ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียนำโชค

    ลำดับตอนที่ #46 : แค่วันแรกเองนะ 4

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 19.9K
      1.2K
      10 ต.ค. 63


    ทุกอย่างโชคชะตาจะเป็นคนกำหนด สิ่งที่เราทำได้คือดูแลเขาให้ดีที่สุด...ยักษ์ดูแลตัวเองดีๆ และปู่ขอให้ดูแลหนูเด่นให้ดีด้วย ซินแสหวังบอกว่าดวงหนูเด่นกับยักษ์หนุนกัน ถ้าอยู่ใกล้กันก็จะมีแต่เรื่องดีๆ อย่าปล่อยให้เขาอยู่ไกลตัวนะ ถือว่าปู่ขอร้อง

    โอฬารรู้ดีว่าอัศวินเชื่อซินแสหวังหมดหัวใจ ดังนั้นการขอให้เขาตัวติดกับเด่นดวงก็แปลว่าท่านห่วงความปลอดภัยเขาอย่างมาก เชื่อว่าดวงของเด่นดวงจะทำให้เขาแคล้วคลาดปลอดภัย

    แม้จะหนักใจและไม่อยากให้คนนอกอย่างเด่นดวงมาเกี่ยวข้อง แต่สิ่งที่ทำได้เพียงแค่ตอบรับกลับไปเท่านั้น

    อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ ธิเบตอาจจะมีธุระทางนี้ โอฬารพูดอย่างนั้นเพราะธิเบตคือผู้ช่วยคนสนิทของวรัท พี่ชายที่เขาไม่มีทางคิดหรือเชื่อว่าจะทำผิดคิดร้ายต่อใครได้

    แต่เวลานี้ธิเบตควรจะอยู่กับคุณใหญ่ไม่ใช่เหรอครับ แล้วรถคันนี้ไม่ใช่รถของคุณใหญ่ เป็นรถธิเบตเอง แปลว่าเขาน่าจะไม่ได้มากับคุณใหญ่นะครับ โอฬารคิดตาม เมื่อกี้ผมลองชะลอรถสลับกับเร่งความเร็วดู ธิเบตก็ไม่ยอมแซงไป กลับเร่งความเร็วและชะลอตามผมทุกอย่าง มันน่าแปลก

    ขับไปตามปกติเรื่อยๆ ดูก่อนแล้วกัน โอฬารสั่งผู้ช่วยแล้วเหลือบมองรถคันข้างหลังทางกระจกครู่หนึ่ง ก่อนจะละสายตาหันไปมองคนที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราว หัวเล็กๆ โยกคลอนไปมาตามการเคลื่อนไหวของรถ

    ชายหนุ่มเลื่อนมือไปประคองศีรษะเธอให้เอนมาพิงไหล่ ปรับท่าให้เธอนั่งได้สบายและมั่นคงมากขึ้น

    นี่ไม่ใช่การสร้างความผูกพันหรือสายใยใดๆ ทั้งสิ้น...แต่เธอกลายเป็นหน้าที่สำคัญที่เขาต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุดในชีวิตอีกอย่างหนึ่งแล้ว

    คุณปู่บอกนายแล้วใช่ไหม

    ครับ เจ้าสัวบอกให้ผมดูแลคุณยักษ์กับคุณเด่นให้ดีที่สุด ถ้าคิดว่าไม่ไหวให้หาบอดีการ์ดมาเพิ่มครับ

    ไม่ต้องหรอก ทุกอย่างยังเป็นแค่ข้อสันนิษฐาน ถ้าทำอะไรตื่นตูมมากไปจะเหมือนแหวกหญ้าให้งูตื่น

    แล้วคุณยักษ์คิดว่า...เป็นใครเหรอครับ เบญจภัทรถามอย่างระมัดระวัง โอฬารสีหน้าเครียดขึ้นกว่าเดิม แม้ในเรื่องของการทำงานเขากับลุงและอารวมถึงลูกพี่ลูกน้องจะแข่งขันกัน แต่สำหรับเขา ทุกคนเป็นเพียงคู่แข่งในการทำผลงานให้ดีขึ้น ไม่ใช่ศัตรูคู่อริ หรือคู่แข่งที่ต้องหักล้างกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

    จึงคิดเอาเองว่าคนอื่นๆ ก็คงเหมือนเขา คงไม่มีใครบ้าถึงขนาดจะฆ่าคนที่ร่วมสายเลือดสายตระกูลกันเพียงเพื่อสมบัติที่ต่อให้แบ่งกันครบทุกคนก็ยังนับว่ามากอยู่ดี

    แต่วันนี้อัศวินทำให้รู้ว่าเขาคิดผิด จริงอยู่ว่ายังไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่อัศวินจะไม่เอ่ยปรักปรำใครถ้าไม่มั่นใจมากพอ

    ไม่รู้สิ ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ เลยเดาไม่ออกว่าใคร...ที่กล้าถึงขนาดจะฆ่าคุณปู่ได้ลงคอ

    เบญจภัทรเคลื่อนรถไปจอดนิ่งด้านหน้าตึกสูงยี่สิบชั้น บทสนทนาจึงหยุดลง โอฬารก้มมองคนข้างตัวที่เมื่อได้พิงไหล่เขายิ่งหลับสบายไม่มีทีท่าว่าจะตื่น

