ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You're my Key!!!

    ลำดับตอนที่ #8 : You're my KEY!!! ใครก็ได้พายัยพวกนี้ไปบำบัดจิตที TT^TT

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 57


    8

    “ซู๊ดๆๆ”

                    แสงแดดยามสายลอดเข้ามาในคอนโดเล็กน้อยแต่ก็ทำให้มุมครัวที่ฉันกำลังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยสว่างขึ้นมาโดยไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลยแม้แต่ดวงเดียว คนตรงหน้าก็กำลังทานรามยอนอย่างเอร็ดอร่อยไม่แพ้กัน คีย์ตักรามยอนขึ้นมาแล้วจัดการใส่ปากตัวเองทำท่าทางอย่างกับอร่อยมันซะเต็มประดา

                    “คีย์”

                    “หืม”

                    “ป้อนให้ฉันด้วย”ว่าจบก็เปลี่ยนจุดโฟกัสเป็นถ้วยรามยอนบอกคีย์อีกนัยหนึ่งก่อนจะขึ้นมาสบกับดวงตาเหยี่ยวนั้น

                    “เธอก็กินเองสิ อย่ามายุ่งกับฉัน”คีย์บอกปัดๆอย่างรำคาญ

                    “...”ฉันส่งสายตาค้อนไปให้ให้   

    “อะไรกัน รามยอนก็ทำให้แล้ว กินสิ”

    ฉันจิ๊ปากอย่างขัดใจก่อนจะจัดการคีบเส้นรามยอนเข้าปากตัวเองบ้าง

    “งั้น บอกรักฉันแทนก็ได้”

    “ฉันกินข้าวอยู่”คีย์บอกปัดตามเคยแล้วสูดเส้นจนเกิดเสียง 

    ฮู่ว์

    ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะก้มหน้าลงไปกินรามยอนในถ้วยที่เส้นเริ่มอืดจนบวมเต็มจานพลางเหลือบมองร่างสูงที่ดูดเส้นรามยอนดังซู๊ด

    ฮึ่ย กินไม่หยุดเลย

     

    มันน่าโมโหนัก

     

    “กินเสร็จแล้วค่อยมาดูหนังก็แล้วกัน”

    “ไม่ว่าง”

    “ทำไมไม่ว่าง”ฉันถามออกไปอย่างอารมณ์เสีย อะไรจะเรื่องเยอะขนาดนี้นะ

    “บ่ายนี้ฉันมีถ่ายซีรีย์...แล้วไม่ต้องตามมาเหมือนวันก่อนล่ะ”

    “นี่ถ้านายไม่คิดถึงฉัน ฉันคนนี้ก็ไปหานายไม่ได้หรอกย่ะ”ว่าจบมือหนาก็ยกขึ้นมาผลักหัวเล็กๆของฉันอย่างเบามือทำให้หัวเอนไปด้านหลังตามแรงผลัก “อ้อ ฉันต้องขอบใจมั๊ยนะ ที่เมื่อวานยังพอเจียดเวลามาคิดถึงกันบ้าง”

    “ใครกันจะไปคิดถึงเธอ ฉันเนี่ยนะ”คีย์พูดหลังจากที่กลืนเส้นรามยอนลงคอ มือหนาชี้เข้าหาตัวเองพลางแค่นหัวเราะ “มีแต่เธอนั่นแหละที่จะคิดถึงฉัน”ว่าจบก็ยกมือขึ้นมาเตรียมจะโยกหัวฉันอีกรอบ แต่มือนั้นก็ทำได้แค่ผ่านตัวฉันออกไปทำให้เจ้าของมือจอมซนนั้นตกใจเล็กน้อย

    เฮอะ! ฉันปิดพลังเองแหละ

    “ฉันเกลียดนาย!!

