ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC GOT7] ฟิคชั่นจากมุมเล็กเล็ก {MarkNior}

    ลำดับตอนที่ #1 : My Dear Boyfriend *Overreacting Boyfriend* [Mark&Nior]

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.พ. 58


    My dear boyfriend

     -Overreacting Boyfriend-


    แฟนคนอื่นจะเป็นยังไง ผมไม่รู้

    ผมรู้แต่ว่า แฟนผมเป็นคน  เยอะ!!!

    .
    .
    .

    “จินยองงี่ ตื่นนะครับ” เสียงหล่อทะลุเข้ามาในสติสัมปชัญญะของผมคล้ายๆกับจะตื่น แต่ก็ยังอยากนอนต่อ ผมพลิกหน้าพลิกตัวเบียดเตียงนอนมากขึ้นเพื่อหนีเสียงรบกวนนั้น

    “จินยอง จุ๊บๆ” คราวนี้ไม่ได้มาแต่เสียง แต่ยังตามมาด้วยสัมผัสจากริมฝีปากนุ่มกระทบเข้าที่แก้มแบบไม่ยั้ง แถมมือเขาก็ยังสอดเข้ามาไล้ช่วงเอวใต้เสื้อนอนผมอีกต่างหาก

    “งื่ออออ มาร์คคคค หยุดนะ” ในที่สุดผมก็ต้องลืมตามองเขาจนได้ ตื่นสมใจเขาละ ยิ้มบานเต็มหน้าเลย

    “ตื่นแล้ว” พูดปุ๊บต้องจุ๊บที่ปากปั๊บ ถึงผมจะชินที่เขาทำอย่างนี้ทุกเช้าก็เถอะ แต่ก็ยังแอบเขินอยู่นะ

    “อื้อ มาร์ค อ๊ะอย่าล้วงนะ วันนี้ไม่ไปทำงานหรือไง” ผมว่าตอนนี้ผมต้องหน้าแดงมากแน่ๆ ให้ตายเถอะ แฟนผมนี่มือไวยังกับอะไรดี

    “มีงานตั้งตอนบ่ายสามแหนะ มีเวลาอยู่กับจินยองอีกเยอะเลย วันนี้ไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ ไปดูพี่ถ่ายนิตยสารไหม” ถึงมือเขาจะไม่ได้ล้วงอะไรแล้ว แต่นี่เปลี่ยนมากอดผมแน่น แล้วไถหัวเขากับหัวผมอ้อนๆร้องขอให้ผมไปทำงานกับเขาด้วย

    “ไม่ไปหรอก แฟนคลับมาร์คน่ากลัวจะตาย” ผมส่ายหน้าแล้วพลิกตัวไปกอดเขาบ้าง ด้วยท่านอนทำให้สายตาของเราพอดีกัน สายตาอ่อนโยนที่ทำให้ผมตกหลุมรักเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เพียงชั่วพริบตา สายตานั้นก็เปลี่ยนแววเป็นเจ้าเล่ห์เหลือร้ายทันที

    “ถ้างั้นเรามาเล่นกันทั้งเช้าเลยเถอะนะ” พูดจบเขาก็พุ่งจู่โจมทันที

    “มาร์คคคคคค !!!

    .

    .

    .

    .

    .

                    ผมชื่อจินยอง ปาร์คจินยอง ชื่อเหมือนเจ้าของค่ายที่มาร์คสังกัดเลย ผมเป็นนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ปี2 ที่แบบว่าก็แอบมั่นใจนิดๆอะนะครับว่าหน้าตาดี นี่เอาดีกรีCute boyที่เขาจัดอันดับกันเป็นประกันเลย ที่ห้าของมหาลัยนะครับ และนอกจากหน้าตาจะดีแล้ว แฟนก็ยังหล่อมากๆด้วยครับ

