คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Ep.1 Met for the worst. 80%
การที่เราพบกันมันอาจจะเป็นพรหมลิขิต...ที่ขีดให้เราได้รู้จักและรักกัน แต่สำหรับฉัน...ความรักของฉันไม่ใช่คุณ เพราะฉันเกลียดคุณ!!!
“คิวต่อไป น้องดอลลี่นะค่ะ” เสียงใหญ่ที่ฟังดูก็รู้ว่าคนพูดนั้นตัวเป็นชายแต่ใจเป็นหญิง ตะโกนเรียกหญิงสาวที่นั่งเล่นสมาร์ทโฟนอยู่ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาแววตาที่ยากที่จะอ่านออกบ่งบอกแค่ความเย็นชาและนิ่งเฉย
“ค่ะ” เสียงหวานที่หลุดออกจากริมฝีปากบาง น้ำเสียงของเธอช่างไพเราะแต่เธอเป็นคนพูดน้อย ไม่ค่อยสุงสิงกับใครนั้นทำให้เพื่อนๆนางแบบของเธอกล่าวหาว่าเป็นคนที่หยิ่ง ซึ่งเรื่องจะจริงหรือเท็จนั้นไม่เคยมีใครได้รู้ ร่างบางลุกขึ้นและเดินอย่างสาวมั่นไปยังเวที วันนี้คือการซ้อมใหญ่ของงานแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรที่จะมีการประมูลและแน่นอนสาวสวยอย่างเธอคือคนที่ได้แสดงโชว์ชุดฟินนาเล่
“หึ!นึกว่าสวยอย่างกับนางฟ้ารึไง ทำหยิ่งไปเถอะ...ระวังตอนตกจะเจ็บหนัก” เสียงเพื่อนนางแบบคนหนึ่งดังขึ้น ดาวิกาปลายตามองด้วยสายตาที่ว่างป่าว
“เพราะเธอเคยเป็นมาแล้วใช่ไหมถึงรู้ว่ามันเจ็บหนัก” รอยยิ้มที่เย้ยหยันถูกส่งไปพร้อมวลีเด็ดจากริมฝีปากสวยของดาวิกา ผู้หญิงอย่างดาวิกาไม่เคยอ่อนให้ใครอยู่แล้ว! ร่างบางเดินขึ้นบนเวทีและซ้อมเดินจนเสร็จอย่างไม่สนใจเสียงกรี๊ดจากเพื่อนนางแบบอีกคนเหมือนเพื่อนนางแบบคนนั้นเป็นเพียงแค่เศษฝุ่น
ครืดดดดดดด ครืดดดดดดดดด
ดาวิกาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะถอนหายใจเมื่อรู้ว่าใครโทรมา “ว่าไง” คำถามสั้นๆถูกถามขึ้นเมื่อเธอรับสายแล้ว สายตาเธอมองไปรอบๆอย่างเบื่อหน่ายชีวิต
(พี่ดอลลี่!! พี่รู้ไหมห๊ะว่ายัยดรีมไปสมัครงานที่ผับนะ ช่วยห้ามหน่อยได้ไหม เดยังอยู่ที่เชียงใหม่และยังไม่รู้ว่าจะได้กลับเมื่อไหร่)
“เฮ้อ!เดซี่ เธอคิดว่าคนอย่างยัยดรีมห้ามง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? พี่จะบอกให้นะ...ในขณะที่เราทำงานหาเงินกันขนาดนี้ ไม่มีทางที่ยัยตัวแสบจะอยู่เฉยหรอก”
(แล้วพี่จะส่งน้องสาวเราให้เป็นเหยื่อพวกเสือพวกจระเข้รึไง เดไม่ยอมหรอกนะ)
ร่างบางได้แต่ทำหน้านิ่ง เพราะเธอก็ไม่ได้ห่วงน้องสาวคนเล็กไปน้อยกว่าน้องสาวคนกลางเธอเลย แต่ทำไงได้ในเมื่อเธอก็ไม่มีเวลาที่จะคุยกับน้องสาวเลย เพราะต่างคนต่างหาเงินใช้หนี้ที่บุพการีเธอได้สร้างไว้ก่อนจากไป
