ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ให้เธอหมดใจ แม่สาวหลงยุค::บทนำ
"นี่...รจนาโยนพวงมาลัยเสียลูก"
นางมลฑามารดาของรจนาเร้งเร้าอย่างอดใจไม่ไหว
"ลูก...ไม่ต้องการมีคู่นี่เพคะ"
รจนาพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าอิดออดเหมือนต้องการความเห็นใจถึงแม้จะรู้ดีว่าไม่มีทาง ก็เธออายุ 24 แล้วนี่นา
"ไม่ได้นะเจ้าต้องมีคู่ครองจะได้มีผู้สืบบัลลังก์พาราณสีต่อไป"
แม่ของเธอแย้งเพราะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ลูกสาวคิด
"แต่ลูกยังไม่พร้อมนะเพคะเสด็จแม่"
"แต่แม่เห็นสมควรแล้วนะลูก โยนพวงมาลัยเถิด..."
นางมลฑาพูดกล่อมหวังจะให้รจนาคล้อยตาม แต่การคิดแบบนั้นมันผิด!
"เสด็จแม่ไม่เคยเห็นใจลูกเลย เสด็จแม่ใจร้าย!"
เธอพูดเสียงสั่นเครือพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลรินออกมาอย่างเสียใจพลางทิ้งพวงมาลัยในมือลงอย่างผิดหวังแล้วเดินหนีไป
"รจนา..! เดี๋ยวก่อน รจนา!"
ตึก! ตึก! ตึกๆ!
รจนาเดินลงส้นอย่างแรงเหมือนอยากจะระบายออกมา ก่อนจะปาดน้ำตาลวกๆ ด้วยใบหน้างองั้ม
"ทำไมนะ เหตุใดเสด็จแม่จึงไม่เห็นใจข้าเลยคุณท้าว"
เธอถามอย่างอยากรู้
"โถ...พระธิดา ขอทรงอย่าน้อยพระทัยไปเลยนะเพคะ พระมเหสีทรงห่วงใยพระธิดานะเพคะ จึงได้เลือกสรรชายที่เพียบพร้อมมาหะ..."
ยังไม่ทันที่คุณท้าวจะพูดจบเธอก็แทรกด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า
"เจ้าก็อีกคนรึคุณท้าว! เป็นเหมือนกันหมด!"
....................
ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคกลาง ในวันรับปริญญา ขณะเดียวกันกลุ่มนักศึกษาที่มีกันอยู่ 6 คน กำลังเกาะกลุ่มกันถ่ายรูปเนื่องจากวันนี้เป็นวันที่พวกเขาจบ ป.ตรี
"อ้าว...ยิ้มนะครับ หนึ่ง...สอง...สาม"
เสียงช่างภาพบอกพลางกำลังปรับเลนส์กล้องซึ้งนักศึกษาทั้ง 6 คน ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี
"อา...สวยครับ"
ช่างภาพบอกก่อนจะเปิดภาพที่ถ่ายเมื่อครู่ดู
"ทีนี้ถ่ายเป็นคู่นะครับ คู่ไหนก่อนดีเอ่ย"
นายช่างภาพถาม
"ไอริณ...ถ่ายด้วยกันนะ"
ซันเดย์ชวนด้วยใบหน้ายิ้มอย่างมีความสุข
"หืม...แฟนชวนทั้งทีคงปฏิเสธลงหรอกจ๊ะ"
"อะแฮ่ม!"
แพรวสาวสวยเรียบร้อยในกลุ่มแกล้งกระแอมหยอก ก็เพราะสองคนนั้นทำหวานเกินหน้าเพื่อนแบบนี้นี่ เธอคงเจ็บใจน้อยกว่านี้หากเธอเองไม่ได้มีใจให้ซันเดย์แต่เธอก็ยังฝืนทำหน้ายิ้มอยู่
"หวานกันจังนะ ไม่เห็นใจคนไร้คู่อย่างฉันเลย"
แพรวพูดโดยแกล้งทำหน้างอนใส่
"ถ้าอยากได้คู่สักคน หัวใจของฉันก็ยังว่างนะแพรว สนใจป๊ะ"
ต้อมหนุ่มหล่อทะเล้นฝาแฝดของตุณย์พูดกวนพลางทำมือเป็นรูปหัวใจเอาไว้ที่อกข้างซ้าย
"หนอยแนะ! ไอ้น้องรัก เฉยเป็นมั้ยเนี้ย"
ตุณย์ถามหลังจากที่จัดมะกอกหนึ่งลูกใหญ่ให้ที่หน้าผากของต้อมอย่างอดไม่อยู่กับความซนของไอ้น้องชาย
"โอ๊ย...พี่ทำผมอีกแล้วนะ ถามจริงไม่สงสารน้องบ้างหรอ"
"ไม่โว้ย...! แกมันหน้าถีบ ไม่มีความหน้าสงสารโว้ย!"
"ฮะๆ ฮะ พอได้แล้วพี่น้องคู่นี้เนี้ยะ"
สุดท้ายแพรวก็เป็นฝ่ายระงับมวย'ศึกสายเลือด'โดยที่หัวเราะออกมาน้อยๆ
"โอ๊ย! ช่างมันเถอะ แพรว...เราถ่ายรูปด้วยกันนะ"
เมธีพูดตัดบท
"ได้สิ เพื่อนขอเราพร้อมจัดให้"
แพรวรับคำยิ้มๆ ก่อนจะหันไปทางซันเดย์และไอริณอีกครั้ง
....................
"คุณท้าว! ข้าอยากออกไปนอกวังหลวง"
รจนาเดินมาทำหน้าบึ้งใส่คุณท้าวที่กำลังร้อยพวงมาลัยอยู่
"ไม่ได้นะเพคะ พวกเกิดอันตรายขึ้นกับพระธิดา แล้วพระมเหสีจะทำยังไงเพคะ"
คุณท้าวพูดหลังจากวางเข็มร้อยมาลัยลงบนพานดอกไม้
"เถอะน่าคุณท้าว...ถือว่าออกไปเปิดหูเปิดตาก่อนเข้าพิธีอภิเษกไง ข้าขอเสด็จแม่แล้ว"
รจนาพูดโกหกไปด้วยแววตาใสซื่อ บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ละออเอี่ยม
"จะดีรึเพคะ"
คุณท้าวถามเพราะต้องการความแน่ใจ
"แน่สิคุณท้าว รีบไปเปลี่ยนชุดไป"
"เพคะพระธิดา"
นางพูดก่อนจะเก็บพานดอกไม้แล้วเดินออกไป
"ฮะๆ ง่ายกว่าที่คิด เดี๋ยวหนีออกจากวังซะเลย"
รจนาพูดปนหัวเราะอย่างถูกใจก่อนจะแลบลิ้นใส่ประตูหนึ่่งที ครั้นออกจากกำแพงเมือง
"คุณท้าว ห้ามทำตัวมีพิรุธเด็ดขาดเจ้าจงทำตัวให้เหมือนสามัญชนทั่วไป"
"เพคะพระธิดา"
"เราไปดูตตรงนู้นกันเถิด"
นางชวนพลางชี้ไปทางร้านขายเครื่องประดับที่ตั้งอยู่ในตลาดใต้ต้นมะม่วง
"งามนัก...เท่าใดรึ"
รจนาถามพร้อมกับดูต่างหูหยกไปพลางก่อนจะเหลือบไปเห็นชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ซึ่งกำลังหาเรื่องชาวบ้าน
"เอ็งมีปัญหารึไงบอกให้จ่ายอัฐมา!"
