คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 3
Chapter 3
เย็นวันต่อมา...
กรี๊ง งง ง ง ง ง ง
“เอาละวันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกันนะ กลับบ้านได้ทุกคน” หลังจากได้ยินเสียงกระดิ่ง คุณครูสุดสวยที่เพิ่งมาฝึกหัดใหม่ก็รีบบอกลานักเรียนทั้งหมด จบซะทีวิชาวิทยาศาสตร์อันน่าเบื่อ
“นี่ๆๆซองมินวันนี้ไปดูหนังกันนะพี่ฮีชอลกับฮยอกแจก็ไปด้วยนะ ไปนะๆๆๆ”พอเก็บกระเป๋าเสร็จดงเฮก็รีบชวนซองมินไปเที่ยวทันทีแต่ก็ต้องเสียใจกับคำตอบของเพื่อนรัก
“เออ...ฉันขอโทษนะด๊องแต่วันนี้ไม่ได้จริงๆอะ ฉันต้องรีบกลับขอโทษนะ” ซองมินไม่ได้พูดอะไรต่อแต่รีบหยิบกระเป๋าแล้ววิ่งออกจากห้องเรียนไปอย่างกับติดเกียร์กระต่าย(^^”)
ปล่อยให้ดงเฮนั่งงงอยู่อย่างนั้น จะรีบไปไหนของมันวะ ดงเฮคิดในใจ
“แม่ครับรีบเรียกผมกลับมามีอะไรหรือเปล่าครับ” ซองมินรีบถามคนเป็นแม่อย่างใจร้อน นี่ที่เค้ารีบมาก็เพราะแม่เลยนะเนี่ยอุตส่าห์ไม่ไปเที่ยวกับดงเฮเลยนะ
“วันนี้เรามีนัดไปทานข้าวเย็นที่บ้านซีวอนไงจ๊ะ ลูกจำได้ไหมเราไม่ได้ไปเจอพี่เค้าตั้งนานแหนะ” คนเป็นแม่พูดเสียงดีอกดีใจที่จะได้ไปเจอญาติที่ไม่ได้พบกันนาน แต่สำหรับซองมินเค้ากลับไม่คิดอย่างนั้นเลย ไม่ได้เจอกันนานกับผีอะดิ ซองมินแอบคิดในใจ เหอะ!!ก็แน่หละเพิ่งเจอกันมาเมื่อวานนี้เองหนิ “แม่ครับ..ผมไม่ไปไม่ได้หรอ...โอ๊ย!!”
ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคดี ก็ถูกกระเป๋าถือของผู้เป็นแม่ตีเข้าให้ที่กลางหัว “นี่ไม่ต้องมาหาข้ออ้างเลยนะซองมิน แม่บอกว่าต้องไปก็ต้องไปเข้าใจมั้ย ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆทั้งสิน” หลังจากบ่นลูกชายตัวเองเสร็จก็รีบเดินขึ้นรถไปโดยไม่ฟังเสียงโอดครวญของลูกชายตัวเอง
“โห ไร้เหตุผลที่สุดอ่ะ” ซองมินบ่นตามเบาๆขณะเดินไปขึ้นรถ ความจริงเขาก็ไม่ได้โกรธอะไรแม่หรอก เพราะมันเป็นเหตุการณ์ปกติ เขาเจอจนชิน เพราะเขาเองก็ชอบเล่นแรงๆกับแม่เหมือนกัน ซองมินชอบเล่นกับแม่เหมือนเพื่อน แน่ละ หุ่นแม่เขายังฟิตเปรี๊ยะ - -++
-------------------------------------hesitant love------------------------------------
ณ โรงภาพยนตร์
ฮีชอล ดงเฮ และ ฮยอกแจกำลังนั่งดูหนังที่เหมือนจะดูไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร เพราะว่ามีตัวมารสี่คนข้างหน้าที่คอยสร้างความรำคาญเป็นระยะๆโดยการคุยกันซะเสียงดังจนเหมือนว่าจะมาทำอะไรมากกว่าแค่มาดูหนัง เพราะเดี๋ยวสักพักก็จะมีเสียง
“พี่คิบอมคะกินป็อปคอนหน่อยนะคะ”
“เอาน้ำหน่อยมั้ยคะพี่ฮันคยอง”
