คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter4
Chapter4
นี่ก็ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้วที่เลโอออกจากโรงพยาบาล
ตอนนี้เลโอไม่ปวดหัวบ่อยๆเหมือนเมื่อก่อนเท่าไหร่
จุนไคที่ตอนแรกพยายามรื้อฟื้นความทรงจำ จนตอนนี้เขาเลิกพยายามแล้ว
เพราะไม่ว่าจะถามอะไรไป อีกฝ่ายก็ดูจะจำไม่ได้เลย
“ฉันจำได้ว่าคืนนั้น
ฝนตก มันมืดไปหมด แล้วรถก็...”
ไม่ว่าจะถามกี่ครั้ง ข้อมูลที่ได้ก็มีแค่นี้ จุนไคเลยเลิกถามไป
เขาคิดว่าการที่เลโอเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
เลโอคนใหม่ดูนิสัยดีขึ้นเยอะเลย
วันนี้จุนไคอยู่บ้าน
นับว่าเป็นวันแรกในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาที่เขาได้อยู่บ้าน เพราะเขาต้องไปมหาวิทยาลัย
แต่เขาไม่กลับดึกอีกแล้ว เหตุการณ์วันนั้นทำให้จุนไคโกรธหานโจวไปนานทีเดียว
ก็เจ้าหมอนั่นไม่ยอมเตือนให้เขากลับบ้าน แถมยังไปกับผู้หญิงคนอื่น
ปล่อยให้เขาถูกมอมเหล้าอีก หลังจากนั้น จุนไคก็ปฏิเสธที่จะไปดื่มกับหานโจวตลอด
แต่หานโจวก็ยังไม่ละความพยายาม ในเมื่อไม่อยากไปกินเหล้าข้างนอก ก็มากินที่บ้านจุนไคซะสิ
แต่จุนไคก็ปฏิเสธ
ขนาดยังไม่เมา ยังหาโอกาสแทะโลมคนของเขาขนาดนี้ ถ้ามันเมาขึ้นมา เลโอไม่แย่เหรอ
ทางที่ดี กันมันไว้ห่างๆดีกว่า
“เบื่อรึเปล่า
อยู่แต่บ้านมาอาทิตย์นึงแล้ว” จุนไคถามในขณะที่ทั้งสองกำลังทานอาหารเช้าอยู่
จุนไคเป็นคนทำเอง เขาทำอาหารง่ายๆเช่นพวก ไข่ดาว เบคอน หรือแซนด์วิช
เพราะจุนไคเป็นคนกินอะไรง่ายๆ อีกอย่างเลโอก็ทำอาหารไม่เป็น
เพราะฉะนั้นหน้าที่ทำอาหารเลยตกเป็นของจุนไค
และที่เขาถามก็เพราะเห็นว่าตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมา
เลโอก็อยู่แต่บ้านตลอด จุนไคคิดว่าคงจะเบื่อไม่น้อย แต่เจ้าตัวคงไม่กล้าพูดมากกว่า
“เอ่อ...ไม่หรอก
มันก็ไม่ได้น่าเบื่อขนาดนั้นนะ” อยู่บ้านก็ได้ทำงานบ้านบ้าง
รดน้ำต้นไม้บ้าง อีกอย่างพวกเสี่ยวหยางก็มาเล่นด้วยบ่อยๆ ไม่ได้อยู่เฉยๆซะหน่อย
“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วไปอาบน้ำนะ”
“เอ๋?” เลโอเอียงคองงๆกับคำสั่งของอีกฝ่าย
“เดี๋ยววันนี้จะพาออกไปข้างนอก”
“จริงเหรอ! ไปเที่ยวเหรอ” ดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่
จุนไคลอบยิ้มให้กับท่าทางเหมือนเด็กๆนั่น เขาคิดไว้แล้วว่าจะพาเลโอออกไปข้างนอกบ้าง
ไม่อยากให้อุดอู้อยู่แต่ในบ้าน
ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ในรถแล้ว
จุนไคแต่งตัวสบายๆด้วยเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบ
ส่วนเลโอใส่เสื้อยืดสีแดงลายมิกกี้เม้าส์ กับกางเกงขาสั้นสีดำและรองเท้าแตะ
ตอนแรกเลโอจะใส่เสื้อสีขาว แต่จุนไคก็บอกให้ไปเปลี่ยน เขาให้เหตุผลว่า เสื้อขาวมันเลอะง่าย
แต่เลโอก็ยังแปลกใจอยู่ดี
ตัวเองก็ใส่เสื้อสีขาวเหมือนกันนี่
“เราจะไปไหนกันเหรอ”ออกจากบ้านมาซักพักแล้ว แต่จุนไคก็ยังไม่ได้บอกว่าจะไปไหน
“นั่นสินะ นายอยากไปไหนล่ะ”
“อ้าว นี่นายไม่ได้คิดไว้เหรอ”
“ก็ไม่” ตอบหน้าตาเฉย
เลโออ้าปากค้าง ทำไมถึงได้กวนแบบนี้นะ
“แล้วถ้าฉันไม่ถาม นายก็จะขับไปเรื่อยๆเหรอ”
“คงงั้น” ยังคงตอบหน้าตาย
นี่เลโอจะผิดไหม ถ้าเขาจะบอกว่าจุนไค...
