คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 7
Chapter 7
ตะวันใกล้ลับขอบฟ้าแล้ว แสงสว่างลดน้อยลงเรื่อย ๆ ยิ่งในป่าแล้วแสงสว่างยิ่งน้อยลงไปอีก เพราะมีต้นไม้มาช่วยบดบัง อีทึกรู้สึกหมดแรงและเหนื่อยมาก ทว่าคนข้างหน้าก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเดิน ร่างหนาหันหน้ากลับมามองร่างบางที่เดินตามอยู่ เพราะได้ยินเสียงหอบหายใจถี่หนัก อย่างผิดสังเกตุ
“เป็นอะไรไป เหนื่อยหรอ?” คังอินถามสีหน้าเป็นห่วง“กลั้นหายใจทำไม?” คังอินถามขึ้นอีกครั้ง เพราะเสียงหายใจหนักๆนั้นหายไป ไม่ใช่ว่ากลับเป็นเสียงลมหายใจเหมือนเดิม มันเหมือนไม่ได้ปล่อยลมหายใจออกมาเลยมากกว่า
“ฮึบ ปะ..เปล่า” อีทึกหอบหายใจ ก่อนเปิดปากพูดอีกครั้งอย่างตะกุกตะกัก
“เหนื่อยก็บอก” ..หน้าแดง เหงื่อแตกพลั่กขนาดนั้นยังบอกไม่เหนื่อย โกหกไม่เนียนจริงๆ - -...
“เปล่า”
“โกหก” คังอินไล่ต้อนอย่างจับผิด เท้ายังเดินต่อไปเรื่อย ๆ
“ไม่ได้โกหก”
“แล้วทำไมเดินช้า”
“ก็นายเดินเร็ว” อีทึกตอบอย่างหงุดหงิดใจ ..จะสงสัยอะไรนักหนา แรงจะเดินยังไม่มีเลย ชวนคุยอยู่ได้ ....
“ชั้นผิด ??” คังอินหันหน้ามาถาม
“เออ !! หยุดพูดซะที เดินไปเงียบๆไม่ได้รึไง ” อีทึกแหวขึ้นอย่างรำคาญ พลันรู้สึกหน้ามืดขึ้นมากะทันหัน อีทึกทำท่าจะเซล้ม คังอินตวัดแขนประคองได้ทันด้วยความตกใจ
“เห้ย!! เป็นอะไร??” เพราะแขนติดกันอยู่ทำให้คังอินต้องใช้มืออีกข้างประคองเอวอีทึกไว้ ทำให้ทั้งคู่ต้องหันหน้าเข้าหากันอย่างช่วยไม่ได้ ระยะห่างระหว่างใบหน้าทั้งสองในตอนนี้..ใกล้กันจนรู้สึกถึงลมหายใจแล้ว!!
“...” พูดอะไรไม่ออกทั้งสองคน อีทึกหน้าแดงขึ้นไปอีกเมื่อได้สบตากับร่างสูงใกล้ๆ เรี่ยวแรงที่ใกล้จะหมดเต็มทียิ่งหดหายเข้าไปอีก
“ปะ เป็นอะไรมั้ย ??” คังอินถามทำลายความเงียบ เขาเองก็รู้สึกเขินๆอยู่เหมือนกัน ถึงแม้เหตุการณ์แบบนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นกับเขาเป็นครั้งแรกก็ตาม หากแต่จะเป็นอีกฝ่ายมากกว่าที่เขินอายม้วนต้วน ส่วนเขาก็มีหน้าที่ทำสายตาปิ๊งๆ โปรยเสน่ห์ตามฉบับ แต่กับคนๆนี้เท่านั้น ทำเอาคังอินอายหน้าแดงเหมือนเด็กชายโดนพี่สาวหอมแก้ม
“มะ..ไม่ ไม่เป็นไรแล้ว” อีทึกตอบตะกุกตะกักเช่นกัน
“ดะ..เดินต่อกันเถอะ” คังอินตัดบท คลายวงแขนจากเอวเล็ก แล้วเดินนำหน้าไปทันทีไม่ให้ร่างบางข้างหลังเห็นหน้าแดงๆของตน
ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ห้วงรักสีชมพูเมื่อครู่จะทำให้หายจากอาการผิดปกติก่อนหน้านี้ไป แต่เมื่ออีทึกที่เดินตามคังอินอยู่หันมองรอบข้าง ก็เห็นเพียงเงาทึบดำของต้นไม้รอบตัว มิหนำซ้ำมองไปด้านหลังก็เจอแต่เส้นทางมืดทึบ ก็ตระหนักได้ว่าตนเองยังอยู่ในป่า อีกทั้งแสงสว่างก็ลดลงทุกทีๆเพราะเป็นเวลาย่ำค่ำแล้ว ร่มไม้เย็นสบายกลับเหมือนเงาดำอันแสนน่ากลัวสำหรับเขา อาการที่เหมือนจะหายไปแค่ชั่วคราวกลับมาอีกครั้ง อีทึกรู้สึกหมดแรง และหน้ามืดแต่ยังฝืนเดินต่อ คังอินรีบเดินเร็วเพราะยังเขินไม่หาย ไม่ทันสังเกตุร่างบางด้านหลังที่ทำท่าจะเป็นลมอยู่ร่อมร่อ
