ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียนำโชค

    ลำดับตอนที่ #70 : เจ็บปวดแต่ไม่อ้างว้าง 4

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21.55K
      1.37K
      16 ต.ค. 63



    ...หน้าที่...คำนั้นคือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด

    ทว่าความเงียบที่ทำให้ได้ยินเสียงน้ำไหลจากฝักบัว เสียงคนในห้องน้ำหยิบจับนั่นนี่ ก่อให้เกิดความรู้สึกแสนประหลาด คล้ายว่าการได้รับรู้ความเคลื่อนไหวของใครอีกคน กำลังบ่งบอกถึงชีวิตที่ไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป และกำลังสร้างความคุ้นเคยให้เขาสัมผัสถึงคำว่า...ชีวิตคู่

    เพ้อเจ้อ... ชายหนุ่มพึมพำต่อว่าตัวเองเบาๆ แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อ

    เพียงไม่นานเด่นดวงก็ออกมาจากห้องน้ำในสภาพสวมเสื้อยืดกับกางเกงผ้าขายาวอันหมายถึงชุดนอน และโอฬารคงจะไม่สนใจ ถ้ากลิ่นสบู่ กลิ่นแป้งจากตัวเธอจะไม่ตลบอบอวลไปทั่วอากาศเย็นฉ่ำภายในห้องนอนแคบๆ ของเธอจนทำลายสมาธิเขา

    ทว่าเด่นดวงคงจะไม่รู้ตัว เธอเดินไปหยิบกระเป๋าเดินทางขนาดกลางข้างตู้เสื้อผ้ามากางออก จัดเก็บเสื้อผ้าที่มีไม่มากนักพับใส่ลงไป ก่อนจะหยิบของใช้จำเป็นอีกเล็กน้อยใส่ตาม และสิ่งสุดท้ายคือกรอบรูปสองรูป รูปแรกเป็นรูปรวมครอบครัว อีกรูปคือรูปที่เธอถ่ายกับบิดาสองคน

    โอฬารแอบมองคนที่นั่งหันหลังให้บนพื้นเงียบๆ เห็นเธอเก็บรูปรวมใส่กระเป๋า แล้วจ้องรูปคู่นานเป็นพิเศษ กระทั่งได้ยินเสียงสูดน้ำมูก ชายหนุ่มจึงรู้ว่าเธอคงกำลังร้องไห้

    ความตั้งใจทำงานอย่างไร้กำหนดเวลาหยุด ถูกเปลี่ยนไปทันที เขาจัดการเซฟงานและปิดโน้ตบุ๊กเก็บใส่กระเป๋าพร้อมกับเอกสารและแฟ้มทั้งหมดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ จากนั้นลุกยืนบิดตัวคลายอาการปวดเมื่อยเล็กน้อย หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาเบญจภัทร

    Yak : เป็นไงบ้าง

    เขาตกลงกับเบญจภัทรไว้ว่า ให้ผู้ช่วยหนุ่มหาที่พักแถวนี้ เพื่อดูลาดเลาว่าธิเบตมาทำอะไร และจะอยู่นานแค่ไหน การที่เขาปล่อยให้เวลาผ่านมาถึงสามวันหลังจากได้รู้ฤกษ์ยกน้ำชาถึงค่อยมาหามารดาของเด่นดวง เพราะอัศวินต้องการปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แม้แต่คนในครอบครัวก็ยังไม่มีใครรู้ เพื่อป้องกัน งานล่ม โอฬารเห็นด้วยกับคนเป็นปู่ แต่ไม่คิดว่าธิเบตจะกล้าถึงขนาดมาวนเวียนแถวนี้

    Pat : ยังไม่มีอะไรเคลื่อนไหวครับ ธิเบตยังจอดรถที่เดิม และไม่ได้ลงมา คุณยักษ์ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะเฝ้าไม่ให้คลาดสายตา

    Yak : อืมม์ ขอบใจมาก

    จบการสนทนากับผู้ช่วยแล้วถือโทรศัพท์ไปวางไว้บนโต๊ะตัวเล็กข้างหัวเตียง ทิ้งตัวลงนอนตะแคงฝั่งที่ตกลงว่ายกให้เป็นส่วนของเขาในคืนนี้ หันหลังให้คนที่นั่งบนพื้นอยู่อีกฝั่งของเตียงโดยไม่พูดอะไร

    เมื่อรู้สึกว่าโอฬารนอนเรียบร้อยแล้วเด่นดวงก็เก็บรูปใส่กระเป๋าปิดสนิท เลื่อนไปวางไว้ข้างตู้ จ้องมองมันอีกครู่ก่อนจะสูดหายใจเข้าเต็มปอด เรียกความกล้าเรียกพลังให้ตัวเองแล้วปิดไฟนีออนเหลือเพียงโคมไฟตัวเล็กข้างหัวเตียงฝั่งเธอ ค่อยๆ เดินไปทิ้งตัวลงนอนตะแคงหันหลังให้อีกคนตรงฝั่งของตัวเอง

    เกิดมาจนอายุยี่สิบสองปีเธอไม่เคยนอนร่วมเตียงกับผู้ชายคนไหนเลยนอกจากบิดา ความรู้สึกที่ได้นอนร่วมเตียงกับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นว่าที่สามีเป็นครั้งแรกจึงแปลกๆ ผสมตื่นเต้นไม่น้อย หากสิ่งที่เธอกำลังโฟกัสไม่ใช่เรื่องเขา แต่เป็นเรื่องที่เธอจะต้องจากบ้านหลังนี้ไปจริงๆ

