ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : N.Blue ~Two
มันไม่ใช่สิ่งที่จะหาซื้อได้ด้วยเงินหรือแลกมาได้ด้วยสิ่งของแต่นั้นเป็นความรู้สึกที่ถูกกลั่นกรองออกมาจากใจ
''นี่ๆ'' นิ้วมือเล็กๆสะกิดที่ขาของผม เด็กผู้หญิงคนหนึ่งจ้องมองผมด้วยสายตาใคร่รู้
''อะไรเหรอ?'' ผมละ มือจากการหมุนเกลียวเพื่อตั้งสายกีตาร์แล้วหันไปถามเธอ เด็กหญิงตัวเล็กๆชี้นิ้วไปที่ใครคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ตรงม้าม้านั่งตรงกันข้ามกับผม
''พี่คนนั้นให้มาเรียกค่ะ'' คนตรงหน้าส่งยิ้มให้ก่อนลุกขึ้นจากม้านั่งและทำท่าเหมือนจะเดินตรงมาหาผม
''สวัสดี ! ผมชื่อโซ'' เค้าเดินมาหยุดที่ตรงหน้าของผม น้ำเสียงเล็กๆนั้นทำให้ผมรู้สึกสับสนอยู่ไม่น้อยท่าทางเค้าเหมือนกับเด็กผู้หญิงมากกว่า
''ครับ!?'' ผมตอบรับอย่าง งงๆ ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมจู่ๆคนแปลกหน้าถึงได้เข้ามาทักทายผมแบบนี้
''แปลกใจล่ะสิว่าทำไมผมถึงมาคุยด้วย'' ฟังจากสรรพนามแทนตัวแล้ว นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกสับสน ตกลงเค้าเป็นผู้ชายงั้นเหรอ?
''อื้ม...ก็นิดหน่อยนะ''
''ผมกำลังทำวงดนตรีอยู่ แล้วเคยเห็นคุณเล่นกีตาร์ในงานโรงเรียนเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็เลยอยากจะมาชวนไปเล่นด้วยกันน่ะ''
โรงเรียนของผมเพิ่งจะมีงานนิทัศการณ์วิชาการไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และผมก็เป็นหนึ่งในนักดนตรีที่ได้ขึ้นโชว์ฝีมือบนเวที อันที่จริงก็ไม่ได้อยากจะทำแบบนั้นซักเท่าไรหรอกแต่ว่ามันเป็นกิจกรรมบังคับของชมรมดนตรีน่ะ
''นาย...อยู่โรงเรียนเดียวกับเราเหรอ?'' ดูจากหน้าตา คิดว่าหมอที่น่าจะเป็นรุ่นน้องมากกว่านะ โรงเรียนผมถึงแม้จะเป็นโรงเรียนเอกชนแต่ก็ไม่อนุญาตให้เด็กผู้ชายไว้ผมยาวได้ขนาดนี้ เส้นผมสีทองยาวเคลียบ่า งั้นก็แสดงว่าเค้าเป็นผู้หญิงสินะ
''เปล่า ! ผมอยู่โรงเรียนอื่นน่ะ แค่ได้มาเที่ยวที่งานโรงเรียนคุณแล้วบังเอิญไปเห็นตอนคุณกำลังเล่นกีตาร์อยู่เท่านั้น'' การปฎิเสธของเค้าทำให้ผมสับสนอีกเป็นระลอกที่สอง ตกลงที่แปลกใจอยู่ในตอนนี้คือเรื่องที่ว่า 'คนตรงหน้าของผมเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย?' ใช่ไหมเนี่ย!!
''แล้ว...คิดยังไงจู่ๆถึงมาชวน'' นั่นก็เป็นอีกเรื่องที่อยากรู้อยู่เหมือนกัน
''เพราะชอบมั้ง ! '' ''เฮือก!!!'' ...มะ...เหมือนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองสะดุ้งด้วยความตกใจ เสียงหัวเราะชอบใจดังขึ้น ท่าทางหมอนี่จะเดาความคิดของผมออกแฮะ!
