ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You're my Key!!!

    ลำดับตอนที่ #5 : ํYou're my Key!!! ตอนที่ 5 “เธอหัวใจเต้นกับคนที่เกลียดได้ด้วยหรอ”

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ค. 57


    5

     

     ร่างสูงตื่นขึ้นมาพร้อมกับแสงแดดที่สาดส่องมาจนเจ้าตัวจำต้องเบี่ยงตัวหลบ พลันกายสูงได้สัมผัสเข้ากับผิวนวลนิ่มของร่างบางข้างกาย คีย์ยกยิ้มนิดๆทั้งที่ดวงตาคมสวยยังปิดอยู่ แขนยาววาดไปโอบรอบเอวของคนรัก จนคนในอ้อมแขนเริ่มขยับตัว นิ้วมือเรียวของหญิงสาวไล้ไปตามแผ่นหลังอย่างที่ตนชอบทำยั่วคนรักของเธอเสมอ เสียงหายใจติดๆขัดๆของคนข้างกายยิ่งทำให้เธอแน่ใจนักว่าร่างสูงนั้นตื่นแล้ว โซฮีจัดการพยุงร่างตนเองขึ้นแม้ว่ามือปลาหมึกของคนรักยังติดหนึบโอบเธอไว้ไม่ยอมปล่อย รอยยิ้มนางฟ้าผุดขึ้นมาบนไปหน้าหวาน เธอพยายามดึงมือปลาหมึกนั่นออกไปจากตัวแต่แล้วแรงโอบรัดนั้นก็ต่อต้านแถมยังรัดแน่นขึ้นด้วยซ้ำ ฮวาคยองผู้ขี้เซาของเขาตื่นแล้วจริงๆ ร่างบางคิดในใจก่อนจะลอบยิ้ม

    “ฮวายองอ่า ปล่อยฉันได้แล้ว”ร่างบางกระซิบข้างหูของคนรัก พลางมองรอยยิ้มทรงเสน่ห์ของคนพยายามหลับตาปี๋อยู่  เห็นอย่างนั้นร่างบางจึงลอบขำออกมาน้อยๆกับความเป็นเด็กของผู้ชายที่อายุมากกว่าตนเสียด้วยซ้ำ

    ร่างสูงเมื่อได้ยินเสียงหวานใสหัวเราะก็ยิ่งได้ใจ จัดการอมลมให้แก้มทั้งสองข้างพองขึ้นมาพลางส่งเสียงเรียกร้องความสนใจ

    “อื้อๆ”โซฮียิ่งเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มาพร้อมกับแก้มพองลมนั้นยิ่งทำให้อดมันเขี้ยวคนตรงหน้าเสียไม่ได้

    เปาะ!

    นิ้วเรียวจัดการดีดบริเวณแก้มป่องๆนั้นไปเต็มแรง ก่อนจะพาร่างเล็กออกจากอ้อมกอดทันทีที่มือปลาหมึกเผลอคลายอ้อมกอดจากร่างบาง

    โซฮีเดินตัวปลิวออกมาจากห้องนอน ก่อนที่ร่างสูงจะเดินตามหลังออกมาต้อยๆ พลางดันตัวเองเข้าไปสวมกอดร่างบางอีกระรอก ขอวันนี้อีกวันเดียวที่จะไม่ต้องมียัยผีบ้าผีบออะไรมาตามหลอกหลอน อยู่กับโซฮีแบบนี้ยอมรับเลยว่าเรื่องของยัยแฟนคลับผีนั่นหายไปจากหัวสมองของตนโดยสิ้นเชิง

    “เป็นอะไรกันค่ะ พี่เป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ”โซฮีถามออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ปกติคีย์ไม้ใช่คนออดอ้อนอะไรมากขนาดนี้ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับแฟนหนุ่มสุดเฟอร์เฟคคนนี้กันนะ

