คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ROOM MAET : ONE
ROOM MATE : ONE
12 Decamber 2010
That XX High school
ผมค่อนข้างรู้สึกแปลกๆกับการย้ายโรงเรียนมากลางคันแบบนี้ ถึงแม้ว่าการมาเรียนวันแรกของผมมันจะเป็นไปด้วยดีก็เถอะ แต่ตอนนี้ผมกำลังต้องการหาใครสักคนมาช่วยแก้ปัญหาที่ทำให้สมองผมหมุนติ้วแบบนี้ ก็ใครจะไปรู้ว่าการเปิดประตูครั้งนั้น จะทำให้ชีวิตผมต้องยุ่งวุ่นวายจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ถ้าผมรู้ล่ะก็ ต่อให้ผมต้องนอนข้างถนน ผมก็ยอม
ผู้ชายที่นั่งพิงโซฟา สภาพเปลือยท่อนบนโชว์แผงอกขาวและใส่แค่บ๊อกเซอร์เน่าๆคุมข้างล่างไว้ เขาเป็นรูมเมทผมเอง ผมไม่รู้แม้แต่ชื่อ ชั้นเรียนหรือห้องเรียนของเขา รู้แต่แมร่งโคตรสกปรกเลย ดูจากสภาพห้องที่มีกระป๋องเบียร์เกลื่อนพื้น ทีวีที่มีเสื้อบอลเน่าๆพาดอยู่และเศษอาหารที่กินเหลือบนโต๊ะนี่อีก อนาถใจวะ
ซวยของกูจริงๆ
“ชื่อไร”
ผมหันหน้าไปหาเจ้าของคำถามที่นั่งหน้าเหมือนหมีกินน้ำผึ้งบูดแล้วรสชาติแมร่งเชี่ย ก่อนจะชี้หน้าตัวเองเชิงถามว่า มึงถามกูหรอ?
“เออ มึงนั้นแหละ”
“มาร์ค ต้วน ”
ผมตอบเสียงอ่อนๆก่อนจะโค้งหัวให้เล็กน้อย เจอกันครั้งแรกขอมีมารยาทก่อนแล้วกันเผื่อมันเป็นรุ่นพี่ผมจะได้ไม่โดนหาว่าไม่เคารพรุ่นพี่
“มาหาใคร”
มันถามผมออกมาแบบมึนๆ แต่เดี๋ยวนะอะไรคือมาหาใคร คือเข้าใจอะไรผิดเปล่าว่ะ ทางหอไม่ได้แจ้งหรอว่าวันนี้กูจะเข้ามา จะมีสิ่งมีชีวิตเข้ามาอยู่ด้วยในห้องกับมึงอีกหนึ่งชีวิตนะ
“ไม่ๆ ไม่ได้มาหาใคร คือฉันเป็นรูมเมทใหม่นายน่ะ”
“อ่อ! มึงนี่เอง มาก็ดีแหละ งั้นก็ช่วยเก็บห้องให้หน่อยนะทางที่ดีก็เอาผ้าตรงนั้นน่ะไปซักให้ด้วย เดี๋ยวกูจะออกไปซ้อมฟันดาบคงกลับมาเย็นๆ มึงเตรียมข้าวเย็นไว้ให้กูด้วยนะ กูขอเป็นอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ราเมงอ่ะ กูเบื่อแล้ว”
ปัง!
งง งงเป็นไก่ตาแตกเลยผม ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอบุคคลพันธุ์นี้มาก่อน สั่งผมอย่างกับรู้จักกันมาเป็นชาติทั้งๆที่ผมกับมันพึ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงสิบห้านาที แถมยังมีหน้าทำเป็นไม่ทองไม่รู้ร้อนเดินเข้าห้องตัวเองปิดประตูแทกหน้าคนอื่นอีก ฮึ่ย!
“ไอ้เชี่ยเตี้ย!”
“มึงว่าไงนะ?”
ปากผมไวกว่าความคิดเผลอด่ามันออกมาแต่ว่ามันดันไวกว่าผมเพราะมันดันเปิดประตูออกมาจังหวะที่ผมด่ามันพอดี อะไรมันจะเหมาะเจาะขนาดนั้น นี่เขาเรียกว่า ซวยๆๆๆๆ
“ก่อนที่มึงจะพูดอะไรออกมา ช่วยคิดสักนิดนึงนะว่ากุแจห้องอยู่ที่กู…”
................................
