คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 6 + HBD Kyuhyunnnn !
Chapter 6
“ถ้าแกจะเข็นก็เข็นคนเดียวนะคังอิน”ซีวอนพูด พร้อมเตรียมตัวเก็บข้าวของลงจากรถ ไกลขนาดนั้นใครจะไปเข็นไหววะ
“งั้นครูจะให้แผนที่ไปดูคู่ละแผ่นนะ แล้วเอาไปดูกันเองละกัน” ว่าแล้วคังโฮดงก็หยิบแผนที่ที่พับไว้มาแจก แล้วพูดต่อว่า ”แต่พวกนายจะต้องใส่กุญแจมือกับคู่ของตัวเองด้วยนะ จะได้ไม่มีการเปลี่ยนคู่กัน...ใช่มั้ยเรียวอุค?” คังโฮดงแกล้งถามแล้วปรายตาไปทางเรียวอุคที่สีหน้าจ๋อยๆเพราะรู้ตัวดี
“โหยยยยยยย ไม่เอาอ่ะ’จารย์ ผมอึดอัดดด” ดงเฮร้องโวยวาย
“ไม่ได้ ๆไม่มีต่อรอง ไม่งั้น....ตกทุกวิชา!!”
“โห่~~” เสียงร้องระงมของทุกคนดังแทบจะพร้อมๆกัน เพราะคำสั่งไร้สาระนี่
เมื่อล็อกกุญแจมือเสร็จแล้ว ทุกคู่ก็ทยอยกันลงมาจากรถบัส เดินไปตามทางเดิน พอทั้งหมดเดินไปไกลพอสมควร คังโฮดงก็หันมาพูดกับคนขับรถที่ลงมายืนอยู่ข้างๆ
“เป็นไปตามแผนเลยนะ”
“ครับ” คนขับรถตอบอย่างภาคภูมิที่แผนสำเร็จ
“แล้วนายทำยังไงรถถึงได้หยุดล่ะ” คังโฮดงถามด้วยความสงสัย เพราะตอนที่รถหยุด เขาก็ไม่ได้อยู่กับคนขับรถด้วย
“อ่อ....ผมก็แค่บิดกุญแจดับเครื่องแค่นั้นเองครับ ^^”
“เห้ย! ทำไมแผนที่มันไม่เหมือนกันสักอันวะเนี่ย?” ฮีชอลโพล่งขึ้นอย่างสงสัยสุดขีด เมื่อทุกคนเอาแผนที่ทุกแผ่นมากางแล้วช่วยกันดู พบว่ามันไม่เหมือนกันสักอัน
“เออ นั่นดิแผนที่มันคนละทางกันเลยนะเนี่ย ” คยูฮยอนพูดขึ้น
“นี่อะไรอ่ะ แผนที่ออสเตรเลีย? ฉันอยากจะบ้า นี่เกาหลีนะ” อีทึกพูดขึ้นอย่างงงๆ แล้วเอามือกุมขมับ เมื่อหยิบแผนที่แผ่นนึงขึ้นมาดูแล้วเห็นว่าเป็นแผนที่ประเทศออสเตรเลียสมัยโบราณ
“ก็ใช่นะสิ พอๆๆแผนที่บ้าอะไรเนี่ย ฉีกทิ้งให้หมดๆๆ” ฮีชอลทำท่าจะวิ่งเข้าไปคว้าแผนที่ทั้งหมดไปฉีกทิ้ง แต่ฮันกยองห้ามไว้ก่อน
“อย่าเพิ่งสิ......แล้วนี่ไอ้คิบอมกับอีกคนนึงอยู่ไหนล่ะ?”
“นั่นสิ เจ้าดงเฮหายไปไหนเนี่ย ใครรู้บ้าง?”
“อ๋อ ก็เห็นขอตัวเดินกลับไปหาเครื่องรางของมันน่ะฮะ เห็นบอกว่าหาย เดี๋ยวคงตามมา”ซองมินตอบให้
“คิบอม ช่วยฉันหน่อยสิ”
“อะไร?”คิบอมถามขึ้นเพราะเห็นร่างบางก้มๆเงยๆอยู่นาน
“ก็ไอ้ตุ๊กตาเครื่องรางของฉันไง มันจะเป็นแบบ...เอ่อ...เป็นลูกปิงปองแล้วมีผ้าพันไว้อ่ะ”
“ไม่เข้าใจ”
“เคยเห็นตุ๊กตาไล่ฝนป่ะ ...ใช่ๆตุ๊กตาไล่ฝนอ่ะ แบบนั้นเลย !”