    คีย์กอดคนรักแน่นขึ้นไปอีก ร่างสูงหลับตารับสัมผัสแสนอบอุ่นจากคนรัก

    ...ถ้าหลังจากนี้เราจะเว้นระยะห่างกันมากขึ้นร่างในอ้อมกอดจะเป็นยังไง

    สายตาก็เหลือบไปเห็นร่างบางอีกร่างหนึ่งที่เดินตรงมาหาเขาเรื่อยๆด้วยอาการเหน็ดเหนื่อย ร่างสูงตัวแข็งทื่ออย่างทำอะไรไม่ถูก สภาพเสื้อลายจุดสีชมพูกับใบหน้าซีดหวานอิดโรย ถึงจะไม่รู้ว่ายัยแฟนคลับนั่นจะไปเจออะไรมาบ้าง ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าร่างนั้นกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ สีหน้าที่มีความอาฆาตแค้นแฝงไว้กับความน้อยใจเด่นชัดขึ้นมาเรื่อยๆ สายตาเธอไม่ได้หยุดแค่เขาคนเดียวมันปราดมองคนรักที่คีย์กำลังกอดเธอจากทางด้านหลังอยู่ด้วย ดวงตาสีช้ำอันแข็งกร้าวทอดมองมาที่เขาอีกครั้งก่อนที่ร่างวิญญาณนั้นจะล้มลงไปกองกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

    ระหว่างนั้นร่างสูงผละออกจากร่างบางคนรักโดยเร็วและรีบเข้าไปซ้อนร่างบางอีกคนเอาไว้

    โซฮีตกใจไม่น้อยกับการกระทำของคนรัก เธอมองร่างสูงที่ทำท่าพิเรนท์อะไรสักอย่างอยู่ ราวกับกำลังอุ้มคนไว้ นี่คิดจะเล่นมุขอะไรกับเธออีกหรอเนี่ย ร่างบางได้แต่คิดในใจ ก่อนจะละความสนใจและเดินเลยไปที่อื่น

    คีย์ก้มมองร่างวิญญาณในอ้อมแขน ดวงตาช้ำนั้นเปิดออกพลางมองมาที่เขา ความรู้สึกสงสารจับใจแล่นเข้ามาในห้วงความคิดของคนตัวสูง ร่างบางส่งสายตาอาฆาตแค้นปนน้อยใจมาให้ ก่อนที่ร่างวิญญาณนั้นจะร่วงลงจากแขนแกร่งที่ประคองไว้แล้วลงไปกองนอนกับพื้นตามความต้องการของร่างบอบบางนั้น

    ร่างสูงได้แต่ถอนหายใจมองร่างที่แนบกับพื้นก่อนจะก้มลงไปที่ร่างบางหวังพาร่างบอบบางนั้นไปนอนที่สบายกว่านี้ทว่าแขนที่จะใช้โอบอุ้มกลับล่องหนผ่านร่างคนตัวเล็กออกไป

     โกรธจนไม่ยอมให้แตะต้องตัวกันเลยหรอ

     

    ร่างสูงถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะมองหาร่างคนรักที่ตอนนี้กำลังม่วนอยู่กับการทำอาหารเช้า

    “โซฮี ทำกับข้าวเยอะๆหน่อยนะ พี่อยากกินอาหารฝีมือคนสวยเยอะๆ”ร่างสูงพูดเสียงดังเพื่อให้คนตรงมุมครัวได้ยิน จริงๆเขาไม่ได้รู้สึกอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรอก แต่ร่างบอบบางที่นอนราบอยู่กับพื้นคงต้องการอาหารอร่อยๆมากกว่าอาหารฝีมือเขาแน่ๆ 

     

     

    ภาพคีย์กับโซฮีกอดกันยังเด่นชัดอยู่ในห้วงความคิด ทำไมเส้นชัยมันถึงได้ไกลโพ้นขนาดนี้ ฉันไม่รู้แม้กระทั่งระยะเวลาการทำภารกิจ และที่สำคัญไปกว่านั้นคือฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเอาชนะใจผู้ชายเฮงซวยอย่างคีย์ได้ยังไง

    ฉันปวดทั้งหัว

    ปวดทั้งตัว

    ฉันยังคงนอนอยู่บนพื้นเหมือนเดิม เสียงหัวเราะพูดคุยลอดออกมาจากมุมครัว ฮึ่ย! มันจะมีความสุขอะไรกันนักกันหนานะ ถ้าฉันมีแรงขืนคีย์ที่ดึงร่างกลับมาได้ ขออยู่กับตูบน้อยซะยังจะดีกว่า

    เธอจะอยู่เป็นก้างขวางคอเขาทำไมกันนะไอ...

