ตอนที่ 12 : [11] AFTER CIVIL WAR
เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ civilwar...
โทนี่ที่พึ่งต่อล้อต่อเถียงกับแฮปปี้เสร็จนั่นเดินถือขวดวิสกี้ขวดใหญ่แนบข้างตัว มือสองข้างถือแก้วใบสวยที่ถูกเจียรไนมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ ในปากคาบโทรศัพท์มือถือเครื่องจิ๋วสารพัดประโยชน์
พอเจ้าตัวนั่งลง เมื่อถึงโอกาสได้วางแก้วกับขวดวิสกี้ในมือปากก็ไวพอที่จะเอ่ยสั่งงานจาวิสระบบปฏิบัติการลูกรักของเขา " โอนสายหาโรดี้ "
" ครับเจ้านาย "
จาวิสรับคำสั่งอย่างกระตือรือร้น เขาต่อสายตามที่เจ้านายร้องขอ
ทันทีที่โอนสายสำเร็จ เสียงสดใสร่าเริงจากปลายสายก็โผล่งพูดขึ้นมาฉับพลัน
" ไงโทนี่ คิดถึงฉันหรอ ? " โรดี้หัวเราะ
โทนี่เดินลงไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานตัวโปรดก่อนจะพูดต่อ " นั่นก็ใช่ ว่าเเต่ขาเป็นยังไงบ้าง ? " เขาพูดพร้อมลากโต๊ะเล็กๆที่มีแก้วและขวดวิสกี้วางอยู่อย่างใจเย็น
" ดีขึ้นเยอะ จะดีกว่านี้ถ้านายมาอยู่นี่ด้วยโทนี่ " น้ำเสียงทิ้งท้ายของโรดี้กระตุกต่อมเสียใจของโทนี่ไม่น้อย เขาเลิกลักกับแก้วน้ำที่กำลังจะคว้ามาอยู่ในมือนั่นเสียเกือบหล่นแตก
" ก็อยากไปนะ ไว้มะรืนจะหาเรื่องโดดงานไปหาก็แล้วกัน "
สิ้นเสียงโทนี่ก็ตามมาด้วยเสียงของปลายสายที่กำลังกำเราะอย่างชอบอกชอบใจอยู่ไม่น้อยที่แกล้งอีกคนให้หวิดทำแก้วตกได้สำเร็จ
" จริงจังไปได้ล้อเล่นน่า แค่โทรมาก็ดีใจเเล้ว "
โทนี่ที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออก เขาค่อยๆรินวิสกี้ในขวดแก้วออกมาชื่นชมพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
" ยังไงฉันก็จะไป เตรียมใจไว้ด้วยล่ะ " พูดไปก็ซดวิสกี้ไปตามจังหวะที่ว่างอยู่
" ฮะๆๆ รออยู่เสมอแหละเพื่อน ไว้จะทำพายให้กิน " โรดี้ยังจำได้ว่าโทนี่ยังเป็นตัวกินแป้งเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
" เดินให้รอดก่อนเถอะน่า " โทนี่กระแทกเสียงแดกดัน
" เข้าใจแล้วๆ อย่าลืมเตรียมกระดาษชำระมาด้วยล่ะ ฮะๆๆ "
" บ้าจริง ยังจะจำได้อีกนะ "
โทนี่ปัดมือไปมาพลางหัวเราะทิ้งท้ายเพราะนึกถึงสภาพตัวเองหลังจากกินพายของโรดี้ออกขึ้นมาเสียดื้อๆ
หลังจากที่พวกเขาคุยเล่นกันอยู่ซักพัก โทนี่เองก็เริ่มพูดไม่รู้เรื่องเพราะริษของวิสกี้เพียง2แก้ว โรดี้เห็นดังนั้นก็เลือกที่จะตัดประโยคบอกลา
" ขอบใจมากที่โทรมาโทนี่ บาย "
" บาย... "
จบการสนทนาลง เสียงโทรศัพท์แจ้งเตือนสัญญาณว่าปลายสายได้ตัดสายไปเมื่อครู่ เเละเมื่อเสียงเเจ้งเตือนกระพริบถี่ หัวใจกลับสั่นระรัวขึ้นมา มือสั่นสะท้านข้างหนึ่งคว้าเข้าที่ขวดแก้วที่บรรจุแอลโกฮอลอยู่เต็มก่อนจะลดหลั่นลงกรอกปากจนเอ่อล้นลงตามแรงโน้มถ่วง
ก่อนที่มือทั้งสองจะจรดลงบนโลหะที่เเข็งแกร่งที่สุดอย่างไวเบรเนียม มือไล้ตามลวดลายสลักสวยรูปดาวอย่างถวิลหา
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาแทบจะหยิบมันติดมือมาด้วยเสมอ ทุกครั้งที่นึกถึง ความอุ่นร้อนจากในกายไหลพรั่งพรูมาพร้อมๆกับน้ำตา
ยังคงเข้าข้างตัวเองและหวังว่าซักวันเขาจะกลับมา...
.
.
.
