ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FICEXO] my sadness Room - KAIHUN,KRISYEOL,CHANBAEK,HUNHAN,ETC

    ลำดับตอนที่ #2 : [SF] RAINSTORM - HUNHAN {2/2}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 579
      9
      19 ส.ค. 58


    - R A I N A T O R M -
    1/2
    [- H U N H A N -]

     



     




    .

    .

    เช้านี้สดใสก็จริงแต่ลู่หานกลับตื่นขึ้นมาในสภาพอารมณ์ที่หม่นหมอง เขาไม่ได้มอนิ่งคิสคนตัวสูง และเช้านั้นเขาต้องเดินออกมาจากห้องเอง ด้วยขาสองข้าง เมื่อเดินออกมา เขาก็เห็นเซฮุนกำลังทำซุปข้าวโพดอยู่ ร่างเล็กจึงเดินเข้าไปหาพร้อมกับสวมกอดร่างสูงจากด้านหลัง

     

     

    “หอมจัง” ลู่หานว่าพลางทำจมูกฟุดฟิดๆ แล้วเนียนเขย่งเท้าขึ้นไปจูบอีกคนเบาๆ”มอนิ่งคิสครับ”เพียงแค่เห็นใบหน้าเรียบเฉยของอีกคน ลู่หานก็เจ็บร้าวไปทั้งใจ หัวใจที่เคยคิดว่าเต็มไปด้วยดอกไม้ที่บานสะพรั่งกลับดูหม่นหมองราวกลับทั้งหัวใจร้างไปด้วยสิ่งสวยงาม

     

    “ซะ...เซฮุน” ร่างเล็กเรียกชื่อร่างสูง พลางเอื้อมมือกุมชายเสื้อร่างสูงที่หันหลังให้ “อย่าทำอย่างนี้...ขอร้อง..อึก...อึก” น้ำตาหยดใสไหลรินเชกเช่นดั่งเมื่อคืน เขาไม่ชอบเลยจริงๆที่เซฮุนนิ่งไปแบบนั้น ไม่สนใจกันแบบนี้

     

     

    “ทานเถอะ” เซฮุนวางถ้วยซุปไว้บนโต๊ะข้างๆร่างเล็กก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ ลู่หานมองซุปที่กำลังร้อนๆอย่างเศร้าใจ ไม่เคยมีซักครั้งที่เขาต้องนั่งกินข้าวคนเดียว นอกจากวันนี้...

     

     

    ร่างเล็กเดินเข้าไปทานซุปจนหมดแล้วจึงเดินเอาไปเก็บ เป็นเวลาเดียวกับเซฮุนที่อาบน้ำเสร็จ ทั้งสองเพียงสบตากันนิ่งๆแล้วเป็นร่างสูงเองที่เดินเข้าห้องไป

     

     

    “อาบน้ำซะ...จะได้ไปส่งที่อุทยาน” เซฮุนบอกกับร่างเล็กที่ยังนั่งบนโซฟาตัวยาว ร่างเล็กเพียงกลั้นน้ำตาไว้แล้วเดินคอตกไปทำธุระส่วนตัว

     

     

    เวลาผ่านไปไม่นานนักลู่หานเองก็แต่งตัวเสร็จ เขาเดินออกมานอกบ้านตามที่เซฮุนเคยได้บอกไว้ ตากลมมองร่างสูงที่นั่งประจำที่คนขับบนรถจิ๊ฟ มือไม้สั่นสะท้านเมื่อโดนสั่งให้ขึ้นรถ  เมื่อร่างเล็กหย่อนกายไปนั่งข้างคนขับ รถจึงค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป แต่แล้ว...สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่ออยู่ๆเม็ดฝนดันเทลงมาอย่างหนัก ต้นไม้ขนาดใหญ่เบื้องหน้าล้มลงขวางทางจนรถเซฮุนรีบเบรกกะทันหัน

     

     

    เม็ดฝนหยดใส่ไหลลู่ลงตามโครงหน้าของคนทั้งสอง เมื่อร่างสูงเห็นว่าไม่เข้าท่าที่จะเดินหน้าไปส่งคนตัวเล็กจึงถอยรถกลับ

     

     

    ร่างเล็กก้มหน้าชิดอก พร้อมกับเดินออกจากรถ หากเดินได้ไม่กี่เก้าก็ล้มพับลงเพราะอาการเจ็บแปลบที่ข้อเท้า แต่ร่างสูงกลับไม่ได้เลียวมามองหลังเลย นัยน์ตากลมที่เปื้อนไปด้วยหยดน้ำฝนช้อนมองร่างชายหนุ่มที่เดินเข้าบ้านอย่างเจ็บปวด

     

     

    ราวกลับโลกทั้งใบเป็นสีเทา ลู่หานไม่รู้ว่าจะรู้สึกเช่นไรดี เสียใจ ดีใจ หรือว่าเศร้ากันแน่ หัวใจของเขามันบีบรัดจนเจ็บปวดไปหมด เพียงแค่มองไปรอบๆกายแล้วไม่เจอใครเลยนอกจากความว่างเปล่า มือเรียวลากไปจับที่ข้อเท้าก่อนจะมองมันหลากหลายอารมณ์

     

     

