คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Again
2ND Scene : Again
ทั้งที่ยังมาทำงานปกติแต่ดูเหมือนสารวัตรหนุ่มจะไม่ได้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานเท่าไหร่ หลายครั้งที่เพื่อนรักอย่างฟุ้งเอ่ยเรียกแล้วก็ต้องเรียกซ้ำเพราะหัวหน้าไม่ยอมขานรับเสียที
“มึงเป็นอะไรครับสารวัตร นั่งทำหน้าหมางงมาเป็นอาทิตย์แล้วเนี่ย” นัทเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอที่อ่านคำให้การอยู่ ก่อนจะมองหน้าฟุ้งงงๆ
“หน้าอะไรนะ?”
“หมางง” สารวัตรทำหน้างงเข้าไปใหญ่เมื่อได้ยินเพื่อนย้ำคำตอบอีกครั้ง
“หน้ายังไงวะ”
“หน้าเหมือนมึงนี่แหละ” พอคิดได้ว่าเพื่อนหลอกด่า สารวัตรที่นั่งงงอยู่นานก็ปาอะไรที่อยู่ใกล้มือใส่เพื่อนทันทีซึ่งในที่นี้คือยางลบก้อนเล็กๆเท่านั้น ฟุ้งหัวเราะเบาๆก่อนจะเท้าแขนลงกับโต๊ะ
“กูถามจริงๆ มึงเป็นอะไร คิดอะไรถึงได้เหม่อ” เอ่ยถามเพื่อนด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะพักนี้ก็ไม่ได้มีคดีที่ซีเรียสอะไรมากนัก แต่เพื่อนรักก็ยังคงไม่ค่อยมีสติอยู่ดี
“ไม่รู้...คิดอะไรเรื่อยเปื่อย” เลือกตอบเท่าที่อยากตอบ ก่อนจะกดปิดเอกสารที่เปิดอยู่ลงและทิ้งตัวลงพิงเก้าอี้ เมื่อไม่ได้คำตอบผู้หมวดหนุ่มก็เตรียมเดินออกไปหาอะไรกินข้างนอก แต่เสียงคนที่ตอบว่าไม่รู้เมื่อครู่ก็เรียกไว้เสียก่อน
“ฟุ้ง...คนเรามันมีสองบุคลิกได้มั้ยวะมึง...” คนถูกเรียกหันกลับมามองคนถามอย่างแปลกใจ ก่อนจะมองเห็นแววตาครุ่นคิดในตาเพื่อนรัก
“คนเรามันมีหลายบุคลิกอยู่แล้วมึง ถามทำไมเนี่ยะ”
“กูว่า...กูเจอคนแบบนี้อยู่คนนึง...แต่กูมองเค้าไม่ออก” ฟุ้งมองอาการของเพื่อนรักแล้วก็ยิ้มๆ
“นี่เพื่อนกูกำลงตกหลุมรัก?” นัทมองหน้าคนช่างแซวก่อนจะยันเข้าทีนึง
“ตกหลุมรักอะไรของมึง กูแค่สงสัย เชี่ยนี่...” ฟุ้งหัวเราะก่อนยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนที่ทำหน้าคิดไม่ตกอยู่
“นัท...มึงเป็นตำรวจ ถ้าจิตวิทยาแค่นี้มึงมองไม่ออก กูแนะนำให้มึงไปลาออกนะครับสารวัตร ไปละ หิว” พูดจบก็วิ่งออกไปอย่างเร็วก่อนจะโดนถีบ ปล่อยให้สารวัตรที่โดนเพื่อนบอกให้ไปลาออกอยู่เมื่อครู่นั่งคิดไม่ตกกับคำตอบของเพื่อนอยู่คนเดียวในห้องทำงาน
.
.
.