มันวางท่าทั้งยังกระชากคอเสื้อคนแก่มาใกล้หน้ามัน ด้วยความที่เธออยู่เฉยไม่เป็น คุณความสงสารและดับเบิ้ลอยากรู้จึงทำให้เธอตรงดิ่งไปหาชายคนนั้น
"นี่เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ! เจ้าหาเรื่องคนชราเจ้ามา...ไอ้คน...ขี้เอาเปรียบ!"
"เอ๊ะ! อีนางนี้มาสอดอะไรเรื่องของชาวบ้านวะ"
มันหันมาถามเธอด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวพลางปล่อยเสื้อชายชราลงอย่างไม่ปราณี
"ก็ข้าทนไม่ได้กับสิ่งที่เจ้าทำนี่!"
....................
"นี่แวะไปกินเค้กกันดีมั้ย"
แพรวซึ่งกำลังเดินกับเพื่อนทักขึ้น
"อืม...นั้นน่ะสิ ร้านโปรดของพวกเราก็ไม่ได้ไปนานแล้วด้วย"
ซันเดย์ออกความคิดบ้าง
"โอเค! วันนี้จะเหมาช็อคเค้กให้หนำใจเลย"
ต้อมบอกด้วยท่าทางกระโดกกระเดกก่อนจะหันหน้ามาหาพี่ชายสุดหล่อด้วยใบหน้ายิ้มแห้ง
"พี่ตุณย์กัฟ เลี้ยงน้องต้อมหน่อยได้ป่ะกัฟ"
ต้อมหันหน้าไปเว้าวอนพี่ชายที่เดินออยู่ข้างๆ
"อ๋อ...ได้สิน้องรัก แต่วันนี้กินมะกอกไปก่อนนะ!"
ตุณย์ตอบอย่างหมั่นใจเป็นครั้งที่2
"พี่ใจร้าย! ซื้อเองก็ได้ ชิเชอะ!"
ต้อมพูดด้วยความน้อยใจด้วยใบหน้าบูดบึ้งทั้งลูบหน้าผากป้อย
"ฮะ ฮะๆ ฮะ"
แพรวที่เงียบอยู่นานเผลอหัวเราะออกมาบ้างกับความไม่ธรรมดาของตุณย์และต้อม
"แพรว...รู้มั้ยว่าแพรวยิ้มสวยมากเลย หัดยิ้มซะบ้างนะ"
เมธีบอกหลังจากที่เดินข้างแพรว
"จริงหรอ..."
"จริงสิ เดี๋ยววันนี้เมธขอเลี้ยงเค้กแพรวนะ"
"จ้า..."
"แนะๆ สงสัยว่ากลุ่มเราคงจะมีคู่รักอีกคู่แล้วมั้ง"
ต้อมพูดแซวทั้งสองโดยที่ลืมความบาดหมางกับพี่ชายเสียสนิท
เขาถามญิงสาวที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงอย่างต้องการคำตอบด้วยความปวดร้าว
"แพรว...เราจะอยู่ข้างเธอนะ"
เขาพูดก่อนจะจุมพิตลงบนหน้าผากของเธอเบาๆ ก่อนเดินออกห้องไป
เช้าวันต่อมา...
"นี่! เร็วเข้าเดี๋ยวก็ไปสมัครเรียนโทไม่ทันหรอก"
แพรวซึ่งวิ่งนำเพื่อนอยู่หันไปเร่งเพื่อนๆ ที่กำลังวิ่งตามมา
"ยัยบ้า! คิดว่าเพื่อนเป็นปรอทรึไงฮะ!"
ซันเดย์ตะคอกด่าเธอหลังจากที่วิ่งเข้ามาหยุดอยู่ข้างๆ
"เห็นใจเพื่อนบ้างสิ!"
รอบนี้ทำเอาแพรวยืนตัวแข็งทื่อ เพราะตั้งแต่ที่คบกันมาไม่เคยมีเพื่อนคนไหนว่าเธอแบบนี้เลย ทั้งซันเดย์ยิ่งแล้วใหญ่เพราะเขาไม่ค่อยมีอารมณ์โกรธ
"แล้วทำไมซันต์ต้องดุแพรวด้วย"
แพรวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อยน้ำตาเริ่มคลอเบ้า
"เพราะฉันทนไม่ไหวแล้วไง! เธอโดนเพื่อนเอาใจจนเคยตัวแล้ว หลายครั้งแล้วนะที่ไอรินต้องเจ็บตัว เพราะเธอ!!!"
เขาตะคอกใส่เธออีกครั้งก่อนจะช่วยพยุงร่างไอริให้ยืนขึ้น
"ซันต์...ซันต์พอได้แล้วนะ แพรวเค้าก็แค่เป็นห่วงกลัวพวกเราจะไปสมัครเรียนไม่ทันนะ"
ไอรินพูดห้ามแฟนหนุ่มทันที
"นั่นน่ะสิไอ้ซันต์ แกเห็นแฟนดีกว่าเพื่อนหรอว่ะ"
ต้อมห้ามทัพบ้าง
"ก็ยัยนั่นมันตัวปัญหาหนิ!"
"หากแพรวเป็นตัวปัญหา แพรวไปจากทุกคนก็ได้!!"
เธอพูดพร้อมทั้งน้ำตาก่อนจะวิ่งหนีไปด้วยควมเสียใจ
"ไอ้บ้าเอ๊ย!"
เมธีพูดก่อนจะจัดการซัดหมัดเข้าที่แก้มซันเดย์อย่างต็มแรง
...................
"ปล่อยข้านะ! ข้าบอกให้ปล่อย!"
รจนาพยายามดิ้นให้หลุดจากมือที่จับแขนเธอไว้แน่น
"ปล่อยให้โง่สิวะ สวยๆแบบนี้เนี๊ยะ...ของหายาก"
มันพูดยั่วแถมยังเอามือไล้แก้มขาวนวลของเธออีกต่างหาก
"อี๋...อย่ามาแตะต้องข้า คุณท้าว! ช่วยข้าด้วย!"
เธอพูดด้วยวาจาสุดจะรังเกียจ ถึงมันจะหล่อก็เถอะแต่ถ้าเทียบกับกิริยาแล้วล่ะก็...
...ขี้เหล่ยิ่งกว่าเขียดตับปาดอายุพันปีเป็นร้อยเป็นพันเท่าคูณหมื่นบวกด้วยแสน...
"ร้องเลย! จ้างให้ก็ไม่มีใครได้ยิน"
มันพูดพลางแสยะยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
"เจ้ามันชั่วช้านัก!!"
"เออ! ข้ามันชั่วช้า แล้วข้านี่แหละจะทำให้เอ็งสยบแทบเท้าข้า!!"
มันพูดด้วยอารมณ์ฉุนสุดขีดก่อนจะรั้งศีรษะเธอให้ไปแนบกับปากมัน(แงๆช่วยนางเอกด้วย:รจนา)
"อ่อย! อ่อยอะ อ่อย!"(ปล่อย! ปล่อยนะ ปล่อย!)
เธอพยายามพูดพยายามดิ้น แต่ไม่สำเร็จเพราะแรงมันเยอะกว่า วินาทีนั้นเธอรู้สึกสำนึกผิดมาก ไม่อยากคิดแม้แต่จะมาที่นี้อีก เธออยากกลับไปเลือกคู่ดังที่แม่เธอบอกคิดแล้วน้ำตาก็เริ่มไหลออกมาเป็นสาย เธอสะอื้นฮึกๆ เหมือนมันจะรู้สึกแล้วว่าเธอร้องไห้เพราะว่าน้ำตาเธอเปื้อนหน้ามันด้วย มันค่อยๆผละหน้าออก
"สมน้ำหน้า"
มันพูดเยาะประกอบกับเลียริมฝีปากตัวเอง
"ไอ้เลว!"
