คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : อีเด่นวัดปิด 1
อีเด่นวัดปิด
หญิงสาวร่างเล็กยืนหมุนตัวเป็นครึ่งวงกลมเพื่อสำรวจการแต่งตัวของตัวเอง
แต่งหน้าอ่อนๆ ด้วยแป้งฝุ่น บลัชออนและลิปมันเท่านั้น โชคดีที่ผิวของเธอขาวเนียน
แต่มันก็ขาวจนเห็นขนแขนชัดเจน เจ้าตัวไม่ชอบสักเท่าไร
เพราะบางคนจะล้อว่าเธอเป็นลิง แต่หลายคนกลับอิจฉาบอกว่าขนแขนของเธอสวย
เธอเป็นคนขนดก ผมเลยหนาและเส้นใหญ่ คิ้วยิ่งดกหนาสีดำสนิท
บนริมฝีปากเห็นไรหนวดจางๆ จนโดนเพื่อนล้อบ่อยๆ ว่าเป็นผู้ชายปลอมตัวมา
แต่พอมองโดยรวมกลับน่ามอง และน่ารักเสียมากกว่า
เมื่อเห็นว่าเสื้อผ้าหน้าผมเรียบร้อยดีแล้ว
หญิงสาวก็หยิบสเปรย์ขวดหนึ่งขึ้นมาเล็งให้หัวพ่นตรงใบหน้าแล้วกดลงสามครั้งติดๆ กัน
ละอองน้ำพร่างพรมลงบนใบหน้าจนรู้สึกชุ่มชื่น เธอยิ้มจนเห็นรอยบุ๋มลึกเล็กๆ
ข้างแก้มซ้าย
“โหยยยย
เด่น แกมีสเปรย์น้ำแร่ด้วยเหรอวะ ไหนๆ ขอดูหน่อยยี่ห้ออะไร”
เบญจาเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันและทำงานที่เดียวกันเอ่ยทักขึ้นตอนเดินออกมาจากห้องน้ำ
เมื่อคืนเธอมาค้างบ้านเด่นดวง “ไหนวะ ไม่เห็นมียี่ห้อเลย”
หญิงสาวร่างอวบผิวขาวจัดยิ่งกว่าเด่นดวงทำหน้าสงสัยเมื่อพลิกดูรอบขวดแล้วไม่พบฉลากใดเลย
เด่นดวงขำก่อนจะดึงขวดสเปรย์กลับมาแล้วยกมือไหว้ก่อนจะหย่อนลงกระเป๋า
“ไม่ใช่สเปรย์น้ำแร่อะไรหรอก
น้ำมนต์ต่างหาก”
“น้ำมนต์!?”
“ฮื่อ
น้ำมนต์ ฉันเอามาจากวัดน่ะ”
“เอามาทำไม
แล้วเอามาตอนไหน เมื่อก่อนไม่เห็นแกใช้น้ำมงน้ำมนต์อะไรเลย”
ว่าพลางเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่แขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กของเพื่อนมาสวม
“เมื่อก่อนเก็บไว้ที่บ้าน
ใช้รดหัวหรือผสมน้ำอาบวันละสองครั้งเช้าเย็น
แต่เดี๋ยวนี้ใส่ขวดสเปรย์พกติดตัวด้วยละ เพราะรู้สึกว่าเริ่มดวงซวยขึ้นทุกวัน”
“หือ
ดวงซวยขึ้นทุกวัน นี่แกยังซวยมากกว่านี้ได้อีกเหรอวะ?”