“อืม...แล้วฉันจะช่วยหาละกัน” คิบอมพูดพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอีกด้านไม่ให้ดงเฮเห็น แล้วดึงตุ๊กตาที่ลักษณะเหมือนกันที่ดงเฮบอกไว้ออกมาแล้วอมยิ้มน้อยๆ เขาเก็บได้ระหว่างทางที่กำลังเดินมาตินที่ยังไม่ได้ล็อกกุญแจมือกัน เห็นว่ามันน่ารักดี แล้วก็คิดว่าคงเป็นตัวเดียวกันกับที่ร่างบางบอกด้วย คิบอมไม่ได้พูดอะไรต่อ เก็บตุ๊กตาตัวนั้นใส่กระเป๋ากางเกงไปแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“สรุปว่า...มันหายจริงๆหรอเนี่ย!! ฮือๆๆ บ้าที่สุดเลย” ร่างบางโวยวาย หยดน้ำใสเริ่มก่อตัวขึ้นจนคลอดวงตาสวย ในขณะเดียวกันกับที่คิบอมหันมามองหน้าร่างบาง
.....ถึงกับร้องไห้เลยหรอ...คิบอมคิดในใจ แค่ตุ๊กตาตัวเดียวมันทำให้คนอย่างอีดงเฮร้องไห้เชียวหรือ คิบอมครุ่นคิดก่อนตัดสินใจถามไป
“นี่...ตุ๊กตาตัวนั้นมันสำคัญมากเลยหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ ทงฮวาให้มาเลยนะ!” ดงเฮพูดน้ำตาปริ่ม ๆ
.....ทงฮวาหรอ? ใครกันนะ สำคัญขนาดนั้นเชียว....
“เขาคือใคร” คิบอมถามไปก็ใจเต้นรัวอย่างลุ้นๆ...กลัว...ว่าจะเป็นคนสำคัญของร่างบาง
“พี่ชายชั้นเอง ตอนนี้เขาเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ เขาเรียนเก่งมากเลยนะ”ดงเฮคุยอวดถึงพี่ชายของตนเอง “ตุ๊กตาตัวนี้เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ทงฮวาให้ไว้ก่อนไปต่างประเทศน่ะ”
เฮ้อ !! โล่งอก ที่แท้ก็แค่พี่ชาย....เอ๊ะ! แล้วเราจะโล่งอกทำไมวะ...คิบอมคิดอย่างสับสนตัวเอง
“แล้วฮีชอลล่ะ” คิบอมถามขึ้น
“ก็ทงฮวาเป็นพี่ใหญ่ ฮีชอลเป็นพี่คนกลาง ส่วนฉันก็เป็นมักเน่ไง”ดงเฮไล่ระดับให้คิบอมฟัง
“อ่อ” คิบอมตอบแบบไม่ได้คิดอะไร
“เฮอะ..ช่างมันเถอะหาไม่เจอก็ไปกันดีกว่า” ดงเฮบอกปัด ลากมือคิบอมให้ออกเดิน
”ดวงจะเจอก็เจอแหละ” ดงเฮพูด คิบอมมองหน้าหวานพลางคิดในใจ...ถ้าฉันไม่คืน ดวงก็ช่วยไม่ได้หรอกนะ คึๆ...
