ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic2PM]The drak could >> TK JW CH

    ลำดับตอนที่ #2 : Chap 1

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 54


    Chap 1

    “กลับมาแล้ว”

     

    “พี่คุณ!!! ^^

     

    ทันทีที่เสียงร้องดังมาจากหน้าประตูบ้าน คนบนโซฟาทั้งสองที่ดูทีวีอยู่รีบหันไปมองด้วยความสงสัยถึงคนที่ได้กลับเข้าบ้านมา แต่กลับส่งอารมณ์ให้ผู้เข้าบ้านอย่างต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

     

    นายแก้มอูมผิวขาวเมื่อเห็นว่าผู้ที่กลับเข้าบ้านมาคือพี่ชายคนโตของบ้านก็ยิ้มจนหน้าบานเป็นกระด้งไปเลยทีเดียว ก่อนลุกจากโซฟาแล้ววิ่งไปหาพี่ชายที่หน้าบ้านพร้อมกับมองพี่ชายที่กำลังถอดรองเท้าด้วยความดีอกดีใจที่เห็นพี่ของตนกลับมา

     

    เด็กสาวผมดำยาวผิวขาวเนียนหันไปมองหน้าประตูด้วยสายตาว่างเปล่าแต่ก็ยังจดจ้องคนที่เพิ่งกล่าวมาอย่างรับรู้ว่าพี่ชายคนโตของบ้านกลับมาแล้ว เมื่อสายตาของพี่ชายที่ยิ้มทักทายอูยองผ่านๆ หันมามองหน้าเธอ ก็ยังเป็นเพียงแค่สายตาสีดำนิลแต่กลับแสดงอารมณ์ให้เห็นได้เล็กน้อยว่า ดีใจที่กลับมาเท่านั้น

     

    “ไงเป็นเด็กดีกันใช่มั้ย^^” นิชคุณว่าก่อนวางมือบนหัวอูยองอย่างเอ็นดู

     

    “ครับ พี่คุณเหนื่อยมั้ยกินข้าวมารึยัง”

     

    “ไม่เหนื่อยหรอก พี่ยังไม่ได้กินข้าวเลยทำอะไรให้กินหน่อยสิ”

     

    “ของกินหรอ... วันนี้เจอินเค้าทำไว้ละเหมือนกับรู้ว่าพี่จะกลับงั้นแหละ เพราะเจอินทำแต่ของชอบพี่ทั้งนั้นเลย”

     

    “จริงหรอ!!

     

    “อืม^^

     

    นิชคุณถามอูยองด้วยความแปลกใจระคนปนไปกับความดีใจที่จู่ๆ น้องเล็กของบ้านอย่าง ปาร์ค เจอิน ก็ลุกขึ้นมาทำกับข้าวแถมมีแต่ของชอบตน เพราะเธอเป็นคนที่แสดงความรู้สึกไม่เก่งจึงทำได้แค่หน้านิ่ง แววตาว่างเปล่าไร้ความรู้สึก

     

    “ถ้านายไม่พูดมากก็ไม่มีใครว่านายเป็นใบ้หรอกนะ จาง อูยอง(- -+)”

     

    หลังเงียบอยู่นานเจอินก็เปิดปากพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด เพราะจริงๆ แล้วเธอรู้ว่าวันนี้นิชคุณจะกลับบ้านจึงลุกขึ้นมาทำกับข้าวซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารที่นิชคุณชอบ แทนการบอกความรู้สึกว่า ห่วง ที่ออกจากบ้านไปหลายไว้เพราะตนแสดงออกมาไม่เป็น

     

    “โถ่ เจ... ห่วงพี่คุณก็บอกไปเถอะ พี่คุณรู้มั้ยช่วงที่พี่ไม่อยู่เจมันถามหาพี่ทุกวันเลยแถมทำท่าหงุดหงิดที่รู้ว่าพี่ไม่กลับบ้านแล้วก็ไม่ไปเรียนมาเกิบสัปดาห์แล้ว”

     

    “จริงหรอ!!!!!O.O

     

    นิชคุณมองอูยองที่สาธยายทุกอย่างในช่วงที่ตนหายไปให้ฟังอย่างทึ้งๆ ที่เจอินแสดงความหงุดหงิดออกมา ซึ่งมันค่อนข้างทำให้เค้าดีใจที่เจอินไม่ได้โกรธที่เค้าตัดสินใจ ขายตัวเพื่อปกป้องทั้งสองคนไว้

     

    “จาง อูยองนายอยากตายใช่มั้ย!!!!!!!!!