การยอมมันต้องมีขีดจำกัดของมันบ้าง แต่ถึงผมจะหมดความอดอย่างไร ผมก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะต้องออกไปเผชิญกับโลกภายนอกตอนนี้หรอกนะ ตั้งแต่มันออกไปซ้อมฟันดาบผมก็ทำตั้งแต่ เก็บกระป๋องเบียร์ของมันไปทิ้ง เอาเสื้อผ้าเน่าๆของมันไปซัก เก็บกวาดห้องนั่งเล่นจนสะอาดเรียบร้อย แล้วไหนจะลงทุนทำอาหารเย็นให้มันอีก นี้ขนาดพึ่งรู้จักกันมันยังใช้ผมขนาดนี้เลย ถ้าอยู่กับมันต่ออีกสักเดือนสงสัยมันคงใช้ผมอาบน้ำให้แน่ -*-
ซ่า !!!!!
เอ๊ะ… เหมือนฝนตกเลย
เมื่อผมคิดได้ดังนั้น ผมก็รีบวิ่งไปชะโงกดูหน้าต่างทันที ปรากฏว่าฝนตกจริงๆและสิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือ ผมกลัวเสียงฟ้าร้อง…
“มาตกอะไรตอนนี้ว่ะ แดดออกมาทั้งวันแหละนี่ถ้าตากผ้าไว้ล่ะกะ…”
ตายห่า! กูตากผ้ามันไว้นี่หว่า 0[ ]0!!
ผมรีบวิ่งออกไปเก็บเสื้อผ้าของไอ้เชี่ยเตี้ยที่ผมตากไว้ที่ระเบียงด้านนอกอย่างกวีกะวาดกลัวว่ามันจะเปียกฝน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันซะแล้ว เพราะทันทีที่ผมออกไปเสื้อผ้าของมันก็ชุ่มไปด้วยน้ำไปแล้ว ให้ตายเถอะ! ขอร้องอย่าพึ่งกลับมาตอนนี้เลยนะ กูยังไม่อย่าให้มึงเห็นสภาพเสื้อผ้ามึงตอนนี้
“ต้วน! กูกลับมาแล้วนะเว้ย”
เชี่ย!
ให้ตายเถอะ! กลับมาอะไรตอนนี้หว่า
“ต้วน! มึงอยู่ไหนกูหิวข้าวแล้วนะเว้ย”
อะ เอาไงดี ถ้ามันเห็นเสื้อผ้ามันสภาพนี้มันจะไล่ผมออกไปนอนข้างถนนไหมเนี่ย โอ๊ยยย ให้ตายเถอะไอ้มาร์ค ทำไมวันนี้มันซวยอย่างนี้ว่ะ
“ยะ อยู่นี่! ฉันอยู่นี่”
ผมขานรับไอ้เตี้ยที่กำลังหาผมอยู่ ก่อนที่มันจะเดินออกมาตรงระเบียงด้านนอกห้อง
“เฮ้ย! ทำไมเสื้อผ้ากูเปียกอย่างนั้นว่ะแล้วมึงไปยืนตากฝนตรงนั้นทำไม”
มันพูดพร้อมลากผมเข้ามาในห้องเพื่อหลบฝน สภาพผมตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับลูกหมาตกน้ำ ผมก็เปียกเสื้อก็แนบติดตัว กางเกงยีนก็โคตรจะหนัก ให้ตายเถอะ! ทำไมผมต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้กับคนที่ผมพึ่งรู้จักด้วยนะ
“ก็ฉันออกไปเก็บเสื้อผ้านายไงเหล่า! เพราะนายแท้ๆที่ทำให้ฉันเปียกอย่างนี้”
“เอ้า! โทษกูอีก ช่างมันเหอะมึงไปอาบน้ำสระผมเถอะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
มันดันหลังผมให้ไปอาบน้ำ ก่อนที่มันจะออกไปเก็บเสื้อผ้าของมันที่ตากฝนอยู่ที่ระเบียง
“เป็นห่วงแต่คนอื่น ระวังเถอะจะไม่สบายซะเอง” ผมแอบเบะปากใส่มันทีหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าห้องไปอาบน้ำ
......................................
ผมใช้เวลาในอาบน้ำประมาณ30นาทีโดยรวม ก่อนจะเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อหาอะไรกิน ก่อนจะหยุดชะงักกับสภาพรูมเมทของผมที่มีแค่ผ้าขนหนูพันอยู่รอบเอวแบบหลวมๆ ไม่มีการใส่เสื้อหรืออะไรที่จะดูไม่อนาจาร นี่คืออยากจะถามมันจริงๆ ว่ากูกับมึงสนิทกันแล้วหรอว่ะ?