“รีบเดินสิ” คังอินส่งเสียงบอกอีทึกแต่ไม่ทันหน้ากลับมา เพราะรู้สึกว่าอีทึกเดินช้าลง
“อะ..อื้ม” อีทึกตอบอย่างหมดแรง ขาเรียวอ่อนปวกเปียก จนเหมือนโดนคังอินลากมากกว่าเดินตามมาด้วยกัน
ความกลัวความมืดของอีทึก ระยะทางที่เดินมาไกล และแรงที่ใกล้จะหมดเต็มที่ทำให้อีทึกไม่สามารถฝืนทนไหวแล้ว ร่างบางทรุดลงกับพื้นทันทีอย่างอ่อนแรง ขาของเขาไม่มีแรงพอที่จะลุกขึ้นยืนได้ แรงกระตุกจากกุญแจมือทำให้คังอินหันมามองอย่างตกใจ อารมณ์เขินเมื่อกี้หายไปหมดสิ้น เมื่อเห็นร่างบางทรุดลงไป ใบหน้าซีดขาว เหงื่อกาฬแตกพลั่ก ดวงตาปรืออย่างอ่อนแรง คังอินทรุดลงตามถามไถ่อย่างเป็นห่วง แต่ไม่ได้คำตอบอย่างใจคิด อีทึกไม่มีแรงพอที่จะพูดตอบเขาเลย
“จะให้ฉันลากนายไปก็กระไรอยู่ ” คังอินพูดขึ้นอย่างหาทางออก พลับความคิดก็พุ่งขึ้นมา ...อุ้ม ต้องอุ้มเท่านั้น....เหลือหนทางสุดท้ายแล้วนะ...
“ขอโทษนะ” คังอินพูดขอโทษก่อนถือวิสาวะอุ้มอีทึกขึ้นมา แต่กุญแจมือเป็นอุปสรรค เขาไม่สามารถอุ้มอีทึกท่าเจ้าหญิง ขี่หลัง หรือประคองไปได้ คังอินคิดอย่างหนักใจ แล้วภาพที่เขาดูรายการเด็กวันนั้นก็ผุดขึ้นมา คังอินคิดได้แล้วรีบอุ้มอีทึกท่าแม่อุ้มลูกพาดไหล่ทันที มือของเขาเกาะเกี่ยวต้นขาของร่างบางเอาไว้กันไม่ให้หลุด วงแขนเล็กของอีทึกตวัดโอบรอบคอคังอินทันทีอย่างหาที่ยึดเพราะความตกใจ อีกทั้งขาเรียวทั้งสองตวัดเกี่ยวเอวคังอินไว้อัตโนมัติเช่นกัน อีทึกที่ตาจะปิดร่อมร่อ รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายร้องค้านทันที
“นะ..นี่! ฉันไม่ใช่..แฮ่ก เด็กนะ” อีทึกพูดไปด้วยหอบไปด้วย ไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน
“แล้วจะให้ทำไงเล่า ??”
“ไม่รู้ อุ้มแบบนี้ ฉะ..ฉัน แฮ่ก ..ไม่เรอหรอกนะ” พูดจบฟุบหน้าลงกับไหล่กว้างของคังอินทันที เขาไม่ใช่เด็กทารกนะ จะได้อุ้มพาดไหล่เพื่อให้เรอหลังกินนม - -
“ฮึๆๆ จะเป็นลมแล้วยังจะเล่นอีกนะ ถ้าจะโทษก็ไปโทษครูโฮดงนู่นไป” ..เด็กหรอ ? หึๆ เหมือนลิงมากว่านะ ฮ่าๆๆๆ... คังอินคิดแล้วหัวเราะในใจ
“
” มีเพียงความเงียบตอบกลับมา คังอินคิดว่าอีทึกคงหลับไปแล้ว จึงรีบเดินต่อ อีทึกลอบยิ้มบางๆให้อย่างขำๆ ทำไมจะไม่รู้ว่าเขิน ก่อนเข้าสู่ห้วงนิทราจริงๆอย่างเหนื่อยอ่อน
“นายว่าพี่ทึกเค้าจะเป็นอะไรมั้ยอ่ะ ฉันเป็นห่วงพี่เขาจัง” เรียวอุคเอ่ยถามเยซองพลางทำหน้ากังวลเพราะเป็นห่วงพี่ชายมาก
”คงไม่เป็นไรหรอกน่า พี่นายอยู่กับคังอินเชียวนะ ไม่เป็นไรหรอก” เยซองพูดให้กำลังใจ แล้วทำหน้าสบายๆ
”อืม...แล้วพี่คังอินเป็นคนยังไงอ่ะ?” เรียวอุคถามด้วยความสงสัย ทำไมเยซองถึงได้สบายใจนัก การที่เขาจะฝากคนที่เขารักไว้กับใครก็ขอให้รู้จักนิสัยใจคอซักหน่อยแล้วกัน
”มันก็เป็นคน...ที่ดีในระดับนึงนะ”
แต่เรื่องนั้นคงไม่นับหรอกมั้ง...
