ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฉกหัวใจที่ไร้รัก

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ ๑ ความประทับใจแรก

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 56


     บทที่ ๑

                “ใครขับรถคันนั้น”

                น้ำเสียงกึ่งตวาดของสตรีที่หน้าประตู ทำให้นนท์ละสายตาจากแฟ้มเอกสารไปมองต้นเสียง เขาเห็นผู้หญิงสายตาเอาเรื่อง ยืนชี้นิ้วไปยังรถต้นเหตุ นั่นทำให้นนท์เดาเข้าใจได้ทันที ว่าเหตุใดวรารีรีบเอากุญแจรถมาคืนเขาอย่างลุกลี้ลุกลน     

                “ผมเป็นเจ้าของรถ”

    นนท์ตอบคำถามนั้นด้วยท่าทีนิ่งสงบ เขากำลังรับผิดชอบกับคู่กรณีบนท้องถนนที่ตนเองไม่ได้ก่อ ชายหนุ่มสำรวจเธออย่างรวดเร็ว รอยฝุ่นที่เปรอะเปื้อนด้านซ้ายทั้งแถบ ทำให้เขาใจหาย นนท์คิดไม่ถึงว่าวรารีจะปัดความรับผิดชอบแบบนี้

                “ไม่เคยมีใครสั่งใครสอนเรื่องความรับผิดชอบเหรอ ชนแล้วหนี...จะบ้าหรือไง ฉันใจกว้างมากพอที่จะไม่เอาเรื่องแต่ต้องรู้จักขอโทษกันบ้าง ไม่ใช่ทำแบบนี้...”

                “ขอโทษครับ”

                ผรุสวาจาที่เตรียมมาฟาดฟัน ถูกกระแทกหายไปจากปากเพราะคำขอโทษที่เอ่ยมา ใบบัวไม่เข้าใจว่าทำไมคู่กรณีที่เฉี่ยวเธอจนไถลลงข้างทางเมื่อครู่ จะเอ่ยปากคำนี้อย่างง่ายดาย เพราะก่อนที่หญิงสาวจะยืนท้าวสะเอาเอาเรื่องตรงนี้ได้ ใบบัวก็ต้องบึ่งมอเตอร์ไซด์คู่ใจไล่บี้ตามมาถึงที่นี่  

                “รถของคุณเสียหายมากไหมครับ”

                “มาถามอะไรตอนนี้ ทำไมตอนเฉี่ยวไม่ลงมาดู”

                “ผมบอกว่า...ผมเป็นเจ้าของรถ แต่ผมไม่ได้ขับนี่ครับ ผมทำงานที่ออฟฟิศตั้งแต่เช้ายังไม่ได้ไปไหนเลย แต่ผมยินดีรับผิดชอบครับ...ผมชื่อนนท์ครับ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับ”

                ใบบัวอ้าปากค้างต่อคำอธิบาย เธออึกอักอยู่พักหนึ่งก่อนจะเอ่ยชื่อตัวเองไปเบาๆ หญิงสาวรู้สึกเสียหน้าที่สาดอารมณ์ใส่เขาแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ส่วนนนท์ยิ้มกว้างอีกครั้ง เขาชวนเธอออกไปดูความเสียหายของรถ แต่ยังไม่ทันก้าวพ้นประตูของสำนักงาน นนท์ต้องหันไปมองใบบัวที่เดินตามมาติดๆ เขาเห็นมอเตอร์ไซด์เครื่องยนต์สี่สูบจอดเทียบกับรถของเขาที่ไปเฉี่ยวชนเธอ

                “นี่รถคุณเหรอครับ”

    แม้จะเดาได้ว่าเธอขับมอเตอร์ไซด์ แต่เขาคิดไม่ถึงว่า หญิงสาวตรงหน้าจะห้าวระห่ำขับบิ๊กไบค์คันใหญ่ ใบบัวเองก็เดาสายตาเขาได้ เธอเลิกคิ้วสูงแถมยังลอยหน้าลอยตาไปชี้รอยแผลของรถ

    “เฉี่ยวตรงนี้ แล้วก็รถไถลลงข้างทาง ว่าแต่คนขับอยู่ไหน เขาควรจะมาขอโทษฉัน ไม่ใช่คุณ”

    “คุณใบบัวเจ็บมากไหมครับ ไปหาหมอกันไหมครับ” นนท์เลี่ยงคำคาดคั้นที่เธอเอ่ยมา เขารู้จักวรารีดีกว่าคู่กรณีที่