กวนตีน
“ฮ่ะๆ ฉันล้อเล่นหรอกน่า
คิดว่าค่าน้ำมันประเทศนี้มันถูกนักรึไง
ฉันไม่ใช่ไอ้หานโจวนะที่จะทำอะไรไม่แคร์โลกแบบนั้น” จุนไคพูดยิ้มๆ
เขาก็แค่อยากแกล้งอีกฝ่ายเล่นเท่านั้น ก็เห็นท่าทางตกใจเมื่อกี้มันน่ารักดีนี่นา
“ตกลงนายจะไปไหนเนี่ย”
“ใกล้จะถึงแล้ว
เลี้ยวข้างหน้านั่นน่ะ”
จุนไคพาเลโอมาที่สวนสนุก
ที่มีทั้งเครื่องเล่น ย่านศูนย์การค้า แล้วก็พวกร้านคาเฟ่น่ารักๆเต็มไปหมด
ที่นี่บรรยากาศดี แล้วก็มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆเยอะ เลยคิดว่าจะเหมาะกับเลโอ
เมื่อก่อนเลโอก็ชอบมาที่นี่
แต่ที่เขาพามาวันนี้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะให้เลโอความทรงจำกลับมาหรอก
อันที่จริงเขาไม่อยากให้จำไดด้วยซ้ำ อยากให้ลืมอดีตที่เลวร้าย
แล้วมาเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน
ตอนนี้ทั้งสองคนจึงพากันไปเดินเล่น
เลโอดูจะชอบที่นี่มากทีเดียว เขาชอบที่มีตัวมาสคอตเยอะๆ มาสคอตทุกตัวใจดีมาก
เลโอขอกอดก็ให้กอด จุนไคสังเกตว่าบางตัวก็กอตไม่ยอมปล่อย
นี่เขาชักจะหึงมาสคอตแล้วนะ!
“ฮ่าๆๆ
ดูสัตว์พวกนั้นสิ” เลโอหัวเราะจนต้องเอามือกุมท้อง
ตอนนี้พวกเขากำลังดูการแสดง ‘เพื่อนสัตว์แสนรู้’ เมื่อกี้พวกหมาถูกสั่งให้ทำท่าแปลกๆ ทั้งเดินสองขา ทำท่าขาเป๋
แล้วก็แกล้งตาย การแสดงของพวกมันสร้างเสียงหัวเราะให้คนดูได้มากทีเดียว
รวมถึงเลโอด้วย
จุนไคแอบเห็นว่าเสื้อของอีกฝ่ายเริ่มชื้นหน่อยๆแล้ว
คงจะร้อนน่าดู ก็ช่วงนี้หน้าร้อนนี่นา
“ไปหาอะไรเย็นๆกินกันมั้ย”
จุนไคเอ่ยชวน เพราะไม่อย่างนั้นคนตัวเล็กคงไม่ยอมไปเองแน่ๆ
เพราะมัวแต่สนใจการแสดงอยู่
“ก็ดีเหมือนกัน
ฉันเริ่มร้อนแล้ว” เลโอพูดพลางทำท่าเอามือพัด
จุนไคจึงควักธนบัตรออกมาใบนึงใส่ลงไปในกล่องบริจาค ก่อนจะจูงมือเลโอออกมา
“อ้าว! จุนไค” เดินไปไม่เท่าไหร่ก็ได้ยินเสียงเรียก
อะไรกัน
อุตส่าห์มาแบบไม่บอกใคร ยังจะมาเจอคนรู้จักอีกเหรอเนี่ย
จุนไคหันไปทางต้นเสียง
ก่อนที่เขาจะรู้สึกถึงความซวยเข้าเต็มๆ!
