ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หมายเลข 808

    ลำดับตอนที่ #1 : หมายเลข 808 Code 1 : รหัสที่ ๑ หมายเลขที่ไร้ ‘ชื่อ’

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 491
      0
      4 ต.ค. 56

     

    เคยรู้สึกไหมว่าบางครั้งก็มองเห็นเรื่องราวซ้ำเดิมที่คลับคล้ายเหมือนมันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว

    เคยรู้สึกไหมว่าบางครั้งก็สังหรณ์ประหลาดก่อนจะที่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นจริง

    เคยรู้สึกไหมว่าบางครั้งก็จับสัมผัสได้ว่ามีมากกว่าตัวคุณที่นั่งอยู่เพียงคนเดียวในห้อง

    คลื่นพลังงานในรูปแบบหนึ่งที่ไม่อาจมองเห็นแต่บางเวลาคุณกลับรู้สึกได้ว่ามันอยู่ใกล้แค่เอื้อม

    นานมาแล้วที่มนุษย์เริ่มศึกษาศาสตร์แห่ง  ‘จิต’  และค้นพบสารพัดพรสวรรค์กับการดึงมันออกมาใช้ในรูปแบบที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน  เมื่อเริ่มฝึกฝนจึงเชี่ยวชาญก่อกำเนิดพลังมหาศาลให้แก่ผู้ครอบครอง  หากมีสถานที่ซึ่งรวบรวมมนุษย์จากทั่วทุกมุมโลกเพื่อขัดเกลาให้สามารถดึงขุมพลังอันไร้ขอบเขตนี้ออกมาใช้ได้ถึงขีดสุด

    องค์กรแห่งนั้นคงดำรงอยู่บนฉากม่านเบื้องหลังความเป็นไปในโลก...

    เด็กทุกคนที่นี่มองเห็นสิ่งที่เรียกว่า  ‘จิต’

    ...

    ตอนที่อายุได้เจ็ดขวบ  ด้วยความซุกซนตามประสาเด็ก  ฉันได้วิ่งลอดชั้นวางโลงศพของคุณแม่ที่ถูกรถชนเสียชีวิต  หลังจากนั้นจึงเริ่มมองเห็นโลกในรูปแบบใหม่...

    ทุกคนที่นี่ก็มีประสบการณ์ประหลาดๆ คล้ายคลึงกันเช่นหมายเลข  126  เขาเคยเล่าว่าตัวเองพยายามจะแขวนคอตาย  ตอนที่เขาถีบโต๊ะออกให้พ้นขาแล้วปล่อยให้ทั้งร่างร่วงลงตามแรงโน้มถ่วงนั้นดวงตาของเขาร้อนวูบก่อนจะได้ยินเสียงน้องสาวและมารดาร้องตะโกน  เมื่อตื่นอีกครั้งที่โรงพยาบาลหมายเลข 126 ก็มองเห็นโลกใหม่ในแบบเดียวกับที่ฉันมองเห็นตอนนี้

    หมายเลข  744  ข้อนี้เธอตอบว่าอะไร   เสียงครูประจำวิชาหมายเลข  5403  เอ่ยถามนักเรียนในห้องของฉัน  เด็กหนุ่มร่างเล็กลุกขึ้นยืนก่อนกางหนังสือเล่มบางบนโต๊ะตอบคำถามอย่างฉะฉาน

    ขณะที่ฉันเท้าคางมองตัวเลขสามหลักที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของเขา

    นี่คือหนึ่งในภาพที่ฉันเห็นหลังจากที่รู้สึกร้อนวูบที่ดวงตาทั้งสองข้างตอนมุดออกมาจากอีกฝั่งของโต๊ะวางโลงศพ  ครั้งแรกที่แลเห็นฉันแปลกใจที่รหัสเหล่านั้นลอยอยู่เหนือหน้าผากของคนได้ราวกับแรงโน้มถ่วงไม่อาจไขว่คว้าแตะจับมัน  ไม่ใช่เพียงแค่คนเท่านั้นที่มีรหัสเช่นนี้  สัตว์หรือแม้แต่สิ่งของก็มีเช่นเดียวกัน