เธอกัดฟันกรอดอย่างโมโหก่อนจะซัดหมัดเข้าที่แก้มมันเต็มแรง จนมันล้มฟุบลงไปกับพื้น ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งออกไปข้างนอก แต่โชคร้ายดันไปเจอกับลูกน้องของมันอีก 3 คน
"เฮ้ย! จะไปไหน"
"ก็หนีไง ไอ้โง่!"
เธอตอบทันทีก่อนจะถีบมันล้มกับพื้นให้หมัดคนขวา ให้โดนคนซ้าย
....................
"เมธี พอได้แล้วหยุดทำซันต์ หากว่าฉันเป็นคนทำให้ทุกคนในกลุ่มต้องทะเลาะกันแบบนี้...ฉันไปเองดีกว่า"
ไอรินพูดจบก็รีบวิ่งหนีไปทันที
"ไอซ์! เดี๋ยวก่อน!!"
ซันเดย์เรียกชื่อไอรินพลางวิ่งตามไป
"แพรว...เราขอโทษนะที่ทำให้เธอโดนซันต์ว่า ฉันขอโทษนะ"
ไอรินที่กำลังวิ่งพูดกับตัวเองด้วยความเสียใจทั้งน้ำตา ก่อนที่เธอจะหยุดวิ่งแล้วปาดน้ำตาเตรียมจะข้ามถนน
"ไอซ์! รอเราด้วย!"
ซันเดย์ร้องตะโกนบอกให้เธอหยุด แต่มันกลับเป็นการยั่วให้เธอรีบข้ามถนนโดยเร็ว แต่หากว่าขณะที่เธอกำลังอยู่กลางถนนดันมีรถบรรทุกคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูงบีบแตรใส่
ปิ๊บบ! ปิ๊บ! ปิ๊บบบ!
"ไอซ์ระวัง!!!"
ซันเดย์เรียกเตือนแฟนสาวด้วยความเป็นห่วงก่อนจะผลุดผลันวิ่งเข้าไปผลักร่างไอรินจนเธอกระเด็นไปนอกถนน
ปิ๊บ ปิ๊บบบ!
แตรรถดังอีกครั้งซันเดย์หันขวับไปทางต้นเสียงอย่างตื่นตะหนก
"ซันต์! ระวังรถ!!!"
แพรวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้นทิ้งเอกสารในมือลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับวิ่งไปทางซันเดย์ที่อยู่กลางถนน
พลั่ก!
แพรวผลักซันเดย์ออกนอกถนนจนเขาล้มลง
เอี๊ยดดดดดดด!!!!
ตู้ม!!!!
ร่างเล็กของแพรวถูกชนเข้าเต็มๆ จนเธอล้มลงกับพื้น ส่วนไอ้รถบรรทุกก็รีบวิ่งหายไปแล้ว
"แพรว!!!"
ซันเดย์เรียกชื่อเพื่อนสาวที่ถูกชนอยู่บนพื้นถนนด้วยความตกใจและไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เขารีบวิ่งเข้าไปาเธอทั้งน้ำตาคนอื่นๆก็เช่นกัน
"แพรว...ไม่จริงใช่มั้ย ทำไม..."
ต้อมพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือหมดรอยหนุ่มแสนซนทะเล้น เหลือเพียงชายที่หมดกำลัง เขาเองก็เสียใจจนเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้น
"ซันต์ เรียกรถพยาบาลเร็วสิ!"
ไอรินเตือนอย่างร้อนรน
....................
"อย่าตามข้ามานะ"
รจนาหันไปขู่ก่อนจะรีบวิ่งต่อไป แต่สุดท้ายก็จนมุมเพราะข้างหน้าเป็นเหวเมื่อหันหลังกลับ พวกมันก็ร้อมไว้หมดแล้ว
"อย่าเข้ามานะ! ไม่งั้นข้าไม่ไว้ชีวิตเจ้าแน่!!"
เธอขู่หลังจากที่หยิบไม้ข้างๆ ขึ้นมาไว้ข้างหน้า
"เอ็งคิดว่าไม้เก่าๆ นั่น จะทำอะไรพวกข้าได้รึ"
พวกมันพูดด้วยความมั่นอกมั่นใจทั้งยังเดินเข้ามาหาเธอใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เธอต้องถอยหลังกรูดด้วยความหวาดกลัว แต่โชคไม่ช่วยทำให้เธอก้าวพลาดไถลลงเหว แต่เธอใช้มือเกาะโขดหินได้ก่อนที่เธอจะตกลงไป
....................
วี้ว่อๆ วี้ว่อๆ วี้ว่อ
เสียงหวอรถพยาบาลดังต่อเนื่องกัน ทั้งผู้ช่วยพยาบาลและกู้ภัยต่างๆ ช่วยกันเข็นร่างของแพรวเข้าไปในรถ
"ญาติไปได้สองคนนะคะ เชิญค่ะ"
"ผมเองครับ"
ซันเดย์และเมธีเอ่ยขึ้นพร้อมกัน ทั้งคู่มองหน้ากันทั้งน้ำตาก่อนจะรีบขึ้นรถพยาบาล นางพยาบาลเอาเครื่องช่วยหายใจครอบจมูกแพรวที่นอนหายใจติดๆ ขัดๆ
"แพรว...แพรวอย่าเป็นอะไรนะ แพรว..."
ซันเดย์พูดปนสะอื้นพลางกุมมือเพื่อนสาวเอาไว้แน่น
"เราขอโทษ ที่ว่าเธอไปตอนนั้น เราผิดไปแล้ว"
ซันเดย์พูดก่อนจะร้องไห้โฮออกมาโดยไม่สนใจใคร ซึ่งแพรวก็มองใบหน้าเขาด้วยความปวดร้าวโดยที่น้ำตานองหน้าเช่นกัน
"แพรวแข็งใจไว้นะ แพรวห้ามทิ้งพวกเราโดยเด็ดขาดนะ"
เมธีพูดออกมาบ้างอย่างกลั้นกลืนซึ่งเธอเองก็มองดูทั้งสองด้วยความเสียใจ ทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสายโดยไม่มีทีท่าที่จะหยุด เธอจับมือเมธีและซันเดย์ไว้แน่นพยายามฝืนตัวเองไม่ให้หลับ แต่ความเจ็บปวดที่ใต้กระดูกซี่โครงและความเจ็บระบมทั่วทั้งตัวทำให้เธอไม่ไหวที่จะฝืนมัน ทำให้เธอกระอักเลือดออกมา
"แพรว! แพรวเป็นอะไรไปน่ะ"
ซันเดย์ร้องขึ้นอย่างบ้าคลั่งหลังจากที่เห็นเลือดกระจายเต็มเครื่องช่วยหายใจ เขามองหน้าเธอสลับกับมองเครื่องวัดชีพจรที่กำลังต่ำลงเรื่อยๆ ตอนนี้ในหัวสมองของแพรวได้ผุดเห็นภาพเธอกับเพื่อนเต็มไปหมด
"ซินเดอร์เรล่าต้องทำตัวน่ารักสิ"
"บ้าเรอะ เราไม่ใช่นะ"
นี่เป็นภาพที่เธอกับซันเดย์ซ้อมละครด้วยกันอย่างสนุกสนาน
"อีกนานมั้ยฉันก็ไม่รู้ อีกกี่เดือนหรือจะกี่ปี อีกหมืนพันล้านความทรงจำที่มี ไม่เคยไม่คิดถึงเธอ"
เสียงแพรวร้องเพลงออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข
"เพลงนี้เป็นเพลงประจำกลุ่มของพวกเรานะ เพราะจังเลย"
ภาพของพวกเพื่อนยังคงวนเวียนอยู่ในสมองเธอไปมา สุดท้าย...แววตาของเธอก็มีเพียงความว่างเปล่า ก่อนที่สติสัมปชัญญะของเธอจะดับวูบลงไป...
