คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter2
Chapter2
สองวันผ่านไป...
หมออนุญาตให้เลโอออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
ตอนนี้จุนไคจึงพาเลโอมาที่บ้านของเขา เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น ไม่มีแม่บ้าน
แต่จะมีคนมาทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้ง อันที่จริงนี่เป็นบ้านเก่าของญาติฝ่ายแม่
ที่เมื่อก่อนเคยอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ถึงได้หลังใหญ่ขนาดนี้เมื่อเทียบกับจุนไคที่อยู่คนเดียว
“นายนอนห้องนี้นะ” จุนไคพาเลโอมาที่ห้อง ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงจะให้นอนห้องของเขา แต่ตอนนี้
เขาคิดว่าให้อีกฝ่ายอยู่ห่างๆเขาไว้ดีกว่า
“ขอบคุณครับ” เลโอเอ่ยขอบคุณก่อนจะเดินเข้ามา สายตาสอดส่องไปทั่วห้อง
นี่ห้องเขาเหรอ...เขาเคยอยู่ที่นี่เหรอ?
ทำไมไม่คุ้นเลย...
“ฉันคิดว่าเราต้องมาทำข้อตกลงกันซักหน่อยนะ
ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณ ฉันไม่ใช่เจ้าชีวิตนาย แล้วก็ไม่ต้องพูดครับแล้ว”
“ทำไมล่ะครับ”
“ฉันไม่ชอบ
มันเหมือนเราไม่รู้จักกัน”
“ก็เราไม่รู้จักกันจริงๆนี่...”
บ่นอุบอิบ แต่จุนไตก็ยังได้ยิน
“นายว่าไงนะ”
“เปล่าครับ”
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องพูดครับ
เข้าใจมั้ยเนี่ย”
“เข้าใจ...ครับ”
จุนไคกลอกตา นี่เขากำลังพูดภาษาคนอยู่นะ
“ต่อไปให้เรียกฉันเหมือนเพื่อนน่ะ
ไม่ต้องสุภาพนักหรอก”
เลโอพยักหน้าเข้าใจ หลังจากนั้นจุนไคจึงบอกให้เขาอาบน้ำ
จัดห้อง เผื่อความทรงจำจะกลับมาบ้าง
“เสร็จแล้วลงไปกินข้าวข้างล่างนะ”
กำชับก่อนที่จะเดินลงไป ทิ้งให้คนตัวเล็กอยู่ในห้องคนเดียว
เลโอเดินไปรอบๆห้อง ก่อนที่สายตาจะสะดุดกับรูปที่อยู่บนหัวเตียง
เป็นรูปของเขากับหวังจุนไค มือบางหยิบมันขึ้นมา ก่อนจะเพ่งมองรูปใบนั้น
ในรูป
ทั้งสองคนดูจะมีความสุขมาก จุนไคยิ้มกว้าง เผยให้เห็นเขี้ยวเล็กๆของเขา
เลโอไม่รู้เลยว่าจุนไคมีเขี้ยวด้วย ก็หมอนั่นไม่เคยยิ้มเลยนี่นา
สายตาเลื่อนไปยังคนข้างๆที่กอดคอจุนไคอยู่ นั่นตัวเขาเหรอ?
ทำไมถึงรู้สึกไม่คุ้นเลย หรือว่าเขาจะหลงลืมตัวตนของตัวเองไปแล้วจริงๆ
เลโอส่ายหัว
เขารู้สึกปวดหัวทุกครั้งที่พยายามนึก ร่างเล็กเลิกสนใจรูปถ่ายก่อนจะไปอาบน้ำ
หลังจากอาบน้ำเสร็จ
ก็รีบลงไปที่โต๊ะอาหารทันที ซึ่งจุนไคกับหานโจวนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารก่อนแล้ว
“หานโจว” เรียกชื่อพร้อมกับยิ้มกว้าง ท่าทางน่ารักอย่างกับเด็กน้อยนั่น
ทำให้หานโจวอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้
ผิดกับอีกคน
ที่นั่งกอดอกทำหน้าบึ้งอย่างกับว่ากล้ามเนื้อบนใบหน้าตายไปแล้ว
“นี่นายจำชื่อฉันได้แล้วเหรอ”
“จำได้สิ นายเป็นเพื่อนฉันกับจุนไค
ใช่มั้ย?”
