ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You're my Key!!!

    ลำดับตอนที่ #4 : You're my Key!!! ตอนที่ 4 คนเลว

    • อัปเดตล่าสุด 30 มิ.ย. 57


                                                                                     4

     

    “ขอโทษนะ แต่หลังจากนี้...นายอยู่ไม่เป็นสุขจริงๆแล้วล่ะ”หลังจากฉันว่าจบคีย์ที่สีหน้ากังวลนั้นกลับหายวับไปในทันที ก่อนที่เจ้าตัวจะลอบหัวเราะออกมาเบาๆ

                “ขอบใจนะที่ยังขอโทษ เมื่อกี้ต้องการจะพูดว่าขอโทษใช่มั๊ย”

                นี่เขาเข้าใจไปเรื่องไหนเนี่ย หรือว่าเรากำลังคุยคนละเรื่องเดียวกัน??

                “คีย์...ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว ช่วยด้วยๆ”เมื่อรู้ว่าถึงจะพล่ามยาวอธิบายเหยียดขนาดไหนก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นจึงเปลี่ยนประเด็นคุยไปเป็นอีกเรื่อง

                “ผีหิวได้ด้วยหรอ”ฉันพยักหน้าหงึกๆพลางก้มหน้าลงมองท้องที่มีมือของตัวเองกุมมันอยู่ ก่อนจะฉุกคิดได้ว่า...

    “บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ผี!!!”เสียงที่แผดออกมาเล่นเอาคีย์พยักหน้าหงึกๆตอบรับด้วยท่าทีสลดอย่างเห็นได้ชัดจนฉันแทบจะลืมอาการเคืองเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้วไป เอ...ทำไมวันนี้เขาว่าง่ายจังนะ 

     

     

     

    ง่ำๆ

    ฉันนั่งกินขนมปังจากกล่องอาหารว่างที่คีย์เอามาให้ภายในห้องแต่งตัว

    น่าแปลกนะ ถึงพลังหนึ่งชั่วโมงจะหมดแต่ก็ยังกินอาหารได้อยู่ดี

    แต่ก็ไม่น่าแปลกเท่าคีย์ในวันนี้หรอก ไม่มีท่าทีกลัวฉันเลยสักนิด

     

     

    อุ๊ อาหารหมดแล้ว ยังไม่อิ่มเลยอ่ะ

     

     

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                   

    ก๊อกๆ

    เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ฉันต้องเสมองที่ประตูทางเข้า ร่างสูงโปร่งก้าวเข้ามาพร้อมส่งยิ้มบางๆมาให้ ในมือถือกล่องของว่างมาอีกกล่องหนึ่ง

    “คือ...คิดว่าเธอน่าจะอยากได้อีกสักกล่อง”คีย์ว่าก่อนจะเดินเข้ามาวางกล่องอีกกล่องไว้เบื้องหน้าฉัน “ยังไม่ได้ทานอีกหรอ”คีย์ถามปรายตามองกล่องที่อยู่บนพื้นข้างๆฉัน ก่อนจะมองกล่องของว่างข้างๆฉันอีกข้างที่เปิดอ้าไว้ทำให้เห็นกล่องที่มีแต่ซากพลาสติกใสยับยู่ยี่ลักษณะเป็นสีใสกว่าและจางกว่ากล่องที่เขาทักไป

    ต้องให้บอกมั๊ยว่ามันคือกล่องเดียวกัน

    “...”ฉันไม่ตอบแต่ยกกล่องน้ำผลไม้ในมือมาดื่มพลางส่งสายตาเป็นนัยๆว่า ก็กินอยู่นี่ไง

    คีย์พยักหน้าเข้าใจเบาๆ ก่อนจะก้มตัวลงวางกล่องในมือลงตรงหน้าฉันที่นั่งอมหลอดอยู่เงียบๆ เขายกยิ้มให้เมื่อใบหน้าเจ้าตัวอยู่สูงกว่าฉันไม่กี่คืบ

    สายตาเราสบประสานกันอีกครั้ง

    หนึ่ง...วินาที

    รอยยิ้มบางๆ บนริมฝีปากบางสีอ่อน

     

    สอง...วินาที

    ดวงตาสีดำสนิทที่ฉายแววขี้เล่นน้อยๆอย่างที่เคยเห็น...แต่ในจอ

     

    สามวินาที...

