คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #57 : -รวมเด็ด 8 ถนนสายอาร์ตที่ไม่ควรพลาด-
รวมเด็ด 8 ถนนสายอาร์ตที่ไม่ควรพลาด
ตอนย่อยนี้ขอแนะนำถนนเด็ดๆ ทั้งหมดแปดถนน ที่มาเหยียบผืนดินโสมทั้งทีไม่ควรพลาดเป็นอันขาด แต่ละที่ก็มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะมีที่ไหนกันบ้างไปดูกันเลยค่ะ…
1. ถนนสายศิลป์ ซัมชองดองกิล – Samcheongdong-gil (삼청동-길)
บรยากาศชิลๆ จิบชา ชมวัง เสพงานศิลป์ ใครชอบบรรยากาศเช่นนี้ไม่ควรพลาดถนนศิลปะซัมชองดองกิล นอกจากชิมชาแล้ว ยังมีของจุกจิก ดีไซน์น่ารัก ให้ได้ช้อป เพราะตลอดสองข้างท้างเต็มไปด้วยร้านเล็กๆ น่ารัก ทั้งร้านเค้ก ร้านกาแฟ ร้านน้ำชา หรือแกลลอรีแนวๆ บรรยากาศสบายบนถนนเส้นเล็กๆ ความยาวเพียง 1 กิโลเมตร มีต้นแปะก๊วยเรียงเป็นแนวไปตลอดทั้งสาย และจะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงต้นพฤศจิกายน) ร้านค้าส่วนใหญ่จะเปิดประมาณ 11.00-20.00 น.
ตัวอย่างร้าน MMMG
วิธีการเดินทาง รถไฟใต้ดินสาย 3 สถานี Anguk (328) ทางออก 1 สามารถเดินทะลุจากถนน Gamgodang-gil มาได้
2. ถนนเลียบกำแพงหิน ถ็อกซูกุงกิล – Deoksugung-gil (덕수궁길)
ถ็อกซูกุงกิล หรือถ็อกซูกุงโดลดัมกิล หมายถึงถนนเลียบกำแพงหิน (Stonewall Street Road) ซึ่งถนนสายนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามและโรแมนติกติดอันดับต้นๆ ในเกาหลี ใครเดินทางกันมาแบบคู่รักก็แวะมาเติมความหวานให้คู่ตัวเองกันที่นี่ก็ได้
โดยจะได้วิวกำแพงหินของพระราชวังถ็อกซูทั้งด้านข้างและด้านหลังของวัง ซึ่งหากมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะเห็นต้นกิงโกะ (แปะก๊วย) ปลูกเรียงรายสวยงามเหลืองอร่ามเลียบไปกับความโค้งของเส้นถนน ซึ่งจะสิ้นสุดบริเวณวงเวียนจากนั้นก็จะเข้าสู่ถนนชองดองกิล ถ้าโชคดีในช่วงสายอาจจะได้ชมผลงานศิลปะ ภาพวาด มาวางขายข้างกำแพงด้วย
วิธีการเดินทาง รถไฟใต้ดิน สาย 1 หรือ 2 สถานี City Hall (132) (201) ทางออก 1, 2 อยู่ข้างกำแพงพระราชวังถ็อกซู
3. ถนนแทฮังโร (บรอดเวย์ตะวันออก) – Daehak_ro (대학로)
ถนนแทฮังโร เป็นแหล่งรวมการแสดงทางศิลปะของเกาหลี สามารถเรียกได้ว่าเป็นบรอดเวย์ตะวันออกเลยทีเดียว เพราะได้รวบรวมศิลปะและความเป็นอาร์ตไว้แทบจะทุกจุด เริ่มตั้งแต่สองข้างทางที่เต็มไปด้วยโรงละครและหอศิลป์ให้ได้เลือกเสพกันไม่หวาดไม่ไหว เราจะพบเห็นกลุ่มนักศึกษาออกมายืนเชื้อเชิญให้เข้าไปชมหนังสั้นที่ถ่ายทำเอง (แต่งานนี้ไม่ฟรีนะคะ) พร้อมทั้งโปสเตอร์โปรโมทหนังสั้นติดอยู่เต็มกำแพง บริเวณพื้นที่ว่างรอบๆ จะถูกจัดสรรให้เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง แสดงงานประติมากรรมและภาพวาด กำแพงว่างๆ สองข้างทางถูกเพนท์เป็นรูปวาดให้มีสีสันไม่จืดชืด ย่านนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านกาแฟเป็นจำนวนมาก
“แทฮังโร” หมายถึง “ถนนมหาวิทยาลัย” ย่านนี้ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของวิทยาลัยศิลปะของมหาวิทยาลัยแห่งชาติกรุงโซล
เปิดทุกวันเวลา 10.00-22.00 น.
