ตอนที่ 16 : 16

EP. 16
“เจ…เจ ไอ้เจ!”
“เฮ้ย อะไรพี่บาร์ เรียกทำไมเสียงดัง ตกใจหมด”
“มึงอะแหละ เหม่ออะไร เรียกตั้งหลายรอบ อะ เอาอันนี้ไป สรุปยอดแล้วปิดบัญชีให้ด้วย” พี่บาร์เดินเข้ามาโยนงานให้ แกดูเหมือนจะอารมณ์เสียอะไรมาสักอย่าง ถ้าให้ผมเดาก็น่าจะเป็นเรื่องคุณใหญ่ที่ทำให้พี่แกอารมณ์เสียได้
“ก็ไปโวยวายใส่น้องอะ” เจ๊พิมที่เดินถือเอกสารผ่านมาเห็นแบบนั้นก็เลยถือโอกาสแซว
พี่บาร์ตวัดสายตามองกลับไป
“ก็มันเอาแต่ยิ้มกับหัวเราะอะไรไม่รู้ของมัน ไม่ฟังเสียงผมเรียก ทำยังกับวัยรุ่นอินเลิฟ”
ผมสะอึกไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินพี่แกบอกว่าผมเหมือนคนอินเลิฟ จริงเหรอวะ ไม่ยักจะรู้สึกตัวเลยว่าเป็นแบบนั้น ผมก็แค่อารมณ์ดีเฉยๆ ไม่รู้สิ วันนี้อยู่ดีๆ โลกมันก็สว่างสดใสขึ้นมา แบบผมตื่นขึ้นมาก็รู้สึกอากาศสดชื่นไปหมดเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะของในถุงเซเว่นวันนี้หรือเปล่า
‘You are as bright as the sun.’
เหลือบมองโพสอิทสีคุ้นตา อยู่ดีๆ ก็เขินขึ้นมาเองโดยไม่มีสาเหตุ
ผมเริ่มกลับมาสนใจถุงเซเว่นนี้อีกครั้ง ไม่รู้สิ อยู่ดีๆ ก็เริ่มมีไฟอยากจะตามจับเขาให้ได้ มีหลายครั้งที่แอบมโนเอาไว้ว่ามันจะต้องเป็นไอ้สุขสันต์ พอคิดมาถึงจุดนี้ก็เริ่มชักอยากจะรู้ว่ามันเป็นคนเอามาวางจริงๆ หรือเปล่า ถ้าไม่จริงก็แล้วไป แต่ถ้าใช่...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างไรต่อดี
ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองกับสุขสันต์เจอกันค่อนข้างบ่อย แล้วก็รู้สึกเหมือนมันจะมีอะไรหลายๆ ที่พอผมอยู่กับมันจะทำให้บรรยากาศรอบข้างมันเปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่นั้น ผมยังรู้สึกแปลกๆ กับมันบ่อยขึ้น ไม่ใช่แค่รู้สึกตกใจ แต่มันยังมีอาการจั๊กจี้ร่วมด้วยซึ่งผมเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน นึกอะไรไม่รู้ผมก็นั่งรถมาลงตลาด แทนที่จะตรงกลับคอนโดเหมือนทุกวัน ตั้งใจว่าวันนี้จะซื้อของกินไปฝากสุขสันต์บ้าง เฮ้! อย่าได้คิดอะไรพิลึกๆ ผมแค่เกรงใจมันเท่านั้นแหละ! ก็มันเล่นซื้อของกินมาให้ผมสารพัด เห็นแบบนี้ผมเองก็หน้าบางเป็นเหมือนกันนะ เดินท่องตลาดไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกเหมือนผมจะได้ของกินให้ตัวเองมากกว่าไอ้หมีมันซะอีกแฮะ