    ฉันคิดว่านั่นเป็นรหัสของโชคชะตา

    สิ่งที่มีรหัสเหมือนกันจะมีความเกี่ยวข้องกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง  เช่นเป็นญาติ  มีสายเลือดเดียวกัน  เป็นคนรัก  หรือแม้แต่จะกลายเป็นคู่แค้นกันในอนาคต  รหัสเหล่านั้นจะเปลี่ยนแปลงอยู่เกือบตลอดเวลา  อย่างเช่นตอนนี้

    ครูสาวมีรหัส  744  ไปเสียแล้ว  ฉันเดาว่าเธอรู้สึกพิเศษอย่างน่าประหลาดกับนักเรียนหนุ่มที่เธอสั่งให้เขาตอบคำถามในบทเรียน  แต่ความรู้สึกนั้นทุกคนในคลาสเรียนก็มองเห็นเช่นเดียวกัน

    มันเป็นรหัสที่จะดึงดูดสิ่งที่มีตัวเลขเหมือนกันเข้ามาหา  ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร...

    ฉันเคยเห็นรหัสที่ยาวที่สุดเกินหลักล้านล้าน  มันคือตัวเลขที่ลอยอยู่เหนือพระพุทธรูปในวัดเก่าแก่จากประเทศที่ฉันจากมา  ความยาวของรหัสยังหมายถึงสิ่งนั้นเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวของรหัสอื่นๆ ด้วย  อย่างเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างฉันตอนนี้  เธอเล่าว่าในโบสถ์ที่เธอเคยอยู่มีบาทหลวงคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของตัวเลขยาวกว่ารหัสที่ฉันเคยเห็น

    อย่างไรก็ตาม  ความหมายของมันค่อนข้างซับซ้อน

    บางครั้งไม่ได้หมายถึงความศักดิ์สิทธิ์แต่หมายถึงความเก่าแก่  บางครั้งไม่ได้หมายถึงความเกี่ยวข้องกันแต่หมายถึงการที่ควรจะอยู่ให้ห่างจากกันมากๆ ยกตัวอย่างศัตรูคู่อาฆาตบางคนในห้องนี้ก็มีตัวเลขเดียวกันทั้งที่ไม่เคยญาติดีกันได้เลย

    แม้ตัวเลขนั้นจะเปลี่ยนแปลงแทบทุกวินาทีก็ตาม

    แต่ในยามที่ถูกเรียกหมายเลขของตัวเอง  ทุกคนที่นี่จะรู้สึกได้เองว่าเป็นชื่อของตัวเอง  พวกเราเลิกเรียกชื่อตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาแล้ว  เพราะมันไม่จำเป็นต้องใช้  แถมการเรียกขานกันแบบนี้จะเป็นประโยชน์มากกว่าเวลาที่ออกทำงาน  ยังมีเรื่องความเสถียรของการเปลี่ยนแปลงตัวเลขอีกด้วย

    พวกคนระดับสูงของที่นี่จะมีตัวเลขชุดเดียวต่อวัน  หรืออาจนานกว่านั้น  เพราะปัจจัยที่จะทำให้รหัสเปลี่ยนแปลงไปมายังขึ้นอยู่กับอารมณ์อีกด้วย

    สาธยายมายาวขนาดนี้  ใช่ว่าฉันจะเข้าใจทุกรหัสหรอกนะ  ไม่อย่างนั้นก็คงได้คะแนนเต็มวิชา  ‘รหัสจิต’  ที่เพิ่งสอบไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว  แต่นี่คะแนนหลุดโผดิ่งสู่ขุมนรก  ตอนยืนดูครั้งแรกยังแทบหน้าหงาย  แถมยังโดนพี่รหัสสั่งกลับไปคัดบทเรียนทั้งหมดมาส่งโทษฐานที่ทำข้อสอบวิชาที่ง่ายที่สุดของที่นี่ได้คะแนนไม่ดี

    มันง่ายตรงไหนกัน...

