คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
โรงเรียนเอกชนชายล้วนxxx
“เชี้ย! พูดงี้ก็วอนตีนดิว่ะ!!!”
“เออ!!! มึงคิดว่าแน่มึงก็มาดิ!!”
เสียงอึกทึกครึกโครมดังสนั่นไปทั่วโรงอาหารกลาง นักเรียนชายรูปร่างสูงโปร่งปล่อยหมัดหนักเข้าที่แก้มขวาของชายร่างเล็กที่เมื่อกี้บังอาจมาท้าทายอำนาจของเขา
“ตัวเท่าควาย…มีแรงแค่นี้ไงว่ะ!!”
คนตัวเล็กรีบกลับมาตั้งหลักแล้วกระโดดถีบขาคู่เข้าที่หน้าท้องของร่างสูงโปร่ง คนร่างโปร่งลอยกระเด็นไปกระแทกกำแพงโรงอาหาร ร่างหนากระทบอย่างแรง การกระทำของทั้งสองเรียกเสียงโห่เชียร์จากนักเรียนที่มุงดูอยู่ได้เป็นอย่างดี ทั้งคู่ต่อยกันไปตีกันมาได้สักพัก อาจารย์ชายท่านหนึ่งก็วิ่งมาด้วยเสียงหอบแฮ่กและพยายามแยกนักเรียนทั้งสองออก แต่แล้วก็โดนถีบเด้งออกมานอกวง ตามด้วยเสียงก่นด่าและดูถูก
“พีช…”
“ซัน…”
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของนักเรียนมุง และความชุลมุนของนักเรียนชาย อยู่ๆบรรยากาศทางประตูโรงอาหารก็เย็นวาบขึ้นทันที นักเรียนทั้งสองหยุดกึก ทำให้เสียงของกองเชียร์เงียบลง นักเรียนที่รุมล้อมแยกออกเป็นทางเดิน เผยให้เห็นเด็กหนุ่มสองคนที่ยกพรรคพวกตามมาเป็นโขยง
คนถูกเรียกทั้งสองรีบเด้งตัวออกห่างจากกันพลางทำหน้าไม่สบอารมณ์
“พ พี่มาทำอะไรที่นี่ฮะ…น…ไหนบอกว่าวันนี้จะไม่ลงมาโรงอาหารไง”
เด็กหนุ่มตัวเล็กพูดเสียงตะกุกตะกัก พลางหลุบตาลงต่ำหลบสายตาเฉียบคมของผู้มาเยือนใหม่
“พี่ก็ด้วย…ลงมาทำไม”
ร่างสูงโปร่งยืนสบายๆพลางลูบท้องตัวเองป้อยๆ ถึงจะแสดงท่าทีต่างกัน แต่คำถามของทั้งคู่ยังคงเอนเอียงไปในทางเดียวกัน
“พีช…ตามชั้นมา เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
คนตัวเล็กสะดุ้งนิดๆก่อนจะเดินตามชายร่างสูงโปร่งหน้าตาเกลี้ยงเกลา ผิวสีน้ำผึ้งออกไปจากโรงอาหาร
“มานี่เลยซัน…”
ทางด้านของคู่อริก็เช่นกัน ผู้ที่มาเยือนใหม่อีกคนพูดเสียงเข้ม แต่ด้วยใบหน้าที่เรียวสวย และดวงตากลมที่พยายามจะทำเป็นดุเรียกเสียงหัวเราะในลำคอจากคนผู้มียศเป็น ‘น้อง’ ได้ดีทีเดียว
แต่แล้วเสียงหัวเราะนั้นก็ต้องกลืนหายลงไปในลำคอ เพราะทันทีที่เสียงหัวเราะขอเขาดังถึงหูของ ‘พี่’ ผู้มาเยือนใหม่ก็ประเคน ‘จระเข้ฟาดหาง’ ให้น้องชายเป็นคำเตือน ซันได้จูบกับพื้นโรงอาหารอย่างดูดดื่มนานสองนานก่อนที่ ‘พี่’ จะเอ่ยปากสั่งผู้ชายร่างโปร่งอีกคนให้ไปลากน้องชายตัวเองขึ้นมา
“โซไปลากไอ่ซันตามชั้นมา ส่วนคัฟไปดูแลอาจารย์ที”
“ครับ!”