ผมหิ้วของกลับจากตลาดโคตรเยอะ หิ้วจนปวดแขน เลยตัดสินใจโบกแท็กซี่กลับคอนโด พอมาถึงคอนโด ผมจ่ายเงินเสร็จสรรพกำลังจะหิ้วของก็ดันมีคนมาสะกิดที่ข้างหลังเสียก่อน
“พี่เจได ซื้อของอะไรมาเยอะแยะ มา...ผมช่วย” เป็นน้องกานต์นั่นเองที่อาสาช่วยผมหิ้วของบางส่วนขึ้นไปข้างบน
ตอนแรกก็จะไม่ให้น้องมันหิ้วหรอก เกรงใจ สนิทกันไหมก็ไม่ แต่เห็นน้องมันตั้งใจช่วยก็เออ แล้วแต่น้องก็แล้วกัน
“พี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย”
“ของกินทั้งนั้นแหละ ไปเดินตลาดมา นานๆ ที”
“ตลาดตรงแถวๆ หลังมอหรือเปล่า”
“ไม่ใช่อะ พี่ไปแถวสามแยก ไอ้ที่มันใหญ่ๆ”
“อ้อ ทีหลังพี่ก็โทรชวนผมสักหน่อยสิ อยากไปเหมือนกัน”
“ก็ไปกับเพื่อนสิ”
“ไม่อะ ผมอยากไปกับพี่ จะได้สนิทกันไง เอ่อ...ทำไมมองผมแบบนั้นอะ”
ผมมองน้องกานต์ อันที่จริงผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรถ้าจะมีคนมาอยากสนิทด้วย พอดีผมเป็นคนอัธยาศัยดีอยู่แล้ว
“เออๆ วันหลังถ้าไปเดี่ยวจะไลน์ไปบอก”
“อย่าลืมนะครับ”
“เออ ไม่ลืมหรอกน่า เห็นพี่เป็นคนแก่ขี้ลืมเหรอ” ผมย้อนน้องกลับ นี่ถ้ามันตอบว่าผมเป็นไอ้แก่นะ ผมจะกระโดดเตะปากเลย
แฮ่! ล้อเล่นนะ ผมไม่นิยมความรุนแรงหรอก
“ผมไม่เคยมองว่าพี่แก่เลยเหอะ พี่ออกจะน่ารัก”
ผมชะงักไปทันทีที่น้องกานต์บอกว่าผมน่ารัก เอ่อ... ชมผู้ชายด้วยกันแท้ๆ ว่าน่ารักก็ได้เหรอวะ ชมว่าหล่อไม่ได้หรือไง ทำไมต้องชมว่าน่ารักด้วย ไม่เห็นจะเข้าใจน้องมันเลย
“น่ารักอะไรล่ะ หล่อขนาดนี้” ผมแกล้งชักสีหน้าดุใส่
น้องกานต์แกล้งยกมือสองข้างขึ้นเหนือหัว “ฮ่าฮ่า โอเคครับๆ ผมยอมแล้ว พี่หล่อๆ”
“ก็แค่นั้น”
และแล้วเราสองคนก็เดินมาจนถึงหน้าลิฟต์ น้องกานต์ที่มือว่างข้างหนึ่งกดเรียกลิฟต์ให้
“พี่ พี่ได้จบมาจากม. XX มั้ย”
“ใช่ เดาถูกด้วยเหรอเรา” นึกแปลกใจเล็กน้อยที่มันรู้ว่าผมจบมาจากมหาวิทยาลัยอะไร
“เราเรียนมอเดียวกันนะเนี่ย ผมน่าจะเกิดเร็วกว่านี้อีกนิดนึงเนอะ”
ดูมันพูดเข้า แหม่... ก็จะไปเร่งพ่อเร่งแม่ให้รีบทำ มันก็ไม่ใช่ไหมล่ะน้องเอ้ย
“จะรีบเกิดไปทำไม มึงอยากแก่เหรอ”
“ตอนแรกก็ไม่อยาก พอเจอพี่ก็อยากแก่เลยว่ะ”
“ทำไมอะ”
“ได้ข่าวว่าพี่เคยลงคิวท์บอยที่มอด้วยเหรอ”
มันเปลี่ยนเรื่องเฉยเลย แต่เอ๊ะ! ไปรู้มาจากไหนอีก ว่ากูเคยลงอะไรแบบนั้นด้วย เฮ้ย! หรือว่า....
