ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียนำโชค

    ลำดับตอนที่ #67 : เจ็บปวดแต่ไม่อ้างว้าง 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 20.74K
      1.21K
      15 ต.ค. 63



    เจ็บปวดแต่ไม่อ้างว้าง

     

              หลังจากสรุปได้ว่าจะจัดพิธียกน้ำชาให้เร็วที่สุด ฤกษ์ที่ได้มาก็คือหลังจากวันนั้นเพียงห้าวัน เร็วจนโอฬารตกใจ ถามอัศวินว่านั่นคือฤกษ์สะดวกหรือฤกษ์ดี คำตอบที่ได้คือทั้งสองอย่าง เพราะซินแสหวังบอกว่าระหว่างเขากับเด่นดวง จะยกน้ำชาวันไหนก็เป็นวันดีทั้งสิ้น

    เรื่องที่หาข้อสรุปเรื่องต่อมาคือการให้เด่นดวงลาออกจากงานมินิมาร์ท คนที่ดีใจที่สุดเห็นจะเป็นนลิน ความจริงจะเรียกว่าดีใจก็อาจไม่ใช่เสียทีเดียว มันเป็นความโล่งใจเสียมากกว่า เพราะเอาจริงๆ นลินไม่ได้เกลียดเด่นดวงเข้ากระดูกดำ เพียงแค่เธอไม่อยากซวยก็เท่านั้นเอง

    และตลอดสามวันที่ผ่านมาโอฬารยังคงมารับเด่นดวงไปทำงานและกลับมาส่งที่บ้านด้วยแท็กซี่และรถสาธารณะทุกวัน ทว่าเป็นสามวันที่เด่นดวงรู้สึกอึดอัดอย่างที่สุด เนื่องจากเขามาใช้ห้องพักพนักงานเป็นออฟฟิศชั่วคราว หากสิ่งที่ทำให้เธออึดอัดไม่ใช่การที่เขามานั่งเฝ้า แต่เป็นใบหน้าที่เรียบเฉยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความมึนตึงอย่างไร้สาเหตุ

    วันนี้ชายหนุ่มมาในชุดกึ่งทางการคือเสื้อยืดโปโลเนื้อดีสีขาวสะอาดตากับกางเกงยีนขายาวสีเข้มและรองเท้าผ้าใบ เนื่องจากหลังเด่นดวงเลิกงานเขาจะเข้าไปคุยกับมารดาของเธอเรื่องพิธียกน้ำชา ทั้งที่เด่นดวงบอกว่าไม่ต้องเขาก็ไม่ยอม เธอเลยขอแค่อย่าให้เขาแต่งตัวเหมือนทุกวัน เพราะเมื่อคุยกับมารดาและพี่สาวแล้วโดนดูถูกกลับมา หญิงสาวก็ตัดสินใจว่ายังไม่อยากให้ทั้งสองคนรู้ฐานะที่แท้จริงของเขาในตอนนี้ ส่วนเหตุผลที่บอกกับโอฬารคือเธอไม่อยากให้เขาเป็นจุดสนใจของคนแถวนั้นมากเกินไป

    ว่าที่สามีแกเนี่ย ขนาดแต่งตัวธรรมดายังอ่อราโดดเด่นเป็นบ้าเลย เบญจาเข้ามากระซิบกระซาบกับคนที่กำลังจัดของเข้าเชลฟ์ เด่นดวงทำหน้ามุ่ยไม่ตอบว่าอย่างไร ทะเลาะกันเหรอ ฉันเห็นแกทำหน้าเหมือนจะตายมาสามวันแล้ว ส่วนคุณยักษ์ก็เหมือนรูปปั้นไม่มีผิด

    ถ้าทะเลาะก็ดีสิ ฉันจะได้รู้ว่ามันเพราะอะไร

    อ้าว แล้วเกิดอะไรขึ้นอ่ะ เบญจาพลอยทำหน้างงไปด้วย

    ฉันก็ไม่รู้ เขาดูแปลกๆ หลังจากวันที่ฉันไปหาแกที่ห้องแล้วล่ะ

    แล้วทำไมแกไม่ถามไปตรงๆ เลยล่ะ เบญจาถามกึ่งแนะ

    ดูหน้าเขาสิ ดุขนาดนั้นใครจะกล้า

    อะไรกัน นี่ยังไม่ทันแต่งงานก็หงอ กลัวสามีซะแล้วเหรอ อีเด่นวัดปิดจอมซ่าไปไหนซะแล้ว ไม่ได้นะเสียชื่อแย่ แกต้องกล้า ต้องถาม จะได้เคลียร์กัน คุณยักษ์เขาเป็นคนไม่ค่อยพูด ขืนรอเขาทั้งชาติคงไม่ได้คุยกัน

    ก็ฉันไม่รู้ว่าเขาโกรธเรื่องอะไร ไม่รู้จะเริ่มยังไงนี่

    เขาอาจไม่ได้โกรธก็ได้ แกน่าจะถามด้วยความห่วงใย เผื่อเขาแค่เครียดเรื่องงานไง อย่าคิดเยอะ ถามๆ ไปเถอะ เข้าใจ๊ เบญจาบอกแล้วเดินไปจัดของเชลฟ์อื่นต่อ เด่นดวงเลยได้แต่ถอนหายใจ

    หลังเลิกงานโอฬารเลือกใช้บริการแท็กซี่เพื่อจะได้ต่อเดียวถึงบ้านของเธอเลย เขาอยากคุยให้เสร็จเรียบร้อยแล้วกลับคอนโดไวๆ ใช่ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังเป็นจะมีแต่เด่นดวงที่อึดอัด เขาก็อึดอัดเต็มทนเหมือนกัน