    เซฮุนเองเมื่อเดินเข้ามาในบ้านไม่ได้ยินเสียงคนเดินตามมาจึงหันกลับไป ตาเรียวมองหาร่างเล็กโดยเร็วก่อนจะเดินไปกระชากประตูให้เปิดออก ภาพที่เขาเห็นคล้ายจะทำให้โลกทั้งใบของร่างสูงหยุดนิ่ง เมื่อเห็นร่างเล็กนั่งอยู่ท่ามกลางสายฝน แถมตากลมที่ทอแสงกลับแดงก่ำ

     

     

    “ลู่หาน! ร่างเล็กถามตัวเองว่าฝันไปหรือเปล่า เพราะกำลังเห็นเซฮุนวิ่งเข้ามาอุ้มเขาให้ลอยหวืดขึ้นไป เพียงไม่นานตัวเขาก็ถูกวางลงบนโซฟา ทั้งร่างสั่นสะท้านด้วยความหนาวเหน็บ แต่สิ่งที่พอจะอบอุ่นขึ้นมาบ้างคงมีแต่หัวใจของลู่หานนั้นแหละ

     

     

    “อึก...อึก...เซฮุน” ร่างเล็กคว้ามือของอีกคนไว้เมื่อเซฮุนตั้งท่าจะเดินออกไปเพื่อไปเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ “ผมนึกว่าคุณจะทิ้งผม...แล้ว...” เสียงสั่นดังขึ้นขณะที่เซฮุนก็นั่งลงแล้วค่อยๆเอื้อมมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลลงจากหางตาคนตัวเล็ก

     

     

    “ไม่ทิ้งหรอก...” สิ้นประโยคร่างเล็กก็โผเข้ากอดอีกคนเต็มแรง เพียงแค่คำพูดคำเดียวกลับทำให้หัวใจที่เคยเศร้าหมองแปรเปลี่ยนเป็นทุ่งดอกไม้สีสวยไปได้ทันที “อย่าร้องนะ..” เสียงทุ่มเอ่ยปลอบขณะที่ยกมือขึ้นกอดร่างเล็กที่เปียกชืด ไม่นานนักเสียงร้องไห้ของคนตัวเล็กก็เงียบลง ลู่หานผละตัวออกจากเซฮุน แล้วใช้ดวงตากวางน้อยจ้องไปยังแก้วตาทรงเสน่ห์เบื้องหน้า

     

     

    “อย่าเย็นชากับผมอีกนะครับ....ผมขอร้อง” เซฮุนเพียงยกมือขึ้นทาบบนแก้มเย็น แล้วมองตอบ “มันเจ็บตรงนี้..” มือเรียวยกขึ้นมากุมมือหนาที่ทาบบนแก้ม แล้วค่อยๆดึงมือหนาลงมาทาบที่อกข้างซ้ายของตัวเอง “นะครับ...” สิ้นเสียงกลีบปากบางก็ถูกทาบทับด้วยกลีบปากหยัก ความหวานละมุ่นแผ่ซ่านไปทั่วโพรงปากเล็กจนลู่หานเผลอเอื้อมมือขึ้นไปคลองคออีกคน

     

     

    “เข้าใจแล้ว...” เมื่อผละออกจากกัน เซฮุนจึงเอ่ยขึ้น พร้อมกับมือหนาที่เลื่อนมากุมใบหน้านวลอย่างรักใคร่ “อย่าร้องนะ...” มือใหญ่ละจากใบหน้านวลมาหนึ่งข้างก่อนจะเอื้อมไปกุมมือเรียวที่คลองคอตนมาไว้ แล้วทาบมันลงที่ตำแหน่งหัวใจของตัวเอง “ชั้นเห็นแล้วมันก็เจ็บตรงนี้เหมือนกัน...” นัยน์ตาหวานเชื่อมจ้องมองใบหน้าหล่ออย่างรักใคร่เมื่อเห็นอีกคนแสดงสีหน้าเจ็บปวดเช่นกัน คราวนี้เป็นลู่หานซะเองที่ยื่นหน้าเข้าไปจูบกลีบปากหยัก แล้วค่อยๆเคลื่อนไปจูบปลายคางอีกคนอย่างออดอ้อน

     

     

    “ครับ...” ลู่หานเอ่ยแผ่วเบาพร้อมกับมอบสัมผัสละมุ่นให้อีกคนซ้ำแล้วซ้ำเล่า วินาทีนี้ลู่หานรับรู้ถึงดอกไม้ที่กำลังเติบโตมากขึ้นมากขึ้นจนแทบจะล้นออกมาจากใจเขา พวกมันกำลังเบ่งบานสะพรั่ง ราวกลับดอกไม้ในฤดูร้อน หากความจริงนั้นมันเป็นดอกไม้ในฤดูฝน

    .

    .

    .

    .

