คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ข้อเสนอที่น่าสนอง 2
แววตาท่าทางของอัศวินสงบนิ่ง
ไร้แววคุกคามหรือวางอำนาจ แต่แววตาของเขาส่งผลต่อนลินอย่างมาก เธอยกมือไหว้สั่นๆ
แล้วประสานไว้ด้านหน้า ก้มหน้าลงเล็กน้อย ในขณะที่เด่นดวงได้แต่ทำหน้างงๆ
“ออกไปก่อน” อัศวินเอ่ยโดยไม่ได้ระบุชื่อใคร แต่เด่นดวงเป็นคนขยับ “ฉันไม่ได้หมายถึงหนู ฉันหมายถึง...คุณนลิน”
ชายชราเหลือบมองชื่อบนบัตรพนักงานของนลินก่อนเอ่ยเรียก
ฝ่ายนั้นเงยหน้าขึ้นมองอึ้งๆ งงๆ แล้วหันไปมองเด่นดวงคล้ายจะตำหนิบางอย่าง
“เอ่อ...”
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับหนูเด่น”
‘หนูเด่น’ ถึงกับอึ้ง เขาเป็นใคร รู้จักชื่อเธอได้ยังไง
ทำไมถึงเรียกได้เหมือนสนิทกันปานนั้น แน่นอนว่านลินเองก็สงสัยไม่แพ้กัน
แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลามาถาม เธอต้องทำตามคำสั่งเขาก่อน
“ขะ...ขอตัวนะคะ” พูดจบก็เดินก้มตัวผ่านอัศวินออกไป เหลือไว้แค่เด่นดวงกับอัศวินและยิ่งยศ
“เป็นไงบ้าง
หายดีหรือยัง” อัศวินเอ่ยถามน้ำเสียงกับแววตาอ่อนโยนลงกว่าเมื่อครู่มาก
“หะ...หาย...หายดีแล้วค่ะ”
“นั่งสิ
เราอาจจะต้องคุยกันนานหน่อย”
เขาเอ่ยพลางชี้ไปยังเก้าอี้นั่งพักของพนักงานประจำมินิมาร์ท
พอเธอถอยไปนั่งด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ ยิ่งยศก็รีบไปเลื่อนเก้าอี้อีกตัวให้ประธานบริษัทนั่งบ้าง
“ฉันชื่ออัศวิน หนูรู้จักฉันไหม”
เด่นดวงเม้มปากไม่กล้าตอบ
ลองเขาเข้ามาถึงนี่ได้และท่าทางนลินกลัวขนาดนั้น
แสดงว่าต้องสำคัญมากพอ...และคงจะสำคัญสำหรับบริษัทนี้โดยตรง เธอจึงไม่กล้าตอบ
เพราะตัวเองจำชื่อผู้บริหารไม่ได้เลยสักคน
“คือ...หนู...”
“ไม่ต้องทำท่ากลัวขนาดนั้นหรอก
ไม่แปลกนี่ที่จะไม่รู้จัก เราไม่เคยแนะนำตัวกัน งั้นฉันขอแนะนำตัวเลยนะ
ฉันชื่ออัศวิน อัศววงศ์ธรรมเป็นปู่ของ โอฬาร อัศววงศ์ธรรม เจ้านายโดยตรงของหนู”
เด่นดวงอึ้งจนแทบจะเป็นลมหงายหลัง
แค่แนะนำตัวเองก็อึ้งพอแล้วยังจะมาแนะนำว่าเกี่ยวข้องกับใครอีก หญิงสาวถึงกับหน้ามืดไปชั่วขณะ
พอนึกได้ก็รีบยกมือไหว้ทันที
“สะ...สวัสดีค่ะท่านเจ้าสัว”
อัศวินหัวเราะด้วยความเอ็นดู
นั่งด้วยท่วงท่าสบายมากขึ้นเผื่อจะช่วยให้อีกฝ่ายผ่อนคลายความเกร็งลงบ้าง
แต่ไม่เลยเด่นดวงยังนั่งเกร็งเหมือนเดิม
“ฉันขอบคุณเรื่องวันนั้นมากนะ
ถ้าไม่ได้หนู ป่านนี้ฉันคงเหลือแค่ชื่อแล้ว”
เด่นดวงยังนึกไม่ออกว่าเขาพูดอะไร
แต่พอเขามองมายังหน้าอกด้านซ้ายของเธอถึงนึกได้
“อะ
อ้อ หนูไม่ได้ช่วยอะไรเลยค่ะ ก็แค่...”