“อย่ามองผมแบบนั้น อันที่จริง...พี่อย่าโกรธผมนะ คือผมว่าผมเจอเฟสพี่อะ”
“เฮ้ย จริงอะ” ผมทำสีหน้าตกใจ มันเลยควักโทรศัพท์ออกมาเปิดให้ผมดู
โอเค ใช่ของกูจริงๆ ด้วย แล้วมันไปเจอได้ยังไงวะเนี่ย
“ป้าแดงเจอ เลยเอาให้ดู เขาบอกว่าพี่เป็นลูกค้าประจำ ป้าจำหน้าพี่ได้”
ผมหรี่ตามองน้องเล็กน้อย ไม่อยากจะเชื่อว่าป้าแดงจะไปเจอเฟสผมได้ แล้วทีนี้ดันจำหน้าผมได้อีก ชักจะความจำดีเกินไปละ
อ้อ ลืมไป สงสัยผมหล่อ ป้าแกเลยจำได้ดีสินะ
“พี่ ผมเองก็ซื้อของมาเยอะเหมือนกัน ที่ห้องก็มีของกิน พี่อยากไปกินที่ห้องผมไหม” จู่ๆ น้องมันก็ชวนขึ้นมา ผมนี่ถึงกับไปไม่เป็น
...แอบคิดอะไรกับกูปะเนี่ย
“เอ่อ คือ ถ้าพี่ไม่โอเคก็ไม่เป็นไร ผมชวนเฉยๆ แต่ถ้าพี่อยากจะมาก็ตามสบายเลยนะพี่ ห้อง 208 พี่เคาะได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย”
“ห้องเป็นเซเว่นเหรอ”
“ปกติผมนอนดึก ดูหนังดูซีรี่ย์ด้วยบางที”
“ดูเรื่องไรบ้าง” ผมถามมันในขณะที่เราสองคนกำลังจะเดินเข้าลิฟต์ ร้อยวันพันปีเพิ่งจะเคยเจอคนคอหนังเหมือนกัน เลยอยากแลกเปลี่ยนหนังกันสักหน่อย
“ถ้าซีรี่ย์ก็มี GOT “
“เฮ้ยยย ดูเหมือนกัน!” ผมร้องท้วงเสียงดังจนคนอื่นในลิฟต์หันมามอง เลยรีบเอามือปิดปากตัวเองทันที
น้องกานต์มองผมก่อนจะหัวเราะออกมาเล็กน้อย “จริงอะ”
“จริงดิ นี่อินมาก เคยร้องไห้ตั้งหลายฉาก”
“ฉากไหนบ้างที่พี่ร้องวะ ผมไม่เห็นจะร้อง”
“เศร้าจะตาย อะ ฉากเด็ดก็ตอนเน็ด สตาร์คโดนตัดหัว ไม่ร้อง? ถามจริงงงง” ผมตกใจทันทีที่เห็นน้องมันส่ายหน้า
เฮ้ยย ฉากที่ผมพูดถึงอะมันเป็นฉากที่ตัวละครหลักโดนประหารชีวิตในฐานะกบฏ โดนประหารต่อหน้าลูกสาวเลยนะ โห... กูอุตส่าห์เสียน้ำตาไปเป็นลิตร มึงไม่ร้องไห้นี่ใจแข็งมากน้อง
“ฉากเจมี่โดนตัดมือ”
“มันเศร้าตรงไหนวะพี่”
“ฉากซานซ่ากลับมาเจอจอห์น? ไม่ร้อง! ทำได้ยังไงวะ”
“ไม่อะ เฉยๆ”
“ไม่เคยร้องไห้บ้างเหรอ”
“หึ ดูมาเจ็ดซีซั่นก็เฉยๆ อะ ไม่เห็นร้องไห้ นี่จะรอดูไฟนอล มันจะโอเคไหม”
“คุยเรื่องนี้กับพี่ได้เลยไอ้น้อง เดี๋ยวถ้าว่างอยากมาดูด้วยกันปะ”
“ได้เหรอ”
น้องกานต์ดูดีใจมากที่ผมชวนมาดูหนังด้วยกัน ผมว่าน้องมันก็เป็นคนน่ารักนะ ไม่แปลกใจเลยที่ผมอยากรู้สึกสนิทด้วย
“ถึงชั้นแล้ว เอาของมา เดี๋ยวขึ้นไปต่อเอง ขอบใจมาก”
“เฮ้ย เดี๋ยวผมไปส่งถึงห้องก็ได้ เอามาๆ” น้องมันดึงเอากลับไปถือคืน แถมยังมีการยักคิ้วให้ผมอีก