                    แฟนผมชื่อมาร์ค ชื่อเต็มๆคือต้วนอี๋เอิน เขาเป็นคนไต้หวันแต่ไปโตที่อเมริกาครับ นั่นเลยทำให้นิสัยเขาไม่ค่อยเหมือนคนเอเชีย หน้าตาก็อย่างที่บอก หล่อมากกกก ตัวเขาอาจจะไม่ได้สูงกว่าผมสักเท่าไหร่ แต่ก็กำลังพอดี(สำหรับผมน่ะนะ) เขาเป็นไอดอลวง Gimme5 ครับ ค่อนข้างดังทีเดียว จำนวนสมาชิกในแฟนคาเฟ่เขาก็เยอะเป็นอันดับสองตอนนี้เลยด้วย

                    มาร์คเป็นคนติดแฟนมากครับ เขาชอบเอาผมไปไหนมาไหนด้วยเสมอ ดังนั้นแฟนคลับเขาทุกคนรู้จักผมดีครับ ในฐานะ... เพื่อนรุ่นน้องที่สนิท(แต่คิดไม่ซื่อ) เวลาที่มีผมไปด้วยมาร์คก็ไม่ได้เก็บอาการอะไรนะครับ อยากหอมก็หอม อยากกอดก็กอด ไม่มีกลัวแฟนคลับแอนตี้ เป็นผมเองที่ชอบกังวลทุกครั้ง แต่จนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าแฟนคลับเขาจะชอบที่ผมอยู่กับมาร์คกันมากนะครับ ถึงขั้นมีฟิคชั่นคู่มาร์คจินเต็มบอร์ดเลยทีเดียว

    .

    .

    .

    .

                    สุดท้ายวันนี้ผมก็ต้องมานั่งอยู่ในสตูดิโอถ่ายรูปจนได้ด้วยเหตุผลว่า “พี่เหงานี่ จินยองไปกับพี่เถอะนะ” แล้วก็จับผมแต่งตัวอย่างกับเล่นตุ๊กตาจนลากผมมาขึ้นรถ  คือแฟนก็ติดเรามากอะนะครับ ไม่อยากโม้เลยอะ

    “ดีมากเลยมาร์ค หันมาทางซ้ายนิดนึง ดีครับ” เสียงตากล้องพูดกำกับนายแบบหน้ากล้องผสานกับเสียงชัตเตอร์ที่รัวไม่หยุดราวๆสิบห้านาทีติดต่อกัน ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่น่าหลงไหลมาก มาร์คดูดีในชุดขนสัตว์ และฉากหิมะขาวโพลนนั่นก็ขับให้เขาดูโดดเด่นเหลือเชื่อราวกับไม่ใช่มนุษย์โลก ไม่ไหวจะอวยแฟนตัวเองแล้วครับ โอ๊ย หล่อมากกก

    “โอเค เรียบร้อยครับ ไปเปลี่ยนชุดรอถ่ายกลุ่มนะ” พี่ตากล้องเอ่ยจบแล้วมาร์คก็เดินตรงมาหาผมทันที ใจผมนี่เต้นรัวเลย

    “จินยองงี่” มาร์คเรียกผมแล้วสวมกอดหมับ ไม่มีอายสตาฟ ตากล้อง หรือแม้แต่เพื่อนร่วมวงตัวเองเลยครับ

    “คิดถึงจินยองมากๆ จุ๊บ” ไม่มีใครเว่อร์ได้เท่าแฟนผมอีกแล้วครับ ห่างกันไม่ถึงชั่วโมง แถมอยู่ในสายตาตลอดมาบอกว่าคิดถึงแล้วต้องหอมแก้มเนี่ยมันก็มากไปนิด แล้วก็ไม่ต้องรอให้ใครไล่ครับ มาร์คลากผมเข้าห้องแต่งตัวไปด้วยเพื่อเปลี่ยนชุดรอถ่ายรูปกลุ่มทันที แฟนผมก็ยังงานเป็นงานนะครับ ถึงจะชอบถเลไถลมาหาผมบ้างก็ตามเถอะ