     คิดได้ดังนั้นจึงฝืนสังขารลุกขึ้นยืนและตรงเข้าไปในห้องนอนคีย์ทันที

                    แม้การที่ต้องลุกขึ้นมาทั้งที่ร่างกายไม่สู้ดีอย่างนี้จะทำให้เหนื่อยมากขึ้นกว่าเดิม แต่เชื่อสิ มันไม่เหนื่อยเท่ากับการที่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้พร้อมเสียงซ้ำเติมของสองคู่รักนั่นหรอก

                    ฉันพาร่างตัวเองเข้ามาในห้องนอนของคีย์ได้สำเร็จพลางทิ้งตัวลงนอนบนเตียงทันทีอย่างเหน็ดเหนื่อย 

                    ฮือๆๆ โลกนี้ช่างโหดร้าย TTT^TTT

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

    “ยัยลายจุดๆ ยัยลายจุดๆๆ”

    เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังก้องภายในห้องนอน

    ใครกันฟะ คนกำลังจะนอน

    ฉันจัดการพลิกตัวหยิบหมอนใบข้างๆกายมาปิดหูตัวเองเพื่อกันเสียงรบกวนจากภายนอก

    อ๋อย ปวดขาง่ะ

    แต่ชั่งเถอะ เรื่องนอนต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ

    “ยัยลายจุดๆ ยัยลายจุดๆๆ”

    เรียกใครอยู่ฟะ ยัยลายจุดนั่นก็ตื่นไปหาเขาสักทีเซ่

    ไม่ถึงสองวินาที ก็รู้สึกเหมือนเบาะบนเตียงมันกระเพื่อมๆยังไงชอบกล ใครมันเอามือมาตบเบาะเล่นอย่างนี้กัน เห็นใจคนนอนอยู่บ้างสิ  แต่ชั่งเถอะ นอนต่อดีกว่า

    “ยัยผีๆ ยัยผีๆๆๆ ยัยผีโก๊ะ”

    สิ้นเสียงนั้นฉันลืมตาตื่นขึ้นมาทันทีความง่วงเมื่อครู่ได้อันตรธานหายไปในชั่วพริบตา จัดการเด้งตัวขึ้นนั่งพลางมองไปยังคนที่ยืนเก๊กหล่ออยู่ที่ปลายเตียง ที่มาของเสียงทั้งหมดมาจากคีย์เองสินะ มือไวเท่าความคิด หมอนข้างกายถูกใช้เป็นเครื่องระบายอารมณ์ได้ลอยไปประดับบนใบหน้าหล่อเหลาในชุดเสื้อกล้ามนั้นเต็มๆ

    “บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกฉันว่าผี”ฉันแหวใส่ คีย์เบ้ปากเล็กน้อย ฮึ เรื่องเก่ายังโกรธไม่หาย ทำตัวเองให้ดีๆหน่อยนะก่อนที่ฉันจะฆ่านายจริงๆ

    “ก็เรียกอย่างอื่นเธอไม่หันเองนี่”คีย์เถียง โอ้โหต่อปากต่อคำเก่งเหมือนครั้งแรกที่เจอไม่มีผิด เมื่อวานที่ดูเงียบๆไปเพราะวางแผนจะไปอยู่กับยัยปากอาบยาพิษงั้นสินะ เฮอะ!

    “อย่างอื่นที่ว่าคืออะไร ชื่อฉันก็มีทำไมไม่เรียก ลายจุดหรอ นั่นมันชื่อฉันตรงไหนไม่ทราบ”ฉันว่าพร้อมกับปาหมอนอีกใบใส่หน้าเขาเหมือนเดิม ร่างสูงหลบหมอนมหาปลัยได้อย่างหวุดหวิด

    “ก็ฉันไม่รู้จักชื่อของเธอนี่ จะให้เรียกว่าอะไรได้ล่ะ ฉันก็ต้องเรียกไปตามสิ่งที่เห็น”คีย์พุดพลางชี้นิ้วมาที่ตัวฉัน

     อะไรคือสิ่งที่เห็น?