วันนี้ยังคงเหมือนวันนั้น นัทตัดสินใจกลับมาที่ผับแห่งนี้อีกครั้งเพื่อตอบปัญหาที่ค้างคาในใจ โดยเลือกที่จะมาวันศุกร์อีกครั้งเพราะคิดว่าถ้าคนเราจะมาที่ไหนซ้ำซักที่ก็คงจะมาเหมือนเดิม ไหนจะอีกคนที่เป็นหมอที่มีตารางเวลาแน่นอน ในช่วงเดือนนี้ก็คงยังไม่เปลี่ยนตารางเวรแน่นอน
วันนี้ก็ยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คน แต่อาจจะบางตาก็วันนั้นนิดหน่อยเพราะวันนี้เป็นวันศุกร์สิ้นเดือน ต่างจากวันนั้นที่เป็นวันศุกร์ต้นเดือนที่คนออกมาใช้เงินกันเยอะ ร่างสูงนั่งลงตรงเก้าอี้ที่บาร์สั่งเครื่องดื่มเป็นวิสกี้ออนเดอะร็อค ก่อนจะสอดส่ายสายตามองหาคนที่ต้องการเจออยู่เงียบๆ
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องอยากเจออีกครั้ง อาจจะเพราะบุคลิกในตอนที่เจอกันสองครั้งไม่ซ้ำกัน ไม่ใช่แค่บุคลิกอย่างเดียว อาจหมายรวมถึงแววตานั่นด้วย ที่ทำให้มองไม่ออกว่าตกลงเป็นคนเดียวกันแน่หรือเปล่า
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมสายตาของหมอถึงได้มองแล้วเย็นชานัก ราวกับว่าหากมองลงไปในดวงตานั้นแล้ว อาจจะไม่มีวันเห็นจุดสิ้นสุดของมันเลยก็ได้ เพราะมันว่างเปล่าจนน่าใจหาย เพราะความที่เป็นตำรวจทำให้นัทสังเกตสิ่งเล็กน้อยได้มากกว่าคนอื่นนิดหน่อย และนั่นทำให้เขาสะกิดใจกับท่าทางของหมอหนุ่มในตอนที่เจอ
ภายใต้ชุดกาวน์ขาวสะอาดนั้น ราวกับว่าชุดกาวน์เป็นเสมือนครอบแก้วที่กั้นหมอออกจากทุกอย่างรอบตัว ราวกับว่าไม่สามารถมีใครย่างกรายเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวได้เลย เพราะรังสีที่แผ่ออกมาจากการะทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะการพูดการเดินหรือท่าทางที่ต่อให้ยิ้มแย้มยังไงก็ดูไว้ตัวและหยิ่งเอาการอยู่เหมือนกัน
นั่งคิดพลางจิบวิสกี้ในมือไปพลางๆเป้าหมายก็เดินเข้ามาอยู่ในระยะสายตาพอ ร่างเพรียวบางในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงสกินนี่สีดำนั่งลงข้างๆพอดิบพอดี เสียงนุ่มเอ่ยสั่งเครื่องดื่มที่ดีกรีแรงไม่เหมาะกับหน้าเลยสักนิด ดูท่าเจ้าตัวจะมาบ่อยเหมือนกันเพราะคนที่เพิ่งมาดูคุ้นเคยกับบาร์เทนเดอร์และสถานที่นี้เป็นอย่างดี
แต่ก่อนที่เครื่องดื่มที่เจ้าตัวสั่งจะถูกบาร์เทนเดอร์ผสมให้ เครื่องดื่มอีกแก้วจากบาร์เทนเดอร์อีกคนก็ถูกนำมาวางลงตรงหน้าเสียก่อน แก้วทรงสูงที่ภายในบรรจุเครื่องดื่มสีช็อคโกแลตถูกนำมาวางตรงหน้า
“เหมือนเดิม” คนที่เพิ่งมาหัวเราะหึให้บาร์เทนเดอร์ก่อนจะเอ่ยถาม
“แล้วไม่ได้บอกเค้าเหรอว่าพี่ไม่กิน” นัทมองบทสนทนานั้นอย่างสนใจ แต่ก่อนที่จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แก้วที่เป็นของร่างบางก็มาวางลงตรงหน้าเสียก่อน มือเรียวหยิบแก้วมาร์ตินี่ที่ภายในมีคว่ำไว้ผสมด้วยวอดก้าและแกรนด์มาเนียให้แยกชั้นกันบรรจุอยู่ เปลวไฟที่ลามเลียขอบแก้วเป็นสีฟ้าสวยดูน่ามองเมื่อส่องกระทบเข้ากับเสื้อเชิ้ตนั้นเป็นเงาวูบไหวน้อยๆ