“ฮ่ะๆ ฉันดีใจนะที่นายจำฉันได้
มานั่งนี่สิ” หานโจวเรียกให้เลโอมานั่งข้างๆ
“ตรงนั้นที่ไอ้เสี่ยวหยาง เลโอ
ที่นั่งของนายอยู่ตรงนี้” จุนไคขัดขึ้นก่อนที่เลโอจะเดินไปนั่ง
หานโจวยิ้มมุมปาก ก็ ‘ตรงนี้’ ของหมอนั่นคือที่นั่งข้างๆตัวเองน่ะสิ
“โทษทีว่ะ พอดีรถติดเลยมาช้า ที่ร้านคนโคตรแน่น
กูขนมาได้แค่นี้แหละ” จู่ๆเสี่ยวหยางก็พรวดพราดเข้ามาพร้อมกับลังบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
มาถึงก็วางลังลงบนโต๊ะ ก่อนจะนั่งลง…
ข้างๆจุนไค
“แค่นี้กูก็ว่าเยอะแล้วนะ
มึงกินให้หมดเถอะ” หมิงเทาเดินบ่นตามหลังมาด้วยท่าทีเหนื่อยๆ
เขาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ข้างจุนไคอีกฝั่งนึง
หานโจวกลั้นขำไว้แทบไม่อยู่
เพราะหน้าของจุนไคตอนนี้ตลกสุดๆ ขบกรามแน่นจนขึ้นเป็นสันนูน
เรียกได้ว่าเก็บอาการไม่อยู่เลยทีเดียว
ทำหน้าอย่างกับว่ามีคนลอบฆ่าพ่อของเขาอย่างนั้นแหละ
“อืม...งั้นก็เหลือที่เดียวแล้วสิ
เลโอ มานั่งข้างๆฉันเถอะ” ว่าพลางเลื่อนเก้าอี้ให้
สุดท้ายเลโอก็ไปนั่งข้างๆหานโจวจนได้
ตอนนี้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารตึงเครียดราวกับอยู่ในสนามรบ
จุนไคจ้องหน้าหานโจวเขม็ง อีกฝ่ายเองก็ไม่หลบตา ก็เขาไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย
เสี่ยวหยางที่รู้ถึงความผิดปกติถึงได้ถามขึ้น
“พวกมึงเป็นไรกันวะ จ้องอย่างกับจะกินกัน
ไปมีซัมติงกันตอนไหนเนี่ย”
“หุบปากไปเถอะมึง กินไป” หันไปพูดเสียงเข้มก่อนที่ตัวเองจะเริ่มรับประทานอาหาร
คนอื่นหลังจากที่หายงงแล้วจึงกินตาม
ระหว่างทานอาหาร
ดูเหมือนจุนไคจะมือกระตุกปาส้อมไปทางหานโจวหลายรอบ ก็ไอเพื่อนตัวดีน่ะสิ
เดี๋ยวตักนั่นตักนี่ให้เลโอ มือก็อยู่ไม่สุข เดี๋ยวโอบไหล่ เดี๋ยวลูบหัว
จนทำให้คนของเขาเกร็งไปหมดแล้ว
หานโจวเองก็เริ่มคิดว่าตอนนี้เขาไม่ได้แกล้งยั่วโมโหจุนไคแล้ว
ก็เลโอคนใหม่น่ารักซะขนาดนี้ มันชักทำให้เขา อยากได้ ขึ้นมาจริงๆ
หลังจากทานอาหารเสร็จ
ทั้งหมดจึงย้ายไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดื่มเหล้ากัน
“อ่ะนี่” เครื่องดื่มสีสวยถูกยื่นมาตรงหน้าเลโอ
“ไม่ล่ะ ฉันไม่ดื่ม”
“จริงเหรอ
เมื่อก่อนนายดื่มเยอะกว่าพวกเราอีกนะ ลองนิดนึงน่า เผื่อความทรงจำอาจจะกลับมาก็ได้”
หานโจวคะยั้นคะยอ แต่เลโอก็ยังส่ายหน้า ถึงเขาจะความจำเสื่อม แต่ก็รู้นะว่าเหล้ามันไม่ดี
ทำให้เสียสุขภาพ แล้วที่บอกว่าเมื่อก่อนเขาชอบดื่ม แต่เขาไม่เห็นรู้สึกว่าจะชอบเลย
หนำซ้ำยังคิดว่าตัวเองดื่มไม่ได้อีกต่างหาก
สุดท้ายหานโจวก็ยอมแพ้ ยื่นน้ำผลไม้ให้แทน
“กูไปเอาน้ำแข็งก่อนนะ” เสี่ยวหยางว่าก่อนจะเดินเข้าไปในครัว เลโอจึงรีบตามไปทันที
“ให้ฉันช่วยนะ”
“ห๊ะ อ๋อ ได้สิ” เสี่ยวหยางดูงุนงงเล็กน้อยแต่ก็ยอมให้เลโอตามมา
