ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียนำโชค

    ลำดับตอนที่ #4 : หัวเดียวกระเทียมลีบ 3

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ย. 63



    เรื่องปกป้องหลานรักคุณพ่อถนัด อเนกอดปากไม่ไหว

    เรื่องไล่ลูกที่พูดไม่คิดออกไปจากธุรกิจฉันก็ถนัดเหมือนกัน ความเงียบที่โอบรัดบรรยากาศภายในห้องชวนให้เกิดความอึดอัดแก่ทุกคนครู่หนึ่ง ที่วันนี้ฉันนัดแค่คนในมาประชุม นอกจากจะถามเรื่องงานแล้ว เพราะฉันจะแจ้งให้รู้โดยทั่วกันว่า...อีกสามเดือนฉันจะเลือกทายาทที่จะมาแทนที่ฉัน

    ทุกคนตื่นตัวขึ้นมาทันทีโดยเฉพาะอนันต์ อเนกและภัคภณ ความจริงโอฬารก็ตื่นเต้นเช่นกัน เพียงแต่เขาไม่หวังว่าตัวเองจะมีสิทธิ์ในจุดนั้นอีกต่อไปแล้ว จึงเฉยๆ ส่วนวรัทไม่เคยอยากได้ตำแหน่งใดๆ เลย เขาจึงนั่งนิ่งรอฟัง

    หวังว่าคุณพ่อจะยุติธรรม อนันต์เอ่ยกึ่งกล้ากึ่งเกรง

    อัศวินหันมาจ้องลูกชายคนโต แววตาฉายรอยผิดหวังอย่างไม่ปิดบัง

    อะไรคือความยุติธรรมที่แกพูดถึง ลูกชายคนโตมีสิทธิ์มากกว่าคนอื่นๆ หลานชายคนโตต้องได้รับตำแหน่งเพราะเรียงลำดับอาวุโสงั้นเหรอ?

    เปล่าครับ ผมก็แค่อยากให้ตัดสินตามความสามารถ ไม่ใช่ตามความรู้สึก

    แล้วแกคิดว่าความรู้สึกของฉันตัดสินความสามารถใครไม่แม่นงั้นเหรอ?

    พอเถอะครับพ่อ วรัทเอ่ยบอกบิดาเบาๆ

    เอาเถอะ ฉันไม่ลำเอียงหรอก ไม่เคยเลย ที่ผ่านมาฉันตัดสินตามความสามารถที่ฉันมองจากมุมของตัวเองเท่านั้น อัศวินย้ำให้ทุกคนเข้าใจ ส่วนใครไม่เข้าใจเขาก็ไม่สน คราวนี้ฉันจะให้มันยุติธรรมในความรู้สึกของทุกคน ให้โอกาสทุกคนได้พิสูจน์ตัวเองเท่าๆ กัน

    ยังไงครับคุณปู่ ภัคภณเป็นคนเอ่ยถาม แววตาเขาดูกระตือรือร้นกว่าใคร

    ฉันมีกฎเกณฑ์สองข้อในการตัดสิน ข้อแรกอีกสามเดือนนับจากนี้ ใครสามารถทำยอดธุรกิจในกลุ่มของตัวเองให้เติบโตได้เปอร์เซ็นสูงสุด คนนั้นจะมีสิทธิ์อันดับหนึ่ง ทุกคนรู้แล้วนะว่าตอนนี้ธุรกิจที่ตัวเองดูแลอยู่เติบโตแค่ไหน ไม่ต้องแข่งกับกลุ่มธุรกิจคนอื่น ทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ก็พอ

    ภัคภณยิ้มกริ่ม สำหรับเขาเรื่องนี้ไม่ยากเลยสักนิด แค่ธุรกิจที่เพิ่งเปิดในเมืองจีนก็คงจะเติบโตไปไวได้ไม่ยาก อย่าว่าแต่ให้มากที่สุดเลย ให้มันโตเต็มร้อยเขาก็คิดว่าตัวเองทำได้

    วรัทฟังแล้วก็เฉยๆ เขาไม่ตั้งใจแข่งอยู่แล้ว ไม่เคยอยากไปอยู่จุดนั้น ชีวิตที่มีอำนาจแต่ขาดอิสระ ไม่ได้หอมหวานสำหรับคนที่ฝันอยากใช้ชีวิตตามใจตัวเองอย่างเขาเลยสักนิด

    โอฬารสองจิตสองใจ ใจหนึ่งไม่อยากลงแข่ง จะว่าท้อหรือยอมแพ้ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว แต่คิดว่าตัวเองอยากทำงานให้ดีที่สุดมากกว่าต้องมาแก่งแย่งตำแหน่งกับบรรดาพี่น้อง อีกใจหนึ่งเขาก็นึกถึงคำพูดของบิดา ยักษ์อย่าทิ้งคุณปู่นะลูก คุณปู่เขาต้องการยักษ์คอยช่วยเหลือ เชื่อพ่อนะ