    ฉันนั่งหมุนดินสอไปมาด้วยความเบื่อหน่ายขณะพยายามจดจ่ออยู่กับเสียงเจื้อยแจ้วของอาจารย์สาวหน้าชั้นเรียน  แต่ไม่สามารถสงบใจให้หยุดฟุ้งซ่านได้  เพราะวันนี้ตำแหน่งเก้าอี้ตัวหลังสุดของห้องนั้นว่างเปล่า

    ทำไมวันนี้แม่นั่นขาดเรียนกันนะ   ฉันเปรยขึ้นกับเพื่อนหญิงที่นั่งอยู่ข้างเคียงกันพลางเลื่อนสายตาผ่านโต๊ะว่างทางด้านหลัง

    ที่ตรงนั้นเป็นโต๊ะเรียนของนักเรียน  ‘สุดห่วย’  ที่สุดในชั้นเรียนหรืออันที่จริง  อาจจะกระจอกที่สุดในที่แห่งนี้ก็เป็นได้  เพราะเธอเป็นเพียงคนเดียวที่มองไม่เห็นโลกในแบบที่ฉันหรือบุคลากรคนอื่นแลเห็น  นับว่าเป็นเรื่องประหลาดที่สุดเท่าที่มีมาในหน้าประวัติศาสตร์ของโรงเรียน  และด้วยความที่เจ้าหล่อนไร้พรสวรรค์ถึงเพียงนั้นแต่กลับได้เข้ามาเดินลอยชายในที่แห่งนี้ได้  จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะถูกตราหน้าด้วยสารพัดคำนินทาเสียดสี  เพราะนอกจากจะมองไม่เห็นแล้ว

    ทุกคนต่างรู้ว่าเธอยังไร้พลังจิตอีกต่างหาก

    ถามอะไรแบบนั้น  71  เธอเองน่าจะรู้อยู่แล้วนี่  ว่ายัยนั่นก็คงโดนเพื่อนขโมย...   ขณะคู่สนทนายังไม่ทันกล่าวจบประตูห้องเรียนก็เลื่อนเปิดออก

    -808-

     

     

     

     

     

     

    หมายเลข  808

    Code 1 : รหัสที่ ๑ หมายเลขที่ไร้ ‘ชื่อ’

    ร่างของนักเรียนหญิงที่มาเข้าเรียนสายเกือบชั่วโมงยืนพิงขอบประตูอย่างเหน็ดเหนื่อย  ก่อนก้าวเข้ามาด้วยอาการกระหืดกระหอบ  กระเป๋าสพายข้างหลุดร่วงลงมาคล้องตรงข้อศอก  เครื่องแบบนักเรียนสตรียับยู่ยี่มอมแมม  เนคไทที่สวมอยู่หลุดลุ่ยราวกับเพิ่งกรำศึกหนักมาไม่นาน

    เพื่อนในห้องแทบทุกคนสามารถเดาได้ว่าวันนี้เธอก็คงถูกคนในโรงเรียนสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้อีกตามเคย  ความเงียบแผ่ขยายทั่วบรรยากาศในห้องเรียนขณะที่แทบทุกสายตาจับจ้องไปยังเด็กสาวร่างสูงหน้าชั้น

    นี่เธอ!  หมายเลข...   ครูสาวชี้มือมายังคนเข้าเรียนสายอย่างโกรธเกรี้ยว  แต่แล้วกลับหยุดชะงัก   เธอหมายเลขอะไร

    นักเรียนหญิงผู้มาใหม่เลิกคิ้ว   เอ๋!  หมายเลขหรือคะ

    ก็ใช่น่ะสิ  ทำไมบนหัวเธอไม่มีหมายเลข

    คราวนี้คนถูกถามยิ่งงงหนักกว่าเดิม   ถ้าเป็นในห้องนี้  หนูเลขที่...