คนตัวเล็กขานรับแข็งขันก่อนจะเดินเข้าไปพยุงอาจารย์ที่หน้าช้ำเลือดช้ำหนองนอนกองอยู่ที่พื้นโรงอาหาร หลังจากที่เรื่องชุลมุนจบไป นักเรียนทั้งหลายก็สลายตัวกันไปทำเรื่องของตัวเองต่อ
สวนหน้าโรงเรียน
สนามหญ้าหน้าโรงเรียนเป็นที่รวมกลุ่มของBlack Dragonที่นำกลุ่มโดยนักเรียนม.3 เพียว พีรภัทร โทรามิสึคุนิ ลูกชายคนโตของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่นำเข้าใบชาทุกชนิดจากประเทศญี่ปุ่น
“พี่เพียว…พีชขอโทษ พีชผิดไปแล้ว…พีช..”
“จะมีเรื่องมีราวอะไรพี่ก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่พีชต้องห่วงหน้าตาพ่อกับแม่ด้วย ก็รู้นี่ว่าพวกท่านไม่ชอบ”
เพียวพูดขัด ก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้น้องชาย
“ก็หมอนั้นมันหาเรื่องพีชก่อนนี่!!”
“พีช…”
“ขอโทษ…”
เพียวส่ายหน้าหน่ายๆกับความใจร้อนของน้องชายตัวเอง ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วแล้วลูบหัวน้องชายผู้เป็นที่รักเบาๆ ถึงภายนอกเพียวจะน่ากลัวแค่ไหนแค่จริงๆแล้วเขาเป็นคนมีเหตุผลและรักน้องชายมากกกกกกกกกก!
“พี่เพียว…เย็นนี้ไปดูหนังกันนะ ^^ พีชเลี้ยงเอง!”
“มาไม้ไหนล่ะเรา…แต่ก็เอา เดี๋ยวเย็นนี้พี่พาไปกินไอติม”
“เยส!”
เสียงร้องแสดงความดีใจของคนตัวเล็กดังเล็ดรอดออกจากไรฟัน คนเป็นพี่ได้ยินดังนั้นก็ได้แต่นอนอมยิ้มท่ามกลางสนามหน้าสีเขียวที่มีลมพัดอ่อนๆ
สวนหลังโรงเรียน
สนามหญ้าสีเขียวที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่เป็นแหล่งรวมตัวของกลุ่มนักเรียนที่เป็นอริกับBlack Dragonโดยสิ้นเชิง นั้นก็คือ…Dark Phantom นำทีมโดย นักเรียนม.3 ซีน ซีระ สมิทช์ สันติธิกุล ลูกชายคนโตของบริษัทนำเข้าอันดับหนึ่งแป้งทำขนมทุกชนิด
“พี่ซีน! พี่ทำงี้ฆ่าผมเลยเหอะ!”
ร่างสูงโปร่งพูดเสียงดังแล้วจ้องหน้าพี่ชาย‘คนสวย’ของเขานิ่ง คุณอ่านไม่ผิดหรอก…พี่ชายที่สวยที่สุด แต่ก็ดุที่สุดของซันก็คือซีน
“ได้…โซเอามีดมาดิ ชั้นจะฆ่าหมกศพไอ่ซัน”
“เห้ยพี่!!!!!”
ซันหน้าถอดสี แล้วปรี่เข้าไปเกาะขาพลางขอโทษขอโพยพี่ชายสุดสวยที่แสนจะดุดันอย่างสุดชีวิต ท่างทางแบบนั้นเรียกเสียงหัวเราะจากพี่คนกลางได้เป็นอย่างดี
“พี่โซ ทำไมพี่ไม่ช่วยผม ฮือออ TT^TT”
“โดนซะมั้งจะได้หายซ่า”
โซเดินเข้ามาลูบหัวน้องชายตัวเองอย่างเอ็นดู ทั้งคู่ยิ้มแย้มสนุกสนานจนลืมไปเลยว่ามีเรื่องที่กำลังคุยค้างกันอยู่
“ไอ่ เ ชี่ ย ซัน…ข้าบอกเอ็งแล้วใช่มะว่าอย่าก่อเรื่อง ข้าขี้เกียจตามล้างตามเช็ดให้เอ็ง!”