“อ้าว แล้วพวกนั้นหายไปไหนหมดเนี่ย”
“ก็นายบอกให้พวกเขาเดินไปกันก่อนไม่ใช่หรอ”
“เออเนอะ แล้วนี่พวกเขาเดินไปทางไหนกันเนี่ย มีทางแยกตั้งสามทาง”ดงเฮพูดอย่างงงๆ เมื่อเดินมาจนสุดทางตรง แล้วพบทางแยกสามทางใหญ่ๆ
“นายว่าไปทางไหนดี”
“ตรงกลาง”
“ฉันว่าทางซ้าย” ว่าแล้วก็ลากมือคิบอมที่ติดกันเลี้ยวไปทางซ้ายทันที คิบอมเลยจำใจต้องเดินไปทางนั้น แล้วหันไปถามร่างบางว่า
“แล้วนายจะถามฉันทำไม”
“ถามเป็นมารยาท” ดงเฮตอบแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้
“หึๆ จริงๆเล้ยยยย” คิบอมพูดขำๆกับความเอาแต่ใจของร่างบาง
30นาทีที่แล้ว
“เห้ย! มีทางแยก” ฮีชอลโพล่งขึ้น หลังจากที่เดินตามทางตรงมาจนสุด
“แล้วจะไปทางไหนเนี่ย?” ซองมินถามขึ้น
“เอางี้ เรามีกันหลายคน งั้นแบ่งกัน” อีทึกเสนอ
“ฉันเห็นด้วย”คังอินรีบสนับสนุน ทำให้เพื่อนๆทัมแบหันมามองหน้าอย่างหมั่นไส้เพราะรู้ทัน
“งั้นผมกับพี่ซีวอนจะไปทางขวา”ซองมินพูดขึ้นแล้วชี้มือไปที่ทางแยกด้านขวา
“ฉันไปด้วย” คยูฮยอนรีบเสนอหน้าทันที
“นายก็ไปทางอื่นเซ่ ทำไมต้องตามฉันด้วย”
“อะไร ฉันตามใจฮยอกแจ เนอะ” ว่าแล้วหันไปถามฮยอกแจที่ยังคงสะลึมสะลืออยู่
”เอาเหอะ ได้หมด” ฮยอกแจตอบตาจะปิดอย่างไม่คิดอะไร ทำเอาซีวอนเคืองนิดๆกับคำพูดไม่ค่อยคิดของคนตัวขาว
“ชิ ฮยอกนะฮยอก”
“ฉันไปด้วยสิ”ฮีชอลพูดขึ้น...ยังไงไปหลายๆคนก็ดีกว่าอยู่แล้ว เหอๆ ฉันไม่ยอมฉายเดี่ยวหรอกนะ...คนหน้าสวยคิด
“อ้าว งั้นอีกสองคู่ก็ต้องแยกไปคู่ละทางอ่ะดิ”ฮันกยองพูด
“จะปล่อยผมไปคนเดียวหรอT^T” เรียวอุคพูดด้วยหน้าตาน่าสงสาร
“ไม่เป็นไร ยังมัฉันอยู่อีกคนนึง” เยซองพูดปลอบ แล้วฉวยโอกาสแอบจับมือนิ่มข้างที่ล็อกกุญแจติดกันไว้ของเรียวอุค ทำให้เรียวอุคต้องรีบก้มหน้าซ่อนหน้าที่แดงจัดของตัวเองไว้
....น่านนน ว่าแล้วไง ท่าทางจะสนใจเรียวอุคจริงๆ เราคิดไว้ไม่มีผิด อย่างงี้ปล่อยไปไม่ได้...
“ฉันจะปกับเรียวอุคด้วย” อีมึกพูด
“อ้าว ถ้าอีทึกไปทางนั้นใครจะไปอีกทางที่เหลือล่ะ” ฮีชอลถามขึ้น
“ก็พี่ไง” ซองมินตอบให้
“ไม่ ๆๆๆ แบบว่า...ฉันรู้สึกว่าทางซ้ายมันเป็นลางไม่ดีว่ะ เดี๋ยวหลง ฉันไปกับพวกแกดีกว่า”
“อ๋อหรอออออออ” ฮยอกแจเบิ่งตาที่จะปิดขึ้นมองอย่างรู้ทัน
“เออ ไม่ต้องถามมาก แยกๆๆๆๆ”
“หว๋าาาาาา ในป่านี้มืดจัง”ซองมินบ่นออกมา
“ใครใช้ให้มาทางนี้”ซีวอนว่า
”จะทางไหนมันก็มือเหมือนกันแหละ”คยูฮยอนแก้ตัวให้
”แกรู้ได้ไง”
”ก็ตามลักษณะภูมิประเทศ เวลาและอากาศแบบนี้...” คยูฮยอนทำท่าจะยาว ซีวอนเลยหยุดไว้ก่อน
”อ๊ะ!! โอ๊ยยย เจ็บบบ” ซองมินร้องโวยวายเพราะเดินสะดุดขาตัวเองจนล้ม
ป้าบบ !
