ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียนำโชค

    ลำดับตอนที่ #40 : รู้เขา รู้เรา ไม่ต้องรบ แต่ต้องรัก 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 20.2K
      1.12K
      8 ต.ค. 63



    สวัสดีครับคุณเด่น คราวหน้าไม่ต้องไหว้นะครับ ผมรู้แล้วว่าตัวเองแก่ อย่าตอกย้ำกันเลย โอฬารที่เพิ่งก้าวตามออกมาถึงกับมองหน้าพี่ชายด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ เขารู้ว่าวรัทเป็นคนใจดี อยู่กันมาตั้งแต่เด็กรู้จักนิสัยใจคอกันดี จึงรู้ว่าวรัทจะไม่พูดหยอกล้อกับคนไม่สนิท

    แก่มากเลยเหรอคะ ทำไมยังดูหน้าเด็กอยู่เลย ถ้าไม่รู้มาก่อน ฉันคิดว่าคุณเป็นน้องคุณโอฬารอีกนะคะเนี่ย พอวรัทพูดเป็นกันเองเด่นดวงเลยกล้าหยอกล้อ แต่พอหันไปเห็นคนถูกพาดพิงยืนทำหน้าดุก็ถึงกับสะดุ้ง อูย...ขอโทษค่ะ

    วรัทหัวเราะเบาๆ นั่นยิ่งทำให้โอฬารแปลกใจหนักขึ้น เท่าที่จำได้สองคนนี้เพิ่งเจอกันเมื่อวาน พร้อมกับเขา แต่วันนี้เขาอยู่กับเด่นดวงมาครึ่งวัน เธอไม่ยักทำท่าสนิทสนมขนาดนี้เลย วรัทเองก็ได้ฉายาว่า ยิ้มยาก ไม่แพ้เขา เหตุใดวันนี้ยิ้มให้คนแปลกหน้าง่ายๆ เสียเล่า

    ไปเถอะ คุณปู่รออยู่ พี่ขอตัวก่อน มีงานข้างนอก เขาหันมาคุยกับโอฬารแล้วหันกลับไปทางเด่นดวงอีกครั้ง ไว้คุยกันใหม่นะ อ้อ อีกหน่อยเราจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เรียกพี่ว่าพี่ใหญ่เหมือนยักษ์เรียกละกัน แล้วก็แทนตัวเองด้วยชื่อ หนู หรือน้องอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่คำว่าฉันน่ะ พูดจบก็ก้าวเข้าลิฟต์ พอหมุนตัวกลับมาถึงได้เห็นว่าสองคนหน้าลิฟต์ยืนมองเขาอึ้งๆ อยู่ วรัทหัวเราะเบาๆ อีกครั้ง กดลิฟต์ให้เปิดค้างไว้ กับยักษ์ก็เรียกพี่ยักษ์สิ เรียกคุณโอฬาร...เหมือนเป็นเลขามากกว่าว่าที่เจ้าสาวอีกนะ

    ลิฟต์ปิดและเคลื่อนลงไปชั้นล่างแล้ว สองหนุ่มสาวยังยืนอึ้งอีกครู่ ก่อนจะหันมองหน้ากันแล้วเป็นฝ่ายโอฬารที่เมินหนี เขาไม่พูดอะไรแค่ออกเดินนำ เด่นดวงเลยได้แต่เดินตามไปเงียบๆ

     

    ตอนทั้งสองคนเข้ามาถึงห้องรับทานอาหารซึ่งอยู่ใกล้ห้องทำงานใหญ่ของประธานบริษัท อัศวินกำลังยืนหันหลังคุยโทรศัพท์อยู่ตรงกำแพงกระจกที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องนอกได้กว้างไกล คุยไปหัวเราะไปจนโอฬารเผลอเลิกคิ้วแปลกใจ

    เด่นดวงกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วแอบตาโตเพราะมันดูหรูและน่ามองเป็นอย่างมาก หากพอชายสูงวัยเอียงตัวมายิ้มทักทายทั้งที่ปากยังคุยกับใครบางคน เธอก็รีบยกมือไหว้ เขาจึงพยักหน้ารับและผายมือไปยังโต๊ะอาหาร

    โอฬารเดินนำไปยังโต๊ะตัวยาวขนาดแปดที่นั่งแล้วเลื่อนเก้าอี้ให้เช่นเมื่อเช้า ท่าทางของเขาไม่ใช่การเอาใจ แต่ทำไปโดยสัญชาตญาณของสุภาพบุรุษ ทำตามหน้าที่ หรือทำตามนิสัยส่วนตัวเด่นดวงก็ไม่อาจตอบได้ แต่ไม่ว่าอย่างไหน เธอก็ชอบใจหมด เพราะชีวิตนี้ไม่เคยมีใครทำอะไรแบบนี้ให้เลยสักครั้ง