" สตีฟ ! " เสียงบัคกี้หรือ ไวท์วูฟ ดังก้องเขาไปในโสตประสาทของแคปจนเจ้าตัวต้องสะดุ้งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เจ้าตัวไม่ได้อยากที่จะให้เป็นจุดสังเกตุ แต่เพื่อนซี้ร่วมรบก็ไม่วายรู้ทันทุกครั้งไป
" ว่าไงบัคกี้ " สตีฟหน้าตาตื่นหันไปมองอีกคนที่อยู่ไม่ห่างเขานัก
" ไม่ว่าไง นายเอาแต่เหม่อ " บัคกี้ยิ้ม
" ไม่มีอะไรหรอก " เขาตอบเสียงเรียบที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ก่อนจะมองทอดไปไกลๆ
ความเงียบเข้าครอบคลุมพื้นที่ของทั้งคู่อยู่พักใหญ่ จู่ๆบัคกี้ก็พูดบางอย่างออกมาหน้าตาเฉย
" คิดถึงใครอยู่หรือเปล่า "
สตีฟที่ได้ยินชะงักงันไปชั่วครู่ ก่อนจะตั้งสติได้แล้วปฏิเสธทันทีที่รู้ตัว
" ไม่มีใครให้คิดถึงหรอก แต่ก็คิดถึงเรื่องเเขนใหม่ของนายอยู่นะ "
พูดสตีฟก็หันไปมองแขนซ้ายอันใหม่ของบัคกี้ เจ้าตัวเมื่อได้ยินก็จ้องมองไปตามสายตาของสตีฟ ไล่สายตาจากปลายนิ้วถึงต้นเเขนแต่แล้วความคิดต่างๆก็พรั่งพรูออกมาอย่างช่วยไม่ได้
" แขนฉันมันไม่มีอะไรใหม่ แค่ไม่มีคราบเลือดของคนเคราะร้ายเพียงเท่านั้น " บัคกี้พูดเบาลง เขายังคงนึกภาพวันสุดท้ายที่สตาร์คใช้อาร์ครีแอคเตอร์ระเบิดแขนเก่าของเขากระจุยไม่เหลือชิ้นดี แม้ตอนแรกจะรู้สึกตกใจอยู่บ้าง แต่พักหลังๆเขากลับคิดขอบคุณเสียแทน เพียงแต่สตีฟยังคงไม่คิดแบบนั้น
" มันผ่านไปแล้ว ลืมมันไปเถอะ "
พูดจบสตีฟก็ยกมือขวาตบไปที่บ่าของบัคกี้ สตีฟเป็นคนละเอียดอ่อน เขากลัวบานส์คิดมาก มากกว่ากลัวตัวเองคิดมากเสียอีก
" ฉันไม่แน่ใจว่าลืมได้ แล้วก็รู้ว่านายลืมไม่ได้ " บัคกี้เพื่อนซี้สตีฟหันไปสบตาดวงตาคู่สวยของสตีฟที่ฉายแววกังวลออกมาอย่างเด่นชัด
" แต่ฉันก็พยายามบัคกี้ ขอร้อง อย่าพูดถึงเขาอีก "
" ยังไม่ได้พูดถึงใครซักคำ... "
" ... "
สตีฟถึงกับเงียบไปพักใหญ่ จริงอย่างที่บัคกี้พูด ภายในหัวสตีฟไม่ได้มีแค่เรื่องแขนของเขา แต่มีเรื่องอื่นๆปนอยู่ด้วยไม่มากก็น้อย รวมถึงเพื่อนที่มากกว่าเพื่อนในอดีตของชายผมทองตรงหน้าบัคกี้อีกด้วย
" ใจร้ายนะ ไหนนายบอกว่ามีเพื่อนแค่คนเดียวให้คิดถึงกันล่ะ "
" ขอโทษที " สตีฟถอดสีหน้า
บัคกี้เห็นดังนั้นเขาแทบจะระเบิดหัวเราะร่าแต่ก็ยังเก็บงำความรู้สึกขำไว้ได้ทัน ก่อนจะค่อยๆเรียบเรียงความคิดของสตีฟออกเป็นฉากๆ เขาเก่งที่จะคุยกับเพื่อนของเขาอย่างเปิดอก และเขารู่ว่าาสตีฟโกหกหน้าตายไม่เก่ง
" ไปขอโทษเพื่อนของนายเองเถอะ "
" เขาเป็นมากกว่าเพื่อนน่ะสิ... มั้งนะ บางทีฉันอาจจะคิดไปเองก็ได้ " สตีฟกระเเทกกระทั้นเสียงใหญ่ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
" งั้นฉันก็เดาไม่ผิด " บัคกี้ยิ้มกริ่มอย่างพออกพอใจ
" ไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้นแหละ "
บัคกี้เลือกที่จะไม่ต่อปากต่อคำกับเพื่อนวัยเดียวกันที่กำลังตีหน้าซื่อไม่ยอมพูดความจริง แต่แล้วเขาก็โผ่ลงพูดขึ้นมา
“ สตาร์คเป็นคนดี “
“ คิดแบบนั้นหรอ “ สตีฟพูดมันเบาๆด้วยใบหน้านิ่งๆ เขาไม่อยากให้เพื่อนซี้ต้องรู้ว่าเขาเก็บอาการดีใจไว้มากมายแค่ไหนที่ได้ยินบัคกี้พูดแบบนั้น
“ เขาควรมีความสุข กับนาย “
“ พูดอะไรตอนนี้ ไม่มีประโยชน์หรอก “ สตีฟปัดมือไปมาหมุนตัวเข้าหาตัวตึก ไม่ทันได้เดินไปไหนไกล บานส์ก็พูดขึ้นมาเบาๆ
“อยากเจอเขาหรือเปล่า ? "
.