    “จริงดิ”น้ำเสียงขี้เล่นกวนประสาทหลุดออกมา พร้อมกับสีหน้าตกใจที่มองยังไงมันก็เฟคสุดๆ สรุปคือเขากำลังแกล้งฉันอยู่แน่ๆ

    “เออ เกลียดมากด้วย”ว่าจบก็เดินออกมาอย่างอารมณ์เสียก่อนจะเปิดทีวีทิ้งตัวบนโซฟาพลางกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ

    ไม่มีรายการอะไรน่าดูเลย

     

    จู่ๆจอโทรทัศน์ก็ดับวูบไปพร้อมกับรีโมทในมือที่ลอยออกมาแล้วจัดการวางตัวมันเองไว้บนโต๊ะเบื้องหน้า ฉันกรอกตาไปมาด้วยความเซ็งก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างสูงที่ยังไม่ออกมาจากมุมครัวสักที

    แต่ร่างกายก็จำต้องแข็งชะงักเมื่อเห็นรอยยิ้มและท่าทางของคนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะกินข้าว บนโต๊ะนั้นได้ตั้งโทรศัพท์เป็นแนวนอนห่างจากเจ้าตัวพอประมาณ พร้อมกับสายตาที่มองเข้าไปในจอเล็ก เสียงอู้อี้ดังลอดออกมาจากโทรศัพท์นั้นเป็นระยะ ตามมากับเสียงคีย์ที่โต้ตอบกลับ ไม่ต้องสงสัยเลย คุยกับยัยโซฮีแน่นอน

    “เราต้องทำเป็นไม่รู้จักกันอีกแล้ว น่าเบื่อเนอะ”

    (ใช่ค่ะ น่าเบื่อมาก)

    “คิดถึงจังขนาดคุยกันแล้วยังไม่หายคิดถึงเลย ไปนู่นอยากกอดยังไงก็กอดไม่ได้ด้วย นี่พี่มีแฟนไว้แค่มองอย่างเดียวหรอเนี่ย 555”

     (อ้าว ถ้าไม่อยากหลบๆซ่อนๆก็บอกเขาไปสิคะ ฉันก็ไม่ได้ห้ามสักหน่อย)

    “โซฮีก็รู้ว่าพี่ทำไม่ได้”

    (ค่ะ รู้ค่ะ โอป้ากังวลหรือเปล่าคะ เมื่อกี้โซฮีแค่ล้อเล่นเอง)

    อ่ะจ้ะๆ แค่ล้อเล่นเหรอ ฉันว่าเธอก็อยากให้เขาเปิดเผยเรื่องนี่แล้วล่ะ

    เดี๋ยวนะ นี่เขาคุยกับผู้หญิงคนอื่นเกินสิบนาทีไปแล้ว กฎที่ฉันเพิ่งตั้งเมื่อเช้าทำไมเขาลืมง่ายจัง

    ฉันต้องไปห้ามเขาสิ

    และต้องวีนใส่ด้วยถึงจะสะใจ

    แม้คิดได้อย่างนั้นแต่ร่างกายเจ้ากรรมกลับชะงักค้างเฝ้ามองดูความรักอันแสนหวานที่ได้ผลิบานมากขึ้นเรื่อยๆตามระยะเวลา

    เอ๊ะ! แล้วนี่ฉันจะอยู่ฟังเขาคุยกันทำไม เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงพาตัวเองมานั่งจุมปุกอยู่ที่โซฟาตัวเดิม สายตาก็ทอดมองออกไปยังตึกสูงระฟ้าภายนอก

    หนทางอีกยาวไกลจริงๆ ไอเอ๊ย...  

