คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : คุณ Free : The Vampire Secrets
กราบสวัสดีคุณ Free เจ้าของผลงานเรื่อง The Vampire Secrets
นิยายเรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซีแวมไพร์เนอะ โอเค อย่ามัวช้าอารัมภบท มาเริ่มกันเลยดีกว่า
สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าไปเยี่ยมชมนิยาย The Vampire Secrets แนะนำว่าอย่าอ่านบทวิจารณ์นี้ในส่วนของโครงเรื่อง เนื้อเรื่องและตัวละคร เพราะมีการสปอยล์เนื้อหาแน่นอนค่ะ
ปฐมบทแห่งการสับแหลกคือ ชื่อเรื่องอันเป็นหน้าต่างของนิยาย
ขอติติงในส่วนนี้เลยว่า ชื่อเรื่องนิยายเรื่องนี้ไร้ซึ่งแรงดึงดูดอย่างสิ้นเชิง เนื่องด้วยถ้าเอ่ยถึงแวมไพร์ในโลกนวนิยาย คนอ่านที่ประสบการณ์โชกโชนมักจะมองว่าแนวเรื่องแบบนี้ค่อนข้างมีดาษดื่นอยู่แล้ว ซ้ำซากจำเจ ไม่น่าสนใจ อะไรก็ว่าไป แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงที่ ถ้าชื่อเรื่องเราดึงดูดคนอ่านให้ตัดสินใจเปิดเข้ามาอ่านนิยายเราได้ อคติที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับแวมไพร์แรกๆ จะไร้ค่าไปในทันที เพราะพวกเขาจะหันมาโฟกัสกับคำโปรยและเนื้อหา แต่ท่าน Free ไม่สามารถตีโจทย์ในจุดนี้ได้ ชื่อเรื่องธรรมดาเกินไป ไม่มีเสน่ห์มากพอจะมัดใจคนอ่านที่มีความคิดข้างต้นอยู่แล้วให้กดเข้ามาเยี่ยมชมได้ ถือว่าไม่ผ่านในการตั้งชื่อ ไปทำการบ้านมาใหม่นะคะ
ให้คะแนนส่วนนี้ 3/10 ค่ะ
เค้าโครงเรื่อง
เพริสคือหญิงสาวกำพร้า มารดาเลี้ยงรับมาเลี้ยงแต่ใช้เยี่ยงทาส พอตายไปก็ทิ้งหนี้สินมากมายจากการพนันจนเธอต้องดิ้นรนหามาชดใช้ รอดจากการถูกข่มขืนหวุดหวิดและไปเจอกับประกาศรับสมัครงานเป็นหนูทดลองของรัฐบาล เห็นรายได้พอเหมาะพอดีจึงสมัคร ผ่านการคัดเลือกและเข้าทำการทดลอง ท้ายสุดแล้วก็คือการตัดต่อพันธุกรรมให้กลายเป็นแวมไพร์ เพริสเป็นรายแรกที่ผลการทดลองสัมฤทธิ์ผล เธอถูกพาตัวมาที่ดินแดนของแวมไพร์ ณ Bat city โดยแดลเนียล แวมไพร์หนุ่มรูปงามดีกรีผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำของ Bat city ฝึกการต่อสู้กับเรเชนลูกครึ่งมนุษย์กับแวมไพร์ ขณะที่ฝั่ง Mara แดนคู่แค้นของ Bat city ก็รู้เรื่องความสำเร็จของการทดลองเพื่อเพิ่มจำนวนประชากรแวมไพร์ซึ่งกระทำการอย่างลับๆ ระหว่าง Bat city กับมนุษย์เข้าจึงส่ง แพนทรอส ลูกชายคนเล็กจอมกะล่อนของผู้นำมาสำรวจ เขาเองก็มีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับไดอาน่า น้องสาวของแดลเนียล และดูจะพึงใจในเพริสเช่นเดียวกันกับตัวเธอเอง เวลาต่อมาก็มีเนียร์ คนรักเก่าของแดลเนียลที่เป็นผลสำเร็จของการทดลองคนที่สอง แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เธอเพียงถูกพวกแวมไพร์กัดและได้รับพิษมาส่งผลให้กระหายเลือด พลั้งมือเป็นฆาตกรฆ่าพวกด็อกเตอร์และกลุ่มแวมไพร์นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังทำการวิจัยและทดลองเรื่องการเปลี่ยนมนุษย์เป็นแวมไพร์จนตายเกลี้ยง ทาง Bat city ยังมืดบอดหาตัวคนร้ายไม่ได้และเริ่มโทษเพริส มีเพียงหลักฐานเป็นรอยจากรองเท้าส้นสูงจางๆ หลังแดลเนียลได้โอบกอดเนียร์อีกครั้งหนึ่ง เขาก็เหลือบไปเห็นชั้นวางรองเท้าของเจ้าหล่อน
โครงเรื่องรวมๆ แบบรวบรัดตัดความคงได้ประมาณนี้สินะคะ
ขอเอ่ยตามความเป็นจริงเลยนะคะว่า เค้าโครงเรื่องนี้ใช่ว่าจะเลวร้าย แต่รายละเอียดทั้งหลายกลับถ่ายทอดและดำเนินเรื่องออกมาได้ตื้นเขินเอามากๆ ช่องโหว่พล็อตใหญ่เบ้อเริ่ม พูดไม่ออกบอกไม่ถูก เส้นเหตุการณ์ของเรื่องราวมันไม่โอเคเลยจริงๆ ไม่มีความชัดเจนแน่นอนสักอย่าง หัวหลักหัวตอใหญ่ๆ เลยก็กรณีของเพริส ตอนแรกแดลเนียลว่าเป็นการทดลองเพื่อเพิ่มจำนวนแวมไพร์ตามสัญญาระหว่างแวมไพร์กับมนุษย์ และนางเอกก็คือผลการทดลองที่สำเร็จ ครั้งที่สองบรรยายว่ามีเลือดแวมไพร์ 50 % และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ? ครั้งที่สามบอกว่ามีเศษเสี้ยวเลือดแวมไพร์ พวกสภาทั้งหลายก็มองว่าเป็นพวกเลือดผสมที่ฝ่ายมาร่าฆ่าเหี้ยนไปหมดแล้ว เดี๋ยวสิ? คำถามตามมาเป็นพรวน และมีทีท่าว่าคงจะไม่ได้รับคำตอบ อย่างแรก อ้าว นางเป็นแวมไพร์ไปตั้งแต่ทดลองเสร็จแล้วไม่ใช่เรอะ เป็นแวมไพร์สมบูรณ์แล้วไม่เท่ากับว่าเลือดบริสุทธิ์ 100 % แล้วรึไงกัน? ทำไมสภาไม่ตะขิดตะขวงหรือไล่ตั้งแต่ตอนรู้ว่ามีเลือดแวมไพร์แค่ครึ่งครึ่ง? จะทดลองไปทำไมเมื่อมันขัดแย้งกับข้อตกลงที่มีต่อฝ่ายมาร่า? มาร่ากำจัดพวกเลือดผสมหมดไปแล้วและเกลียดจริง ทำไมไม่มาตามฆ่าเรเชนที่เป็นเลือดผสม? Bat city จะทำสัญญากับมนุษย์ไปทำไมถ้ามันตรงข้ามกับฉบับที่ทำกับมาร่าอย่างสิ้นเชิง?