เออ! อยากไปส่งก็ถือไป ชอบนักเรื่องลำบากเนี่ย
สุดท้ายน้องกานต์ก็ถือของมาส่งให้ผมถึงหน้าห้องจนได้
“ห้องพี่อยู่นี่เหรอ”
“อ่าห้ะ ขอบใจมาก เอ้อ เอาขนมนี่ไปกินสิ แลกกับน้ำส้มรอบที่แล้ว” ผมล้วงเอากล่องลูกชุบให้น้องไปกล่องหนึ่ง น้องกานต์ยิ้มก่อนจะรับมันไป แต่ผ่านไปสักพักน้องมันก็ยังคงยืนนิ่งๆ ยิ้มให้ผมอย่างนั้น จนผมเองรู้สึกเก้อกระดากอยู่เหมือนกัน
“อะ...อะไร กลับห้องดิ”
“ที่ผมบอกว่าพี่น่ารักอะ มันไม่ใช่แค่หน้าตาพี่นะ นิสัยพี่ด้วย พี่รู้ตัวไหมว่าพี่เป็นคนที่น่ารัก”
อะ...ไอ้เหี้ย ผมโดนชมว่าน่ารักอีกแล้ว อะไรเนี่ย ทำไมน้องมันคิดว่าผมน่ารักนักหนาวะ เอาตรงไหนมาคิดว่าผมน่ารักวะ ปากก็หมา นิสัยน่ารักตรงไหน จริงๆ เหี้ยจะตาย ที่เห็นนี่คือสร้างภาพไว้ แค่น้องไม่รู้เท่านั้นแหละ แต่ในขณะที่ผมยิ้มให้น้องกลับคืน ไอ้หมีควายห้องข้างๆ มันก็ดันเปิดประตูห้องออกมาพอดี
ดูท่าทางมันจะตั้งเวลารอผมกลับห้องเอาไว้เลยมั้ง ออกมาตอนกูอยู่หน้าห้องเป๊ะๆ ตลอด มันขมวดคิ้วตอนเห็นว่าผมยืนอยู่กับใคร
เฮ้ยๆ อย่ากินน้องกานต์นะเว้ย อย่าทำอะไรน้องนะ
“เอ่อ…”
“ทำไมวันนี้กลับช้า”
มันก้าวออกมาแล้วครับ ร่างใหญ่ๆ ตันๆ ของมันออกมายืนข้างๆ น้องกานต์ที่ผมคิดว่าตัวสูงแล้วก็ยังเทียบไอ้สุขสันต์ไม่ได้เลย
“กูไปตลาดมา นี่ เอาไป แลกข้าว” พอผมเห็นมันเลยจัดการยื่นถุงข้าวให้
ไอ้หมีมันก้มลงมองโดยที่ไม่ได้รับไป ก่อนที่มันจะตวัดสายตาไปมองถุงในมือของน้องกานต์ มึงกำลังจะจับผิดอะไรอีกแล้วเนี่ย
“อันนี้น้องกานต์ ที่กูเล่าให้ฟัง ส่วนนี่ชื่อสุขสันต์ เขาอยู่ห้อง 305 เพื่อนร่วมชั้นพี่เอง”
ไอ้หมีไม่ทักทายเพื่อนใหม่แม้แต่คำเดียว ยังคงยืนมองน้องอยู่อย่างนั้น สายตาที่ใช้มองน้องก็อย่างเหี้ยม เหมือนแค้นอะไรน้องมากนักหนา
นี่พวกมันสองคนเคยเจอกันหลังไมค์มาก่อนไหมนะ สายตาดูจงเกลียดจงชังกันมากเลย
“ถือไว้ เดี๋ยวเข้าไปกินข้างใน” ไอ้หมีมันพูดโดยที่ยังมองหน้าน้องกานต์อยู่
ตอนนี้เหมือนมันสองคนกำลังทำสงครามย่อมๆ ผมคิดว่าผมควรเบรกพวกมันก่อนที่มันจะฟัดกัน จะว่าไป... ตอนนี้เหมือนกำลังดูสารคดีหมีควายจะตีกับมนุษย์เลย
“กินในห้องกูน่ะนะ เฮ้ย กูว่า…” ผมพูดต่อไม่ออก เมื่อไอ้หมีมันเล่นตวัดสายตามาหาผมบ้างแล้ว กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ อะไรอะ กูไปพูดผิดหูมึงตรงไหนอีกเหรอ โอ้ย ทำอะไรไม่เคยจะถูกใจแม่งเลย ไอ้เจคนนี้เครียด!