    ฉันก้มหน้ามองดูตัวเองตามตำแหน่งนิ้วของคนตัวสูง

    อ่ะ ใช่แล้ว ฉันอยู่ในชุดเดรสสีชมพูลายจุดสุดน่ารัก

    ดีแฮะ นึกว่าตัวเองจะอยู่ในชุดผู้ป่วยซะอีก ว่าแล้วก็ยกยิ้มกับตัวเองก่อนจะขึ้นไปมองคีย์อีกครั้ง ยัยไอในอดีตคงดีใจน่าดู ก็...ชุดนี้ตั้งใจใส่ให้คีย์ดูเลยนี่นา

    “อะไรกันชุดออกจะน่ารักก็เรียกให้มันดูน่ารักหน่อยสิ” ฉันพูดไปยิ้มไปพลางยืดหลังตรงเพื่อให้คนตัวสูงได้เห็นมันชัดๆ

    “อะไรของเธอ ตุ๊กแกล่ะสิไม่ว่า”คีย์แค่นหัวเราะ

     มือไวเท่าความคิด ทันทีที่ได้ยินคำนั้นหมอนก็พุ่งตรงไปที่ร่างสูงแต่ทักษะการเอาตัวรอดพัฒนาขึ้นทำให้หมอนไปนั้นไม่โดนหน้าร่างสูงดั่งใจหวัง คีย์ส่งสายตายั่วโมโหกลับมา

    ฮึ คิดว่าทักษะฉันไม่เพิ่มหรือไง

    ทันทีที่หมอนใบนั้นส่งออกไปก็ตามมาติดๆกับหมอนอีกใบ

    ปัก!

    เข้าเป้า!

    คีย์สีหน้าแหยแกอย่างเห็นได้ชัด ทีนี้กลับเป็นฉันที่ส่งสายตายั่วโมโหใส่เขากลับไปบ้าง เขาก้มลงไปหยิบหมอนที่ร่วงตามพื้นขึ้นมาและยกขึ้นทำท่าจะขว้างมาใส่ฉัน

    “ขว้างยังไงก็ไม่โดนหรอก”ฉันยกยิ้มอย่างผู้ชนะ ก็อยากจะขว้างหมอนใส่เขาอีกอยู่หรอกแต่หมอนหมดเตียงแล้วล่ะสิ

    “ฉันรู้ๆ เมื่อกี้ฉันถึงต้องตบเบาะแทนสกิดเธอไง ดีเลยฉันก็ไม่ได้อยากเป็นไอ้หน้าตัวเมียทำร้ายได้แม้แต่ผู้หญิงด้วย”ว่าเสร็จคีย์ก็แสยะยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ แววตาลุกวาวเหมือนเด็กกำลังเล่นของเล่นจ้องมาที่ฉัน

    เอาสิ จะปาก็ปามา ยังไงก็ไม่โดนอยู่แล้ว

    คีย์ง้างฝ่ามือที่มีหมอนวางไว้เหนือหัวราวกับกำลังชาร์ทพลังทำลายล้างให้กับหมอนนั้น ก่อนจะขว้างมาทางฉันเต็มๆแรง

    “ฮึ! ไม่โดนร๊อกกก ไม่มีวะ...”

    ปัก!!!

    แรงกระแทกมหาศาลพุ่งเข้ามาที่ใบหน้าฉันอย่างจัง ทำให้ฉันล้มลงจนหัวไปโขกกับโต๊ะข้างเตียง ความชากัดกินใบหน้าแต่มันก็ไม่เจ็บเท่าบริเวณหน้าผากข้างซ้ายที่เพิ่งโดนโขกนี้หรอก

    โป๊ก!

