งบนเบาะนิ่มๆภายในรถของคีย์ ภาพตรงหน้าเป็นลานจอดรถฉันจึงหันหน้าไปด้านข้างเพื่อจะคุยกับคีย์ด้วยอาการร้อนรน
“คะ...”
ภาพตรงหน้าฉายให้เห็นคนที่ฉันกำลังจะเอ่ยชื่อกับแฟนสาว ‘โซฮี’
เขาจูบกัน...
ฉันนั่งอยู่ในตำแหน่งเดียวกับโซฮีเพียงแต่เธอเอี้ยวตัวไปพลอดรักกับแฟนหนุ่มที่หลับตาสนิทปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกรับเพียงสัมผัสที่ร้อนรุ่มจากโซฮี
ถ้าจะเคลิ้มกันขนาดนั้นไม่ไปจองโรงแรมมันซะเลยล่ะ
แทนที่ฉันจะเบนสายตาไปทางอื่นแต่ร่างกายกลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น ฉันยังคงจ้องต่อไปจนกระทั่งร่างสูงเปิดเปลือกตาขึ้นมาประสานกับดวงตาฉันพอดี เมื่อเห็นดังนั้นสายตาฉันก็เบนหลบไปแทบจะทันทีพลางปิดเปลือกตาให้สนิทที่สุดปิดกั้นตัวเองจากภาพที่เพิ่งเห็นไปเมื่อครู่
ทำไมนะทำไม...ภาพยังฉายชัดถึงแม้จะหลับตาแล้วก็ตาม
“ออกไป”คีย์ว่า
“โอป้า”โซฮีพูดน้ำเสียงสั่น เธอเข้าใจผิดแล้วแหละ เขากำลังพูดกับฉันต่างหาก
“โซฮี ออกไปก่อนได้มั๊ย พี่มีเรื่องต้องสะสางนิดหน่อย”
“...”ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับแต่กลายเป็นเสียงเปิดปิดประตูรถออกไปแทนพร้อมกับเสียงรองเท้าส้นสูงดังลอดเข้ามาแม้จะปิดประตูแล้วก็ตาม
แน่นอนว่าเธอต้องโกรธ
ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจหนักๆของคีย์กับเสียงเครื่องปรับอากาศ ความเงียบปกคลุมพวกเราทั้งคู่ก่อนที่ฉันจะนึกเรื่องที่ต้องทำเมื่อเจอเขา ความร้อนรนในตอนแรกได้หวนกลับคืนมาอีกครั้งถึงแม้จะทำมันอย่างเสแสร้งก็ตาม
ก็ฉันมัน ‘คนไม่สำคัญ’ นี่
ถึงอยากพูดเรื่องเมื่อครู่ให้ตายเขาก็ไม่ฟังหรอก
“คีย์ ซาแซงแฟนเข้าคอนโดนายนะ”
“...”
“ยัยพวกนั้นขโมยสมุดสัญญาของเราสองคนไปด้วย”
“...”
“คีย์อ่า”
.
.
.
“ออกไปจากฉันชีวิตที”
“...”
“...”
“...”
คีย์ว่าไม่แม้แต่จะมองหน้าฉันด้วยซ้ำ ฉันมองภาพด้านข้างของคนตรงหน้าที่ดูเย็นชาเหลือเกินก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ามันกำลังจะเคลื่อนไปยังเบื้องหน้า ฉันหลับตาอีกครั้งเมื่อคีย์เร่งความเร็วรถขึ้นตอนเราออกมาจากลานจอดรถ
ไม่มีการสนทนาเกิดขึ้นระหว่างทาง เสียงเร่งเครื่องยนต์ทำให้รู้ว่ารถคันนี้มุ่งไปยังข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ฉันได้แต่เบนหน้าออกไปอีกทางและหลับตาพลางควบคุมอารมณ์ไปในเวลาเดียวกัน
เวลาอันน่าอึดอัดได้จบลงเมื่อคนข้างๆเปิดประตูรถออก ฉันค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น
โรงพยาบาล
ฉันเบิกตากว้างทันที ถึงจะดูเป็นสถานอนามัยเล็กๆมีผู้คนไม่มากแต่มันไม่ดีแน่ๆถ้าคนพวกนั้นจะเห็นคีย์ในเวลานี้
ฉันรู้ดีว่าเขากำลังจะไปทำอะไรและฉันไม่เคยเดาผิด
ฉันเดินทะลุประตูรถออกมาก่อนจะวิ่งไปดักหน้าคนที่เดินดุ่มๆเข้าไปยังโรงพยาบาล
“คีย์!”