     

     

     

    “ฉันไปละนะ”ร่างสูงเอ๋ยลาพลางก้าวหายลับออกจากประตูไป ส่งผลให้ฉันที่มองตามหลังหันกลับมาสนใจจอโทรทัศน์เบื้องหน้าที่คีย์เปิดให้

    ภาพเคลื่อนไหวตรงหน้าไม่ได้ทำให้ฉันเพ่งความสนใจไปได้แม้แต่น้อย เพราะจิตใจตอนนี้กลับคิดแต่เหตุการณ์เมื่อช่วงสาย เขายังคงคบกับโซฮีตามเดิมและไม่เคยคิดจะสนใจกันเลยด้วยซ้ำ นี่มันเพิ่งสี่วันเอง

    สี่วันแล้วที่เขาไม่เห็นค่า...

    “ท่านคะ ทำไมไม่บอกเวลาทำภารกิจให้ฉันเลยนะ”พูดออกไปลอยๆทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่ายังไงท่านผู้มอบภารกิจคงไม่มา

    “ท่านคะ”

    ...

    “ท่านคะ”

    “ท่านนน...”

    ...

    ...

    ...

    และก็ไม่มาจริงๆ

    เมื่อรู้ดังนั้นจึงเบนความสนใจให้กลับไปอยู่ที่จอโทรทัศน์เบื้องหน้าดังเดิม

    โอ๊ะ! นั่นรายการรันนิ่งแมนนี่นา

    ดีเลย ฉันกำลังเบื่ออยู่พอดี

    ติ๊ดๆๆๆ

    เสียงกดรหัสเข้าคอนโดดังขึ้น

    “หรือคีย์กลับมาแล้ว...ทำไมเร็วจัง”พึมพำกับตัวเอง

    เมื่อเสียงประตูเปิดออกฉันจัดการปั้นหน้านิ่งมองตรงยังจอข้างหน้าพร้อมกับเปิดประสาทหูรับรู้เสียงอย่างเต็มที่ แต่ยังไม่มีเสียงอะไรมากระทบแก้วหูฉันเลยสักนิด เวลาการปรากฏตัวของคนตัวสูงเริ่มนานมากขึ้นจนฉันที่นั่งแสร้งทำเป็นไม่สนใจเริ่มลุ้น

    ชักจะนานแล้วนะ ทำไมยังไม่ทักฉันอีก

    คิดได้ดังนั้นจึงหันหน้าไปยังทางเข้าห้องทันที

    “กรี๊ด!!!!!!”ฉันแผดเสียงดังลั่นทันทีที่หันไปกลับเจอสาวร่างอวบใบหน้าออกแนวโรคจิตอย่างปิดไม่มิดอยู่ห่างกับฉันประมาณเมตรเศษเห็นจะได้ พร้อมกับหญิงสาวร่างเล็กผมฟูฟ่องติดสอยห้อยตามมาด้วย ความตกใจด้วยความคาดคิดไม่ถึงจึงเผลอปล่อยกรี๊ดออกมาเต็มที่ 

    “กรี๊ดดดดดด!!! อุ๊บ >x<”ยัยสาวร่างอวบกรีดร้องตามฉันแทบจะทันควัน ก่อนจะถูกเพื่อนหัวฟู่ฟ่องปิดปากหรือตบปากกันแน่อันนนี้ฉันยังไม่แน่ใจ

    “ยัยบ้า อยากถูกส่งเข้าซังเตหรือไง”ยัยหัวฟูเอ็ด

    “เมื่อกี๊ฉันเหมือนได้ยินคนกรี๊ด”ยัยโรคจิตเริ่มทำหน้าเหมือนปล่อยอาการทางประสาทออกมา

    “เธอได้ยินเสียงกรี๊ดของตัวเธอเองมากกว่า”

    ทุกอย่างเงียบสงัด ไร้เสียงคุย หากจะมีก็แต่กับเสียงจากโทรทัศน์นี่แหละ

    (กรี๊ด!!!!!!!!)

    “กรี๊ดดดดดด!!!!!

    “นั่นมันเสียงโทรทัศน์ยัยโง่! เธออยากกลับไปมือเปล่าหรือไงนะ”คราวนี้เป็นยัยร่างอวบเอ็ดเสียงเบาให้บ้าง พร้อมมือตบหน้าผากยัยหัวฟู่ไปเต็มแรง

    ปัก!