พี่ชายหน้าสวยตะคอกเสียงดัง ทำเอาซันผงะไปชั่วขณะหนึ่งแต่เจ้าตัวก็รีบปั้นสีหน้ากลับมาให้เป็นปกติ ซันยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาซีนอย่างกล้าๆกลัวๆ ซีนจ้องอย่างคาดโทษ ซันทำหน้าสำนึกผิดแล้วก้มหัวขอโทษพี่ชายอย่างจริงๆจังๆ
“เอาน่าพี่…เจ้าตัวก็สำนึกผิดแล้ว อย่าไปดุมันอีกเลยนะ^^”
“เฮ้อออ…แกก็อีกคนไอ่โซ ให้ท้ายน้องมากๆเดี๋ยวมันก็เคยตัว”
“พี่คิดมากเกินไปต่างหากเล่า”
“พี่ไม่ได้คิดมานะเว้ย แต่แกลองคิดดูดิ มีเรื่องในโรงเรียนอะพอว่า แต่ถ้ามันไปมีเรื่องกับพวกนอกโรงเรียนล่ะ ถ้ามันโดนซุ่มตีแล้วลากไปฆ่า แล้วๆๆๆๆๆๆ”
ผู้เป็นพี่ร่ายยาว ทำเอาน้องๆเผลอยิ้มกับความคิดมากของพี่ชายคนสวยไม่หยุด พอซีนรู้สึกตัวก็หน้าแดงแล้วรีบหันหนีน้องๆทันที
“อ เอาเถอะ! ครั้งนี้ถือว่าเจ๊าไป มีอีกทีชั้นจับแก ‘ตอน’ แน่!!!!”
Rrrrrrr. Rrrrrrrrrrrrr.~
สิ้นคำขู่ของซีนไอโฟนของเขาที่อยู่ในกางเกงนักเรียนก็สั่น เขาหยิบมันขึ้นมาก่อนจะกดรับแล้วกรอกเสียงเอื่อยๆลงไป
“ครับแม่…”
[ซีนเหรอลูก เย็นนี้ลูกว่ามั้ย?]
“ก็ว่างครับ แต่ก็กะว่าจะไปเดินโรกับพวกน้องๆ”
[งั้นเหรอ งั้นแม่ขอเป็นวันหลังนะลูก วันนี้พ่อเขาอยากให้เราไปทานอาหารกับเพื่อนเขาน่ะ]
“ครับ เข้าใจแล้วครับ จะบอกน้องๆให้นะครับ”
ติ๊ด..
“มี้ว่าไงอ่ะพี่”
ซันถามขึ้นหลังจากที่ซีนเก็บไอโฟนลงกระเป๋ากางเกงดั่งเดิม
“เย็นนี้พ่อให้ไปกินข้าวกับเพื่อนเขาน่ะ”
“เย่~ วันนี้ก็อิ่มจังตังอยู่ครบ ^O^”
ซันดี๊ด๊าแล้วเกลือกกลิ้งบนพื้นหญ้า ซีนเห็นแบบนั้นก็เกิดหมันไส้ขึ้นมาทันที
“แล้วแม่จะว่าไงน้า ที่หน้าแกจ้ำเขียวจ้ำแดง…จะว่าไปแกโดนกระโดดถีบแบบนั้นไม่คิดจะเจ็บหน่อยไง?”
“เจ็บนะพี่ แต่ไม่มากอ่ะ หมอนั้นตัวเบาจะตาย”
พี่ชายทั้งสองมองหน้ากันอย่างงงๆพลางคิดไปต่างๆนาๆ
ทำไว้ซะแสบเลยนะ เจ้าจิ๋ว! ซันกัดฟันกรอดพลางลูบท้องตัวเอง เจ็บชะมัด!!