”อ้อ...หรอ แต่ดูหมอนั่นไม่น่าไว้ใจเลยอ่ะ T^T” พูดแล้วทำหน้าจะร้องไห้ ทำไมเขาไม่บอกให้ไวกว่านี้นะ จะได้ฝากให้ช่วยดูแลกันได้ มานึกได้ตอนนี้ สายไปซะแล้ว เรียวอุคคิดอย่างโทษตัวเอง ทำเอาเยซองตกใจพูดปลอบยกใหญ่
”เอาน่า ๆๆ ไม่เป็นไรหรอก ไอ้คังอินมันแข็งแรงจะตาย ถ้าพี่นายไม่สบายขึ้นมา มันแบกไปค่ายได้สบายๆเลย ^^” เยซองพูดปลอบแล้วยิ้มให้กำลังใจ แล้วหันมองร่างบางที่ทำท่างอแงเป็นเด็กๆอย่างนึกเอ็นดู ...น่ารักดี....
“จริงนะ ??” เรียวอุคถามเพื่อความแน่ใจ
“จริงสิ ^^ ” เยซองก็ตอบให้เพื่อย้ำความมั่นใจเหมือนกัน
”อื้อ ! ขอบคุณมากนะ ><” เรียวอุคเอ่ยขอบคุณแล้วก้มหน้าเขิน เขาไม่กล้าสู้สายตาเมื่อกี้จริงๆ จึงต้องเป็นฝ่ายหลบตาก่อน ก็สายตาเมื่อกี้ มันเหมือนแฝงความหมายอะไรอยู่ ซึ่งเขาก็แปลไม่ออก รู้แต่ว่ามองแล้วหน้าแดงร้อนผ่าวเลย
”อืม ไม่เป็นไร” พูดแล้วจับมือเรียวอุคข้างที่ติดกันแล้งบีบเบาๆอย่างล้อๆ ทำเอาเรียวอุคร้องโวยวาย
”นี่ ! ไม่ต้องมาแอบจับมือเลย >0< !!”
”ไม่ได้แอบซักหน่อย อีกอย่าง แบบนี้ก็อุ่นดีออก ^^ ” เยซองพูดแกล้ง
”ร้อนนนน ปล่อยเลยน้าาาา~”
”แต่ฉันหนาวนะ ฮะๆๆๆๆ” เยซองยังไม่เลิกแกล้ง
”นี่ !! 3-” เรียวอุคทำท่าจะงอนตุ้บป่องเข้าแล้ว
“เฮ้ ล้อเล่นน่ะ อย่างอนสิ โอ๋ๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ” เยซองง้อไปหัวเราะไปอย่างอารมณ์fu
ตอนงอนนี่ก็น่ารักดี....
”ไม่ต้องมาหัวเราะเลย ฉันงอนนายอยู่....”
”อ๊ากกกกกกกก!! ย๊ากกก!! ว๊ากกกก!!” ยังไม่ทันที่เรียวอุคจะพูดจบเสียงประหลาดๆก็ดังขึ้น ดรียวอุคเงยหน้ามองร่างสูงข้างๆอย่างงงๆ เมื่อกี้ไม่ใช่เสียงตานี่แน่นะ?? เยซองก็หันหน้ามองเรียวอุคเหมือนกัน ต่างคนต่างงง
”ตุ้บ! ตั้บ! โอ๊ยย!!!!”
”นี่ไอ้บ้าเอ๊ย !! แกแกล้งฉันรึไง? ห๊าาาาาา !!!”
”ใครว่าฉันแกล้งนาย อย่าโวยวายได้มั้ย แม่งเอ๊ย !!”
เสียงประหลาดๆยังดังขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาคนตัวเล็กข้างๆเยซองมีสีหน้าหวั่นกลัว เริ่มจินตนาการไปไกลแล้ว
”นี่ ๆ นายได้ยินเสียงอะไรมั้ยเยซอง” เรียวอุคถามพลางจับมือของเขากับเยซองให้แน่นขึ้น หลังจากได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ...เมื่อกี้ยังโวยวายไม่ให้จับอยู่เลยนะ ทีงี้จับซะแน่นเชียว ฮึๆ.. เยซองคิด
”เออ นั่นดิ เสียงมันเหมือนจะอยู่แถวๆนี้นะ” เยซองพูดแล้วมองไปที่ทางเดินข้างหน้า
”หรือว่าจะเป็น ผ...ผะ... ว๊ากก!!” เรียวอุคคิดเองเออเองแล้วซุกหน้าเข้ากับแขนแกร่งของเญซองด้วยความกลัว
”ไม่ใช่หรอกมั้ง” พูดปลอบแล้วขำในใจ พูดเองกลัวเองก็ได้ด้วยนะคนนี้
”หนอยแน่ะ แก๊ !! ตายซะเถอะ !! ย๊ากกกกกกกก !!!!!!” เสียงโวยวายเมื่อครู่เริ่มดังขึ้นอีกครั้ง แต่ตอนนี้มันเหมือนอยู่ตรงหน้าเยซองและเรียวอุคแล้ว
“เห้ยย ! นั่นมันพี่ฮีชอลนี่” เรียวอุคตกใจเมื่อเห็นร่างทั้งสองโผล่ออกมาจากทางโค้งอยู่ตรงหน้าเขา
“อ้าว ไอ้ฮัน มานี่ได้ไงวะ” เยซองทักขึ้น
“เห้ย ! ไอ้เย่ ไม่รู้ว่ะ กูก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ แล้วมาเจอมึงเนี่ย โอ๊ยย! หยุดชกก่อนได้มั้ย?” ฮันกยองพูดพลางเอนตัวหลบกำปั้นของฮีชอลที่ระดมปล่อยมาที่เขาอย่างต่อเนื่อง
“นี่ ! นายกล้าหลบฉันหรอ ?? ไปตายซะเถอะ !! ..อ้าว ? เรียวอุคมาอยู่นี่ได้ไงอ่ะ ?” ฮีชอลที่เพิ่งหยุดทุบไหล่ฮันกยองถามขึ้นอย่างงงๆ
“ไหนๆก็เจอกันแล้ว ผมว่าเรารีบเดินหาทางไปค่ายกันดีกว่าครับ” เรียวอุคเสนอขึ้น
“เอาสิๆๆๆ ฮุยเลฮุย !!” ฮีชอลตอบรับอย่างดีใจ ..มีเพื่อนไปด้วยอีกสองคนแล้ว ไม่ต้องเดินกับไอ้ตี๋แผ่นดินใหญ่นี่ตามลำพังแล้วววว!!! เย้!!!
..
“
” ฮันกยองไม่รู้จะพูดอะไร ใจจริงเขาอยากเดินกับฮีชอลสองคนมากกว่า กัดกันไปกัดกันมา สนุกดี ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ทั้งๆที่เขาออกจะรักความสงบ (จริงง่ะ ?? - -)
“ไปกันเร็วเถอะ Let’s Gooooooo!!!!!” ฮีอชอลปลุกระดม(?)อย่างเริงร่า เรียวอุคทำหน้าเอือมเล็กน้อยกับพี่คนนี้ (อย่าให้เจ้รู้นะเดี๋ยวโดนเหมือนด๊อง TT ดงเฮ (มาได้ไงงง?? แกต้องอยู่กับบอมไม่ใช่หรอยะ ???))
.....เห้อ ~ หาทางไปค่ายนะ ไม่ใช่ไปขุดสมบัติ ร่าเริงไปไหนเนี่ย ยัยติ๊งต๊องเอ๊ยย... ฮันกยองคิดอย่างอ่อนใจ แต่ก็อดยิ้มไม่ได้กับท่าทางปัญญาอ่อนๆของคนหน้าสวยคนนี้
ด้าน วอนมิน และ คยูฮยอก
“ย๊ากกกกก เมื่อไรจะถึงเนี่ย” ฮยอกแจบ่นออกมาหลังจากเดินสัปหงกมาเป็นเวลานาน
“จะบ่นทำไมเนี่ย ตัวเองก็หลับมาตลอดทาง”คยูฮยอน บ่นฮยอกแจอย่างรำคาญ
“โอ๊ย!เมื่อยขาแล้วอ่ะ เมื่อไรจะถึงเนี่ยพี่ซีวอนT_T”ซองมินบ่นบ้าง
“ให้ผมอุ้มไหมครับ”คยูฮยอนพูดขึ้น
“อย่ามาเสี่ยว”ซองมินและฮยอกแจตะโกนออกมาพร้อมกันอย่างหมั่นไส้
“เดินๆไปเหอะน่าอย่ามาบ่น จะให้ฉันโทรหาพ่อให้ส่งเฮลิคอปเตอร์มาป่ะล่ะ??”