    โอยยย...สาวเกาหลีรุนแรงกันจริงๆ

    ฉันผู้เป็นคนนอกมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างฉงน ถ้าจะให้เดายัยพวกนี้คงเป็นซาแซงแฟนของคีย์

    ยัยซาแซงทั้งสองเริ่มเปลี่ยนประเด็นสนใจกวาดสายตาแวววาวราวกับโจรขโมยไก่ย่างห้าดาว

    “ฉันบอกแล้วว่าไม่มีใครอยู่”ยัยอ้วนว่า

    “ก็โทรทัศน์มันเปิดนี่แล้วจะให้แน่ใจได้ยังไง”

    “คีย์โอป้า เป็นคนขี้ลืมหรอ คิกๆๆ โอป้าของเราเปิ่นจัง น่ารักๆ”

    “ชายเปิ่น คิกๆ”เอ๋า ยัยฟูก็เป็นไปกับเขาด้วย

    เดี๋ยวนะ แค่เขาขี้ลืมก็ฟินกันได้หรอเนี่ย?

    ฉันเฝ้ามองสถานการณ์อย่างเงียบๆ

    ยัยสองสาวอ้วนฟูจะทำอะไรกันบ้างนะ

     

    ก็อกๆๆๆ ปักๆๆๆ!!!

    เสียงดังออกมาจากกระจกที่เผยให้เห็นภาพวิวตึกราซึ่งไม่เพียงเท่านั้นยังมีสาวน้อยร่างเพรียวสามร่างในเครื่องแบบกรรมกรเกาะอยู่ที่กระจกนั้นแต่ละนางพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ปีนตึกครบครันและทันสมัย

    อย่าบอกนะยัยอ้วนยัยฟูว่านี่คือเพื่อนร่วมขบวนการของพวกเธอ!!

    จะอเมซิ่งเกินไปแล้ว

    คิดไว้ไม่มีผิด ยัยสองสาวในห้องยืนโบกมือลวกๆด้วยความตื่นเต้นก่อนที่ยัยหัวฟูจะถูกยัยอ้วนขี่คอแล้วเปิดหน้าต่างกระจกที่อยู่สูงขึ้นไปจากกระจกบานใหญ่ให้กับผู้มาใหม่อีกสามคน เสียวยัยหัวฟูแบนจังเลย หรือเธอเตี้ยเพราะให้ยัยอ้วนขึ้นขี่บ่อยนะ สามกรรมกรสาวได้เข้ามาอย่างปลอดภัยพลางปลดสายเชือกปีนตึกออก    

    โอ้โห พวกเธอนี้ถ้าไม่เป็นซาแซงคงทำให้ประเทศชาติเจริญขึ้นเยอะ

    มากความสามารถกันถ้วนหน้า

    “มาๆ ถ่ายรูปกันพวกเรา”

    แชะๆๆๆ

    “ฉันทุเรศจัง เอาใหม่”ยัยหัวฟูว่าพลางปั้นหน้าตาแบ๊วไม่ขึ้นของเธอไปที่กล้องอีกครั้ง

    “ให้ตายป่านนี้ยังไม่รู้สภาพหน้าเธออีกหรอ”กรรมกรกำมะลอคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

    ยัยหัวฟูละสายตาออกจากกล้องแทบจะทันทีก่อนจะจิกสายตาใส่ยัยเพื่อนกรรมกรของเธอและหันไปสนใจกล้องต่อ ก่อนที่ยัยอ้วนจะเปิดกล้องถ่ายวีดีโอแล้วหันเลนส์กล้องเข้าหาตัวเองพลางยิ้มตาใสหากแต่มองไปได้เพียงเสี้ยววินาทีจะเห็นถึงความจิตของเจ้านางที่ปิดไว้ไม่มิด