     

    “ไม่เอาน่าเจอย่าหาเรื่องทะเลาะสิพี่คุณอุตส่าห์ได้กลับบ้าน... ไปพี่กินข้าวกันเถอะ”

     

    อูยองร้องห้ามเจอินที่กำลังทำท่าว่าจะลุกขึ้นมาไล่ตีตนเพราะอูยองกลับเป็นคนเดียวที่อ่านความรู้สึกคนไร้ความรู้สึกอย่าง ปาร์ค เจอิน ได้ทุกอย่าง คนเพราะทั้งอูยองและเจอินสนิทกันมาก อยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลา เรียนชั้นเดียวกันมาตั้งแต่เด็กเพราะเธอเองก็เข้าเรียนก่อนเกณฑ์ด้วยเหตุผลที่ว่า แม่ขี้เกียจส่งเรียนพิเศษมันแพง ถ้าใครคนใดคนหนึ่งในสองคนพี่น้องอูยองเจอินฉลาดจะได้สอนกันเอง เจ๋งมั้ยละ

     

    “ฮ่าๆ OK ไปกินข้าวกัน”

     

    นิชคุณเองก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงสาเหตุที่อูยองสามารถอ่านใจและความรู้สึกเจอินได้จนต้องหลุดขำออกมา ซึ่งแน่นอนว่ามันสร้างความไม่พอใจให้เจอินอย่างเห็นได้ชัด จนเจ้าตัวเดินหนีไปที่ห้องครัวก่อนเป็นที่เรียบร้อยก่อนตามด้วยพี่ชายทั้งสองที่ยังขำไม่หยุด

     

    ปิ๊งป๋อง~~

     

    “อ๊ะ!!! ใครมา” ร่างสูงร้องด้วยความสงสัยที่จู่ๆ กริ่งบ้านก็ถูกกดอย่างไม่น่าเชื่อ

     

    “พี่คุณไปกินข้าวเถอะครับ ป่านนี้ยัยเด็กปากแข็งมันคงตักข้าวรอแล้ว เดี๋ยวผมไปดูเอง”

     

    “เอางั้นก็ได้แล้วรีบตามมานะ”

     

    “ครับ^^

     

    แก้มอูมบอกพี่ชายของตนแต่ก็ยังไม่หยุดขำพร้อมกับนิชคุณเพราะคิดถึงคนปากแข็งที่กำลังตักข้าวรอทั้งๆ ที่เมื่อครู่ยังทำท่าโกรธอยู่ นิชคุณเดินตรงเข้าไปในครัวส่วนอูยองก็เดินไปที่ประตูบ้านอีกครั้ง

     

    ประตูไม้บานเก่าถูกแง้มออกช้าๆ จนเปิดออกเต็มบาน อูยองจ้องมองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยความตกใจปนสงสัยว่าบุคคลนี้โผล่มาได้ยังไง

     

    “ไงอูยอง^^

     

    “พี่เจย์!!!!

     

    “อืม พี่เองทำไมต้องร้องดังด้วย” รอยยิ้มนุ่มถูกส่งไปให้เจ้าของบ้านก่อนหลุดขำในหน้าตาตกใจแปลกๆ ของอูยอง

     

    “เอ่อ.. พี่เจย์เข้ามาก่อนสิครับพวกเรากำลังจะกินข้าวกันพอดี”

     

    “อ่อยพี่รึเปล่าเนี่ยเจอหน้ากันก็ชวนเข้าบ้านเลยนะ ฮาๆ”

     

    “พี่เจย์!!!! พูดอะไรก็ไม่รู้ -////-... ผมเห็นพี่ถือกล่องข้าวมาแบบนี้ผมรู้นะว่าพี่จะมากินข้าวกับพวกเรา”

     

    แก้มเนียนขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆ ทันทีที่โดนแขกของบ้านแซวอย่างล่อแหลม ก่อนหาทางออกอย่างรู้ทันคนตรงหน้าที่มักหอบหิ้วกับข้าวมากินที่บ้านด้วยประจำ

     

    “แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย ฮือ~ จาง อูยอง~

     