.
.
" ผมว่าเจ้านายควรหาอะไรอย่างอื่นที่แปลกใหม่ทำ เช่นการตีกอล์ฟ หรือเล่นเทนนิส... "
" ปลูกปะการังต่อด้วยเลยไหมล่ะจาวิส ฉันไม่ว่างหรอกนะ ไหนจะตึกใหม่ ไหนจะเจ้าหนูเอี๊ยมเด็กนั่นอีก... "
" เจ้านายไม่ได้จริงจังจริงๆใช่ไหมครับ ? " จาวิสพูดขึ้นตัดบทสนทนา โทนี่สงบนิ่งคิดถึงคำตอบอยู่ชั่วครู่
" แล้วที่ฉันลงทุนไปส่งเด็กนั่นถึงห้องไม่เรียกว่าจริงจังอีกหรอจาวิส ? ขอทีเถอะ ให้ฉันได้ตัดสินใจเองบ้างจะได้ไหม "
" ผมเช็คอัตราการเสี่ยงแล้ว คุณไม่เหมาะจะ... "
" ฉันเข้าใจแล้วจาวิส นายพูดเรื่องสถิตินี่มาเป็นร้อยเป็นพันครั้งแล้วเห็นจะได้นะ "
" ผมเเค่เป็นห่วงความรู้สึกของคุณเท่านั้นเอง... "
ห้วงอากาศหนาวเย็นพัดโชยผ่านระบบระบายอากาศเข้ามาชั่วครู่ จู่ๆคำพูดของจาวิสกลับถูกทับซ้อนด้วยภาพของชายร่างสมส่วน กล้ามเนื้อทิี่เพอร์เฟ็คเหนือคนปกติ ผมสีทองและดวงตาสีน้ำฟ้าครามกำลังนั่งกอดบนเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าม
' ผมก็แค่เป็นห่วงความรู้สึกของคุณ...โทนี่... ' ' ถ้าเรื่องไหนจะเป็นปัญหา ผมจะไม่มองข้ามเลย จริงๆ.. '
" ห้องนี้ปกติดีใช่ไหมจาวิส ? " โทนี่พูดพร้อมกับขยี้ตาไปมายังไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่ตัวเองเห็น เขาแทบไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจินตนาการได้สมจริงขนาดนี้มาก่อน ตลอด2ปีที่ผ่านมาเขาแทบไม่ได้ฝันเลยด้วยซ้ำ
" ปกติดีนี่ครับ " จาวิสตอบหลังจากที่ภาพเลือนลางในห้องจางหายไป
" ช่างมันเถอะ ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง "
" รับทราบครับ "
หลังจากออกมาจากห้องแลปแบบมึนๆเขาก็ลากตัวเองไปห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากจุดเดิมมากนัก
โทนี่กวักน้ำจากในอ่างขึ้นปรกหน้าตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า มือขวาพลางคว้าหาผ้าเช็ดหน้าทั้งๆที่ตายังปิดสนิทอยู่จนมือคว้าไปแต่กลับไม่เจอผ้าขนหนู จนกระทั่ง
" ทางนี้ครับ... "
เสียงจากทางด้านหลังของโทนี่ดังขึ้นจนเจ้าตัวสะดุ้งโหยง เสียงที่ห่างหายไปนาน เสียงที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี จู่ๆมือของเจ้าตัวก็เริ่มสั่นระริกขึ้นมา
' สตีฟ !? สตีฟงั้นหรอ ? '
โทนี่สะบัดหน้าที่เปียกปอนไปมาพยายามจะลืมตาขึ้นมาดูทางต้นเสียง จนมือนึงถูกคว้าขึ้นมา
มือหนาที่รั้งแขนของโทนี่ไว้วางผ้าเช็ดตัวที่โทนี่หาในตอนแรกไว้ในมือ ก่อนจะปล่อยแขนของอีกคนให้เป็นอิสระ โทนี่ที่ยืนนิ่งไปกุลีกุจอเช็ดหน้าเพื่อที่จะได้เห็นว่าเป็นใคร
" สตีฟ ! " แต่ไม่ทันจะได้เห็นภาพชัดเขาก็โพลงพูดขึ้นมาก่อนด้วยความรีบร้อนที่เห็นแผ่นหลังนั่นเดินจากตนไป เมื่อสิ้นสิ้นคนตัวใหญ่ที่กำลังจะก้าวออกไปจากห้องก็หยุดน่ิ่ง จนกระทั่งโทนี่ใจเย็นแล้วได้เช็ดหน้าดีๆอีกครั้ง
" เจ้านายครับ ? "
" จาวิส !? "
" ต้องการให้ต่อสายคุณสตีฟไหมครับ ? "
" อย่าพูดถึงชื่อนั่นอีกฉันบอกแล้วใช่ไหม "
" เเต่เมื่อซักครู่เจ้านายเรียก... "
" ฉันไม่ได้เรียกใครทั้งนั้น ! เอาร่างชีวภาพไปเก็บด้วย นายไม่ควรจะใช้มัน "
" ครับเจ้านาย "
' ภาพหลอนหรอ น่ากลัว..... อันตราย ! '
" จาวิส...ฉันอยากดื่ม ดื่มเยอะๆเลย "
.