“โอเค แล้วพี่จะคุยกับดรีมมี่ให้” เธอบอกแค่นั้นก่อนจะวางสายไป เธอเดินเตะฝุ่นไปเรื่อยๆเพราะยังไม่รู้ว่าถ้ากลับบ้านไปแล้วเธอจะกล่อมน้องเล็กได้ไง อาจเป็นเพราะว่าเธอไม่ค่อยได้คุยกับน้องเล็กของบ้านมากนัก เธอนั้นเป็นพี่สาวคนโตที่มีหน้าที่ดูแลน้องๆจนลืมไปว่าน้องๆนั้นอาจต้องการความอบอุ่นที่ไม่ได้รับมาหลายปี ระหว่างเธอกำลังคิดอะไรเพลินๆนั้นเธอก็เห็นบุรุษคนหนึ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ
“มีธุระอะไร!” เธอถามผู้มาเยือนด้วยสายตาที่เจ็บปวด บุรุษคนนั้นค่อยๆหันมาแล้วยิ้มให้เธออย่างเยาะเย้ย เขาไม่คิดว่าจะได้มาเห็นคนรักเก่าในสภาพแบบนี้
“สบายดีไหมล่ะ ดอลลี่” เขาพูดขึ้นก่อนจะเข้ากอดเธอ เขากลับมาที่นี้เพราะว่าเขาต้องการสะสางสิ่งที่หลอกหลอนใจเขามาเป็นเวลา 3 ปี อยากจะทำให้มันจบๆไป
“ฉันถามว่าคุณมาที่นี้ทำไม คุณฟรานเชสโก” ดาวิกาถามหลักจากผลักชายหนุ่มออกจากตัว ผู้ชายที่เธอเกลียดยิ่งนัก เกลียดมากจนไม่รู้ว่าจะเกลียดใครเท่านี้ได้อีกรึป่าว
“เธอรู้ไหม...ตลอด 3 ปี ภาพเธอมันหลอกหลอนฉัน ฉันถึงต้องมาลบภาพเธอไป ไปจากใจฉันให้มันหมด เพราะฉันจะได้เกลียดเธออย่างที่ใจต้องการไงล่ะ” ชายหนุ่มพูดขึ้นอย่างเลือดเย็น หญิงสาวมองชายหนุ่มอย่างเกลียดชังและพูดออกไปว่า “ไปตายซะ ฟรานเชสโก!!!” เธอพูดแค่นั้นและเดินเข้าบ้านอย่างโมโห ชายหนุ่มมองตามและรอยยิ้มที่แสนเลวร้ายออกมา
“เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก ดาวิกา”
หลังจากที่เธอเดินเข้าบ้านมาแล้วก็เจอนางฟ้าตัวน้อยนั่งทำการบ้านอยู่ เธอเดินเข้ามาและยิ้มอย่างอ่อนโยนให้หนูน้อยพร้อมนั่งลงข้างๆ
“วันนี้เป็นไงบ้างค่ะนางฟ้าตัวน้อย” เธอถามหนูน้อยและลูบหัวเด็กหญิงตัวน้อยอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเงยหน้ามองสาวน้อยที่เดินเข้ามาหา
“ก็ดีค่ะ แต่วันนี้เพื่อนๆไม่คุยหนูเลยค่ะ” หนูน้อยพูดก่อนจะกอดเธอแน่น
“ทำไมล่ะค่ะ บอกหม่ามี๊ได้ไหม?” เธอถามลูกน้อยเธออย่างอ่อนโยน และกอดหนูน้อยอย่างปลอบประโลม แต่ก่อนที่หนูน้อยจะได้ตอบคำถามผู้เป็นแม่ ก็มีเสียงใสขัดขึ้นมาก่อน
“ก็เพราะหนูน้อยลิลลี่ถูกหาว่าโกหก เพื่อนๆไม่เชื่อว่ายัยหนูมีแม่เป็นนางแบบชื่อดังไงล่ะ” ดารกาพูดขึ้น เธอมีศักดิ์เป็นน้าสาวคอยไปรับไปส่ง ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าหนูน้อยมีเรื่องอะไร หนูน้อยได้รับความฉลาดมาจากบิดาและความอดทนมาจากมารดาพ่วงด้วยความปากแข็งไม่ยอมพูดอะไรด้วย เพราะทั้งเธอและดากานดาต่างถามแล้วว่าบิดาของหนูน้อยนี่คือใคร ผู้เป็นพี่สาวก็ไม่บอก
“ขอบใจมากนะดรีมที่ดูแลลูกให้พี่...อ้อ!ยัยเดฝากมาบอกให้เธอเลิกทำงานที่ผับได้แล้ว” ดาวิกาพูดก่อนจะอุ้มหนูน้อยเข้าไปในครัว เธออยากพาหนูน้อยไปให้ห่างไกลจากผู้เป็นบิดา ไกลเท่าที่จะไกลได้
“หม่ามี๊ขา ลิลลี่อยากไปที่ที่มีหมาหิมะ ><” เธอหันไปหาลูกสาวตัวน้อย อย่างข้องใจ