    อารมณ์อยากแกล้งกลับมีมาเรื่อยๆ แจบอมยื่นหน้าเข้าไปมองอูยองใกล้ๆ จนหน้าห่างกันเพียงแค่คืบ เมื่อโดนแกล้งแบบนั้นอูยองจนดึงตัวเองถอยหลังด้วยความตกใจแต่ก็พบว่าตัวเองไปชนเข้ากับอะไรสักอย่าง

     

    “อะแฮ่ม!!! ได้เสียกันตรงนี้เลยดีมั้ย(- -)”

     

    คงไม่มีใครอีกแล้วที่พูดจาล่อแหลมด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก อูยองมองค้อนเจอินทีก่อนหันไปยิ้มเจื่อนๆ ให้กับแจบอมที่หน้าประตูและยังยืนยิ้มหล่ออยู่เหมือนเดิม แต่ไม่เหมือนเดิมที่มันส่งไปให้เจอิน

     

    “ฉันเกลียดรอยยิ้มนาย ปาร์ค แจบอม เข้าบ้านซะพี่คุณหิวแล้ว(- -)”

     

    “เฮ้อ~ เธอเป็นคนเดียวจริงๆ ที่ไม่หลงใหลเวลาฉันยิ้ม ไม่เหมือนพี่เธอดูสิยังหน้าแดงอยู่เลยฮาๆ”

     

    “พี่เจย์ก็พูดเล่นอยู่ได้” อูยองที่โดนแซวว่าขึ้นอย่างเสียไม่ได้

     

    “จะเข้าบ้านดีๆ หรือจะให้เลือดออกแล้วค่อยเข้า(- -+)”

     

    OKๆ เข้าแล้วๆ ไปอูยอง^-^

     

    ถือวิสาสะกุมมือเล็กของอูยองทันที เล่นเอาเจ้าของมือถึงกับสะดุ้งถึงสัมผัสอุ่นที่ส่งมาที่มือ เมื่อหันไปมองเจ้าของมืออุ่นก็ยังคงพบกับยิ้มนุ่นที่เคยเห็นเป็นประจำส่งมาให้อยู่ทุกครั้งอีก...

     

    “จะอ้วกก(- -)” แต่คิดหร๊อว่าจะพ้นสายตาก้างชิ้นงามอย่างเจอินที่เดินนำทั้งคู่อยู่

     

    “ความสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องเล่นทำให้ชัดเจนสิ(- -)” ทิ้งปริศนาไว้ให้สองคนที่เดินตามหลังก่อนเดินจากไป จนทั้งสองที่ตามมาต้องหยุดชะงักมองหน้ากัน

     

    “คือ...”

     

    อูยองมองหน้าแจบอมอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะไม่คิดว่าเจอินจะร้ายมาเปิดประเด็นความสัมพันธ์ของตนกับแจบอมพี่ชายข้างบ้านที่มักแวะเวียนมาหาอยู่ประจำ เค้าเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าแจบอมรู้สึกอย่างไรแต่... เพราะครอบครัวของตัวเองเป็นแบบนี้จึงยังไม่อยากเปิดใจรับใคร

     

    “ไม่เป็นไรหรอก จาง อูยอง ไว้เราพร้อมเมื่อไหร่มันจะชัดเจนเองเน๊อะ^^

     

    “คะ ครับ^__^

     

    มีความสุข สุขจนความรู้สึกปริ่มๆ ลึ้กๆ จะไหลย้อนออกมาเป็นน้ำตาแต่ก็ต้องกลั้นมันเอาไว้ไม่อยากแสดงให้เห็นความอ่อนแอของตน

     

    แล้วทั้งสามก็เดินมาถึงโต๊ะอาหารเป็นอันว่าครบองค์ประชุม วันนี้โต๊ะอาหารมีคนเพิ่มคือ นิชคุณ เพราะปกติ นิชคุณมักจะต้องไปค้างข้างนอกด้วยอาชีพ บริการของนิชคุณเอง เมื่อแจบอมเห็นนิชคุณก็ทักทายทุกอย่างด้วยความสนิท และไม่เคยพูดถึงเรื่องอาชีพของนิชคุณเลยจะว่าอีกอย่าง แจบอม เป็นเพื่อนแค่คนเดียวของนิชคุณที่ไม่เคยดูถูก รังเกียจ ในตัวนิชคุณเลย