“อย่าถ่อมตัวเลย
ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่น่าตกใจไม่น้อย
ความจริงตอนหนูนอนโรงพยาบาลฉันแวะไปเยี่ยมตลอดนะ แต่วันที่หนูยายออกฉันติดธุระพอดี
มารู้ทีหลังว่าแม่ของหนูก็พาไปพักฟื้นที่อื่นเสียแล้ว”
“แสดงว่าท่านเจ้าสัวเองเหรอคะที่ออกค่าใช้จ่ายให้หนูตอนอยู่โรงพยาบาลนั้น”
“ใช่สิ
ก็หนูช่วยชีวิตฉันไว้นี่ จะให้ฉันปล่อยปละละเลยได้ยังไง”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ
หนูไม่ได้ช่วยอะไรเลย มันเป็นความซวยของหนูเท่านั้นเองค่ะ เอ้อ...ไม่ใช่ค่ะ
หนูไม่ได้หมายความว่า...”
“ฉันเข้าใจ” น่าแปลกที่พอเขาพูดคำนั้น เด่นดวงกลับรู้สึกว่าเขาเข้าใจจริงๆ
ยิ่งแววตาอ่อนโยนที่มองมาทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจประหนึ่งเขาเป็นญาติผู้ใหญ่มากกว่าเป็นเจ้านายเสียอีก
“ที่ฉันมาวันนี้เพราะมีเรื่องจะคุยกับหนู
ฉันอยากตอบแทนน้ำใจหนู ความจริงฉันรู้แล้วว่าหนูทำงานที่นี่
แต่ไม่อยากผลีผลามกลัวหนูจะตกใจ ถึงมาตอนนี้ก็ตกใจอยู่ดีเนอะ” ประโยคหลังเจือรอยขันเล็กน้อย
“ไม่ต้องหรอกค่ะ
ไม่ต้องจริงๆ แค่ช่วยรักษาหนูก็เป็นพระคุณมากแล้วค่ะ”
อัศวินเงียบเพื่อให้เวลาคนตรงหน้าได้ตั้งสติ
ตอนนั้นเองที่เขาเหลือบเห็นด้ายแดงบนแหวนที่สวมนิ้วก้อยเธออยู่
ชายชรายิ้มจนเด่นดวงต้องมองตามสายตาเขา แล้วเธอก็เหมือนจะเอะใจบางอย่าง
“อย่าบอกนะคะว่าด้ายแดงนี่เป็นของ...ท่านเจ้าสัว”
ชายชราพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
เด่นดวงถึงกับเบิกตาโต ชักเริ่มมึนปนสับสนมากขึ้นทุกที
ตอนเธอสลบไปห้าวันที่โรงพยาบาลนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“หนูตั้งใจฟังให้ดีนะ
เรื่องที่ฉันจะพูดต่อไปนี้ ทั้งแปลก ทั้งเหลือเชื่อ จนหนูอาจคิดว่าฉันบ้า
แต่ฉันยืนยันว่าทุกอย่างเป็นความจริง”
เกริ่นมาซะน่ากลัวขนาดนั้นเด่นดวงก็ใจไม่ดี กลืนน้ำลายฝืดๆ
ลงคอพยักหน้ารับแบบกล้าๆ กลัวๆ อัศวินเลยเอ่ยขึ้นอย่างไม่รีบร้อน “ฉันอยากได้หนูมาเป็นหลานสะใภ้”
“ฮึก!
แค่ก! แค่ก! แค่ก!”
เมื่อครู่ยังเกริ่นอยู่ดีๆ
พอถึงตอนนี้ทำไมถึงเข้าเรื่องเร็วนัก เด่นดวงสะอึกก่อนจะสำลักจนหน้าแดง น้ำตาเล็ด
เธอพยายามตบอกตัวเองและตั้งสติ นานทีเดียวกว่าจะตั้งหลักได้
พอเงยขึ้นมองถึงได้เห็นว่าทั้งชายชราและชายหนุ่มกำลังยิ้มมองเธออยู่
“ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ
ฉันพูดจริง ซินแสประจำตระกูลฉันบอกว่าหนูคือคนที่จะนำโชคมาให้ครอบครัวฉัน”
*****************************
มาแบบนี้หนูเด่นตั้งรับไม่ทันสิคะ 555555555+
ความคิดเห็น