     

     

    “เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ...” หลังจากฉากรักอันแสนหวานผ่านพ้นไป เซฮุนก็เดินไปโยนเสื้อผ้าให้ร่างเล็กที่สั่นงกอย่างกับนกน้อย ลู่หานยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วส่ายหน้าไปมา เซฮุนเห็นเช่นนั้นจึงยกคิ้วถาม

     

    “เปลี่ยนให้ผมหน่อยสิ...” ลู่หานรู้สึกว่าตัวเองคล้ายกับนางเอกขี้อ่อยในซีรี่ย์ไม่มีผิด ก็ร่างเล็กแค่ต้องการจะอ้อน อ้อน และก็อ้อนร่างสูง แค่นั้นแหละ

     

     

    “แน่ใจ?” เซฮุนถามเสียงเรียบ แต่สายตากลับระยิบระยับไปด้วยเล่ห์กล เมื่อเห็นว่าร่างเล็กพยักหน้าตอบกลับมาเป็นไฟเขียวบอกผ่าน ร่างสูงจึงทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาเบียดกับอีกคนแล้วใช้วงแขนแกร่งช้อนร่างของอีกคนให้มานั่งบนตักแกร่ง วินาทีนั้นลู่หานรู้เลยว่า คิดผิดที่อยากอ้อนเซฮุน ก็ดูสิ...หน้าร้อนหมดแล้ว...หัวใจก็เต้นแรงเสียจนอกจะแตก

     

     

    คนตัวสูงเพิกเฉยต่อใบหน้านวลที่ขึ้นริ้วแดง แต่เพ่งความสนใจมาที่เสื้อตัวเปียกที่กำลังถูกถอด ใช่ว่าไม่เคยเห็นผิวขาวๆของอีกคน แต่เห็นทีไรก็อดใจที่จะเต้นระรัวไม่ได้ทุกที

     

     

    “ผมว่า...ดะ...เดี๋ยวผมเปลี่ยนเองดีกว่า” ลู่หานรีบออกตัวเมื่อเซฮุนเอาแต่จ้อผิวเขา ให้ตายเถอะ....ราวกลับมีภูเขาที่กำลังรอระเบิดก่อตัวอยู่ที่แก้มทั้งสองไม่มีผิด

     

     

    “ไม่!”ลู่หานปิดปากฉับ เมื่อเซฮุนมองตาดุมาให้ ปากเล็กคว่ำลงอย่างแหงงอน แต่เซฮุนไม่คิดจะสน เขาถอดเสื้อออกจนได้ จากนั้นจึงก้มลงจูบหัวไหล่มนแล้วเลื่อนกลีบปากขึ้นไปคลอเคลียที่ลำคอเล็กจนลู่หานครางงิ้งๆเหมือนแมวน้อย

     

     

    “ไม่เอา..งื้ออออ” ลู่หานทั้งยิ้มทั้งเขินระหว่างที่เซฮุนลงมือแกล้งคนขี้อ้อนให้เข็ด เมื่อสมใจร่างสูงก็จับเสื้อที่เตรียมไว้มาเปลี่ยนให้ เอาล่ะ...ประเด็นหลักคือกางเกงนี้แหละ ลู่หานรีบเด้งตัวลงจากตักคนขี้แกล้งเมื่อคิดได้เช่นนั้น ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดตัวอย่างกลัวๆ

     

    “เดี๋ยวผมเปลี่ยนกางเกงเอง...” ดวงตากลมจ้องเขม็งไปยังชายหนุ่มที่กำลังยิ้มขำให้ ในความคิดเซฮุนนั้นลู่หานช่างดูน่ารักและน่าถะนุถนอม เขาไม่มีวันทำอะไรมากไปกว่าการกอดและจูบกับร่างเล็กเด็ดขาด ถึงแม้ว่าจะอยากอยู่ก็ตาม

     

     

    “แน่ใจ?” ลู่หานรู้สึกเกลียดใบหน้าเจ้าเล่ห์ของเซฮุนขึ้นมา ก็สายตาที่มองมามันแฝงไปด้วยความคิดที่ลู่หานรู้ว่าเซฮุนคิดอะไร มันทำให้เขาอยากระเบิดตัวเองตายแล้วกลายเป็นโก้โก้ครั้นซะ

     

    เมื่อเห็นว่าร่างสูงเริ่มขยับเข้ามาใกล้จึงรีบพยักหน้าตอบกลับไป เซฮุนหัวเราะเสียงต่ำก่อนจะยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กเบาๆ แล้วตามมาด้วยจมูกโด่งที่โน้มลงมาหอมแก้มที่กำลังขึ้นสีของคนตัวเล็กเสียฟอดใหญ่

     

     

    “งื้อออออ” ลู่หานครางเบาๆ หลังจากเซฮุนเดินออกไป ทิ้งให้เขาเขินอยู่คนเดียว แม่จ๋าพ่อจ๋า ลู่หานเป็นอะไรน่ะ...ทำไมแก้มมันร้อนจนจะแตกออกมาอย่างนี้ บอกลู่หานทีสิ?

