คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chap 1
“กลับมาแล้ว”
“พี่คุณ!!! ^^”
ทันทีที่เสียงร้องดังมาจากหน้าประตูบ้าน คนบนโซฟาทั้งสองที่ดูทีวีอยู่รีบหันไปมองด้วยความสงสัยถึงคนที่ได้กลับเข้าบ้านมา แต่กลับส่งอารมณ์ให้ผู้เข้าบ้านอย่างต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
นายแก้มอูมผิวขาวเมื่อเห็นว่าผู้ที่กลับเข้าบ้านมาคือพี่ชายคนโตของบ้านก็ยิ้มจนหน้าบานเป็นกระด้งไปเลยทีเดียว ก่อนลุกจากโซฟาแล้ววิ่งไปหาพี่ชายที่หน้าบ้านพร้อมกับมองพี่ชายที่กำลังถอดรองเท้าด้วยความดีอกดีใจที่เห็นพี่ของตนกลับมา
เด็กสาวผมดำยาวผิวขาวเนียนหันไปมองหน้าประตูด้วยสายตาว่างเปล่าแต่ก็ยังจดจ้องคนที่เพิ่งกล่าวมาอย่างรับรู้ว่าพี่ชายคนโตของบ้านกลับมาแล้ว เมื่อสายตาของพี่ชายที่ยิ้มทักทายอูยองผ่านๆ หันมามองหน้าเธอ ก็ยังเป็นเพียงแค่สายตาสีดำนิลแต่กลับแสดงอารมณ์ให้เห็นได้เล็กน้อยว่า ‘ดีใจที่กลับมา’ เท่านั้น
“ไงเป็นเด็กดีกันใช่มั้ย^^” นิชคุณว่าก่อนวางมือบนหัวอูยองอย่างเอ็นดู
“ครับ พี่คุณเหนื่อยมั้ยกินข้าวมารึยัง”
“ไม่เหนื่อยหรอก พี่ยังไม่ได้กินข้าวเลยทำอะไรให้กินหน่อยสิ”
“ของกินหรอ... วันนี้เจอินเค้าทำไว้ละเหมือนกับรู้ว่าพี่จะกลับงั้นแหละ เพราะเจอินทำแต่ของชอบพี่ทั้งนั้นเลย”
“จริงหรอ!!”
“อืม^^”
นิชคุณถามอูยองด้วยความแปลกใจระคนปนไปกับความดีใจที่จู่ๆ น้องเล็กของบ้านอย่าง ปาร์ค เจอิน ก็ลุกขึ้นมาทำกับข้าวแถมมีแต่ของชอบตน เพราะเธอเป็นคนที่แสดงความรู้สึกไม่เก่งจึงทำได้แค่หน้านิ่ง แววตาว่างเปล่าไร้ความรู้สึก
“ถ้านายไม่พูดมากก็ไม่มีใครว่านายเป็นใบ้หรอกนะ จาง อูยอง(- -+)”
หลังเงียบอยู่นานเจอินก็เปิดปากพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด เพราะจริงๆ แล้วเธอรู้ว่าวันนี้นิชคุณจะกลับบ้านจึงลุกขึ้นมาทำกับข้าวซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารที่นิชคุณชอบ แทนการบอกความรู้สึกว่า ‘ห่วง’ ที่ออกจากบ้านไปหลายไว้เพราะตนแสดงออกมาไม่เป็น
“โถ่ เจ... ห่วงพี่คุณก็บอกไปเถอะ พี่คุณรู้มั้ยช่วงที่พี่ไม่อยู่เจมันถามหาพี่ทุกวันเลยแถมทำท่าหงุดหงิดที่รู้ว่าพี่ไม่กลับบ้านแล้วก็ไม่ไปเรียนมาเกิบสัปดาห์แล้ว”
“จริงหรอ!!!!!O.O”
นิชคุณมองอูยองที่สาธยายทุกอย่างในช่วงที่ตนหายไปให้ฟังอย่างทึ้งๆ ที่เจอินแสดงความหงุดหงิดออกมา ซึ่งมันค่อนข้างทำให้เค้าดีใจที่เจอินไม่ได้โกรธที่เค้าตัดสินใจ ‘ขายตัว’ เพื่อปกป้องทั้งสองคนไว้
“จาง อูยองนายอยากตายใช่มั้ย!!!!!!!!!”
