คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : -STEP 4: ไปสนามบิน (1)-
-STEP 4: ไปสนามบิน (1)-
เป็นครั้งแรกที่รอมาเนิ่นนาน... (บ่นๆ) สวัสดีอีกครั้งนะคะ ไม่ได้เข้ามาดูแลหน้าบทความนี้เป็นเวลานานมาก ใครคิดถึงขอให้ยกมือขึ้น (เงียบ ยกมือเอง) ด้วยภาระงานการบ้านอันหนักหน่วง หลังจากที่เคลียร์งานบางส่วนได้บ้างแล้ว จึงปลีกตัวมาดูแลบทความ 서울 บทความที่รักและตั้งใจเป็นอย่างมาก ช่วงหลังๆ นี้อาจจะไม่ค่อยได้ลงบ่อยเหมือนช่วงแรกๆ ตอนเปิดบทความ หวังว่าจะไม่โกรธกันนะคะ สำหรับ STEP 4 นี้เราใกล้จะบินกันแล้ว ตื่นเต้นๆ! แต่ก่อนจะบินได้ก็ต้องมีภารกิจเล็กๆ น้อยq จะมีอะไรบ้างนั้น ตามไปอ่านกันเลยค่ะ
ปล. ขอทำความเข้าใจกันก่อนนะคะ สำหรับคนที่อาจจะยังไม่ได้เข้าไปอ่านใน MAKE IT CLEAR อัพเดทล่าสุด เนื้อหาในนี้หลักๆ นำมาจากหนังสือ เมืองนอก ไปเองก็ได้ ง่ายกว่าที่คิด ด้วยเพราะเนื้อหาละเอียดมาก เจ้าของบทความเลยไม่ได้ทำการแก้ไขอะไรลงไปเลย เรียกได้ว่านำมาวางตามแบบเป๊ะเลยก็ว่าได้ จะมีเขียนเองก็อย่างเช่นช่วง Intro ตอนย่อย เพราะฉะนั้นเครดิตก็คือหนังสือเล่มนี้นะคะ ไปหามาอ่านกันได้นะคะ เพราะเนื้อหามีความทันสมัยมาก เพราะพิมพ์ปี 2014 นั่นเอง
เช็คอินตั๋วเครื่องบิน
ก่อนจะก้าวเครื่องบินได้ สิ่งที่คุณต้องทำเป็นอันดับแรกคือการเช็กอิน เรียกได้ว่าถ้าภารกิจนี้สำเร็จ คุณจะโล่งใจไปเกินครึ่งเลยทีเดียว
การเช็กอิน เป็นการลงทะเบียนกับทางสายการบินว่าเราจะเดินทางไปกับเที่ยวบินที่จองเอาไว้ รวมถึงการโหลดกระเป๋าสัมภาระเก็บใต้เครื่อง และการเลือกที่นั่ง ปัจจุบันหลายๆ สายการบิน สามารถเช็กอินตั๋วอัตโนมัติที่อยู่ในสนามบิน และวิธีดั้งเดิมคือ การเช็คอินกับเคาน์เตอร์สายการบิน
เคาน์เตอร์ของสายการบินจะตั้งอยู่ใน โซนพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาออก (Departure Hall) โดยทั่วไปพื้นที่ส่วนนี้มักตั้งอยู่ชั้นบนสุดของสนามบิน เช่น สนามบินสุวรรณภูมิจะอยู่บริเวณชั้น 4 ทางที่ดีควรตรวจสอบตำแหน่งของเคาน์เตอร์เช็กอินตั๋วจากเว็บไซต์ของสนามบินล่วงหน้า จะได้ไม่เสียเวลาเดินหา ควรเผื่อเวลาไปถึงเคาน์เตอร์เช็กอินตั๋วก่อนเวลาเครื่องอก ไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ในกรณีเดินทางไปต่างประเทศ และไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง กรณีเดินทางภายในประเทศ
การเช็คอินตั๋วเครื่องบิน จะใช้เอกสารต่อไปนี้
(1) ตั๋วเครื่องบิน
(2) หนังสือเดินทาง
(3) หากต้องการโหลดกระเป๋าเก็บใต้เครื่อง ให้ยกกระเป๋าขึ้นวางบนสายพานสังเกตว่าที่สายพานจะเป็นตาชั่งในตัว มีตัวเลขบอกน้ำหนักกระเป๋าให้ทราบทันที
เมื่อพนักงานสายการบินตรวจสอบเรียบร้อยแล้วก็จะคืนเอกสารทั้งหมดกลับคืนมา พร้อมให้เอกสารมาเพิ่มเติม 3 อย่าง ได้แก่
ตัวอย่าง บอร์ดดิ้งพาสของสายการบิน American Airlines
1) บอร์ดดิ้งพาส (Boarding Pass)