ระหว่างอยู่ในครัว เลโอจึงเริ่มพูด
“เสี่ยวหยาง
ฉันขอถามอะไรนายหน่อยสิ”
“หืม? มีอะไร”
“เมื่อก่อน ฉันเป็นคนยังไงเหรอ”
เพราะอยากจะรู้อดีตของตัวเอง ถึงได้ถามขึ้น
เลโอคิดว่าเขาถามเสี่ยวหยางน่าจะดีที่สุด เพราะดูเป็นคนพูดเก่งและเป็นกันเอง
“เมื่อก่อนเหรอ
นายน่ะแตกต่างจากตอนนี้สุดๆ นายไม่ได้หงอแบบนี้หรอกนะ เรื่องเหล้าก็เหมือนกัน
นายกระดกเอาเลยล่ะ แถมยังคอแข็งสุดๆ” เสี่ยวหยางหยุดพักก่อนจะพูดต่อ
มือก็ตักน้ำแข็งไปด้วย
“อ้อ! แถมนายยังป๊อปมากเลยนะ
ผู้ชายในมหาลัยอยากได้นายเป็นแฟนกันทั้งนั้น”
“หา!” เลโออุทานอย่างตกใจ
ภูมิหลังของเขาดูจะแรงไม่ใช่เล่น แล้วที่บอกว่าผู้ชายอยากได้เขาเป็นแฟนน่ะ
เขาเป็นผู้ชายนะ!
“เอ่อ...แล้วฉันกับจุนไค
เป็นอะไรกันเหรอ” นี่แหละที่เขาอยากรู้ที่สุด เขาไม่รู้ว่าความหลังระหว่างเขากับจุนไคเป็นยังไง
เพราะอีกฝ่ายดูไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่
แต่ก็ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาสองวันที่โรงพยาบาล จุนไคดูแลเขาดีมากๆ
ถึงจะไม่เคยยิ้มให้ ไม่เคยปลอบใจ
แต่การกระทำที่แสดงออกมาทำให้รู้ว่าจุนไคเป็นห่วงเขามากแค่ไหน
“นายกับไอ้จุนไค ก็เป็นแฟนกันน่ะสิ
เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิกอยู่นั่นแหละ แต่มันรักนายมากนะ มี่แต่นายนั่นแหละที่...”
เสี่ยวหยางหยุดพูด เขาคิดว่าคัวเองพูดมากเกินไปแล้ว
“ฉันทำไมเหรอ พูดมาเถอะนะ
ถ้าฉันไม่ถามนาย ก็ไม่รู้จะไปถามใครแล้ว”
เลโอเว้าวอน สองมือเล็กเขย่าแขนเสี่ยวหยางเบาๆ
“ก็ได้ๆ ยังไงมันก็เป็นตัวตนของนาย
ซักวันนายก็ต้องรู้อยู่ดี ที่ฉันจะบอกเมื่อกี้น่ะ คือนายไม่ค่อยรักษาน้ำใจมันเลย
เวลาโกรธกันก็ประชดด้วยการไปควงคนอื่น ถึงมันจะไม่พูดก็ไม่ได้แปลว่ามันไม่เจ็บนะ”
“อย่างนั้นเหรอ” เลโอพึมพำกับตัวเอง นี่อดีตของเขามันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ
มิน่าจุนไคถึงได้มีท่าทีแปลกๆกับเขา
“แล้วหานโจวล่ะ” นี่ก็เป็นอีกคนที่ชอบทำให้เขาใจสั่นอยู่เรื่อยเลย
ถ้าเขาเป็นแฟนของจุนไคจริง แล้วทำไมหานโจวถึงได้ทำกับแฟนเพื่อนอย่างนี้ล่ะ
“ไอ้หานโจวเหรอ มันก็แกล้งนายไปงั้นแหละ
มันไม่แคร์โลกอยู่แล้ว นอกจากจะได้ยั่วโมโหไอ้จุนไคให้สะใจเล่นแล้ว
ยังได้ใกล้ชิดนายเป็นของแถมอีก
แต่ก็ไม่แน่นะ...มันอาจจะหลงรักนายขึ้นมาจริงๆก็ได้”
“เฮ้ย! ทำไมช้าจังวะ”
จุนไคตะโกนออกมาถาม ทำให้เสี่ยวหยางกับเลโอรีบเอาถังน้ำแข็งไปทันที
เลโอนั่งลงตรงข้ามจุนไค
สายตามองอีกฝ่ายอย่างรู้สึกผิด นี่ถ้าเขาเป็นคนอย่างที่เสี่ยวหยางบอก
แสดงว่าเขาทำให้จุนไคเจ็บมามากแล้ว ต่อไปนี้เขาจะต้องทำตัวดีๆ
เพื่อลบล้างความผิดที่ทำไว้
มือบางยกแก้วน้ำผลไม้ขึ้นมาดื่ม ก่อนจะ...