“หนูรู้จักหมาหิมะด้วยหรือค่ะ ใครบอกมาเอ่ย?” เธอถามหนูน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คิดว่าคงเป็นครูในนอซเซอร์รี่บอกมา แต่แล้วคำตอบของหนูน้อยเหมือนกระชากใจเธอไปทั้งดวง
“ป๊าฟรานบอกหนูมาค่ะ ป๊าบอกว่าจะพาหนูไปอยู่ด้วยที่มีหมาหิมะขนนุ่มๆ”
“พี่แน่ใจแล้วใช่ไหม? ถ้ามีอะไรก็โทรมาได้นะ ไม่ต้องห่วงดรีม เดี๋ยวพี่เดก็กลับมาแล้ว” ดารกายืนส่งพี่สาวที่กำลังเข้าไปในเก็ท และกำลังจะจากประเทศไทยไป
“พี่ไปก่อนนะ..” ดาวิกาจูงมือหนูน้อยลิลี่เข้าไปในเก็ท เธอตัดสินใจแล้วว่าต้องรีบพาหนูน้อยไปรัสเซียก่อนที่จะถูกบิดาของหนูน้อยพาตัวไป เธอไม่มีทางปล่อยหนูน้อยไปแน่ ในเมื่อเลือกที่จะเดินจากมาเธอไม่มีวันถอยหลังแน่ หนูน้อยลิลลี่เปรียบเหมือนหัวใจทั้งดวงของเธอ เมื่อเธอเดินทางมาถึงไซบีเรีย หนูน้อยก็รบเร้าผู้เป็นแม่เพื่อจะไปดูสุนัขหิมะหรือไซบีเรียนฮัสกี้ ความจริงที่เมืองไทยก็มี แต่เธอคำนึงเสมอว่าที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด เธอมองภาพหนูน้อยที่เจอกับสุนัขแล้วรอยยิ้มก็เกิด หนูน้อยวิ่งเล่นไปทั่วเล่นหยอกล้อกับสุนัขและหิมะเหมือนเจ้าหญิงที่แสนน่ารัก
“อย่าวิ่งเร็วนะค่ะ เดี๋ยวล้มเอา” เธอตะโกนบอกหนูน้อย แล้วเสียงใสก็ตอบกลับมาแบบรับคำแล้วผ่านไป แต่คนเป็นมารดาไม่ได้ถือโทษโกรธอะไร ภาพนี้มันทำให้เธอหวนคิดถึงเมื่อ 3 ปีก่อน
3 ปีก่อน...
เธอวิ่งเล่นกับฟรานเชสโกท่ามกลางหิมะด้วยรอยยิ้มอันเป็นสุข แล้วก็มีสุนัขไซบีเรียนอัสกี้วิ่งมา 2 ตัวและได้รับบาดเจ็บ เธอรีบวิ่งเข้าไปดู
“ฟรานค่ะ มันบาดเจ็บด้วยค่ะ พามันไปโรงบาลเถอะนะค่ะ” เธออ้อนชายหนุ่มกอดแขนอย่างออดอ้อน เธอสงสารสุนัข 2 ตัวนี้มาก
“ได้สิ มีอะไรที่เธอขอแล้วฉันไม่ให้บ้างล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มอย่างชายคนหนึ่งที่ยิ้มให้หญิงที่เขารักหมดใจ เขาพาเธอมาที่โรงบาล ดูแลสุนัข 2 ตัวนี้เป็นอย่างดี
“ฉันชักอิจฉาเจ้า 2 ตัวนี้แล้วนะดอลลี่ เธอสนใจเจ้าแบล็กเจ้าไวท์มากเกินไปแล้วนะ” ชายหนุ่มพูดกับสาวเจ้าอย่างอ่อนโยนปนน้อยใจนิดๆเหมือนเด็กเรียกร้องความสนใจ
“ก็คุณน่ะดูแลตัวเองได้นี่ค่ะ แต่เจ้า 2 ตัวนี่ดูแลตัวเองไม่ได้นี่” หญิงสาวพูดพร้อมทำแก้มป่องอย่างงอนชายหนุ่มกลับ ก็เธอรักเจ้า 2 ตัวนี้นี่หน่า
“โอ๋ๆ ก็ฉันแค่น้อยใจนี่ ยังไงฉันก็รักเธอนะ” ชายหนุ่มบอก พร้อมมอบจุมพิตอันหวานชื่นเป็นการแสดงความรักต่อหญิงสาวที่เขารัก
แต่ตอนนี้....ไม่มีอีกแล้ว
"กรี๊ดดดดดดดด! ช่วยด้วยค่ะ เด็กโดนหมาป่าลากไป" ดาวิกาหันไปทันทีที่ได้ยินเสียงร้อง มองหาคนตัวเล็ก
"เมื่อกี้มีเด็กตัวเล็กๆที่มากับคุณ ฉันเห็นโดนหมาป่าลากไปล้วค่ะ" เสียงผู้หญิงคนนั้นบอกก่อนที่เธอจะกรีดร้อง
"ไม่จริงงงงง!!! ลิลลี่!!"
