คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทเริ่มต้น (รีไรท์)
บทที่ 1 พระเอกเอ็มวีน้ำเน่า
ท่ามกลางห่าฝนที่สาดลงมาจนแทบไม่ได้ยินเสียงใดๆเลยนอกจากเสียงฝน
แต่ท่ามกลางสายนนั้นกลับมีเด็กหนุ่มที่วิ่งผ่านมันราวกับทำเอ็มวีเพลงน้ำเน่า
ผู้คนบริเวณนั้นต่างหากเด็กหนุ่มด้วยสายตาแปลกๆ
‘ทำเด็กนั่นไม่กลางร่มแบบชาวบ้านเขานะ’
‘อยากเด่นเหรอ?’
ถึงแม้จะไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากผู้คนแต่เด็กหนุ่มเหมือนกับจะรู้ความในใจ...ไม่ใช่หรอก
เขาไม่ได้อยากจะเปียกปอนแบบนี้...ไม่เลยซักนิด...
เด็กหนุ่มยังคงเดินท่ามกลางสายฝนต่อไปจนถึงที่พักของเขา
ที่พักเป็นหอพักใกล้ๆมหาวิทยาลัย คงเดาได้ไม่ยากว่าเด็กหนุ่มคงจะเรียนอยู่ที่นั่น เขาเดินตัวเปียกขึ้นหอพักโดยไม่สนใจว่าพรุ่งนี้ป้าแม่บ้านจะจัดการกับรอยเลอะบนพื้นอย่างไร
เขาตรงดิ่งไปที่ห้องของตน ไขกุญแจอย่างไม่รีบร้อน วางกระเป๋าเป้สีดำเปียกปอนลงบนพื้น
สายตาที่ดูอมทุกข์กวาดมองเหมือนกำลังหาสิ่งที่เขาต้องการ ไม่นานเขาก็เจอมัน
เชือก...
ในมือของเด็กหนุ่มถือเชือกเอาไว้แล้ว
เขามองมันอยากครุ่นคิดว่าควรจะทำสิ่งที่เขาคิดอยู่รึเปล่า พ่อแม่จะเสียใจไหม
แต่ตัวเขาในตอนนี้ถ้าไม่ทำอะไรอาจจะแตกสลายไปกับอากาศหรือไม่ก็สายฝนก็เป็นได้
เด็กหนุ่มจัดการแขวนเชือกเหมือนที่เขาเคยเห็นในหนังผีไทยทำกันบ่อยๆ
อาจจะไม่ยากสำหรับเขา
แค่ผูกเชือกแล้วนำเอาหัวไปวางไว้บนนั้นเท่านั้นเอง..ความเจ็บปวดแค่พริบตาเดียวเท่านั้น..ไม่นานหรอก..
เขปลอบใจตัวเองด้วยประโยคนั้น
ว่าแล้วก็ยกเก้าอี้ขึ้นจัดการน้ำหัวตัวเองไปวางไว้บนเชือก เขาหลับตาปี๋แล้วเตะเก้าอี้ออกไป!
จังหวะนั้นเขาเกิดกลัวขึ้นมาว่าจะตายเอาจริงๆ
เชือกรัดที่คอเขาแน่นจนหายใจแทบไม่ออก มือจับเชือกไว้ขาตะเกียกตะกายดิ้นรนตามสัญชาติญาณเต็มที่
จะตายแล้วเหรอ...ไม่คิดว่าจะหายใจลำบากขนาดนี้..เจ็บเหมือนกัน..ทำไมร่างกายต้องดิ้นรนขนาดนี้ด้วย..ทั้งๆที่ตั้งใจจะตายแล้วแท้ๆ...พอสักทีเถอะ...ได้โปรด...ให้ฉันได้พักเถอะ
“อย่าเพิ่งตายนะ!!”
เสียงทุ้มที่นานๆครั้งจะได้ยินแต่ไม่ใช่คนรู้จักเสียทีเดียว ทำไมถึงได้ยินใกล้หูขนาดนี้
แต่รู้สึกว่าหายใจง่ายขึ้นแล้ว...