     

    บรรยากาศในโต๊ะกินข้าวเต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะของทุกคน นับว่าเป็นความทรงจำที่จดจำไปอีกนานเพราะแม้กระทั้งเจอินเองก็มีรอยยิ้มบางๆ ออกมาบ้างในรอบปีนี้เลยก็ว่าทีเดียว (เจอิน : เวอร์แล้วแกน่ะ - - )

     

    แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจบเร็วเสมอ งานเลี้ยงทุกงานย่อมมีวันเลิกรา ข้าวเย็นเมื้อนี้จบลงด้วยเวลาแห่งการนอนหลับ เพราะดึกมากแล้วแจบอมก็ต้องกลับบ้านไป เจอินกับนิชคุณเองก็เหนื่อยล้าด้วยเหตุที่ต่างกันจึงรีบขึ้นนอนไป

     

    ส่วนอูยองเองเมื่อล้างจานเสร็จก็เตรียมจะขึ้นไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ตามเจอินและนิชคุณ อุปกรณ์ทุกอย่างเข้าที่เรียบร้อย ตรวจเช็คของและความสะอาดสักพักเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเข้าที่อูยองจึงออกตัวเดินจากห้องครัวเพื่อเตรียมไปนอน

     

    ปิ๊ปๆ

     

    เดินมาถึงแค่ห้องรับแขกมุมดูทีวีของบ้านอูยองก็ต้องชะงักเมื่อเจ้าโทรศัพท์ประจำตัวมันร้องเตือนว่ามีข้อความเข้า มือเล็กความหาโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงก่อนเปิดข้อความขึ้นมาดู

     

    อูยอง คืนนี้ฝันดีนะ จะฝันถึงพี่ก็ได้ถ้าไม่รู้จะฝันถึงใคร^^ กินนมก่อนนอนด้วยละจะได้หลับฝันดีอาจะฝันถึงพี่ก็ได้นะ kiki’

     

    “บ้า!!! อะไรของเขาก็ไม่รู้-////-“

     

    หน้าขาวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆ อีกครั้ง ปากก็บอกว่าบ้าแต่ก็ดันเดินกลับเข้าไปในห้องครัวอีกครั้งหมายจะเข้าไปเอานมมากินจริงๆ แต่พอเดินไปถึงหน้าห้องครัวเค้าก็เห็นว่าน้องเล็กของบ้านกำลังเดิมนมแก้วโตอยู่ แต่ที่แปลกคือบนโต๊ะยังมีแก้วทรงสูงอีกสองใบวางอยู่เพราะอยากรู้ว่าเจอินจะทำอะไร

     

    อูยองยืนมองอริยะบทการกินนมของน้องก็อดขำไม่ได้สีหน้าที่แสดงไม่เก่งไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกใดๆกำลังกินนมเหมือนกับขาดน้ำมานานกินจนเลอะออกมาข้างปาก พอกินหมดก็หอบเพราะตอนกินสงสัยคุณเธอจะลืมหายใจ เล่นเอาคนแอบดูกลั้นหัวเราะไว้แทบจะไม่ไหว เมื่อกินเสร็จก็เห็นวางเธอเดินกลับไปที่ตู้เย็นอีกก่อนกลับมาพร้อมกับนมกล่องใหญ่แล้วจัดแจงเทลงในสองแก้วสูง อูยองมองเพียงแค่นี้ก็พอจะรู้ว่ายัยตัวดีของบ้านจะทำอะไรจึงรีบวิ่งขึ้นห้องนอนไปทันที

     

    นมสีขาวถูกเทลงในแก้วทรงสูงทั้งสองใบเรียบร้อยแล้ว ร่างบางหันมองซ้ายขวาสำรวจหาบุคคลอื่นที่อาจจะยังไม่นอนแล้วอยู่รอบๆ ห้องนี้ แต่เมื่อไม่เห็นใครสายตาคู่สวยคู่เดิมที่ใช่มองหาคนอื่นในบ้านก็กลับมาจดจ้องอยู่ที่แก้วนมสองใบยิ้มสวยเผยออกมาจากใบหน้าที่นิ่งอยู่ตลอดเวลา ดวงตาสีนิลดำที่เคยว่างเปล่ากลับฉายแววความรู้สึกที่แสดงออกอย่างเห็นได้ฉันว่าพอใจในสิ่งดีๆ เล็กๆ ที่ตนได้ทำให้พี่ชายทั้งสองถึงแม้ตนจะแสดงออกไม่เก่งก็ตาม เพียงไม่นานสีหน้าและแววตาก็กลับกลายเป็นความนิ่งและว่างเปล่าดั่งเดิม