....................
"กรี๊ด!!!"
รจนาร้องด้วยความกลัวหลังจากที่เกาะหินที่ชันอยู่ไว้ทำให้เธอยังไม่ตกลงไป
"ตายยากนักนะมึง"
มันมองเธอแววตาสุดพยาบาทพลางสาวเท้าเข้ามาใกล้ๆพร้อมแสยะยิ้มมุมปากที่ดูแล้ว...
...น่ากลัวโครต T[]T...
"ไม่ต้องทำสายตาอ้อนวอนหรอก เดี๋ยวฉันช่วย"
ทีนี้มันพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรทำให้เธอใจชื้นขึ้นมาบ้างแต่ก็เพียงแป๊บเดียวเท่านั้นเพราะมันเอาเท้ามาบดขยี้มือของเธอที่ใช้เกาะหินไว้อยู่
"โอ๊ย!!!"
เธอเริ่มครางขึ้นเพราะเริ่มทนไม่ไหวสุดท้ายเธอก็ปล่อยมือออกจากหินนั้น...
....................
"ทำไมวะเมธ แพรวเป็นคนดีไม่ใช่หรอ แล้วทำไมจุดจบของแพรวถึงเป็นแบบนี้"
ต้อมพูดปนสะอื้น เขาเองก็ร้องไห้จนตาบวมช้ำ
"ไม่เป็นไรนะต้อม แพรวเค้าไปดีแล้ว ฉันเข้าใจนายนะ"
เมธีพูดปลอบใจเพื่อนที่กำลังเสียใจอยู่
"ฉันรู้ว่านาย...รักแพรว"
คำพูดของเมธีทำให้ต้อมรู้สึกสะอื้นน้อยๆ เขามองหน้าเพื่อนที่มีคราบน้ำตาเปื้อนอยู่ไม่น้อย
"นายรู้..."
"ใช่"
"นายรู้ได้ไง ในเมื่อ..."
"เพราะรัก...ฉันก็รักแพรวเหมือนกัน เราต้องแก้แค้นให้แพรว ไอ้ซันต์มันทำกับแพรวไว้าก เราต้องเอาคืนเป็นพันเท่า!"
เมธีพูดด้วยน้ำเสียงเครียดแค้นพลางกำมือแน่น
"ใช่! ไอ้ซันต์มันต้องชดใช้!!"
ต้อมพูดก่อนจะลุกพรวดไปตามหาซันเดย์
"ไอซ์...ทำไมแพรวถึงต้องทิ้งพวกเราไปด้วย"
"ซันต์...ซันต์อย่าร้องไห้ไปเลยนะ เราก็เสียใจเหมือนกันที่แพรวจากไปกระทันหันขนาดนี้"
ไอรินปลอบแฟนหนุ่มทั้งน้ำตา เพราะแพรวเป็นเพื่อนที่ดีมากคนนึงสำหรับเธอ
"ไอซ์...ตุณย์...ทำไมล่ะ แบบนี้มันไม่แฟร์นะเว้ย"
"ช่างเถอะ ไหนๆ เรื่องก็ผ่านไปแล้ว"
ตุณย์พูดก่อนจะกอดซันเดย์ไว้
"ไอ้ซันต์!"
ต้อมเรียกชื่อเพื่อนด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวทั้งยังกระชากคอเสื้อเขาให้ไปใกล้ๆ หน้าก่อนจะซัดหมัดเข้าที่แก้มเขาเต็มแรง
"หยุดนะต้อม! นายเป็นอะไรของนายฮะ!"
ตุณย์รั้งหมัดต้อมไว้เมื่อเห็นว่าต้อมกำลังจะต่อยซันเดย์อีกครั้ง
"แกมันเลวไอ้ซันต์ แพรวรักแกมากแต่แกไม่เคยเห็นค่าแพรวเลย แถมแกยังพูดทำร้ายจิตใจแพรวอีก แกมันไม่ใช่คน!!!"
ต้อมพยายามข่มเสียงไม่ให้สั่นถึงจะอย่างนั้นก็ตามน้ำตาที่ไหลออกจากตาเขาแสดงให้เห็นว่า เขาเสียใจมาก
"รักหรอ....ไม่เห็นรู้เลย"
ซันเดย์พูดด้วยน้ำเสียงอึ้งนิดๆ กับข่าวที่ได้ยิน
"แกไม่รู้ เพราะแกไม่เคยใส่ใจแพรวเลยต่างหาก"
"แพรวเค้ารักแกตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้าแกแล้ว พอมารู้ว่าไอรินรักแก เค้าก็ทำเนียนเป็นแม่สื่อให้จนพวกแกรักกันไง! แล้วดูแกทำกับเค้าสิ วันนั้นแกทะเลาะกับไอริน แกก็หนีไปกินเหล้าแล้วก็ไปหาเรื่องกับพวกนักเลงข้างทาง แพรวก็เข้าไปช่วย จนตัวเองบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาลเป็นเดือน ที่แกหาว่าเค้าหนีเรียน เพราะแกนั่นแหละที่ทำให้แพรวเกือบไม่มีสิทธิ์สอบ! แกเป็นคนผิด! แกไม่รู้อะไรเลย! ไอ้เลวเอ๊ย!"
"ต้อม! หยุดได้แล้ว"
ตุณย์ห้ามเพราะไม่อยากให้ซันเดย์รู้สึกผิดไปมากกว่านี้พลางผลักต้อมน้องชายให้ออกไปห่างๆ
"นี่พี่อยู่ข้างเดียวกับมันหรอ...ดี! ต่อไปนี้เราไม่ใช่พี่น้องกัน!!"
"ต้อม...!"
ตุณย์เรียกชื่อน้องชายด้วยความรู้สึกผิดหวัง
"ไม่ต้องมาเรียกชื่อฉัน ต่อไปนี้พวกเราขาดกัน!"
"เมธีเราไปจากที่นี้กันเถอะ"
ต้อมพูดหลังจากเก็บเสื้อผ้าออกมาเรียบร้อย
"แน่นอน ต่อไปนี้เราไม่ใช่คนดี!!"
....................
กลับมาแก้ไขคำผิดนะฮะ ขอโทษสำหรับคำผิดต่างๆนะฮะ
cinnamon
นางมลฑามารดาของรจนาเร้งเร้าอย่างอดใจไม่ไหว
"ลูก...ไม่ต้องการมีคู่นี่เพคะ"
รจนาพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าอิดออดเหมือนต้องการความเห็นใจถึงแม้จะรู้ดีว่าไม่มีทาง ก็เธออายุ 24 แล้วนี่นา
"ไม่ได้นะเจ้าต้องมีคู่ครองจะได้มีผู้สืบบัลลังก์พาราณสีต่อไป"
แม่ของเธอแย้งเพราะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ลูกสาวคิด
"แต่ลูกยังไม่พร้อมนะเพคะเสด็จแม่"
"แต่แม่เห็นสมควรแล้วนะลูก โยนพวงมาลัยเถิด..."
นางมลฑาพูดกล่อมหวังจะให้รจนาคล้อยตาม แต่การคิดแบบนั้นมันผิด!
"เสด็จแม่ไม่เคยเห็นใจลูกเลย เสด็จแม่ใจร้าย!"
เธอพูดเสียงสั่นเครือพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลรินออกมาอย่างเสียใจพลางทิ้งพวงมาลัยในมือลงอย่างผิดหวังแล้วเดินหนีไป
"รจนา..! เดี๋ยวก่อน รจนา!"
ตึก! ตึก! ตึกๆ!