“เข้าห้อง” หลังจากที่มันจ้องหน้าน้องกานต์อยู่นาน มันก็เดินมาหาผมแล้วสั่งให้ผมเดินเข้าห้องตัวเอง
ผมได้แต่พยักหน้างงๆ เออเว้ย เดี๋ยวนี้จะเข้าห้องตัวเองก็ต้องมีหมีมาคุมเหรอวะ ชักจะงงแล้วนะเว้ย
“พี่เจครับ” ยังไม่ทันที่ผมจะได้เดินเข้าห้อง น้องกานต์ที่ยืนรออยู่ก็เรียกชื่อขึ้นมา “ที่พี่ชวนผมมาห้องพี่อะ ผมตกลงนะพี่ โทรเรียกผมได้เลย สำหรับพี่ ผมว่างตลอดแหละ เดี๋ยวจะหาของกินมาด้วย วันนี้ผมขอบคุณมากนะพี่ เอาไว้ค่อยไลน์คุยกันเหมือนเดิม ผมไปแล้วนะครับ ฝันดีครับพี่เจ แล้วก็สวัสดีครับ คุณพี่เพื่อนร่วมชั้นพี่เจได” น้องมันพูดไปพลางมองหน้าไอ้หมีไปด้วย ก่อนจะหันมายิ้มให้ผมแล้วเดินผ่านไป
จู่ๆ ประตูห้องผมมันก็ถูกปิด แรงกระแทกไม่เบามือนักทำเอาผมตกใจ หันไปมองข้างตัวก็เห็นเป็นไอ้หมีเวรคู่กรรมกำลังยืนเท้าเอวจ้องมองผมอยู่
“อะ…อะไร มองกูทำไม”
“ไปชวนอะไรมัน”
“อย่าไปหาเรียกคนอื่นว่ามันแบบนั้นสิวะ เสียมารยาท”
“ชวนอะไร”
อะ ทำไมรู้สึกเหมือนโดนดุอีกแล้ว ฮือออออ
“ก็ชวนมาดูหนังที่ห้อง น้องมันชอบดูหนังเหมือนกัน”
“ชวนมาดูที่ห้องเลยเหรอ ชวนผู้ชายเข้าห้องเลย?”
เอ้า! กูผิดอะไรอีกล่ะ กูมองน้องมันเป็นน้องชายคนหนึ่งอะ มึงนั่นแหละคิดอะไรของมึง
“กูก็ผู้ชายไหม หลีก จะไปหาข้าวกินแล้ว หิว” ผมตัดสินใจเดินหนีไอ้หมีสุขสันต์ เดินไปแกะกับข้าว แกะของกินเทใส่จานชาม แต่ยังไม่ทันจะได้ตักเข้าปาก ไอ้หมีมันก็เล่นตะปบมือผมเอาไว้ก่อน
“มีไลน์กันด้วย แล้วคุยไลน์กันด้วย บ่อยไหม?”