    แล้วอีกข้อละครับ อเนกถามด้วยความอยากรู้ พาให้ทุกคนพร้อมใจกันหันไปมองประธานบริษัท แม้แต่วรัทที่มีท่าทีเฉยๆ ก็ยังอยากรู้ด้วยเหมือนกัน

    ถึงเวลาแล้วฉันจะบอกอีกที แต่ไม่ต้องกลัว...ฉันให้ความยุติธรรมกับทุกคนแน่นอน

    คำตอบของประมุขนอกจากไม่คลายความสงสัยแก่ทุกคนแล้วยังเพิ่มดีกรีความอยากรู้ให้พุ่งสูงขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

     

    หลังประชุมเสร็จโอฬารถูกอัศวินเรียกไปพบที่ห้องทำงานเป็นการส่วนตัว แม้ที่ผ่านมาจะรู้สึกว่าอัศวินโปรดปรานหลานคนกลางเป็นพิเศษ แต่ตอนที่โอฬารทำงานชิ้นใหญ่พลาด ประธานบริษัทก็โกรธมาก จนอเนก อนันต์และภัคภณคิดว่าการเรียกพบครั้งนี้เป็นการเรียกไป ตำหนิ เรื่องใดสักเรื่องมากกว่าจะเรียกไปด้วยความเสน่หา

    เพราะนับตั้งแต่วันที่ปลดโอฬารออกจากตำแหน่งรองประธานฯ อัศวินก็ไม่เคยเรียกเขาไปพบเป็นการส่วนตัวเลยสักครั้ง

    คิดยังไงกับเรื่องตำแหน่งประธานบริษัท อัศวินถามคนที่นั่งหน้าตาเรียบเฉยหน้าโต๊ะทำงานของตัวเอง

    ผมยึดถือเรื่องหน้าที่เป็นหลักอยู่เสมอ ถ้าต้องเอาชนะเพื่อหน้าที่ ผมก็ทำได้ครับ คำตอบของเขาไร้อารมณ์เสียจนอัศวินถอนหายใจ

    แกเหมือนคนไม่เหลือพลังชีวิตใดๆ ในตัวเลยนะยักษ์ ปู่เคยมีหลานที่เต็มไปด้วยพลังมหาศาล ทำงานด้วยความมุ่งมั่นมากกว่านี้ ชีวิตอาจไม่ได้สดใสเหมือนอยู่กลางทุ่งดอกไม้ แต่แววตาของแกมีแต่ไฟฝัน แล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้น พอคนตรงหน้าแทนตัวเองด้วยคำว่าปู่ เหมือนความอ่อนโยนในใจท่านวิ่งมาโอบล้อมหัวใจโอฬารเอาไว้จนเขาพูดไม่ออก เรื่องผู้หญิงเหรอ?

    ร่างกายสูงใหญ่สมกับชื่อยักษ์เกร็งขึ้นทันที เขาเมินหน้าไปทางอื่น

    ผมไม่มีเวลาคิดเรื่องนั้นหรอกครับ แค่งานที่ต้องทำทุกวันนี้ก็ไม่เหลือเวลาให้คิดเรื่องไร้สาระอะไรแล้ว

    ต่อให้ไม่คิด คนเราก็มีความรู้สึก แล้วแกอย่าลืมว่าผู้หญิงมักเป็นเบื้องหลังความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของผู้ชายเสมอ อัศวินผ่อนลมหายใจออกยาว ทิ้งร่างกายเครียดเกร็งให้ผ่อนคลายลงพิงพนักเก้าอี้ ดูอย่างไอ้โตสิ คิดว่าถ้ามันไม่มีนีราเป็นเลขา มันจะทำอะไรได้คล่องขนาดนี้เหรอ

    โอฬารเผลอกำมือแน่น ยังไม่ยอมหันมามองคนเป็นปู่ ไม่อยากให้ท่านเห็นความหวั่นไหวในแววตาที่ยากจะปกปิด

    แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกความสำเร็จต้องมีผู้หญิงอยู่เบื้องหลังนี่ครับ

    ก็ใช่...งั้นปู่ขอถามในฐานะปู่ ไม่ใช่ประธานบริษัท...แกมีคนที่ชอบแล้วหรือยัง

    ชายหนุ่มหันขวับมามองคนเป็นปู่ ตั้งแต่เกิดมาจนตอนนี้อายุสามสิบห้าปี อัศวินไม่เคยถามคำถามนี้กับเขาเลย เหตุใดวันนี้ถึงเรียกมาถาม ไม่ได้เสวนาเรื่องงานอย่างที่เขาคิดไว้

    ไม่มีครับ

    *******************************

    อย่าลืมกดหัวใจ กดเข้าชั้นนะคะ จะได้ไม่พลาดตอนต่อไปค่า ^^



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×