''ฮ่าๆๆๆ...หมายถึงชอบการเล่นกีตาร์ของคุณน่ะ''...เฮ้อนั่นสินะเค้ายังไม่ได้บอกว่าชอบเราซักหน่อยนี่นา คิดแล้วอายชะมัดที่เผลอคิดเข้าข้างตัวเอง (หัวเราะฝืด)
''แต่เรายังไม่รู้จักนายกับคนในวงนายเลย'' ใช่ๆผมจำเป็นต้องรู้จักคนที่จะมาทำวงร่วมกันให้มากกว่านี้ก่อน
''คุณเองก็ยังไม่ได้บอกชื่อเหมือนกัน'' ทำไมถึงต้องรอให้ฝ่ายนั้นทวงถามด้วยนะ
''อ๊ะ!โทษที เราชื่อฮิโรมิ มาโคโตะ ม.6 โรงเรียนเรเซคิ''
''อืม...ส่วนผมก็โซ...คามิยามะ โซราโอะ ม.3 โรงเรียนนานาชาติ S. ถ้ายังไงพวกเราไปคุยกันที่ร้านแม็ค ดีกว่ามั้ย?รู้สึกเริ่มหิวๆขึ้นมาแล้ว''
''เอ่อ...ได้ ไปสิ!''
และนั่นก็คือครั้งแรกที่ผมได้รู้จักกับเค้า 'คามิยามะ โซราโอะ' หรือ 'โซ' นักร้องนำของวง Lucrece (ลิว-ครีซ) ตอนนั้นเราต่างคนต่างก็ยังเด็กทั้งคู่ ผมตอบรับว่าตัวเองเข้าวงเพราะรู้สึกถูกชะตากับหมอนั่น และหลังจากที่ได้ร่วมเป็นหนึ่งใน Lucrece ผมก็คิดว่าการตัดสินใจของผมนั้นไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายอะไรเลย
Lucrece มีสมาชิกทั้งหมด 5 คนก่อนหน้านี้เราใช้ชื่อวงว่า Casket (โลงศพ)แต่หลังจากที่มือกีตาร์คนเก่าและมือเบสลาออกไป สมาชิกใหม่ที่เข้ามาอีก 2 คนก็เสนอให้เปลี่ยนชื่อ และจากนั้น Lucrece ก็กลายมาเป็นชื่อของพวกเรา
ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาผมรู้สึกว่านี่มันไม่ใช่แค่การเล่นของเด็กๆทุกคนมีความต้องการที่จะก้าวไปให้สูงกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะคนๆนั้น...
สำหรับผมเค้าไม่ใช่แค่เด็กผู้ชายตัวเล็กๆที่เจอกันที่สวนสาธารณะอีกแล้ว ตอนนี้โซเองดูจะมีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ผมมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเค้ามีชีวิตอยู่ด้วยความฝัน ฝันที่ดูยิ่งใหญ่แต่ถ้าเป็นเค้ามันก็ไม่น่าจะไกลเกินเอื้อมถึง คนๆนั้นกำลังจะเดินขึ้นไปสูงกว่านี้ แต่ผมเองกลับรู้สึกเหมือนเด็กหลงทาง ผมหาทางออกไปเรื่อยๆบางทีอาจจะเป็นเพราะผมยังไม่มีสิ่งที่เรียกว่า 'ความฝัน' ละมั้ง
มันไม่ง่ายเลยที่จะตอบคำถามให้ได้ว่าสิ่งที่อยากทำที่สุดคืออะไร? เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาผมปฎิเสธที่จะคาดคั้นตัวเองมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ผมพยายามจะหามันให้พบ อยากจะตอบให้ได้ว่า
''ความฝันของผมคืออะไร?''....เพราะรู้สึกว่าซักวันหนึ่งจะต้องถูกถาม และผมก็ไม่อยากจะหนีมันอีกต่อไปแล้ว
เวลา 3 ปี สำหรับผมแล้วมันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานพอที่จะทำให้เรารู้จักกับใครคนหนึ่งได้มากจนถึงขนาดคาดเดาความคิดของเค้าล่วงหน้าได้ แต่ทำไมพอเปรียบเทียบกับตัวเอง ระยะเวลา 3 ปีถึงเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆนะ? 3 ปีมานี่ผมรู้จักอะไรเพิ่มขึ้นบ้าง? เรื่องของตัวเองในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา...ผมแทบจะไม่ได้รู้จักอะไรเพิ่มขึ้นเลย ทั้งๆ ที่อยากจะได้คำตอบ แต่จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าในตัวเองอยู่ดี...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผมไม่เคยมีความฝันที่มุ่งมั่นจนถึงขนาดว่า 'ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องทำให้ได้' ใช่! ก่อนหน้านี้ผมไม่มีเรื่องอย่างนั้นอยู่ในหัวสมองเลยกระทั่ง ....
