คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Bench 1 : ไดอารี่ของพิธีกร {{Diary}}
Code R
ราชาโสเภณี
ไดอารี่ที่รัก วันนี้ผมต้องเจอศึกหนักหลายเรื่องนับตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นในตอนเช้า ผมเคยสงสัยว่าบางทีพระเจ้าที่กำลังนั่งจิ้มนิ้วลงบนคีย์บอร์ดเพื่อสรรค์สร้างเรื่องราวของผมในตอนนี้มีอคติส่วนตัวอะไรกับผมหรือเปล่า แต่เอาเถอะ ผมก็แค่เล่นไปตามน้ำนิดๆ หน่อยๆ และหวังว่าตัวเองจะได้ออกไปจากสถานะ ‘ตัวเปิดเรื่อง’ ในเร็ววัน อันที่จริงผมน่าจะเคยบ่นเรื่องทำนองนี้กับไดอารี่ที่รักมาแล้วไม่ต่ำกว่าแปดร้อยครั้ง ใช่ไหมครับ? คุณจำได้หรือเปล่า? ถ้าคุณจำไม่ได้ผมก็ยังคิดจะบ่นใหม่ซ้ำๆ ซากๆ อยู่แบบนี้เช่นเดิม
ผมเป็น ‘พิธีกร’ งานหลักของผมคือพร่ำบ่น พูดๆ และท่องๆ อธิบายสิ่งที่คนฟังยากจะเข้าใจ งานรองคือกลบฝังชาวบ้านชาวช่องด้วยปากกรรไกรของตัวเอง ซึ่ง...ผมค่อนข้างชอบงานรองมากกว่างานหลัก เพราะการที่ได้วางสายตาลงบนใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะอารมณ์ที่ปะทุเดือดของคนฟังดูจะสร้างความรื่นรมย์ให้ผมมากกว่าการพยายามเผยแพร่ศาสนา
คนที่นี่เรียกผมว่า ‘พิธีกรซ่อง’
ซ่อง?
ใช่ครับซ่อง หรือสถานเริงรมย์ที่มีการขายบริการทางเพศ หรือสถานค้าประเวณี อาบอบนวด อะไรก็ว่าไป ความหมายมันคล้ายๆ กันทั้งนั้นครับ นั่นคือการที่คุณผู้ชายก้าวเข้ามา กวาดสายตาเลือกเฟ้นผู้หญิงเข้าตาสักคนแล้วพาเธอขึ้นเตียง ผมใช้คำแรงไป? เปล่าครับ ผมกำลังพูดเรื่อง ‘สัจธรรม’ ของที่นี่ต่างหาก
ผู้หญิงของที่นี่ถูกเรียกด้วยสารพัดสรรพนามทั้งประณาม หยามเหยียดและแทะโลม จากทั้งชายหญิงใน ‘โลกสว่าง’ ผมได้ยินคำแสลงหูเหล่านั้นจนชิน และก็คิดว่าพวกเธอที่แค่เดินออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ถูกด่าเสียดสีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้นก็คง ‘ชา’ ไม่ต่างจากผม ว่ากันตามจริง นิยามของสาวๆ ส่วนใหญ่ที่นี่เมื่อได้ยินคำด่าก็คือ...
‘ใครแคร์?’
กลับมาที่เรื่องอาชีพของผมซึ่งก็คือพิธีกรซ่องรุ่นที่ 778 อย่าถามว่าทำไมมีหลายรุ่นขนาดนั้น ไดอารี่จ๋า ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าสงสัยมาก แต่เอาเถอะเห็นคุณอยากรู้ขนาดนั้นผมก็จะยอมอธิบายอีกรอบก็ได้เพื่อคุณ รุ่นพิธีกรซ่องมีมากขนาดนั้นไม่ใช่เพราะตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาหลายศตวรรษ แต่เป็นเพราะในสองปีที่ผ่านมานี้มีพิธีกรชายถูกเปลี่ยนตำแหน่งเข้ามาไม่ซ้ำหน้ากันทุกวัน สองปีเท่ากับ 730 วัน ในแต่ละวันมีการโยกย้ายตำแหน่งเพราะพิธีกรซ่องมักจะถูกยิงตาย...