วิธีการเดินทาง รถไฟใต้ดิน สาย 4 สถานี Hyehwa (420) ทางออก 2, 3
4. ถนนวัยฮิปที่ฮงแด – Hongdae (홍대)
ย่านฮงแดเป็นชื่อเรียกบริเวณโดยรอบมหาวิทยาลัยฮงอิก (Hongik University) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในด้านศิลปะของเกาหลีใต้ บริเวณมหาวิทยาลัยฮงอิก (ย่านฮงแด) เป็นแหล่งรวมตัวของวัยรุ่นที่คลั่งไคล้งานศิลปะและดนตรี เป็นแหล่ง “ปล่อยของ” ของศิลปินหน้าใหม่ทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นกันเต็มที่ทั้งร้อง เล่น เต้น
ถนนหนทางบริเวณย่านนี้จะเต็มไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะ พร้อมแหล่งช้อปปิ้งมากมาย ทั้งร้านแบรนด์เนมขนถึงร้านขายเสื้อแบบตลาดนัด แกลลอรี ร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมถึงผับบาร์ด้วย ในช่วงคืนวันสุดสัปดาห์ย่านฮงแดจะคราคร่ำไปด้วยผู้คนทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน คนเกาหลี และคนต่างชาติเดินเที่ยวกันขวักไขว่ตลอดทั้งคืน ใครที่ชอบความคึกคักและแสงสีเสียงต้องไม่พลาด!!
ถนนหมูย่างเกาหลี – Hongik Sutbul Galbi (홍익숯불 갈비)
นอกจากจะเต็มไปด้วยร้านกาแฟแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมร้านหมูย่างซึ่งเป็นเมนูขึ้นชื่อของเกาหลีด้วย เพราะตลอดสองข้างทางของถนนเล็กๆ สายนี้ เต็มไปด้วยร้านหมูย่างให้เลือกลิ้มลองกันอย่างจุใจ ส่วนใหญ่เป็นร้านห้องแถวไม่ได้ติดแอร์ หรือบางร้านก็เป็นแค่เพิงเล็กๆ มีโต๊ะนั่งแค่ไม่กี่ตัว แต่ขอบอกว่าร้านส่วนใหญ่ล้วนเนืองแน่นไปด้วยลูกค้าจนล้นออกมานอกร้าน เป็นเครื่องการันตีเรื่องรสชาติเป็นอย่างดีแล้ว ส่วนใหญ่จะมีเมนูคล้ายๆ กัน คือเนื้อหมู เครื่องใน และหนังหมูย่าง นอกจากนั้นก็เป็นซุปกิมจิและเครื่องเคียงที่เสิร์ฟมาตามปกติ รวมทั้งเครื่องดื่มทั้ง เหล้า เบียร์ แถวนี้ก็มีบริการ
เวลากินร้านอย่างงี้อาจจะมีเสียงหนวกหูและกลิ่นบุหรี่จากโต๊ะข้างๆ โชยมารบกวนบ้างก็อย่าเพิ่งรำคาญไป เพราะที่นี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ถือซะว่ามาซึมซับบรรยากาศร้านหมูเกาหลีขนานแท้เอาละกัน
ตั้งแต่วงเวียนที่ 1-2 ของถนนเส้นนี้คุณจะเจอร้านประเภทปิ้งย่างทั้งแถบเลย จนเขาเรียกถนนสายนี้ว่า Hongik Galbi หรือ ถนนหมูย่าง ใครมาเกาหลีแล้วอยากกินหมูย่าง ต้องไม่พลาดถนนสายนี้!!