    ถ้าหากอุบัติเหตุในวันนั้นไม่ได้เกิดขึ้น เราจะอยู่ใกล้กันขนาดนี้ได้มั๊ยนะ

    ฉันหลุบตาต่ำมองกล่องอาหารว่างเพื่อหลบสายตาของคนตรงหน้าที่ยิ้มมาแต่ไม่รู้ทำไมกล่องถึงกลายเป็นภาพรอยยิ้มของคีย์ที่เพิ่งเห็นมาเมื่อครู่ มือจึงเผลอกำกล่องน้ำผลไม้แน่นอย่างลืมตัวจนกล่องนั้นบิดเบี้ยว

    ไม่ได้! ...เราต้องเกลียดเขา

     

     

     

     

                แชะๆๆๆ

                “ดีครับ

                อย่างงั้น

    ใช่”

    เสียงตากล้องพูดพร้อมกับรัวชัตเตอร์ไปที่ร่างสูงโปร่งในชุดสูทแฟชั่น คีย์กำลังโพสต์ท่าไปเรื่อยๆ บางครั้งก็เต้นไปบ้าง ทำสีหน้าออดอ้อนบ้าง สีหน้าเข้มบ้าง แต่ไม่ว่าจะแสดงสีหน้าไหนก็หล่อลากไส้หมดล่ะ

    “โอเค เยี่ยม เสร็จแล้วครับ”

    คีย์ยกยิ้มน้อยๆออกมา โค้งให้ทีมงานสองสามที และตรงเข้ามาดูผลงานตัวเองในจอภาพ สักพักก่อนจะขอปลีกตัวออกมา

    ฉันเดินตรงรี่เข้าไปขวางทางคนตัวสูง แล้วก็...
    ฟิ้วว..

    เขาเดินทะลุผ่านฉันไป นี่ฉันต้องโทษส่วนสูงตัวเองอีกมั๊ยนะ เฮ้อ...

    ฉันมองไหล่กว้างของร่างสูงตรงหน้า ราวกับว่าเจ้าตัวจะรู้สึกถึงรังสีบางอย่างจึงเหลียวหลังหันกลับมา คีย์ยิ้มให้บางๆก่อนจะหันหลังกลับไปที่เส้นทางเดิน

    นี่เขาคิดว่าฉันขวางทางหาเด็ดพ่อหรือไงคะ ไม่สนใจกันเลยนะแหม่

    ฉันถอนหายใจออกมาแรงๆ วันนี้เขาดูมึนๆแฮะ เมื่อวานยังเถียงกันเป็นไฟไหม้อยู่เลย ฉันตั้งใจสาวเท้าเตรียมจะเข้าไปหาเขา แต่คีย์ก็ได้หายเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องนั้นเรียบร้อยแล้วถ้าจะให้พาตัวเองเข้าไปตอนนี้คงไม่เหมาะ อยากบอกว่าไม่มีแรงต้านทานความเซ็กซี่ของผู้ชายขืนไปมีหวังเลือดกำเดาพุ่งกระฉูด คิดได้ดังนั้นฉันจึงจัดการโยนตัวเองลงนั่งที่มุมหนึ่งในสตูดิโอเป็นการรอคีย์ สายตาทอดมองออกไปยังสถานที่ตรงหน้า ไม่ว่าจะยังไงฉันก็ต้องยอมรับสินะว่าเราไม่ได้ฝันไป