ทำให้คนอย่างคิมฮีชอลถึงกับอารมณ์พุ่งปรี๊ด
“ทางโรงหนังน่าจะมีการแจกหนังสือมารยาทที่ดีในการชมภาพยนตร์ซะบ้าง จะได้ไม่มีพวกไร้มารยาท มาทำตัวไร้การศึกษาแบบนี้” ฮีชอลกล่าวลอยๆแต่แอบประชดไปซะยาว
“เยี่ยมไปเลยพี่” ดงเฮและฮยอกแจพูดสมทบ
แต่เมื่อพูดจบก็มีเสียงแหลมเล็กของผู้หญิงข้างหน้าแทรกขึ้นมาว่า “เบื่อพวกชอบ สาระแน เรื่องชาวบ้าน”
ฮีชอลทำท่าว่าจะโต้กลับแต่ก็ถูกสองร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆห้ามทัพไว้เสียก่อนจะเกิดสงครามกลางโรงหนังขึ้น
“ฮึ่ย!!! เอาเถอะ...คิดว่าทำบุญทำทาน เผื่อเปรตเสียงแหลมแถวนี้จะไม่เคยได้รับ!!”เสียงคำรามอย่างไม่พอใจของร่างบางที่อารมณ์กำลังเดือด แม้จะยอมเลิกราด้วยดี ตามที่น้องทั้ง2ขอไว้ แต่ก็มิวายฝากคำพูดเจ็บๆให้อีกฝ่ายเดือดจนแทบเต้น
-------------------------------------hesitant love------------------------------------
ณ บ้าน (ไม่สิต้องเรียกว่า คฤหาสน์)
ณ คฤหาสน์ชเว
คุณและคุณนายชเวรวมทั้งลูกชายหัวแก้วหัวแหวน รีบออกมาต้อนรับคุณนายลี เพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนานเป็นเพราะงานที่รัดตัว
คุณนายลีก้าวลงมาจากรถคันหรูพร้อมกับลูกชาย
“สวัสดีจ๊ะไม่ได้เจอกันนานเลยนะเนี่ยเป็นไงบ้างจ๊ะ อ้าว!!ซองมินโตเป็นหนุ่มแล้วนะเรา จำป้าได้มั้ยจ๊ะ?”คำกล่าวทักทายคำแรกของคุณนายชเว ต่อด้วยคุณนายลี “ไงจ๊ะคุณพ่อคุณแม่ซีวอนไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะ นี่ซองมิน รีบสวัสดีคุณพ่อกับคุณแม่ซีวอนเร็วสิลูก”สรรพนามแปลกๆที่แสดงออกถึงความสนิทสนมกันของแม่ซองมินที่มักจะพูดกับพ่อแม่ของซีวอนเสมอ “สวัสดีครับ คุณลุงคุณป้า เอ่อ..สวัสดีครับพี่ซีวอน”เสียงกล่าวทักทายของซองมินดูจะติดขัดนิดหน่อยเมื่อต้องสวัสดีคนเป็นพี่อย่างซีวอน
“สวัสดีครับ คุณป้าดูสวยขึ้นนะครับ อ้าว ไม่ได้เจอกันนานเลยนะซองมิน” ซีวอนกล่าวทักทายแม่ซองมินด้วนน้ำเสียงที่ดูสุภาพแถมยังหยอดคำชมไปด้วยตามนิสัยของเค้า ส่วนประโยคหลังเน้นตรงคำว่า ‘นาน’ แล้วมองหน้าซองมิน
“แหม ซีวอนนี่ยังปากหวานเหมือนเดิมเลยนะลูก”
คุณนายลีกล่าว ก่อนที่ทั้งหมดจะเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อร่วมโต๊ะรับประทานอาหารเย็นในวันนี้
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารดูจะราบรื่นเป็นพิเศษ จนกระทั่ง
You are my everything
nothing your love won’t bring
~
เสียงริงโทนโทรศัพท์ของซองมินที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนโทรมา ดังขึ้น
“เอ่อ..ผมขออนุญาต ไปรับโทรศัพท์ก่อนนะครับ”