ดาวิกากระพริบตาไล่แสงที่ดูสว่างเกินไป พอสายตาเริ่มชินกับแสง...เธอมองไปรอบๆเพดาน ผนัง ประตู และเตียงนอน มันช่างคุ้นเคย ความรู้สึกทั้งหมดเหมือนมันตีตื้นและรวมมาอยู่ตรงขอบตาที่ตอนนี้ร้อนผ่าวและมีน้ำใสๆคลอและค่อยๆไหลมา ใช่แล้ว...ที่นี้คือบ้านพักของฟรานเชสโก ผู้ชายที่เธอเกลียดยิ่งนัก เขาพรากทุกอย่างไปจากเธอ ผู้ชายที่ทรยศฉันทุกเรื่อง!
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงเข้มที่ดังขึ้นอย่างไม่ต้องการคำตอบ เธอเบี่ยงหน้าหนี เธอไม่ต้องการจะเห็นหน้าของผู้ชายคนนี้ ในเมื่อเธอไม่มีทางเลือก เธอจึงนอนหลับตานิ่งๆ
“ลิลลี่อยู่ข้างนอก” เสียงเข้มดังอีกครั้ง เรียกสายตาจากร่างบางได้ไม่ยาก ดาวิกาผวารีบลงจากเตียงเพื่อที่จะไปหาลูกน้อยแต่ซาตานตัวร้ายขวางทางไว้
“ก่อนที่เธอจะเจอลิลลี่ ฉันอยากรู้ ลิลลี่เป็นลูกของใคร” คำถามที่ทำให้ร่างบางสะดุ้ง แล้วค่อยๆหันมามองชายหนุ่มอย่างเต็มตา
“จะพูดยังไงดีล่ะ...ลูแปงไง จำเขาได้ไหม น้องชายตจ่างแม่คุณไง” ดาวิกาพูดพรางยิ้มเยาะอย่างสะใจ สิ่งที่ชายหนุ่มรู้แล้ะเจ็บปวด ยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเธอด้วยซ้ำ
“หมายความว่าไง??” ชายหนุ่มขึ้นเสียง ในอกตอนนี้ร้อนรุ้มไปหมด ยิ่งคิดไปถึงว่าตนไม่ใช่คนเดียวที่ได้กอดกกร่างบางไว้กับอกแต่มีน้องชายที่เขาเกลียดนักเกลียดหนาใช้เมียร่วมกับเขา!!!!!!!!!!
“หึ...ตลอดเวลาที่อยู่กับคุณ ฉันก็มีลูแปงด้วย มันไม่ยุติธรรมหรอกนะ ที่จะให้ฉันมาจมปรักกับนักรักอย่างคุณ ฉันก็ต้องการหลักประกันของชีวิต”
เพี๊ยะ!!!