    ไม่ใช่เลขแบบนั้น  ครูหมายถึงหมายเลขที่อยู่บนหัวน่ะ   ผู้สอนเคาะปลายนิ้วลงบนขอบโต๊ะอย่างใช้ความคิดอย่างหนัก  ความจริงแล้วเธอต้องสอนอยู่อีกห้องเรียนหนึ่ง  แต่เนื่องด้วยวันนี้ครูประจำวิชาอีกคนไม่สบายกะทันหัน  หญิงสาวจึงรับหน้าที่ดูแลห้องเรียนนี้เป็นครั้งแรก   แล้วแบบนี้เพื่อนในห้องเรียกเธอว่าอะไร

    เด็กสาวยิ้มแหยๆ ออกมาก่อนตอบคำถาม   หนู...เอ่อ  ไม่ค่อยมีคนเรียกเท่าไหร่น่ะค่ะ

    พิลึกคนจริงๆ  พอถามเรื่องหมายเลขกลับงงเป็นไก่ตาแตก  เธอเข้ามาเรียนที่นี่ได้ยังไงกัน   หญิงสาวถอนหายใจอย่างปลงตกก่อนจะปัดมือไล่ให้คนเข้าสายไปนั่งที่อย่างขอไปที   แล้วครูจะถามคำถามให้เธอตอบได้ไง  เธอชื่ออะไร

    เอ๋!  ชื่อเหรอคะ

    ใช่  เอาเข้าไป  คราวนี้จะงงทำไมอีกล่ะ  ชื่อที่เธอใช้ตั้งแต่ตอนก่อนจะเข้ามาที่นี่น่ะ

    เด็กสาวมีสีหน้ากังวลเล็กน้อยขณะกลอกตาไปมาอย่างใช้ความคิด   แต่ว่าที่นี่ไม่มีใครเรียกชื่อกันนี่คะ  หนูก็เลย...

    ก็เพราะทุกคนเขามองเห็นหมายเลขของอีกฝ่ายน่ะสิ  หรือเธอมองไม่เห็น

    เด็กสาวหัวเราะแห้งๆ ด้วยสีหน้ากระอักกระอวน   เอ่อ...

    เอาละ  เอาละ  เดี๋ยวจะยาว  หมดคาบกันพอดี   หญิงสาวตัดบท   วันนี้วันที่เท่าไหร่ล่ะ

    นักเรียนชายในห้องตอบคำถามอย่างฉับไว   วันที่ 5 เดือนสิงหาคม(August)ครับ

    งั้นในคาบของครูจะเรียกเธอว่า (August) ออกัซ ก็แล้วกัน

    เด็กสาวยิ้มรับก่อนจะรีบสาวเท้าเดินไปยังโต๊ะหลังสุดของห้องเรียน  หย่อนกายลงนั่งแล้วถอนหายใจ  ชำเลืองมองที่นั่งว่างเปล่าทางด้านข้างของตัวเองก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้  แล้วหยิบเอาหนังสือเรียนยับย่นของตัวเองขึ้นมาเปิดหาหน้าที่อาจารย์กำลังสอน  แต่แล้วก็ต้องถอนหายใจอีกรอบเมื่อพบว่ากระดาษหน้านั้นขาดหายไปจากฝีมือของใครสักคนที่เธอไม่อาจจะรู้ได้

    ผมบอกให้เอาไหมครับว่าใครฉีกหนังสือของท่าน   เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านข้างของเด็กสาว  ขณะที่ร่างหนาของบุรุษผู้หนึ่งหย่อนกายลงนั่งช้าๆ อย่างสง่างาม   เพราะท่านคงมองไม่เห็นตัวเลขสิบตัวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้  เมื่อเดือนที่แล้ว  ในวันที่ 12  เวลา  11 นาฬิกา 45 นาที  ตอนท่านกับผมอยู่โรงยิม...