สารพัดคำถามจริงๆ อ่านแล้วมีแต่เครื่องหมายคำถามลอยเต็มหัวไปหมด และดูเหมือนจะไม่ได้รับคำตอบซะด้วย
ขอให้คะแนนส่วนนี้ 11/20 นะ
เนื้อเรื่อง
เอาล่ะ สูดลมหายใจลึกๆ ค่ะ เดินทางมาถึงตรงนี้ก็ครึ่งทางแล้วนะ ต้องยอมรับความเป็นจริงให้ได้แล้วนำไปปรับปรุงเนอะ
คำเดียวที่บอกได้คือ อ่านแล้วแทบจะไม่รู้สึกมีอารมณ์ร่วมใดๆ กับเนื้อเรื่องเลยค่ะ
ขาดการบรรยาย พรรณนา สร้างอารมณ์ร่วมของผู้อ่าน
สามอันบนเรียกรวมกันว่า การเล่าเรื่องค่ะ
และถ้าปราศจากการเล่าเรื่องที่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจ คล้อยตาม สนใจ หรือซึมซาบกับสิ่งที่เราเขียน นิยายก็ไม่ใช่นิยายค่ะ
เรื่องนี้ทำให้อัญต้องมโนภาพฉาก เวลาว่าผ่านไปเท่าไหร่ หน้าตาท่าทางของตัวละคร อารมณ์ความรู้สึก แทบจะทุกอย่างในเนื้อเรื่องเองทั้งหมดเลยจริงๆ ค่ะ ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าจะมีอะไรดีขึ้น เพราะพล็อตโฮลบานเบอะเบื้องบน และสำนวนภาษาที่ยากจะทำใจให้อ่านจนจบได้แบบไม่ปวดหัวตุบๆ
บวกกับการดำเนินเรื่องที่ไววายวอดเหมือนติดจรวด ไม่รู้จะเอื้อนเอ่ยคำใดดีตอนมโนไม่ทันแล้วมีประโยคมาต่อว่า ทำ...กันไปแล้ว
ความรู้สึกตอนนั้นคือ...เดี๋ยวนะ นี่...กันแล้วเหรอ? ตอนไหนอะ? นี่อ่านข้ามอะไรไปรึเปล่า?
กลับกันตรงบางจุด ที่ไม่ควรจะมีเสริมเติมเข้ามาเยอะ กลับย้ำนักย้ำหนา ย้ำมากจนหงุดหงิด ให้เห็นภาพชัดเจนก็ลักษณะทั้งหลายของตัวละครค่ะ อาทิ มือหนา ตาสวย และอื่นๆ
ว่ากันตามตรง หากอัญมณีเป็นคนอ่านธรรมดาไม่ใช่คนที่มีหน้าที่วิจารณ์นิยายเรื่องนี้ อัญคงปิดทิ้งไปตั้งแต่อ่านย่อหน้าแรกๆ ของบทแรกแล้วค่ะ
ให้ 9/20 ค่ะ
การใช้ภาษา
ส่วนนี้คงเป็นส่วนที่อัญจะวิจารณ์แหลกที่สุดสำหรับนิยายเรื่องนี้
ขอนิยามสำนวนภาษาของท่านว่า 'ประดุจดั่งเด็กน้อยยังไม่เคยร้อยเรียงหนังสือ' จะให้ชี้แนะพร้อมตัวอย่างทุกรายละเอียดคงไม่ไหว เพราะมันเยอะมากๆ ทั้งคำผิด การใช้คำผิดความหมาย ซ้ำคำจำเจ คำขาด คำไม่มีความหมาย เรียงประโยคผิด ชอบใช้ประโยคกรรม(Passive Voice)มากเกินจนนึกว่าอ่านภาษาอังกฤษอยู่ เน้นบรรยายความงาม ความหล่อ ความสวย ความบาง ความหนา อะไรต่อมิอะไรของตัวละครเหลือเกิน...เน้นเยอะเกินมันจะเป็นการยกยอตัวละครตัวเองเกินไป อาจมีคนหมั่นไส้ตัวละครท่านเอาได้นะรู้ไหม ขาดการบรรยายฉาก อารมณ์ความรู้สึก ไร้การสร้างอารมณ์ร่วมอย่างที่บอกไปในส่วนเนื้อเรื่อง ต้องอ่านซ้ำหลายๆ รอบถึงจะเข้าใจ แต่โดยมากไม่มานั่งอ่านซ้ำกันหรอกนะ..