“...”ร่างสูงไม่สนใจซ้ำยังเดินทะลุผ่านร่างฉันไป
“ฉันรู้ว่านายจะทำอะไรนะ เรามาคุยกันก่อนเถอะ”ฉันว่าไปเดินตามหลังคีย์ไป
“ฉันเครียดเกินไป มันคือภาพหลอน”
“มันเป็นเรื่องจริงเข้าใจมั๊ย หยุดก่อนสิ!!”
“อย่ามายุ่งกับฉัน”คีย์เผลอพูดเสียงดังกว่าเดิมก่อนจะฉุกคิดได้แล้วเหลือบมองผู้คนขนาดย่อมที่จ้องมองมายังเขาอย่างฉงน
ก็ยังดี ไม่มีกลุ่มวัยรุ่นแถวนี้
ฉันมองกลุ่มคนพวกนั้นตามคีย์ก่อนจะหันหน้ากลับไปเห็นคนตัวสูงเดินนำลิ่วไปไกลพอสมควร
แฮ่กๆ
วิ่งตามจนไปหยุดอยู่ที่สวนขนาดเล็กทางด้านหลังของโรงพยาบาล
“ไหน มีอะไรจะพูด”คีย์หันหน้ามาเผชิญกับฉันอีกครั้งทว่าสายตาที่มองมามันทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออกเลย
“...”
“ว่ามาสิ”
“...”
“งั้นฉันพูดเอง”
“...”
“เพราะเธอฉันถึงต้องมีปัญหากับโซฮี”
“...”
“เธอรู้มั๊ย ตลอดเวลาที่เธอมา ฉัน ‘โคตร’ ไม่มีความสุขเลย”
“...”
“ชีวิตฉันมันกำลังจะพังแล้ว เธอจะรับผิดชอบยังไง!”
“แล้วชีวิตที่พังไปแล้วของฉันล่ะ นายจะรับผิดชอบยังไง!!”ฉันว่าออกมาอย่างเหลืออดหลังจากที่ฟังคำทำร้ายจิตใจของคนตรงหน้า มือที่วางอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะยกขึ้นมาทุบลงที่อกหนานั้น ขบกรามแน่นกล้ำกลืนน้ำตาสีใสไว้ไม่ให้ไหลเอ่อล้นออกมา
“...”
“ฉันก็โคตรไม่มีความสุขเหมือนกัน ไอ้คนเฮงซวย!”ว่าไปพลางทุบหน้าอกไปพลาง
“...”
“นายทั้งทิ้งฉัน”
“...”
“รู้ทั้งรู้ฉันไม่มีที่ไป...ทั้งที่รู้”
“...”
“แต่ก็ยังไป”
ร่างสูงรวบมือซ้ายของฉันแล้วจับมันหงายขึ้นดู ข้อมือที่หงายนั้นปรากฏแถบสีดำสนิทเป็นทางยาวไม่มากนัก แต่แถบนั้นเริ่มลดลงเรื่อยๆทำเอาแขนขาฉันทรุดจนคนที่จับข้อมืออยู่ต้องเปลี่ยนเป็นประคองร่างฉันแทน
อย่าบอกนะว่าเป็นเวลาทำภารกิจ
มันเหลืออีกไม่ถึงสองนาทีด้วยซ้ำ
ไม่นะ
“ช่วยฉันด้วย ชีวิตฉันกำลังจะพังจริงๆแล้ว”ว่าพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรื้นขึ้นมา
กลัวว่าตนเองจะหายไป
กลัวการดับสูญ
ความรู้สึกกระวนกระวายมากขึ้นเป็นทวีคูณเมื่อเห็นแถบสีดำนั้นลดลงเรื่อยๆ ฉันเริ่มหายใจติดขัด มือไม้ที่สั่นกว่าเดิม ทำเอาตัวเองและคนประคองลงไปกองกับพื้นหญ้าโดยปริยาย
“ฮือๆ ช่วยฉันด้วย ช่วยด้วย”ว่าทั้งที่น้ำตานองหน้าพลันโยนตัวเข้าไปสวมกอดคีย์ ซุกใบหน้าลงไปที่ไหล่พลางมองเวลาที่เหลือไม่ถึงครึ่งนาทีพลันรัดอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก
“...”