“ไม่เอาน่าเจอย่าหาเรื่องทะเลาะสิพี่คุณอุตส่าห์ได้กลับบ้าน... ไปพี่กินข้าวกันเถอะ”
อูยองร้องห้ามเจอินที่กำลังทำท่าว่าจะลุกขึ้นมาไล่ตีตนเพราะอูยองกลับเป็นคนเดียวที่อ่านความรู้สึกคนไร้ความรู้สึกอย่าง ปาร์ค เจอิน ได้ทุกอย่าง คนเพราะทั้งอูยองและเจอินสนิทกันมาก อยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลา เรียนชั้นเดียวกันมาตั้งแต่เด็กเพราะเธอเองก็เข้าเรียนก่อนเกณฑ์ด้วยเหตุผลที่ว่า แม่ขี้เกียจส่งเรียนพิเศษมันแพง ถ้าใครคนใดคนหนึ่งในสองคนพี่น้องอูยองเจอินฉลาดจะได้สอนกันเอง เจ๋งมั้ยละ
“ฮ่าๆ OK ไปกินข้าวกัน”
นิชคุณเองก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงสาเหตุที่อูยองสามารถอ่านใจและความรู้สึกเจอินได้จนต้องหลุดขำออกมา ซึ่งแน่นอนว่ามันสร้างความไม่พอใจให้เจอินอย่างเห็นได้ชัด จนเจ้าตัวเดินหนีไปที่ห้องครัวก่อนเป็นที่เรียบร้อยก่อนตามด้วยพี่ชายทั้งสองที่ยังขำไม่หยุด
ปิ๊งป๋อง~~
“อ๊ะ!!! ใครมา” ร่างสูงร้องด้วยความสงสัยที่จู่ๆ กริ่งบ้านก็ถูกกดอย่างไม่น่าเชื่อ
“พี่คุณไปกินข้าวเถอะครับ ป่านนี้ยัยเด็กปากแข็งมันคงตักข้าวรอแล้ว เดี๋ยวผมไปดูเอง”
“เอางั้นก็ได้แล้วรีบตามมานะ”
“ครับ^^”
แก้มอูมบอกพี่ชายของตนแต่ก็ยังไม่หยุดขำพร้อมกับนิชคุณเพราะคิดถึงคนปากแข็งที่กำลังตักข้าวรอทั้งๆ ที่เมื่อครู่ยังทำท่าโกรธอยู่ นิชคุณเดินตรงเข้าไปในครัวส่วนอูยองก็เดินไปที่ประตูบ้านอีกครั้ง
ประตูไม้บานเก่าถูกแง้มออกช้าๆ จนเปิดออกเต็มบาน อูยองจ้องมองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยความตกใจปนสงสัยว่าบุคคลนี้โผล่มาได้ยังไง
“ไงอูยอง^^”
“พี่เจย์!!!!”