“เธอ!” อุทานอย่างตกใจ นั่นมัน...
คริสตัล!
“จำฉันได้ด้วยเหรอ แหม
ดีใจจัง ไม่คิดว่าคนอย่างนายจะมาเที่ยวสวนสนุกแบบนี้ด้วยนะเนี่ย” คริสตัลแซวยิ้มๆ เธอคิดว่าคนอย่างจุนไคจะเข้าเป็นแต่ร้านเหล้าซะอีก
“เหอะ! เธอเหมาะกับที่นี่ตายล่ะ นึกว่าจะเข้าเป็นแต่...”
“แต่อะไร! ถ้าเป็นอย่างที่นายคิดล่ะก็ บอกไว้ก่อนเลยนะว่านายประเมินฉันต่ำไป”
จุนไคมองคริสตัลตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอก็แต่งตัวเหมือนผู้หญิงปกติ
ใส่เสื้อชีฟองสีชมพูกับกระโปรงสีขาวที่ยาวคลุมข้อเท้า
ไม่ได้นุ่งน้อยห่มน้อยเหมือนที่เห็นวันนั้นเลยซักนิด
“วันนั้นฉันไปทำงานแทนเพื่อนย่ะ
งานหลักฉันน่ะ ไม่ใช่แบบนั้นซักหน่อย” คริสตัลรีบแก้ตัวทันทีที่เห็นจุนไคมองเธอแบบนั้น
“เรื่องของเธอเถอะ
ฉันขอตัว” จุนไครีบจูงมือเลโอไปทันที
“เดี๋ยวววววว!”
คริสตัลรีบมาดักไว้ก่อนที่ทั้งคู่จะไป
“นายจะไปไหนกันเหรอ”
“ถามทำไม?”
“ใครเค้าถามนายห๊ะ!
ฉันถามหนุ่มน้อยน่ารักคนนี้ต่างหาก”
เลโอชี้มาที่ตัวเองเป็นเชิงถาม
“ผมเหรอ?”
“ใช่ นายนั่นแหละ”
“เอ่อ...เรากำลังจะไปหาอะไรเย็นๆกินกันน่ะครับ”
เลโอตอบซื่อๆ
“นายไปบอกเค้าทำไมน่ะ!” จุนไคหันมาว่า คนอะไร ซื่อจริงๆ
“อ๋อ พอดีเลย
ร้านฉันอยู่แถวนี้ มีของอร่อยๆเพียบเลย ทั้งน้ำผลไม้ ไอศกรีม เค้ก สนใจมั้ย เดี๋ยวฉันให้นั่งฟรีเลย
ในฐานะคนรู้จัก” คริสตัลรีบเสนอ
ไม่สนใจท่าทางหงุดหงิดของจุนไคเลยซักนิด
“ไปมั้ยจุนไค
ได้นั่งฟรีด้วยนะ” เลโอเขย่าแขนจุนไค ท่าทางอยากไปสุดๆ
นี่ไม่รู้เลยสินะว่าตอนนี้เขาแทบจะพุ่งเข้าไปบีบคอผู้หญิงคนนั้นแล้ว!
“เห็นมั้ย
แฟนนายชวนแล้วน่ะ ขัดใจแฟนไม่ดีนะ เดี๋ยวถูกงอนเอาไม่รู้ด้วย” คำพูดของคริสตัลทำให้เลโอเหวอทันที
“เอ่อ...คือเราไม่...”
“หวังจุนไค!” มีเสียงปริศนามาขัดก่อนที่เลโอจะพูดจบ จุนไคอยากจะบ้า
นี่มันวันซวยอะไรเนี่ย!!!
“อ้าว อาจารย์เหอ
สวัสดีครับ” เกือบจะหันไปด่าแล้วเชียว แต่ก็ต้องโค้งให้แทน เมื่อเห็นว่าเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยของเขา
“สวัสดีๆ
เจอคุณพอดีเลย” อาจารย์เหอพูดด้วยท่าทางเป็นกังวล
“ผมกำลังจะโทรบอกให้คุณไปมหาลัยแล้วนะ
วันนี้ชมรมดนตรีเขาต้องใช้ห้องกัน แต่กุญแจอยู่กับคุณ”
“แล้ว...จะให้ผมทำยังไงล่ะครับ
ผมไม่ได้เอามาด้วย”
“อ้าว งั้นก็กลับไปเอาสิ
ป่ะ ไปรถผมเลย” อาจารย์เหอสรุปเอง จุนไคอึกอัก
“คือผมไปไม่ได้ครับ
ผมต้อง...”