“อะไรเนี่ย อะไรของมึง กูจะกินข้าว” มึงดูเชอร์ล็อค โฮมแล้วอินเหรอ ถามจริงๆ
“คุยกับมันบ่อยไหม”
“ไม่บ่อย เคยคุยกันครั้งเดียว ทำไมต้องเรียกน้องว่ามันด้วยอะ นิสัยไม่ดีว่ะ” ผมเอ็ดใส่มัน
ก็ดูดิ โตกว่าเขาตั้งกี่ปี ทำไมไม่มีมารยาทเอาเสียเลย รู้จักเขาดีไหมก็ไม่ ไปเรียกเขามันๆ อยู่นั่นแหละ
“จะดูเรื่องอะไรกัน”
“ห้ะ?” จู่ๆ มันจะเปลี่ยนเรื่องมันก็เปลี่ยนของมันเฉยเลย ไม่บอกหัวข้อให้ผมรู้ก่อนด้วย
“หนังอะ ดูเรื่องอะไรกัน”
“ก็ทั่วไป”
“เรื่องอะไร”
เอ้า มันจะมาอยากรู้ทำไมวะเนี่ย ปกติไม่ยักเห็นมันจะสนใจเรื่องหนังเรื่องอะไรพวกนี้เลย
“Game of throne บ้าง แล้วก็พวกหนังใน Netflix ทั่วไปอะแหละ ถามทำไม มึงจะไปดูหรือไง”
“อือ”
โอ้โห… เจ็ดซีซั่นเลยนะเว้ย มึงตอบมั่นใจจังเลยนะ กูว่ามึงจะรอดถึงซีซั่นสามไหม กูถามก่อน
“ถามจริงนะสุขสันต์ จะดูไปทำไมวะ ปกติก็ไม่เห็นมึงดูหนัง”
“ใครบอก” เอ้า กูก็เดาเอาได้ไหมล่ะ เห็นวันๆ ทำอะไรบ้างนอกจากเล่นดนตรีแล้วก็เล่นกับแมวดำ
“อะ…”
“จะดูหนังกับมันเมื่อไหร่”
“อย่าเรียกน้องกานต์ว่ามันนะ” ต้องบอกอีกกี่รอบเนี่ย
“จะดูเมื่อไหร่ก็เรียกด้วย”
เอ้า! จู่ๆ ก็อยากมีส่วนร่วมด้วยเฉยเลย
“เออๆ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน จะกินข้าว” และแล้วผมก็ตัดจบเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง นั่งก้มหน้าก้มตากินข้าวไป หิวมากครับ อุตส่าห์หิ้วกลับมาจากตลาด
นั่งกินไปเรื่อยๆ จู่ๆ ผมก็โดนจู่โจมเข้าที่ปลายจมูก ไอ้หมีมันนั่งดีๆ ไม่เป็น ชอบทำตัวเป็นคนสมาธิสั้น ตอนนี้มันกำลังเอามือมันมาบีบจมูกผมแล้วบิดไปมาเบาๆ ทำเอาผมเผลอปล่อยช้อนหล่นกระทบจานดังเคร้ง
อะ...อะไรวะเนี่ย มันมาอารมณ์ไหนของมัน
“หมั่นไส้”
เอ้า! อยู่ดีไม่ว่าดีก็จะมาหมั่นไส้กูแบบนี้ก็ได้เหรอพ่อคุณ!
“ฮื่อ อย่าจับ เดี๋ยวสิวขึ้น”
“ปล่อยให้เดินคนเดียวไม่ได้เลย มีแมลงมาตอมตลอด”
มันบ่นอะไรของมันไม่รู้ ผมไม่เข้าใจ อะไร แมลงตอมใคร ตอมกู? ถุย กูไม่ใช่ขี้เถอะไอ้หมีผี
“นี่!” ผมจับอุ้งตีนหน้าๆ ของมันแล้วดึงออกจากหน้าตัวเองทันที ไอ้หมีมันเลิกคิ้วรอเหมือนจะรอดูว่าผมจะทำอะไรกับมัน ฮึ่ย! ใช่สิ กูมันไอ้เจผอมแห้งแรงน้อย จะไปทำอะไรไอ้หมีควายแบบมันได้ล่ะ ผมเลยได้แต่จับข้อมือมันเอาไว้แล้วตีมือมันคืน “มึงไม่ใช่เดอเนรีส กูไม่ให้มึงมาจับกูง่ายๆ นะเว้ย!”