“อ้าว มึงอาบน้ำเสร็จแล้วอ่อว่ะ มาๆมากินข้าวก่อนมา”มันกวักมือเรียกผมหยอยๆ ทำตัวเป็นจากบ้านที่ดีเรียกแขกกินข้าว แต่ได้ข่าวว่ากูเป็นคนทำป่ะว่ะ -*-
ผมเดินไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับมัน ก่อนที่มันจะจัดแจงตักข้าวใส่จานและมาวางไว้ตรงหน้าผมพร้อมกับตักกับข้าวใส่จานผมอย่างเอาใจ ค่อนข้างแปลก…เมื่อตอนบ่ายยังใช้อย่างกับทาส ตอนนี้มาปฏิบัติอย่างกับคุณหนู
“มองหน้ากูทำไม” มันพูดขึ้นมาทั้งๆที่มันยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากจานข้าว
แต่ มันรู้ได้ไงว่ะ?
“กะ ก็ป่าว ฉันไม่ได้มองนายสักหน่อย” ผมพูดปฏิเสธออกไปทั้งๆที่มันเป็นความจริง ก่อนจะรีบก้มหน้าก้มตากินข้าวในจานเพื่อหลบสายตาของไอ้เตี้ยที่จ้องจับผิดผมอยู่
“เสื้อผ้ากูอ่ะ มึงทำมันเปียกหมดเลย ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรใส่หรือป่าว”
นี่กำลังพูดให้กูรู้สึกผิดหรือป่าว แต่ได้ข่าวว่ามึงใช้กูเองนะ!!!!
“พรุ่งนี้มีแข่งซะด้วย ชุดฟันดาบจะแห้งทันไหมเนี่ย~~”
กูยอมแพ้ก็ได้ โอเค กูผิดเอง กูเนี่ยแหละตัวการที่ทำให้ชุดมึงเปียก!
“เลิกพูดได้แล้วน่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเอาชุดนายไปตากให้แต่เช้าเลย”
“^^”
ยิ้มได้น่าถีบมาก! นอกจากจะเตี้ยแล้วยังกวนตีนอีก นี่ถ้าไม่ติดว่ายังไม่ได้กุแจห้องนะ มาร์ค ต้วนผู้นี้ถีบมันไปนานแล้ว คนอะไรก็ไม่รู้ใช้คนอื่นตั้งแต่ที่เจอ เดินอนาจารไปทั่วห้อง แถมยังสกปรกอีกต่างหาก ผมทนอยู่รวมกับมันได้ไงเนี่ย
“แจ็คสัน” จู่ๆมันก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีเหตุไม่มีผลหลังจากที่เงียบไปหลายนาที
“อะไร อะไรคือแจ็คสัน”
“หวัง แจ็คสัน ชื่อกู”
.................................
ตอนนี้ผมกำลังเผชิญกับสภาวะการนอนไม่หลับ อันที่จริงผมควรจะหลับไปตั้งแต่สามทุ่มหลังจากที่กินข้าวกับแจ็คสันเสร็จ แต่นี่มันปาไปตีสองแล้วผมยังนอนไม่หลับเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแปลกที่หรือเพราะฝนที่ตกตั้งแต่หัวค่ำจนกะทั่งตอนนี้กันแน่ที่ทำให้ผมนอนไม่หลับ นี่ดีนะไม่มีเสียงฟ้าร้องด้วยไม่งั้นละกะ
ครึกกกก!
“อ๊ากกกกกกกก”
พูดยังไม่ทันขาดคำเลย ให้ตายเถอะฟ้าร้องจนได้ จากที่แค่นอนไม่หลับตอนนี้คงจะมีอาการร้องไห้ตามมาได้ ตอนนี้ผมพยายามรวบรวมทุกอย่างรอบตัวผมไม่ว่าจะเป็นหมอน ผ้าห่ม หมอนข้าง แล้วก็…
“น้องปิกาจู! น้องปิกาจูหายไปไหน”
ผมพยายามควานหาน้องปิกาจูตัวสีเหลืองสุดที่รักของผมอย่างร้อนรน ให้ตายเถอะหายไปไหนนะ ถ้าหามันไม่เจอผมต้องขาดใจตายแน่ๆเลย ในเวลาที่ผมกลัวแบบนี้น้องปิกาจูความอยู่ข้างๆผมสิ
“ม๊า เอาน้องปิกาจูใส่กระเป๋ามาให้หรือป่าวเนี่ย!”