“ไปได้ค่ะ ไปได้
เดี๋ยวฉันจะดูแลคนของเขาเองค่ะ” จุนไคหันมามองตาเขียว
ทำไมต้องมายุ่งด้วยนะ!
“ก็นี่ไง
ให้แฟนนายไปนั่งรอที่ร้านของฉัน แล้วนายก็ไปเอากุญแจที่บ้านนาย จะให้คนทั้งชมรมเดือดร้อนเพราะนายคนเดียวไม่ได้นะ”
คริสตัลพูดด้วยท่าทีจริงจัง จนอาจารย์เหอคล้อยตาม
“เธอพูดมีเหตุผลนะ
คุณเองก็ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวนี่” จุนไคอยากจะฆ่าเธอจริงๆ!
“เอ่อ...ฉันอยู่ได้นะ
นายไปเถอะ” เลโอรีบพูดขึ้นทันที เขาคิดว่าตัวเองอยู่ได้ เขาไม่อยากเป็นตัวปัญหาของคนอื่น
อีกอย่าง คริสตัลเองก็ดูเป็นคนดี ไม่มีพิษไม่มีภัยอะไร
“เฮ้อ ก็ได้” จุนไคถอนหายใจ ก่อนจะมองหน้าคริสตัล
“ถ้าเลโอเป็นอะไรไป
ฉันเอาเธอตายแน่!” จุนไคพูดเสียงเข้ม
“จ้า
ฉันจะดูแลเขาอย่างดีเลย ไม่ต้องห่วงนะ” คริสตัดพูดพร้อมกับกอดคอเลโอไว้
นี่เขาคิดผมรึเปล่าเนี่ย ที่จะปล่อยเลโอไว้แบบนี้
“งั้นก็รีบไปเถอะคุณ”
อาจารย์เหอหันมาเร่งจนจุนไคต้องรีบไป แต่ก็ยังมิวายหันมาบอก
“แล้วฉันจะรีบมานะ”
“เอาล่ะ
ทีนี้ก็เหลือแต่เราสองคนแล้ว” คริสตัลหันมาพูดกับเลโอด้วยแววตาเป็นประกาย
“ไปร้านฉันกัน!”
พูดอย่างร่าเริงก่อนจะดึงมือเลโอตามไป
ร้านของคริสตัลเป็นร้านคาเฟ่เล็กๆ
แต่บรรยากาศสวยงาม ทั้งร้านตกแต่งด้วยโทนสีพาสเทลดูสบายตา
เหมาะสำหรับคู่รักจะมานั่งด้วยกัน
คริสตัลให้เลโอมานั่งโต๊ะข้างหลังเคาท์เตอร์
“สำหรับแขกพิเศษ”เธอพูดยิ้มๆ เลโอจึงส่งยิ้มแห้งๆกลับไป
“สั่งได้เลยนะ
ไม่ต้องเกรงใจ ฉันเลี้ยงเอง” เธอพูดพร้อมกับยื่นเมนูให้
ถึงจะบอกว่าไม่ต้องเกรงใจ
แต่เลโอก็เกรงใจอยู่ดี ในเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าจะเลี้ยง
“ผมไม่เลือกหรอกครับ
อะไรก็ได้”
“แหม ขี้เกรงใจจังเลยนะ
เฟยหลิง เอาน้ำกีวี่มาสองแก้ว” คริสตัลหันไปสั่งลูกน้องในร้าน
ก่อนจะหันมาพูดกับเลโอต่อ
“นายชื่ออะไรเหรอ”
“ผมชื่อเลโอครับ”
“ฉันชื่อคริสตัลนะ
นายอายุเท่าไหร่ เป็นน้องฉันแน่ๆ ต่อไปเรียกพี่คริสตัลแล้วกัน”
“อ่า...ครับ
ผมอายุสิบแปด แล้วพี่คริสตัลอายุเท่าไหร่ครับ” เลโอถามหน้าซื่อ
คริสตัลหน้าแดงเล็กน้อย
“ใครเค้าให้ถามอายุกับผู้หญิงกัน
นายนี่ไร้เดียงสาจริงๆเลยนะ” คริสตัลพูดขำๆ
แต่เลโอก็รีบขอโทษทันที
“ขอโทษครับ
ก็ผมไม่รู้นี่” คนตัวเล็กเอ่ยอย่างรู้สึกผิด
ทำให้หญิงสาวอดยิ้มไม่ได้
“ฉันอายุยี่สิบเจ็ด
เป็นไง อายุยี่สิบเจ็ดมีร้านเป็นของตัวเองแล้ว ก็ไม่เลวนะ” เธอพูดอย่างเป็นกันเอง