ถูกยิงตาย?
ใช่จ้ะ ไดอารี่เข้าใจไม่ผิดหรอก ในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้พิธีกรอย่างผมถูกยิงตายและลากศพไปฝังด้านหลังซ่องเกือบพันคน นี่ยิงวันละคนยังไม่ถึงจำนวน 778 เลยครับ จะเห็นได้ว่าบางวันก็มีพิธีกรเข้ามาแทนที่คนเก่าสองถึงสามราย ก่อนจะกลายเป็นศพต่อไป หน้าที่เสี่ยงตายขนาดนี้ ผมก็ยังจะกล้าเอาหัวขึ้นเขียงมารับตำแหน่งอีก
แต่ผมก็ทำหน้าที่พิธีกรมานานแบบทำลายสถิติเดิมๆ มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว
อย่าเพิ่งคิดว่างานอะไรจะเสี่ยงชีวิตขนาดนั้น ค้ายา? ค้าอาวุธ? เปล่าครับ ผมสารภาพว่า วันหนึ่งๆ ผมแค่เดินไปเดินมารอให้ลูกค้าสาวๆ ขอร้องให้ผมไปขึ้นเตียงกับเธอ ขอประทานโทษนะครับ ผมย้ำว่า ‘ขอร้อง’ เนื่องจากซ่องที่นี่แตกต่างจากสถานบริการ ‘ชั้นเลว’ ขอประทานโทษอีกครั้งนะครับ ผมใช้คำว่า ‘ชั้นเลว’ เพราะอะไร?
เพราะมันคนละชั้นกับที่นี่...ที่ซึ่งผมเหยียบอยู่ภายใต้อำนาจของ ‘ราชันย์’ แห่งโสเภณี ผู้ซึ่งใช้อิทธิพลและอำนาจของตนเองแผ่ขยายสู่ทุกสาขาการค้าประเวณีทั่วโลก
ไดอารี่ที่รัก ผมจะเริ่มอธิบายตั้งแต่ลักษณะของซ่องที่ผมใช้ชีวิตอยู่ก็แล้วกัน เนื่องจากผมอยู่ที่ ‘สาขาหลัก’ บางอย่างจึงค่อนข้างเคร่งครัดกว่าสาขาย่อยที่เล็ดลอดการตรวจสอบ (ซึ่งจากสถิติก็เล็ดลอดได้ไม่เกินหนึ่งเดือนอยู่แล้ว) สาขาหลักมีกฎอยู่หนึ่งประการที่หากฝ่าฝืนถึงขั้นสิ้นชีวิตอยู่ว่า
‘อย่าขัดใจโค้ดอาร์’
ถึงตรงนี้ ไดอารี่ก็คงจะสงสัยว่า ‘Code R’ คือใคร?
ข้ามไปเลยครับ ไม่ต้องไปพูดถึงอะไรที่น่ากลัวแบบนั้น...
เรากลับมาที่เรื่องกฎ เป็นที่รู้กันดีในแวดวงโสเภณีว่าราชันย์ของพวกเราเกลียดการถูกขัดใจเป็นที่สุด ว่าจะไม่พูดถึง... แต่บ่นสักหน่อยก็แล้วกันครับ โค้ดอาร์ของผมหรือหลายคนพากันเรียกว่า ‘จอมเผด็จการปลายปืน’ และอีกหลายคำขนานนามล้วนบ่งบอกถึงความ ‘โฉดยิงไม่เลี้ยง’ ของเธอ หลักฐานคือการที่ผมเป็นพิธีกรรุ่นที่ 778 ซึ่งยังรอดจากกระสุนปืนของเธอส่วนที่เหลือตายเรียบนี่แหละครับ เธอเป็นเจ้าของอำนาจแห่งซ่องโสเภณี ผู้กุมบังเหียน ‘ราชันย์’ ตัวจริงเสียงจริง
สาธยายยืดยาวมาถึงตรงนี้ สรุปง่ายๆ เลยดีกว่า ผมแค่กำลังจะพยายามบอกว่า ผมเป็นผู้ชายขายตัว ทำงานอยู่ในซ่อง ‘ระดับสูง’ บนพื้นฐานจรรยาบรรณโสเภณี และเจ้านายของผมคือ...