.
.
อย่างน้อยๆถ้าได้ไปสังสรรค์ ซดวิสกี้แรงๆในที่ๆคนเยอะ อาจจะทำให้หายไปจากหัวได้บ้าง
เสียงบ้าๆ กับภาพเเย่ๆนั่น จะซดให้ลืมให้หมดในวันนี้แหละ
" แฮป ท่าทางรีบร้อน รีบไปไหน " โทนี่มองพนักงานขับรถที่กำลังกุลีกุจอเดินตามโทนี่มาจนถึงทางเข้างานเลี้ยง
" เมื่อตะกี้มีคนพยายามโทรหาคุณ " พูดจบเขาก็ยื่นโทรศัพท์ไปให้โทนี่ โทนี่รับไว้ก่อนจะมองชื่อของคนที่โทรมา
ภาพหนุ่มน้อยวัยสิบหกหน้าละอ่อนปรากฏบนจอเล็กๆ โทนี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกจากปอด สลัดภาพแปลกๆที่คาใจอยู่ทั้งวันไปเพียงชั่ววินาทีพลางกดรับสายด้วยน้ำเสียงรื่นเริงตามประสา
" ว่าไงเอี๊ยมคุณหนู "
" คุณสตาร์ค ผม ผมเจออะไรไม่ดี ไม่ดีมากๆเลยคุณสตาร์ค "
" ใจเย็น อยู่ตรงไหนไอ้หนู " ถึงโทนี่จะพูดไปแบบเรียบเฉย แต่มือนึงของเขาก็ส่งสัญญาณมือให้แฮปปี้ที่ยืนอยู่ใกล้ๆหยิบโน้ตขึ้นมาจดรายละเอียดยิกๆ
" ผม ผมไม่รู้ " โทนี่ได้ยินดังนั้นถึงกับกรอกตามองบน " ผมตามรถมันมาจนมันหยุด " เสียงปีเตอร์สั่นเครืออย่างตื่นตระหนก เหมือนเขาจะเจออะไรที่ไม่ดีมากๆ
ไม่ใช่แค่ไม่รู้ที่ทาง ยังจะตามไปจนสุดทางอีก จะบ้าตาย
" นี่นายตามไปงั้นหรอ ใครสั่งให้ตามไป "
" แต่ว่าคุณสตาร์ค "
" เอาล่ะพอแล้วกลับบ้านฉันจัดการต่อเอง กลับเองได้นะ "
" ได้ครับ แต่ว่าคุณสตาร์คผมทำได้ "
" ถ้าทำได้จริงคงไม่โทรมาหรอกใช่ไหม เอาล่ะกลับบ้านได้แล้ว ไม่งั้นฟ้องป้าเมย์ จบนะ "
" คุณสตาร์---! " แล้วก็ถูกตัดสายไป
" จัดการตามนี้ ส่งข้อมูลให้ตำรวจ ติดตามเจ้าหนูให้กลับบ้าน "
" เชื่อได้หรอ "
" เรื่องอะไรล่ะ "
" เจ้าเด็กนี่ " ว่าแล้วก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมา
" ไม่มีอะไรให้เสียแล้ว นายบอกเองเขาเป็นเด็กดี ออกจะดีเกินไปด้วย ไปล่ะ ทำงานให้สนุก "
" คุณสิดื่มให้สนุก "
โทนี่เดินหันหลังไปอีกทางพลางโบกมือไปมาให้แฮปปี้ที่ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาให้กับเจ้านายของตัวเองที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจตัวเองซักเท่าไหร่ เผลอๆเขายังจะรู้ดีเสียกว่าเจ้าตัวซะอีก ท่าทางขอไปทีนั่น กำลังวุ่นวายใจ กังวล หรือว่าเจ็บปวดจนเกินเยี่ยวยากันนะ...
