ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Secreat Love รักนี้เงียบไว้นะ [Yaoi Boy's Love]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทเริ่มต้น (รีไรท์)

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ย. 59


    บทที่ 1 พระเอกเอ็มวีน้ำเน่า

     

                ท่ามกลางห่าฝนที่สาดลงมาจนแทบไม่ได้ยินเสียงใดๆเลยนอกจากเสียงฝน แต่ท่ามกลางสายนนั้นกลับมีเด็กหนุ่มที่วิ่งผ่านมันราวกับทำเอ็มวีเพลงน้ำเน่า ผู้คนบริเวณนั้นต่างหากเด็กหนุ่มด้วยสายตาแปลกๆ

     

    ทำเด็กนั่นไม่กลางร่มแบบชาวบ้านเขานะ

    อยากเด่นเหรอ?

             

              ถึงแม้จะไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากผู้คนแต่เด็กหนุ่มเหมือนกับจะรู้ความในใจ...ไม่ใช่หรอก เขาไม่ได้อยากจะเปียกปอนแบบนี้...ไม่เลยซักนิด...

     

                เด็กหนุ่มยังคงเดินท่ามกลางสายฝนต่อไปจนถึงที่พักของเขา ที่พักเป็นหอพักใกล้ๆมหาวิทยาลัย คงเดาได้ไม่ยากว่าเด็กหนุ่มคงจะเรียนอยู่ที่นั่น  เขาเดินตัวเปียกขึ้นหอพักโดยไม่สนใจว่าพรุ่งนี้ป้าแม่บ้านจะจัดการกับรอยเลอะบนพื้นอย่างไร

              เขาตรงดิ่งไปที่ห้องของตน ไขกุญแจอย่างไม่รีบร้อน วางกระเป๋าเป้สีดำเปียกปอนลงบนพื้น สายตาที่ดูอมทุกข์กวาดมองเหมือนกำลังหาสิ่งที่เขาต้องการ ไม่นานเขาก็เจอมัน

     

    เชือก...

     

                ในมือของเด็กหนุ่มถือเชือกเอาไว้แล้ว เขามองมันอยากครุ่นคิดว่าควรจะทำสิ่งที่เขาคิดอยู่รึเปล่า พ่อแม่จะเสียใจไหม แต่ตัวเขาในตอนนี้ถ้าไม่ทำอะไรอาจจะแตกสลายไปกับอากาศหรือไม่ก็สายฝนก็เป็นได้

     

                เด็กหนุ่มจัดการแขวนเชือกเหมือนที่เขาเคยเห็นในหนังผีไทยทำกันบ่อยๆ อาจจะไม่ยากสำหรับเขา แค่ผูกเชือกแล้วนำเอาหัวไปวางไว้บนนั้นเท่านั้นเอง..ความเจ็บปวดแค่พริบตาเดียวเท่านั้น..ไม่นานหรอก..

                เขปลอบใจตัวเองด้วยประโยคนั้น ว่าแล้วก็ยกเก้าอี้ขึ้นจัดการน้ำหัวตัวเองไปวางไว้บนเชือก เขาหลับตาปี๋แล้วเตะเก้าอี้ออกไป!

     

                จังหวะนั้นเขาเกิดกลัวขึ้นมาว่าจะตายเอาจริงๆ เชือกรัดที่คอเขาแน่นจนหายใจแทบไม่ออก มือจับเชือกไว้ขาตะเกียกตะกายดิ้นรนตามสัญชาติญาณเต็มที่

     

                จะตายแล้วเหรอ...ไม่คิดว่าจะหายใจลำบากขนาดนี้..เจ็บเหมือนกัน..ทำไมร่างกายต้องดิ้นรนขนาดนี้ด้วย..ทั้งๆที่ตั้งใจจะตายแล้วแท้ๆ...พอสักทีเถอะ...ได้โปรด...ให้ฉันได้พักเถอะ

     

                “อย่าเพิ่งตายนะ!!” เสียงทุ้มที่นานๆครั้งจะได้ยินแต่ไม่ใช่คนรู้จักเสียทีเดียว ทำไมถึงได้ยินใกล้หูขนาดนี้ แต่รู้สึกว่าหายใจง่ายขึ้นแล้ว...