    เด็กสาวส่ายหน้า

    ไม่อยากรู้หรือครับ  จะได้ไปเอาผิด

    ไม่เอาหรอก  เธอตอบเขาโดยมิได้ปริปาก  หากเพียงแค่คิดในใจเท่านั้นชายหนุ่มก็พยักหน้ารับ   รับทราบครับนายท่าน  แต่คาบต่อไปท่านควรหลบออกไปจากห้องนะครับ

    ทำไมเหรอ   เด็กสาวเบิกตาหันกลับไปจ้องมองคู่สนทนาที่อยู่ในท่าวางมือลงบนตักแล้วก้มหน้าปิดเปลือกตาอยู่ด้วยอาการสำรวม

    บุรุษหนุ่มร่างสูงอยู่ในชุดคลุมสีขาวและเรือนผมเหยียดยาวตกเรี่ยอยู่บนพื้น  เขามีเส้นผมละเอียดละมุนสีเดียวกับชุด  ดูบริสุทธิ์ผุดผ่องและกระจ่างด้วยผิวกายงามดั่งหิมะยามเหมันต์  สวมแว่นตาทรงกลมแต่มิอาจลดความคมคายบนโฉมหน้านั้นได้  ดั้งจมูกโด่งเป็นสันรับลาดคิ้วโก่งพองาม  กลีบปากรูปสวยแดงดั่งโลหิต  นัยน์ตาคมเรียวและโฉบเฉี่ยวกว่าหญิงใด  เขาสวยกว่าอิสตรีที่ว่างามวิลาศแล้ว  แม้ยามปิดเปลือกตาเฉยเมยอยู่เช่นนั้นยังชดช้อยดุจรูปสลักเทพีผู้เปี่ยมล้นเมตตา

    เป็นผู้ชายที่สวยกว่าเธอหลายเท่า  ออกัซถอนหายใจเป็นรอบที่สามของวัน

    เพราะว่า  ผมเห็น...   ชายหนุ่มเปิดเปลือกตาขึ้นเชื่องช้า  ดวงตาคู่นั้นเป็นสีโลหิตดุจเดียวกับกลีบริมฝีปากเลือดนก   สีหน้านั้นสงบล้ำยามเอ่ย   “12.03  นาฬิกา  กับ หมายเลข 345 45 และ 45690  มนุษย์ 3 คนนี้จะรังแกท่านโดยการหลอกให้ท่านเข้าไปในโกดังเก่าของโรงเรียนแล้วถอดชุดครับ

    เห็นเป็นภาพเลยเหรอ?   เด็กสาวไต่ถามในความคิด

    เปล่าครับ   ชายหนุ่มยิ้มบาง   เป็นตัวเลขต่างหาก

    นายนี่...แปลตัวเลขได้เก่งขึ้นรึเปล่านะ   เด็กสาวพลิกหน้ากระดาษตามที่อาจารย์สั่ง  พลางคิดต่อ   ดีจังเลยแฮะ  ถ้าฉันเก่งได้ขนาดนายบ้าง  ป่านนี้ก็เป็นท๊อปคลาสไปแล้ว

    ท่านไม่ถามผมเองนี่ครับ

    แต่นั่นมันโกงนี่นา...   เด็กสาวบ่นงึมงำขณะกดปากกาแล้วลงมือจดเนื้อหาจากกระดานดำลงใส่หน้ากระดาษ

    ไม่โกงหรอกครับ  ถือซะว่าผมเป็นหนึ่งในความสามารถของท่าน  ถึงยังไงผมก็เป็น  ‘จิต’  อยู่แล้ว

    นายเป็นผีต่างหาก  แถมเป็นผีสารพัดพรสวรรค์  ฉันล่ะซูฮกจริงๆ

    แต่ผมนับถือท่านมากกว่า

    เรื่องอะไรเหรอ?  เด็กสาวเบิกตาฉงน

    ครานี้ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำถาม  แต่กลับส่งรอยยิ้มใจดีกลับมาแทนแล้วเปลี่ยนเรื่องเสียดื้อๆ   ถ้าท่านถามข้อสอบ  ผมรับรองเรื่องคะแนนครับ  ไม่มีใครจับได้อยู่แล้ว  ไม่อย่างนั้นทุกคนที่นี่ก็ต้องมองเห็นผมไปตั้งนานแล้วครับ