รจนาเดินลงส้นอย่างแรงเหมือนอยากจะระบายออกมา ก่อนจะปาดน้ำตาลวกๆ ด้วยใบหน้างองั้ม
"ทำไมนะ เหตุใดเสด็จแม่จึงไม่เห็นใจข้าเลยคุณท้าว"
เธอถามอย่างอยากรู้
"โถ...พระธิดา ขอทรงอย่าน้อยพระทัยไปเลยนะเพคะ พระมเหสีทรงห่วงใยพระธิดานะเพคะ จึงได้เลือกสรรชายที่เพียบพร้อมมาหะ..."
ยังไม่ทันที่คุณท้าวจะพูดจบเธอก็แทรกด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า
"เจ้าก็อีกคนรึคุณท้าว! เป็นเหมือนกันหมด!"
....................
ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคกลาง ในวันรับปริญญา ขณะเดียวกันกลุ่มนักศึกษาที่มีกันอยู่ 6 คน กำลังเกาะกลุ่มกันถ่ายรูปเนื่องจากวันนี้เป็นวันที่พวกเขาจบ ป.ตรี
"อ้าว...ยิ้มนะครับ หนึ่ง...สอง...สาม"
เสียงช่างภาพบอกพลางกำลังปรับเลนส์กล้องซึ้งนักศึกษาทั้ง 6 คน ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี
"อา...สวยครับ"
ช่างภาพบอกก่อนจะเปิดภาพที่ถ่ายเมื่อครู่ดู
"ทีนี้ถ่ายเป็นคู่นะครับ คู่ไหนก่อนดีเอ่ย"
นายช่างภาพถาม
"ไอริณ...ถ่ายด้วยกันนะ"
ซันเดย์ชวนด้วยใบหน้ายิ้มอย่างมีความสุข
"หืม...แฟนชวนทั้งทีคงปฏิเสธลงหรอกจ๊ะ"
"อะแฮ่ม!"
แพรวสาวสวยเรียบร้อยในกลุ่มแกล้งกระแอมหยอก ก็เพราะสองคนนั้นทำหวานเกินหน้าเพื่อนแบบนี้นี่ เธอคงเจ็บใจน้อยกว่านี้หากเธอเองไม่ได้มีใจให้ซันเดย์แต่เธอก็ยังฝืนทำหน้ายิ้มอยู่
"หวานกันจังนะ ไม่เห็นใจคนไร้คู่อย่างฉันเลย"
แพรวพูดโดยแกล้งทำหน้างอนใส่
"ถ้าอยากได้คู่สักคน หัวใจของฉันก็ยังว่างนะแพรว สนใจป๊ะ"
ต้อมหนุ่มหล่อทะเล้นฝาแฝดของตุณย์พูดกวนพลางทำมือเป็นรูปหัวใจเอาไว้ที่อกข้างซ้าย
"หนอยแนะ! ไอ้น้องรัก เฉยเป็นมั้ยเนี้ย"
ตุณย์ถามหลังจากที่จัดมะกอกหนึ่งลูกใหญ่ให้ที่หน้าผากของต้อมอย่างอดไม่อยู่กับความซนของไอ้น้องชาย
"โอ๊ย...พี่ทำผมอีกแล้วนะ ถามจริงไม่สงสารน้องบ้างหรอ"
"ไม่โว้ย...! แกมันหน้าถีบ ไม่มีความหน้าสงสารโว้ย!"
"ฮะๆ ฮะ พอได้แล้วพี่น้องคู่นี้เนี้ยะ"
สุดท้ายแพรวก็เป็นฝ่ายระงับมวย'ศึกสายเลือด'โดยที่หัวเราะออกมาน้อยๆ
"โอ๊ย! ช่างมันเถอะ แพรว...เราถ่ายรูปด้วยกันนะ"
เมธีพูดตัดบท
"ได้สิ เพื่อนขอเราพร้อมจัดให้"
แพรวรับคำยิ้มๆ ก่อนจะหันไปทางซันเดย์และไอริณอีกครั้ง
....................
"คุณท้าว! ข้าอยากออกไปนอกวังหลวง"
รจนาเดินมาทำหน้าบึ้งใส่คุณท้าวที่กำลังร้อยพวงมาลัยอยู่
"ไม่ได้นะเพคะ พวกเกิดอันตรายขึ้นกับพระธิดา แล้วพระมเหสีจะทำยังไงเพคะ"
คุณท้าวพูดหลังจากวางเข็มร้อยมาลัยลงบนพานดอกไม้
"เถอะน่าคุณท้าว...ถือว่าออกไปเปิดหูเปิดตาก่อนเข้าพิธีอภิเษกไง ข้าขอเสด็จแม่แล้ว"
รจนาพูดโกหกไปด้วยแววตาใสซื่อ บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ละออเอี่ยม
"จะดีรึเพคะ"
คุณท้าวถามเพราะต้องการความแน่ใจ
"แน่สิคุณท้าว รีบไปเปลี่ยนชุดไป"
"เพคะพระธิดา"
นางพูดก่อนจะเก็บพานดอกไม้แล้วเดินออกไป
"ฮะๆ ง่ายกว่าที่คิด เดี๋ยวหนีออกจากวังซะเลย"
รจนาพูดปนหัวเราะอย่างถูกใจก่อนจะแลบลิ้นใส่ประตูหนึ่่งที ครั้นออกจากกำแพงเมือง
"คุณท้าว ห้ามทำตัวมีพิรุธเด็ดขาดเจ้าจงทำตัวให้เหมือนสามัญชนทั่วไป"
"เพคะพระธิดา"
"เราไปดูตตรงนู้นกันเถิด"
นางชวนพลางชี้ไปทางร้านขายเครื่องประดับที่ตั้งอยู่ในตลาดใต้ต้นมะม่วง
"งามนัก...เท่าใดรึ"
รจนาถามพร้อมกับดูต่างหูหยกไปพลางก่อนจะเหลือบไปเห็นชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ซึ่งกำลังหาเรื่องชาวบ้าน
"เอ็งมีปัญหารึไงบอกให้จ่ายอัฐมา!"
มันวางท่าทั้งยังกระชากคอเสื้อคนแก่มาใกล้หน้ามัน ด้วยความที่เธออยู่เฉยไม่เป็น คุณความสงสารและดับเบิ้ลอยากรู้จึงทำให้เธอตรงดิ่งไปหาชายคนนั้น
"นี่เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ! เจ้าหาเรื่องคนชราเจ้ามา...ไอ้คน...ขี้เอาเปรียบ!"
"เอ๊ะ! อีนางนี้มาสอดอะไรเรื่องของชาวบ้านวะ"
มันหันมาถามเธอด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวพลางปล่อยเสื้อชายชราลงอย่างไม่ปราณี
"ก็ข้าทนไม่ได้กับสิ่งที่เจ้าทำนี่!"
....................
"นี่แวะไปกินเค้กกันดีมั้ย"
แพรวซึ่งกำลังเดินกับเพื่อนทักขึ้น
"อืม...นั้นน่ะสิ ร้านโปรดของพวกเราก็ไม่ได้ไปนานแล้วด้วย"
ซันเดย์ออกความคิดบ้าง
"โอเค! วันนี้จะเหมาช็อคเค้กให้หนำใจเลย"
ต้อมบอกด้วยท่าทางกระโดกกระเดกก่อนจะหันหน้ามาหาพี่ชายสุดหล่อด้วยใบหน้ายิ้มแห้ง
"พี่ตุณย์กัฟ เลี้ยงน้องต้อมหน่อยได้ป่ะกัฟ"
ต้อมหันหน้าไปเว้าวอนพี่ชายที่เดินออยู่ข้างๆ
"อ๋อ...ได้สิน้องรัก แต่วันนี้กินมะกอกไปก่อนนะ!"