    “โอ๊ยยย!! คีย์อ่า มันโดนอ่ะ เต็มๆเลย”

    ฉันว่าพลางยันตัวเองขึ้นมานั่งตามเดิม มือก็ลูบหัวตัวเองป้อยๆพร้อมทั้งทอดสายตาไปยังคีย์ที่เอาแต่ยืนนิ่งอึ้งมองดูผลลัพธ์ของตนก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ เสียงหัวเราะนั่นมันน่าหมั่นไส้ซะจริงๆ

    “เธอนี่มันโก๊ะจริงๆ ทั้งที่มีพลังวิเศษณ์อยู่กับตัวแท้ๆ ก็ไม่ใช้มันซะงั้น”ใครจะไปรู้ล่ะฟะ ว่าตัวเองอยู่โหมดล่องหนหรือโหมดอื่น

    “ก็...ฉันเพิ่งจะมีพลังมาได้วันสองวันเอง ยังไม่รู้วิธีใช้อะไรมากนักหรอก”ฉันว่าแก้ต่าง คีย์จากที่ยืนพยักหน้าหงึกหงักก็ก้มลงไปหยิบหมอนบนพื้นมาวางไว้เตียงโดยไม่ลืมที่จะโยนลงมาที่ตัวฉันเบาๆ

    ขี้แกล้งจริงๆ

    จิ๊!  

    ฉันจิ๊ปากหวังระบายอารมณ์

    จิ๊

                    เสียงคีย์จิ๊ปากตามมาติดๆ หนอยแน่ะ บังอาจมาทำตามฉันอีกแล้วหรอ

                    ฉันตั้งเข่าลงกับเบาะและคลานมายังตำแหน่งปลายเตียงที่มีคีย์ยืนอยู่

                    “เมื่อวานที่นายดูเรียบร้อยเพราะวางแผนจะหนีฉันไปหาโซฮีใช่มั๊ย”ฉันก้าวเท้าลงมาจากปลายเตียงเผชิญหน้ากับคีย์ สาวเท้าลงมาอีกข้างกลายเป็นเราสองคนอยู่ใกล้กันมากคีย์ถอยหลังไปหนึ่งก้าวเว้นระยะห่างอัติโนมัติ

                    “...”

                    “ฉันยังไม่หายโกรธหรอกนะ ฉะนั้น...นายก็ควรจะทำตัวให้ดีหน่อยสิ”ฉันพูดเสียงเย็นพร้อมกับสาวเท้าเข้าไปหาคีย์อีกครั้ง และก็เป็นอย่างคาด เขาก้าวถอยหลังไปอีกก้าวด้วยเหมือนกัน

                    “ไหนๆ นายก็บอกว่าฉันเป็นผีแล้วจะบอกให้นะ ผีไทยเฮี้ยนมาก ถ้านายไม่อยากโดนผีจองเวรล่ะก็...”ฉันเดินเข้าไปชิดคีย์เรื่อยๆ และตอนนี้ร่างสูงก็ได้แนบหลังกับกำแพงแล้ว

                    “...”

    “ทำตัวนายให้ดีไว้เถอะ”ฉันเขย่งตัวขึ้นให้ใบหน้าเราสองคนอยู่ระดับเดียวกันโดยสองมือของฉันจับไหล่ทั้งสองข้างของเขาไว้เป็นการพยุงตัวเอง เฮ้อ ขอบ่นสักหน่อยเถอะ อาการปวดขาก็ยังไม่หายดี ยิ่งเขย่งก็ยิ่งปวด นายนี่จะสูงหาอะไรห๊า ลำบากใครล่ะทีนี้...ไอ

                    “ฉันฟังที่เธอพูดไม่รู้เรื่อง”คีย์ว่า แต่สีหน้าก็ยังคงหวั่นกลัวฉันอยู่ไม่น้อย

                    เพล้ง!! ความรู้สึกชาวาบด้วยหน้าแตกครอบคลุมฉันจนทำอะไรไม่ถูก

                    “ไม่รู้เรื่องก็ไม่รู้เรื่องสิ! นายนี่ชอบทำให้ฉันโมโหอยู่เรื่อยเลย”ฉันโวยวายใส่กลบเกลื่อน

    !!!”ร่างสูงตัวแข็งทื่อ คงตกใจและกำลังนึกอยู่สินะว่าเขาทำอะไรผิด(ทางด้านคีย์ : หรือว่ายัยผีโก๊ะโมโหหิว) ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็เขาทำให้ฉันหงุดหงิดนี่