“อืม พี่เองทำไมต้องร้องดังด้วย” รอยยิ้มนุ่มถูกส่งไปให้เจ้าของบ้านก่อนหลุดขำในหน้าตาตกใจแปลกๆ ของอูยอง
“เอ่อ.. พี่เจย์เข้ามาก่อนสิครับพวกเรากำลังจะกินข้าวกันพอดี”
“อ่อยพี่รึเปล่าเนี่ยเจอหน้ากันก็ชวนเข้าบ้านเลยนะ ฮาๆ”
“พี่เจย์!!!! พูดอะไรก็ไม่รู้ -////-... ผมเห็นพี่ถือกล่องข้าวมาแบบนี้ผมรู้นะว่าพี่จะมากินข้าวกับพวกเรา”
แก้มเนียนขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆ ทันทีที่โดนแขกของบ้านแซวอย่างล่อแหลม ก่อนหาทางออกอย่างรู้ทันคนตรงหน้าที่มักหอบหิ้วกับข้าวมากินที่บ้านด้วยประจำ
“แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย ฮือ~ จาง อูยอง~”
อารมณ์อยากแกล้งกลับมีมาเรื่อยๆ แจบอมยื่นหน้าเข้าไปมองอูยองใกล้ๆ จนหน้าห่างกันเพียงแค่คืบ เมื่อโดนแกล้งแบบนั้นอูยองจนดึงตัวเองถอยหลังด้วยความตกใจแต่ก็พบว่าตัวเองไปชนเข้ากับอะไรสักอย่าง
“อะแฮ่ม!!! ได้เสียกันตรงนี้เลยดีมั้ย(- -)”
คงไม่มีใครอีกแล้วที่พูดจาล่อแหลมด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก อูยองมองค้อนเจอินทีก่อนหันไปยิ้มเจื่อนๆ ให้กับแจบอมที่หน้าประตูและยังยืนยิ้มหล่ออยู่เหมือนเดิม แต่ไม่เหมือนเดิมที่มันส่งไปให้เจอิน
“ฉันเกลียดรอยยิ้มนาย ปาร์ค แจบอม เข้าบ้านซะพี่คุณหิวแล้ว(- -)”
“เฮ้อ~ เธอเป็นคนเดียวจริงๆ ที่ไม่หลงใหลเวลาฉันยิ้ม ไม่เหมือนพี่เธอดูสิยังหน้าแดงอยู่เลยฮาๆ”
“พี่เจย์ก็พูดเล่นอยู่ได้” อูยองที่โดนแซวว่าขึ้นอย่างเสียไม่ได้
“จะเข้าบ้านดีๆ หรือจะให้เลือดออกแล้วค่อยเข้า(- -+)”
“OKๆ เข้าแล้วๆ ไปอูยอง^-^”
ถือวิสาสะกุมมือเล็กของอูยองทันที เล่นเอาเจ้าของมือถึงกับสะดุ้งถึงสัมผัสอุ่นที่ส่งมาที่มือ เมื่อหันไปมองเจ้าของมืออุ่นก็ยังคงพบกับยิ้มนุ่นที่เคยเห็นเป็นประจำส่งมาให้อยู่ทุกครั้งอีก...
“จะอ้วกก(- -)” แต่คิดหร๊อว่าจะพ้นสายตาก้างชิ้นงามอย่างเจอินที่เดินนำทั้งคู่อยู่
“ความสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องเล่นทำให้ชัดเจนสิ(- -)” ทิ้งปริศนาไว้ให้สองคนที่เดินตามหลังก่อนเดินจากไป จนทั้งสองที่ตามมาต้องหยุดชะงักมองหน้ากัน
“คือ...”
อูยองมองหน้าแจบอมอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะไม่คิดว่าเจอินจะร้ายมาเปิดประเด็นความสัมพันธ์ของตนกับแจบอมพี่ชายข้างบ้านที่มักแวะเวียนมาหาอยู่ประจำ เค้าเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าแจบอมรู้สึกอย่างไรแต่... เพราะครอบครัวของตัวเองเป็นแบบนี้จึงยังไม่อยากเปิดใจรับใคร
“ไม่เป็นไรหรอก จาง อูยอง ไว้เราพร้อมเมื่อไหร่มันจะชัดเจนเองเน๊อะ^^”
“คะ ครับ^__^”
มีความสุข สุขจนความรู้สึกปริ่มๆ ลึ้กๆ จะไหลย้อนออกมาเป็นน้ำตาแต่ก็ต้องกลั้นมันเอาไว้ไม่อยากแสดงให้เห็นความอ่อนแอของตน