     

     

    เที่ยงวันนั้นลู่หานรู้สึกราวกลับตัวเองจะเป็นไข้เขาจึงขอยาทานจากเซฮุน จากนั้นร่างเล็กก็หลับยาว กระทั่งตกเย็นร่างเล็กก็ยังไม่ตื่น ทำให้ร่างสูงของชายหนุ่มเจ้าของบ้านเอาแต่เดินไปเดินมารอบห้องนอน กังวลนักว่าจะเกิดไข้ขึ้นสูง พอเอามืออังที่หน้าผากแคบก็ไม่ได้ร้อนอย่างที่คิด แต่ความเป็นห่วงผลักดันให้เขาเดินไปหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ร่างเล็ก เพียงแค่น้ำเย็นกระทบผิวเนียน เสียงเล็กก็ครางสั่นจนเซฮุนอดเป็นห่วงไม่ได้

     

     

    “หนาว...หนาว” ยิ่งตกดึกบรรยากาศลดลงฮวบฮาบร่างเล็กยิ่งครางสั่น เซฮุนถอนหายใจทิ้งระหว่างที่ทิ้งตัวลงไปนอนข้างๆร่างเล็กแล้วยกแขนขึ้นมาโอบกอดคนข้างๆเพื่อคลายหนาว ลู่หานเมื่อได้รับไออุ่นจึงรับซุกกายเข้าหาร่างสูงโดยเร็ว

     

     

    คืนนั้นเซฮุนแทบข่มตาให้หลับไม่ลง เพราะร่างกายของลู่หานร้อนสูงมาก กลางดึกเขาต้องลุกขึ้นมาเช็ดตัวให้ ป้อนยา และนอนกอดคนตัวเล็กเพื่อให้ความอบอุ่น

     

    จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น อาการของลู่หานดีขึ้น เปลือกตาสีมุกค่อยๆเปิดขึ้นแล้วรีบรี่ลงเมื่อแสงสว่างสะท้อนแยงตา เมื่อปรับสายตาให้คุ้นชินสำเร็จ เขาจึงพบว่าตัวเองกำลังถูกกอดก่ายจากร่างสูง เห็นเช่นนั้นจึงยกยิ้มมีความสุข

     

     

    “เซฮุน...” ลู่หานเรียกชื่อร่างสูงเบาๆ พลางเลื่อนกลีบปากขึ้นไปพรหมจูบทั่วใบหน้าคม “เซฮุนครับ...” เปลือกตาของอีกคนค่อยๆปรือขึ้นก่อนจะยกยิ้มให้ร่างเล็กในอ้อมแขนเมื่อเห็นว่าใบหน้านวลมีสีสันแต่งแต้มมากกว่าเมื่อวาน

     

    “ดีขึ้นแล้วหรอ?” เสียงทุ่มถามพร้อมกับฝังจมูกลงบนกลุ่มผมสีอ่อนของอีกคน ลู่หานไม่รอช้ารีบเคลื่อนตัวขึ้นไปประทับจูบมอนิ่งคิสอีกคน แล้วหยันยิ้มหวานให้ “ดูแลผมทั้งคืนใช่มั้ย?” เมื่อตากลมเหลือบเห็นกระละมังที่มีน้ำวางอยู่ใกล้ๆเขาจึงถามออกไป

     

     

    “เหนื่อยแย่...เฮ้อ...”ร่างเล็กถอนหายใจเสียงดังอย่างรู้สึกผิด แต่ร่างสูงกลับยกมือขึ้นบีบจมูกรั้นเบาๆ แล้วกดจูบหน้าผากเนียนแทน

     

    “ไม่เหนื่อยเลย...แค่เห็นว่ายิ้มได้อย่างงี้ก็มีความสุขแล้ว” ลู่หานเลื่อนมือขึ้นมาลูบผิวแก้มกร้านของร่างสูงแผ่วเบา “ขอบคุณครับ...” เซฮุนยกยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นอีกคนทำสายตาอ้อนๆให้

     

     

    “อ้อนกว่านี้หน่อยสิ...” ร่างสูงว่าพลางจ้องตากลมอย่างมีเล่ห์ศนัย ลู่หานขมวดคิ้วแน่น แต่แล้วกลีบปากบางก็แย้มยิ้มเมื่อเข้าใจสิ่งที่ร่างสูงเอ่ย ใบหน้านวลขึ้นสีนิดๆยามที่เริ่มเคลื่อนขึ้นไปจูบที่กลีบปากหยัก แล้วจึงผลักออกมา แต่คนตัวสูงกลับส่ายหัวไปมา นั้นจึงทำให้ลู่หานตัดสินใจ ยันตัวให้ขึ้นไปนั่งคร่อมร่างสูง แล้วจึงก้มหน้าลงไปไล่จูบตั้งแต่หน้าผาก แก้มทั้งสอง กลีบปากสีเข้ม และคางคม

     

     

    “ง้อออ...มือ..เซฮุนมือ” ลู่หานเคอะเขินกว่าเดินเมื่อเซฮุนเผลอเอื้อมมือมาลูบไล้โคนขาคนตัวเล็ก แต่นั้นก็แค่แกล้ง เขายกยิ้มให้ร่างเล็กที่กำลังเขินบิดตัวไปมา แล้วจึงเป็นฝ่ายพลิกร่างเล็กลงมาแล้วใช้จมูกฟัดแก้มทั้งสองอย่างหมั้นเขี้ยว

     

     

    “งื้อออ....เซฮุน..” จนเกิดเสียงเล็กครางเบาๆ ใบหน้าร้อนเห่อขึ้นมา ร่างกายรุ่มร้อนจนคล้ายจะกลับไปเป็นไข้อีกครั้ง หากในใจกลับมีความสุข ดอกไม้ได้บานอีกครั้งแล้วสินะ...

    .

    .

    .

    .

