คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : รางวัลแด่คนดวงซวย 1
รางวัลแด่คนดวงซวย
แม้ตอนอาบน้ำเด่นดวงจะเอาน้ำมนต์ผสมน้ำอาบ
และเอาราดหัวโดยตรงอีกทีแล้ว แต่พอแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องใช้สเปรย์น้ำมนต์ฉีดหน้าอีกรอบ
วันนี้เป็นงานประจำปีบริษัท หรือจริงๆ
คืองานฉลองปีใหม่ที่ล่วงเลยมาถึงสี่เดือนแล้วแต่เพิ่งได้จัดให้พนักงานนั่นเอง
เบญจาบอกว่าเธอดวงซวยครั้งใหญ่ไปแล้ว บางทีงานนี้อาจได้รางวัลใหญ่กับเขาบ้าง
กระนั้นเด่นดวงก็ไม่เคยไว้ใจความดวงซวยของตัวเอง หากก็อยากได้รางวัลกับเขาบ้าง
เลยต้องจัดน้ำมนต์หนักๆ ล้างซวย ก่อนไปร่วมงาน
ความมั่นใจดูจะมากกว่าทุกวันที่ผ่านมาของชีวิต
เดินออกจากห้องมาแล้วไม่พบมารดาหรือพี่สาวยิ่งนับเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่แสนดี
เพราะไม่มีใครเรียกหรือมองเธอด้วยสายตากล่าวหาว่า ‘กาลกิณี’
หญิงสาวรีบก้าวเท้าเร็วๆ ออกจากบ้าน รู้สึกสดชื่นที่พ้นรั้วบ้านมาอย่างปลอดภัย
กระชับกระเป๋าสะพายเข้าไหล่ด้วยรอยยิ้มกว้างเหมือนคนบ้า
เมื่อคืนฝนตกหนักยันสว่าง เช้านี้อากาศของกรุงเทพฯ ก็เลยเย็นๆ
ยิ่งสดชื่นเข้าไปใหญ่ เธออยากให้เป็นแบบนี้ทุก...
ซ่าาาาาา!!!
คิดไม่ทันจบรถคันหนึ่งก็ขับลงหลุมที่มีน้ำขังด้วยความเร็ว
น้ำสีคล้ำและกลิ่นเหม็นฉีดใส่หน้าใส่หัว ใส่ทั้งตัวเธอแบบเต็มๆ
เด่นดวงหลับตาด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย
ก่อนจะลืมตาโพลงเห็นรถท้ายรถคันนั้นแล่นจากไปอย่างไม่ไยดี แรู้สึกโมโหจนกัดฟันกรอด
วิ่งตามไปคล้ายว่าจะตามทันอย่างนั้นแหละ
“ไอ้คนสารเลวเอ๊ย!
หยุดนะเว้ย! นิสัยไม่ดี
มาฉีดน้ำใส่คนอื่นแบบนี้ได้ไง กรี๊ดดดด!”
คำสุดท้ายกรีดร้องสุดเสียงเพราะลื่นล้มก้นกระแทกพื้น
ถึงจะเจ็บจนใบหน้าเหยเกแต่เด่นดวงก็ยังมองรถคันนั้นจนสุดสายตาเพื่อจำลักษณะและทะเบียนรถไว้
เจอที่ไหนแม่จะทุบให้พังเลย!
ผู้คนแถวนั้นหันมามองเธออย่างเป็นจุดสนใจ
เด่นดวงอยากจะร้องไห้ ความเจ็บไม่เท่าไร
แต่ความอายนี่สิทำเอาเธอต้องรีบลุกแล้วเดินหนีไปจากตรงนั้นโดยเร็ว
เห็นชัดว่าทุกคนพยายามกลั้นหัวเราะขนาดไหน บางคนกลั้นไม่อยู่ หัวเราะออกมาเลยก็มี
บ้าฉิบ! หมดกันวันดีๆ ของช้านนนนนน!