”นี่แน่ะ ซุ่มซ่ามดีนัก” ซีวอนเอื้อมมือไปตบกะโหลกซองมินเบาๆอย่างขำๆ เพราะการที่ซองมินล้มไปมันทำให้คนที่แขนติดกันกับซองมินอย่างซีวอน เซตามไปด้วย
”ก็มันมองไม่เห็นนี่ 3-” ซองมินเถียงหน้ายู่พลางเอามือลูบหัวป้อยๆ
คยูฮยอนที่เห็นซองมินและซีวอนหยอกล้อกันอย่างน่ารักก็รู้สึกหึง เพราะทั้งสองทำเหมือนว่าเขาไม่ได้อยู่ด้วยเลย (เอ่อ..ลืมไปมีฮยอกแจคนขี้เซาด้วย - -;;;) คยูฮยอนบีบมือฮยอกแจแรงขึ้นๆตามระดับอารมณ์ ทำให้ฮยอกแจเบ้หน้ากันมาถามอย่างสงสัย
”ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้นะ !! จะบีบมือฉันทำบ้าอะไรเนี่ย?? เจ็บนะโว้ย”
”เอ่อ...ขอโทษ ไม่ต้องบ่นได้มะ?” คยูฮยอนหงุดหงิดมาลงที่ฮยอกแจแทน
“ฉันไม่ได้บ่นซักหน่อย”
“แล้วที่ทำนี่หมายความว่าอะไร?”
“ไม่รู้โว้ย!! ง่วง!”ฮยอกแจโวยวายกลับอย่างรำคาญ
“กลับบ้านไปนอนไป - -”
“โอ๊ย! สองคนนี้หยุดซะที จะทะเลาะกันหาอะไรวะ” ฮีชอลพูดขึ้นมาด้วยความรำคาญ
“ใจเย็นสิ เดี๋ยวก็หลงหรอก”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน?? ไม่ต้องมายุ่งเลย”
“อ้าว ซวยแล้ว เจอทางแยกอีกแล้วไง” ซีวอนพูดขึ้น ตอนนี้พวกเขาเดินตามทางมาได้ซักพัก ก็เจอทางแยกในป่านี้อีกแล้ว คราวนี้เป็นทางแยก2ทาง
“ไปทางขวาเหอะ”ซองมินเสนอ
“ฉันไปด้วย” คยูฮยอนรีบเสนอหน้าอีกครั้ง
“ฉันไปด้วย” คราวนี้เป็นฮีชอล
“พี่ ทำไมทำงี้อ่ะ ก็แยกกันไปดิ ถ้าทางนั้นเป็นทางไปค่าย จะได้โทรบอกกันได้ไง” เจอฮยอกแจว่าเข้าหน่อยฮีชอลถึงกับจ๋อย เพราะครั้งนี้เขาผิดจริงๆ (อีกเหตุผลหลักๆคือ ทุกคนรู้ดีว่าฮยอกแจยามง่วงๆ จะชอบกระพือปีก ฟาดหงอน อันตรายยิ่งนักTT)
“ก็.....”
“งั้นเอางี้ ฉันจะไปทางซ้ายเอง”ฮันกยองพูดขึ้นเพื่อตัดปัญหา
“เห้ย! ไม่....” ฮีชอลทำท่าจะค้าน
“โอเค ตามนี้ละกัน” คยูฮยอนรีบพูดก่อนที่ฮีชอลจะค้านจบ
“ตามนี้ๆ” ซีวอนพูดขึ้นบ้าง
“ตามนี้ๆ” คราวนี้เป็นซองมิน
“กู๊ด บายยยยยย~~!” ฮยอกแจบอกลาตาปรือๆ ฮีชอลทำได้แค่อ้าปากหวอ มองดูคยูฮยอน และ ซองมิน รีบจูงคู่ของตัวเองแยกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ให้ฮีชอลตามทัน
“อืม บาย” ฮันกยองตอบรับเบาๆ
“ทำไมทำงี้อ่ะ ฉันจะไปทางนั้น!!” ฮีอชลโวยวาย
“ก็ไปสิ ฉันจะไปทางนี้” ฮันกยองพูดสบายๆ
“เออ! ไปคนเดียวละกัน”ฮีชอลตัดบททำท่าจะแยกไปทางขวา แต่ก็ต้องกระตุกตัวปลิวกลับมา เพราะลืมว่ามือติดกันอยู่
“ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะของฮันกยองดังขึ้นอย่างปิดความสะใจไม่มิด
“หัวเราะอะไรไอ้บ้า!”ฮีชอลตะโกนว่ากลบเกลื่อนอาการหน้าแตก
“ฮึๆๆๆ เอ้า! อยากไปก็ไปสิ ฉันไม่ได้ห้ามนะ ฮ่าๆๆๆ” ฮันกยองพูดล้อๆ