หลังจากที่ออดดังโซก็ขอตัวกลับเข้าห้องเรียนทันที ส่วนซันที่ไม่อยากจะขยาดไปไหนแต่โดนซีนเตะตูดไล่ไปเรียนก็เลยต้องจำใจไป ตอนนี้สวนหลังโรงเรียนว่างเปล่า เหลือเพียงซีนที่นอนเอนกายอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ซีนมองท้องฟ้าผ่านช่องโหว่ของใบไม้น้อยใหญ่ที่แข่งกันบานสะพรั่งอยู่เหนือหัวของเขา
สายลมอ่อนพัดเบาๆ นำกลิ่มหอมของดอกไม้นานาชนิดปลิวมาเตะจมูกของซีนเบาๆแล้วผ่านไป ทุกวันนี้ซีนก็ยังคงคิด คิดมาตลอด…ว่าDark Phantom กับ Black Dragon เป็นศัตรูคู่อริกันได้อย่างไร เพราะเท่าที่จำได้ เขายังไม่เคยคุยกับหัวหน้ากลุ่มBlack Dragon เลยสักครั้ง แม้เพียงสักครั้งเดียว แม้แต่ชื่อ…เขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ
ทั้งๆที่เขารักความสงบ แต่กลับต้องมาพยายามคุมคนหลายสิบคนเพียงเพราะเขาแข่งแกร็ง…
เวลาล่วงเลยลับไปถึงเลิกเรียน สามพี่น้องตระกูล สมิทช์ สันติธิกุล เดินลงมาจากตึกเรียนเตรียมจะขึ้นเบนซ์สีดำขลับที่จอดรออยู่หน้าโรงเรียน ซันที่เดินเอื่อยๆคุยกับโซก็ไปชนเข้ากันเด็กคนหนึ่ง
ซันก้มหน้ากะจะขอโทษ ส่วนคนตัวเล็กก็เงยหน้าขึ้นมาเพื่อจะขอโทษเหมือนกัน ตอนนี้ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่ถึง 3cm.ด้วยซ้ำ
“ขอโท…นาย!”
“อะไรกัน นายหรอกเหรอ- -”
คำขอโทษของทั้งสองฝ่ายถูกกลืนลงคอ ทั้งคู่จ้องหน้ากันอย่าจะกินเลือดกินเนื้อ แล้วไม่ลืมที่จะเด้งตัวออกห่าง
“พีช! อยู่…อยู่นี่…นี่เอง…แฮ่กๆ…พี่ตามหา…ตั้งนานนะ”
ร่างบางอีกคนวิ่งเข้ามาหาพีช เขาพูดพลางหอบแฮ่ก จากที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วพีชก็ชักสีหน้าอารมณ์บูดขึ้นไปอีก คนที่วิ่งมาใหม่ได้แต่มองอย่างห่วงใย ไม่นานนักเพียวก็เดินมาพาตัวน้องเดินออกไป
“ผมต้องขอโทษแทนน้องชายของผมด้วยนะครับ”
ร่างบางก้มหัวขอโทษซันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำเอาซันผงะไปเล็กน้อยแต่ก็บอกปัดว่าไม่เป็นไร
“ผมก็ขอโทษในความไม่มีมารยาทของน้องชายด้วยครับ^^”
โซยิ้มพลางกล่าวขอโทษฝ่ายนู้นเหมือนกัน ซีนและซันมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ เพราะถึงโซจะใจดียังไง ก็หาได้ยากที่คนอย่างเขาจะกล่าวขอโทษหรือขอบคุณใครต่อใคร นอกจากว่า…คนๆนั้นจะทำให้โซสนใจจริงๆ
“ขอตัวนะครับ”
ร่างบางโค้งให้บางๆก่อนจะวิ่งตามพี่น้องของตัวเองไป แผ่นหลังหายลับไปกับเสียงปิดประตูเบนซ์สีดำที่จอดอยู่ที่ประตูหลัง
“พั้นช์…พันธกร โทรามิสึคุนิ…หึ น่าสนใจ”
โซรำพึงกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินนำพี่น้องของตัวเองขึ้นเบนซ์คันงามที่จอดรอพวกเขามานานไม่ใช่น้อย ซีนมองน้องชายของตัวเองอย่างพยายามเข้าใจ เด็กคนนั้นมีอะไรน่าสนใจกว่าตัวเขางั้นเหรอ…