     

                “อย่าเพิ่งตายนะ ฉันเรียกรถพยาบาลมาแล้ว! แข็งใจไว้ก่อนนะ!

     

                อะไรนะ...รถพยาบาล..เรียกมาทำไม...ในเมื่อฉันจะตายอยู่แล้วแท้ๆ

     

                เสียเวลาน่า...

     

                เด็กหนุ่มจู่ๆก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาจนตาปิดไปร่างกายไร้เรี่ยวแรงแต่ยังหายใจอยู่...ตอนนี้เขาหมดสติไปแล้ว เหลือเพียงเจ้าของเสียงอีกคนที่ท่าทางหวั่นใจว่าเด็กหนุ่มจะตายรึเปล่า

     

                “เฮ้ย!!

     

              ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเกิดเรื่องแขวนคอ ห้องข้างๆของเด็กหนุ่มอมทุกข์นั้นมีเด็กหนุ่มอีกคนที่อายุพอๆกันกำลังเล่นเกมส์อย่างเมามันส์อยู่ในห้องของเขา แต่เนื่องจากเขาเล่นเกมผีไล่ล่า และกำลังระทึกขวัญสุดขีด เขาได้ยินเสียงเหมือนอะไรบางอย่างหล่นลงพื้นอย่างแรง เหมือนโดนผลักด้วยความตั้งใจจนสะดุ้งและรีบโยนหูฟังทิ้ง

     

                “บ้าเอ้ย..ไม่เห็นรู้เลยว่าเกมส์นี้มีอะไรแบบนี้ด้วย น่ากลัวชะมัด ไม่เล่นแล้ว”

    บ่นจบเขาก็เกิดหิวขึ้นมาอย่างกะทันหันจนต้องเอามือกุมท้อง สีหน้าปลงสุดชีวิต เขาหันมองไปยังหองซองบะหมี่สำเร็จรูปที่ฉีกทิ้งไว้ไม่เหลือเลยแม้แต่ซองเดียว เขาคงต้องออกไปหาอะไรเข้าท้องข้างนอก ไม่งั้นได้หิวตายแน่ๆ ว่าแล้วก็ค่อยเตรียมตัวออกไปข้างนอก

     

    จังหวะที่เขาปิดประตูห้องของเขา เขาได้ยินเสียงแปลกๆจากข้างๆห้อง เหมือนคนขาดอากาศหายใจจนดังออกมาข้างนอก

     

    เฮ้ๆ อะไรน่ะ...ถ้าจำไม่ผิดคนข้างห้องนั่นมันเด็กวิทย์ฯหน้าตาอมทุกข์ไม่ใช่รึไง..

     

    เขาถือวิสาสะเอาหูแนบประตูห้องของอีกฝ่ายจนเสียงที่ว่าดังชัดขึ้นอีกจนรู้สึกแปลกๆ อดทนไม่ได้ใช้เท้าถีบประตูอย่างสุดแรงเกิด คิดว่าจะพังเข้าไปง่ายๆเหมือนในละคร แต่ที่ไหนได้ ไม่ง่ายเลยซักนิด!

     

                เขาใช้เวลาอยู่ซักนิดจนถีบประตูเจ้ากรรมออกไปได้ เขารีบวิ่งเข้าไปในห้องเห็นเด็กหนุ่มที่เปาเจ้าของห้องกำลังแขวนคอตัวเองจึงรีบไปเอาเจ้านั่นลงมาก่อนที่จะขาดอากาศ

     

                เขาช่วยเจ้าของห้องได้สำเร็จแต่ก็เกือบตายไปแล้ว ที่คอของเจ้าของห้องแดงเป็นรอยเชือกหายใจหอบถี่เหมือนกับต้องการอากาศมากๆ เนื้อตัวสั่นเปียกปอนเพราะตากฝน เหมือนลูกหมากำลังจะขาดใจตายไม่มีผิด..

     

                เขารีบกดมือถือเรียกรถพยาบาลพลางประคองเจ้าของห้องไว้พร้อมพูดเรียกเผื่อว่าเจ้าคนคิดสั้นจะยังมีสติอยู่ แต่คำพูดเหมือนคำขออ้อนวอนอย่างไรก็ไม่รู้สิ

     

     “ อย่าเพิ่งตายนะ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×