     

    แก้วนมสองใบถูกยกขึ้นบนบ้านอย่างระมัดระวัง ก่อนเจ้าตัวจะตรงดิ่งไปยังห้องของอูยองก่อนแก้วนมสีขาวกำลังจะถูกวางลงที่หน้าประตูถ้า...เจ้าของห้องไม่ดันเปิดประตูมาจ๊ะเอ๋อย่างรู้ทันเสียก่อน

     

    “ไง ปาร์ค เจอิน เอามาให้พี่หรอ^^” ถามพร้อมส่งยิ้มทะเล้นไปให้เล่นเอาแววตาว่างเปล่าเริ่มแสดงอาการตกใจขึ้นขัดตามนิสัย

     

    “ไม่ใช่ฉันพี่เจย์ฝากมา” ด้วยความเนียมจึงยังคงรักษาความนิ่งได้ในระดับที่ดีเลยทีเดียว

     

    “หมายความว่าไง”

     

    “ฮึ ก็ข้อความนั้นไง”

     

    “เธอรู้ได้ไง”

     

    “จะยากอะไรก็แค่อีตาขี้เก๊กนั้นมันส่งข้อความมากวนฉันให้เอานมให้คนไม่รู้จักโตสุดที่รักของตาแก่นั้นกินไง พอใจรึยัง”

     

    “เจ...เธอนี้มันจริงๆ แล้วอีกแก้วละ”

     

    ถึงแม้จะปฏิเสธเรื่องข้อความที่ถูกส่งมาทั้งเครื่องตนและเครื่องเจอินไม่ได้ แต่ก็อดแซวนมอีกแก้วที่เธอถืออยู่ไม่ได้อีกอยู่ดี

     

    “กะ ก็ กินเองไงละ”

     

    “แน่ใจน๊า... ว่าเธอกินเองเธอกินแล้วไม่ใช่หรอดูสิคราบนมยังติดปากอยู่เลย”

     

    ว่าแล้วก็เอามือเกลี่ยคราบนมสีขาวที่ติดอยู่ตรงมุมปากของน้องเล็กตัวดี พร้อมส่งยิ้มให้อย่างรู้ทันว่านมแก้วนั้นเธอจะเอาไปให้ใคร

     

    “ห่วงพี่คุณก็บอกไปตรงๆ สิแสดงความรู้สึกง่ายยิ่งกว่าแสดงความสัมพันธ์อีกนะ..เจอิน”

     

    แววตาอยากแกล้งอ่อนแรงลงเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูและเป็นห่วงที่ส่งไปให้น้องสาวคนเล็กและคนเดียวของตน

     

    “หุบปากเอานมไปกินแล้วเข้านอนซะ!!” แต่ก็ยังไม่ได้ผลอยู่ดีกับคนไร้อารมณ์อย่างเจอิน

     

    “พี่คุณครับ!!!!!! พี่คุณๆๆๆ เจอินอยากคุยด้วยครับ!!!! ...โชคดีนะน้องรัก...”

     

    ปึง!

     

    ด้วยอารมณ์อยากแกล้งรวมเข้ากับความหมั่นไส้อย่างรุนแรงอูยองแกล้งตะโกนเรียกนิชคุณดังๆ ก่อนจะเบาเสียงลงจนกลายเป็นเพียงแค่ประโยคกระซิบ พร้อมทิ้งยิ้มทะเล้นและงานไว้ให้แล้วหายเข้าห้องไปซะ

     

    “นี้!!! จาง อูยอง นายแกล้งฉันออกมาเดี๋ยวนี้ จาง อูยอง!!!!!!!!!

     

    ปึงๆๆๆๆ!!

     

    “อ้าวเจอ์มีอะไรจะคุยกับพี่หรอ”

     

    พยายามพังประตูเอาตัวการออกมาแต่ดูเหมือนจะไม่ได้อะไรกลับมาเลยนอกจากเสียงหัวเราะลั่นที่ดังออกมา และตอนนี้นิชคุณก็เปิดประห้องที่อยู่ถัดไปออกมาแล้ว

     

    “เอ่อ... คือ... คือว่า ฉัน.... คือแบบ... ฮึ๋ย!