“ไปกันได้แล้วซัน”
ซีนหันมาบอกน้องชายของตัวเอง ซันก้มลงหยิบบางอย่างก่อนจะหันกลับเดินตามพี่ชายคนสวยไป…ซุ่มซ่ามชะมัดเลยเจ้าจิ๋ว ซันคิดกับตัวเองพลางมองกระเป๋าตังสีดำ
ตอนอยู่บนรถซันนิ่งเงียบ เขาถือวิสาสะเปิดกระเป๋าตังดู สิ่งแรกที่สะดุดตาของซันเลยคือบัตรนักเรียน ซันปรายตามองรูปนั้นอย่างตะลึง ที่เขาเห็นไม่ใช่เจ้าจิ๋วที่เค้าคอยทะเลาะด้วยบ่อยๆแต่เป็นเด็กหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาล ผิวขาวใส ใส่แว่นตาหนาเตอะ แก้มป่อง ตากลมโตส่องประกายเพราะแสงแฟช จมูกโด่งนิดหน่อยนั้นรับกับริมฝีปากเอิบอิ่มสีชมพูระเรื่อ เขาเผลอใจเต้นไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะเตือนสติตัวเอง เขาจะเผลอใจให้คนอื่นไม่ได้…เพราะเขามี ‘คนๆนั้น’ อยู่แล้วทั้งคน
เบนซ์สีดำคันงามจอดสนิทที่หน้าคฤหาสน์ของตระกูล สันติธิกุล คุณชายทั้งสามเดินลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้าน นำด้วยพี่ชายคนโต ส่วนพี่คนรองและน้องคนล็กเดินคุยกันเรื่องสัพเพเหระ
“กลับมาแล้ว ที่รักลูกกลับมากันแล้วนะ”
“Oh กลับมากันแล้วๆ”
พี่น้องทั้งสามยกมือไหว้แม่ของเขาแล้วเดินเข้าไปกอดคุณพ่อ พ่อและแม่เดินนำพวกเขาไปยังห้องนั่งเล่นแล้วนั่งคุยกันสักพักก่อนจะบอกให้ลูกๆของเขาขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวไปพบเพื่อนซี้ที่สนิทกันมาตั้งแต่มหาวิทยาลัยของเขา
เวลาผ่านไปลีมูซีนคันยาวก็จอดสนิทที่หน้าภัตตราคารอาหารจีนแห่งหนึ่ง ครอบครัวสันติธิกุลเดินลงจากรถพร้อมหน้ากัน คุณชายทั้งสามสวมเสื้อยืด กางเกงยีนส์ และรองเท้าผ้าใบเท่านั้น ถึงผู้เป็นแม่จะหว่านล้อมให้ใส่สูทแล้วแต่พวกเขาก็ยังคนค้านหัวชนฝา ในที่สุดผู้เป็นแม่ก็ยอมแพ้แล้วปล่อยลูกๆของเธอแต่งตัวตามต้องการ
“คราวหลังไม่เอาแล้วนะ แม่ไม่ชอบให้ลูกแต่งตัวแบบนี้เลย”
เธอยังคงติติงพวกเค้าทั้งสาม แต่ผู้เป็นสามีกลับหัวเราะชอบใจ เขาชวนภรรยาคุยนู้นคุยนี่แล้วหันไปขยิบตาให้ลูกๆเป็นนัยว่าอย่าไปสนใจเรื่องที่แม่เขาพูดเลย ลูกชายทั้งสามยกยิ้มราวกับเป็นผู้ชนะแล้วเดินตามผู้เป็นพ่อเข้าไปในภัตตราคาร
ทันทีที่พนักงานทราบชื่อก็แทบจะกรูกันเข้ามาต้อนรับ ทำให้ลูกค้าที่อยู่ในนั้นมองครอบครัวสันติธิกุลเป็นตาเดียว ตกเป็นเป้าสายตาพอเป็นพิธีพนักงานก็เดินนำไปยังห้องรับแขกVIP จากภายนอกติดฟิล์มกรองแสงสีดำสนิท แต่พอเปิดประตูเข้าไปด้านในกลับหรูหรา ไฮโซ เครื่องเรือนสีเงินวาวถูกประดับอยู่บนตู้โชว์ไม้สักสีสวย ต้นไม้สีเขียวสดประดับพองามทุกมุมห้อง และที่เป็นจุดเด่นที่สุดคงจะเป็นสิงห์หยกคู่ตัวยักษ์ที่ประดับอยู่ที่กำแพงลายมังกรที่วาดด้วยพู่กัน
“ริว!”