“พรวด!!”
“แค่ก แค่ก! “
คนตัวเล็กสำลักจนหน้าดำหน้าแดง
นี่มันเหล้านี่!
“ค่อยๆกินสิ สำลักเลยเห็นมั้ย”
หานโจวว่าพลางลูบหลังให้
“ฉันไม่กินเหล้า!” เลโอตอนนี้สำลักจนน้ำตาคลอ แถมยังแสบคอแสบจมูกไปหมด
ทำไมต้องแกล้งกันด้วย!
ร่างเล็กมองหานโจวตาเขียวปั๊ด
ก็แก้วนี่เขาเป็นคนยื่นให้เอง แล้วยังบอกอีกว่าเป็นน้ำผลไม้
“ทำไมนายถึงแกล้งฉันล่ะ
ฉันนึกว่านายจะใจดีซะอีก” เลโอไม่ชอบเลย
ทั้งที่บอกว่าไม่ดื่มๆ แต่ก็ยังแกล้งเหมือนเขาเป็นตัวตลก
“เลิกโวยวายเถอะน่า
นายเป็นอะไรนักหนาเลโอ ก็แค่เหล้า เมื่อก่อนนายดื่มมากกว่านี้อีก
ทีตอนนี้ทำเป็นไม่เคย มารยา!!!” จุนไคว่าเสียงดัง เหมือนเขาจะระเบิดความหงุดหงิดที่สะสมไว้ออกมา
ทุกคนดูจะตกใจกับการกระทำของเขาไม่คิดว่าจุนไคจะว่าเลโอแรงขนาดนี้
แต่คนที่ตกใจที่สุดก็คงจะเป็นเลโอ
แววตากลมโตนั่นสั่นไหว และตอนนี้ก็เลือนรางเพราะม่านน้ำตา ร่างเล็กค่อยๆก้มหน้าลง
มือบางกำชายเสื้อไว้แน่น กัดฟันจนปวดกรามไปหมด
เขากำลังพยายามกลั้นน้ำตาไว้
ไม่อยากให้ใครมองว่าอ่อนแอ...
ไม่อยากให้ใครมองว่ามารยา...
“ฉันขอตัวก่อน” เลโอลุกพรวดขึ้นก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนห้อง ผ่านหน้าจุนไคไป...
เลโอร้องไห้...
“กูว่ามึงพูดแรงไปนะ” หานโจวเอ่ยเสียงเข้มพลางเดินเข้ามาตบไหล่จุนไคเบาๆ
เลโอทิ้งตัวลงบนตียง
ปล่อยให้น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลออกมา เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
เขาไม่ได้อยากอ่อนแอ แต่ที่ร้องไห้ตอนนี้เพราะน้อยใจ น้อยใจทั้งคนที่แกล้งเขา
และน้อยใจที่จุนไคตวาดใส่
ร่างเล็กสะอื้นจนตัวโยน เขาเหนื่อย เหนื่อยมากๆ
ยิ่งร้องไห้ก็ยิ่งปวดหัว จู่ๆก็รู้สึกเหงา อยากมีใครซักคนที่คอยปลอบเวลาเขาร้องไห้
นี่เขาไม่มีใครเลยเหรอ พ่อแม่ของเขาไปอยู่ที่ไหนกัน
ทำไมถึงปล่อยให้เขาอยู่ตามลำพังแบบนี้...