     

    “อ๊าว ไม่พูดสักทีละพี่รอฟังอยู่”  นิชคุณเดินจากห้องมาเจอินที่ยังยืนอ้ำอึ้งอยู่หน้าหน้าอูยอง

     

    “ฉันน่ะ... แบบ...”

     

    “เอานมมาให้พี่หรอ” เมื่อเห็นนมในแก้วจึงพอจะเดาออกเพราะคนอย่างเจอินจะให้บอกตรงๆ ว่าเอาของมาให้คงเป็นไปได้ยาก

     

    “อะ เอ่อ อืม” ว่าก่อนส่งแก้วนมให้ไป

     

    “ขอบคุณมากนะ^^

     

    มือเรียวรับแก้วนมจากน้องสาวคนเล็กที่ยังยืนนิ่งอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็อดเอ็นดูไม่ได้จึงดึงหัวเข้าขยี้เล่นแต่ก็ถูกผลักออกจากเจ้าของหัวตามนิสัย

     

    “ลูกค้ารอบนี้พี่เป็นใคร...”

     

    “เอ๋??”

     

    “ฉันถามว่าลูกค้าพี่คือใคร”

     

    “เจอินนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอควรถามพี่เลยนะเด็กดี”

     

    “จะบอกฉันมั้ย” เมื่อแววตาว่างเปล่าของเธอแสดงแววตาโกรธจนน่ากลัวร่างสูงจึงต้องตัดสินใจบอกไป

     

    “คุณชีวอน ชเว ชีวอน น่ะ ทำไมหรอ”

     

    “อีกสองวันมีการนัดสอบครั้งสำคัญของพี่ห้ามขาดเรียนบอกไอ้งั่งนั้นซะไม่งั้นฉันจะจัดการมันแน่ถ้าพี่ขาดเรียน อูยองบอกว่าความรู้สึกแสดงง่ายกว่าความสัมพันธ์แต่สำหรับฉัน...มันยากพอๆ กันเพราะฉะนั้นฟังให้ดี...”

     

    ร่างสูงจ้องคนเป็นน้องนิ่งด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ ดีใจ มีความสุข กังวล ไม่เข้าใจ แต่นี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่เธอยอมเปิดปากคุยกับเค้ามากถึงขนาดนี้

     

    “ฟังนะ”

     

    “อืมพี่ฟังอยู่”

     

    “กินนมแล้วไปนอนซะตั้งใจเรียนด้วยละ”

     

    อ้าว!!!! เอาแล้วไง นิชคุณที่ยืนตั้งใจฟังอย่างมีหวังว่าจะได้ยินคำว่า “เป็นห่วงมาก” จากเธอสักครั้งถึงกลับนิ่งไป แต่ที่ทำทั้งนี้ก็คงเป็นคำว่าห่วงใยจากเธอ เพราะเจอินมักคิดเสมอว่าการกระทำสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด แต่นั้นกลับเป็นจุดด้อยทำให้เธอกลายเป็นคนเย็นชา

     

    “โถ่เจอิน ยังไงก็ฝันดีนะ^^

     

    แต่อุตส่าห์พูดกับเขามากขนาดนี้ก็ขอหอมแก้มให้ชื่นใจสักครั้งหน่อยแล้วกัน มือเรียวดึงแก้มขาวของน้องสาวเข้ามาหอมทีหนึ่งก่อนส่งยิ้มไปให้แล้วลูบหัว ทำเอาคนโดนหอมถึงกับนิ่งทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว

     

    O.O

     

    “ไปนอนได้แล้วเด็กดี

     

    O.O

     

    “พี่ไปนอนละนะขอบคุณที่เป็นห่วงพี่ พี่ก็ห่วงเราเหมือนกันนะฝันดีละ”

     

    นิชคุณว่าแล้วก็เดินเข้าห้องไปพร้อมกับแก้วนมและรอยยิ้มที่มีความสุข นับว่าการทำงานโสมนของเขามันจะทำให้เค้าได้รู้ว่าก็ยังมีคนที่ห่วงเค้าอยู่เหมือนกัน รู้สึกว่าดีแล้วที่เป็นตัวเองไม่ใช่เจอินและอูยอง

     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×