ตุณย์ตอบอย่างหมั่นใจเป็นครั้งที่2
"พี่ใจร้าย! ซื้อเองก็ได้ ชิเชอะ!"
ต้อมพูดด้วยความน้อยใจด้วยใบหน้าบูดบึ้งทั้งลูบหน้าผากป้อย
"ฮะ ฮะๆ ฮะ"
แพรวที่เงียบอยู่นานเผลอหัวเราะออกมาบ้างกับความไม่ธรรมดาของตุณย์และต้อม
"แพรว...รู้มั้ยว่าแพรวยิ้มสวยมากเลย หัดยิ้มซะบ้างนะ"
เมธีบอกหลังจากที่เดินข้างแพรว
"จริงหรอ..."
"จริงสิ เดี๋ยววันนี้เมธขอเลี้ยงเค้กแพรวนะ"
"จ้า..."
"แนะๆ สงสัยว่ากลุ่มเราคงจะมีคู่รักอีกคู่แล้วมั้ง"
ต้อมพูดแซวทั้งสองโดยที่ลืมความบาดหมางกับพี่ชายเสียสนิท
18:15น.
"อิ่มมากเลยอ่ะ"
ไอรินพูดพลางลูบท้องไปมา
"ชู่...! เงียบๆดูนั่น..."
ซันเดย์จุ๊ปากก่อนจะขยับตาไปมองแพรวที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาซึ่งตอนนี้เธอกำลังนั่งหลับโอนไปเอนมา แล้วจบที่หัวของเธอตกไปซบไหล่ต้อม ทำเอาต้อมสะดุ้ง เขาค่อยๆหันหน้าไปมองคนหลับ แต่แปลกมากที่หัวใจเขากลับเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
"นี่! ห้ามปลุกแพรวนะ เพราะวันนี้แพรวคงเหนื่อยมากแล้ว"
ตุณย์ห้ามเมื่อเห็นว่าน้องชายกำลังจะปลุกหญิงสาวที่หลับอยู่ให้ตื่น
"อีกอย่าง เอาช้อนออกจากปากแพรวด้วย"
"อืม...รู้แล้วน่า"
ต้อมรับคำก่อนจะค่อยๆ ดึงช้อนเค้กออกจากปากเธอ
"กลับได้แล้ว"
เมธีพูดด้วยอารมณ์ไม่พอใจหน่อยๆ
ฟุบ!
ต้อมวางร่างเล็กของแพรวลงบนที่นอนเบาๆ อย่างอ่อนโยน
"แพรว...แพรวรักไอ้ซันต์ใช่มั้ย ทำไมคนที่แพรวรักไม่เป็นเราหละ เรารักแพรวนะ"
"อิ่มมากเลยอ่ะ"
ไอรินพูดพลางลูบท้องไปมา
"ชู่...! เงียบๆดูนั่น..."
ซันเดย์จุ๊ปากก่อนจะขยับตาไปมองแพรวที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาซึ่งตอนนี้เธอกำลังนั่งหลับโอนไปเอนมา แล้วจบที่หัวของเธอตกไปซบไหล่ต้อม ทำเอาต้อมสะดุ้ง เขาค่อยๆหันหน้าไปมองคนหลับ แต่แปลกมากที่หัวใจเขากลับเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
"นี่! ห้ามปลุกแพรวนะ เพราะวันนี้แพรวคงเหนื่อยมากแล้ว"
ตุณย์ห้ามเมื่อเห็นว่าน้องชายกำลังจะปลุกหญิงสาวที่หลับอยู่ให้ตื่น
"อีกอย่าง เอาช้อนออกจากปากแพรวด้วย"
"อืม...รู้แล้วน่า"
ต้อมรับคำก่อนจะค่อยๆ ดึงช้อนเค้กออกจากปากเธอ
"กลับได้แล้ว"
เมธีพูดด้วยอารมณ์ไม่พอใจหน่อยๆ
ฟุบ!
ต้อมวางร่างเล็กของแพรวลงบนที่นอนเบาๆ อย่างอ่อนโยน
"แพรว...แพรวรักไอ้ซันต์ใช่มั้ย ทำไมคนที่แพรวรักไม่เป็นเราหละ เรารักแพรวนะ"
เขาถามญิงสาวที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงอย่างต้องการคำตอบด้วยความปวดร้าว
"แพรว...เราจะอยู่ข้างเธอนะ"
เขาพูดก่อนจะจุมพิตลงบนหน้าผากของเธอเบาๆ ก่อนเดินออกห้องไป
เช้าวันต่อมา...
"นี่! เร็วเข้าเดี๋ยวก็ไปสมัครเรียนโทไม่ทันหรอก"
แพรวซึ่งวิ่งนำเพื่อนอยู่หันไปเร่งเพื่อนๆ ที่กำลังวิ่งตามมา
"ยัยบ้า! คิดว่าเพื่อนเป็นปรอทรึไงฮะ!"
ซันเดย์ตะคอกด่าเธอหลังจากที่วิ่งเข้ามาหยุดอยู่ข้างๆ
"เห็นใจเพื่อนบ้างสิ!"
รอบนี้ทำเอาแพรวยืนตัวแข็งทื่อ เพราะตั้งแต่ที่คบกันมาไม่เคยมีเพื่อนคนไหนว่าเธอแบบนี้เลย ทั้งซันเดย์ยิ่งแล้วใหญ่เพราะเขาไม่ค่อยมีอารมณ์โกรธ
"แล้วทำไมซันต์ต้องดุแพรวด้วย"
แพรวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อยน้ำตาเริ่มคลอเบ้า
"เพราะฉันทนไม่ไหวแล้วไง! เธอโดนเพื่อนเอาใจจนเคยตัวแล้ว หลายครั้งแล้วนะที่ไอรินต้องเจ็บตัว เพราะเธอ!!!"
เขาตะคอกใส่เธออีกครั้งก่อนจะช่วยพยุงร่างไอริให้ยืนขึ้น
"ซันต์...ซันต์พอได้แล้วนะ แพรวเค้าก็แค่เป็นห่วงกลัวพวกเราจะไปสมัครเรียนไม่ทันนะ"
ไอรินพูดห้ามแฟนหนุ่มทันที
"นั่นน่ะสิไอ้ซันต์ แกเห็นแฟนดีกว่าเพื่อนหรอว่ะ"
ต้อมห้ามทัพบ้าง
"ก็ยัยนั่นมันตัวปัญหาหนิ!"
"หากแพรวเป็นตัวปัญหา แพรวไปจากทุกคนก็ได้!!"
เธอพูดพร้อมทั้งน้ำตาก่อนจะวิ่งหนีไปด้วยควมเสียใจ
"ไอ้บ้าเอ๊ย!"
เมธีพูดก่อนจะจัดการซัดหมัดเข้าที่แก้มซันเดย์อย่างต็มแรง
...................
"ปล่อยข้านะ! ข้าบอกให้ปล่อย!"
รจนาพยายามดิ้นให้หลุดจากมือที่จับแขนเธอไว้แน่น
"ปล่อยให้โง่สิวะ สวยๆแบบนี้เนี๊ยะ...ของหายาก"
มันพูดยั่วแถมยังเอามือไล้แก้มขาวนวลของเธออีกต่างหาก
"อี๋...อย่ามาแตะต้องข้า คุณท้าว! ช่วยข้าด้วย!"
เธอพูดด้วยวาจาสุดจะรังเกียจ ถึงมันจะหล่อก็เถอะแต่ถ้าเทียบกับกิริยาแล้วล่ะก็...
...ขี้เหล่ยิ่งกว่าเขียดตับปาดอายุพันปีเป็นร้อยเป็นพันเท่าคูณหมื่นบวกด้วยแสน...