เบญจาเผลอพูดตามความคิด พอเพื่อนค้อนให้จึงยิ้มแหย “ก็มันจริงนี่”
“เออ
ก็จริงไง ฉันเลยต้องพกน้ำมนต์ไว้ล้างซวยบ้าง”
“แล้วมันช่วยได้จริงเหรอ?” คราวนี้เบญจาสงสัยจริงๆ
“ไม่รู้สิ
แต่ฉีดแล้วสบายใจก็ฉีดๆ ไปล่ะ”
“แล้วนี่ของเขิงอะไรแกเตรียมดีแล้วใช่มะ
ดวงซวยอย่างแกต้องรอบคอบหน่อยนะเว้ย จะได้ไม่มีอะไรขัดข้องอีก
วันนี้วันเกิดต้องเริ่มต้นด้วยเรื่องดีๆ นะรู้มั้ย”
“รู้แล้วจ้า
เตรียมพร้อมหมดแล้ว รับรองว่าไม่มีอะไรติดขัดแน่นอน”
เด่นดวงเดินไปยืนหน้าโต๊ะตัวเล็กมุมห้องที่วางชุดสังฆทานเอาไว้
ใบหน้าสลดลงเล็กน้อย “ฉันสงสัยมาตลอดเลยนะว่าทำไมพ่อถึงตั้งชื่อให้ฉันว่าเด่นดวง
นอกจากเพราะต้องการให้มันคล้องกับชื่อพ่อแล้วความหมายของมันโคตรไม่เข้ากับฉันเลย”
คนที่แต่งตัวเสร็จแล้วเดินมาโอบไหล่เพื่อนไว้
“พ่อเคยบอกแล้วนี่ว่าอยากให้แกเด่นเรื่องดวง
แต่พ่อคงไม่รู้ว่าอนาคตแกจะซวยซ้ำซวยซ้อนได้ขนาดนี้ เอาน่า...ถึงแกจะซวยทุกเรื่อง แต่แกก็ยังโชคดีที่มีเพื่อนสวยและแสนดีอย่างฉันนะ”
“จ้ะ!”
เด่นดวงแกล้งทำหน้าเพลียใส่เพื่อน
“ไปเถอะ
ชักช้าเดี๋ยวสาย รถติดจะไปทำงานสายเอาได้อีก อยู่กับแกไม่ควรชะล่าใจอะไรทั้งนั้น
ต้องระวังให้มากที่สุด สายคราวนี้ยายหัวหน้าหลินปิงนั่นหาเรื่องไล่แกกับฉันออกแน่นอน”
ว่าแล้วก็ช่วยกันถือชุดสังฆทานพร้อมดอกไม้ธูปเทียนกันออกมาจากห้อง
เสียงเจี๊ยวจ๊าวด้านนอกทำให้สองสาวชะงักแล้วหันมองหน้ากัน
ปกติคนอื่นๆ ในบ้านไม่ตื่นเช้ากันขนาดนี้ ทำไมวันนี้ถึงตื่นมาส่งเสียงกันได้
“อ้าว
เด่นมานี่สิลูก”
ดวงใจหันมาเห็นลูกสาวคนเล็กก็รีบร้องเรียกพร้อมกวักมือให้เข้าไปหาด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้มกว้างแสนกว้างจนไฝมุมปากแทบยกชิดใบหู
เด่นดวงกับเบญจาเบิกตาโตใส่กัน
ก่อนจะทำปากไม่มีเสียงพร้อมกันว่า ‘ลูก!?’
ปกติดวงใจจะเรียกเด่นดวงว่า
‘นังเด่น’
เหมือนเธอเป็นลูกเลี้ยง ทั้งที่เป็นลูกแท้ๆ
เหมือนกับพี่สาวที่นางเรียกได้อย่างสนิทปากว่า ‘ยายตา’ บ้าง ‘ลูกตา’ บ้าง
สองสาวเดินเข้าไปหาช้าๆ
พอถึงห้องรับแขกเล็กๆ กลางบ้านไม้ชั้นเดียวขนาดสามห้องนอนสามห้องน้ำเล็กๆ
ถึงได้เห็นว่าดวงตานั่งอยู่กับมารดา สีหน้ารอยยิ้มเหมือนคนเป็นแม่ไม่ผิดเพี้ยน
“แม่กับพี่ตาทำอะไรกันอยู่คะ”
“มาใกล้ๆ
สิ มาดูให้เต็มตา พี่ของแกน่ะเขากำลังจะมีข่าวดี”
“ข่าวดี!”
สองเพื่อนรักเอ่ยพร้อมกันด้วยความตกใจ
“ก็ใช่น่ะซี
นี่คุณกวงลูกเจ้าของร้านทอง อ๊าย ไม่ๆ ไม่ใช่ลูกเจ้าของร้านทอง
ต้องบอกว่าทายาทเจ้าของร้านทองร้านใหญ่ใกล้สำนักงานเขตฯ น่ะเขาขอฉันแต่งงานแล้วนะ
ดูสิ แหวนเพชรเม็ดใหญ่มากเลยนะ” ดวงตาพูดพร้อมยืดแขนข้างซ้ายออกมาจนตึง
“ลูกตาเนี่ยเป็นคนมีโชคมีวาสนาแท้ๆ
เลยนะ เรียนก็เก่ง สวยก็สวย คนมาจีบก็มีแต่รวยๆ ทั้งนั้น แม่ละชื่นใจจริงๆ ไม่...”
ความคิดเห็น