ซองมินขอตัวออกมาอย่างสุภาพแล้วเดินตรงไปที่สวนหลังบ้านทันที
“เดี๋ยวผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ” คราวนี้เป็นเสียงของซีวอนบ้าง ซีวอนลุกออกจากโต๊ะอาหารไป แต่จุดหมายที่แท้จริงของเขากลับไม่ใช่ที่ห้องน้ำ
“ดงเฮ มีอะไรอะ?”เสียงเล็กๆของซองมินถามขึ้นทางโทรศัพท์
“เปล่าหรอกฉันแค่คิดถึงมินอะ แล้วนี่มินนี่อยู่ไหนอะทำไมถึงไม่ยอมมากับพวกเรา แถมเมื่อตอนเย็นยังรีบหนีไปอีก”เสียงของเพื่อนรักที่ตอบกลับมาทำให้ซองมินต้องรีบหาข้อแก้ตัวดีๆอย่างเร่งด่วน
“เอ่อ..คือ..พอดีฉันมา.. มาธุระกับแม่นิดหน่อยอะ”ซองมินที่ไม่รู้จะบอกกับเพื่อนรักว่ายังไงอ้างขึ้น
‘จะให้บอกว่ามากินข้าวกับลูกพี่ลูกน้องตัวเองที่อยู่ในแก๊งทัมแบนะหรอ ไม่มีทาง’ ซองมินคิดในใจ
“นี่ รู้มั้ย?? ว่าพลาดอะไรไปบ้างน่ะ พระเอกนะ หล๊อหล่อ~ ฉอดๆๆๆ ฮ่าๆ ฉอดๆๆ”ดงเฮฝอยถึงหนังที่ดูมาอย่างไม่รู้เหนื่อย ถึงแม้ว่าเขาจะดูไม่ค่อยรู้เรื่องก็ตามที ซองมินเพียงแค่หัวเราะตามเบาๆเท่านั้น
“แต่ว่าดูไม่ค่อยรู้เรื่องเลยอ่ะ มีพวกไร้มารยาทในโรงหนัง เสียดายตังค์ชะมัด”ดงเฮบ่นตบท้าย
นี่ขนาดดูไม่รู้เรื่องนะเนี่ย บอกได้แม้กระทั่งเสื้อผ้าหน้าผมพระเอก แถมยังบอกอีกว่านางเอกไม่ค่อยสวย พี่ฮีชอลสวยกว่า...
“งั้นฉันไม่กวนแล้วแค่นี้นะ ฉันจะกลับบ้านแล้ว บ๊ายบาย”
เสียงของดงเฮบอกลา ซองมินจึงบอกลาก่อนจะกดวางสายไป “อืม บายจ๊ะ” เมื่อจบบทสนทนาทางโทรศัพท์ซองมินก็มองโทรศัพท์อย่างรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ
“ลีซองมิน!!” เสียงทุ้มพูดขึ้นมาทำเอาเจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงก่อนจะหันมามอง จะเป็นใครไปซะอีกละ ก็ลูกพี่ลูกน้องที่เค้าเพิ่งกินข้าวร่วมโต๊ะไปเมื่อไม่กี่นาทีนี้เองหนิ ซองมินไม่ตอบอะไรแต่แค่มองหน้าร่างสูง “ฉันเห็นนายอยู่ในแก๊งของพวกฮยางซูงั้นหรอ??” ซีวอนพูดขึ้นน้ำเสียงดูจะเป็นกังวล ทำให้ซองมินแอบคิดในใจ ‘พี่ก็อยู่ในแก๊งทัมแบเหมือนกันนั้นแหละ’
“แล้วพี่หละอยู่พวกเดียวกับทัมแบใช่มั้ย?” ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากัน ซีวอนไม่ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้าเบาๆสองสามที ก่อนจะเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์
“ถ้ามีใครไปบอกพ่อแม่นายว่า เห็นนายจูบกับผู้ชาย นายจะทำยังไง??”
“แล้วถ้ามีใครไปบอกพ่อแม่พี่ว่า เห็นพี่ขโมยหอมแก้มผู้ชาย พี่จะทำไง??” ซองมินโต้กลับอย่างยียวน ทำเอาเส้นประสาทซีวอนกระตุกปึดๆ ถอนหายใจก่อนจะพูดอย่างใจเย็น ..แผนการเอาเปรียบไอ้เด็กอวบนี่ พังซะแล้ว...