    “ทุกๆคน ตอนนี้เราอยู่คอนโดคีย์โอป้าแล้ว...อ๊ะๆ อย่าเพิ่งตกใจ สิ่งที่เป็นความฝันของติ่งอย่างเรา วันนี้ฉันจะสานฝันให้ทุกคนเอง ฮ่าๆๆ อ๊ากๆๆๆๆ แค่คิดก็ฟินจนฟันหลุดแล้ว”ยัยอ้วนหัวเราะคิกคักกับกล้องในมือของตน

    “แว๊ก!!! อีอ้วน!! ทำไมไม่รอพวกเรา!!!”สี่สาวที่ม่วนอยู่กับการถ่ายรูปได้เอ็ดเพื่อนร่างอวบ(มาก)พร้อมกันราวกับได้นัดหมายกันไว้ล่วงหน้า

    “อัดใหม่!!!!!!”เป็นอีกครั้งที่สี่สาวฟูกรรมกรพูดออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

    “เบาเบ๊า ชู่ว์ๆๆๆ ไม่เว้ย ไม่มีเวลาแล้ว”ยัยกรรมกรคนหนึ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ชักสีหน้าพลางเอื้อมมือไปผลักหัวยัยอ้วนผู้กำลังมองกล้องตาใส ก่อนจะเสนอหน้าเข้ามาเป็นสมาชิกหน้ากล้องนั้นด้วยในวินาทีต่อมา

    “ห้องคีย์โอป้า เนี๊ยบกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลย แถมอุปกรณ์ของใช้ยังครบครันทันสมัยด้วยนะทุกคน”

    “นี่ๆๆ อันนี้คือหมอนอิงของโอป้า ทุกคนอยากทำอะไรกับอันนี้บ้างนะ”ยัยฟูหยิบหมอนอิงข้างๆฉันขึ้นไปถือพลางพิจารณาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเสมือนคนโรคจิต

    “ไม่เอาฉันขอทำ”

    “ไม่ฉันเอง”เสียงเจือยแจ้ววี๊ดว๊ายโดยใช้การกระซิบแต่อากัปกิริยาที่นางแต่ละนางแสดงชั่งตรงข้ามกับระดับความดังของเสียงโดยสิ้นเชิง

    มีหรือยัยฟูจะให้ ใช่! ไม่มีทางซะหรอก และฉันก็ไม่เคยคิดผิด ยัยหัวฟูกอดหมอนแสดงท่าทีว่าหวงสุดขีด

    “อย่าทำนะ อย่าทำ!! ม่ายย!!!”เสียงของแต่ละคนแทรกออกมาราวกับยัยหัวฟูกำลังจะฆ่าแมลงสาปตาย เมื่อเห็นอย่างนั้นหมอนในมือเล็กก็ได้แนบกับหน้าและหัวฟูๆที่ส่ายไปมาบนหมอนใบน่าสงสารใบนั้น 

    นี่เธอกำลังกอด รัด ฟัด เหวี่ยงกับหมอนค่ะทุกคน

    ฉันได้แต่มองห้าสาวที่มายืนแอกันรอบๆตัวฉันโดยบังเอิญทำให้เห็นภาพของยัยหัวฟูกำลังกอดรัดฟัดจูบหมอนนั่นชัดเต็มๆตา

    “ไม่เจง...ม่าย”เสียงครวญครางของสี่สาวดังระงมไปหมด ซึ่งแตกต่างจากยัยหัวฟูที่ดูจะอิ่มเอมใจเพราะได้กระตุกต่อมฟินของตนเองขึ้นมาได้จนถึงขีดสุด แต่กระนั้นก็ยังไม่วายจูบย้ำไปที่หมอนใบนั้นอีกหลังครั้งหลายหน