    เด่น... เขาเอ่ยเรียก รู้สึกแปลกๆ ไปบ้างเหมือนกันยามเรียกชื่อเล่นคนที่ไม่สนิท แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกด้วยคำไหน ตื่นได้แล้ว คนหลับราวกับนอนในห้องนอนที่บ้านยังนิ่ง โอฬารจึงจำเป็นต้องยื่นมือไปเขย่าแขนเธอเบาๆ

    ฮื่อ! ทำไมต้องกวนตอนกำลังหลับสบายด้วย น้ำเสียงเธอหงุดหงิดแหงนหน้าขึ้นแต่ยังไม่ยอมลืมตา

    ถ้าอยากนอนมากนักจะให้ภัทรขับไปส่งที่บ้าน ร้านอาหารบนดาดฟ้าอะไรก็ไม่ต้องขึ้นไปแล้ว แม้น้ำเสียงจะราบเรียบเจือแววดุ แต่คำที่เอ่ยออกไปเหมือนกำลังล่อลวงเด็กชัดๆ

    อื้อๆ ไม่เอา อยากขึ้นไปดูก่อน เธอเถียงแล้วพยายามลืมตาที่แสนหนักอึ้งขึ้นอย่างฝืนๆ เมื่อคืนเธอนอนแทบไม่หลับทั้งคืนด้วยเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นในชีวิต มีรถคันหนึ่งเคลื่อนมาจอดด้านหลัง แสงไฟจากรถคันนั้นสาดเข้ามาทางกระจกด้านหลัง แสงสีส้มของมันมลังเมลืองคล้ายภาพโบเก้ทาทาบลงบนใบหน้าคมของโอฬาร คนที่หรี่ตาขึ้นมองยิ้มจนปรากฏรอยบุ๋มเล็กๆ บนแก้ม ทำไมคุณดูดีจัง เธอเอ่ยคล้ายละเมอ ทำเอาโอฬารอึ้ง เบญจภัทรถึงกับอมยิ้มจนเกือบจะเป็นหัวเราะ

    ตื่น แล้วนั่งดีๆ จะได้ลงจากรถเสียที ชายหนุ่มทำเสียงดุ ทั้งที่กำลังรู้สึกแปลกๆ ใบหน้าเธอเองก็โดนแสงไฟสีส้มสาดมากระทบไม่ต่างกัน และถ้ามีใครสักคนบอกว่าไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ผู้หญิงสวยได้เพราะเมคอัพ เขาก็อยากบอกว่านั่นไม่เคยอยู่ในความคิดเขาเลย

    ผู้หญิงที่น่ารักและสวยในสายตาเขาคือตอนที่เธอคนนั้นเป็นธรรมชาติมากที่สุด

    เหมือนที่เด่นดวงกำลังเป็นอยู่ตอนนี้...

    ท่าทางง่วงแบบไม่เสแสร้ง แลคล้ายเด็กขี้เซา พอเธอยิ้มและเอ่ยชมเขาอย่างเผลอไผลจึงแลดูทั้งน่าเอ็นดูและออดอ้อนในคราเดียวกัน

    งื้อออ อุ้มไปได้มั้ย เด่นดวงนั่งโงนเงน ยังเรียกสติกลับมาไม่ครบ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังนั่งอยู่กับใคร แต่เหตุการณ์อย่างนี้คลับคล้ายคลับคลาเหมือนเวลานั่งรถกับบิดาเลยพูดออกไปแบบนั้น

    คราวนี้เบญจภัทรหลุดขำพรืดอย่างกลั้นไม่อยู่ โอฬารเลยถอนหายใจแล้วแกล้งเปิดประตูรถลงไปยืนรอ เด่นดวงจึง วืดลงไปบนเบาะที่เขาเคยนั่ง รถคันหลังบีบแตรไล่ หญิงสาวจึงสะดุ้งได้สติ ดีดตัวนั่งหลังตรงมองซ้ายมองขวา จนได้เห็นว่าร่างใหญ่ยืนรอพร้อมตีหน้าขรึม

    รีบลงไปเร็วครับ เดี๋ยวคุณยักษ์ไม่รอนะ เบญจภัทรขู่ขำๆ เด่นดวงเลยรีบคว้ากระเป๋าแล้วเปิดประตูฝั่งตัวเองลงไปอย่างรวดเร็ว

    เบญจภัทรเคลื่อนรถออกไป รถคนหลังจึงมาจอดแทนที่ กลายเป็นว่าคั่นกลางคนทั้งคู่ไว้ โอฬารหมุนตัวทำท่าจะเดินเข้าไปในตึกโดยไม่รอ

    เดี๋ยวสิคะ รอฉันด้วย อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวสิ โอฬารหยุดกึกทันที คำว่า อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวสิ เตือนให้เขาระลึกว่าไม่ควรทำอย่างนั้นจริงๆ ชายหนุ่มหันกลับมาแล้วมองจนเธอเดินข้ามถนนมาหยุดยืนตรงหน้า นึกว่าจะไม่รอซะแล้ว เธอแหงนหน้าขึ้นยิ้มกว้างให้เขา ท่าทางดีใจราวกับเด็กๆ นั้นช่างน่ามอง

    โอฬารมองเธอนิ่งๆ พลางคิดในใจ...นี่แค่วันแรกเองนะ...แค่วันแรกเท่านั้น...


    ++++++++++++++++
    นี่แค่วันแรกเองนะคะพี่ยักษ์ ถ้าสักเดือนจะขนาดไหน ไรท์ไม่อยากจะคิด 55555+
    แต่เอ๊...หะหรือ หะหรือ หะหรือว่า...จะไม่ครบเดือน!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×