แล้วทั้งสามก็เดินมาถึงโต๊ะอาหารเป็นอันว่าครบองค์ประชุม วันนี้โต๊ะอาหารมีคนเพิ่มคือ นิชคุณ เพราะปกติ นิชคุณมักจะต้องไปค้างข้างนอกด้วยอาชีพ ‘บริการ’ ของนิชคุณเอง เมื่อแจบอมเห็นนิชคุณก็ทักทายทุกอย่างด้วยความสนิท และไม่เคยพูดถึงเรื่องอาชีพของนิชคุณเลยจะว่าอีกอย่าง แจบอม เป็นเพื่อนแค่คนเดียวของนิชคุณที่ไม่เคยดูถูก รังเกียจ ในตัวนิชคุณเลย
บรรยากาศในโต๊ะกินข้าวเต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะของทุกคน นับว่าเป็นความทรงจำที่จดจำไปอีกนานเพราะแม้กระทั้งเจอินเองก็มีรอยยิ้มบางๆ ออกมาบ้างในรอบปีนี้เลยก็ว่าทีเดียว (เจอิน : เวอร์แล้วแกน่ะ - - )
แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจบเร็วเสมอ งานเลี้ยงทุกงานย่อมมีวันเลิกรา ข้าวเย็นเมื้อนี้จบลงด้วยเวลาแห่งการนอนหลับ เพราะดึกมากแล้วแจบอมก็ต้องกลับบ้านไป เจอินกับนิชคุณเองก็เหนื่อยล้าด้วยเหตุที่ต่างกันจึงรีบขึ้นนอนไป
ส่วนอูยองเองเมื่อล้างจานเสร็จก็เตรียมจะขึ้นไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ตามเจอินและนิชคุณ อุปกรณ์ทุกอย่างเข้าที่เรียบร้อย ตรวจเช็คของและความสะอาดสักพักเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเข้าที่อูยองจึงออกตัวเดินจากห้องครัวเพื่อเตรียมไปนอน
ปิ๊ปๆ
เดินมาถึงแค่ห้องรับแขกมุมดูทีวีของบ้านอูยองก็ต้องชะงักเมื่อเจ้าโทรศัพท์ประจำตัวมันร้องเตือนว่ามีข้อความเข้า มือเล็กความหาโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงก่อนเปิดข้อความขึ้นมาดู
‘อูยอง คืนนี้ฝันดีนะ จะฝันถึงพี่ก็ได้ถ้าไม่รู้จะฝันถึงใคร^^ กินนมก่อนนอนด้วยละจะได้หลับฝันดีอาจะฝันถึงพี่ก็ได้นะ kiki’
“บ้า!!! อะไรของเขาก็ไม่รู้-////-“
หน้าขาวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆ อีกครั้ง ปากก็บอกว่าบ้าแต่ก็ดันเดินกลับเข้าไปในห้องครัวอีกครั้งหมายจะเข้าไปเอานมมากินจริงๆ แต่พอเดินไปถึงหน้าห้องครัวเค้าก็เห็นว่าน้องเล็กของบ้านกำลังเดิมนมแก้วโตอยู่ แต่ที่แปลกคือบนโต๊ะยังมีแก้วทรงสูงอีกสองใบวางอยู่เพราะอยากรู้ว่าเจอินจะทำอะไร
อูยองยืนมองอริยะบทการกินนมของน้องก็อดขำไม่ได้สีหน้าที่แสดงไม่เก่งไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกใดๆกำลังกินนมเหมือนกับขาดน้ำมานานกินจนเลอะออกมาข้างปาก พอกินหมดก็หอบเพราะตอนกินสงสัยคุณเธอจะลืมหายใจ เล่นเอาคนแอบดูกลั้นหัวเราะไว้แทบจะไม่ไหว เมื่อกินเสร็จก็เห็นวางเธอเดินกลับไปที่ตู้เย็นอีกก่อนกลับมาพร้อมกับนมกล่องใหญ่แล้วจัดแจงเทลงในสองแก้วสูง อูยองมองเพียงแค่นี้ก็พอจะรู้ว่ายัยตัวดีของบ้านจะทำอะไรจึงรีบวิ่งขึ้นห้องนอนไปทันที