บอร์ดดิ้งพาส คือเอกสารที่บอกรายละเอียดการเดินทางของเราทั้งหมด ได้แก่ หมายเลขเที่ยวบิน ชื่อผู้โดยสาร (จะต้องตรงกับชื่อในหนังสือเดินทาง) หมายเลขประตูขึ้นเครื่อง (Gate) เวลาที่เจ้าหน้าที่จะเริ่มเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง เป็นเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ตลอดการเดินทาง (ไฮไลท์ไว้เลย) และจะยึดเวลาบนหน้าบอร์ดดิ้งพาสเป็นหลัก
TIPS
# การเช็กอินตั๋วล่วงหน้าทางอินเทอร์เน็ต แล้วพรินต์บอร์ดดิ้งพาสออกมาก่อนไปเช็กอินที่เคาน์เตอร์จะช่วยให้ประหยัดเวลาได้มากทีเดียว เพราะสายการบินมักจะมีเคาน์เตอร์แยกต่างหากสำหรับผู้ที่เช็กอินตั๋วล่วงหน้า ซึ่งแถวมักจะสั้นกว่าเคาน์เตอร์ปกติเสมอ
# กรณีเดินทางเป็นหมู่คณะ ควรยื่นเอกสารเช็กอินพร้อมๆ กัน เพราะพนักงานจะได้จัดการเลือกที่นั่งให้นั่งติดกัน และมีแนวโน้มว่ากระเป๋าจะออกจากสายพานพร้อมๆ กันด้วย
2) ใบตรวจคนเข้าเมือง หรือใบตม.
คือเอกสารของกองตรวจคนเข้าเมือง กรมศุลการกร เพื่อเป็นการยืนยันตัวบุคคลในการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ใบตม.มี 2 ส่วน คือส่วนขาเข้าและขาออก ต้องกรอกรายละเอียดเพื่อนำไปยื่นให้กับด่านตรวจคนเข้าเมืองเมื่อเดินทางออกนอกประเทศ และเก็บส่วนขาเข้าเอาไว้ยื่นอีกครั้งเมื่อเดินทางกลับมายังประเทศศไทย
เมื่อเดินทางไปถึงประเทศต่างๆ ก็จะต้องกรอกใบตม.ของประเทศนั้นๆ ใบตม.ของแต่ละประเทศมีรายละเอียดแตกต่างกัน แต่โดยรวมข้อมูลที่ต้องกรอกจะไม่ต่างกันมากนัก
การกรอกเอกสารใบตม.
ต้องกรอกให้ครบทั้งขาเข้าและขาออก ข้อมูลที่ต้องกรอกในใบตม. ได้แก่
1. ชื่อสกุล (นามสกุล)
2. ชื่อตัวและชื่อรอง (ชื่อจริง)
3. สัญชาติ
4. เพศ
5. เลขที่หนังสือเดินทาง
6. วันเดือนปีเกิด
7. เลขวีซ่า
8. ที่อยู่ในประเทศไทย
9. หมายเลขเที่ยวบิน
TIPS
# การกรอกชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หรือข้อมูลอื่นๆ ต้องตรงกับในหนังสือเดินทาง
# การกรอกวันเดือนปีเกิด จะกรอกเป็นตัวเลข และใช้ระบบปี ค.ศ. เช่น เกิดวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2514 จะต้องกรอกเป็น 11/05/1971
# การกรอกต้องใช้ภาษาอังกฤษ ตัวพิมพ์ใหญ่เท่านั้น
# สีปากกาต้องเป็นสีน้ำเงินเข้ม หรือสีดำเท่านั้น
เสร็จแล้วให้เตรียมเอกสารทั้งหมดได้แก่ ใบตม. บอร์ดดิ้งพาส และตั๋วเครื่องบิน สอดเก็บไว้กับเล่มหนังสือเดินทางเพื่อไม่ให้กระจัดกระจาย และสะดวกในการยื่นเอกสารต่างๆ ต่อไป
จากนั้นต้องไปถึงหน้าประตู (Gate) ก่อนเวลาเรียกขึ้นเครื่องที่ระบุไว้ในบอร์ดดิ้งพาส 15 นาทีเป็นอย่างน้อย หากไปถึงตามเวลาเครื่องออกเป๊ะๆ อาจจะตกกเครื่องบินได้
3) สำหรับผู้ที่โหลดกระเป๋าลงใต้เครื่อง พนักงานจะติดแผ่นสติ๊กเกอร์ให้ที่กระเป๋า เรียกกันว่า Tag กระเป๋า ซึ่งบน Tag นี้จะมีรายละเอียดของเจ้าของกระเป๋าติดอยู่ พนักงานจะแบ่ง Tag ออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกนำไปติดที่ตัวกระเป๋า อีกส่วนจะคืนให้เราเก็บไว้เป็นหลักฐานการเป็นเจ้าของกระเป๋า เมื่อไปรับกระเป๋าที่ปลายทางหลังจากเครื่องลงแล้ว