    “ไอ้มาร์ค ไอ้เว่อ ไอ้บ้าเอ๊ย นี่เห็นแก่เพื่อนร่วมวงหน่อยเหอะว่ะ กูอายแทน” เสียงแจ๊คสันล๊งเล๊งใส่มาร์คทันทีปิดประตูเดินเข้าห้องตามเรามาด้วย แจ๊คสันเป็นคนฮ่องกงจอมโวยวายที่หนึ่งของGimme5ครับ

    “แจ๊คสันฮยองงงง จะตะโกนทำไมเนี่ย ดูดิ๊ แพ้เลย” ยูคยอมน้องเล็กของวงโวยวายเพราะแพ้เกมส์ด้วยความตกใจเสียงแจ๊คสันที่ดังเกินไป

    “นายก็เสียงดังเหมือนกันแหละ” คราวนี่เป็นแบมแบมเด็กไทยน่าตาน่ารักโวยวายบ้าง เพราะน้องกำลังหลับๆก็ต้องมาตื่นเพราะเสียงสองคนนั้น

    “พวกนายเงียบแล้วก็แต่งหน้าได้แล้ว ถ้าแจบอมกลับมาแล้วยังไม่เสร็จ พวกนายเสร็จแน่” มาร์คพูดด้วยเสียงเยียบเย็นจนน้องกลัววงแตกกระเจิงกันไปเลย บางทีผมก็แอบทึ่งแฟนผมอยู่ไม่น้อยนะครับ เขามีมุมที่เด็ดขาด แล้วก็เท่ห์อย่างนี้เสมอเมื่ออยู่กับน้องๆในวง

    “จินยองรอตรงนี้นะ พี่ไปเปลี่ยนชุดก่อน” มาร์คหันมาพูดกับผมด้วยเสียงอ่อนหวาน ผิดกับเมื่อกี้อย่างกับฟ้ากับเหว ผมมองมาร์คจนเขาเดินเข้าห้องแต่งตัวไปนั่นแหละก็เดินแกล้งแหย่ยูคยอมที่กำลังแต่งหน้าเพิ่มเล่นๆ ผมชอบแกล้งหมอนี่อะ ตลกดี

    “น้องยูคคนสวย ไม่เจอกันตั้งอาทิตย์นึง เป็นไงบ้าง “ ผมทักถึงแค่คำว่าคนสวย น้องก็ทำหน้าเหมือนจะอ้วกของเก่าแล้วครับ สนุกจัง

    “พี่ควรไปนั่งที่ครับ  เดี๋ยวพี่มาร์คออกมาไม่เห็นเมียแล้วจะองค์ลงอีกนะครับ” โดนน้องย้อนเรื่องเก่าเลยครับ แหมตอนนั้นผมแค่ออกไปซื้อของแป๊บเดียว มาร์คหาผมไม่เจอ เลยพาลทั้งวงทำงานต่อไม่ได้ แค่นั้นเอ๊ง

    “นั่งตรงนี้ก็เห็นน่า” ผมนั่งลงตรงเก้าอี้หน้ากระจกตัวที่ว่างตรงกลางระหว่างแบมแบมกับยูคยอม

    “วันนี้พี่ไม่มีเรียนเหรอครับ” แบมที่กำลังทำผมใหม่เพราะเมื่อกี้ไปนอนทับมาถามผมด้วยสำเนียงเกาหลีน่ารักสุดๆ

    “อืม วันนี้ไม่มีเรียนน่ะ ก็เลยโดนลากมาด้วย”

    “พี่มาร์คแม่งเยอะนะพี่ โดยเฉพาะเรื่องพี่เนี่ย ไม่เบื่อบ้างเหรอ” ยูคยอมหันมาถามผมแล้วก็โดนโคดี้นูน่าจับหันกลับไปมองกระจก ผมมองด้านข้างน้องพลางครุ่นคิดเล็กน้อย