หญิงสาวลังเลครู่หนึ่งว่าจะทำอย่างไรดี
กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ที่บ้าน หรือรีบไปร่วมงานบริษัทดี
ถ้ากลับบ้านแล้วค่อยออกมาใหม่คงไม่ทันแน่ๆ สถานที่จัดงานไกลจากบ้านเธอมาก
แต่ถ้าไปทั้งสภาพนี้ก็คงเหม็นทั้งงานเหมือนกัน
สุดท้ายก็ต้องย้อนกลับเข้าบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
เพราะอย่าว่าแต่ไปถึงงานจะเหม็นเลย แค่ขึ้นรถไฟฟ้าก็คงมีแต่คนมอง
“อ้าว
กลับมาทำไมอีกอีตัวซวย”
เสียงมารดาร้องทักด้วยความกราดเกรี้ยว
เด่นดวงรู้ดีว่านางโกรธเธอติดค้างมาตั้งแต่เมื่อคืน
เรื่องที่ดวงตาทะเลาะกับว่าที่เจ้าบ่าวเพราะไปรบเร้าขอให้ซื้อรถให้
แต่แม่ฝ่ายชายมาได้ยินเข้าเลยกล่าวหาว่าดวงตาอยากได้สมบัติ
แน่นอนกลับมาถึงบ้านพี่สาวเธอก็โวยวายและกล่าวโทษเธออย่างร้ายกาจ
“มาเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ”
ตอบแบบก้มหน้ามองพื้นแล้วตั้งท่าจะเดินเข้าห้องแต่ดวงใจสังเกตเห็นสภาพลูกสาวคนเล็ก
จึงเดินเข้ามาใกล้ มองตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้งก่อนจะกระตุกยิ้ม
“หึ!
ออกไปไม่ถึงไหนก็ซวยอีกแล้วล่ะสิ แกนี่มันซวยซ้ำซวยซ้อน
ซวยทั้งปีทั้งชาติซวยมาถึงคนในครอบครัวจริงๆ เลยนะนังเด่น
ซวยจนพ่อแกต้องตายไปคนนึงแล้ว
ฉันขอเตือนว่าอย่ามาทำให้ฉันกับยายตาซวยไปมากกว่านี้อีก”
เด่นดวงเงยขวับขึ้นมองมารดา
ดวงตาฉายแววเจ็บปวดระคนน้อยใจ จะว่าจะด่าเธอยังไงก็ได้
เธอทนได้หมดแต่สิ่งเดียวที่ทนไม่ได้คือการพูดว่าเธอทำให้บิดาต้องตาย
“เด่นไม่ได้ทำให้พ่อตาย” น้ำเสียงหญิงสาวแข็งขึ้น
“อ้อ
งั้นเหรอ แล้วพ่อแกตายเพราะอะไร?” เด่นดวงเม้มปากพูดไม่ออก
น้ำตาหยดแหมะลงบนแก้มทั้งสองข้าง มือบางกำแน่นจนข้อนิ้วซีดขาว เธอเลือกเดินเข้าห้องไปเสีย
ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับมารดา “อยู่ใกล้ใครคนนั้นซวยอย่างแก
มันสมควรอยู่คนเดียวไปจนตาย!”
เสียงตะโกนไล่หลังของมารดาทำให้น้ำตายิ่งรินไหลพรั่งพรู
ร่างเล็กทรุดนั่งกับพื้นกอดเข่าซุกหน้าในวงแขน ร่างกายสั่นเทาด้วยแรงสะอื้น
นาทีนี้เธออยากให้พ่อกอด อยากให้พ่ออยู่ตรงนี้กับเธอ
แต่มันเป็นแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว...เธอไม่ได้ทำให้พ่อตาย
แต่ความซวยของเธอเป็นต้นเหตุให้พ่อตาย
‘เราไปฉลองกันที่ไหนดี’
ดวงดลถามลูกสาวคนเล็กด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข
ยกมือขึ้นโยกหัวบัณฑิตจบใหม่ด้วยความภูมิใจ
‘พ่อ! ให้ยายเด่นเลือกร้านเดี๋ยวก็ได้ซวยกันพอดี’
ดวงตาร้องขัด
‘ซวยอะไร แค่เลือกร้านกินข้าวเองนะตา’
‘หึ! แค่ร้านกินข้าวเอง...จำไม่ได้เหรอ
ลูกสาวคุณเลือกร้านไหน ร้านนั้นเป็นต้องปิดทุกที
จะกินอะไรสักทีต้องหาร้านกันสองสามชั่วโมง’
ดวงใจช่วยเสริมลูกสาวคนโต
‘แต่นี่มันเป็นวันของเด่น เด่นควรได้เลือก
อีกอย่างลูกคงไม่ได้ซวยมันก็แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นแหละ’
‘บังเอิญบ่อยเกิ๊น บังเอิญเจอแต่เรื่องไม่ดีตลอด’
ดวงตาประชดประชัน
‘งั้นกินร้านนี้ก็ได้ค่ะ ไม่ปิดแน่ๆ’
เด่นดวงชี้ไปยังร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางที่เปิดอยู่
‘ฮื่อ! เลือกร้านใหญ่หน่อยสิลูก เลี้ยงจบปริญญาทั้งที’
‘ไม่เป็นไรค่ะพ่อ ร้านนี้เด่นชอบ ใกล้บ้านด้วย ไปเถอะค่ะ’
*******************************************************************
หนูเด่นของเราเป็นคนใจสู้ค่ะ เพราะฉะนั้นไม่มีดราม่าที่หนักหน่วงค่ะ (คาดว่านะ 555)
ความคิดเห็น