ด่านตรวจคนเข้าเมืองขาออก
เป็นการยื่นหลักฐานเพื่อแสดงตัวตนผู้ที่จะเดินทางออกนอกประเทศ ขั้นตอนนี้สำคัญมากและเป็นขั้นตอนที่นักท่องเที่ยวมือใหม่หลายๆ คนกังวล... ไม่ต้องตื่นเต้นนะคะ ทำตัวผ่อนคลาย ตามสบาย ไม่ลุกลี้ลุกลน การผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองก็จะเป็นไปอย่างเรียบร้อยค่ะ
เอกสารที่ใช้ยื่นที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองขาออก ได้แก่
I. หนังสือเดินทาง
II. ตั๋วเครื่องบิน
III. บอร์ดดิ้งพาส
IV. ใบตม.ที่กรอกข้อความเรียบร้อยแล้ว
ปกติแล้วด่านตรวจคนเข้าเมืองจะอยู่ใก้ลกับโซนของเคาน์เตอร์เช็กอินตั๋ว แต่ก็ไม่เสมอไป ให้มองหาป้ายที่เขียนว่า Immigration หรือ Passport Control
เมื่อเข้ามาอยู่ในพื้นที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว จะเห็นเคาน์เตอร์สำหรับยื่นเอกสาร แยกตามประเภทของผู้โดยสาร ซึ่งจะมีป้าย บอกเอาไว้ เช่น
Thai Passport
Residence หรือ Citizen
Visitor หรือ Foreign
All Passport |
สำหรับผู้โดยสารชาวไทย
สำหรับผู้โดยสารภายในประเทศที่สนามบินตั้งอยู่
สำหรับผู้โดยสารต่างชาติ
สำหรับผู้โดยสารทุกประเภท |
เมื่อเลือกเคาน์เตอร์แล้ว ให้ยืนเข้าคิวรอด้านหลังเส้นที่ขีดเอาไว้บนพื้น โดยต้องยื่นทีละคนเท่านั้น แต่หากมีเด็กเล็กไปด้วย สามารถยื่นพร้อมกันกับผู้ปกครองได้ เมื่อถึงคิวแล้ว ให้เข้าไปยื่นเอกสาร โดยต้องยืนอยู่ตรงตำแหน่งที่กำหนดให้ บางประเทศอาจมีวิธีการเก็บช้อมูลผู้โดยสารให้ละเอียดขึ้นด้วยการถ่ายภาพ หรือสแกนลายนิ้วมือประกอบกันด้วย
หลังเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารเรียบร้อย ก็จะปั๊มตราประทับและลงวันที่เดินทางออกนอกประเทศ ลงในหน้าของเล่มพาสปอร์ต และจะคืนเอกสารทั้งหมดกลับมาให้เรา โดยจะเก็บเฉพาะส่วนแรกของใบตม.เอาไว้เท่านั้น
หลังผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว ให้ตรวจสอบเอกสารว่าเจ้าหน้าที่ได้ประทับตราตรวจคนเข้าเมือง ลงวันที่เดินทาง และเซ็นกำกับไว้ถูกต้องหรือไม่ เพราะเคยเกิดกรณีที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศปลายทางปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ เนื่องจากปั๊มวันที่ผิดวันมาแล้ว
TIPS
# หลังจากผ่านด่านตรวจเอกสาร ตม.มาแล้ว ก็จะเข้าสู่พื้นที่สำหรับผู้โดยสารที่รอขึ้นเครื่อง เกือบทุกสนามบินจะมีร้านค้าปลอดภาษีไว้ให้ช็อปกันอย่างมากมาย รักษาเวลาให้ดี อย่ามัวแต่เถลไถลซื้อของจนเพลินเพราะอาจตกเครื่องได้
# หลังจากเกิดเหตุการณ์ 911 ทุกสนามบินเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยขึ้นมาก ดังนั้นอาจถูกสแกนตรวจกระเป๋าเดินทางและสแกนตัวผู้โดยสารตั้งแต่ทางเข้าสนามบิน หลังออกจากด่านตรวจคนเข้าเมือง บางครั้งก่อนถึง Gate ขึ้นเครื่องบินก็ยังมี
เดี๋ยวจะยาวจนเกินไป เอาเป็นว่าพักไว้ที่ตอนนี้ แล้วไปเจอกันในตอนหน้านะคะ...
ความคิดเห็น