"ร้องเลย! จ้างให้ก็ไม่มีใครได้ยิน"
มันพูดพลางแสยะยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
"เจ้ามันชั่วช้านัก!!"
"เออ! ข้ามันชั่วช้า แล้วข้านี่แหละจะทำให้เอ็งสยบแทบเท้าข้า!!"
มันพูดด้วยอารมณ์ฉุนสุดขีดก่อนจะรั้งศีรษะเธอให้ไปแนบกับปากมัน(แงๆช่วยนางเอกด้วย:รจนา)
"อ่อย! อ่อยอะ อ่อย!"(ปล่อย! ปล่อยนะ ปล่อย!)
เธอพยายามพูดพยายามดิ้น แต่ไม่สำเร็จเพราะแรงมันเยอะกว่า วินาทีนั้นเธอรู้สึกสำนึกผิดมาก ไม่อยากคิดแม้แต่จะมาที่นี้อีก เธออยากกลับไปเลือกคู่ดังที่แม่เธอบอกคิดแล้วน้ำตาก็เริ่มไหลออกมาเป็นสาย เธอสะอื้นฮึกๆ เหมือนมันจะรู้สึกแล้วว่าเธอร้องไห้เพราะว่าน้ำตาเธอเปื้อนหน้ามันด้วย มันค่อยๆผละหน้าออก
"สมน้ำหน้า"
มันพูดเยาะประกอบกับเลียริมฝีปากตัวเอง
"ไอ้เลว!"
เธอกัดฟันกรอดอย่างโมโหก่อนจะซัดหมัดเข้าที่แก้มมันเต็มแรง จนมันล้มฟุบลงไปกับพื้น ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งออกไปข้างนอก แต่โชคร้ายดันไปเจอกับลูกน้องของมันอีก 3 คน
"เฮ้ย! จะไปไหน"
"ก็หนีไง ไอ้โง่!"
เธอตอบทันทีก่อนจะถีบมันล้มกับพื้นให้หมัดคนขวา ให้โดนคนซ้าย
....................
"เมธี พอได้แล้วหยุดทำซันต์ หากว่าฉันเป็นคนทำให้ทุกคนในกลุ่มต้องทะเลาะกันแบบนี้...ฉันไปเองดีกว่า"
ไอรินพูดจบก็รีบวิ่งหนีไปทันที
"ไอซ์! เดี๋ยวก่อน!!"
ซันเดย์เรียกชื่อไอรินพลางวิ่งตามไป
"แพรว...เราขอโทษนะที่ทำให้เธอโดนซันต์ว่า ฉันขอโทษนะ"
ไอรินที่กำลังวิ่งพูดกับตัวเองด้วยความเสียใจทั้งน้ำตา ก่อนที่เธอจะหยุดวิ่งแล้วปาดน้ำตาเตรียมจะข้ามถนน
"ไอซ์! รอเราด้วย!"
ซันเดย์ร้องตะโกนบอกให้เธอหยุด แต่มันกลับเป็นการยั่วให้เธอรีบข้ามถนนโดยเร็ว แต่หากว่าขณะที่เธอกำลังอยู่กลางถนนดันมีรถบรรทุกคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูงบีบแตรใส่
ปิ๊บบ! ปิ๊บ! ปิ๊บบบ!
"ไอซ์ระวัง!!!"
ซันเดย์เรียกเตือนแฟนสาวด้วยความเป็นห่วงก่อนจะผลุดผลันวิ่งเข้าไปผลักร่างไอรินจนเธอกระเด็นไปนอกถนน
ปิ๊บ ปิ๊บบบ!
แตรรถดังอีกครั้งซันเดย์หันขวับไปทางต้นเสียงอย่างตื่นตะหนก
"ซันต์! ระวังรถ!!!"
แพรวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้นทิ้งเอกสารในมือลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับวิ่งไปทางซันเดย์ที่อยู่กลางถนน
พลั่ก!
แพรวผลักซันเดย์ออกนอกถนนจนเขาล้มลง
เอี๊ยดดดดดดด!!!!
ตู้ม!!!!
ร่างเล็กของแพรวถูกชนเข้าเต็มๆ จนเธอล้มลงกับพื้น ส่วนไอ้รถบรรทุกก็รีบวิ่งหายไปแล้ว
"แพรว!!!"
ซันเดย์เรียกชื่อเพื่อนสาวที่ถูกชนอยู่บนพื้นถนนด้วยความตกใจและไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เขารีบวิ่งเข้าไปาเธอทั้งน้ำตาคนอื่นๆก็เช่นกัน
"แพรว...ไม่จริงใช่มั้ย ทำไม..."
ต้อมพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือหมดรอยหนุ่มแสนซนทะเล้น เหลือเพียงชายที่หมดกำลัง เขาเองก็เสียใจจนเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้น
"ซันต์ เรียกรถพยาบาลเร็วสิ!"
ไอรินเตือนอย่างร้อนรน
....................
"อย่าตามข้ามานะ"
รจนาหันไปขู่ก่อนจะรีบวิ่งต่อไป แต่สุดท้ายก็จนมุมเพราะข้างหน้าเป็นเหวเมื่อหันหลังกลับ พวกมันก็ร้อมไว้หมดแล้ว
"อย่าเข้ามานะ! ไม่งั้นข้าไม่ไว้ชีวิตเจ้าแน่!!"
เธอขู่หลังจากที่หยิบไม้ข้างๆ ขึ้นมาไว้ข้างหน้า
"เอ็งคิดว่าไม้เก่าๆ นั่น จะทำอะไรพวกข้าได้รึ"
พวกมันพูดด้วยความมั่นอกมั่นใจทั้งยังเดินเข้ามาหาเธอใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เธอต้องถอยหลังกรูดด้วยความหวาดกลัว แต่โชคไม่ช่วยทำให้เธอก้าวพลาดไถลลงเหว แต่เธอใช้มือเกาะโขดหินได้ก่อนที่เธอจะตกลงไป
....................
วี้ว่อๆ วี้ว่อๆ วี้ว่อ
เสียงหวอรถพยาบาลดังต่อเนื่องกัน ทั้งผู้ช่วยพยาบาลและกู้ภัยต่างๆ ช่วยกันเข็นร่างของแพรวเข้าไปในรถ
"ญาติไปได้สองคนนะคะ เชิญค่ะ"
"ผมเองครับ"
ซันเดย์และเมธีเอ่ยขึ้นพร้อมกัน ทั้งคู่มองหน้ากันทั้งน้ำตาก่อนจะรีบขึ้นรถพยาบาล นางพยาบาลเอาเครื่องช่วยหายใจครอบจมูกแพรวที่นอนหายใจติดๆ ขัดๆ
"แพรว...แพรวอย่าเป็นอะไรนะ แพรว..."