    ระหว่างที่นั่งคิดอะไรเพลินๆ ฉันก็รู้สึกถึงแรงดึงดูดที่นำพาให้ร่างฉันเริ่มลอยขึ้น คีย์กำลังคิดถึงฉันอีกแล้วหรอ จะว่าไปเขากำลังเปลี่ยนชุดอยู่หนิ ถ้าให้ฉันต้องไปเจอภาพนั้นคงเป็นอะไรที่ไม่ดีนักหรอก ก็บอกแล้วไงว่าความเซ็กซี่ของผู้ชายเนี่ย ด่านปราบเซียนสำหรับหญิงสาวพราวเสน่ห์อย่างฉันเลย  ฉันจัดการรั้งร่างตัวเองไว้แล้วตั้งสติให้มั่น

    ไม่ไป”ว่าจบทุกอย่างก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม สายตาเริ่มมองออกไปยังผู้คนที่เริ่มทยอยกันออกจากสตูดิโอกันแล้ว เหลือทีมงานบางคนที่กำลังเก็บของกันอยู่

    แอ...นี่เวลาก็ผ่านมาได้สักพักแล้วนะ ทำไมคีย์ยังไม่ออกมาจากห้องแต่งตัวอีก ผู้ชายอะไรแต่งตัวนานชะมัดยาด ไม่เห็นใจคนรอเลยหรือยังไงกัน ถ้าอีกสิบนาทีไม่ออกมานะคีย์ นายตายแน่

     

    สามสิบนาทีผ่านไป...

    ฉันจ้องมองบานประตูอย่างไม่วางตา ก่อนที่จะนำพาร่างของตัวเองมุ่งไปยังห้องนั้น พลางทะลุเข้าไปด้านในทันที

    ภาพที่เห็นนำมาซึ่งความโกรธ หงุดหงิดใจ

    ใช่! มากด้วย!!

    ห้องนี้ว่างเปล่า ไม่มีร่างใหญ่ที่ไหนสิงอยู่ในห้องนี้เลย ฉันไม่แม้แต่จะเดินหา ก็ห้องมันเล็กอย่างนี้ร่างขนาดเท่าควายป่าอย่างเขานะไม่มีทางจะซ่อนตัวได้เลย ทันใดนั้นก็ฉุกคิดไปถึงเรื่องยัยปากอาบยาพิษที่เพิ่งคุยกับคีย์เมื่อช่วงสายของวัน  

    ฮึ! ป่านนี้คงกำลังช่วยกันทำอาหารกันอยู่ในคอนโดล่ะสิ ขอให้อร่อยละกัน เพราะฉันคนนี้จะทำให้มันเป็นอาหารมื้อสุดท้ายที่นายจะได้ทานร่วมกับัยยปากยาพิษ และเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเหมือนกันที่ความรักน้ำเน่าพรรค์นั้นจะเบ่งบาน ฉันกำมือตัวเองแน่น บอกเลยว่าตอนนี้โกรธ โกรธมาก เจอกันเมื่อไหร่ฉันฆ่านายแน่

    โทษฐานอะไรน่ะหรอ

    ก็เขาหนีฉัน

    คีย์ทิ้งฉัน!!

     

     

     

    ฉันนั่งรอคีย์ในสตูดิโอเหมือนเดิม หวังว่าแรงดึงพวกนั้นจะกลับมาดึงฉันไปหาคีย์บ้าง ความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนจากอาการหิวที่ท้องนั้นเป็นตัวบ่งบอกเวลาได้ดีทีเดียว

     

    เย็นแล้วสินะ

     

    ตอนแรกยอมรับว่าฉันคิดว่าเขาคงไม่ปล่อยให้ฉันต้องรอเขาจนดึกดื่นหรอก แต่ฉันคิดผิด แม้แต่แรงดึงที่หวังว่าจะพาไปหาเขายังไม่มีมาเลย คงมีความสุขกันมากล่ะสิท่า ทิ้งคนอื่นไว้ข้างหลังอย่างนี้มีความสุขมากใช่มั๊ยคีย์

     

    เสียงเครื่องดูดฝุ่นของเหล่าพนักงานทำความสะอาดเริ่มทำงานและมันดังกระหน่ำเต็มสองรูหู

