ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียนำโชค

    ลำดับตอนที่ #52 : อีเด่นร้านปิด 2

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 19.29K
      989
      11 ต.ค. 63


    เธอพูดเหมือนบ่น เลื่อนมือจับช้อนที่เขาเพิ่งใช้ทิชชูเช็ดแล้ววางในชามให้ หากแล้วกลับชะงักเหมือนนึกอะไรได้ หันมองรอบตัวด้วยท่าทีหวาดระแวง โดยเฉพาะตอนมองไปยังถนนหน้าร้านสายตาเธอที่โอฬารมองเห็นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว สีหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด

    เป็นอะไรรึเปล่า?

    เรารีบกินกันเถอะค่ะ น้ำเสียงเธอสั่น ก้มหน้ามองชามโจ๊กไม่ยอมสบตาเขา ตักโจ๊กได้ก็ส่งเข้าปากทันที ทำเอาคนที่กำลังอ้าปากจะห้ามแต่ไม่ทันได้แต่รอดูปฏิกิริยาของเธอ โอ๊ย! ร้อน!” แม้จะร้อนอย่างนั้นแต่เธอกลับไม่ยอมคายมันออกมา

    ร้อนแล้วจะอมไว้ทำไม คายออกมาสิ เขาบอกด้วยน้ำเสียงดุๆ แต่เธอส่ายหน้ายกมือปิดปากแล้วพ่นความร้อนออกมา กระนั้นโจ๊กก็ร้อนมากจนน้ำตาเล็ด สุดท้ายเธอก็สำลักเพราะพยายามกลืนแต่ไม่สำเร็จ โอฬารมองด้วยสายตาดุ หยิบทิชชูยื่นไปให้ ตามด้วยการเปิดขวดน้ำเปล่ารินใส่แก้วแล้วส่งให้อีกที ฉันว่าเธอไม่ได้ซวยมากขนาดนั้นหรอก แต่เพราะซุ่มซ่าม ไม่ระวัง ไม่มีสติมากกว่า

    คนที่เพิ่งดื่มน้ำไปหมดแก้วทำหน้าม่อย หันมองเขาแล้วอ้าปากจะอธิบายแต่แล้วกลับพูดไม่ออกเมื่อมีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งมาจอดริมฟุตปาธเยื้องหน้าร้าน คนขับและคนซ้อนสวมชุดดำ สวมหมวกกันน็อกสีดำเต็มใบทั้งคู่ ใส่ถุงมือสีดำทั้งคู่เช่นกัน คนซ้อนลงจากรถพร้อมปืนสั้น สายตาของเด่นดวงที่จับจ้องฝ่ายนั้นทุกอิริยาบถ เห็นว่าปืนในมือกำลังถูกขึ้นลำและยกขึ้น หัวใจหญิงสาวเต้นระรัว กระทั่งผู้ชายคนนั้นเล็งปลายกระบอกปืนมาทางโอฬาร...

    ...ภาพไฟหน้ารถที่สาดมายังตัวเธอในวันนั้นปรากฏขึ้นในห้วงความคิด เสียงกรีดร้องและภาพผู้คนแตกฮือยังชัดเจน ความรู้สึกตอนบิดาพุ่งเข้ามาดึงตัวเธอแล้วเหวี่ยงให้พ้นวิถีรถที่กำลังพุ่งตรงมาจนตัวเองเสียหลักล้ม ฉายซ้ำจนเธอตัวชาและรู้สึกหนาวเยือกเฉียบพลัน...

    วินาทีที่นิ้วของชายชุดดำคนนั้นขยับ เด่นดวงเหมือนได้สติ

    คุณยักษ์!” เธอตะโกนเรียกเขาแล้วพุ่งข้ามโต๊ะไปกระชากร่างใหญ่เข้าหาตัวในวินาทีเดียวกับที่เสียงสังหารดังขึ้นรัวติดกันแบบไม่ยั้ง

    เธอกับเขาล้มลงไปบนพื้น โจ๊กสองชามหกรดตัวจนเลอะไปหมด แต่วินาทีความเป็นความตายกลับไม่มีใครรู้สึกถึงความร้อนของมันอีกแล้ว

    เสียงหวีดร้องดังลั่นความโกลาหลเกิดขึ้นในบัดดล แต่เด่นดวงยังพยายามกอดโอฬารไว้ ทั้งที่เขาก็พยายามสะบัดแขนออกเพื่อจะเป็นฝ่ายกอดเธอไว้เองเช่นกัน

    ทุกอย่างสงบลงในเวลาไม่นาน เสียงรถจักรยานยนต์คันนั้นแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว

    เด่น เป็นอะไรรึเปล่า โอฬารได้สติก่อน และพอเขาถาม เธอจึงคลายจากอาการอึ้ง

    ไม่ต้องสนใจฉัน คุณนั่นแหละเป็นอะไรรึเปล่า คุณโดนยิงไหม คนเจ็บตรงไหนบ้าง ขอฉันดูหน่อย คุณไม่ได้โดนยิงใช่ไหม หญิงสาวลนลาน ดึงแขนเขามาดู เอียงตัวสำรวจเขาด้วยท่าทีหวาดกลัวและสั่นไปทั้งร่าง โอฬารมองด้วยความไม่เข้าใจ แต่ก็ตัวเองก็ห่วงเธอเช่นกัน