ซันเดย์พูดปนสะอื้นพลางกุมมือเพื่อนสาวเอาไว้แน่น
"เราขอโทษ ที่ว่าเธอไปตอนนั้น เราผิดไปแล้ว"
ซันเดย์พูดก่อนจะร้องไห้โฮออกมาโดยไม่สนใจใคร ซึ่งแพรวก็มองใบหน้าเขาด้วยความปวดร้าวโดยที่น้ำตานองหน้าเช่นกัน
"แพรวแข็งใจไว้นะ แพรวห้ามทิ้งพวกเราโดยเด็ดขาดนะ"
เมธีพูดออกมาบ้างอย่างกลั้นกลืนซึ่งเธอเองก็มองดูทั้งสองด้วยความเสียใจ ทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสายโดยไม่มีทีท่าที่จะหยุด เธอจับมือเมธีและซันเดย์ไว้แน่นพยายามฝืนตัวเองไม่ให้หลับ แต่ความเจ็บปวดที่ใต้กระดูกซี่โครงและความเจ็บระบมทั่วทั้งตัวทำให้เธอไม่ไหวที่จะฝืนมัน ทำให้เธอกระอักเลือดออกมา
"แพรว! แพรวเป็นอะไรไปน่ะ"
ซันเดย์ร้องขึ้นอย่างบ้าคลั่งหลังจากที่เห็นเลือดกระจายเต็มเครื่องช่วยหายใจ เขามองหน้าเธอสลับกับมองเครื่องวัดชีพจรที่กำลังต่ำลงเรื่อยๆ ตอนนี้ในหัวสมองของแพรวได้ผุดเห็นภาพเธอกับเพื่อนเต็มไปหมด
"ซินเดอร์เรล่าต้องทำตัวน่ารักสิ"
"บ้าเรอะ เราไม่ใช่นะ"
นี่เป็นภาพที่เธอกับซันเดย์ซ้อมละครด้วยกันอย่างสนุกสนาน
"อีกนานมั้ยฉันก็ไม่รู้ อีกกี่เดือนหรือจะกี่ปี อีกหมืนพันล้านความทรงจำที่มี ไม่เคยไม่คิดถึงเธอ"
เสียงแพรวร้องเพลงออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข
"เพลงนี้เป็นเพลงประจำกลุ่มของพวกเรานะ เพราะจังเลย"
ภาพของพวกเพื่อนยังคงวนเวียนอยู่ในสมองเธอไปมา สุดท้าย...แววตาของเธอก็มีเพียงความว่างเปล่า ก่อนที่สติสัมปชัญญะของเธอจะดับวูบลงไป...
....................
"กรี๊ด!!!"
รจนาร้องด้วยความกลัวหลังจากที่เกาะหินที่ชันอยู่ไว้ทำให้เธอยังไม่ตกลงไป
"ตายยากนักนะมึง"
มันมองเธอแววตาสุดพยาบาทพลางสาวเท้าเข้ามาใกล้ๆพร้อมแสยะยิ้มมุมปากที่ดูแล้ว...
...น่ากลัวโครต T[]T...
"ไม่ต้องทำสายตาอ้อนวอนหรอก เดี๋ยวฉันช่วย"
ทีนี้มันพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรทำให้เธอใจชื้นขึ้นมาบ้างแต่ก็เพียงแป๊บเดียวเท่านั้นเพราะมันเอาเท้ามาบดขยี้มือของเธอที่ใช้เกาะหินไว้อยู่
"โอ๊ย!!!"
เธอเริ่มครางขึ้นเพราะเริ่มทนไม่ไหวสุดท้ายเธอก็ปล่อยมือออกจากหินนั้น...
....................
"ทำไมวะเมธ แพรวเป็นคนดีไม่ใช่หรอ แล้วทำไมจุดจบของแพรวถึงเป็นแบบนี้"
ต้อมพูดปนสะอื้น เขาเองก็ร้องไห้จนตาบวมช้ำ
"ไม่เป็นไรนะต้อม แพรวเค้าไปดีแล้ว ฉันเข้าใจนายนะ"
เมธีพูดปลอบใจเพื่อนที่กำลังเสียใจอยู่
"ฉันรู้ว่านาย...รักแพรว"
คำพูดของเมธีทำให้ต้อมรู้สึกสะอื้นน้อยๆ เขามองหน้าเพื่อนที่มีคราบน้ำตาเปื้อนอยู่ไม่น้อย
"นายรู้..."
"ใช่"
"นายรู้ได้ไง ในเมื่อ..."
"เพราะรัก...ฉันก็รักแพรวเหมือนกัน เราต้องแก้แค้นให้แพรว ไอ้ซันต์มันทำกับแพรวไว้าก เราต้องเอาคืนเป็นพันเท่า!"
เมธีพูดด้วยน้ำเสียงเครียดแค้นพลางกำมือแน่น
"ใช่! ไอ้ซันต์มันต้องชดใช้!!"
ต้อมพูดก่อนจะลุกพรวดไปตามหาซันเดย์
"ไอซ์...ทำไมแพรวถึงต้องทิ้งพวกเราไปด้วย"
"ซันต์...ซันต์อย่าร้องไห้ไปเลยนะ เราก็เสียใจเหมือนกันที่แพรวจากไปกระทันหันขนาดนี้"
ไอรินปลอบแฟนหนุ่มทั้งน้ำตา เพราะแพรวเป็นเพื่อนที่ดีมากคนนึงสำหรับเธอ
"ไอซ์...ตุณย์...ทำไมล่ะ แบบนี้มันไม่แฟร์นะเว้ย"
"ช่างเถอะ ไหนๆ เรื่องก็ผ่านไปแล้ว"
ตุณย์พูดก่อนจะกอดซันเดย์ไว้
"ไอ้ซันต์!"
ต้อมเรียกชื่อเพื่อนด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวทั้งยังกระชากคอเสื้อเขาให้ไปใกล้ๆ หน้าก่อนจะซัดหมัดเข้าที่แก้มเขาเต็มแรง
"หยุดนะต้อม! นายเป็นอะไรของนายฮะ!"
ตุณย์รั้งหมัดต้อมไว้เมื่อเห็นว่าต้อมกำลังจะต่อยซันเดย์อีกครั้ง
"แกมันเลวไอ้ซันต์ แพรวรักแกมากแต่แกไม่เคยเห็นค่าแพรวเลย แถมแกยังพูดทำร้ายจิตใจแพรวอีก แกมันไม่ใช่คน!!!"
ต้อมพยายามข่มเสียงไม่ให้สั่นถึงจะอย่างนั้นก็ตามน้ำตาที่ไหลออกจากตาเขาแสดงให้เห็นว่า เขาเสียใจมาก
"รักหรอ....ไม่เห็นรู้เลย"
ซันเดย์พูดด้วยน้ำเสียงอึ้งนิดๆ กับข่าวที่ได้ยิน
"แกไม่รู้ เพราะแกไม่เคยใส่ใจแพรวเลยต่างหาก"
"แพรวเค้ารักแกตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้าแกแล้ว พอมารู้ว่าไอรินรักแก เค้าก็ทำเนียนเป็นแม่สื่อให้จนพวกแกรักกันไง! แล้วดูแกทำกับเค้าสิ วันนั้นแกทะเลาะกับไอริน แกก็หนีไปกินเหล้าแล้วก็ไปหาเรื่องกับพวกนักเลงข้างทาง แพรวก็เข้าไปช่วย จนตัวเองบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาลเป็นเดือน ที่แกหาว่าเค้าหนีเรียน เพราะแกนั่นแหละที่ทำให้แพรวเกือบไม่มีสิทธิ์สอบ! แกเป็นคนผิด! แกไม่รู้อะไรเลย! ไอ้เลวเอ๊ย!"
"ต้อม! หยุดได้แล้ว"
ตุณย์ห้ามเพราะไม่อยากให้ซันเดย์รู้สึกผิดไปมากกว่านี้พลางผลักต้อมน้องชายให้ออกไปห่างๆ
"นี่พี่อยู่ข้างเดียวกับมันหรอ...ดี! ต่อไปนี้เราไม่ใช่พี่น้องกัน!!"
"ต้อม...!"
ตุณย์เรียกชื่อน้องชายด้วยความรู้สึกผิดหวัง
"ไม่ต้องมาเรียกชื่อฉัน ต่อไปนี้พวกเราขาดกัน!"
"เมธีเราไปจากที่นี้กันเถอะ"
ต้อมพูดหลังจากเก็บเสื้อผ้าออกมาเรียบร้อย
"แน่นอน ต่อไปนี้เราไม่ใช่คนดี!!"
....................
กลับมาแก้ไขคำผิดนะฮะ ขอโทษสำหรับคำผิดต่างๆนะฮะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น