ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FICEXO] my sadness Room - KAIHUN,KRISYEOL,CHANBAEK,HUNHAN,ETC

    ลำดับตอนที่ #19 : [OS] 1975 - KAIHUN

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 913
      3
      12 ก.ค. 60



















    (อยากให้เปิดฟังกันเพื่อสร้างบรรยากาศ)

    BGM : fallingforyou - The 1975
    LOCATION : UK


    1975
    .
    .
    KIMJONGIN x OHSEHUN


     










     โอเซฮุนไม่เคยรู้เลยว่าการไปฟังเพลงในคอนเสิร์ตของวงดนตรีวงหนึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้ตัวเขาก้าวข้ามอะไรหลายๆอย่างมาได้มากขนาดนี้

     

     

    เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าท่ามกลางผู้คนรอบกายที่กำลังโยกตัวตามจังหวะหนักหน่วงของดนตรีเพลงโปรดของใครหลายๆคน หยาดน้ำฝนค่อยๆหล่นลงมาจากฟ้า เด็กหนุ่มไม่เคยกลัวอะไรเลย เติบโตมาจากการเลี้ยงดูแบบคนสมัยใหม่ พ่อแม่ของเขาไม่ได้บังคับในการใช้ชีวิตหรือการคบเพื่อน

     


    What time you coming out?
    We started losing light
    I’ll never make it right if you don’t want me around



     

    วงดนตรีวงโปรดบนเวทีร้องท่อนแรกของเพลงขึ้น เด็กหนุ่มแอบยิ้มเยาะให้ตัวเองเมื่อเพลงที่กำลังเล่นสดเป็นหนึ่งในเพลงที่ทำให้เขาแทบคลั่งตอนได้ฟังครั้งแรก อาจจะรวมกับคนหลายๆคนในสนามกีฬาที่ใช้จัดคอนเสิร์ตนี้ด้วย

     

    “เพลงโปรดนายนี่เซฮุน” เจ้าของชื่อหลับตาลงวาดยิ้มที่กว้างกว่าเดิมดื่มด่ำบรรยากาศหม่นๆนี้ไว้ คนที่พึ่งพูดกับเขาเอื้อมมือเข้ามากุมมือเขาเอาไว้ราวกลับรู้ดีว่ามันเป็นเพลงทีทำให้เขาเกิดใจเสาะขึ้นมาทุกครั้งที่ฟัง

    คิมจงอิน คือเพื่อนเพียงคนเดียวที่ว่างตรงกับคอนเสิร์ตวันนี้ และเขาไม่คิดว่าเจ้าของมือหนาที่กำลังกุมเขาอยู่คนนี้จะมายืนอยู่ตรงนี้ข้างเขา เราทั้งคู่ต่างก็พึ่งเรียนจบมอปลาย จงอินกำลังยุ่งในการย้ายตัวเองเพื่อเข้าไปเรียนต่อที่เมืองหลวง เมืองแห่งความเจริญอย่างลอนดอน

    มือเราทั้งคู่เริ่มขยับกระชับกันมากขึ้น ไหล่แคบโยกคลอนตามจังหวะที่ร่างกายนำพา พร้อมกันกับคนข้างๆ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนหลายๆคนถึงได้ชอบเพลงนี้รวมถึงเขาด้วยว่าทำไมถึงชอบมัน มันไม่ใช่เพลงรักแสนหวาน แต่ก็ไม่ใช่เพลงสำหรับไอ้พวกขี้แพ้ มันเป็นเพลงที่อยู่ครึ่งกลางของคำว่ารักและไม่รัก เสียมากกว่า

     

     

    Don’t you see me now?
    I think I’m falling, I’m falling for you,

     

     

     

    “กลับกันได้แล้ว” มือบางถูกกุมเดินนำออกมาจากลานจัดคอนเสิร์ตเมื่อวงดนตรีโปรดแสดงเสร็จ เจ้าของผิวสีแทนลากเขาออกมาที่ลานจอดรถห่างจำพื้นที่จัดแสดงไกลโข รถมอเตอร์ไซค์ในแบบของคนชอบสะสมรถเก่าๆถูกขับมาจอดตรงหน้าเขา เซฮุนก้าวขึ้นรถซ้อนท้ายไม่ลืมที่จะวาดแขนรอบเอวสอบของอีกคน