    ยืนท้าวสะเอวคนนี้ ส่วนเธอจ้องเขาตาเขม็ง เมื่อเห็นว่าชายคนนี้มีทีท่าปกป้องคู่กรณีออกหน้าออกตา

                “คุณมาคนเดียวเหรอครับ”

    “ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องค่ะ ฉันยังไม่ได้รับคำตอบเรื่องคู่กรณี”

    “ตอนนี้คงไม่ได้หรอกครับ เพราะเขาหายตัวไปแล้ว คุณทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ดีกว่า เดี๋ยวผมตามเขาได้จะพาเขาไปขอโทษคุณด้วยตัวเอง”

    “ดีเนอะ...ทำผิดแล้วไม่กล้ารับผิด ถึงเวลาก็มีคนคอยแก้ปัญหาแทนให้”

     “เอาเป็นว่าผมรับผิดแทน เพราะผมเป็นเจ้าของรถ ผมจะจัดการเรื่องค่าซ่อมรถ รวมถึงค่าทำขวัญ...” ยังไม่ทันสิ้นเสียงข้อเสนอ ใบบัวก็สาดอารมณ์อย่างเหลืออดอีกครั้ง

    “ไม่รับข้อเสนอใดๆ ทั้งนั้น ฉันต้องการคำขอโทษจากคนที่ทำผิด” 

                “ผมบอกตรงๆ นะครับ ผมมีประชุมภายในครึ่งชั่วโมงนี้ แต่ผมก็เป็นห่วงคุณด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นผมอยากให้คุณไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการบาดเจ็บ ผมเป็นห่วงจริงๆ ผม...”

                “ฉันต้องการคำขอโทษจากคนทำเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่เงิน อย่าคิดเอาเงินมาฟาดหัวฉันนะ...ทำไม คนๆ นั้นพูดคำนี้ไม่เป็นหรือไง หรือว่าพูดออกมาแล้วธรณีจะสูบไปต่อหน้าต่อตา”

     อารมณ์โกรธของใบบัวแรงไม่น้อยไปกว่าเครื่องยนต์ที่เธอขับขี่ ส่วนนนท์ได้แต่สบตาหญิงตรงหน้า เขากำลังใคร่ครวญว่าจะหาทางออกในเรื่องนี้อย่างไรดี เมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งสงบ อารมณ์หุนหันของใบบัว ทำให้เธอหันไปคร่อมรถมอเตอร์ไซด์อย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มเดินเข้าไปยื้อหมวกกันน็อกในมือไว้ และเริ่มต่อรองกับเธออย่างสุภาพอีกครั้ง

    “ใจเย็นๆ สิครับคุณ ผมแค่ขอร้องให้คุณไปหาหมอเพื่อตรวจร่างกาย...ไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบเลย เอาอย่างนี้นะ ผมขอเบอร์ติดต่อคุณไว้ก่อน ผมยินดีรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุและจะให้คนขับไปขอโทษคุณ”

    “ไม่เป็นไร ฉันว่าเรื่องนี้มันอาจจะไร้สาระในสายตาคุณ เชิญคุณทำงานตามสบาย แต่ฉันบอกไว้ก่อนว่า คนอื่นไม่มาถามไถ่แบบนี้ ถ้าไม่รู้จักสำนึกผิดบนท้องถนน...ก็ควรจะสำนึกในบาปกรรมที่ทำลงไปเสียบ้าง แล้วก็ระวังไว้ด้วยว่าบาปกรรมสมัยนี้มันติดจรวด ไม่ได้มีใครใจดีมาตามทวงคำขอโทษอย่างนี้บ่อยๆ หรอกนะ”

    ใบบัวกระชากหมวกกันน็อกมาจากมือเขา เธอสวมมันอย่างรวดเร็ว และบึ่งรถออกไปอย่างหัวเสีย นนท์ได้แต่มองยืนมองมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ที่ออกตัวไปจนลับตา เขารู้สึกอึดอัดและหงุดหงิดอย่าง ชายหนุ่มอยากรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เจ้าทุกข์เจ้าอารมณ์ก็ไม่รอเวลาให้เขาได้คลี่คลายปัญหาเลย

    “คุณนนท์ครับ จะเลื่อนประชุมไปก่อนไหมครับ”

    “ไม่เป็นไร เริ่มเลยก็ได้”

    นนท์ยังคงยืนนิ่งอีกพักใหญ่ เขาสลัดความรู้สึกที่รุมเร้าในหัวอกออกไปและเดินเข้าไปในสำนักงานเพื่อเริ่มประชุมทันที

    **************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×