    ไม่เอาอ่ะ  เด็กสาวขมวดคิ้วมุ่น  บางอันฉันก็พอทำได้บ้าง

    ชายหนุ่มยกมือป้องปากหัวเราะเบาๆ   มุ่งมั่นจังเลยนะครับ

    เสียงกริ่งบอกเวลาพักกลางวันเป็นสัญญาณให้นักเรียนในห้องทยอยกันออกไปเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน  ส่วนออกัสก็เก็บสัมภาระใส่กระเป๋าเตรียมตัวหนีภาระการถูกรังแกใหญ่หลวงอย่างที่สหายหนุ่มข้างกายออกปากเตือนก่อนหน้านี้  เมื่อเก็บของเรียบร้อยแล้วเธอก็ลุกขึ้นยืนรีบรุดหน้าไปยังประตู  ทว่าระหว่างทางกลับเดินผ่านนักเรียนหญิงชายที่จับกลุ่มกันเพื่อเล่นเกมส์บิงโกริมระเบียง

    บิงโก

    เด็กสาวหยุดยืนมองตัวเลขบนแผ่นกระดาษที่ทุกคนต่างเลือกเพื่อเสี่ยงดวง

    อยากเล่นหรือครับ   สหายสารพัดพรสวรรค์เพียงคนเดียวของเธอเอ่ยถาม

    แต่ออกัซไม่ได้เปิดปากตอบ  ชายหนุ่มจึงอธิบายกติกาลอยๆ เพื่อกระตุ้นต่อมการพนันที่ฝังอยู่ในแกนกายหญิงสาว   กติกาก็วางตัวบิงโกลงบนตัวเลขในช่องตามเสียงขานของคนกลางครับ  ถ้าวางได้สี่มุมหรือเรียงแถวแนวตรง  นอนหรือทะแยงก็ได้  ถ้าวางครบแล้วก็บอกว่าบิงโกแล้วรับเงินครับ

    แต่เล่นของแบบนี้ที่นี่ก็โกงกันได้น่ะสิ  บางคนก็มองเห็นอนาคตนี่นา  อาจจะเห็นก็ได้ว่าแผ่นไหนจะบิงโกก่อนเพื่อน  เด็กสาวยังคงยืนสำรวจคนกลุ่มใหญ่อย่างสงสัยใคร่รู้

    ชายสวมชุดคลุมกวาดสายตามองหนึ่งคราก่อนเอ่ยเสียงเรียบ   จากระดับความสามารถของคนในกลุ่มนี้ยังไม่มีใครที่มีตัวเลขถึงขั้นนั้นนะครับ

    หูว  สมเป็นนายเลย  รู้ด้วย   ออกัซคิดอย่างอึ้งๆ  แต่เพราะเป็นนายนี่นะ  จะทำได้มากกว่าเห็นอดีต  อนาคต หรือเรื่องพวกนี้ก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน  ฉันจะตกใจทำไมนะ  จริงๆ ต้องชินได้แล้ว

    ถ้าท่านจะเล่น  ผมบอกให้ไหมครับว่าท่านควรเลือกแผ่นไหนถึงจะได้เงินในกองนั้น   ชายหนุ่มบอกพลางชี้มือไปยังกองเหรียญกับธนบัตรหลายใบ   จำนวนเงินนั้นมากพอที่ท่านจะ...

    ไม่เอาหรอก   เด็กสาวถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่เธอก็จำไม่ได้เสียแล้ว  ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปอย่างหน่ายๆ   มันโกงนี่นา...

    ชายหนุ่มมองตามแผ่นหลังของร่างบางก่อนจะยิ้มแล้วเคลื่อนร่างตามเธอไป

    ไม่โกงหรอกครับ  นั่นคือความสามารถของท่านจริงๆ

    แค่เด็กที่มีผีในตำนานอย่างนายเป็นพรายกระซิบเนี่ยนะ?

    ถ่อมตัวอีกแล้วครับ  ท่านออกัซ

    -808-

    End/Code 1 : รหัสที่ ๑ หมายเลขที่ไร้ ‘ชื่อ’

     

     

     

    -เปิดตัวอย่างกระทัดรัด  สั้นพอเป็นพิธี-

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×