“เออใช่!!!”คยูฮยอน ซีวอนและซองมินตะโกนออกมาพร้อมกัน
“โทรเลยๆๆๆ”คยูฮยอนและซองมินเร่งส่วนฮยอกแจก็เริ่มเอ๋อรับประทานว่าเขา คุยเรื่องอะไรกัน
“โหลๆๆ...ตู๊ด..ตู๊ด..ตู๊ด โธ่โว้ยย!! ไม่มีสัญญาณอ่ะ”ซีวอนพูดอย่างหัวเสีย
“เออๆงั้นเดี๋ยวลองโทรหาพี่คังอินหน่อยดีกว่า”คยูฮยอนพูด
“ตู๊ดดๆ ไม่มีสัญญาณอีกแล้ว”
“ทำไงดีเนี่ย เมื่อย ๆๆๆ อยากกลับบ้านนนนนนน” ซองมินโวยวาย
“เอ๊ะ! นั่นใช่ประตูรึเปล่า”ฮยอกแจอุทานออกมา ขณะที่ซีวอนกำลังจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง
“เฮ้ย! อย่าๆถ้านายไม่เอา ฉันขอ”ฮยอกแจพูด (ไม่ค่อยเลยนะฮยอกนะ - ไรเตอร์)
“พอได้แล้วๆ รีบเดินไปทางประตูนั่นดีกว่า เผื่อมันจะเป็นประตูทางเข้าค่าย”ซองมินพูดอย่างรำคาญ ไม่ใช่รำคาญเสียงทะเลาะหรอกนะแต่รำคาญสายตาไอ้หมาป่าบ้าที่มองอย่างหื่นๆ
“นั่นสิ ทะเลาะกันอยู่ได้ ใช่ไหมครับซองมิน?”คยูฮยอนเสี่ยวใส่
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ”ซองมินพูดตัดรำคาญ
“รีบเดินเข้าไปเถอะ!”
“นี่!พวกนายเป็นใครน่ะ?บุคคลภายนอกห้ามเข้านะ”ยามหน้าตาป่วงๆที่นั่งอยู่ที่ป้อมทางเข้าพูดขึ้น
“พวกเราเป็นนักเรียนจากโรงเรียนฮยางซูและทัมแบ”ซีวอนพูดเสียงเข้มใส่ทำเอายามหวั่น(เพราะขนาดตัว ฮ่าๆๆ:ไรเตอร์)
“โอเคๆๆๆ เข้าไปได้ๆ”ยามรีบพูดแล้วพยักหน้าหงึกหงักทันทีอย่างกลัวๆ
...ทำไมให้เข้าง่ายขนาดนี้วะ ถ้าเป็นโจรอ้างมาไม่ระเบิด บึ้ม! ตายกันทั้งค่ายหรอวะเนี่ย?... ฮยอกแจคิดอย่างหงุดหงิดใจกับความไม่เอาไหนของยามที่นี่
“นี่!เราต้องเดินอีกไกลแค่ไหนเนี่ย?”เสียงที่ปกติดูร่าเริงบ่นออกมา
“ไม่รู้”คำตอบง่ายๆสั้นๆหลุดออกจากปากของคนที่ถูกล็อคข้อมืออยู่ด้วยกันอย่างคิบอม ตลอดระยะทางที่เดินมาก็นับว่าไกลพอสมควรแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าพวกเขาจะถึงค่ายดัดสันดานงี่เง่านั่นซักที
“โธ่เอ้ย!” คำสบถออกมาจากปากของร่างบาง
“นี่!นายไม่คิดจะพูดอะไรเลยหรือไง ห๊ะ?”ดงเฮขึ้นเสียง
“ไม่!!!”คิบอมตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“โธ่เว้ย!! ชวนคุยน่ะ ชวยคุย ทำเป็นไหมไอ้บ้า”
“ไม่” มีเพียงคำตอบเดิมๆกลับมา
พรึ่บๆ!!! เสียงเหมือนมีตัวอะไรบางอย่างเคลื่อนผ่านพุ่มไม้อยู่หลังพวกเขา
“เห้ย! นายได้ยินอะไรไหม?”ดงเฮทำท่าตกใจ
“ไม่”
“นี่!!นายไม่ได้ยินหรือไง หัดไปเช็คหูบ้างนะเสียงออกจะดัง เหมือนมีอะไรอยู่หลังพุ่มไม้ตรงนั้นเลยอ่ะ”ร่างบางพูดแล้วทำท่าคิด
“อ้อออออ...คิดออกแล้วมันต้องเป็น...นกอีก๋อยแน่ๆเลย ฮ่าๆๆ เอ๋! หรือว่าจะเป็นเจ้าหมาพูดได้ มันชื่ออะไรนะ อืมมมมม...อ้อ ดั๊ก ใช่ดั๊ก ฮ่าๆๆๆ”ดงเฮพูดพร้อมกับอธิบายท่าทางประกอบไปด้วย
คิบอมมองหน้าดงเฮอย่างงงๆ อะไรวะ?นกอีก๋อย?ดั๊ก?