ผู้หญิงโฉด นิสัยเสีย เอาแต่ใจ กวนอารมณ์ที่สุดในประวัติศาสตร์(ของผม)
โค้ดอาร์!
เปรี้ยง!
Bench 1
บัลลังก์ที่ 1 : ไดอารี่ของพิธีกร
พูดไม่ทันขาดคำ เห็นไหม ผมบอกแล้วว่าเธอมันเป็นจอมเผด็จการโหดร้ายทารุณ มีรสนิยมเพี้ยนๆ ชอบทรมานหัวใจชายด้วย! เดี๋ยว ออกนอกทะเลอีกแล้ว กลับมาเรื่องเดิม เสียงปืนเมื่อครู่ทำให้ลูกค้าชายคนหนึ่งที่อยู่ชั้นล่างสุดถูกกระสุนปืนสอยกบาลแยกเป็นรายที่สามของวันเสียแล้ว
ผมว่าการที่ไอ้เฒ่าเหนียงยานหนวดครึ้มท่าทางหมดสมรรถภาพแบบนั้นจะม่องเท่งไปสักคนสองคนก็ดูจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ใครสน? อ้อ! ดูเหมือนบอดี้การ์ดสองสามคนของตาเฒ่าจะหัวฟัดหัวเหวี่ยงพอควร ก็ไม่แปลกหรอก จริงไหมครับไดอารี่ เจ้านายที่คอยเอาข้าวแดงแกงร้อนลาดหัวอยู่ทุกวันดันตายไปทั้งคนนี่นะ
แต่เรื่องนั้นก็ไม่เกี่ยวกับผมอยู่ดี
“ไอ้โค้ดอาร์!!!” เสียงคำรามของบอดี้การ์ดดังขึ้น ท่าทางกุ้งแห้งปวกเปียก แถมหน้าตายังเหมาะแก่การเปลี่ยนจากอาชีพบอดี้การ์ดไปวางขันขอทานอยู่ข้างถนน อืม...ผมไม่ค่อยชอบวิพากษ์วิจารณ์หน้าตาของใครสักเท่าไหร่ แค่ไดอารี่ลองนึกถึงคนเป็นคางทูมก็พอครับ
“ออกมาเดี๋ยวนี้ อย่าเก่งแต่หดหัวสิวะ บัดซบ!” อีกคนโห่ร้องด้วยเสียงที่ใกล้เคียงกับกระบือปัสสาวะรดสังกะสี
เสียงแบบนั้นยังจะพูดภาษาคนได้อีกนะเนี่ย นับว่ามีความพยายามใช้ได้ทีเดียวเชียว
“เอ่อ คุณพิธีกรครับ” ผมยิ้มเล็กน้อยตอนที่ได้ยินใครสักคนเอ่ยเรียก ‘ยศ’ ของตัวเอง “เอายังไงดีครับ ปล่อยไว้แบบนี้เดี๋ยวเดือดร้อนนะฮะ”
ผมเลื่อนสายตาไปมองบุรุษข้างกายอย่างนึกสนุก รู้ได้ทันทีว่าเวลานี้ตัวเองคงกำลังทำหน้าตาแบบที่นิยามได้ว่า ‘หล่อสุดๆ’ อยู่ แปลกจริงที่อีกฝ่ายกลับทำท่าขยาดเหมือนเห็นผี “ใครเดือดร้อนเหรอครับ คุณสัปเหร่อ”
“ก็ผมไงครับ คุณพิธีกร ศพเพิ่มขึ้นงานก็เพิ่มนะคุณ หรือคุณจะไปช่วยผมขุดหลุมฝังเจ้าพวกนั้นกันล่ะ” ‘สัปเหร่อ’ ชี้ไม้ชี้มือไปทางบอดี้การ์ดที่กำลังส่งเสียงเห่าหอนอยู่ทางชั้นล่างของสถานค้ากาม
เออ ก็จริงแฮะ
ความจริงก็น่าเห็นใจที่คุณสัปเหร่อต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อกำจัดขยะมูลฝอยอยู่บ่อยครั้งแต่ค่าตอบแทนของเขากลับมีเพียงแค่ซุปเห็ดหอมสองถ้วยต่อวันเท่านั้น ช่างเป็นคนที่จงรักภักดีเหลือเกิน เป็นผมคงลาออกไปนานแล้วล่ะ