    ฉันทิ้งตัวยืนเต็มพื้นพร้อมกับผละตัวออกจากเขา ฮูว์ ค่อยยังชั่ว ข้อขาช้าน

                    คีย์ขยับตัวออกมาจากผนังห้องเล็กน้อยพลางก้มมองฉันอย่างกล้าๆกลัวๆ

                    “เอาล่ะ ไปห้างฯกัน”ฉันพูดคีย์ที่มองมาอยู่แล้วเริ่มมีสีหน้าลำบากใจ

                    “ทำไมหรอ ต้องการอะไรเดี๋ยวสั่งในเน็ตก็ได้นะ ไม่ต้องเมื่อยขาด้วย”

    อ่ะ จริงด้วย ฉันปวดขาจะตาย

    งั้นไม่ไปก็ได้มั๊ง

    เมื่อได้ข้อสรุปของตนเองขึ้นมา ใจก็พลันไปคิดถึงเสียงหัวเราะของคีย์กับโซฮีเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ใช่แค่นั้น ร้อยยิ้มมิสโคเรียของยัยนั่นตอนถูกคีย์กอดเมื่อเช้าก็ฉายซ้ำไปซ้ำมาให้เจ็บใจอีก

                    “ใครว่าฉันจะเดินไป”ฉันว่ากับคีย์ที่มองลงมาอย่างสงสัย

    อ๊ายย!  นี่ฉันคิดอะไรอยู่ สายตาเหยี่ยวที่ดูมีเสน่ห์นั่นเมื่อแสดงสีหน้าแบบนี้แล้วน่ารักมากๆเลย ทำไมผู้ชายคนเดียวถึงมีครบทุกอย่างเลยนะ ทั้งหล่อและน่ารักในเวลาเดียวกันแบบนี้ จะว่าไปเรานี่รสนิยมดีเหมือนแฮะถึงภายในของนายนี่ออกจะติดลบไปสักหน่อย

    ยังโกรธไม่หายเลย กล้าทิ้งกันเพื่อไปหาผู้หญิงอ่ะ ทำอย่างกับฉันเป็นคนนอกอย่างนั้นแหละ

     

    คนนอกใช่สิ ตอนนี้เราเป็นแบบนั้นจริงๆ

    คนนอก...คนนอก...คนนอกสายตาอา ของเธอตั้งไกล...โฮกก!!!

     

    “งั้นก่อนไป ทานข้าวก่อนดีกว่า ฉันอุ่นอาหารให้เรียบร้อยแล้ว”

    ฉันพยักหน้าขึ้นลงอย่างเห็นด้วย

    ทันทีที่เราสองคนออกมาจากห้องนอนกลิ่นอาหารก็หอมอบอวนจนท้องไส้เริ่มควบคุมอาการหิวไม่อยู่ ฉันหิวมากจริงๆ แต่กลิ่นอาหารนี้ทำให้นึกถึงกลิ่นอาหารเมื่อเช้า

    นั่นคงเป็นอาหารฝีมือโซฮี

    ฉันหยุดฝีเท้าทันทีจนทำให้ร่างสูงที่ตามมาข้างหลังชนกับแผ่นหลังฉันเบาๆ

    “ไปทานอาหารที่ห้างฯแทน ฉันไม่ชอบไม่อร่อย”ฉันพูดกับเขาทั้งที่ยังหันหลังอยู่อย่างนั้น

    “เฮ้! เธอยังไม่ได้ลองชิมเลยนะรู้ได้ไง”คีย์แย้งขึ้นมา มันยิ่งทำให้ฉันหงุดหงิดจริงๆเลยให้ตายสิ!!

    ฉันหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับคีย์

    “บอกไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ไม่อร่อยก็คือไม่อร่อย อย่าเซ้าซี้นักได้มั๊ย?!”ฉันเว้นระยะไว้ก่อนจะเน้นอีกประโยคตามมา “แค่นี้ฉันก็ เกลียดนายจะแย่อยู่แล้ว”

    “...”