หวังจุนไคเดินวนอยู่หน้าห้องเลโอมากว่ายี่สิบนาทีแล้ว
เขากำลังคิดว่าจะทำยังไงดี หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าของเลโอตอนนั้น
น้ำตาที่กำลังจะไหลออมา มันทำให้จุนไคปวดใจจริงๆ
ที่เขาพูดออกไปตอนนั้น มันเป็นเพราะอารมณ์ล้วนๆ
อารมณ์หงุดหงิดที่อีกคนไปใกล้ชิด
หานโจวมากกว่า เพราะงั้น หลังจากที่เลโอวิ่งขึ้นห้องไป
เขาถึงได้ซัดหานโจวไปหนึ่งหมัด อย่างน้อยก็ช่วยอะไรได้บ้าง
อีกฝ่ายเองก็ดูจะเข้าใจเพราะไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่ก่อนจะกลับ กลับบอกให้เขามาขอโทษเลโอแทน
เขาถึงได้เดินวนไปมาเป็นหนูติดจั่นอยู่นี่ไง
จะเริ่มพูดยังไงนะ เคยง้อใครซะที่ไหน
แต่แค่ขอโทษก็พอแล้วมั้ง เขาจะกลัวอะไร
นี่บ้านเขานะ ทำไมต้องมาทำตัวลับๆล่อๆแบบนี้ด้วย
เอาวะ!
มือหนาค่อยๆบิดลูกบิดประตู ก่อนจะเปิดเข้าไป
เลโอหลับอยู่บนเตียง คราบน้ำตาบนใบหน้าแสดงให้เห็นว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
เห็นอย่างนี้จุนไคก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจ
เขาค่อยๆยื่นมืออกไปหวังจะสัมผัสใบหน้าของเลโอ
เอ๊ะ? ทำไมตัวร้อนแบบนี้ล่ะ
เมื่อนิ้วมือไล้ไปตามใบหน้าก็พบความผิดปกติของอุณหภูมิผิว
มันร้อนเกินไป...
“อื้อ..”ดูเหมือนเลโอจะรู้สึกตัวแล้ว
ว่ามีคนมากวน ค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะดันตัวขึ้น
“เอ่อ...ขอโทษที่ทำนายตื่น
นายเป็นอะไรรึเปล่า”
“เปล่าหรอก ฉันไม่เป็นไร”เสียงที่เปล่งออกมาแหบแห้งจนน่ากลัว แน่นอนว่าจุนไคเห็นความผิดปกตินั่น
“ฉันว่านายต้องไปหาหมอ มาเถอะ”
มือหนาดึงร่างเล็กขึ้นมา แต่เลโอขัดขึ้น
“ไม่ไป ฉันเหนื่อย” ท่าทางเหนื่อยเหมือนอย่างที่พูดจริงๆ จุนไคจึงต้องรีบตัดสินใจ
“งั้นฉันจะเรียกหมอมาเอง
นายนอนก่อนนะ” จุนไคจัดแจงท่านอนให้อีกฝ่ายสบายที่สุด
ก่อนจะรีบไปโทรศัพท์
......................
“แพ้แอลกอฮอล์ครับ” หมอสรุปหลังจากที่ตรวจดูอาการ เลโอตอนนี้หน้าแดง มีผื่นขึ้นเล็กน้อย
เพราะผลจากแอลกอฮอล์ที่ดื่มไป
“แพ้แอลกอฮอล์ แน่ใจนะครับ”จุนไคถามอย่างประหลาดใจ เลโอจะแพ้เหล้าได้ยังไง
ในเมื่อเมื่อก่อนเจ้าตัวดื่มมันแทบทุกวัน
“ใช่ครับ
ทีหลังอย่าให้เขาดื่มอีกนะครับ ดีที่ไม่ดื่มเข้าไปมาก อาการเลยไม่รุนแรง
เดี๋ยวทานยาตามนี้นะ แล้วดูเหมือนจะมีไข้ด้วย เดี๋ยวเอายาลดไข้ไปกินด้วยนะครับ”
หลังจากที่หมอกลับไป
จุนไคเลยต้องกลายเป็นหมอจำเป็น ที่ต้องคอยดูแลผู้ป่วยแทน
“เดี๋ยวนายกินข้าวนะจะได้กินยา
มียาแก้แพ้กับนาลดไข้ เออนี่ นายกินข้าวได้รึเปล่า ให้ฉันป้อนมั้ย”จุนไคถามอย่างเป็นห่วง เพราะสภาพคนป่วยตอนนี้ดูแย่มากๆ
“ไม่เป็นไร สบายมาก” ยิ้มยืนยันว่าสบายจริงๆ สองมือรับชามข้าวต้มจากจุนไค ก่อนจะเริ่มทาน
ถึงจะเพลียแค่ไหน
แต่เขาก็ไม่อยากให้จุนไคป้อนหรอก เดี๋ยวก็ถูกหาว่ามารยาอีก
พอคิดถึงตรงนี้ น้ำตาก็พาลจะไหลอีกรอบ
คนตัวเล็กฝืนกินจนหมด แล้วหยิบยามาทานเอง แต่เป็นเพราะมีร่างสูงยืนมองอยู่
เลยเกร็งจนทำอะไรไม่ถูก มือที่กำลังจะวางแก้วน้ำอ่อนแรง ก่อนที่แก้วจะตกลงสู่พื้น
เพล้ง!