เครื่องดื่มดีกรีแรงถูกมือเรียวค่อยๆยกจิบอย่างสบายใจไม่รีบร้อน แอร์เย็นเฉียบภายในสถานบันเทิงไม่ได้ทำให้อะไรๆเย็นตาม ยิ่งมีแอลกอฮอล์ในเลือดด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ผู้คนที่เบียดเสียดอยู่ตรงกลางฟลอร์ไม่ได้ชวนให้ร่างบางลุกขึ้นไปสนุกสนานกับเขาเหล่านั้นแต่อย่างใด คนตัวเล็กยังนั่งอยู่ที่เดิม เหม่อมองเหมือนคิดอะไรอยู่เงียบๆ เหมือนว่าเจ้าตัวก็จะไม่ได้สังเกตคนที่อยู่ข้างๆอย่างนัทด้วย นัทเห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มนั้นเหลือบมองไปยังด้านข้าง ก่อนที่มือเรียวจะปัดแก้ว Choco fever ที่ไม่ได้รับการแตะต้องให้หล่นลงพื้น นัทมองภาพนั้นอย่างไม่เข้าใจ เพราะเห็นชัดว่าซินจงใจใช้มือปัดให้ตก
แก้วใบสวยพร้อมเครื่องดื่มที่แตกกระจายบนพื้นไม่ได้ทำให้ร่างบางสนใจอะไร คนที่กำลังจะเดินผ่านไปมองการกระทำนั้นด้วยแววตาวาววับก่อนจะเดินผ่านไปโดยไม่ได้พูดอะไร ซึ่งคนต้นเหตุก็ไม่ได้สนใจอะไรกับการกระทำของตัวเอง
“พี่ซิน...มันเปลืองแก้ว ไม่กินก็เททิ้งสิ” บาร์เทนเดอร์บ่นๆเบาๆ ส่วนนัทเมื่อได้ยินแบบนั้นก็พอจะเดาได้ว่าคุณหมออาจจะทำแบบนี้ประจำเวลาได้รับเครื่องดื่ม อาจจะเฉพาะเครื่องดื่มชนิดนี้หรืออะไรไม่มีใครทราบ
“พี่ไม่สนหรอกว่ามันเปลืองแก้วหรือเปล่า เพราะพี่ไม่ได้จ่าย ถ้าไม่อยากให้มันเปลือง ถ้าเขาสั่งนายก็แค่ไม่ต้องผสมให้ ก็แค่นั้น” ตอบอย่างไม่ยี่หระกับสีหน้าลำบากใจของบาร์เทนเดอร์
“ได้ไงล่ะพี่ เขาก็ด่าผมตายสิ”
“งั้นก็เรื่องของนาย” นัทหัวเราะกับการกระทำและคำพูดที่ไม่สนใจมนุษย์โลกคนอื่นแบบนั้นอยู่ในใจ ไม่คิดว่าคุณหมอที่ดูเงียบขรึมแบบนั้นจะกวนประสาทแต่ดูเย้ายวนได้ขนาดนี้ ตอนนี้ผมยาวที่ถูกมัดรวบไว้ให้ดูเรียบร้อยเมื่ออยู่ในโรงพยาบาลถูกปล่อยให้สยายเต็มแผ่นหลัง ทำให้ดูน่าสนใจเข้าไปอีก
“น้อง...” นัทเรียกบาร์เทนเดอร์ที่เช็ดแก้วอยู่ตรงหน้า เพราะที่บาร์เครื่องดื่มแบบนี้ไม่ค่อยมีใครมานั่ง ส่วนใหญ่ก็จะมาสังสรรค์กับเพื่อนเป็นโต๊ะและเปิดเหล้าเสียมากกว่าจะมาสั่งค็อกเทลแบบนี้ ทำให้บาร์เทนเดอร์ค่อนข้างว่าง
“ครับ?”
“พี่คนนั้นเค้ามาบ่อยเหรอ” เพราะไม่ได้นั่งใกล้กันมาก นัทจึงสามารถเอ่ยถามเรื่องของอีกคนได้อย่างสะดวกใจ
“พี่ซินก็มาทุกวันศุกร์ล่ะครับ” เมื่อได้รับคำตอบที่ต้องการก็ถามคำถามถัดไปทันที ด้วยความที่เป็นตำรวจทำให้นัทค่อนข้างมีจิตวิทยาในการสอบถามเอาความอะไรจากคนอื่นอยู่บ้าง
“แล้วเค้าไม่ชอบช็อคโกแลตเหรอ” คราวนี้เป็นบาร์เทนเดอร์ที่หัวเราะออกมาก่อนจะกระซิบใกล้ๆนัท
“พี่ก็ลองสั่งให้เค้าดูสิครับ...”
.
.