“นี่!ไม่ต้องมาทำหน้างง อย่าบอกนะว่านายไม่เคยดูอ่ะ??”ดงเฮจ้องจับผิด
“ไม่เคยดูอะไร?”คิบอมมองหน้าร่างบางพร้อมกับทำหน้างง
“โห!!บ้านนายอยู่หลังเขาหรือไง ก็เรื่อง UP ไง ไม่ต้องทำหน้างงเลย บ้านนายไฟฟ้าเข้าถึงไหม ห๊ะ??ฮ่าๆๆ”
“อะไรของนาย!”คิบอมทำเสียงเข้มกลบเกลื่อน
“ไอ้หลังเขาๆๆๆ” ดงเฮดูร่าเริงอีกครั้ง
“นี่!หยุดเลยนะ ลีดงเฮ!!”คิบอมขึ้นสียงเพราะร่างบางข้างๆเอาแต่ล้อเขาอยู่นั่นแหละ แค่เค้าไม่ค่อยสนใจดูหนังปัญญาอ่อนแบบนั้น ดงเฮนายมันโตแต่ตัวจริงๆ
“อายุเท่าไร??”คิบอมพูดขึ้นเสียงเรียบ
“ห๊า!อะไรอายุฉันหรอ...ก็...สิบ..”
“เปล่า อายุสมองของนายน่ะ”
“อ่ะ
0_0”ดงเฮค้างไปทันที อึ้งที่โดนคิบอมหลอกด่าซึ่งๆหน้า
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”คิบอมหัวเราะเสียงดังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อารมณ์ดีที่ได้แกล้งร่างบาง
“เฮ้ย!นั่นตัวอะไรอะ”คราวนี้เป็นตาของคิบอมที่ร้องออกมาบ้าง
“ไหน!!??ตัวอะไร???”
“นั่นไงอยู่ทางที่เราเดินผ่านมาทางนี้ไง เห็นหรือเปล่า เมื่อกี้มันมีแสงวิบวับด้วยนะ!!”คิบอมได้ทีก็แกล้งร่างบางกลับ
“มัน...ก็อาจจะเป็นคนถือไฟฉายตามเรามาก็ได้หรือว่าจะเป็นนกอีก๋อย”ดงเฮพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย ตัวแข็งทื่อไม่ยอมหันไปข้างหลังตามที่คิบอมบอก
“จะบ้าหรอ...มืดแล้วใครจะออกมาเดินเล่นกลางป่ากลางเขาแบบนี้ แล้วนกอีก๋อยบ้าบออะไร ดูการ์ตูนมากไปรึป่าว”คิบอมหยอกร่างบางพร้อมกับกลั้นขำไปด้วย
แต่คราวนี้ไม่มีเสียงโวยวายตอบกลับมา
“นี่ดงเฮ...ดงเฮ เป็นอะไร”คิบอมเห็นร่างบางเงียบไปก็เป็นห่วงจึงหันหน้าไปทางด้านข้างเขย่าตัวร่างบางเบาๆ
“ฮึ...ฮึก...ฮือๆๆ”เสียงสะอื้นของดงเฮเริ่มดังขึ้น
“นี่ฉันแค่ล้อเล่นเอง หลอกๆนายเงียบได้แล้ว”คิบอมพยายามปลอบร่างบาง
“ก็นายนั่นแหละ...แกล้งกันอยู่ได้ ฮึกๆฮือๆ”ดงเฮยังไม่หยุดร้อง
“พอได้แล้วเดี๋ยวก็เจอของจริงหรอก”คิบอมเริ่มขึ้นเสียง
ฮึกๆฮือๆๆแฮะๆๆอ่าๆ....
“นี่!!ดงเฮ...นายหยุดร้องได้แล้ว”คิบอมเริ่มอารมณ์เสีย
“อะไรของนายคิบอม...ฉันหยุดร้องไปตั้งนานแล้ว!!!”(0.0)!! ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วค่อยๆหันไปข้างหลัง
“วิ่ง!”คิบอมตะโกน
“ย๊ากกกก ไม่อยู่แล้วโว้ย เผ่นโลดดดดดดดดด!”ดงเฮตะโกนด้วย พูดจบก็พากันวิ่งอย่างสุดชีวิต
ตึกๆๆ...ตึก...ตึก...ตึก
คิบอมและดงเฮวิ่งมาด้วยกันก่อนจะชะลอความเร็วและหยุดในที่สุด ทั้งคู่มองหน้แดงๆเพราะความเหนื่อยของกันและกันแล้วหัวเราะออกมาพร้อมๆกันเสียงดัง
“ฮ่าๆๆสนุกจังเลย><”ดงเฮพูด
“อืม ฮ่าๆๆ”คิบอมตอบแล้วหัวเราะออกมาอีก เขาไม่เคยได้ทำอะไรที่สนุกๆแบบนี้มาก่อน ชีวิตประจำวันของเขสมีแต่จืดชืดไปวันๆพอมาเจอคนตัวเล็กนี่ เรื่องป่วนๆก็เข้ามาไม่หยุดไม่หย่อน เมื่อกี้ที่วิ่งด้วยกันเหมือนอะดรีนาลีนหลั่งออกมาทำให้เขาอารมณ์ดีสุดๆ
“ฮ่าๆๆๆฮะ..ฮะ...เฮ้!นั่นมันประตูอะไรนะ?”ดงเฮหัวเราะก่อนจะโพล่งขึ้นเสียงดัง ก็สิ่งที่อยู่ด้านหน้าเขาเหมือนกับประตูอะไรสักอย่าง มันดูรกไปด้วยไม้เลื้อยดูน่ากลัว
“ประตูเข้าค่ายหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่หรอกมั้ง รกขนาดนี้ ไปทางอื่นเถอะ!”ดงเฮพูดแล้วทำท่าจะเดินไปทางอื่น
“เดี๋ยวสิ!ลองเข้าไปดูก่อน”คิบอมดึงร่างบางกลับมาพาเดินไปเปิดประตูที่ดูโทรมเหมือนไม่ได้ใช้มาหลายปี ค่อยๆเปิดมันออกเบาๆ
“ย๊าาา! นี่อะไรอ่ะ??”ดงเฮร้องโวยวาย
“แค่ต้นไม้น่า อย่ากลัวไปหน่อยเลย”
“ก็กลัวนี่ ถ้าต้นไม่สวยๆเหมือนในเรื่องอวตารจะไม่ว่าเลย เชอะ!><”ดงเฮพูด
...เอาอีกแล้ว มาอีกแล้ว เรื่องอะไรอีกเนี่ย ปวดหัว - - จะบันเทิงไปไหนดูมันทุกเรื่องเลย...