     

    ความสุขนั้นแสนสั้นเสียจริง แต่ทั้งสองกลับยังคงหลอกตัวเองว่าความสุขของพวกเขายั่งยืน วันที่ฟ้าโปร่งไร้ซึ่งพายุก็มาถึง เซฮุนยื่นมือไปรอรับร่างเล็กมากุมไว้ ทั้งสองยกยิ้มให้ซึ่งกันและกันระหว่างที่เดินออกจากบ้านเพื่อขึ้นรถจิ๊ฟ เซฮุนเลือกที่จะขับรถเพียงมือเดียวเพราะอีกข้างเขาใช้กุมมือเล็กไว้แน่น วันนี้เซฮุนเลือกขับมาทางเส้นทางอีกเส้นเพราะเส้นทางที่เขาเคยใช้วันก่อนถูกต้นไม้โคนล้มลงมาขวาง ระหว่างที่ขับรถออกมาจังหวะหายใจของทั้งสองต่างดูตื่นเต้นและเศร้าสร้อย ราวกลับจะพรากจากกันไปไกลแสนไกล

     

     

    “เราจะได้เจอกันอีกใช่มั้ย เซฮุน...” ลู่หานถามขึ้นระหว่างที่ตัวรถยังเคลื่อนไปตามเส้นทางป่ารก เซฮุนเพียงหันหน้ามาให้ร่างเล็กแล้วพยักเบาๆ แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้ลู่หานชื่นใจ

     

     

     

    ไม่นานนักรถจิ๊ฟคันใหญ่ก็แล่นมาจอดที่หลังอุทยานของป่า เซฮุนเดินลงไปเปิดประตูให้ลู่หานและทั้งสองก็เดินเข้าไปในตัวอุทยาน ลองมองหาเจ้าหน้าที่ก่อนจะพบกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่งซึ่งเมื่อมองเห็นลู่หานก็รีบวิ่งปรี่เข้ามาทันที

     

     

    “ใช่คุณลู่หานหรือเปล่าครับ...” ลู่หานพยักหน้าตอบ มือเล็กกุมมือหนาแน่นอย่างใจหายเมื่อเจ้าหน้าที่ยกแฟ้มเอกสารที่ถือไว้ก่อนหน้านี้ในมือขึ้นมา “เพื่อนของคุณได้เข้ามาแจ้งทางเราไว้ว่า คนหาย...ถ้าคุณยื่นยันจริงๆว่าเป็นคนที่ชื่อลู่หานก็ขอให้มาทำเรื่องทางนี้ด้วยครับ” เซฮุนค่อยๆละมือจากลู่หาน เมื่อร่างเล็กเดินไปทำเรื่องในตัวอาคารของอุทยาน ร่างสูงจึงเดินมาที่เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์และขอยืมโทรศัพท์

     

     

    “ครับ...มารับตัวได้เลย” เมื่อคุยในเรื่องที่ต้องการเสร็จจึงยื่นโทรศัพท์คืนให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เป็นเวลาเดียวกันกับร่างเล็กที่เดินออกมา ลู่หานเมื่อเห็นร่างสูงเข้ามาอยู่ในตัวอาคารจึงรีบวิ่งเข้าไปหา

     

     

    “ผมจะได้เจอคุณที่ไหน?”คิ้วเล็กขมวดถาม พลางยื่นมือขึ้นไปกุมมือหนาไว้ “ในป่าหรอครับ?” เซฮุนยกยิ้มให้เป็นคำตอบแล้วกระชับมือเล็กให้แน่นขึ้น

     

     

    “ในป่า...ใช่..” ร่างสูงตอบกลับมา พลางมองใบหน้านวลที่เศร้าหมอง เห็นเช่นนั้นจึงดึงร่างเล็กเข้ามากอด แล้วก้มลงจูบบนเส้นผมสีอ่อน “อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ...” ลู่หานพยักหน้าหงึกหงักภายในอกกว้าง ก่อนจะยกมือขึ้นกอดตอบอีกคน

     

    ลู่หานกำลังปลอบใจตัวเองว่าทุกอย่างจะไม่มีอะไรเลวร้าย เรื่องทุกอย่างมันไม่ได้เศร้าอย่างที่คิดไว้หรอก...แค่จากกัน ถ้าเกิดวันไหนเขาอยากมาเจอเซฮุนค่อยเข้าป่าไปหา  เซฮุนไม่ได้หายไปซักหน่อย นั่นสินะ...คิดเช่นนั้นร่างเล็กจึงยิ้มร่าค่อยๆผละตัวออกมาจากอกกว้างแล้วเขย่งปลายเท้าขึ้นไปประทับกลีบปากบนกลีบปากหยักอย่างรักใคร่

     

     

     

     

    ครืน...