    “ไปแต่งตัวซะ ฉันจะนั่งรอตรงนี้”ฉันว่าพร้อมกับชี้มือไปยังตำแหน่งโซฟาโซนรับแขกบอกสถานที่ที่จะนั่ง คีย์เดินเข้าไปในห้องแต่โดยดี

    คำพูดนั้น คีย์จะรู้สึกอะไรมั๊ยนะ

    ไม่มีวัน คนอย่างนั้นไม่มีวันรู้สึกอะไรหรอก

     

     

    “คีย์”

    “อะไร”

    “นายไม่คิดว่ามันเด่นไปหรอ”

    เรามาอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงโซล ฉันถามคีย์แทบจะทุกสิบวินาทีด้วยซ้ำ ซึ่งเขาก็เงียบไปทุกครั้ง  คีย์อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ดูสุดแสนจะธรรมดาแต่บนหัวเขานะสิ ใส่วิคผมหยิกหยอยจนหน้ากลัว ไม่สิออกไปทางตลกมากกว่า แว่นกันแดดถูกสวมไว้โดยมีสันจมูกสวยนั้นรับน้ำหนัก เป็นการแต่งตัวที่ไม่ได้มีการมิกซ์แอนด์แมทช์เอาซะเลย

    ฉันที่ขี่หลังคีย์อยู่ วางมือตัวเองคล้องคอเขาไว้ ที่จริงจะเรียกว่าเกาะหลังคีย์จะดีซะกว่าเพราะคีย์ไม่หนักอะไรเลยด้วยซ้ำเขายังยืนตรงได้ตามปกติ ฉันก็มีน้ำใจนะอุตสาห์เปิดโหมดล่องหนให้เชียว(เปล่าหรอก...ใช้พลังจนหมดเวลาไปแล้วมั๊ง)

    เราเพิ่งออกมาจากร้านอาหารเกาหลีอย่างอิ่มสบายท้องสุดๆ ยิ่งไม่ต้องเดินอย่างนี้ยิ่งสบายเข้าไปใหญ่

    อิๆ มีความสุข

    มือของฉันยกขึ้นขยุ้มหัวคีย์อย่างมันเขี้ยวแต่มันก็กลับล่องหนออกไป

    ทำไมเวลาเผยตัวตนของตัวเองมันหมดไวจัง

    ตั้งแต่ตอนเจอกับโซฮีก็เหมือนกัน พลังหายแม้จะยังใช้ได้ไม่นานด้วยซ้ำ

     

    คีย์ยังคงเดินตรงไปข้างหน้าเรื่อยๆ โดยมีฉันเกาะร่างนั้นไว้

    “เธออยากได้อะไรบ้างล่ะ”

    “ครีมอาบน้ำ...แปรงสีฟัน...ยาสีฟัน พวกของใช้ประจำวันน่ะ”พูดไปพลางนึกไปพลาง

    คีย์พยักหน้าขึ้นลงรับทราบทำให้ผมหยิกสั่นไปมายิกๆ มันห่างจากหน้าฉันไม่ถึงมิลลิเมตร เห็นอย่างนี้แล้วอดขำไม่ได้จริง ฮ่าๆๆ

    คีย์พาฉันเดินไปนู่นไปนี่เพื่อตามล่าหาของที่ฉันต้องการ มีการเถียงกันบ้างแต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราวนัก ของใช้ต่างๆนาๆวางกองเรียงรายอยู่ในรถเข็น ตอนแรกคีย์ก็ถือเป็นตะกร้าแต่พอของเริ่มเยอะเข้าเจ้าตัวก็เริ่มจะไม่ไหว

    สำออยจัง

    ของที่ใส่ในนั้นก็ไม่ได้มีเยอะอะไรมากหรอก ก็มีแค่แชมพู ทรีทเม้นท์  ครีมอาบน้ำ โฟมล้างหน้า โทนเนอร์ ใยบวบ สกินฟู๊ด ลิปมัน เครื่องหนีบผม อาหารเสริม ผ้าอนามัย(ฉันต้องไฝว้กับเขาแทบตายถึงจะได้มา) หวี รองเท้า เสื้อผ้าบ้างอะไรบ้างกระจุกกระจิก มันก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่นี่จริงมั๊ย?