“นายรู้ใช่มั้ย? ว่าพ่อแม่เราอาจจะไม่ชอบที่เราเป็นแบบนี้ เพราะงั้น..”
“ผมรู้ดี” ซองมินโพล่งขึ้นทั้งๆที่ซีวอนยังพูดไม่จบ “เรื่องนี้จะถือเป็นความลับขั้นสุดยอดระหว่างเราสองคน พี่ไม่พูดผมก็จะไม่พูด ห้ามไปปริปากบอกใครทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือเพื่อนในแก๊ง แล้วพี่ก็จะไม่โดนระงับบัตรเครดิต ส่วนผมจะได้ไม่ถูกกักบริเวณ OK?” ซองมินพูดรัวออกมาทันทีโดยเอาข้ออ้างแบบปัญญาอ่อนที่เขาเพิ่งคิดได้สดๆเรื่องบัตรเครดิตออกมาอ้างกับญาติฝ่ายพี่ โดยไม่รู้เลยว่าข้ออ้างนี้แหละที่ซีวอนกลัวมาตลอด “หึ..ได้ งั้นตกลงตามนี้ เข้าไปข้างในได้แล้ว ก่อนจะมีใครสงสัย”ซีวอนเอ่ยอย่างมั่นใจและโล่งอกในเวลาเดียวกัน ก็คิดว่าจะยากซะอีกแต่ไหนๆญาติของเขาก็บอกมาขนาดนี้แล้วไม่ต้องออกแรงคิดหาข้ออ้างให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับเลยซักนิด ‘เฮ้ออ อ รอดไปอีกเรื่อง’ซีวอนคิดในใจ
-------------------------------------hesitant love------------------------------------
หลังจากที่ ฮีชอล ดงเฮ ฮยอกแจ ดูหนังจบแบบไม่รู้เรื่องเลย ทั้งสามเดินไปเข้าห้องน้ำ ดงเฮที่เพิ่งโทรศัพท์คุยกับซองมินเสร็จ ก็รีบออกมาจากห้องน้ำเพราะเห็นฮยอกแจกวักมือเรียกแล้วสายตาเหลือบไปเห็น ฮันคยองและคิบอมควงสาวน่าอกใหญ่เดินควบคู่มากันทั้ง2คน ก่อนที่คิบอมจะผละออกไปกับคู่ของตัวเอง ฮีชอลที่เห็นดังนั้นพูดขึ้นว่า
“หึ !! ดูสิ ยัดหน้าอกมาจนจะใหญ่เท่าหัวเด็กอยู่แล้ว อย่าเอาอย่างนะดงเฮ ฮยอกแจ” ดงเฮและฮยอกแจมองหน้ากันอย่าง งงๆพี่ชายของเค้าพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า!!? แต่ก็ไม่ได้ขัดอะไร ฮีชอลทำสีหน้าครุ่นคิดแล้วกระตุกยิ้มข้างเดียวอย่างที่เขาชอบทำประจำเวลาคิดอะไรเจ๋งๆได้ สายตามองไปที่ฮันคยองที่กำลังยืนคุยกับสาวหน้าอกใหญ่ด้วยความสนิทสนมปนกับความเจ้าชู้ ดงเฮและฮยอกแจที่รับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากตัวพี่ชายของเขา ทำให้รู้สึกเป็นห่วงฮันคยองขึ้นมาตะหงิดๆ
ฮีชอลสาวเท้าเข้าไปหาฮันคยอง พลางคิดถึงเรื่องสนุกๆที่จะเกิดขึ้น เมื่อเดินไปถึงตัวร่างเพรียวทำเป็นร้องทัก
“อ้าว!!...ฮันนี่ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ...นายจะยังจำเรื่องราวระหว่างเราได้หรือเปล่าน้า?” คิมฮีชอลที่ทำทีว่าเดินผ่านมาพูดด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวน พร้อมทั้งฝ่ามือที่ไล้ใบหน้าหล่อเบาๆ ฮันคยองหันมามองด้วยความตกใจ