    ในที่สุดรถมอเตอร์ไซค์คันหายากแสนรักของเจ้าของมันอย่างคิมจงอินก็แล่นมาจอดที่หน้าบ้านเขา อาจจะเพราะฝนที่เริ่มทำท่าจะตกหนักกว่าเดิมเลยทำให้เขาเอ่ยปากชวนอีกคนให้อยู่ที่บ้านรอฝนหยุดตกก่อน  

    “ว่าไงจ้ะจงอิน ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยลงมาทานข้าวเย็นด้วยกันสิ” คำเชิญชวนอย่างเป็นกันเองหลุดออกมาจากปากคนเป็นแม่ของบ้านครอบครัวโอ เด็กหนุ่มผิวเข้มโค้งตัวเล็กน้อยเพื่อทักทายและขอบคุณในความใจดีของคุณแม่คนสวยของบ้าน

    เราทั้งคู่เดินขึ้นบ้านมาชั้นสองเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อประตูปิดลงร่างหนาถอดแจ็คเก็ตที่ตัวเองมักใส่คู่กับการเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์อยู่เป็นประจำออก ตามด้วยเสื้อยืดสีขาวธรรมดา ร่างกายกำยำสมชาติชายเดินมาหยุดตรงหน้าเขาที่นั่งบนปลายเตียงรอให้อีกคนได้อาบน้ำก่อน

    “ยังได้ยินเสียงของเพลงนั่นอยู่ไหม”

     

     

    I think I’m falling, I’m falling for you
    Maybe you’ll change your mind
    I think I’m falling, I think I’m falling

     

     

    คนตัวผอมบางยกยิ้มขึ้นตอบกลับไป เป็นเวลาเดียวกันกับมือหนาที่ส่งมาประคองแก้มเย็นชืดจากพายุข้างนอกไว้ นิ้วโป้งไล้ไปตามผิวเนียน นัยน์ตาสีเข้มคมกริบจับจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของคนตัวบาง

    เรียนรู้มาจากหลายๆครั้งที่คนตัวผอมกว่ามักจะพูดอยู่เสมอว่าตัวเองชอบในเนื้อเพลงเพลงที่ตัวเองชอบอยู่ประจำ จดจำได้ดีว่าเจ้าคนตัวเล็กตรงหน้าชอบร้องเพลงท่อนนั่นบ่อยแค่ไหน ร้องราวกลับจะฝังให้คำร้องลงลึกลงไปในใจให้ได้

    ร่างเล็กสูดหายใจเข้าปอดลึกก่อนจะปล่อยลมหายใจออกมาพร้อมกับรอยยิ้มเหนื่อยล้า หลายต่อหลายครั้งที่พยายามเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนตัวเองแต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่คนอย่างเซฮุนจะเข้าใจได้ว่าอีกคนกำลังคิดอะไรอยู่จนเรื่องราวมันเลยเถิดกินระยะเวลามานานหลายปี ถึงได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังตกหลุมรักคนที่ไม่ควรรักอย่างคนตรงหน้าอย่างจริงจัง

     

    I’m caught on your coat again
    You said, “Oh, no, it’s fine”
    I read between the lines
    And touched your leg again, again
    I’ll take you one day at a time
    Soon you will be mine

     

     

     ใบหน้าคมโน้มลงมาประทับจูบลงบนหน้ามากมนแผ่วเบา ไล้ริมฝีปากร้อนลงมาตามสันจมูกรั้น มาหยุดที่แก้มเนียนใส มือบางยื่นขึ้นมาลูกไล้ต้นคอของคนผิวสีแทนไปมาทอดสายตามองอีกคนหลากหลายความรู้สึกพร้อมกับขยับใบหน้าเข้าไปหา กดจูบลงบนคางอีกคนแผ่วเบา มืออีกข้างยกขึ้นมาลูบไปตามสันกรามคมจนมาหยุดที่แก้มกร้าน

    ความรู้สึกของการหยุดฟังเสียงลมหายใจของกันและกันเป็นความเศร้าหมองกว่าทุกครั้ง เพียงแค่ทั้งคู่ใช้นัยน์ตาของตัวเองจับจ้องสบกัน มันก็พอแล้วที่ทั้งคู่จะรู้ว่าต่างฝ่ายต่างอยู่เหนือความเป็นจริง เรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้ที่เราทั้งคู่พยายามกันมานานควรถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลง

    น้ำตาหยดใสกลิ้งไหลผ่านหน้าแก้ม ก่อนที่มันจะกลิ้งตกลงพื้นมือหนาเลื่อนมาเช็ดให้ พวกเขารู้กันดีหนึ่งอย่างว่าเราต่างต้องการกันและกัน แต่สิ่งที่หนีกันไม่พ้นคือความจริง จงอินไม่ได้เป็นของเขาตั้งแต่แรก เขาเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งที่หวังสูงอยากจะคว้าเอาเพื่อนตัวเองมาไว้กับตัวเอง ยอมโยนมิตรภาพแบบเพื่อนทิ้งเพื่อแลกกับความเจ็บปวดนี้  

     

     

     

    Oh but I want you now (I want you now)
    When the smoke is in your eyes
    You look so alive
    Do you fancy sitting down with me? Maybe?

     

     

     

     

    เซฮุนขยับตัวเองเข้าหาความอบอุ่นจากร่างกายกำยำ เช่นเดียวกันกับมือหนาที่เอื้อมรั้งร่างผอมบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ทั้งคู่นอนกกกอดกันยาวนานจนได้ยินเสียงนาฬิกาเตือนว่าเวลาเข้าเช้าวันใหม่แล้ว

    “นายต้องกลับแล้วจงอิน...” ประโยคที่คล้ายกับการตัดพ้อดังขึ้นย้อนแยงกับร่างกายซึ่งกำลังบดเบียนเข้าหาอีกคนราวกกลับกลัวอีกคนหายไป คิมจงอินเลื่อนสายตาจากเพดานสลัวลงมาที่ร่างกายขาวเนียน กดจูบลงบนเส้นผมนุ่มมือออกแรงดันตัวเองถอยออกทีละนิด จนพาตัวเองลุกขึ้นนั่ง ร่างหนาเอี้ยวตัวมองอีกคนอย่างช่วยไม่ได้เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆดังขึ้นสอดกับเสียงลมหายใจ

    ใบหน้าเปื้อนน้ำตาพลิกนอนตะแคงมองขึ้นมาหาเขา นัยน์ตาเรียวรีท่ามกลางความมืดเปล่งประกายระยิบระยับอย่างเคย จงอินกัดฟันจนกรามปูดขึ้นเป็นสันสวยชัดเจน หักห้ามไม่ให้ตัวเองใจอ่อนโน้มตัวลงไปปลอบอีกคนอีกครั้ง

    ครั้งนี้เขาไปไกลกว่าทุกครั้ง จากบ้านไปอยู่ในเมืองและมหาลัยที่ตัวเองอยู่ก็เรียนหนักจนคิดว่าคงไม่มีเวลาปลีกตัวได้ทำอย่างอื่นเลย มันเป็นเรื่องอย่างที่ต้องตัดสินใจระหว่างความชอบกับความเป็นจริง เขาชอบมหาลัยและสาขาที่ตัวเองตั้งใจเลือกสอบเขาเป็นอย่างดี ทางกลับกันเขาเองก็ไม่ได้อยากจากใครในบ้านหรือคนที่นี้ไปสักเท่าไหร่ ยิ่งเห็นเซฮุนชวนตัวเองออกมาที่คอนเสิร์ตกลางแจ้งใกล้กับวันที่ต้องจากกันแบบนี้ ยิ่งรู้ดีว่าอีกคนกำลังทำทุกอย่างให้ออกมาดีก่อนที่เราจะต้องจากกัน

    นอกเหนือจากเรื่องของเรา ความจริงอีกข้อที่ทำให้เขารู้สึกผิดมาตลอดคือการทำตัวผิดบาปต่อคนรัก เขามีคนรักอยู่แล้วและเธอก็พร้อมที่จะย้ายไปเรียนต่อที่เมืองหลวงเหมือนกันกับเขา เราทั้งคู่เข้ากันได้ดีจนทางพ่อแม่ของเราตัดสินใจว่าพวกเราทั้งคู่ต้องหมั้นกันให้ได้ในเวลาไม่กี่ปีข้างหน้า