“รักฉันเถอะนะ ช่วยด้วย ฮือๆ”ความกลัวกัดกร่อนจิตใจจนไร้ซึ่งสติ ร่างกายสั่นจนอีกคนต้องยกมือขึ้นมาโอบตอบ
“...”
“ฮือๆ ช่วยฉันด้วย ฉันกลัว”
เหลืออีกไม่ถึงสิบวินาที
“ฉัน ฮึก..กลัว”
คนแขนแกร่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นตามแรงกอดของฉัน
อีก 5 วินาที…
“เขาบอกว่าถ้านายไม่รักฉัน ฉันจะต้องตาย ฮือๆ”
อีก 4…
“ช่วยด้วย”
อีก 3…
“ฮึก ฮือๆ”
2…
“อย่า...ฮึก..ทิ้งฉัน ช่วยด้วย...ฮือๆ”
1…
“ไม่เป็นไรนะ”คีย์ว่า
แถบสีดำที่แทบจะมองไม่เห็นทำให้ฉันหลับตาปี๋แทบจะทันที กอดคนตัวสูงพลางกดจมูกลงไปที่ไหล่กว้าง ไออุ่นจากลำคอคีย์แผ่มายังลำคอฉันพร้อมกับน้ำเสียงอ่อนโยนนั้นเอ๋ยปลอบประโลมทำให้รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นกว่าเดิม
ฉันพร้อมไปหรือไม่พร้อมดีนะ
อย่างน้อยตอนที่หายไปฉันก็ไม่ถูกทิ้ง
สัมผัสทุกอย่างเลือนหายไปจนหมด ร่างกายเบาสบายเมื่อไร้ซึ่งพันธนาการก่อนหน้า ฉันยังคงหลับปี๋
ฉันอยู่ที่ไหน...
เปลือกตาค่อยๆลืมขึ้น ทอดมองออกไปยังเบื้องหน้า ก่อนจะสบกับใบหน้าหล่อน่ารักกับแววตาที่ติดกังวล
ฉันยังอยู่ที่เดิม...
ฉันยังไม่ตาย
ฮึก…ฮือๆ
ฉันค่อยๆเอื้อมมือไปแตะตัวคีย์
นิ้วเรียวทะลุผ่านเขาไปทั้งๆที่ฉันต้องการจะแตะ
แถบเมื่อกี้บอกเวลาสัมผัสตัวสินะ
ทำไมฉันไม่เคยเห็นมันเลย
แต่ก็...
“ฉันยังไม่ตายแฮะ”
“...”
“โล่งอกไปที”แค่นหัวเราะพร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุดไร้ซึ่งเสียงสะอื้น
ไรท์เศร้าอ่า มีใครเศร้าเหมือนไรท์บ้าง TTT^TTT
ขอบคุณนักอ่านมากๆเลยนะ ใครอ่านมาได้ถึงขั้นนี้มาให้จูบซักทีมา ^3^
ไรท์อยากเป็นนักเขียน ยังไงไรท์ก็จะไม่หยุดเขียนและพัฒนาผลงานตัวเองต่อไป เจอกันตอนหน้านะคะ บายๆๆ
สปอย
“นั่นไง เธอหลงเสน่ห์ฉันเต็มเปาซะแล้ว”
“อะไร ฉันเกลียดนายจะตาย”
“เกลียดเหรอ”คีย์ว่าพลางเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้อีกจนฉันต้องเป็นฝ่ายถอยเอาซะเอง “จะเป็นไปได้ยังไง ก็ดวงตาคู่นี้มีแต่ฉัน”พูดไปพร้อมกับมองลึกลงไปในนัยน์ตาของฉัน
ความคิดเห็น