ประธานบริษัทSchmitz Santikul Group หรือที่เรียกติดปากกันทั่วไปว่า SSG เอ่ยปากเรียกเพื่อนรักเสียงก้อง คนถูกเรียกเงยหน้าขึ้นจากเมนูอาหารแล้วหันหลังมาทักทายเพื่อนซี้เช่นกัน
ซีรญา นายหญิงใหญ่สะกิดแขนลูกชายคนโต พลางบอกให้เขายิ้มบ้าง ไม่ใช่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนี้ ซีนชักสีหน้าเล็กน้อยแต่ก็ทำตามที่ผู้เป็นแม่บอก
เสียงเอี๊ยดอ๊าดจากการเสียดสีของเก้าอี้กับพื้นหินอ่อนเป็นสัญญาณว่าแขกได้ร่วมวงอาหารเย็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซัน(พยายาม)ส่งยิ้มแฉ่งไปให้เด็กผู้ชายตัวเล็กตรงหน้า อีกฝ่ายก็เช่นกัน แต่แทบจะทันทีที่สายตาคู่นั้นประสานกันทั้งคู่ก็ลุกขึ้นชี้หน้ากันอย่างลืมตัว
“นาย!!/นาย!!”
“อย่ามาพูดตามชั้นนะ!/อย่าเลียนแบบชั้นนะ!”
เสียงของทั้งคู่ดังสอดประสาน พีชและซันมองหน้ากันอย่าเคืองๆ แต่ซันเป็นฝ่ายหลุบตาต่ำก่อนเพราะเนื้อด้านหลังของเขาถูกบิดจนเป็นเกรียว
“เจอกันอีกแล้ว บังเอิญจังเลยนะ”
ซีนเปรยออกมาเบาๆ แต่ดังพอจะทำให้คนบนโต๊ะอาหารได้ยิน
“อ่าว รู้จักกันแล้วหรอกเหรอ?”
ผู้เป็นพ่อมองหน้ากันก่อนจะถามออกมาพร้อมเพรียง ซีนกับเพียวนิ่งเงียบไม่พูดหรือแสดงท่าทีอะไร ส่วนซันกับพีชก็ก่นด่ากันเองเบาๆ เหลือเพียงแต่โซที่ยิ้มแก้มปริ และพั้นช์ที่พยายามปลอบพีชเลิกลั่ก
“พวกเราอยู่โรงเรียนเดียวกันครับ พี่ซีนก็เรียนห้องเดียวกับคุณพีรภัทร ผมเรียนห้องเดียวกับคุณพันธกร ส่วนเจ้าซันก็เรียนห้องเดียวกับคุณพีรัณญ์น่ะครับ”
โซอธิบายเองเสร็จสรรพ
“บังเอิญจริง!”
ผู้ปกครองทั้งสี่ท่านอุทานออกมาพร้อมกัน โซที่กำลังจะต่อเติมว่าทุกคนเป็นคู่อริกันก็ได้แต่ยิ้มฝืดๆแล้วเงียบปากไป
“Good job! รักกันไว้แบบนี้ดีที่สุด”
“ใช่เลย!”
หลังจากนั้นสองหนุ่มวัยกลางคนสนทนาถึงวันเก่าๆที่พวกท่านเรียนด้วยกัน ทำกิจกรรมด้วยกัน พลางยกสุราจิบไป ส่วนสองสาวใหญ่ก็เม้าส์มอยถึงแฟชั่นนู้นนี่นั่น ดูท่าแล้วถูกคอกันใหญ่ สองสามีเห็นภรรยาเข้ากันได้ดีก็เบาใจไปเปราะหนึ่ง แต่ก็มีปัญหาใหญ่…ลูกชายของพวกเขานั้นไง
“เด็กๆไม่ค่อยทานอะไรกันเลย อาหารไม่ถูกปากเหรอจ๊ะ”
นายหญิงใหญ่แห่งบริษัทนำเข้าใบชาที่เลื่องลือ Cha Toramisukuni หรือที่เรียกติดปากกันว่า Cha TR เอ่ยปากถามหลังจากที่สังเกตมาพักใหญ่
“ไม่หรอกฮะ อาหารอร่อยมากเลย เพียงแต่…”
ซันละไว้แล้วปรายตามองเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะหัวเราะหึหึ ทำเอาคนถูกมองหน้าบูดไปทันที
“จริงสิ มาคุยกันหน่อยเป็นไง…เรื่องปิดเทอมหน้าร้อนน่ะ”