" โทนี่ ไม่ได้เจอกันนาน... "
" ทางนี้สิโทนี่ "
" ตอนนี้คุณเป็นฮีโร่เลยนะ "
เสียงวี้ดว้ายของสาวๆที่รุมล้อมรอบโทนี่อยู่ดังกระหึ่มขึ้นทันทีที่เจ้าตัวก้าวขาเข้าไปในงาน เขายังคงความฮอตฮิตในหมู่สาวๆได้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้สถานการณ์ในกลุ่มอเวนเจอร์ที่ผู้คนรู้จักกันดีจะอยู่ในสภาวะที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่พวกเธอจะไปสนใจอะไร ที่สำคัญมันก็แค่เรื่องเม็ดเงินที่เขามีเท่านั้นล่ะ
" ขอตัวไปดื่มก่อน " โทนี่ที่พยายามลัดเลาะออกมาจากฝูงชนจนได้เดินเข้าไปที่บาร์ พนักงานต้อนรับในทันทีที่มหาเศรษฐีอันดันหนึ่งเดินเข้าไปนั่ง
" รับอะไรดีครับคุณสตาร์ค "
" รู้จักผมหรอ " โทนี่ยกคิ้วสนใจ
" คุณดังออก ใครไม่รู้จักคุณบ้างล่ะครับ "
" ไม่ต้องพูดเพราะขนาดนั้นก็ได้ ฟังแล้วมันคล้ายๆกับเพื่อนเก่าที่เกลียดหน้าน่ะ "
" ขอโทษด้วยครับ รับเป็นอะไรดีครับ "
" ขอเป็นตัวที่แรงที่สุดที่มีที่นี่ก็แล้วกัน "
" รับทราบครับ "
หลังจากที่โทนี่ได้ถือแก้วเขาก็ดื่มไม่ยอมหยุด
แก้วที่ 2 แก้วที่ 3...
บ้าจริง เเรงไปหรือไงนะ...
เขามองทอดไปทางโถงประตูบานใหญ่หรูหราประดับคริสตัลตามเทศกาลนั่นไม่วางตา เพราะเขาเริ่มเห็นภาพแปลกๆ มันล่องลอยเหมือนกับอยู่ในละครอย่างงั้นแหละ
" ถูกใจการตกเเต่งที่นี่หรอครับ " บาร์เทนเดอร์เอ่ยถามเพราะเห็นมหาเศรษฐีหนุ่มจ้องไปที่นั่นแบบไม่ละสายตาแกมสงสัยหน่อยๆด้วย
" อืม เหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน "
" คุณสตาร์คคงไม่ได้มานานแล้วล่ะมั้งครับ มุมตรงนี้พึ่งจัดได้เกือบหนึ่งอาทิตย์เท่านั้นเอง ถ้าไม่ได้มาบ่อยๆก็คงไม่ได้สังเกตุหรอกครับ เดินออกไปจะเป็นระเบียงยาวไปจนถึงด้านหลัง สวนในตอนกลางคืนก็สวยพอสมควรเลยนะครับ "
" น่าสนใจ ขอตัวไปชมสวนที่ว่าก่อนล่ะ "
บาร์เทนเดอร์ยกยิ้มโค้งตัวท่าทางสุภาพ แต่ถึงจะสุภาพหรือไม่สุภาพโทนี่เองก็ไม่ได้สนใจตั้งแต่แรกแล้ว มือขวาหมุนวนแก้วไปมาในมือ ดวงตาเลื่อนลอยค่อยๆกลับมาปกติวนไปวนมาอยู่ซักพักจนเดินมาถึงระเบียงที่ถูกออกแบบให้ยื่นออกมาจากตัวโถงด้านใน ลมพัดเข้าออกได้อย่างสะดวก ความเย็นยะเยือกในตอนพลบค่ำทำให้รู้สึกดีจนตาล้าๆเริ่มคลายความเหนื่อยล้าลง
หัวสมองเริ่มพักการทำงานลงไปได้บ้าง ทั้งฤทธิ์แอลโกฮอล ทั้งลมเย็นๆชวนให้หลับตาพริ้มรับอากาศ อีกทั้งยังเสียงเงียบงันยามค่ำไร้เสียงผู้คนในมุมนี้ ไม่แปลกใจเลยที่มันจะถูกจัดแต่งอย่างงดงามไว้เสมอ ในขณะที่โทนี่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ในห้วงอากาศเย็นสบายนั่นกลับมีเสียงของชายคนนึงพูดขึ้น
" ขอโทษนะครับคุณ... "
" ...? " โทนี่หันไปทางต้นเสียงอย่างช้าๆก็พบกับชายร่างสูงโปร่ง ไหล่กว้างกว่าเขาเป็นเท่าตัวที่ถูกปกคลุมในชุดโค้ทหนาเตอะ หมวกปานามาปีกกว้างปิดบังดวงตาได้แนบสนิทท่ามกลางความมืด และที่สังเกตุเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือหนวดเคราที่ปกคลุมใบหน้าครึ่งล่าง ลักษณะภายนอกที่ไม่น่าไว้ใจเอาซะเลย...