“แพศยา!!!!!” ฝ่ามือใหญ่กระทบกับหน้าหวานอย่างจังและเต็มแรง แถมคำผรุสวาทที่เจ็บปวดให้หญิงสาวอีกหนึ่งคำ เขาไม่รู้ว่าเขาเคยรักผู้หญิงอย่างดาวิกาได้อย่างไร
“คืนลูกสาวให้ฉันซะ แล้วก็อย่ามายุ่งกับฉันและลูกอีก ถ้ายังไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นชู้กับน้องสะใภ้”
“มันก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนสิ จริงไหม? ดาวิกา” ชายหนุ่มพูดพร้อมกระชากหญิงสาวเข้ามาชิดแผลงอกแกร่ง ฉกริมฝีปากกระแทกเข้ากับริมฝีปากบางอย่างรุนแรง มือของเขากระชากชุดตัวสวยของเธออย่างไม่มีความปราณี ผลักอย่างบางให้นอนไปบนเตียง และโถมตัวลงไป...
ร่างหนุ่มคนหนึ่งเดินตามซอกของบ้านเหมือนหาอะไรสักอย่าง จนชนเข้ากับร่างบางอย่างจัง ชายหนุ่มไม่แม้แต่จะมองเธอแต่กลับตวาดเธอ ทั้งที่เขานั้นเป็นคนผิด
“เดินภาษาอะไรของเธอห๊ะ! เห็นไหมว่าฉันรีบแค่ไหน”
“ขอโทษค่ะคุณชาย” ประโยคนะขอโทษแต่เสียงของเธอนั้นช่างประชดประชัน และกระแทก มันทำให้ นิวเยียร์ เด็กสาวไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทั้งที่เธอไม่ใช่คนผิด แต่คุณชายก็ตวาดเธอยังกลับเธอไปฆ่าเมียเขานั้นแหละ
“แล้วเธอเป็นใครกันห๊ะ!” ลูแปง ถามขึ้น มองหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ปกติบ้านของเขาไม่รับเมดที่เป็นสาวเอเชีย เพราะเธอดูบอบบางเกินที่จะทำงาน อย่างพวกเธอน่าจะเป็นตุ๊กตาประดับเตียงเท่านั้นแหละ
“ดิฉันเป็นคนที่นายท่านส่งให้มาดูและคุณชายคนเล็กให้เป็นผู้เป็นคน!มากขึ้นค่ะ” รอยยิ้มถูกประดับอยู่บนใบหน้าอ่อนเยาว์ของเธอ มันจะดูหน้าหลงใหลมากถ้าเธอไม่ได้กวนประสาทเขาขนาดนี้ ลูแปงได้แต่คิดอยู่ในใจ
“ฉันโตแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้เธอมาดูแล และที่สำคัญ...ฉันเกลียดผู้หญิงเอเชีย” เขาพูดขึ้นพร้อมเดินหนีออกมาอย่างหัวเสีย ทำไมป๊าชอบส่งผู้ควบคุมมาให้เขานะ เขาโตพอที่จะตัดสินใจแล้วนะแต่ก็ป๊าก็มักจะบอกว่าเขายังไม่โตพ แตกต่างกับพี่ชายต่างมารดาที่มักจะได้ความไว้วางใจเสมอ คิดแล้วมันก็พาลให้อารมณ์เสีย
“คุณชายเล็กครับ คุณชายใหญ่ขอพบครับ” มือขวาที่เขาไว้ใจเข้ามารายงาน ชายหนุ่มพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต และไม่นานร่างสูงของฟรานเชสโกเขามาพร้อมกับหญิงสาวบอบบางและหนูน้อยที่น่ารัก
“เอาลูกเมียแกคืนไป ต่อไปนี้ฉันกับแกขาดกัน!!!!!” ฟรานเชสโกพูดแค่นั้นทิ้งให้หญิงสาวและเด็กตัวน้อยที่ยืนร้องไห้โยเยในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่
“เกิดอะไรขึ้น ดอลลี่” ลูแปงถาม มองหญิงสาวสลับกับเด็กน้อยไปน้อยไปมาอย่างงงงัน ก่อนะจะอุ้มเด็กสาวตรงหน้ามากอดปลอบอย่างทะนุถนอน
“ลูแปง ช่วยฉันด้วยค่ะ” หญิงสาวพูดแค่นั้น ก่อนจะร้องไห้โฮออกมาเป็นเหตุให้ชายหนุ่มอย่างลูแปงต้องวุ่นวายกับผู้หญิง 2 วัย กว่า 2 แม่ลูกจะเงียบนั้น ทำเอาเขาแทบบ้า นี่มันอะไรกัน