    ความจริง คุณไม่ต้องไปคุยกับแม่ก็ได้นะคะ ฉันบอกแล้วว่า... คนนั่งเงียบมาตลอดทางหันมามองเธอนิ่งๆ แววตาห่างเหินจนเธอหมดความอดทน คุณโกรธอะไรฉันก็บอกมาสิคะ เย็นชาแบบนี้ฉันทำตัวไม่ถูกนะ มีอะไรก็บอกมาตรงๆ ฉันจะได้รู้และแก้ไขถูก การโกรธแล้วไม่พูดเขาเรียกว่างี่เง่านะคะ ประโยคสุดท้ายเสียงอ่อยลงเล็กน้อย

    นี่!” โอฬารนึกฉุนขึ้นมากับการโดนคนทำผิดแล้วยังไม่รู้ตัวต่อว่า เขาอยากพูดออกไปเหมือนกัน แต่ก็กลัวว่าการพูดนั่นแหละที่จะทำให้ตัวเองดูงี่เง่าขึ้นมาจริงๆ สุดท้ายจึงเลือกเงียบและเมินมองไปนอกกระจกรถ

    ทั้งคู่เงียบกันมาจนกระทั่งรถจอดหน้าปากซอย จ่ายเงินแล้วลงจากรถเดินเข้าซอยเงียบๆ คนแถวนั้นคุ้นหน้าคุ้นตาเด่นดวงเป็นอย่างดี บางคนก็รู้จักเธอด้วยแม้จะไม่สนิทสนมแต่ก็พอจะทักทายกันได้ ทุกสายตามองมายังชายหนุ่มร่างใหญ่รูปลักษณ์โดดเด่นด้วยแววตาสอดรู้สอดเห็น

    นี่ขนาดแต่งตัวธรรมดาแล้วนะ ยังโดนมองขนาดนี้เลย หญิงสาวพึมพำเบาๆ แต่คนเดินเคียงได้ยินชัดเจน เขาหยุดเดินจนเธอต้องหยุดตาม พอหันไปมองถึงได้เห็นว่าเขากำลังมองตรงมาด้วยแววตาที่สามารถทำให้เธอหายใจไม่ออกได้เลยทีเดียว

    ต้องแต่งตัวซอมซ่อขนาดไหน คนถึงจะไม่มอง เธอถึงจะไม่อึดอัด ทีไอ้โตมารับ แต่งตัวจัด ขับรถหรูขนาดนั้นเธอไม่เห็นอึดอัดอะไร ยอมนั่งรถไปโดยดี ใครกันแน่ที่ทำตัวงี่เง่า

    เด่นดวงอ้าปากหวอมองเขาอึ้งๆ หากแล้วก็ยิ้มออกจนโอฬารปรับอารมณ์ตามไม่ทัน

    ที่แท้คุณก็โกรธเรื่องนี้เองเหรอคะ โอฬารไม่ตอบแต่ก็ไม่ปฏิเสธ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะไปกับเขาสักหน่อย เขามาดักรอฉันเอง

    แล้วทำไมวันนั้นบอกว่าจะไม่ออกไปไหน ทำไมไม่ปฏิเสธไป หรือทำไมไม่โทร.หาฉัน แล้วทำไมถึงไม่เล่าให้ฉันฟัง เด่นดวงอึ้งหนักกว่าเดิม กับคำถามรัวมาเป็นชุด ไม่คิดเลยว่าเขาจะโกรธขนาดนี้ ดูท่าทางโอฬารไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยเลยนี่นา

    วันนั้นฉันทะเลาะกับแม่เรื่องพิธียกน้ำชาค่ะ ก็เลยอยากไปหายายเบญพอออกมาก็เจอเขา แล้วระยะทางมันไม่ไกล ไม่อยากให้คุณมารับไปส่งแล้วกลับคอนโดฯ ตั้งใจจะไปเอง ไม่คิดว่าพี่โตเขาจะรู้ว่าบ้านฉันอยู่นี่ และลงทุนมาดักรอแบบนั้นนี่คะ

    โอฬารเผลอขบกรามกับคำว่า พี่โต นั่งรถหมอนั่นครั้งเดียวสนิทถึงขนาดเรียกพี่เลยงั้นเหรอ ทีเขามารับมาส่งทุกวันเรียกคุณโอฬารเสียเต็มยศ น่าเขกให้หัวปูดเลยจริงๆ ชายหนุ่มคิดอย่างขัดใจ จ้องหน้าเธอนิ่งๆ ถ้าเขาโกรธจะดูเป็นคนพาลหรือเปล่านะ ถ้าเป็นคนอื่นเขาอาจไม่รู้สึกอะไร แต่พอเป็นภัคภณ มันเหมือนโดนจี้ใจดำอย่างไรไม่รู้

    สุดท้ายชายหนุ่มก็เลือกไม่พูดอะไรต่อ ก้าวขาจะเดินแต่เด่นดวงจับแขนไว้

    อะไรอีก?

    หายโกรธหรือยังคะ เขาไม่ตอบแต่มองเธอนิ่งๆ ราวกับจะให้เธอรู้สึกผิดไปจนวันตายงั้นแหละ ฉันขอโทษค่ะ ที่ไม่ได้บอก แค่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แต่ต่อไปฉันสัญญาว่าจะบอกคุณทุกเรื่อง โอเคไหมคะ


    ++++++++++++++++++++++++++

    ตอนหน้ามารอดูกันเลยว่าหนูเด่นง้อเก่งแค่ไหน 

    เตรียมหมอนกับผ้าเช็ดหน้ามาด้วยนะคะ อิอิ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×