" ช่วยถือนี่ไว้ทีได้ไหมครับ ? "
ชายร่างใหญ่เดินเข้ามาในระยะปลอดภัยของโทนี่ เจ้าตัวรู้สึกได้ถึงแรงกดดันแปลกๆนั่นก็ก้าวถอยไปด้านหลังเล็กน้อยก่อนจะมองของที่ยื่นมาให้เขา เป็นซองกระดาษสีขาว
" นี่อะไร ? "
เขาพูดพลางมองสลับไปมาระหว่างหน้าอีกคนกับสิ่งของที่อยู่ในมือ เขาผ่านมาไม่น้อยกับวิธีการของพวกที่ไม่ถูกคอกับเขาแล้วพยายามหาทางลัดทางธุรกิจโดยการใช้วิธีสกปรก ไม่ว่าอะไรตรงหน้าก็ล้วนแต่ไม่น่าไว้ใจ
" ผมอยากให้คุณอ่านมันก่อนจะถามถึงมัน "
" งั้นก็ขอโทษด้วย ผมไม่ชอบรับของจากคนอื่นเท่าไหร่ " โทนี่แบมือส่ายหัวไปมาพลางหัวเราะเบาๆในลำคอ
" ถ้างั้น... " ชายร่างใหญ่มีท่าทีอึกอักเล็กน้อย แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ยัดเยียดต่อ แต่ไม่ทันที่เจ้าตัวจะพูดจบกลับมีเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น
" ขอโทษค่ะ กำลังคุยธุระกันอยู่หรือเปล่า ? "
นอกจากตาแก่นี่ก็ยังจะมีผู้หญิงผมบลอนด์ท่าทางน่ารำคาญอยู่อีกคน... โทนี่บ่นพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วรีบตอบกลับให้มันจบๆไป
" ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนหรอก " โทนี่เบี่ยงตัวหันไปทางผู้หญิงผมบลอนด์ทันทีหวังจะให้บทสนทนาจบโดยเร็วที่สุด
" พอดีมีอเรื่องอยากให้ช่วย... "
สาวตรงหน้ายื่นมืออกมาพร้อมซองเอกสารสีน้ำตาลขนาดกลางๆ ไม่ทันไม่พูดอะไรไปมากกว่านั้น แสงประกายจากเหล็กคมที่ถูกยื่นออกมาจากถุงนั่นถูกจำกัดพพื้นที่อย่างรวดเร็ว
" ระวัง ! " ชายสูงวัยนั่นพูดขึ้นหลังจากที่สังเกตุท่าทีของหญิงสาวมาสักพัก ในจังหวะที่ตั้งใจจะผลักชายร่างเล็กให้พ้นจากคมมีดเขาก็ต้องหยุดชะงักลงทันใด
" ของมีคมมีไว้หั่นผัก แต่ไม่ได้มีไว้แทงคนนะคุณผู้หญิง "
โทนี่ยิ้มแห้งขึ้นมา นอกจากจะเป็นมหาเศรษฐี เขายังเป็นอัจฉริยะอีกด้วยนะอย่าลืมสิ
มือซ้ายของโทนี่ที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นมือเหล็กสุดแข็งแกร่งส่วนหนึ่งของชุดเกราะที่มีจับปลายมีดคมนั่นไว้ทันเวลา หญิงสาวที่เหมือนจะทำพลาดนั่นหน้าเสียขึ้นทันทีทันใดก่อนจะปล่อยมือ ท่าทางเสียสติดวงตาเปิดโผล่ง
" ตาย แกต้องตายสิ "
" ขอโทษที่ยังรอดนะ " โทนี่ยิ้มขึ้นมาเพราะเขาปลอดภัยดี แต่ถ้าไม่ปลอดภัยก็คงจะยิ้มไม่ออกเหมือนกัน " พาเธอออกไปที... " โทนี่หันไปเรียกรปภ.ที่ไม่ได้ทำงานอันสมควรให้พาผู้หญิงตรงหน้าไปทางอื่น หรือไปไกลๆจากเขาที่กำลังปวดหัว
" แกทำให้ลูกชายฉันตาย แกต้องตาย ! " หญิงสาวตะเบงเสียงเรียกความสนใจจากทั่วห้อง แต่โทนี่เองไม่ได้สะทกสะท้านกับหลายร้อยหลายพันสายตาเลยแม้แต่น้อย แต่เพราะคำพูดพวกนั้นที่เธอพร่ำตะคอกออกมาทำให้เขาเลือกที่จะเดินตามไป
" เดี๋ยวก่อน... " โทนี่รีบเดินไปคว้าไหล่ของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่กำลังพยายามลากตัวตัวการออกไป " ขอผมดูอะไรหน่อย "
พูดจบโทนี่ก็ยกนาฬิกาข้อมือออกมาพลางยื่นไปกลางอากาศระหว่างใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นกับตัวเขา จอโฮโลแกรมขนาดเล็กปรากฏขึ้นแต่ทุกคนกลับดูไม่แปลกใจอะไรนี่คงเป็นของเล่นชิ้นหนึ่งของโทนี่อีกตามเคย เขาจิ้มจออยู่ไม่ถึงนาทีแล้วก็ปิดจอลงพลางเดินออกมาทางห้องโถงเดิม