นมสีขาวถูกเทลงในแก้วทรงสูงทั้งสองใบเรียบร้อยแล้ว ร่างบางหันมองซ้ายขวาสำรวจหาบุคคลอื่นที่อาจจะยังไม่นอนแล้วอยู่รอบๆ ห้องนี้ แต่เมื่อไม่เห็นใครสายตาคู่สวยคู่เดิมที่ใช่มองหาคนอื่นในบ้านก็กลับมาจดจ้องอยู่ที่แก้วนมสองใบยิ้มสวยเผยออกมาจากใบหน้าที่นิ่งอยู่ตลอดเวลา ดวงตาสีนิลดำที่เคยว่างเปล่ากลับฉายแววความรู้สึกที่แสดงออกอย่างเห็นได้ฉันว่าพอใจในสิ่งดีๆ เล็กๆ ที่ตนได้ทำให้พี่ชายทั้งสองถึงแม้ตนจะแสดงออกไม่เก่งก็ตาม เพียงไม่นานสีหน้าและแววตาก็กลับกลายเป็นความนิ่งและว่างเปล่าดั่งเดิม
แก้วนมสองใบถูกยกขึ้นบนบ้านอย่างระมัดระวัง ก่อนเจ้าตัวจะตรงดิ่งไปยังห้องของอูยองก่อนแก้วนมสีขาวกำลังจะถูกวางลงที่หน้าประตูถ้า...เจ้าของห้องไม่ดันเปิดประตูมาจ๊ะเอ๋อย่างรู้ทันเสียก่อน
“ไง ปาร์ค เจอิน เอามาให้พี่หรอ^^” ถามพร้อมส่งยิ้มทะเล้นไปให้เล่นเอาแววตาว่างเปล่าเริ่มแสดงอาการตกใจขึ้นขัดตามนิสัย
“ไม่ใช่ฉันพี่เจย์ฝากมา” ด้วยความเนียมจึงยังคงรักษาความนิ่งได้ในระดับที่ดีเลยทีเดียว
“หมายความว่าไง”
“ฮึ ก็ข้อความนั้นไง”
“เธอรู้ได้ไง”
“จะยากอะไรก็แค่อีตาขี้เก๊กนั้นมันส่งข้อความมากวนฉันให้เอานมให้คนไม่รู้จักโตสุดที่รักของตาแก่นั้นกินไง พอใจรึยัง”
“เจ...เธอนี้มันจริงๆ แล้วอีกแก้วละ”
ถึงแม้จะปฏิเสธเรื่องข้อความที่ถูกส่งมาทั้งเครื่องตนและเครื่องเจอินไม่ได้ แต่ก็อดแซวนมอีกแก้วที่เธอถืออยู่ไม่ได้อีกอยู่ดี
“กะ ก็ กินเองไงละ”
“แน่ใจน๊า... ว่าเธอกินเองเธอกินแล้วไม่ใช่หรอดูสิคราบนมยังติดปากอยู่เลย”
ว่าแล้วก็เอามือเกลี่ยคราบนมสีขาวที่ติดอยู่ตรงมุมปากของน้องเล็กตัวดี พร้อมส่งยิ้มให้อย่างรู้ทันว่านมแก้วนั้นเธอจะเอาไปให้ใคร
“ห่วงพี่คุณก็บอกไปตรงๆ สิแสดงความรู้สึกง่ายยิ่งกว่าแสดงความสัมพันธ์อีกนะ..เจอิน”
แววตาอยากแกล้งอ่อนแรงลงเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูและเป็นห่วงที่ส่งไปให้น้องสาวคนเล็กและคนเดียวของตน
“หุบปากเอานมไปกินแล้วเข้านอนซะ!!” แต่ก็ยังไม่ได้ผลอยู่ดีกับคนไร้อารมณ์อย่างเจอิน
“พี่คุณครับ!!!!!! พี่คุณๆๆๆ เจอินอยากคุยด้วยครับ!!!! ...โชคดีนะน้องรัก...”
ปึง!
ด้วยอารมณ์อยากแกล้งรวมเข้ากับความหมั่นไส้อย่างรุนแรงอูยองแกล้งตะโกนเรียกนิชคุณดังๆ ก่อนจะเบาเสียงลงจนกลายเป็นเพียงแค่ประโยคกระซิบ พร้อมทิ้งยิ้มทะเล้นและงานไว้ให้แล้วหายเข้าห้องไปซะ
“นี้!!! จาง อูยอง นายแกล้งฉันออกมาเดี๋ยวนี้ จาง อูยอง!!!!!!!!!”
ปึงๆๆๆๆ!!
“อ้าวเจอ์มีอะไรจะคุยกับพี่หรอ”
พยายามพังประตูเอาตัวการออกมาแต่ดูเหมือนจะไม่ได้อะไรกลับมาเลยนอกจากเสียงหัวเราะลั่นที่ดังออกมา และตอนนี้นิชคุณก็เปิดประห้องที่อยู่ถัดไปออกมาแล้ว
“เอ่อ... คือ... คือว่า ฉัน.... คือแบบ... ฮึ๋ย!”