''นี่ๆ'' นิ้วมือเล็กๆสะกิดที่ขาของผม เด็กผู้หญิงคนหนึ่งจ้องมองผมด้วยสายตาใคร่รู้
''อะไรเหรอ?'' ผมละ มือจากการหมุนเกลียวเพื่อตั้งสายกีตาร์แล้วหันไปถามเธอ เด็กหญิงตัวเล็กๆชี้นิ้วไปที่ใครคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ตรงม้าม้านั่งตรงกันข้ามกับผม
''พี่คนนั้นให้มาเรียกค่ะ'' คนตรงหน้าส่งยิ้มให้ก่อนลุกขึ้นจากม้านั่งและทำท่าเหมือนจะเดินตรงมาหาผม
''สวัสดี ! ผมชื่อโซ'' เค้าเดินมาหยุดที่ตรงหน้าของผม น้ำเสียงเล็กๆนั้นทำให้ผมรู้สึกสับสนอยู่ไม่น้อยท่าทางเค้าเหมือนกับเด็กผู้หญิงมากกว่า
''ครับ!?'' ผมตอบรับอย่าง งงๆ ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมจู่ๆคนแปลกหน้าถึงได้เข้ามาทักทายผมแบบนี้
''แปลกใจล่ะสิว่าทำไมผมถึงมาคุยด้วย'' ฟังจากสรรพนามแทนตัวแล้ว นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกสับสน ตกลงเค้าเป็นผู้ชายงั้นเหรอ?
''อื้ม...ก็นิดหน่อยนะ''
''ผมกำลังทำวงดนตรีอยู่ แล้วเคยเห็นคุณเล่นกีตาร์ในงานโรงเรียนเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็เลยอยากจะมาชวนไปเล่นด้วยกันน่ะ''
โรงเรียนของผมเพิ่งจะมีงานนิทัศการณ์วิชาการไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และผมก็เป็นหนึ่งในนักดนตรีที่ได้ขึ้นโชว์ฝีมือบนเวที อันที่จริงก็ไม่ได้อยากจะทำแบบนั้นซักเท่าไรหรอกแต่ว่ามันเป็นกิจกรรมบังคับของชมรมดนตรีน่ะ
''นาย...อยู่โรงเรียนเดียวกับเราเหรอ?'' ดูจากหน้าตา คิดว่าหมอที่น่าจะเป็นรุ่นน้องมากกว่านะ โรงเรียนผมถึงแม้จะเป็นโรงเรียนเอกชนแต่ก็ไม่อนุญาตให้เด็กผู้ชายไว้ผมยาวได้ขนาดนี้ เส้นผมสีทองยาวเคลียบ่า งั้นก็แสดงว่าเค้าเป็นผู้หญิงสินะ
''เปล่า ! ผมอยู่โรงเรียนอื่นน่ะ แค่ได้มาเที่ยวที่งานโรงเรียนคุณแล้วบังเอิญไปเห็นตอนคุณกำลังเล่นกีตาร์อยู่เท่านั้น'' การปฎิเสธของเค้าทำให้ผมสับสนอีกเป็นระลอกที่สอง ตกลงที่แปลกใจอยู่ในตอนนี้คือเรื่องที่ว่า 'คนตรงหน้าของผมเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย?' ใช่ไหมเนี่ย!!
''แล้ว...คิดยังไงจู่ๆถึงมาชวน'' นั่นก็เป็นอีกเรื่องที่อยากรู้อยู่เหมือนกัน
''เพราะชอบมั้ง ! '' ''เฮือก!!!'' ...มะ...เหมือนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองสะดุ้งด้วยความตกใจ เสียงหัวเราะชอบใจดังขึ้น ท่าทางหมอนี่จะเดาความคิดของผมออกแฮะ!