“อย่าบอกว่าไม่รู้จัก”ดงเฮดัก
“ไม่ได้บอก”คิบอมตอบ ขายังพาร่างเล็กเดินฝ่าไม้เลื้อยรกๆไปเรื่อยๆ
“แสดงว่ารู้จัก”
“ไม่ได้ไม่รู้จัก แต่ไม่เคยดู”
“ไอ้บ้าเอ๊ย!!”
“อ้าว!ดงเฮ!!!”
“ห๊ะ หา ..ใครเรียก”ดงเฮหน้าเหวอเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง
“ฮะ..ฮะ..ฮะ..ฮะ..ฮยอกแจจจจ ..แอ..แอ..แอ”ร้องชื่อเพื่อนเสียงดัง แถมเอคโค่ให้ด้วย
“ดะ...ดะ..ดงเฮฮฮฮฮฮฮฮ”
“ฮยอกแจจจจจจจจจจ”ตะโกนเรียกชื่อแล้วอ้าแขนวิ่งมากอดกันอย่างสุดซึ้ง ทำเอาพี่ๆน้องๆที่ยืนอยู่ด้านหลังซึ้งใจแทบอ้วก!
“ทำไมนายมาช้าจังเนี่ยดงเฮ”ฮยอกแจถาม
“อ่อ...หลงมั้ง? หรือว่าฉันเข้าข้างหลัง??” ดงเฮตอบงงๆ
“เข้าข้างหลัง!!!???” ทั้งหมดตะโกนถามกัน (พวกนี้ก็คิดลึก- - ++ - ไรเตอร์)
“เอ่อ...ไม่ใช่หมายถึงเข้าทางประตูหลังค่ายน่ะ- -;;”คิบอมรีบแก้ให้ คำพูดของคนตัวเล็กนี้ทำเอาทุกคนคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“อ้าว!ทุกคนมากันครบแล้วใช่มั้ย??”เสียงคังโฮดงถามขึ้นแล้วเดินมาที่กลุ่มนักเรียน
“เหลือคู่พี่คังอินยังไม่มาครับ”คยูฮยอนตอบให้
“พี่อีทึกยังไม่มาอีกหรอ”เรียวอุคพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ไม่ต้องเป็นห่วงพี่นายน่ะอยู่ในห้องพยาบาลแล้ว”คังโฮดงพูดขึ้นแล้วลอบยิ้ม
“อ้าวว ใครเป็นอะไรละครับ?”ฮีชอลถามขึ้น
“อีทึกเขาเป็นลมน่ะ”คังโฮดงตอบ “คังอินช่วยดูแลอยู่”
“ช่วยดูแลจริงป่ะวะไอ้ฮัน?”ซีวอนกระซิบกับฮันคยอง
“เออนั่นดิ เปอร์เซ็นต์มีน้อยวะ”ฮันคยองตอบ
“จริงหรออ!!”ฮีชอลที่แอบเอียงหูฟังโพล่งออกมาเสียงดัง
“เห้ย!”ซีวอนและฮันคยองตะโกนขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจ
“ไหนบอกว่าพี่เขาจะช่วยดูแลไง”เรียวอุคบ่นใส่เยซอง
“แต่ก็มาถึงได้ปลอดภัยไม่ใช่หรอ”เยซองก็เถียงกลับ
“มีเหตุผล ช่างเถอะ”เรียวอุคพูด แล้วพยักหน้าหงึกหงัก
“ไปหาพี่อีทึกกันเถอะ! ทุกคนนนน”ดงเฮตะโกนบอกอย่างร่าเริง แต่ตัวเองวิ่งไปนำไปก่อนแล้ว - -
ทางด้านคังทึก
“อือ...อืม”เสียงอีทึกงัวเงียเพราะได้ยินเสียงกุกกักๆอยู่ข้างตัว
“นายตื่นแล้วหรอ”
“อืม ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ได้อะ”อีทึกถามด้วยความสงสัยเพราะเขาจำได้ว่ากำลังเดินคุยกับคังอินอยู่แล้วก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย
“ก็ใครล่ะปากเก่ง บอกว่าไม่เป็นไรๆแล้วอยู่ดีๆก็เป็นลมไปเนี่ย”คังอินบ่นเล่นกับอีทึกเพราะเป็นห่วง