ร้านส่วนใหญ่เปิดช่วงบ่ายแก่ๆ ไปจนถึงประมาณตี 4
Hongik University ก่อตั้งขึ้นในปี 1956 ชื่อเดิมก็คือ “Hongmun” เป็นมหาลัยที่มีความโดดเด่นทางด้านงานศิลปะและการออกแบบ โดยผลิตศิลปินทีมีฝีมืออกมาหลยต่อหลายคน มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยซึ่งแสดงผลงานของนักศึกษา อาจารย์ หรือศิลปินมืออาชีพที่ได้รับรางวัล นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรนานาชาติที่ออกบบมาโดยเฉพาะสำหรับชาวต่างชาติ
กระทู้เกี่ยวข้อง ช้อปสไตล์ติสต์ที่ม.ฮงอิก ร้านปิ้งย่างพัลจามักชาง Stylenanda
วิธีการเดินทาง รถไฟฟ้าใต้ดินสาย 2 สถานี Hongik University (239) ทางออก 8, 9
5. ช้อปปิ้งถนนสาวมหา’ลัย อีฮวา – Ewha Shopping Street
นอกจากความสวยงามของอาคาร ECC แล้ว ชื่อเสียงเรื่องของแฟชั่นและแหล่งช้อปปิ้งในย่านนี้ก็ไม่ได้น้อยหน้าที่อื่นๆ เหมือนกัน โดยร้านค้าแถบนี้จะเป็นแนวของสาวๆ วัยรุ่นเกาหลีโดยแท้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ รวมทั้งของจุกจิกน่ารัก นำเทรนด์ต่างๆ ทั้งแว่นตา ที่ห้อยโทรศัพท์ ที่คาดผม ฯลฯ นอกจากแบบจะสวยล้ำถูกใจแล้ว ราคาก็ถือว่าไม่แพงมาก และมี Shop เครื่องสำอาง ร้านเสริมสวยอีกเพียบ
นอกจากเดินช้อปในซอยเล็กซอยน้อยกันแล้ว ก็ยังมีห้างใหญ่ให้เดินช้อปถึง 3 ห้าง คือ Yes apM, Migliore (อยู่ติดกับรถไฟสาย Gyeongui สถานี Shinchone) และใกล้รถไฟใต้ดินสาย 2 สถานี Sinchon ก็ห้าง Hyundai
เปิดทุกวัน 10.00-20.00 น.
วิธีการเดินทาง รถไฟใต้ดินสาย 2 สถานี Ewha Women’s University (241) ทางออก 2, 3
6. ถนนอาร์ตสุดยูนิค กาโรซูกิล – Garosu_gil (가로수길)
ถนนที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นแปะก๊วย (อีกแล้ว) ซึ่งจะสวยที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงอีกเช่นกัน มีความยาวประมาณ 700 เมตร โดยถนน Garosu-gil เริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวกันมากขึ้น นอกจากจะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครแล้ว ยังมีของให้ช้อปครบทุกรส ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ ในแบบที่เรียกว่ายูนีคสุดๆ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านของเหล่านักออกแบบแนวอาร์ตที่มีชื่อเสียงและ Young Designer อิสระของเกาหลี ไปจนถึงสินค้าแบรนด์เนมก็มี ที่สำคัญบรรยากาศชิลมากๆ
เป็นอีกหนึ่งถนนที่ไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะได้เห็นของสวยๆ งามๆ ร้านเก๋ๆ แล้ว ยังหามุมนั่งชิลได้ไม่ยากเลย แต่ถ้าเป็นร้านดังๆ ล่ะก็ ต้องบอกกันซักนิดว่าโต๊ะนั่งค่อนข้างจะหายากซักหน่อย ส่วนราคาของเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับต่างๆ ราคาแพงได้ใจ
Coffeesmith ร้านกาแฟชื่อดังที่มีหลายสาขาในกรุงโซล และเกาหลี สาขาที่กาโรซูกิลดูจะเป็นสาขาที่สวยที่สุด การตกแต่งเป็นแบบเปิดโล่งสบายตา ถ้าใครมาที่นี่ก็ไม่ควรพลาดแวะมาดูเสียหน่อย
เวลาเปิดปิดประมาณ 10.00-23.00 น.