    “ฉันว่ายาสีฟันไม่ต้องซื้อหรอกที่คอนโดมี”คีย์ออกความคิดเห็นเมื่อเราเดินมาหยุดอยู่ที่ดงยาสีฟัน

    ชิ! ใครเขาอยากใช้ของร่วมกับนายกันเล่า

    “ฉันจะซื้อ”คีย์ไม่คิดจะเถียง

    หึๆ เพราะยังไงเขาก็ต้องตามใจไออยู่แล้ว

    “เธอชอบยี่ห้อไหน”คีย์ถาม ฉันจึงชะโงกหน้ามองกล่องยาสีฟันตราต่างๆที่วางเรียงกันเป็นตับทั้งที่ร่างทั้งร่างยังคงอยู่บนหลังคีย์ 

     (O.O)

    ฉันแสกนหายาสีฟันที่ใช่ผ่านการมอง เฟ้นหาหลอดที่ดีไซน์ได้สวยที่สุดโดยไม่คิดจะอ่านตัวหนังสืออะไรประกอบการตัดสินใจเลยสักนิด

    เอาอันนั้นดีมั๊ยนะ กล่องสีฟ้าๆ

    อันนี้ก็ดูดี สีเขียวน้ำทะเลก็สวยไปอีกแบบ

    “ห๊ะ?”คีย์ว่าขึ้นเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับพร้อมกับใบหน้าคมหันข้างมองมาที่ฉัน

    ฟอด!

    ปลายจมูกล่องหนของฉันจิ้มลงไปกับแก้มใสๆของคีย์อย่างไม่ได้ตั้งใจ  แม้จะไม่ได้สัมผัสกันแต่กลิ่นหอมอ่อนๆจากโฟมล้างหน้าก็ยังหอมฟุ้งติดจมูก

    ฉันถดใบหน้าตัวเองออกมาจากบริเวณนั้นทันทีที่รู้สึกตัว ร่างสูงก็เช่นกันเขาจัดการหันหน้าไปยังแผงยาสีฟันดังเดิม

    ได้แต่ก้มหน้างุดๆลงไปกับแผ่นหลังกว้าง ความร้อนผ่าวกัดกินใบหน้าใบหมด หัวใจที่เต้นรัวอย่างควบคุมไม่อยู่ยิ่งทำให้ฉันแทบอยากจะมุดหน้าแทรกแผ่นดินหนี

    นี่เราตกใจจนหัวใจเต้นรัวเลยหรอ (กัดฟันคิดสุดๆ)

     

    กลิ่นหอมอ่อนๆจากแก้มใสๆขาวๆของคีย์ยังติดอยู่ที่ปลายจมูกไม่หายเลยทำเอาฉันสั่นไม่น้อย นี่เราเป็นอะไร ไม่ได้หอมแก้มสักหน่อย

    ตึกตักๆๆๆๆ

    ความเงียบเข้าครอบงำเราทั้งคู่ แต่เสียงใจเต้นของฉันนี่สิ มารชัดๆ

    ตึกตักๆๆๆ

    เขาคงไม่ได้ยินหรอกใช่มั๊ย

     

     

    “หึๆ ไหนบอกว่าเกลียดฉันไง”น้ำเสียงเยาะเย้ยของคีย์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัด(ถ้าไม่นับเสียงหัวใจของฉันนะ)ว่าขึ้นมา เสียงนั่นฉุดฉันขึ้นมาจากห้วงความคิดของตนเองได้เป็นอย่างดี

     

    “...”

     

     

    “เธอหัวใจเต้นกับคนที่เกลียดได้ด้วยหรอ”

     

    !!!

     

     

    ใครก็ได้พาฉันไปเก็บที TTOTT…

     

     

     

     เหอะๆๆๆ มาอัพอีกตอนแล้ว ^O^  เหมือนเดิมน้า ขอกำลังใจช่วยเม้นช่วยไลค์เป็นกำลังใจให้ไรทืด้วยเด๊อะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×