“อ๊าว ไม่พูดสักทีละพี่รอฟังอยู่” นิชคุณเดินจากห้องมาเจอินที่ยังยืนอ้ำอึ้งอยู่หน้าหน้าอูยอง
“ฉันน่ะ... แบบ...”
“เอานมมาให้พี่หรอ” เมื่อเห็นนมในแก้วจึงพอจะเดาออกเพราะคนอย่างเจอินจะให้บอกตรงๆ ว่าเอาของมาให้คงเป็นไปได้ยาก
“อะ เอ่อ อืม” ว่าก่อนส่งแก้วนมให้ไป
“ขอบคุณมากนะ^^”
มือเรียวรับแก้วนมจากน้องสาวคนเล็กที่ยังยืนนิ่งอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็อดเอ็นดูไม่ได้จึงดึงหัวเข้าขยี้เล่นแต่ก็ถูกผลักออกจากเจ้าของหัวตามนิสัย
“ลูกค้ารอบนี้พี่เป็นใคร...”
“เอ๋??”
“ฉันถามว่าลูกค้าพี่คือใคร”
“เจอินนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอควรถามพี่เลยนะเด็กดี”
“จะบอกฉันมั้ย” เมื่อแววตาว่างเปล่าของเธอแสดงแววตาโกรธจนน่ากลัวร่างสูงจึงต้องตัดสินใจบอกไป
“คุณชีวอน ชเว ชีวอน น่ะ ทำไมหรอ”
“อีกสองวันมีการนัดสอบครั้งสำคัญของพี่ห้ามขาดเรียนบอกไอ้งั่งนั้นซะไม่งั้นฉันจะจัดการมันแน่ถ้าพี่ขาดเรียน อูยองบอกว่าความรู้สึกแสดงง่ายกว่าความสัมพันธ์แต่สำหรับฉัน...มันยากพอๆ กันเพราะฉะนั้นฟังให้ดี...”
ร่างสูงจ้องคนเป็นน้องนิ่งด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ ดีใจ มีความสุข กังวล ไม่เข้าใจ แต่นี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่เธอยอมเปิดปากคุยกับเค้ามากถึงขนาดนี้
“ฟังนะ”
“อืมพี่ฟังอยู่”
“กินนมแล้วไปนอนซะตั้งใจเรียนด้วยละ”
อ้าว!!!! เอาแล้วไง นิชคุณที่ยืนตั้งใจฟังอย่างมีหวังว่าจะได้ยินคำว่า “เป็นห่วงมาก” จากเธอสักครั้งถึงกลับนิ่งไป แต่ที่ทำทั้งนี้ก็คงเป็นคำว่าห่วงใยจากเธอ เพราะเจอินมักคิดเสมอว่าการกระทำสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด แต่นั้นกลับเป็นจุดด้อยทำให้เธอกลายเป็นคนเย็นชา
“โถ่เจอิน ยังไงก็ฝันดีนะ^^”
แต่อุตส่าห์พูดกับเขามากขนาดนี้ก็ขอหอมแก้มให้ชื่นใจสักครั้งหน่อยแล้วกัน มือเรียวดึงแก้มขาวของน้องสาวเข้ามาหอมทีหนึ่งก่อนส่งยิ้มไปให้แล้วลูบหัว ทำเอาคนโดนหอมถึงกับนิ่งทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว
“O.O”
“ไปนอนได้แล้วเด็กดี
“O.O”
“พี่ไปนอนละนะขอบคุณที่เป็นห่วงพี่ พี่ก็ห่วงเราเหมือนกันนะฝันดีละ”
นิชคุณว่าแล้วก็เดินเข้าห้องไปพร้อมกับแก้วนมและรอยยิ้มที่มีความสุข นับว่าการทำงานโสมนของเขามันจะทำให้เค้าได้รู้ว่าก็ยังมีคนที่ห่วงเค้าอยู่เหมือนกัน รู้สึกว่าดีแล้วที่เป็นตัวเองไม่ใช่เจอินและอูยอง
ความคิดเห็น