“ผมไม่ชอบให้มือผมแตกจากการใช้แรงงานน่ะครับ พอดีผมเป็นระดับสูงที่มี ‘คุณภาพ’…” ผมยิ้มหวานให้แก่คุณสัปเหร่ออีกครั้ง คราวนี้เขาทำหน้าเหมือนอยากจะกัดลิ้นตัวเองตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด อ่า...อะไร? ผมนึกเขาจะทำได้ดีกว่านี้ซะอีก ยกตัวอย่างเช่น เข้ามาประเคนหมัดใส่หน้าผมสักหมัด นี่ผมคาดหวังสูงไปสินะ “ในหลายๆ ความหมายน่ะนะ”
เฮ่อ...ทำไมมีแต่พวก ‘ไม่ได้เรื่อง’ แบบนี้นะ
ถึงหน้าตาคุณจะไม่ผ่าน ก็น่าจะหัดยกระดับนิสัยของตัวเองให้ดู ‘น่าเล่น’ สักหน่อยก็ยังดี คุณสัปเหร่อนี่ไม่ไหวจริงๆ
ตอนนั้นผมได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตกน่ะครับไดอารี่ คุณเข้าใจความผิดหวังในชีวิตของผมดีอยู่แล้วใช่ไหมครับ อย่างที่คุณรู้มานานแล้วว่าผมเป็นผู้ชายที่น่าสงสาร ถึงแม้จะรวย หน้าตาดี และเต็มไปด้วยเสน่ห์ก็ตาม แต่ผมก็ยังต้องถูกขังอยู่ใน ‘ความน่าเบื่อ’ พวกนี้
...เบื่อ จริงแฮะ
เบื่อ...
“โฮ่?” ขณะที่ผมกำลังถอนหายใจอย่างปลงสังเวชอยู่นั้นเอง เสียงสยองที่สุดในสามโลกก็ดังขึ้นทำลายความหน่ายของผมพังไม่มีชิ้นดี เพราะอะไร? เพราะสมองที่มีรอยหยักมหาศาลของผมกำลังถูกแทนที่ด้วยความ ‘หวาดผวา’ นั่นเอง
เสียง ‘โฮ่?’ กวนอารมณ์แบบไม่มีใครเกินอย่างนี้ ตีลังกาฟังผมก็ยังบอกได้ว่านั่นคือเสียงของ...
...ราชาที่น่า (สยดสยอง เลวร้ายเป็นอาจิณ เอาแต่ใจ นิสัยแย่และชอบปั่นหัวผู้ชาย คนอย่างเธอมันไม่มีใคร...) รัก นั่นเองครับ
“ไอ้ตัวไหนมันกระดิกหางดุ๊กดิ๊กขอเศษข้าวนะ?”
พระเจ้า...
นั่นคือคำทักรับอรุณรุ่งอันแสนสดใส โค้ดอาร์ เอ่อ...ผมเคยมั่นใจว่าฝีปากผมไม่เคยมีใครเทียบได้แล้วนะนั่น ยกเธอขึ้นหิ้งบูชาไว้สักคนแล้วกัน ในเมื่อบางประโยคผมก็ลักจำมาจากเธอนั่นเอง
“ไหน...?” เสียงยียวนของสตรีเพศนั้นลากยาวเคล้าเล่น “ขอมือหน่อยซิ โฮ่งๆ”
“กะ...แก! โค้ดอาร์ แกเองสินะที่รนหาที่ตาย”
ผมเลื่อนสายตากลับไปมองบอดี้การ์ดที่ยืนโหวกเหวกอยู่ทางด้านล่าง
...วอนตายตั้งแต่ประโยคแรกยันประประโยคนี้จริงๆ กล้าเรียกโค้ดอาร์ว่า ‘แก’ ซะด้วย...
ก็เอาเซ่!!!
แบบนี้ค่อยน่าสนุกขึ้นมาหน่อย
ร้อยละ 30
ความคิดเห็น