    บ้าน...ที่เคยเป็นวิมานแสนสุขของเธอ เคยมีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ มีพ่อ มีแม่และพี่สาว เคยมีอ้อมกอด ความรักห่วงหาอาทรต่อกัน มีความผูกพันมากมายมาตลอดยี่สิบกว่าปี

    แต่นับจากพรุ่งนี้...เธอจะกลายเป็นคนอื่นสำหรับบ้านนี้เสียแล้ว

    แค่คิดก็ใจหาย แค่คิดก็เจ็บปวด น้ำตารินไหลอย่างห้ามไม่อยู่...ถ้าวันนี้ยังมีบิดา เธอคงได้เข้าร่วมพิธียกน้ำชาโดยไม่ขาดญาติผู้ใหญ่อย่างแน่นอน ยิ่งคิดร่างเล็กยิ่งสั่นสะท้าน กระนั้นเธอก็พยายามเก็บกลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่ให้รบกวนคนที่นอนอยู่ด้านหลัง

    เธอไม่มีหมอนข้างเหรอ? จู่ๆ เสียงคนด้านหลังก็ถามขึ้น เด่นดวงยกมือขึ้นเช็ดน้ำมูกน้ำตา กระแอมกระไอปรับเสียงให้ปกติมากที่สุด

    ไม่มีค่ะ ถึงอย่างนั้นเสียงของเธอก็ยังฟังออกชัดว่าคัดจมูก คุณอยากได้เหรอคะ

    อืมม์ ไม่มีหมอนข้างเหมือนจะนอนไม่หลับ

    แล้วทำไมไม่บอกให้คุณภัทรเอามาให้ด้วยละคะ

    ลืม เขาตอบสั้นๆ เด่นดวงระบายลมหายใจออกยาว ยกหัวขึ้นแล้วดึงหมอนที่ตัวเองหนุนอยู่ออกมา พลิกตัวมาหาเขาก่อนเอ่ยบอก

    เอาหมอนฉันไปกอดก็ได้ค่ะ

    ชายหนุ่มพลิกตัวกลับมามองเธอด้วยสายตาเรียบนิ่งเหมือนทุกที หากคราวนี้เด่นดวงกลับลมหายใจสะดุด หลุบตาไม่กล้ามองเขา

    ถ้ายกหมอนให้ฉันแล้วเธอจะหนุนอะไร

    ไม่หนุนก็ได้ค่ะ ฉันนอนหลับ

    ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากเอาเปรียบเธอ เขาคว้าหมอนมาแล้วยกหัวเธอขึ้น จัดการสอดมันกลับไปใต้ศีรษะเล็กตามเดิม แล้วทำในสิ่งเด่นดวงไม่คาดคิด

    นั่นคือคว้าตัวเธอมากอดไว้แน่น...แน่นจนใบหน้าของเธอซุกจมอยู่กับอกเขา

    ฮึก!” หญิงสาวตกใจพูดไม่ออก ตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ กระทั่งได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้นและลมหายใจอุ่นจัดที่รดอยู่เหนือขมับ จึงพยายามจะดันตัวไปด้านหลัง

    แค่ยืมเป็นหมอนข้าง ไม่ได้จะทำอะไรหรอกน่า และฉันมีปัญหาแค่เรื่องหมอนข้างเท่านั้น เรื่องเสียงหรืออื่นๆ ไม่มีปัญหา ถ้าเธอร้องไห้ทั้งคืนฉันก็นอนหลับได้

    พอได้ยินเขาพูดอย่างนั้นร่างเล็กก็หยุดขยับโดยฉับพลัน และอ้อมแขนแข็งแรงที่รัดแน่นเมื่อสักครู่ก็คลายออกเหลือเพียงโอบไว้หลวมๆ แต่เด่นดวงกลับไม่ดิ้นรนถอยหนี หนำซ้ำยังกดหน้าไปบนอกเขาแน่นขึ้น ปล่อยให้น้ำตารินไหล และร่างกายสะท้านไหวด้วยแรงสะอื้นอย่างเต็มที่

    โอฬารรู้ว่าตัวเองปลอบใครไม่เก่ง เขาไม่รู้ว่าต้องใช้คำพูดดีๆ คำไหนในการพูดกับใครสักคนให้รู้สึกดีจากเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่สาหัสถึงขนาดทำให้คนๆ นั้นบอบช้ำได้ แม้กระทั่งสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ก็ไม่เคยทำกับใคร ไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่ามันจะได้ผลหรือไม่

    แต่ก็ทำไปแล้ว...ทำไปโดยสัญชาตญาณดิบแบบไม่ทันได้คิดวางแผนใดๆ ทั้งสิ้น

    เด่นดวงเองก็ไม่รู้ว่าเขาทำแบบนี้ทำไม แต่แค่มีใครสักคนโอบกอดเธอไว้ยามที่ใจกำลังอ่อนแอ แค่ใครสักคนที่ยอมให้เธอได้ปลดปล่อยความเศร้าออกมาโดยไม่ต้องพูดอะไร

    แค่ไออุ่นที่โอบเธอไว้ไม่ให้อ้างว้างหรือเจ็บปวดตามลำพัง แค่นั้นก็พอแล้ว...ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลอะไรมารองรับเลย...


    ++++++++++++++++++++++++

    เตรียมชุดแดงเข้าพิธียกน้ำชากันได้เลยค่ะ  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×