“อย่าเพิ่งตายนะ
ฉันเรียกรถพยาบาลมาแล้ว! แข็งใจไว้ก่อนนะ!”
อะไรนะ...รถพยาบาล..เรียกมาทำไม...ในเมื่อฉันจะตายอยู่แล้วแท้ๆ
เสียเวลาน่า...
เด็กหนุ่มจู่ๆก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาจนตาปิดไปร่างกายไร้เรี่ยวแรงแต่ยังหายใจอยู่...ตอนนี้เขาหมดสติไปแล้ว
เหลือเพียงเจ้าของเสียงอีกคนที่ท่าทางหวั่นใจว่าเด็กหนุ่มจะตายรึเปล่า
“เฮ้ย!!”
ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเกิดเรื่องแขวนคอ
ห้องข้างๆของเด็กหนุ่มอมทุกข์นั้นมีเด็กหนุ่มอีกคนที่อายุพอๆกันกำลังเล่นเกมส์อย่างเมามันส์อยู่ในห้องของเขา
แต่เนื่องจากเขาเล่นเกมผีไล่ล่า และกำลังระทึกขวัญสุดขีด
เขาได้ยินเสียงเหมือนอะไรบางอย่างหล่นลงพื้นอย่างแรง
เหมือนโดนผลักด้วยความตั้งใจจนสะดุ้งและรีบโยนหูฟังทิ้ง
“บ้าเอ้ย..ไม่เห็นรู้เลยว่าเกมส์นี้มีอะไรแบบนี้ด้วย
น่ากลัวชะมัด ไม่เล่นแล้ว”
บ่นจบเขาก็เกิดหิวขึ้นมาอย่างกะทันหันจนต้องเอามือกุมท้อง
สีหน้าปลงสุดชีวิต
เขาหันมองไปยังหองซองบะหมี่สำเร็จรูปที่ฉีกทิ้งไว้ไม่เหลือเลยแม้แต่ซองเดียว
เขาคงต้องออกไปหาอะไรเข้าท้องข้างนอก ไม่งั้นได้หิวตายแน่ๆ
ว่าแล้วก็ค่อยเตรียมตัวออกไปข้างนอก
จังหวะที่เขาปิดประตูห้องของเขา
เขาได้ยินเสียงแปลกๆจากข้างๆห้อง เหมือนคนขาดอากาศหายใจจนดังออกมาข้างนอก
เฮ้ๆ
อะไรน่ะ...ถ้าจำไม่ผิดคนข้างห้องนั่นมันเด็กวิทย์ฯหน้าตาอมทุกข์ไม่ใช่รึไง..
เขาถือวิสาสะเอาหูแนบประตูห้องของอีกฝ่ายจนเสียงที่ว่าดังชัดขึ้นอีกจนรู้สึกแปลกๆ
อดทนไม่ได้ใช้เท้าถีบประตูอย่างสุดแรงเกิด คิดว่าจะพังเข้าไปง่ายๆเหมือนในละคร
แต่ที่ไหนได้ ไม่ง่ายเลยซักนิด!
เขาใช้เวลาอยู่ซักนิดจนถีบประตูเจ้ากรรมออกไปได้
เขารีบวิ่งเข้าไปในห้องเห็นเด็กหนุ่มที่เปาเจ้าของห้องกำลังแขวนคอตัวเองจึงรีบไปเอาเจ้านั่นลงมาก่อนที่จะขาดอากาศ
เขาช่วยเจ้าของห้องได้สำเร็จแต่ก็เกือบตายไปแล้ว
ที่คอของเจ้าของห้องแดงเป็นรอยเชือกหายใจหอบถี่เหมือนกับต้องการอากาศมากๆ
เนื้อตัวสั่นเปียกปอนเพราะตากฝน เหมือนลูกหมากำลังจะขาดใจตายไม่มีผิด..
เขารีบกดมือถือเรียกรถพยาบาลพลางประคองเจ้าของห้องไว้พร้อมพูดเรียกเผื่อว่าเจ้าคนคิดสั้นจะยังมีสติอยู่
แต่คำพูดเหมือนคำขออ้อนวอนอย่างไรก็ไม่รู้สิ
“ อย่าเพิ่งตายนะ!”
ความคิดเห็น