    แล้วพอคนที่ทำให้เป็นหนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีขนาดนี้ หัวใจยิ่งเต้นแรงและอดยิ้มปลื้มไม่ได้จริงๆ

    ขอบคุณค่ะ เธอเอ่ยและเขาแค่สบตาเหมือนรับรู้ก่อนจะนั่งลงข้างๆ

    อืมม์ ขอบใจมาก จบคำนั้นอัศวินก็วางสาย แล้วเดินมาทิ้งตัวนั่งลงตรงเก้าอี้หัวโต๊ะ หิวกันหรือยัง

    เราต่างหากที่ต้องถามว่าปู่หิวหรือยัง ขอโทษด้วยครับผมเคลียร์งานจนไม่ได้ดูเวลา

    อัศวินยิ้ม เหลือบมองเด่นดวงนิดหนึ่งคล้ายจะสังเกตว่าเธอรู้สึกเหมือนเขาไหม คำว่า เรา ของหลานชายให้ความรู้สึกดีอย่างมาก นานแล้วที่เขาไม่ได้ยินหลานชายพูดคำนี้ หรือความจริงอาจจะไม่เคยพูดด้วยซ้ำ ถ้าในคำว่าเรานั้นเป็นความหมายที่รวมถึงใครสักคนที่พิเศษนอกเหนือจากคนในครอบครัว

    จริงๆ ไม่ใช่เพราะคุณโอฬารหรอกค่ะ เป็นเพราะหนูเสร็จงานช้าต่างหาก ตอนออกมารถเลยติด หนูขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ท่าน เอ่อ...คุณปู่รอ เด่นดวงเอ่ยตามความจริง เพราะโอฬารเป๊ะเรื่องเวลามาก เขาออกมารอเธอตั้งแต่เที่ยงตรง แต่เพราะไม่อยากให้นลินแขวะว่าเธอใช้อภิสิทธิ์เหนือคนอื่น เด่นดวงเลยขอเวลาเคลียร์ยอดเงินในเครื่องแคชเชียร์ให้จบเสียก่อน

    คนฟังที่นั่งหัวโต๊ะยิ้มกว้างกว่าเดิม

    ปู่รู้ว่ายักษ์เป็นคนรักษาเวลา และรักษาคำพูดมากด้วย ความจริงปู่ยังไม่ได้หิวอะไรมากหรอก บางวันก็ทำงานเพลินจนกินมื้อเที่ยงเลยเวลาเหมือนกัน เอาล่ะ กินข้าวกันเถอะ เขาผายมือไปยังอาหารบนโต๊ะ ซึ่งยังมีควันลอยกรุ่น โอฬารเข้าใจทันทีว่าโต๊ะเพิ่งจัดเสร็จ และนึกเดาว่าคนที่รายงานการเดินทางให้อัศวินทราบคงไม่ใช่ใครนอกจากเบญจภัทร

    วันนี้ดูคุณปู่อารมณ์ดีเป็นพิเศษนะครับ โอฬารเอ่ยเหมือนเปรยพลางเลื่อนมือไปตักกับข้าวใส่จานเด่นดวง เขาเหลือบเห็นว่าเธอมัวนั่งมองไม่ยอมตักอะไรเลยสักอย่าง

    ถามแบบนี้แปลว่าเมื่อก่อนฉันเป็นคนอารมณ์ร้ายงั้นเหรอ ส่วนใหญ่ตอนอยู่บริษัทอัศวินมักแทนตัวเองแบบนี้ เพื่อให้พนักงานคนอื่นรู้สึกถึงการแบ่งแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันชัดเจน โอฬารกับคนอื่นๆ ก็เรียกเขาว่าท่านประธานต่อหน้าคนอื่นๆ ยกเว้นเวลาส่วนตัวเช่นนี้ถึงจะเรียกตามฐานะทางครอบครัว

    เปล่าครับ แต่คุณปู่ไม่หัวเราะแบบนี้...นานแล้ว โอฬารเว้นจังหวะเพราะเขารู้ดีว่าเรื่องอะไรที่ทำให้อัศวินหัวเราะไม่ออกมานานนับปี เพราะพี่ใหญ่หรือเปล่าครับที่ทำให้อารมณ์ดี ถามแล้วก็ตักกับข้าวที่อยู่ไกลมือใส่จานให้เด่นดวง เพราะคาดว่าเธอคงตักไม่ถึง

    ทำไมคิดว่าเป็นเพราะใหญ่ล่ะ? อัศวินถามและเขาอดอมยิ้มไม่ได้จริงๆ วันนี้เป็นมื้อกลางวันที่เจริญอาหารในรอบปีเลยก็ว่าได้



    ***********************
    ถ้าคุณปู่จะลุ้นขนาดนี้ จับแต่งงานเสียเลยดีไหมคะ 5555+
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×