     

     

    เสียงรถยนต์ดังขึ้นดึงความสนใจจากลู่หานและเซฮุนให้หันไปมอง ก่อนร่างเล็กจะเบิกตากว้าง เมื่อเห็นว่ารถคันนั้นเป็นรถของพ่อเขา  แม่ของลู่หานก้าวขาลงจากรถพร้อมกับลู่หานที่วิ่งเข้าไปหาผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง พ่อของเขาเดินลงมาจากรถตามมาก่อนจะเดินเข้าไปกอดลูกชายหัวแก้วหัวแหวน

     

    “แม่เป็นห่วงแทบแย่” หญิงสาวผู้เป็นแม่กรอบกุมหน้าลูกชายเข้ามาหอมแก้ม ก่อนจะผละออก ลู่หานส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อ “มาได้ยังไงครับ?” ลู่หานเอ่ยถามขึ้น ก่อนนิ้วของผู้เป็นพ่อจะชี้ไปยังเซฮุนซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง 

     

     

    “พ่อหมายถึง?” ลู่หานมองใบหน้าบิดาก่อนจะหันไปมองร่างสูงที่กำลังยืนนิ่งสงบ

     

     

     

    “เขาเป็นหุ่นยนต์นักสืบของตระกูลเรา บังเอิญพ่อสร้างบ้านพักให้เขาอยู่ในป่านั้นพอดี พอพ่อได้ข่าวว่าลูกหายตัวไปในป่าจึงโทรบอกให้เซฮุนเขาดูแลแทน...แล้วเขาก็เป็นคนโทรมาบอกพ่อว่าพาลูกมาส่งเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน” ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อได้ยินเต็มสองหูว่า เซฮุนคือ หุนยนต์นักสืบ ในสมองตีกันยุ่งไปหมด ร่างเล็กค่อยๆเดินถอยหลังไปอย่างไม่เชื่อหู

     

     

    “หุ่นยนต์อะไรกัน...”เสียงเล็กพูดแผ่วเบา ก่อนดวงตาทั้งสองจะปริ่มไปด้วยน้ำสีใส

     

     

    “เขาดูแลลูกดีใช่มั้ย เซฮุนเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกป้อนโปรแกรมทุกอย่าง มีลักษณะทุกอย่างคล้ายมนุษย์ แม้แต่หัวใจเขาก็ยังมี แต่เป็นเพียงหัวใจปลอมๆ”

     

     

    ไม่จริงๆๆ

     

     

    ลู่หานส่ายหัวไปมา ก่อนจะห้วนไปถึงเวลาตอนที่เขาและเซฮุนมีความสุขกัน ทั้งหมดมันแค่โปรแกรมที่ถูกป้อนใส่ไว้จริงๆน่ะหรอ...เขาไม่มีหัวใจจริงๆน่ะหรอ?

     

     

    “กลับกันเถอะ...ลูก” คนเป็นพ่อเอ่ยบอกลูก ทว่าลู่หานกลับส่ายหัวไปมา

     

    “ผมขอคุยกับเขาก่อนนะครับ!” สิ้นประโยคร่างเล็กจึงกลับหลังหันแล้ววิ่งเข้าไปฉุดมือหนาให้วิ่งไปด้านหลังอุทยานซึ่งลับตาคน เมื่อมาถึงลู่หานจึงปล่อยมือหนาแล้วจ้องหน้าร่างสูง

     

     

     

    “ไม่จริงใช่มั้ย...เซฮุน?” หัวใจของลู่หานเจ็บร้าวจนมันแทบแตกออกเป็นเสี่ยงๆเพียงแค่เห็นคนตรงหน้ามองมาที่เขานิ่งๆ ไม่มีอีกแล้วรอยยิ้มและท่าทางอ่อนโยน “อย่านิ่งสิ...ตอบผมมา..มันเจ็บตรงนี้นะ คุณจำได้ไหม มันเจ็บ...” ระหว่างที่พูดมือตัวเองก็ยกขึ้นมาทุบอกตัวเอง น้ำตาไหลลงสองข้างแก้มจนเกินจะหักห้าม

     

     

     

    “ใช่...ฉันคือหุ่นยนต์”ร่างสูงตอบกลับมาเสียงเรียบ หากมันกลับคล้ายหอกนับแสนที่ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจร่างเล็ก ลู่หานเอียงตัวเข้าไปกอดอีกคน แล้วส่ายหน้ารัวๆราวกลับไม่อยากยอมรับความจริง

     

     

    “เซฮุน..ไม่จริงๆ ไม่จริง...กอดผมสิ...บอกผมว่ามันไม่จริง” เขาพูดเสียงดังพร้อมกับสะอื้นตัวโยน มือเรียวเอื้อมไปกุมมือหนาแล้วเลื่อนขึ้นมาทาบแก้มตัวเอง “อึก...เซฮุน...เรื่องทั้งหมดล่ะ...” หัวใจดวงน้อยเต้นช้าลงระหว่างที่รอคำตอบจากอีกคน

     

     

    “เรื่องทั้งหมดก็แค่ข้อมูลที่ฉันถูกป้อนใส่ไว้ให้” ได้ยินเช่นนั้นใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตารีบส่ายไปมารัวๆ ไม่อยากเชื่อ ไม่อยากฟังแล้ว....ที่ผ่านมาเซฮุนไม่ได้รักเขาเลยหรอ ใช่สิ...เขาเป็นหุ่นยนต์ทำตามโปรแกรม ไม่มีหัวใจ ทำไมเซฮุนต้องเป็นหุ่นยนต์ ทำใมๆๆ สุดท้ายแล้วลู่หานจึงกลั้นใจหายใจเข้าลึกๆแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อตรงหน้า จากนั้นจึงยกมือเรียวขึ้นไปทาบบนแก้มกร้านอย่างที่เคยทำเป็นประจำ ยิ่งภาพต่างๆที่พวกเขาเคยร่วมสร้างด้วยกันฉายในความคิด ลู่หานก็ยิ่งน้ำตาไหล กลีบปากบางเม้มเน้น ก่อนจะค่อยๆเขย่งปลายเท้าตัวเองขึ้นไปประทับรอยจูบอันแสนหวานให้กับร่างสูง

     

     

     

    “ผมรักคุณ....ได้ยินไหม..”ความเป็นจริงที่แสนเศร้าทำให้ลู่หานเลือกที่จะเอ่ยคำที่รู้ว่าเอ่ยไปแล้วคนฟังไมรู้สึกไปด้วยออกมา “ผม...อึก...ฮื่อๆ” แล้วสุดท้ายจึงเป็นเขาที่ร้องไห้อยู่เสมอๆ

     

     

    “อย่าร้องนะ...”