ครึกกกกก!!!!
“อือออออ ไม่อยู่แล้วววว”
ผมวิ่งกระหืดกระหอบออกจากห้องนอนอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ผมเหมือนคนที่กำลังจะหมดแรง น้องปิกาจูก็หาย ฟ้าก็ร้อง แถมยังนอนไม่หลับอีก ผมไม่เหลือที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเลย
“เป็นอะไรของมึง ดึกป่านี้แล้วยังไม่นอนอีก”
ผมหันไปทางต้นเสียงก็พบกับแจ็คสันที่นั่งดูบอลอยู่และในตอนนี้เขาก็กำลังขมวดคิ้วจ้องมาที่ผม ผมไม่พูดพรำฮัมเพลงอะไรทั้งนั้น ได้แต่รีบเดินตรงไปนั่งข้างแจ็คสันอย่างรวดเร็ว
“เป็นอะไรของมึงเนี่ย ไหนบอกว่าจะนอนตั้งแต่สามทุ่มแล้วไง”
“ฉันนอนไม่หลับ”
“แล้วไง”
“ก็ไม่แล้วไง แค่ออกมาหาอะไรทำเพื่อจะทำให้ง่วงบ้าง” ผมเลือกที่จะโกหกมันเพราะว่าถ้ามันรู้ว่าผู้ชายแมนๆอย่างผมกลัวฟ้าร้องกับติดตุ๊กตามีหวังโดนมันล้อแน่
“เหรอ”
“อือ”
และแล้วบทสนทนาก็จบลง แจ็คสันก็จดจ่อกับฟุตบอลในทีวี ส่วนผมเองก็นั่งหม่อมองออกไปที่หน้าต่างและภาวนาในฝนหยุดตกฟ้ามันจะได้ไม่ร้องและผมจะได้เข้าไปนอนสักที
ครึกกก!!
“อ๊ากก” ให้ตายเถอะร้องอีกแล้ว อุตส่าห์บอกให้หยุดร้องไง!!
“มึงกลัวเสียงฟ้าร้องหรอ”
“อะ อะไรฉันป่าว ฉันไม่ได้กลัวสักหน่อย”
“ถ้าไม่ได้กลัวกรุณาลงจากตักกูด้วย กูจะไปนอนแล้ว”
“ฮะ เฮ้ยขอโทษทีมันตกใจไปหน่อยอ่ะ” ขึ้นไปอยู่บนตักมันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย โถ่เอ๊ยไอ้มาร์ค ต้วน เขาคงไม่เชื่อมึงแล้วมั้งว่ามึงไม่กลัวฟ้าร้องอ่ะ
ผมค่อยๆย้ายตัวเองลงมาจากตักของแจ็คสันและนั่งลงที่โซฟาดังเดิม ก่อนที่แจ็คสันจะทำท่าลุกกลับเข้าห้องตัวเองไป
ครึกกก
ถ้าแจ็คสันไปแล้วผมจะอยู่กับใครอ่ะ ไม่เอาหรอกนะถ้าจะให้ผมอยู่คนเดียวทั้งๆที่ฟ้ายังร้องอยู่ แต่จะให้ขอร้องขอให้อยู่เป็นเพื่อนมันก็กระดากปากยังไงไม่รู้…
“เดี๋ยวแจ็คสัน…” ในขณะที่แจ็คสันกำลังจะลุกขึ้น ผมก็รีบจับข้อมือมันไว้
“อะไร” มันพูดพร้อมหุบตาลงมองที่ข้อมือ
“ฉะ ฉัน”
“มีอะไรก็รีบพูดมา ถ้ามึงไม่พูดกูจะไปนอนแล้วนะ”
“ฉะ ฉันขอนอนด้วยได้ไหม…”
‘’หะ ห๊ะ!”
อัพแล้วนะ ไม่รู้จะชอบกันหรือป่าว55
ไรต์พยายามเขียนเติมที่แล้วทำได้แค่นี้มันอาจแปลกๆไปบ้าง
ถ้าไม่ชอบหรืออยากติเม้นหรือตติดเเท็กก็ได้ไรต์จะได้เข้าไปอ่าน
แล้วนำมาปรับปรุง แท็กนี้นะ#รมจม
ปล.อันนี้มันเขียนย้อนไปตอนจาร์คเจอกันเเรกนะจ๊ะที่รัก
ความคิดเห็น