    ฉันไม่เป็นอะไร แล้วเธอล่ะ

    ไม่ ไม่ ฉันไม่เป็นอะไร แต่คุณไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่ไหม คุณไม่ได้โดนยิง ไม่ได้เจ็บตรงไหนจริงๆ ใช่ไหมคะ คุณอย่าตายนะ อย่าเป็นอะไรเด็ดขาด อย่า...ฮือออ... เธอพูดซ้ำๆ ด้วยคำเดิมๆ พยายามจะเช็กให้แน่ใจว่าเขาปลอดภัยดีแล้วสุดท้ายก็ร้องไห้ออกมาเหมือนคนสติหลุด

    โอฬารมึนงงไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้น กำลังจะดึงเธอมากอดปลอบก็ต้องชะงัก

    กรี๊ดดดดดๆๆๆๆ

    เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นเหมือนควันหลงจากในร้าน ทำให้คนทั้งคู่หันขวับไปมอง ภาพเด็กสาวในชุดมัธยมปลายวิ่งมากอดร่างพ่อกับแม่ที่นอนจมกองเลือดสลดหดหู่จนโอฬารต้องหลับตาเมินหน้าหนี แต่เด่นดวงช็อกตาค้าง

    เลือดสีแดงข้นบนสองร่างไร้วิญญาณที่โดนยิงนับไม่ถ้วนเหมือนปลายมีดแหลมที่สะกิดแผลในหัวใจเด่นดวง

    ภาพที่พ่อของเธอเสียชีวิตคากระโปรงหน้ารถ แล้วเธอวิ่งเข้าไปกอดยังชัดในความทรงจำ...เลือดสีแดงข้นไหลลงบนแขนเธอเต็มไปหมด กลิ่นคาวของมันน่าสะอิดสะเอียด แต่นั่นไม่ทำให้เธอรู้สึกได้เท่ากับร่างแน่นิ่งของบิดาที่ไร้ลมหายใจ...

    ร่างเล็กสั่นขึ้นเรื่อยๆ จนโอฬารรู้สึกได้ เขายื่นมือมาจับไหล่เธอและนั่นทำให้เด่นดวงระลึกได้ เธอหันขวับมาทางเขาอีกครั้งในสภาพน้ำตานองหน้า แววตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น

    ฉันกลัว...ฉันกลัว...คุณไม่ได้เป็นอะไรแน่นะ คุณไม่ได้โดนยิงแน่ใช่ไหม ฮึก! อย่าตายนะ คุณอย่าซวยเพราะฉันนะ อย่าเป็นอะไรเด็ดขาด อย่าเป็นอะไรเพราะความซวยของฉัน...ฮืออออ

    เด่น...เด่น!” โอฬารเรียกเสียงดังเพื่อดึงสติเธอ เขาประคองแก้มทั้งสองข้างของเธอไว้แล้วล็อกให้เงยหน้าขึ้นสบตา ฉันไม่ได้เป็นอะไร ไม่เป็นอะไรเลย

    น้ำตาเธอรินไหลพรั่งพรู ริมฝีปากแย้มยิ้มสั่นๆ ดวงตาที่มีน้ำเอ่อคลอจ้องใบหน้าเขาไม่วางตา

    ดีจัง...ดีจังที่คุณไม่เป็นอะไร... คำพูดขาดหายไปพร้อมกับสติที่ดับลง

    เด่น...เด่น!” โอฬารกอดร่างอ่อนปวกเปียกไว้แล้วพยายามร้องเรียก

    คุณยักษ์!” เบญจภัทรวิ่งเข้ามาหาร้องเรียกเจ้านายด้วยความตกใจ

    ไปเรียกแท็กซี่เร็ว

    ครับๆ

    โอฬารช้อนร่างเด่นดวงขึ้นอุ้ม แล้วพาไปขึ้นแท็กซี่ ส่วนเบญจภัทรรีบกลับไปคร่อมเน็กเก็ตไบค์ของตัวเองแล้วขับตามไป

    เด่น...เด่น... โอฬารยังคงพยายามเรียกและเขย่าปลุกหลังจากบอกแท็กซี่ให้พาไปโรงพยาบาล คนสลบเหมือนจะได้สติขึ้นมาเล็กน้อย

    ไม่ไปโรงพยาบาล...ไม่ไป เสียงแหบโหยคล้ายละเมอ เปลือกตาหรี่ขึ้นนิดหนึ่งก่อนจะปิดลงอีกครั้ง อย่าบอกแม่...อย่าให้แม่รู้ว่าฉันทำคนอื่นซวยอีกแล้ว...ฉันไม่ได้ทำ...ฉันไม่ได้ทำ...

    สติของเธอดับวูบลงอีกครั้ง แต่อย่างน้อยการที่เธอละเมอแบบนั้นทำให้โอฬารโล่งใจได้เปราะหนึ่งว่าสภาพทางกายเธอคงไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่สภาพจิตใจอาจจะต้องรอให้เธอฟื้นเสียก่อนถึงจะถามให้รู้เรื่องได้

    คิดเช่นนั้นเขาก็เงยขึ้นบอกจุดหมายปลายทางใหม่แก่คนขับแท็กซี่

     

    เบญจายืนร้อนรนอยู่หน้าอพาร์ตเม้นท์สูงสี่ชั้นกลางเก่ากลางใหม่สีฟ้ามอๆ หลังจากได้รับโทรศัพท์จากเบอร์แปลกๆ เธอก็รีบเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าลงมายืนรอคนที่โทร.หามารับ


    ********************************

    อ้าวววว หนูเด่นน่าเอ็นดูเลย แล้วพี่ยักษ์จะพาน้องไปไหนนะ 

    ฝากติดตามด้วยนะคะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×