     “ชั้นเห็นแล้วมันก็เจ็บตรงนี้เหมือนกัน...”

     

     

    เสียงสะท้อนของภาพเก่าๆดังขึ้น ทำให้ลู่หานหลับตาแน่นและรีบปาดน้ำตาออกจากแก้มตัวเอง แล้วจึงช้อนตาขึ้นนัยน์ตาสีเข้มที่เรียบเฉย

     

     

    “ผมจะไม่ร้อง...ผม...ไม่อยากทำให้คุณเจ็บ..” ร่างเล็กว่าพร้อมกับเลื่อนมือเรียวมาทาบอกซ้ายของคนตรงหน้า “ลาก่อนเซฮุน...” เขาพูดเสียงแผ่วพร้อมกับเขย่งปลายเท้าขึ้นไปมอบจูบให้กับอีกคน ลู่หานแช่ค้างอยู่ในท่านั้นนาน จนเป็นเซฮุนเองที่เดินถอยหลังออก ต่อให้หัวใจดวงน้อยจะเจ็บเพียงใดแต่ลู่หานก็เลือกที่จะยกยิ้มให้กับอีกคน

     

     

    ร่างเล็กค่อยๆเดินกลับไป ก่อนเซฮุนจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่สตาร์ทเสียงดังค่อยๆเงียบเสียงหายไป...วินาทีนั้นร่างสูงถอนหายใจทิ้งเสียงดังพร้อมกับร่างกายที่ทรุดนั่งลงกับพื้น

     

     

    ใช่...เซฮุนคือหุ่นยนต์ แต่เป็นหุ่นยนต์ที่เลียนแบบมนุษย์ได้เหมือนมาก มีทั้งหัวใจและกลไกต่างๆที่เหมือนกัน แม้กระทั่งความรู้สึก ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไร...ตอนที่เห็นใบหน้านวลที่เต็มไปด้วยน้ำตายกยิ้มปลอบใจตัวเองก่อนไปนั้น ทำให้เขาแทบอยากดึงอีกคนเข้ามากอดแล้วพาหนีไปจากที่ตรงนี้ซะ ลู่หานจะรู้ไหมนะว่าตอนที่ทั้งสองคุยกันร่างกายของเซฮุนกระตุกอยู่หลายครั้ง เขาต้องห้ามมือตัวเองที่จะยกขึ้นมากอดและเช็ดน้ำตาให้คนตัวเล็ก

     

    คำถามที่สงสัยที่สุดคงถามว่า ทำไม?

     

     

    เนื่องด้วยเขาคือหุ่นยนต์นักสืบที่เริ่มไร้ค่ากับตระกูลลู่หานแล้ว ทุกมุมในบ้านล้วนมีกล้องวงจรปิดติดเพื่อติดตามชีวิตของเขา เขารู้ดีว่าการที่มีความสัมพันธุ์ลึกซึ้งกับลู่หาน คนที่เฝ้ามองกล้องนั้นย่อมเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และสิ่งที่เขาได้คุยกับพ่อของลู่หานคือ

     

     

    “แกกล้ามากนะ...ที่จูบลูกชั้น”

     

    “ผมขอโทษครับ..”

     

    “เมื่อฉันจากออกมา ระบบในตัวแกจะต้องถูกปิดลง แล้วลูกฉันมาถึงอุทยานแล้วหรอ”

     

     

    “ครับ...มารับได้เลย”  

     

     

     

     

    ไม่คิดว่ามันจะโหดร้ายไปสำหรับเขาเลยหรือไง กับการที่ต้องปิดระบบตัวเขา เพราะเช่นนั้นจึงทำให้เซฮุนทำเป็นเฉยชาราวกลับเป็นหุ่นยนต์ซึ่งไร้ความรู้สึกจริงๆ เพื่อให้ลู่หานตัดใจไปซะ ถึงแม้ว่าจะทำได้ไม่ดีเท่าที่คิดไว้ก็ตาม

     

     

    ระหว่างที่ร่างสูงกำลังก้าวเดินออกมาที่รถจิ๊ฟ ระบบกลไกภายในตัวก็เริ่มดับลงไปทีละส่วน ร่างสูงฝืนขับรถมาจนถึงบ้านก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งฟาตัวที่ลู่หานมักชอบนั่ง เขาอยากร้องไห้ออกมา เมื่อเห็นทุกที่ๆลู่หานเคยอยู่มีภาพจางๆของคนตัวเล็กฉายสะท้อนอยู่ แต่เพราะหุ่นยนต์ไม่มีน้ำตา เขาจึงทำได้เพียงร้องไห้ในใจ