แก้วรูปร่างเหมือนเดิมกับใบที่แตกถูกนำมาวางลงตรงหน้าอีกครั้ง จากบาร์เทนเดอร์อีกคนทำให้ซินเงยหน้าขึ้นมองอย่างแปลกใจ
“วันนี้มาสองแก้ว?” บาร์เทนเดอร์หนุ่มส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะยิ้มให้ลุกค้าประจำ
“แก้วนี้ของพี่คนนั้น” พูดจบก็พยักเพยิดไปหาอีกคนที่ตอนนี้ยกแก้ววิสกี้ขึ้นเป็นเชิงขอชนแก้วและให้ซินดื่ม ทันทีที่เห็นหน้าคนตัวเล็กก็ระบายยิ้มสวยออกมา ก่อนจะลุกเดินเข้ามาใกล้ กลิ่นหอมอ่อนๆที่เป็นกลิ่นน้ำหอมที่เจ้าตัวใช้ลอยมาเตะจมูกนายตำรวจหนุ่ม ก่อนที่มือเรียวจะยกแก้วค็อกเทลมาตรงหน้านัท
“ขอบคุณนะครับ...” พูดพลางเลิกคิ้วเอียงคอเป็นเชิงถามว่านัทจะไม่ยอมชนแก้วด้วยหรืออย่างไร นายตำรวจหนุ่มหัวเราะก่อนจะยอมขยับแก้วเข้าไปชนกับค็อกเทลกลิ่นหวานๆแก้วนั้น... ตาคมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ มองเรียวปากบางที่เผยอรับน้ำสีน้ำตาลลงไป ด้วยความที่ด้านบนเป็นครีมผสมนมทำให้เกิดคราบขาวติดอยู่ที่ริมฝีปาก เรียวลิ้นเล็กที่ไล้เลียเก็บฟองครีมที่ติดอยู่ออกทำให้นัทหายใจไม่ทั่วท้อง เหมือนจะรู้ว่าโดนมอง ตากลมปรายมองนายตำรวจหนุ่มยิ้มน้อยๆก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหู
“ถ้านัทสงสัย...ซินไม่ได้เลือกเครื่องดื่มหรอกนะ ... ซินเลือกเจ้าของมัน” พูดจบก็ผละออกไปนั่งที่เดิม มองนู่นนี่พร้อมจิบ Choco Fever แก้วนั้นอย่างสบายใจ ไม่นานก็พูดอะไรบางอย่างกับบาร์เทนเดอร์ ไม่นานเตาทรงสูงที่มีกลิ่นหอมหน่อยๆมาตั้งตรงหน้าซิน นัทมองภาพนั้นอย่างไม่เชื่อสายตา ไม่ใช่ว่าไม่รู้จักของชิ้นนั้น แต่เพราะรู้จักดีเลยแปลกใจว่าหมออย่างซินสนใจไอ้สิ่งที่มันทำลายสุขภาพแบบนี้ด้วยหรืออย่างไร แต่เมื่อพิจารณาจากปริมาณค็อกเทลที่เพิ่งดื่มเข้าไปก็ทำให้แปลกใจน้อยลง
จากควันที่ได้กลิ่นนัทรู้ได้เลยว่าบารากุที่ตั้งอยู่ตรงหน้าซินนั่นเป็นกลิ่นมิ้นท์ ยามที่มือเรียวหยิบท่อยาวที่ต่อออกมาจากตัวเตาก่อนจะคาบไว้กับปากตัวเองยิ่งทำให้นัทมองไม่วางตา
ไม่น่าเชื่อว่านี่คือหมอ ... หมอที่รู้ดีว่าบารากุอันตรายขนาดไหน ยิ่งยามเมื่อสูดเอาควันเข้าไปแล้วปล่อยมันออกมาน้อยๆให้ลอยในอากาศตรงหน้า นัทแทบอยากจะเดินไปกระชากท่ออันนั้นออกจากเรียวปากสวยทันที ไม่เหมาะ มันไม่เหมาะกับซิน แต่ดูจากวิธีที่ร่างเล็กดูดมันเข้าไปนัทก็รู้ได้ทันทีว่าซินชำนาญขนาดไหน ร่างเล็กไม่มีสำลัก ยิ่งกลุ่มควันที่พ่นออกมาหนาแน่นมากเท่าไหร่ ยิ่งตอกย้ำว่าคนที่กำลังดูดมันเชี่ยวชาญขนาดไหน
“ที่นี่มีบารากุด้วยเหรอ” นัทถามบาร์เทนเดอร์คนเก่าอีกครั้ง เพราะปกติถามผับแบบนี้บารากุไม่ค่อยเป็นที่นิยมเหมือนในร้านเหล้านั่งสบายๆทั่วไป นัทรู้ดีว่ามันผิดกฎหมาย แต่นี่ไม่ใช่งานที่นัทรับผิดชอบโดยตรง การไปก้าวก่ายงานของคนอื่นอาจหมายถึงการดับอนาคตตัวเองได้ง่ายๆ