    “นี่ฉันกำลังจูบหลังโอป้าอยู่นะทุกคนรู้มั๊ย เอิ๊กๆ ฉันตายตาหลับแล้ว”ยัยหัวฟูว่าพร้อมวางสายตาไว้ยังเลนส์กล้อง ถ่ายทำโดยตากล้องจำเป็นอย่างยัยอ้วนที่แสดงสีหน้าเจ็บปวดสุดๆ

    “อ่อ ได้ๆ ฉันไม่แคร์พวกเธอแล้วนะ”เสียงมาจากกรรมกรสาวคนหนึ่ง สายตาส่งค้อนไปให้ยัยหัวฟูแต่มีหรือที่คนโดนค้อนจะรู้สึกกลัว เจ้าตัวกลับมองตอบกลับแล้วส่งสายตาแห่งชัยชนะเป็นการหยอกล้อ

    “ตามสบาย”ยัยหัวฟูว่า

    ร่างสาวกรรมกรออกห่างจากโซนนั้นทันทีก่อนมุ่งตรงไปยังห้องนอนพร้อมกับสายตาทั่งสี่คู่ที่จ้องมองมาด้วยความสงสัย

    “ให้ตายสิ ห้องล็อค”

    ฮูว์    โชคดีไป...แล้วนี่ฉันตามยัยนี่มาหน้าห้องนอนตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ประเด็น ยัยนั่นจับกลอนประตูเขย่ามันเต็มที่พลางชักสีหน้าหงุดหงิดออกมาก่อนจะหยิบกิ๊ฟดำที่เหน็บอยู่ตรงปอยผม

    แกร็ก

    “โอป้าก็รอบคอบดีนะ แต่คนที่รอบคอบกว่ามักชนะเสมอ”ว่าจบก็สาวเท้าเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับยัยสี่สาวที่พร้อมใจกันวิ่งกรูทะลุผ่านร่างของฉันไปยังห้องนอนคีย์ ฉันมองตามก่อนจะพาร่างของตนเองเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย

    ยัยกรรมกรคนที่เปิดประตูห้องคีย์มา บัดนี้ได้หยิบหมอนหนุนขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด

    “อย่านะ ไม่เอา”เพื่อนแต่ละคนร้องเสียงหลง

    “อะไรนะ เมื่อกี๊เธอจูบหลังโอป้าหรอ ฮ่าๆๆ แต่ฉันได้จูบแก้ม หรือไม่ก็อาจจะไปโดนปากของโอป้าด้วยก็ได้นะ โฮ๊ะๆๆๆ...กล้องๆๆ ถ่ายฉันเลยตอนนี้จุดไคลแมกซ์เชียวนะ”

    “ขอร้องล่ะ อย่าเลย TTOTT

    ยัยนี่ก็ไม่ฟังใครเหมือนกัน เธอฉีกยิ้มกว้างตามความฟินจัดการเคลื่อนหน้าตัวเองจุ่มลงไปกับหมอนนิ่มๆนั้น พลางพรมจูบลงไปเน้นๆแน่นๆจนเกิดเสียงก่อนจะหัวเราะแอ๊บแบ๊วออกมาอย่างหน้าหมั่นไส้

    ส่วนผู้สังเกตการณ์อย่างฉันได้แต่มองการกระทำของเหล่าซาแซงแฟนพวกนี้ด้วยความตกใจ

    “ฮือๆๆๆๆๆ”

    “คิกๆๆ ฟินจังเลย”

    “โฮๆๆๆ แล้วเธอจะได้รับผลกรรมอย่างสาสม ทำฉันเจ็บเธอต้องเจ็บกว่า!!!”ยัยกรรมกรสาวอีกคนว่าจบก็เดินออกจากห้องไปแล้วตรงรี่ไปยังห้องน้ำ ซาแซงอีกสี่คนจึงตามกันออกมาอีกระลอกก่อนจะเบิกตากว้างมองสิ่งที่ยัยกรรมกรกำลังจะทำในวินาทีต่อมา