“ฉัน...ขอโทษนะที่ทำให้นายลำบาก “ อีทึกก้มหน้าลง
“เห้ย ไม่ลำบากหรอก ตัวนายก็เล็กนิดเดียว” คังอินรีบโบกมือไปมาเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร
“เอ่อ แล้วใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันเนี่ย”อีทึกถามออกไปเพราะเสื้อผ้าของเขาถูกเปลี่ยนหมดเลย
“เอ่อ...อ้อ! เรียวอุคน่ะ”คังอินตอบอย่างอึกอักเล็กน้อย
“เอ้า..อีทึกนายสบายดีขึ้นบ้างหรือยัง?”คังโฮดงชะโงกหัวเข้ามาหาในห้องพยาบาล
“ครับ ก็ดีขึ้นแล้ว”
“อืม งั้นก็ไปรวมตัวได้แล้วยังมีอีกโรงเรียนจะแนะนำด้วย”
“เอิ่ม...ครับเดี๋ยวผมตามไป แล้วพวกน้องๆของผมละครับ”อีทึกถามถึงน้องๆที่เหลือ
“ก็อยู่ข้างนอกนั่นไง เสียงดังยังกับคอนเสิร์ตพี่บี้”
“อ่า ครับๆ”อีทึกผงกหัวรับ
“นี่นายเป็นลม หรือหูหนวกกันแน่เนี่ย เสียงดังขนาดนี้ยังจะถาม”คังอินกวนประสาท
“ไอ้...”ยังไม่ทันที่อีทึกจะได้ด่าคังอินเสียงโหวกเหวกโวยวายจากข้างนอกก็เริ่มเข้ามาใกล้
“พี่อีทึกกกกกกกฮะๆๆเป็นอะไรมากหรือเปล่า”ดงเฮจอมจุ้นเข้ามาหาอีทึกคนแรก
“พี่ไม่เป็นไรแล้ว^_^”
“เอ้าๆๆไปกันได้แล้วนักเรียนยังมีอีกโรงเรียนนึงที่รอพวกเราอยู่เร็วๆๆ”คุณครูโฮดงรีบไล่นักเรียนที่ดูเหมือนจะเป็นฝูงลิงซะมากกว่าให้ออกจากห้องพยาบาลไปโดยเร็ว
-------------------------------------------------
มาอัพแล้ววววววววว ครบ100% เลยน้าาา
หายไปนานอ่ะ รู้สึกผิด ฮึกๆ T^T แต่ตอนนี้ย๊าววยาว เนอะ!
(ไรเตอร์นั่งแต่งกันมันส์เลยค่ะ 5555.) คังแต๊ะอั๋งทึกอ่ะ >< ด้วยท่าที่ฮาสุดๆ 555.
มีใครนึกภาพทึกไม่ออกมั้ย จะเอารูปแม่อุ้มลูกแบบนั้นมาลงให้ จะได้จิ้นกันถูกนะ ^^
อ้อ ! ได้เวลาเปิดเผยเส้นทางจริงกันแล้วววววววววววว แอ๊ว แอ๊วว แอ๊ววว
คาดว่ามีหลายๆคน คงจะงงกันทางเดินที่วกๆวนๆ คนนู้นเจอคนนี้ คนนี้เจอคนนู้น
แท๊ แด่นนนนนนนนนน (อั๊กลี่สุด ๆ ใครคิดว่าเข้าใจแผนที่แล้ว อย่ากดดูนะ พลีสสสส T^T)
http://upic.me/show.php?id=2f47ad2ffab406a19d11fa5ff6a2aec7
ขึ้นป่ะเนี่ย ?? เดี๋ยวมาดูอีกที (ที่เขียนKhuk หมายถึง คยูฮยอกนะคะ กลัวจะซ้ำกับ KH คิเฮ เดี๋ยวงงกัน)
เอ๊~! แล้วอีก โรงเรียนนึงจะเป็นโรงเรียนอะไรน้า ??? ติ๊กต๊อก ๆ
ไม่บอก -3- ปล่อยให้งงเล่นอีกแล้วว 555555555555.
ลองทายกันมานะ ว่าโรงเรียนในตอนต่อไปจะเป็นโรงเรียนอะไร
แล้วตอนหน้าจะตามมาเร็วๆนี้ ><
ความคิดเห็น