จู่ๆประธานใหญ่SSGก็เอ่ยขึ้นทำลายความอึมครึมขณะนั้น เด็กหนุ่มหันมามองอย่างไม่ค่อยชอบใจ
“อย่ามองแบบนั้นสิมันเสียมารยาทนะลูก”
นายหญิงทั้งสองหันไปปรามเหล่าลูกชายตัวไม่น้อยของตัวเอง
“น่าสนนี่เซอร์! น่าสนใจจริงๆ”
ประธานริวส่งเสริม พวกเขาคงเห็นพร้อมต้องกันที่จะทำให้ลูกๆของเขาสนิทกันมากกว่านี้ นายหญิงทั้งสองก็พยักหน้าเห็นด้วย ในเมื่อผู้ใหญ่เขาเห็นด้วย มีเหรอที่คนที่รู้หน้าที่อย่างพี่ชายคนโตจะไม่เข้าใจสถานการณ์
“ผมก็เห็นด้วยกับคุณพ่อแล้วก็คุณอานะครับ เพราะยังไงมันก็เป็นโอกาสที่จะทำให้พวกเราสนิทกันมากขึ้นแล้วด้วย”
ซีนเสริมทำเอาซันกลายเป็นหมาหงอยไปในทันที พีชยกยิ้มกรุ่มกริ่ม
“ผมก็เห็นด้วยนะครับ อาทิตย์หน้าพวกอาจารย์จะไปสัมมนาโรงเรียนพวกเราหยุด ถ้าไม่รบกวนยังไงก็ใช้ช่วงเวลานั้นเถอะครับ”
เพียวเสริมอีก คราวนี้พีชเป็นฝ่ายกลายเป็นหมาหงอยไปอีกคน กลายเป็นว่าทริปที่พีชกับเพียวจะไปเที่ยวเกาะสมุยก็เป็นอันยกเลิกไป
“ผมก็ว่าดีนะครับ ผมอยากรู้จักคุณพันธกรให้มากกว่านี้ด้วยน่ะสิครับ^^”
โซมองพั้นช์ไม่วางตา และดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้ด้วยว่าถูกมอง แก้มสีซีดนั้นจึงขึ้นสีระเรื่อ
“อุ๊ยต๊าย! ไม่ต้องเรียกคงเรียกคุณหรอกจ๊ะ เรียกชื่อเล่นเฉยๆก็ได้ น้าไม่ว่า โฮะๆ^O^”
“ทางนี้ก็เหมือนกันนะจ๊ะ แม่ว่าเรียกชื่อเล่นมันดูสนิทสนมกันมากกว่าเรียกคงเรียกคุณอะไรนั้นอีกนะ โฮะๆ ^O^”
“โธ่..คุณแม่”
พั้นช์เหลือบมองคุณแม่ยิ้มๆ โซเห็นดังนั้นจึงได้ใจใหญ่
“งั้นก็…ฝากตัวด้วยนะ พั้นช์”
มือหนาถูกยื่นออกไป มือเรียวยื่นตอบ ทั้งคู่จับมือกันเนินนาน และดูเหมือนอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันนานเกินไป
ปัง!
ซีนใช้มือกระแทกโต๊ะดังปัง! จนทั้งสองคนต้องรีบปล่อยมือออกจากกัน ซีนขอตัวออกไปเข้าห้องน้ำตามด้วยซัน ทุกคนมองหน้ากันอย่างงงๆ แต่มีเพียงคนเดียวที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงท่าทีแต่อย่างใด…โซ
หินอ่อนขัดเงาสีดำขลับรับกับหินอ่อนสีเทาขัดเงาและไม้ประดับต้นเล็กที่วางอยู่ข้างๆอ่างล้างมือ ซีนมองตัวเองในกระจกไม่ว่างตาพลางตั้งคำถามมากมายขึ้นกับตัวเอง
ทำไมต้องไม่พอใจ…
ทำไมต้องอารมณ์เสีย…
เพราะโซ…เพราะรักงั้นเหรอ…
ในขณะเดียวกัน สายตาที่ปกติจะวอนอวัยวะเบื้องล่าง แต่บัดนี้กลับลึกลับจนน่ากลัวมองผ่านหินอ่อนขัดเงามายังพี่ชายตัวเอง สายตาที่ไม่ใช่เพียงความสัมพันธ์ทางสายเลือด…สายตาที่ใช้มอง…คนที่แอบรัก
เพราะเรารักโซ…
เพราะเราแอบรักโซงั้นเหรอ!?!
ความคิดเห็น