เลโอกลัวจนตัวสั่น หวังจุนไคต้องว่าเขาแน่ๆ
น้ำตานี่ก็ไม่เชื่อฟังกันเลย ขืนมาไหลเอาตอนนี้คงถูกพูดจาเหน็บแนมเพิ่มขึ้นอีกแน่
แต่ทั้งร่างกายและจิตใจที่อ่อนแอ
คนตัวเล็กไม่สามารถแสดงว่าเข้มแข็งได้แล้วจริงๆ
ร่างทั้งร่างสั่นไหวพร้อมกับเสียงสะอื้น
จุนไคนั่งลงข้างๆ ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองใจแข็งแล้ว
แต่พอเขาเห็นน้ำตาหมอนี่ทีไรก็ใจอ่อนทุกที
“นายร้องไห้ทำไม” ถามด้วยความเป็นห่วง เขาไม่อยากให้เลโอร้องไห้เลย มันทำให้เขารู้สึกแย่
“ก็นาย ฮึก
ฉันกลัวว่านายจะว่าฉันอีก หาว่าฉันเสแสร้ง แต่ฉันไม่มีแรงจริงๆนะ” ร่างบางก้มหน้าพูด เลโอไม่กล้ามองหน้าจุนไค
ยิ่งรู้ว่าเลโอร้องไห้เพราะตัวเอง
จุนไคก็ก็รู้สึกเจ็บอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่เคยชนะหัวใจตัวเองได้เลย
นี่แสดงว่าเลโอฝืนมาตลอดเลยสินะ เพราะกลัวที่จะถูกเขาว่า
“ฟังนะ
ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรนายเลย อย่าคิดเองเออเองสิ เพราะฉะนั้น เลิกร้องไห้เถอะ”
ร่างสูงเชยคางเลโอขึ้น นิ้วมือเรียวเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
มืออีกช้างก็ลูบหัวเป็นเชิงปลอบ
เขาคิดว่าเลโอคนใหม่ช่างอ่อนแอและบอบบางเหลือเกิน เขาไม่แน่ใจ
ว่าชอบเลโอคนใหม่มากกว่าเมื่อก่อนรึเปล่า เขาชักไม่อยากให้เลโอความจำกลับมาแล้วสิ
**********
TBC.
มาลงแต่เช้าเลยสำหรับตอนที่2 ดีใจมากๆเลยที่มีคนเม้นท์^^
จุนไคดู sm เพราะพูดกู มึง ใช่มั้ยคะ ฮ่าๆๆ
แต่ภายในอาจจะเป็นผู้ชายอบอุ่นก็ได้นะ
ส่วนเรื่องชื่อเลโอ เอ่อ...เดาไปเถอะค่ะ แต่ไม่เดาดีกว่าเพื่อความสนุก ฮ่าๆๆ
สำหรับตอนที่สามคงจะไม่เร็วขนาดนี้
คือเรารู้สึกปัญญาอ่อนมากที่มาอัพช่วงสอบเนี่ย!
เพราะฉะนั้นสองอาทิตย์นี้อาจจะไม่ได้อัพถี่
แต่ปิดเทอมแล้วจะอัพบ่อยขึ้นค่ะ
ไปแล้ว ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ
ความคิดเห็น