    เฮอะ! ฉันรอเขามานานจริงๆ และตอนนี้จะไม่รออีกต่อไปแล้ว ฉันสาวเท้าออกมาจากสตูดิโอในที่สุด เผยให้เห็นสภาพแวดล้อมภายนอกท้องฟ้ามืดสนิท มันชั่งไม่คุ้นตาเอาซะเลย อากาศหนาวที่มาพร้อมกับลมแรงปะทะเข้าร่างกายจนสั่นเทาไปหมด ความหิวกัดกินกระเพาะตัวเองจนปวดแสบปวดร้อนยิ่งทวีความเพลียเข้าไปอีก ถนนหนทางที่นี่ก็ไม่เคยเห็น ปลายทางที่ตัวเองจะไปยังไม่รู้เลยว่าอยู่ที่ไหน

    เดี๋ยวนะ คอนโดเขาเท่าที่จำได้มันอยู่ใกล้กับตึกค่ายXXนี่

    คิดได้ดังนั้นฉันจึงสาวเท้าเข้าไปหาคนที่ใกล้ตัวที่สุด

    ขอโทษนะคะ ฉะ...”ฉันเดินตรงรี่ไปขวางหน้าผู้หญิงคนหนึ่งไว้เพื่อถามทาง แต่ยังไม่ทันพูดอะไรได้มาก ร่างเพรียวนั้นก็เดินผ่านทะลุฉันออกไป  

    ไอกูๆ

    ลืมไปได้ยังไงนะเรา ไม่มีใครเห็นตัวตนฉันได้นอกจากคีย์นี่นา

    ดีจริงชีวิต เฮอะ! เคยรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวไหม เมืองใหม่ๆสถานที่ใหม่ๆ ความงดงามใหม่ๆ แต่ทำไมยิ่งมองมันยิ่งรู้สึกอ้างว้างได้ขนาดนี้นะ ฉันสาวเท้าเดินตรงไปข้างหน้าเรื่อยๆ เลี้ยวลัดเลาะไปตามทาง ความปวดที่อวัยวะส่วนล่างแล่นพล่านจนต้องนั่งพัก ฉันเสมองขึ้นไปชมความสวยงามของกรุงโซลที่แสนจะว่างเปล่าในความรู้สึกของฉัน  แขนสองข้างโอบรัดร่างกายตัวเองไว้สร้างความอบอุ่นแต่ความหนาวเหน็บก็จางหายไปไม่เท่าไหร่นัก

    แต่กระนั้นความเจ็บใจมันมีมากกว่า

    รอแล้วรออีก

    “เมื่อไหร่เขาจะคิดถึงฉันนะ”

    ความหนาว ความเมื่อยล้ากัดกินไปทุกอนุของร่างกายจนต้องพาตัวเองเข้ามาในร้านจัดดอกไม้เล็กๆก่อนจะมองนาฬิกาเรือนสวยภายในร้านที่บ่งบอกเวลาเหยียดเที่ยงคืน

    โฮ่งๆ

    เสียงหมาชิสุตัวเล็กขนยาวเห่าเสียงเล็กเจือยแจ้วทันทีที่ฉันนั่งลงเก้าอี้ภายในร้าน

    นี่ฉันคิดไปเองหรือว่าหมาน้อยขนยาวลากพื้นเห็นฉันจริงๆ

    ไม่นานหมาน้อยตัวนั้นก็คลืบคลานเข้ามาหาพร้อมกับดมกลิ่นรอบๆตัวราวกับกำลังสำรวจ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจเจ้าตัวน้อยก็ทิ้งตัวลงเบื้องหน้าฉันพลางหายใจถี่ๆแลบลิ้นออกมา มองตาฉันทั้งที่เจ้าตัวกำลังก้มหน้าแนบกับพื้น จนกระทั่งหัวจุกน้อยๆของมันแนบติดกับพื้นเรียบร้อยก็ยังจ้องมองมาที่ฉันไม่วางตาอย่างสงสัยก่อนที่มันจะหลับตาลงในที่สุด