    มือเรียวเอื้อมไปหยิบแปรงสีฟันออกมาอย่างรวดเร็วและนำมันมาเข้าปากพลันอมค้างไว้

    อรึ๋ย อนาถสายตาจริงๆ

    “ไงล่ะ อ้าเออไอ้อูบ อั๋นอ้ออีบอิ๊ดอ่ะอ๊ะ(ถ้าเธอได้จูบ ฉันก็ดีพคิสล่ะนะ)”

    บอกฉันทีว่ายัยพวกนี้จิตปกติ

    “ฮือๆๆ เธอจะรู้ได้ไงว่าด้ามนั้นเป็นของโอป้า”คำพูดของยัยอ้วนผู้รับหน้าที่เป็นตากล้องทำเอาฉันเปลี่ยนจุดโฟกัสไปยังแปรงอีกแปรงบนแก้วใส

    เฮือก!! อันนั้นแปรงสีฟันของฉันนี่หว่า

    ไวเท่าความคิดยัยกรรมกรจัดการหยิบอีกแปลงมาอมควบกันทันที

    “ไอ้อู๊อ่ะ อ้องอีอั๊กอ้ามอึงเอ็นอ๋องโออ้าอัวๆ(ไม่รู้ล่ะ ต้องมีซักด้ามหนึ่งเป็นของโอป้าชัวร์ๆ)”

    “กรี๊ด!!! ยัยบ้า ยัยโรคจิต แปรงสีฟันช้านนๆๆ อยากโดนผีหลอกเรอะ”ฉันว่าออกมาอย่างเหลืออดซึ่งแน่นอนไม่มีใครได้ยินเสียง
                    “กรี๊ด
    !! ฉันทนดูมามากไปแล้ว”คิวนี้เป็นตากล้องสุดอวบว่าแทรกก่อนจะพาร่างอวบอูมไปยังตะกร้าผ้าที่วางอยู่ไม่ไกล

    เฮือก!!

    ยัยอ้วนจัดการหยิบกางเกงในของคีย์ออกมาจากตะกร้ารอซักก่อนจะดมฟุดฟิดๆพลางเคลื่อนหน้าไปถูกับสิ่งนั้น

    “ได้โปรด อย่าทำ!!

    “ไม่ๆๆๆ”

    เสียงดังสิบแปดปรอทแสดงให้เห็นว่าพวกเธอกำลังฟิวส์ขาดกันจริงๆ

    แต่เสียงดังยิ่งทำให้ยัยอ้วนกระตุกรอยยิ้มร้ายพลางเปลี่ยนจากการเอาหน้าไปถูกลายเป็นงับที่ส่วนกลางของกางเกงในแทน

    ธะ เธอกำลังอม...

    “กรี๊ดๆๆ!!!

    ฉันถึงกับตาค้างท่ามกลางเสียงกรีดร้องที่ดังมากของเหล่าซาแซงแฟน ในมืออวบอูมได้หันเลนส์กล้องส่องให้เห็นภาพเธอส่งสายตายั่วเย้ากำลังทำอนาจารกับกางเกงของคีย์

    ยัยนี่มันไม่ปกติแล้ว

    ใครก็ได้พายัยพวกนี้ไปบำบัดจิตที





    5555 อึ้งมั๊ย มีใครอึ้งแบบไรท์มั่ง ซาแซงแฟนนี่จิตได้ใจจริงๆ คิดยังไงก็มาเม้นกันได้นะ
    ขอบคุณที่เจ้ามาอ่านจ้า  



    สปอยๆ

     

     

    “ฉันรู้ว่านายจะทำอะไรนะ เรามาคุยกันก่อนเถอะ”ฉันว่าไปเดินตามหลังคีย์ไป

     
                    
    “ชีวิตฉันมันกำลังจะพังแล้ว เธอจะรับผิดชอบยังไง!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×