“มีครับ แต่จะรู้กันเฉพาะลูกค้าประจำ” นัทพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะมองซินต่อไปอย่างไม่เกรงใจเจ้าตัวเลยแม้แต่น้อย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงละสายตาออกไปไม่ได้ อาจจะเพราะความสวยงามท่ามกลางไฟสลัวตรงหน้านี่ก็ได้ที่ทำให้นัทไม่อาจละสายตา ยิ่งบุคลิกท่าทางที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นของซินนี่อีก คุณหมอยังคงละเลียดค็อกเทลและบารากุอย่างไม่สนใจใครไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยผ่านพ้นเที่ยงคืนไปแล้วนั่นแหละ ร่างบางเลยจ่ายเงินค่าค็อกเทลและบารากุชองตัวเองและเดินออกไป นัทเองก็จ่ายเงินและเดินตามออกมาเช่นกัน เพราะจุดประสงค์ของการมาที่นี่คือเพื่อเจอซินอีกครั้งหนึ่ง
นัทเดินตามออกมาจนถึงลานจอดรถและเห็นคนตัวเล็กยืนพิงรถเล็กซัสรุ่นเดียวกับเขาอยู่ มือเรียวล้วงเอาบุหรี่สีดำสนิทออกมาคีบไว้ในมือก่อนจะหาไฟแช็คในกระเป๋ากางเกง นัทมองภาพนั้นอย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อกี๊เพิ่งจัดการกับบารากุมาคนเดียว นี่ยังจะมาสูบบุหรี่ต่ออีก ยิ่งเห็นซินทำตัวขัดกับความเป็นหมอมากเท่าไหร่ นัทยิ่งไม่เข้าใจมากเท่านั้น หรือว่าซินเกลียดตัวตนที่ตัวเองเป็นอยู่ถึงได้มาทำอะไรที่ขัดแย้งแบบนี้ แต่ถ้าคิดในอีกแง่หนึ่ง ซินจะทำแบบนั้นไปทำไม ก่อนที่เรียวปากบางนั้นจะได้เผยออ้ารับบุหรี่นอกมวนเล็กนั้นอีก มือของใครบางคนก็กระชากมันออกจากมือไปเสียก่อน
“เยอะไปแล้ว” เสียงทุ้มต่ำของอีกคนทำให้คุณหมอหัวเราะหึ ก่อนจะหันมาสบตามือเรียวล้วงลงไปในกระเป๋า ทิ้งตัวพิงรถอย่างสบายใจ แต่ดูแล้วท่าทางมันยียวนมากกว่าจะเป็นการปล่อยตัวตามสบาย นัทพิงตัวลงกับรถตัวเองที่อยู่ไม่ไกลนัก เลือกที่จะรอฟังอยู่เงียบๆมากกว่า
“แล้วจะทำไม” ตอบไปอย่างไม่เกรงกลัวอะไรกับเจ้าของเสียงนั้น
“พี่เป็นห่วง...”
“กองไว้ตรงนั้นแหละ อย่ามาหลอกเด็กให้ยากเลย ไม่โง่แล้ว โตแล้ว” ตอบสวนไปอย่างไม่ใยดี คนที่เพิ่งเดินเข้ามาเงียบไปสักพัก
“ตามซินออกมาทำไม ไปอยู่กับคนของพี่สิ” ทำเสียงขึ้นจมูกอย่างสมเพชตัวเองจนนัทจับสังเกตได้ ผู้ชายคนนั้นส่ายหน้าเบาๆก่อนจะดึงรั้งร่างเล็กๆนั้นเข้าไปกอด
“พี่รักซินนะ...” ร่างเล็กขืนตัวออกจากอ้อมกอด ก่อนจะยิ้มให้เล็กๆ
“เก็บไว้หลอกผู้หญิงโง่ๆของพี่เถอะ...ซินเลิกโง่นานแล้ว...พี่แชมป์”
** ตอนสองมาแล้ว ... เรื่องนี้อาจจะขัดใจใครหลายคนอีกแหละ อยากให้ลองติดตามไปเรื่อยๆนะคะว่าทำไมมันเป็นแบบนั้นแบบนี้ ฟิคพลอยทุกเรื่องมีเหตุผลในการกระทำและในตัวเองเสมอค่ะ :)
ความคิดเห็น