“แล้วจะไปยังไงล่ะ?? มือติดกันอย่างนี้ ไม่ต้องมาพูดเลย ” ฮีชอลค้อนเข้าให้
“อยากไปก็ไปสิ แต่เขาไปกันหมดแล้วนะ ไม่มีใครรอนายแล้ว ป่าก็มื๊ดดดมืดดดดดด ไปคนเดียวจะดีแน่เร้ออ” ฮันกยองแหย่
“อ.....เอ่อ” ฮีชอลอึกอักเพราะที่ฮันกยองพูดถูกทุกอย่าง ตอนนี้เย็นมากแล้ว ในป่านี้มันมืดจริงๆนั่นแหละ
“ฉ...ฉันไปทางนั้นก็ได้”
“ฮึๆ ก็แค่นั้น” ฮันกยองหัวเราะในลำคอแล้วเดินไปทางแยกซ้ายอย่างรวดเร็ว
“แว้กกกกกก! ช้าๆสิตาบ้า!!” ฮีอชลตะโกนโวยวายเพราฮันกยองออกเดินเร็วทำให้กระชากข้อมือฮีชอลอย่างแรงจนตัวปลิว
ด้านเย่เรียว & คังทึก
“ทางแยก!!” คังอินพูดขึ้นเสียงดัง
“จะเอาไงดี เจอทางแยกอีกแล้วอ่ะ” อีทึกพูดขึ้นพลางมองหน้าคังอินอย่างขอความคิดเห็น
“งั้นเดี๋ยวผมไปทางนี้เองครับ” เยซองพูดขึ้นแล้วชี้ไปทางขวา
“ฉ...ฉันจะไปทางนั้น” อีทึกพูดเสียงดัง เขาไม่ยอมให้น้องชายเขาไปกับนายนั่นตามลำพังหรอก
“ได้ไงล่ะ? ถ้าเกิดทางนั้นไม่ใช่ทางไปค่าย จะพากันหลงหมดนะ” คังอินพูดขึ้นอย่างมีเหตุผลแล้วหันไปยักคิ้วกับเยซองอย่างรู้กัน
“......” อีทึกเงียบยังคิดไม่ตก
“ผมก็ว่ามีเหตุผลดีนะฮะ” เรียวอุคพูดหน้าตาบ๊องแบ๊ว คนหน้าสวยคิ้วขมวดทันที ต่างจากอีกสองคนที่เหลือพยายามกลั้นหัวเราะกับความใสซื่อของคนตัวเล็กกันสุดฤทธิ์
“ไม่ได้!! ฉันจะไปทางเดียวกับเรียวอุค” อีทึกยังไม่ยอมแพ้
“ใช้เหตุผลหน่อยสิ ถ้าหลงกันหมดจะทำยังไงล่ะ” คังอินพูดเสียงดุๆ ทั้งๆที่สีหน้ากลั้นยิ้มแทบไม่ไหว ....บทจะดื้อก็ดื้อสุดๆเลยนะ คนสวยของผม...
“งั้นฉันไปกับเรียวอุคสองคน พวกนายก็ไปด้วยกันอีกทาง” จนกับเหตุผลหลงป่าทั้งคณะ อีทึกยกข้อเสนอที่ไม่ทันได้คิดขึ้นมาทันที
“มือติดกันอยู่” เยซองพูดหน้านิ่ง พร้อมชูมือของตนที่ติดกับเรียวอุคให้ดูเป็นหลักฐาน เรื่องแกล้งทำหน้านิ่งทั้งๆที่อารมณ์ไม่ใช่เยซองถนัดนัก
“ฮึ่ยย !” อีทึกสบถด้วยความขัดใจ คงต้องยอมทำตามที่ไอ้ถึกนั่นพูดสินะ
“โอเคนะ ฉันจะไปทางขวา” เยซองพูดเมื่อเห็นท่าทีของอีทึกเริ่มอ่อนข้อ
“อืม ฉันจะไปทางซ้ายเอง แล้วเจอกัน”
“แล้วเจอกันเว้ย” เยซองบอกลาแล้วเดินแยกไปทางขวา เช่นเดียวกันคังอินที่เดินแยกคู่ของตนไปทางซ้าย มิวายหันมาทำท่าเยสสสใส่กันก่อนหันหลังกลับไปไม่ให้คู่ของตนรู้ตัว
“เอ้ยย ! เดี๋ยว....” เรียวอุคนึกบางอย่างได้จะหันกลับไปเรียก แต่ว่าพวกเขาเดินมาไกลเกินว่าจะได้ยินแล้ว
“ลืมอะไรรึไง?? นี่ฟ้ามืดแล้วนะ รีบหาทางออกเถอะ” เยซองพูดอย่างเป็นห่วง บรรยากาศตอนนี้น่ากลัวจริงๆ ไม่รู้จะมีสิงสาราสัตว์หรือตัวอะไรออกมาทำร้ายบ้าง
“ฉันลืมบอกเขาเรื่องสำคัญเขาไป ” เรียวอุคพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“เรื่องอะไร?”