                    ใครๆก็รู้ครับว่ามาร์คเยอะเรื่องผมมาก เขาจะหงุดหงิดถ้าผมเข้าใกล้ใคร เขาจะโวยวายถ้าผมหายไป เขาจะโกรธถ้ารู้ว่าผมโกหก เขาจะร้องไห้ถ้าทำให้ผมเจ็บ และเขาจะอารมณ์ดีมากๆถ้าผมบอกว่ารักเขา

    “ไม่หรอกยูคยอม ถ้านายรักใคร นายจะเข้าใจเอง”

    ทั้งแบมแบมและยูคยอมต่างมองหน้าผมแบบเหลือเชื่อ

    .

    .

    .

    .

                    ที่กลางห้องของเรามีโซฟาขนาดใหญ่สามารถปรับเบาะนอนได้ ตอนนี้มันถูกปรับจนกลายเป็นที่นอนขนาดกว้าง มีมาร์คนอนเหยียดตัวหลับและผมที่นอนอยู่บนพุงเขาอ่านหนังสือนิยายเล่มหนา ที่ของผมและเขา ที่ที่เราอุ่นใจเวลาที่มีกันและกัน  ผมอ่านจนเมื่อยแขน และคอก็เริ่มแห้ง ผมลุกขึ้นจากการนอนเล่นไปในครัวเพื่อหาน้ำทาน

    “จินยองงี่” เสียงไม่เบานักของมาร์คเรียกหาผม เขามักเป็นอย่างนี้เสมอเวลาที่ตื่นนอนแล้วไม่เจอผม ให้ตายสิ เหมือนเด็กน้อยชะมัด

    “ผมอยู่ในครัว” ผมตะโกนออกไป สักพักก็ได้ยินเสียงตึงตังของมาร์คที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ากำลังวิ่งมาหาผม แน่ล่ะ เด็กน้อยของผมติดผมอย่างกับอะไรดี

    “จินยอง” มาร์คหยุดยืนที่หน้าโซนห้องครัวแล้วกางแขนออก ผมเขินนะ ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรก และมันนับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็เถอะ ผมก็ยังเขินมาร์คมากมายอยู่ดีเวลาเขาทำอะไรอย่างนี้ แต่ถึงอย่างไร ผมก็วางแก้วน้ำและเดินเตาะแตะโผเข้าอ้อมกอดของมาร์คไปอย่างง่ายดาย เขากอดผม ผมกอดเขา เรากอดกันโยกตัวไปมาเล็กน้อยเหมือนเด็กๆ

    “รีบตื่นทำไมล่ะครับ” ผมเอ่ยถาม

    “ก็ไม่มีคนนอนด้วยแล้วมันโหวงๆนี่นา จินยองนั่นแหละรีบลุกทำไม” มาร์คถามด้วยเสียงงัวเงียพลางใช้จมูกโด่งของเขาไล้ข้างแก้มผม

    “แค่หิวน้ำเอง กะว่าเดี๋ยวกินน้ำเสร็จจะไปนอนอ่านต่อ” ผมก้มดมไหล่เขาอย่างเคยชิน

    “อยากอ่านต่อไหม พี่นอนไม่หลับแล้วล่ะ ออกไปสวนสนุกกันเถอะ”

    “หืม สวนสนุก!!

    “ใช่ สวนสนุก ไปกันเถอะนะจินยองงี่”

    ให้ตายเถอะแฟนผม คิดจะไปสวนสนุกตอนหนึ่งทุ่มก็ไปนี่นะ ตาบ้าเอ๊ย

    .

    .

    .

    .