คำแรกที่อยากแนะนำเลยนะคะ ไปศึกษาดูหนังสือ บทความ อะไรต่อมิอะไรทั้งหลายที่ใช้ศัพท์ ไวยากรณ์ ประโยคถูกต้องมาให้คล่องแคล่วชินตาชินมือเสียค่ะ กระทั่งชื่อตัวละครยังเขียนผิดๆ ถูกๆ เลยนะ คนอ่านจะไม่งงได้อย่างไรกันล่ะนี่
ฝึกไปเรื่อยๆ ค่ะ สะสมทักษะซะ มนุษย์มีวิวัฒนาการและพัฒนาการ หากอยากจะยืนหยัดในเส้นทางสายนี้จริง ท่านต้องเจ๋งและตั้งใจจริงเท่านั้นค่ะ พรสวรรค์ไม่ได้มากันทุกคน แต่พรแสวงใครๆ ก็มีได้ค่ะ
คะแนนการใช้ภาษา 8/20
ตัวละคร
พวกเขาคือตัวละครเอกของเรื่อง พวกเขาคือสิ่งที่จะตัดสินชะตาของคนเขียนว่าคนอ่านจะติดตามไปด้วยกันจนสุดทางหรือไม่
และแน่นอนว่าจากข้อบกพร่องทั้งหลายเบื้องบนก่อนหน้า จึงช่วยไม่ได้ที่ตัวละครในเรื่องนี้จะสูญเสียมิติ และเอกลักษณ์ของตัวเองไปโดยสิ้นเชิง น่าเสียดายกรอบตัวละครที่มันน่าจะเล่นอะไรได้เยอะกว่านี้ แต่กลับสื่อออกมาได้อย่างตื้นเขิน ประหนึ่งเป็นนิทานเด็ก ที่บรรยายตรงตัวว่า
'มานีเป็นเด็กน้อยร่าเริง นิสัยโอบอ้อมอารี'
'เดชาพลเป็นหนุ่มหล่อ แต่กลับเกกมะเหงกเกเร'
ความสัมพันธ์ระหว่างคนก็เช่นกัน
'จิมกับแคลร์รักกันมากปานจะกลืนกิน'
'ดำกับด่างเกลียดกันเข้าไส้'
คะแนนส่วนนี้ได้ 9/20
ความชอบส่วนบุคคล/ความน่าติดตาม
ความน่าติดตามย่อมขึ้นตรงกับความสนุก ขอให้คะแนนทั้งสิ้น 5/10 ค่ะ
แฟนตาซีคือเรื่องเหนือธรรมชาติ ตอบสนองจินตนาการและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำให้คนอ่านเชื่อถือว่าสิ่งที่คุณสร้างนั้นมีตัวตนอยู่จริงๆ บนหน้ากระดาษหรือหน้าหนังสือที่เขากำลังเปิดอ่าน แต่ท่านยังไปไม่ถึงจุดๆ นั้น ยังต้องอาศัยการฝึกฝนสั่งสมประสบการณ์อีกมาก ขอเป็นหนึ่งในกำลังใจให้สู้ต่อไป อัญเชื่อว่าจะต้องมีวันไหนสักวันหนึ่งที่เป็นของท่านอย่างแน่นอนค่ะ
คะแนนรวม 45/100
อัญมณีเป็นนักอ่านคนหนึ่ง นักหัดเขียนคนหนึ่ง และนักอยากเป็นบรรณาธิการคนหนึ่ง หาใช่นักวิจารณ์มืออาชีพไม่ บทวิจารณ์นี้จัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงข้อบกพร่อง ชื่นชมข้อดีเด่น และอ่านผลงานคุณภาพอีกเรื่องสู่สายตาเล็กๆ คู่นี้ อัญมณีขอเป็นกำลังใจให้ท่านสร้างสรรค์ผลงานนิยายดีๆ นี้ต่อไป เพื่อความสนุกของตัวท่าน ตัวคนอ่าน และตัวนักวิจารณ์เอง หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่มาใช้บริการ โอกาสหน้าหวังว่าจะได้พบกันใหม่ค่ะ
อัญมณี.
Receive
ชื่อหรือนามปากกาของท่าน :
เจ้าของผลงานเรื่อง :
คิดเห็นอย่างไรกับคำวิจารณ์ :
อย่าลืมเขียนคำวิจารณ์ให้ร้านอัญด้วยนะ :
ความคิดเห็น