     

     

    และแล้วระบบกลไกส่วนล่างของเขาก็ดับสนิท เซฮุนไม่คิดจะสนใจมัน เขาเพียงเอื้อมมือไปหยิบเอาหนังสือนวนิยายขึ้นมาอ่านราวกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

     

    ในความคิดของเขากลับไม่ได้อยู่ตามตัวหนังสือหรือเนื้อเรื่องของเรื่องเลย มันกลับฉายภาพลู่หานในอริยาบทต่างๆในบ้าน มันเจ็บดีเหมือนกัน....นัยน์ตาคมมองไปยังมือทั้งสองที่ถูกปล่อยทิ้งลงข้างลำตัวเพราะถูกดับระบบไปเรียบร้อย

     

    และต่อไปก็เป็นหัวใจปลอมๆของเขา...

     

    เขาคงคิดถึงลู่หานมากจริงๆ  แต่แล้วสิ่งที่ทำให้เขาแปลกก็เกิดขึ้นเมื่อมีของเหลวสีใสไหลลงสองข้างแก้ม น้ำตาเขาไหล...

     

     

    เขาเคยคิดว่าถ้าโลกที่ไม่มีลู่หาน เขาจะอยู่ได้ไหม มันจะเป็นอย่างไง ตอนนี้เขารู้แล้วว่าการที่ไม่มีร่างเล็กคอยเคียงข้างมันทำให้เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่เลย...

     

     

    และความจริงสุดท้ายที่อยากจะบอกก็คงเป็น....

     

     

    “ฉันก็รักนาย ลู่หาน...” เขาเอ่ยเสียงแผ่วก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบหายไป...

     

     

     

     

    หลายเดือนต่อมา

     

     

    “ลู่หานเข้ามาหาพ่อหน่อยสิลูก” ร่างเล็กเดินเข้ามาตามคำสั่ง ก่อนจะนั่งลงบนเกาอี้ตัวตรงข้ามกับโต๊ะทำงานของผู้เป็นพ่อ

     

     

    “มีอะไรหรือเปล่าฮะ...”

     

    “เตรียมงานไปถึงไหนแล้ว?” เมื่อได้ยินคำถามร่างเล็กจึงเพียงแค่ถอนหายใจและก้มหน้ามองมือของตัวเองบนตัก

     

    “ใกล้แล้วครับ”

     

    “เร่งหน่อยล่ะ...อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันจริงแล้วนะ” ลู่หานพยักหน้าตอบแล้วจึงขอตัวออกไป เรื่องที่เขาพึ่งได้คุยกับพ่อไม่ค่อยน่าดีใจนัก เพราะมันเป็นเรื่องการจัดการงานแต่งงานของเขาและคริส ใช่...งานแต่งงานของลู่หานและคริส ตระกูลอู๋ของพี่คริสอยากจะสร้างกิจการที่ใหญ่กว่าที่เป็นอยู่จึงมาขอแต่งกับตระกูลเสี่ยว โดยผู้ใหญ่ก็เห็นว่าคริสเองก็ชอบพอในตัวลู่หานเช่นกันจึงมีงานหมั้น และก็มีงานแต่งเกิดขึ้นจริงๆ

     

     

    มันไม่ง่ายเลยนะที่จะลืมใบหน้าของใครบางคนระหว่างที่ตัวเองกำลังจะแต่งงาน  เขาควรจะลืมเซฮุนซะ...แต่ไม่ว่าจะทำเช่นไหร่ จะทำงานหนักๆ หรือไม่ว่าจะทำให้สมองตัวเองไม่ว่างด้วยการยุ่งกับงานแต่งทั้งวี่ทั้งวัน แต่สุดท้ายตอนหลับตาในทุกๆคืน เขาก็จะเห็นใบหน้าของเซฮุนลอยเด่นชัดในความคิดเช่นเคย เช่นในตอนที่เขาเดินเข้ามาในห้องตัวเองตอนนี้

     

     

    ทั้งห้องเงียบสนิทไร้ซึ่งเสียงใดๆ ลู่หานเดินไปจุดเตาพิงก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนปลายเตียง นัยน์ตาสีอ่อนจับจ้องเปลวไฟอย่างเหม่อลอย คิดไปถึงวันที่เขาได้อยู่กับเซฮุน คิดถึงทีไรเขาก็ต้องยิ้มอย่างมีความสุขและต้องเจ็บไปทั่วทั้งหัวใจ

     

     

    เพื่อเป็นการไล่ความคิดบ้าๆออกไปจึงเดินเข้าไปอาบน้ำและแต่งตัวเตรียมเข้านอน คืนนี้เป็นคืนที่ยังคงมีฝนตกอยู่ปรอยๆ ตากลมมองผ่านความมืดไปที่หน้าต่างที่ถูกเปิดออก แต่แล้วร่างเล็กก็ดีดตัวขึ้นนั่ง เพราะเขาไม่ได้เป็นคนเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ ตอนที่เข้ามาในห้องก่อนจะอาบน้ำตัวเขาเองยังเห็นว่ามันยังปิดอยู่เลย แล้วคราวนี้มันถูกเปิดได้อย่างไร

     

     

    !!

     




     

    - THE END -



    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×