                    ถึงผมจะบ่นเขาตลอดตั้งแต่จับผมแต่งตัวใหม่ กระทั่งนั่งรถมาตลอดทาง พวกผมก็มาถึงสวนสนุกจนได้ กี่โมงแล้วนะ สองทุ่มครึ่ง มาทำอะไรตอนนี้

    “ไปนั่งแมรี่โกราวด์กันนะ” บางทีผมก็อยากถามเขานะว่าจะถามทำไม ในเมื่อควงแขนลากผมเดินไปทางม้าหมุนนั่นแล้วน่ะ

                    เชื่อไหมว่าเราเล่นม้าหมุนวนไปสามรอบ สามรอบเชียวนะ เพื่ออะไรเนี่ย ทั้งๆที่มาร์คก็แค่นั่งจ้องหน้าผมไปเรื่อยๆเนี่ยนะ พูดยังไม่พูดเลย ผมเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาตะหงิดๆ

    “จินยองงี่ ยิ้มหน่อยสิ หน้าบูดหมดแล้ว” มาร์คพูดหลังจากในที่สุดเขาก็เลิกเล่นม้าหมุนได้สักที

    “ก็มาร์คจะเล่นม้าหมุนนั่นตั้งหลายรอบทำไม นี่ถ้ามันไม่ดึกแล้วนะ ผมจะโกรธกว่านี้อีก”

    “พี่ก็แค่อยากเห็นจินยองอยู่กับของน่ารักนานๆเท่านั้นเอง” เหตุผลเหรอนั่นน่ะ เป็นผู้ชายเยอะจริงๆ

    “ตลก” ผมพูดคำเดียวและเตรียมเดินกลับรถทันที แต่มาร์คก็คว้ามือผมไว้อีก

    “เดี๋ยวสิ ไปขึ้นเฟอริสวีลก่อนนะๆๆ” มาร์คเขย่ามือผมเป็นเด็กๆจนผมต้องอ่อนใจ พยักหน้าให้เขาพาไปนั่งชิงช้าสวรรค์ที่ตั้งอยู่กลางสวนสนุกแห่งนี้

    .

    .

    .

    .

    “จินยองมานั่งฝั่งนี้” มาร์คจับมือผมให้นั่งข้างเดียวกับเขาบนกระเช้าชิงช้า ผมก็ไม่รู้จะอิดออดไปเพื่ออะไรก็นั่งลงให้มาร์คโอบเอวให้มาพิงตัวเขา ชวนดูนั่นนี่จากวิวบนกระเช้า

                    มาร์คเป็นคนน่ารัก เขาน่ารักกับผมอย่างนี้เสมอ เขาชวนผมดูนั่นนี่ แล้วพอผมตอบรับอะไรบ้างก็เหมือนเขาอดใจไม่อยู่ ต้องได้จุ๊บได้หอมผมอยู่อย่างนั้น  ผมชอบเวลาที่เขาทำให้ผมรู้สึกว่าเขารักผมมาก และเขาเป็นของผมคนเดียว ผมซุกตัวเข้าแนบชิดมาร์คมากขึ้นเหมือนคนขี้หนาว เปล่าหรอก ผมก็แค่อยากอ้อนเท่านั้นเอง

    “จินยอง...” มาร์คเรียกชื่อผมแล้วก็เงียบไป

    “อะไรครับ” ผมเอ่ยถามหลังจากความเงียบเข้าปกคลุมแม้ว่าเรากำลังมองตากัน

    “จินยอง... จินยองรำคาญพี่บ้างไหม เวลาที่พี่ยุ่งวุ่นวายกับจินยองมากไป คือพี่ก็รู้ตัวนะ แต่...” ผมใช้มือตัวเองปิดปากมาร์คแผ่วเบาเพื่อหยุดคำพูดต่อๆมา

    “ผมไม่รำคาญเลยสักนิด” ผมพูดพลางส่ายหน้าเบาๆ

    “ทำไมล่ะ” ประกายสายตาของมาร์คสะกดผม นัยย์ตานั้นมันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่มีต่อผมซึ่งอยู่ในอ้อมกอดของเขา