    เอ๋ เจ้าตัวนี้

    “นี่ เห็นฉันหรือเปล่า”ว่าพลางดีดนิ้วไปที่ข้างหูของตัวเล็ก หูของมันขยับตามเสียงอย่างที่คาดไว้

    นั่นไง มันได้ยินฉันอ่ะ

    “เจ้าตูบ...ได้ยินฉันมั๊ย”

    มันเหลือบตามามองแล้วหลับต่ออย่างไม่ใส่ใจ

    “ย่า! ตูบอ่า เจ้านายหายไปไหนอ่ะ ในนี้ไม่มีใครอยู่เลยนะ”

    ว่าพลางวางมือลงบนขนนุ่มๆของมัน ปากก็เลียริมฝีปากที่แห้งผากจากการขาดน้ำของตัวเองแก้ขัด มันจะรู้สึกมั๊ยนะว่าฉันกำลังลูบมันอยู่

    “โดนทิ้งเหมือนกันหรอ  เหงาล่ะสิ แต่ที่นี่ก็แปลกนะ เที่ยงคืนแล้ว ยังไม่ปิดร้านอีกล่ะ ที่ฉันเข้ามาก็เพราะมันเปิดสว่างจ้าอยู่ท่ามกลางร้านไม่กี่ร้านที่เปิดอยู่นั้นแหละ ยิ่งปลอดคนอีกด้วย นี่เป็นโชคชะตาให้เราได้เจอกันรึเปล่านะ”

    zzZ

    “อีกอย่างถ้าไม่มีดอกไม้ในนี้ฉันก็จะไม่เข้ามาเหมือนกันนะเนี่ย เจ้านายรับจัดดอกไม้หรอ ฉันชอบดอกไม้ที่สุดเลย รู้มั๊ยฉันเคยฝันเห็นคีย์ถือดอกไม้มาให้ด้วยล่ะ.......ฮ่าๆๆ ฉันเพี้ยนใช่มั๊ย”

    อ๊า พลาดท่าซะแล้วฉันไปนึกถึงคนแบบนั้นเพื่ออะไรกันนะ

    zzZ

    “อะไรกัน หลับท่าเดียว”ฉันบ่นกับร่างเล็กขนยาวน้อยๆ อากาศภายในร้านนี้อุ่นกว่าข้างนอกมาก แต่ก็ยังไม่หายหนาวอยู่ดี “หิวจัง หิวน้ำด้วย ตูบหิวมั๊ย”

    ฉันย้ายตัวเองลงไปนั่งในระดับเดียวกันกับเจ้าตูบก่อนที่มันจะขยับเข้ามาชิดฉันอย่างรู้งาน มือของฉันเอื้อมไปลูบตัวของมันโดยอัติโนมัติ กลิ่นหอมอ่อนๆจากดอกไม้พาให้จิตใจสงบขึ้น

    ขนาดหมายังไม่ใจร้ายเท่าคีย์เลย มือก็ลูบขนนุ่มนิ่มของตูบน้อยขึ้นลงอย่างเบามือ

    “คีย์อ่า...”

    ไม่แม้แต่จะ นึกถึงฉันเลยหรอ

    อุตสาห์อดทนเดินมาหลายชั่วโมงเพราะคิดว่าจะต้องเจอคอนโดคีย์แน่ สุดท้ายอาการเพลียก็บังคับให้ตัวเองมานั่งคุยกับหมาอยู่แบบนี้

    ผู้ชายคนเดียวที่ฉันรู้จักในโลกอันแสนโดดเดี่ยวนี้กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย...  

     

     

    “คนเลว”







    ใครกันนะ คิดว่าเราจะทอดทิ้งเรื่องนี้  หุๆๆ เป็นไปไม่ได้หรอก ^+++++++^
    หายไปนาน...ไม่มีเวลาปั่นเลย กิจกรรมของไรท์เยอะมากเอาเป็นว่าจะพยายามมาอัพบ่อยๆนะ
    กด Fav คอมเมนต์เป็นกำลังใจให้นักเขียนบ้างเน้อ เจอกันในตอนต่อไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×