“พี่อีทึกไม่ชอบที่มืด ถ้าเจอ เขาจะหมดแรงและเป็นลม...”
------------------------------------------
อัพครบร้อยแล้วน้า~
HBD ย้อนหลัง ฮันกยอง และซีวอน ของพวกเรา!!
ขอให้มีความสุขมากๆ ร่างกายแข็งแรง (ไม่สบายต้องรีบไปหาหมอเลยนะรู้เปล่า?)
ขอให้อยู่กับเอสเจแบบนี้ตลอดไป เรายังรอและเชื่อพี่เสมอนะ
อยากฝากบอกไว้(ขอบ่นนั่นแหละ ไม่ต้องอ่านก็ได้)
...ไม่มีใครที่มีชีวิตที่ปราศจากอุปสรรค มนุษย์มีจิตใจและความรู้สึก
ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่ทำงานตามคำสั่งได้ตลอดเวลา อุปสรรคเหมือนบทเรียนบทแล้วบทเล่า ที่สอนให้เรารู้จักการแก้ปัญหาและมีชีวิตอยู่อย่างเข้มแข็ง ไม่มีใครที่มีชีวิตอยู่ตัวคนเดียวได้ เมื่อปัญหาผ่านเข้ามา เพื่อนร่วมทางที่ไว้ใจได้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด อุปสรรคอีกนัยหนึ่งก็คือบททดสอบ ว่าคุณพร้อมจะจับมือร่วมทางไปกับพวกเขาฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน หรือจะปล่อยให้พวกเขา เผชิญอุปสรรคอย่างเดียวดาย.......
ลองคิดให้ดีๆสำหรับคนที่กำลังท้อ คิดถึงเรื่องที่เราผ่านมาด้วยกัน รอยยิ้มของทุกๆคน หยดน้ำตาจากทุกๆครั้ง ตัดสินใจให้ดี everlastingfriend คำนี้มีความหมายแค่ไหน คุณจะร่วมก้าวเดินไปด้วยกัน หรือปล่อยมือเขาไป ปล่อยให้ลูกโป่งสีน้ำเงินที่เราเฝ้ารักษากันมาหลุดมือไป ปล่อยให้พวกเขายืนอยู่ตรงทางแยก ที่ไม่มีใครคอยช่วยตัดสินใจอีกแล้ว........
[ความรู้สึก งงๆเนอะ ไรท์เตอร์พิมพ์ไปงงไป ทางแยกเกี่ยวอะไรกะในฟิครึเปล่า คำตอบคือ ไม่ใช่นะคะ ทางแยกในที่นี้หมายถึง ทางที่ต้องตัดสินใจไป กลับหลังหันมาได้อีกแล้ว ความรู้สึก..สับสน เพราะไม่มีเพื่อนค่อยช่วยตัดสินใจข้างๆ อ้อ ! ถ้าอ่านแล้วห้ามเครียดกันนะ ^^]
-------------------------------------------------------------------------------
HBD โจว คยูฮยอนนนนนนนน !!
แหม ๆ แก่ขึ้นอีกปีแล้วมักเน่เรา ><
ขอให้มีความสุขมากๆ
ขอให้ร่างกายแข็งแรง
ขอให้เป็นส่วนเติมเต็มของเอสเจตลอดไป
ขอให้เอสเจอยู่แบบนี้ตลอดไป
ทะเลซัฟไฟร์จะครองโลกกกกก !
เอลฟ์จะอยู่ข้างเอสเจตลอดไปปป !
พรุ่งนี้สอบอ่านข่าว เอาใจช่วยฉันด้วยนะ กี้!
รักคนเม้นทุกคน จุ๊บ ๆ~
3 ก.พ. 53
ความคิดเห็น