    “พี่ไม่รู้เหรอว่าผมรู้สึกมีความสุขมากแค่ไหนเวลาที่พี่วุ่นวายกับผม ผมรักพี่นะ ทำไมผมถึงจะรำคาญเวลาที่พี่รักผมล่ะ”

                    หลังจากฟังคำตอบนั้น ผมก็รู้ว่ามาร์คพอใจมากแค่ไหน เราผสานสายตากัน และโดยที่ต่างฝ่ายก็ต่างค่อยเคลื่อนหน้าเข้าหากัน จนในที่สุดริมฝีปากของเราก็ประทับซึ่งกันและกัน

                    เป็นจูบที่ไม่เร่งร้อน แต่ลึกซึ้ง ทุกลมหายใจ ทุกสัมผัสที่มาร์คประทับลงมา มันเต็มไปด้วยความรัก ผมจึงตอบรับด้วยรักที่ผมมีเช่นเดียวกัน มาร์คกระชับอ้อมแขนให้เราได้สัมผัสกันและกันมากขึ้น ผมรู้สึกเหมือนจูบนี้จะไม่มีวันสิ้นสุด

                    ผมว่าผมรู้นะว่าถ้าไม่หยุดจูบกันตอนนี้ คืนนี้ผมต้องไปไหนไม่รอดนอกจากโดนจับกดบนเตียงและทำกิจกรรมที่มาร์คชื่นชอบมากเป็นพิเศษยันเช้ามืดแน่ๆ แต่ก็ใช่ว่าผมอยากจะหยุดเสียเมื่อไหร่กันล่ะ

    .

    .

    .

    .

    “นี่พี่แจ็คว่าห้องข้างๆเราเขาจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันอีกนานไหมอะ” แบมแบมผู้กำลังพยายามมุดหมอนมุดผ้าห่มนอนให้หลับ แต่เสียงห้องข้างๆก็ดังจนแบมแบมอยากจะหลับก็หลับไม่ได้

    “เหี้ยเอ๊ยย ทุกทีมันก็กินกันเงียบๆได้นี่หว่า ทำไมวันนี้รุนแรงกันจังวะ” แจ็คสันได้แต่บ่นอย่างหัวเสีย เมื่อทั้งเสียงครางเสียงเตียงลั่นมันดังมาถึงห้องของพวกเขา

    “ฮืออ พี่แจ๊คแบมนอนไม่หลับ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าด้วยนะ ทำไมพวกพี่เขายังไม่หยุดสักที” แบมแบมถึงกับต้องมุดมาหาแจ็คสันพี่ชายเตียงข้างๆเพื่องอแงตามประสาเด็กน้อยขี้อ้อน

    “โอ๋ แบมแบม นอนนะครับ โอ๋เอ๊” ถึงปากจะกล่อมแบมแบมนอน แต่เชื่อเถอะว่าคืนนี้แจ็คสันก็คงหลับไม่ลงเหมือนกัน

    พรุ่งนี้กุจะแก้แค้นมึงไอ้มาร์คต้วน!!

    .
    .
    .
    .

     

    END of part ‘Overreacting Boyfriend’                



    กรี๊ดดดดดดด ไม่ได้จับคีย์บอร์ดแต่งฟิคมาหลายปี นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน
    เห็นโมเมนท์มาร์คเนียร์มาโบ้มๆ พี่มาร์คก็หล่ออลังการมาก อดใจไม่ไหวต้องหาทางระบาย ฮ่าๆๆๆ

    คิดว่าจะเป็นตอนสั้นๆตามอารมณ์คนแต่งไปเรื่อยๆนะคะ
    ว่างก็แต่ง ไม่ว่างคงหายตัวไปนาน
    ขอบคุณทุกคนที่แวะเวียนผ่านมาเห็นฟิคชั่นของเรานะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×