“ทีนี้จะเล่าได้ยังว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วหนูน้อยคนนี้คือใคร” เขาถาม ลึกๆใจของเขาก็เอ็นดูหนูน้อยตรงหน้าไม่น้อย ความรู้สึกผูกพันอย่างไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง
“แกชื่อลิลลี่ค่ะ แล้วแกก็...” ยังไม่ทันที่ดาวิกาจะพูดจบ ก็มีลูกน้องของเขาวิ่งเข้ามาอย่างตื่นตะหนก ทำให้ชายหนุ่มส่งสายตาดุดันไปหาลูกน้อง เพราะสาวน้อยในอ้อมแขนเขากำลังหลับอย่างสบาย
“คุณชายใหญ่ประสบอุบัติเหตุครับ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล” สิ้นเสียงรายงานของลูกน้องทำให้คนเป็นน้องอย่างเขา และอดีตคนรักอย่างดาวิกาถึงกับอึ้ง ห่างกันไม่กี่ชั่วโมง...ก็เกินเรื่องร้ายกับฟรานเชสโกซะแล้ว
ร่างบางวิ่งมาถึงหน้าห้องฉุกเฉินก่อนใคร ตามมาด้วยลูแปงและลูกน้อยของเธอ ที่ดูเหมือนว่าจะติดลูแปงแจเลย หญิงสาวได้แต่เดินไปเดินมาอย่างรอเวลา น้ำตาไหลหลั่งมาอย่างกลั้นไม่อยู่ คนรอบข้างได้แต่มองหญิงสาวด้วยความเวทนา ทุกคนในที่นี้รู้ว่าหญิงสาวคือคนรักของคุณชายใหญ่ของบ้าน แต่เหตุที่ทำให้ทั้งสองเลิกกันนั้นไม่มีใครได้รู้
“ดอลลี่ ผมว่าคุณมานั่งก่อนไหม” ลูแปงเรียกหญิงสาว แต่หญิงสาวได้แต่ส่ายหัวไปมา เธอเกลียดเขาก็จริง แต่จะให้เขาจากไปต่อหน้าต่อตาอย่างนี้ก็เป็นเรื่องยากพอสมควร เพราะฉะนั้นเธออยู่เฉยไม่ได้หรอก
“คุณหมอเดินออกมาแล้วครับ” การ์ดคนหนึ่งบอกอย่างเร่งรีบ ร่างบางตรงเข้าไปหาหมออย่างรีบร้อน
“คุณหมอค่ะ คุณฟรานเชสโกเป็นไงบ้างค่ะ” หญิงสาวถามเป็นภาษารัสเซีย เธอนั้นอยู่ที่รัสเซียนาน นานพอที่จะใช้ภาษารัสเซียเก่งพอที่จะใช้ภาษาไทยเลย จึงไม่แปลกที่เธอจะพูดได้
“คุณเป็นอะไรกับคนไข้ครับ เพราะทางเราบอกอาการของคุณฟรานเชสโกให้กับทางญาติได้อย่างเดียวครับ” คำถามนี้เล่นเอาหญิงสาวจุก เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรกับฟรานเชสโกกันแน่
“ผมเป็นน้องชายเขาครับ” ลูแปงเอ่ยขึ้น เพราะตนก็อยากรู้ถึงอาการพี่ชายเหมือนกัน ถึงเขากับพี่ชายจะไม่ค่อยถูกกัน แต่สายสัมพันธ์ ตัดยังไงก็ไม่ขาด
“งั้นเชิญที่ห้องครับ” คุณหมอเดินนำหน้าไป ลูแปงจึงดึงแขนของหญิงสาวให้เดินตามมาอย่างติดๆ พอเข้ามาในห้อง ภาพที่เห็นคือ ชายหนุ่มนอนนิ่งไม่ไหวติ่ง คุณหมอหันมา ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ทางเราเสียใจด้วยนะครับ คุณฟรานเชสโกอาจจะไม่สามารถเดินได้ตลอดชีวิต ทางเราพยายยามสุดความสามารถแล้วครับ” คุณหมอพูดแค่นั้นและเดินออกไป ทิ้งให้ลูแปงและดาวิกายืนนิ่งงัน
“ดอลลี่ เราจะทำไงดี ฟรานเชสโกพิการไปแล้ว”
ติดตามข่าวสารของนักเขียนได้ที่ https://www.facebook.com/WriterSmall?ref=hl
ความคิดเห็น