ชายคนเดิมยังยืนอยู่ตรงที่เกิดเหตุ แต่เขาดูต่างออกไปตรงที่เขาไม่สนใจกับเสียงโหวกเหวกโวยวายเหมือนกับคนอื่นๆที่ค่อยๆทยอยออกจากงานไปเพราะความตื่นกลัว
" คุณจะทำยังไงต่อ..จะเอาเรื่องเธอหรือเปล่า " ชายท่าทีน่าสงสัยเอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
โทนี่ถึงกับยิ้มกว้าง ตอนนี้เขาเหมือนจะตาสว่างขึ้นมาหนึ่งเรื่อง ว่าไม่ควรมองคนอื่นที่ภายนอก สาวคนนั้นแต่งตัวดีกว่าแท้ๆแต่กลับอันตรายซะยิ่งกว่า
" ทำไงได้ ไปทางไหนฉันก็ยังไม่เห็นทางออก โลกของฮีโร่มันก็แบบนี้แหละ ถ้าเราทำภารกิจโดยที่ใครซักคนไม่บาดเจ็บเราก็จะเป็นฮีโร่ แต่ถ้าเราทำใครซักคนบาดเจ็บเราก็จะกลายเป็นผู้ร้าย
พวกเขาเป็นคนที่สูญเสีย เพราะความสูญเสียไม่อาจจะทดแทนได้ เธอก็เลยทำแบบนี้ "
" คุณเคยหรอ " ชายร่างใหญ่นั่นพูดขึ้นทันทีที่เสียงของโทนี่เงียบลง
สิ้นเสียงคำถามนั่นโทนี่ถึงกับสะดุ้งออกจากพวัง เพราะเสียงนุ่มนวลเเสนคุ้นเคยหรือแอลโกฮอลในร่างกันนะถึงทำให้เขาเมามายได้ขนาดนี้ โทนี่หันไปมองอีกคน
" เคย... " ดวงตาสีเข้มมองลงต่ำ ใบหน้าสวยที่ถูกเคลือบด้วยแสงจันทร์นั่นดูเยือกเย็นกว่าทุกครั้งที่เคยพบ " เเต่มันคงเทียบไม่ได้กับผู้หญิงคนนั้นหรอก " พูดพร้อมฉีกยิ้มน้อยๆออกมาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ อันที่จริงแล้วฮี่โร่ หรือบุคคลเหนือมนุษย์ก็เหมือนกับคนอื่นๆ พวกเขาถูกตีตราว่าเหนือกว่าทุกชีวิต ทำให้ชีวิตที่ควรจะเป็นของตัวเองกลับถูกกำหนดไว้ราวกับว่าพวกเขาเป็นหุ่นยนต์ไร้หัวใจซะนี่
" คุณไหวหรือเปล่า "
ชายร่างใหญ่ทำท่าจะประคองที่ไหล่อีกคนเมื่อเห็นท่าทางไม่ดี โทนี่เหมือนจะล้มลงไปทั้งๆที่ยืนอยู่แต่ก็ยังจับระเบียงเอาไว้ได้ทัน
" ไหว ขอโทษด้วยที่พูดอะไรแปลกๆ คงดื่มเยอะไป " พูดจบก็กุมมือเข้าที่หัวตัวเองที่กำลังหมุนติ้วไม่ยอมหยุด
" ให้ผมช่วย "
พูดจบก็คว้าเข้าที่แขนของโทนี่เพื่อให้อีกคนยืนได้มั่นคงขึ้นพลางใช้เเรงนิดหน่อยเพื่อพาโทนี่เดินเข้าหากำแพง
" เห กล้าเข้าใกล้ฉันเกินระยะ2เมตรหรอ ระวังจะโดนจับจูบนะ "
" ... "
" ล้อเล่นน่า ทำหน้าแบบนั้นใครจะไปทำลง ทำหน้าอย่างกับว่าโกรธใครมางั้นแหละ " โทนี่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
" โทนี่... "
" หือ ? "
สิ้นเสียงสงสัย เจ้าตัวที่กำลังแบกโทนี่ไว้กลับก้มตัวลงประกบริมฝีปากหนาใต้หนวดเครานั่นเเนบสนิทอย่างโหยหา จูบกินเวลายาวนานจนทั้งสองแทบลืมหายใจ จูบหอมหวานแสนคิดถึงนั่นดึงดูดให้คนที่ตัวเล็กกว่าลืมตัวเผลอไผลไปกับความรู้สึกเยี่ยมยอดที่ถามหา
มือทั้งสองของโทนี่คว้าเข้าที่บ่าของอีกคนจนหมวกปานามาทรงกว้างนั่นจะหล่นออกไปจากหัวเผยให้เห็นดวงตาสีฟ้าประกายราวกับกระจกเงา
" สตีฟ ? "
.
.
.
' อันตรายเหลือเกิน ตั้งใจจะไปลืม แต่กลับได้ยินเสียง ได้สัมผัส หมายความว่ายังไง '
" เจ้านายคุณจะไม่ทันมื้อเช้าแล้วนะครับ "
" เดี๋ยวค่อยกิน... " โทนี่ถึงกับชะงักงันขึ้นมาทันใด เขาคิดในใจว่าคงจะมึนเพราะดื่มไปเยอะ ตั้งแต่หลังเหตุการณ์เกือบถูกแทงนั่นเขาก็แทบจำอะไรไม่ได้ กลับมานอนที่นี่ได้ยังไงก็ยังไม่รู้เลย ปกติก็ดื่มจนหมดสภาพแล้วรอแฮปปี้มาลากกลับบ้านอยู่แล้วก็เลยไม่คิดจะสนใจหรือจำอะไรมากนัก
" เจ้านายครับ "
เจ้าตัวที่ถูกเรียกนั่นได้แต่พยายามหลับตาห่อตัวเองในผ้าห่มผืนหนา จนกระทั่งเสียงยวบของเตียงค่อยๆใกล้เข้ามา " ช่วยไม่ได้นะ คงต้อง..."