วิธีการเดินทาง รถไฟใต้ดินสาย 3 สถานี Sinsa (337) ทางออก 8
7. ถนนแฟชั่นแบรนด์ดัง – Apgujeong Rodeo Street
Apgujeong ย่านนี้ขาช้อปตัวพ่อตัวแม่ทั้งหลายได้ยินเป็นต้องร้องอ๋อ... เพราะเป็นแหล่งรวมห้างหรู สินค้าแบรนด์เนม แฟชั่น กีฬา เครื่องหนัง เครื่องประดับ ฯลฯ ทั้งหญิงและชายที่ไม่สามารถบรรยายได้หมด เรียกว่า รูดปร้ดๆ เซ็นต์กันไม่ทันเลยทีเดียว หรือถ้าไม่อยากได้สินค้าแบรนด์เนมก็มี แต่ขอบอกว่าราคาไม่เบาเหมือนกัน
นอกจากเดินช้อปแล้วยังเจริญหูเจรริญตากับตึกสวยๆ ร้านเก๋ๆ อีกตรึม ไม่แปลกใจเลยทำไมคนที่นี่เขาได้ฉายาว่าเป็น “Beverly Hills of Korea” โดยเฉพาะเส้น Rodeo Street ต้องนับเป็นจุดช้อปแลนด์มาร์คที่สาวกแฟชั่นนิสต้าห้ามพลาดเด็ดขาด!!
อีกหนึ่งความโด่งดังของที่นี่ก็คือแหล่งศัลยกรรมที่หรูหราซึ่งมีอยู่มากมาย และคนที่ไปเดินย่านนี้ส่วนใหญ่ เท่าที่ดูแล้วหน้าตาหล่อๆ สวยๆ กันทั้งนั้น (คงจะผ่านมีดหมอมากันมั่งล่ะ) และยังเป็นแหล่งสังสรรค์เฮฮาที่คึกคักตั้งแต่ช่วงเย็นเพราะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ เอาเปนว่าต้องมาเยือนย่านนี้ดูนะจ๊ะ สีสันจัดจ้านจริงๆ
ตัวอย่างร้าน CAFIOCA ชานมไข่มุกของโอเซฮุน
วิธีการเดินทาง รถไฟใต้ดินสาย 3 สถานี Apgujeong (336) ทางออก 2
8. เดินย่ำเพลินๆ ที่อินซาดง – Insadong_gil (인사동길)
อินซาดง ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมซึ่งเก่าแก่และสำคัญที่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นเกาหลีไว้ได้อย่างเหนียวแน่น หากใครที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมและประเพณีเกาหลีแบบดั้งเดิมต้องไม่พลาดย่านนี้
โดยเฉพาะในวันเสาร์และวันอาทิตย์ช่วงบ่ายแก่ๆ ถนนสายนี้จะปลอดยานพาหนะ กลายเป็นตลาดนัดขายของเก่า เครื่องประดับ และเป็นแหล่งรวมงานศิลปะมากมายให้คนชอบงานศิลป์ได้เสพกันอย่างจุใจ มาสัมผัสเกาหลี เข้าถึงวัฒนธรรม ศึกษางานศิลป์ได้ที่นี่!
ก่อนเข้าสู่ถนนอินซาดงจะเป็น 'รูปปั้นรูปพู่กัน' (Buk-Insamadang) ซึ่งตั้งอยู่ทางขวามือก่อนเข้าสู่ถนนเส้นนี้
เปิดทุกวัน 10.00-22.00 น.
วิธีการเดินทาง รถไฟใต้ดินสาย 3 สถานี Anguk (328) ทางออก 6
ที่มา:
สองขาพาตะลุยเกาหลี Seoul และรอบโซล
ความคิดเห็น