    แตกต่างจากอีกคน คนที่กำลังเลื่อนมือมากุมมือเขาเอาไว้เหมือนทุกๆครั้งที่เราอยู่ด้วยกันคนนี้ เซฮุนในความคิดของทุกคนคือเพื่อนของเขาคนหนึ่งอาจจะสนิทน้อยกว่าเพื่อนในทีมฟุตบอลของเขาหลายคน แต่เซฮุนในความรู้สึกของเขามันเป็นมากกว่านั่น เซฮุนเป็นทั้งเพื่อนและคนที่เขาสบายใจที่อยู่ด้วยอีกคน

    ไม่เคยมีการร้องขออะไรมากไปกว่าเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เขาพร้อมเต็มใจจะทำให้ การโยกตัวตามเพลงโปรดก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่อีกคนขอไว้ อาจจะเป็นความฝันใฝ่ของเซฮุนเลยก็ว่าได้ การได้ไปดูแสดงสดของวงที่ตัวเองชอบ

    “ฉันต้องกลับจริงๆแล้ว” มันเป็นเพียงประโยคสั้นๆเพื่อใช้ย้ำกับทุกๆความสัมพันธ์นี้ บอกให้กับเราทั้งคู่ว่าควรจะพอแค่นี้ หมดเวลาของเรื่องเจ็บปวดนี้สักที

    คนตัวผอมบางยันตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงแล้วใช้สายตามองมาที่เขาระหว่างที่หยิบเสื้อผ้าบนพื้นขึ้นมาใส่ หลังจากจัดแจงตัวเองเรียบร้อยจึงเดินมานั่งบนปลายเตียงห่างจากอีกคนไม่มาก ไล่สายตามองตามโครงหน้าซึ่งสะท้อนจากแสงพระจันทร์ด้านนอกทาบเป็นเงาเห็นส่วนเว้าโค้วสวยงามเชื่องช้า เหมือนกับเขาเองก็ไม่ได้อยากจะให้เราทั้งคู่ต้องจากกันแบบนี้

    “ฉันรู้...ฉันรู้” คนตัวผอมเอ่ยเสียงแผ่วดันมุมปากยกยิ้มขึ้นมาให้กับเขา มองยังไงมันก็ยังเป็นยิ้มเศร้าๆอยู่ดี ทำให้อดที่จะเอื้อมมือขึ้นเกลี่ยไปตามแก้มใสไปมาไม่ได้ ประคองมันไว้แผ่วเบาแล้วจึงค่อยๆโน้มตัวเข้าไปประทับจูบครั้งสุดท้าย

     

    And on this night and in this light
    I think I’m falling, I’m falling for you
    Maybe you’ll change your mind

     

    เสียงประตูปิดลงพร้อมกับความวูบโหวงข้างใน โอเซฮุนกั้นน้ำตาไว้ไม่ได้อีกต่อไป เขาปล่อยตัวเองร้องไห้ออกมาราวกลับพรุ่งนี้จะตื่นมาไม่เจอใครบนโลกสักคน ถึงแบบนั่นความเจ็บปวดข้างในก็ไม่เคยลดลงอย่างที่น้ำตามันพยายามระบายไหลออกมาเลย

    ร่างผอมยันตัวลุกไปยืนมองอีกคนผ่านหน้าต่างห้อง มองแผ่นหลังกว้างเจ้าของร่างกายกำยำคร่อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจค่อยๆขับออกจากบ้านออกไปไกลเรื่อยๆ

     

    การจากลามันไม่เคยทำให้ใครรู้สึกดีเลยจริงๆ เขายกโทรศัพท์ขึ้นลบทุกอย่างที่เป็นคิมจงอิน ลบรูปลบเบอร์ลบข้อความลบทุกๆอย่าง มันคล้ายจะเป็นข้อตกลงที่พอจะจำได้ว่าพวกเราเป็นได้แค่เพื่อนกัน หลังจากที่ทุกอย่างจบลงเราต่างก็ต้องกลับไปเป็นคนที่รู้จักกันในฐานะเพื่อน ปล่อยให้เราทั้งคู่ต่างก็หลุดพ้นจากพันธนาการอันเจ็บปวดนี้เสียที

     

    I don’t wanna be your friend
    I wanna kiss your neck





    THE END












    อยากจะให้ไปฟัง ver. แสดงสดตัวนี้จริงๆ ตอนแรกดูแล้วรู้สึกหม่นๆ

    เลยคิดว่ามันเข้ากับความสัมพันธ์ไคฮุนจังเลย (:





     












    H
    a
    s
    h
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×