“ใครคือเดอเนรีส”
“กูไม่บอก ไปตามดูเอาเองสิวะ อะกูใบ้ให้ว่าแฟนกูเองงงงง” ผมลากเสียงใส่มัน เผลอตีหน้าทะเล้นออกไปด้วย ไอ้หมีมันเลยเหมือนจะหมั่นไส้ขึ้นมาอีกรอบ เลยใช้อุ้งตีนทั้งสองข้างของมันมาจับแก้มผมแล้วยืดแก้มออก
ไอ้สุขสันต์! เจ็บๆๆๆ
“อื้อออ”
“แฟนเหรอ หน้าตาแบบนี้น่ะนะยังจะมีแฟน”
โอ้ย! ดูถูกกูเหรอ อย่าให้กูมีแฟนนะ กูจะเอาเขามาฟาดหน้ามึง!
“เขาไม่เอาหรอก มีแต่กูเนี่ย” มันพูดอะไรสักอย่างุบงิบๆ ผมเองก็ได้ยินไม่ชัดเพราะมัวแต่ต่อสู้กับมือหนาๆ ของมัน
ไอ้เหี้ย มือสากมาก ทำไมไม่รู้จักบำรุงมือเลยวะ ขัดใจ แล้วดู ผมจับแขนมันงี้ก็ทั้งหนาทั้งตัน นี่มันหมีชัดๆ มันไม่ใช่คนแล้ว!
“ทีหลังอย่าไปเฟรนด์ลี่กับใครมาก กูเหนื่อย”
“เหนื่อยไร! โอย จะฆ่ากันหรือไงวะ!” ในที่สุดผมก็เอามือมันออกจากแก้มผมได้ นั่งลูบแก้มตัวเองป้อยๆ พลางเหลือบมองไอ้ตัวการ
ถ้าหน้ายานนะ จะให้จ่ายค่าร้อยไหมกับฟิลเลอร์ให้ ฮึ่ย!
“ดื้อขนาดนี้ยังจะมีคนสนใจอีก”
“ใครดื้อ มึงเลิกบอกว่ากูดื้อสักทีเถอะ กูไม่ใช่เด็กสิบขวบนะเว้ย”
“ก็ดื้อตลอด กับพี่นี่ดื้อตลอด”
“เอ้า!”
“แต่ดื้อแค่กับพี่ก็แล้วกัน ถ้าไปดื้อข้างนอกกับน้องบางคนแล้วจะโดนไม่ใช่น้อย”
.
.
“เฮีย จะถึงคิวเราแล้วนะเว้ย ดูอะไรอยู่วะ หน้าเครียดเชียว”
“เชี่ย ไอ้ดิน เฮียดู game of throne ว่ะ นี่เฮียติดหนังติดซีรี่ย์ถึงขนาดเอามาดูด้วยเลยเหรอวะ”
“ไม่ได้ติด แต่เด็กมันติด ให้ทำไง”
“เฮียๆ ผมเองก็ดูนะ เฮียดูเอาใจผมเหรอวะ โอ้ย ซึ้ง”
“โหย มั่นหน้านะมึงอะไอ้เชี่ยเต้”
“เอ้า ก็กู...”
“หุบปากไป”
“โห่เฮีย ใจร้ายจังวะกับน้องกับนุ่งเนี่ย ใช่สิ้ น้องไม่ใช่คนนั้นนี่”
“เดี๋ยวไอ้เต้”
“ฮั่นแน่ จะง้ออะดิ”
“เดอเนอรีสนี่จะตายซีซั่นไหนวะ อยากดู”
“ถุย!”
TBC.
#ข้างห้อง305
แบภาพเดอเนรีสค่ะ ทุกคนจะได้รู้ว่าเขาสวยขนาดไหน แงง ><
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

t t