''ฮ่าๆๆๆ...หมายถึงชอบการเล่นกีตาร์ของคุณน่ะ''...เฮ้อนั่นสินะเค้ายังไม่ได้บอกว่าชอบเราซักหน่อยนี่นา คิดแล้วอายชะมัดที่เผลอคิดเข้าข้างตัวเอง (หัวเราะฝืด)
''แต่เรายังไม่รู้จักนายกับคนในวงนายเลย'' ใช่ๆผมจำเป็นต้องรู้จักคนที่จะมาทำวงร่วมกันให้มากกว่านี้ก่อน
''คุณเองก็ยังไม่ได้บอกชื่อเหมือนกัน'' ทำไมถึงต้องรอให้ฝ่ายนั้นทวงถามด้วยนะ
''อ๊ะ!โทษที เราชื่อฮิโรมิ มาโคโตะ ม.6 โรงเรียนเรเซคิ''
''อืม...ส่วนผมก็โซ...คามิยามะ โซราโอะ ม.3 โรงเรียนนานาชาติ S. ถ้ายังไงพวกเราไปคุยกันที่ร้านแม็ค ดีกว่ามั้ย?รู้สึกเริ่มหิวๆขึ้นมาแล้ว''
''เอ่อ...ได้ ไปสิ!''
และนั่นก็คือครั้งแรกที่ผมได้รู้จักกับเค้า 'คามิยามะ โซราโอะ' หรือ 'โซ' นักร้องนำของวง Lucrece (ลิว-ครีซ) ตอนนั้นเราต่างคนต่างก็ยังเด็กทั้งคู่ ผมตอบรับว่าตัวเองเข้าวงเพราะรู้สึกถูกชะตากับหมอนั่น และหลังจากที่ได้ร่วมเป็นหนึ่งใน Lucrece ผมก็คิดว่าการตัดสินใจของผมนั้นไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายอะไรเลย
Lucrece มีสมาชิกทั้งหมด 5 คนก่อนหน้านี้เราใช้ชื่อวงว่า Casket (โลงศพ)แต่หลังจากที่มือกีตาร์คนเก่าและมือเบสลาออกไป สมาชิกใหม่ที่เข้ามาอีก 2 คนก็เสนอให้เปลี่ยนชื่อ และจากนั้น Lucrece ก็กลายมาเป็นชื่อของพวกเรา
ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาผมรู้สึกว่านี่มันไม่ใช่แค่การเล่นของเด็กๆทุกคนมีความต้องการที่จะก้าวไปให้สูงกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะคนๆนั้น...
สำหรับผมเค้าไม่ใช่แค่เด็กผู้ชายตัวเล็กๆที่เจอกันที่สวนสาธารณะอีกแล้ว ตอนนี้โซเองดูจะมีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ผมมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเค้ามีชีวิตอยู่ด้วยความฝัน ฝันที่ดูยิ่งใหญ่แต่ถ้าเป็นเค้ามันก็ไม่น่าจะไกลเกินเอื้อมถึง คนๆนั้นกำลังจะเดินขึ้นไปสูงกว่านี้ แต่ผมเองกลับรู้สึกเหมือนเด็กหลงทาง ผมหาทางออกไปเรื่อยๆบางทีอาจจะเป็นเพราะผมยังไม่มีสิ่งที่เรียกว่า 'ความฝัน' ละมั้ง
มันไม่ง่ายเลยที่จะตอบคำถามให้ได้ว่าสิ่งที่อยากทำที่สุดคืออะไร? เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาผมปฎิเสธที่จะคาดคั้นตัวเองมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ผมพยายามจะหามันให้พบ อยากจะตอบให้ได้ว่า
''ความฝันของผมคืออะไร?''....เพราะรู้สึกว่าซักวันหนึ่งจะต้องถูกถาม และผมก็ไม่อยากจะหนีมันอีกต่อไปแล้ว
เวลา 3 ปี สำหรับผมแล้วมันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานพอที่จะทำให้เรารู้จักกับใครคนหนึ่งได้มากจนถึงขนาดคาดเดาความคิดของเค้าล่วงหน้าได้ แต่ทำไมพอเปรียบเทียบกับตัวเอง ระยะเวลา 3 ปีถึงเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆนะ? 3 ปีมานี่ผมรู้จักอะไรเพิ่มขึ้นบ้าง? เรื่องของตัวเองในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา...ผมแทบจะไม่ได้รู้จักอะไรเพิ่มขึ้นเลย ทั้งๆ ที่อยากจะได้คำตอบ แต่จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าในตัวเองอยู่ดี...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น