“นี่...นะ..นาย!!” ฮันคยองพูดอย่างตกใจปนกับจังหวะหัวใจที่เต้นรัวขณะที่มือของฮีชอลเริ่มเลื้อยไปที่แผงอก
“นี่!!...พี่ฮันรู้จักนังนี่ด้วยหรอคะ?” สาวสวยข้างกายของฮันคยองพูดขึ้นพลางเอานิ้วชี้หน้าฮีชอลอย่างหาเรื่อง
“ยิ่งกว่ารู้จักอีก เพราะว่าเราสองคนนะเคยยย.....ใช่มั้ยฮัน?” ประโยคแรกพูดพร้อมส่งสายตาเหยียดๆไปให้หญิงสาว ส่วนประโยคคำถามสุดท้ายนั้นหันมามองหน้าฮันคยองอย่างยั่วยวนพลางเอามือเรียวไล้ที่ใบหน้า อีกมือคล้องคอฮันกยองไว้
“พี่ฮันเคยทำอะไรกับมันหรอคะ??!!!”หญิงสาวโกรธจนหน้าแดงพลางเต้นเร่าๆ อย่างระงับอารมณ์ “บอกเค้าไปซิฮัน.....เรื่องคืนนั้นไง”ฮีชอลพูดด้วยน้ำเสียงแห่งชัยชนะสายตามองผ่านไปทางฮันคยองที่มัวแต่อ้ำอึ้งกับคำพูดของฮีชอล
“ปะ..เปล่านะ” ฮันคยองพูดเสียงสั่น ไม่ใช่เพราะกลัว แต่รู้สึกหวิวๆกับมือของอีกฝ่ายที่กำลังไล้ไปทั่วแผงอกตน....ฮีชอลกำลังคิดจะทำอะไรนะ?เขาเดาไม่ออกจริงๆ
“อ้าว...ก็วันนั้นนายเป็นคนตามชั้นขึ้นไปเองนี่”ฮีชอลพูดประโยคเด็ด ทำเอาฮันคยองหันมามองหน้าฮีชอลอย่างเหวอๆ
“พี่ฮัน พี่ทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไง!!!!” หญิงสาวเต้นเร่าๆตะโกนถามเสียงดังอย่างระงับอารมณ์ไม่อยู่
“คิดว่าผู้ชายเลวๆอย่างฮันคยองจะจริงจังกับผู้หญิงอย่างเธองั้นหรอ? อย่างดีเขาก็แค่ฟันแล้วทิ้งเท่านั้นแหละ!” ฮีชอลโต้กลับนิ่งๆโดยเน้นคำว่า ‘เลวๆ’ พร้อมกับหันหน้าไปทางฮันคยอง ส่วนอีกประโยคเน้นคำว่า ‘ฟันแล้วทิ้ง’นั้นหันไปตะโกนใส่หน้าหญิงสาว พลางมองทรวดทรงเซ็กซี่ด้วยสายตาเหยียดๆ อันที่จริงฮันคยองรู้สึกดีใจที่ฮีชอลมากันผู้หญิงคนนี้ให้ เพราะความจริงแล้วเขาก็รำคาญยัยนี่เต็มทนเหมือนกัน แต่คำพูดเมื่อกี้มันทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกหลอกด่ายังไงชอบกล
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!” พอจบคำพูดของฮีชอลผู้หญิงคนนั้นก็ถึงกับสติแตกแล้ววิ่งหนีไปซะอย่างนั้น
“นายทำแบบนี้ทำไม?” ฮันคยองถามอย่างสงสัย ไม่มีทางที่คนอย่างคิมฮีชอลจะมายุ่งวุ่นวายกับเขาโดยไม่มีเหตุผลแน่
“ไม่มีเหตุผล”ฮีชอลยักคิ้วอย่างกวนประสาท “เอาล่ะฉันต้องไปแล้ว” ฮีชอลเดินมาทางฮันคยองช้าๆ ใช้มือจับปกเสื้อแล้วดึงมาใกล้ๆ
“จำเอาไว้นะ...ถ้านายยังคิดจะมีเรื่องกับฉัน นายจะไม่ได้พบกับความสุขอีกเลย”ฮีชอลพูดประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นก่อนจะส่งจูบหวานให้ฮันคยองอย่างเคยเป็นการปิดฉาก แล้วเดินจากไปพร้อมๆกับดงเฮและฮยอกแจ ทิ้งให้ฮันคยองยืนงงเป็นมังกรตาแตก
---------------------------------------
ความคิดเห็น