สิ้นเสียงนั่นผ้าห่มที่ห่อตัวโทนี่ออกก็ถูกดึงขึ้นอย่างรวดเร็ว โทนี่ได้แต่สะดุ้งโหยงตาเปิดโผล่ง สิ่งแรกที่เห็นก็คือโรดี้เพื่อนผิวสีของเขากำลังนั่งข้างๆเขาพร้อมหน้ากากกัปตันอเมริกาบนหน้า
" ทำอะไรของนายน่ะโรดี้ " โทนี่มองตาขวางใส่เพื่อนสนิทของเขา
" เปล่าทำอะไรนี่ " พูดพร้อมกับดึงหน้ากากให้พ้นหน้า
" อะไรแปลกๆอยู่ที่หน้านาย ? "
" อ่อ ก็คิดว่าถ้าใส่เจ้านี่คงจะทำให้นายตื่นได้เร็วขึ้น "
" ไอบ้า! " พูดจบเจ้าตัวก็ปาหมอนใส่โรดี้ด้วยสีหน้าไม่พอใจ
" ฮะๆๆ ลุกได้แล้ว ทำตัวเป้นเด็กไฮสคูลไปได้ "
" ว่าใครเป็นเด็ก ! ฉันหิวจะเเย่แล้ว "
" เชิญครับๆคุณสตาร์ค โต๊ะข้างห้องน้ำนะครับ "
" ฮะๆๆ "
" หัวเราะแล้ว ดีมาก ลุกขึ้นมากินอาหารห่วยๆได้แล้ว "
โรดี้เดินออกจากห้องไป โทนี่ก็ลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจแล้วก็ลากตัวเองไปห้องอาหารทันทีทั้งๆชุดนอนแบบนั้น ถึงตัวจะเดินไปเรื่อยๆในใจกลับคิดไม่ยอมหยุดว่าเมื่อคืนกลับมายังไง แล้วที่ระเบียงนั่น ที่เกือบถูกแทง ที่ถูกตาลุงแก่ๆขโมยจูบนี่มันเรื่องจริงหรือว่าเขาฝันไปเองกันแน่
ถ้าฝันก็น่าขนลุก ถ้าเรื่องจริงก็ยิ่งน่ากลัวแฮะ เอาไงดี ถามใครก็ไม่มีใครตอบได้แน่
" เมื่อคืนนายหมดสภาพเลยนะ ดื่มมากไปล่ะสิ "
" ก็นะ มีเรื่องอยากลืมนิดหน่อย "
" เรื่องอะไร เรื่องหมอนี่หรือเปล่า ? " โรดี้ชี้ไปที่ผู้ชายร่างหนาที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเขา
" อืม ใช่ แต่เหมือนจะไม่ได้ผล.. " พอเงยหน้าไปมองโรดี้เขาก็แทบจะปรับโฟกัสได้ไม่ทัน มีชายร่างหนาในเสื้อโปโลสีกรมผมทองตาสีฟ้าหน้าคุ้นๆยืืนอยู่นิ่งๆ " เหมือนตอนนี้ฉันก็ยังเห็นภาพหลอนอยู่เลย แรกๆก็ตกใจนะ ตอนนี้ชักจะชินซะแล้วล่ะ " พูดจบก็ก้มลงกินข้าวต่อแล้วไม่ได้สนใจจะมองคนตรงหน้าต่อ
" โฮ่ ภาพหลอนหรอ นี่นายคิดถึงหมอนั่นขนานนั้นเลย ? "
" อื้อ คิดถึงสิ ต้องคิดถึงอยู่แล้ว... "
" ผมก็คิดถึงคุณครับโทนี่ "
" !?!? "
next Chapter... CAME TO END GAME
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

107 ความคิดเห็น
-
#98 fansarapao (จากตอนที่ 12)วันที่ 18 เมษายน 2562 / 00:52อร้ายยย คือดีต่อใจมากจริง รอตอนต่อไปแทบไม่ไหวแล้ว อยากอ่านต่อ#981
-
#98-1 AI(จากตอนที่ 12)5 พฤษภาคม 2562 / 13:24เขิลล ดีใจที่ชอบนะคะ ตอนต่อไปมาแล้วนะ >,,< !#98-1
-
-
#97 micupcake16 (จากตอนที่ 12)วันที่ 15 เมษายน 2562 / 15:03งื้อออออออออ เราชอบฟิคตอนนี้มากๆๆๆๆๆเลยค่ะ งื้อออออออ หัวใจพองโตไปหมด แง้ ชอบบบ#971
-
#97-1 AI(จากตอนที่ 12)5 พฤษภาคม 2562 / 13:24ดีใจที่ชอบนะคะ ขอบคุณที่ติดตามเสมอมาเลยน้า รักคุณ 3000 เลยค่ะ <3#97-1
-