ทำให้เลโอหายเกร็งขึ้นมาบ้าง
“แล้วพี่คริสตัลรู้จักจุนไคด้วยเหรอครับ”
“อืม
ก็ไม่เชิงรู้จักหรอก” น้ำกีวี่ที่สั่งไว้มาพอดี ครัสตัลจึงหันไปรับก่อนจะพูดต่อ
“ฉันเคยนอนกับเขาคืนนึง”
“อุ๊บ! แค่กๆ ขอโทษครับ” เลโอสำลักน้ำทันทีที่ได้ยิน แต่ยังไม่ลืมขอโทษที่เสียมารยาท
“ไม่ต้องขอโทษหรอก
เอ้านี่” คริสตัลยื่นกระดาษทิชชู่ให้ เลโอรับไว้ก่อนจะถาม
“จริงเหรอครับ
ที่ว่านอนด้วยกัน”
“ใช่ เอ๊ะ? หรือว่านาย ที่โทรมาหาจุนไคคืนนั้น นายโทรมาใช่มั้ย อาทิตย์ที่แล้วน่ะ”
เลโอนึกขึ้นได้
หรือว่าผู้หญิงคนนั้นที่รับสายเขาคือคริสตัล
“ใช่ครับ ผมโทรไป
แล้ว...”
“ตายล่ะ
ฉันคิดว่าน้องชายเขาโทรมาซะอีก ที่แท้แฟนหรอกเหรอเนี่ย” คริสตัลบ่นกับตัวเองคนเดียว
และเมื่อหันมาเห็นหน้าเศร้าของเลโอ เธอก็รีบอธิบายทันที
“มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ
คืนนั้นฉันกับจุนไคแค่นอนด้วยกันเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเลย จุนไคเค้าเมามาก
ถ้าฉันทิ้งเค้าไว้ที่ผับ อาจจะโดนลากไปทำร้ายก็ได้นะ” คริสตัลอธิบายอย่างรวดเร็ว
เพราะกลัวเลโอเข้าใจผิด
“นี่
อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ที่ฉันกล้าบอกนายว่าเรานอนด้วยกัน เพราะฉันบริสุทธิ์ใจนะ
อีกอย่าง นายรู้มั้ยว่าจุนไคแคร์นายมาก พอตื่นขึ้นมาก็รีบขับรถไปหานายทันทีเลย”
เลโอพยักหน้าเข้าใจ
ผู้หญิงคนนี้ดูเป็นคนที่มีความมั่นใจใจตัวเองสูงมาก คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น
แต่นี่ล่ะที่ทำให้เธอดูเป็นคนจริงใจ
เลโอก็ไม่อยากกลับไปคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องเก่าๆอีกแล้ว เขาไม่อยากให้จุนไคลำบากใจอีก
“เข้าใจแล้วใช่มั้ย
เลิกทำหน้ามุ่ยได้แล้ว” คริสตัลหยิกแก้มเลโอเบาๆ
“โอ๊ย! ผมเจ็บนะ” เลโอร้องเบาๆ มือลูบแก้มตัวเองไปมา
คริสตัลมองเลโออย่างเอ็นดู เวลาเห็นเด็กน่ารักๆ เธอมักจะแกล้งเสมอ รวมถึงจุนไคด้วย
คืนนั้นที่เธอมอมเหล้า ตอนแรกก็คิดว่าอยากจะจับเขาจริงๆ
แต่พอถามอายุแล้วความคิดก็เปลี่ยนไป เขายังเด็กเกินกว่าที่เธอจะทำได้ลง
ตอนแรกเธอคิดว่าเขาจะอายุมากกว่านั้นซะอีก ก็ท่าทางดูเป็นผู้ใหญ่ขนาดนั้น
แต่พอรู้อายุแล้ว เธอก็ต้องมองจุนไคใหม่ หมอนั่นหน้าเหมือนแมวไม่มีผิด
น่ารักจนเธออยากได้เป็นน้องชาย ถ้าไม่นับนิสัยที่ชอบปากดีนั่น
จุนไคก็เป็นเด็กที่น่ารักคนนึงเลย
กริ๊ง...
เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น
ทั้งคริสตัลและเลโอหันไปมอง ลูกค้าเริ่มแน่นร้านแล้ว
“ลูกค้าเริ่มมากันแล้ว
ฉันต้องไปช่วยแล้วล่ะ เออนี่! เลโออยากไปรึเปล่า” เลโอพยักหน้า เขาไม่อยากนั่งอยู่เฉยๆหรอก น่าจะทำตัวให้เป็นประโยชน์
ไหนๆก็ได้ค่ามัดจำเป็นน้ำกีวี่แล้ว
“ไปครับ แล้วจะให้ผมทำอะไรเหรอ”
“อืม...นายมาช่วยฉันตรงหน้าเคาท์เตอร์ขายเครื่องดื่มละกัน
ช่วยฉันคิดเงินนะ”
“ได้ครับ ไปกันเถอะ” เลโอทำท่าจะลุกไปที่เคาท์เตอร์อีกฝั่ง แต่คริสตัลเรียกไว้ซะก่อน
“เดี๋ยวก่อน” เธอมองเลโอก่อนจะนึกอะไรดีๆขึ้นมาได้
“ยูนิฟอร์มของที่นี่เป็นสีขาวนะ
ฉันว่านายเปลี่ยนเสื้อหน่อยดีกว่า มานี่”
คริสตัลพาเลโอไปหลังร้าน
ที่มีประตูเชื่อมต่อกับร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ซึ่งเป็นร้านของน้าเธอเอง
เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็เห็นว่าน้าของเธอกำลังทำบัญชีอยู่
“คุณน้า รบกวนหน่อยนะคะ”
“อ้าว คริสตัล มีอะไรเหรอ” คุณน้าเงยหน้าขึ้นมาถาม
“พอดีหนุ่มน้อยคนนี้ต้องการเสื้อซักตัว
เดี๋ยวหนูมาจ่ายเงินให้นะคะ”
“เอ่อ...เรื่องเงิน...” เลโอรีบพูดขึ้นทันที แต่คริสตัลก็ขัดไว้
“เถอะน่า ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก
มานี่มา” เธอพาเลโอไปที่เป้าหมายทันที
“เสื้อสีขาว...อ๊ะ! ตัวนี้ละกัน” เธอยื่นเสื้อที่ถูกใจให้
เลโอรับไว้ด้วยสีหน้าหนักใจ
“จะให้ผมใส่เหรอครับ
ผมว่ามันบางไปนะ” เสื้อที่คริสตัลเลือกเป็นเสื้อสีขาวที่ค่อนข้างบาง
แถมคอยังปาดลึกซะจนก้มทีคงเห็นไปถึงไหนต่อไหนแน่ๆ
“ตัวนี้แหละ รีบๆไปเปลี่ยนเถอะ”
ไม่ทันที่เลโอจะเถียง
หญิงสาวก็ดันหลังคนตัวเล็กเข้าไปในห้องลองเสื้อทันที
เธอคิดไม่ผิดจริงๆ!
ตอนนี้คริสตัลกำลังมองผลงานตัวเองด้วยความภาคภูมิใจ
เลโอที่ใส่เสื้อสีขาวตัวนั้น
บวกกับฝีมือการแต่งหน้าทำผมด้วยสกิลไวขั้นเทพของเธอแล้ว ทำให้คนตัวเล็กน่ารักมากๆ
บวกกับผิวที่ขาวเนียนละเอียดอยู่แล้ว ดูเหมือนกับตุ๊กตาญี่ปุ่นเลย
ตอนนี้ลูกค้าที่ร้านส่วนใหญ่จึงมาสั่งเครื่องดื่มกัน
แถมส่วนมากจะเป็นผู้ชายซะด้วยสิ
นอกจากจะสั่งกาแฟแล้วยังคอยส่งสายตาหวานๆมาให้เลโออีก
ท่าทางเลโอจะเรียกลูกค้าได้มากทีเดียว
“ของที่สั่งได้แล้วครับ นี่ครับ” ยื่นแก้วกาแฟให้พร้อมกับรอยยิ้มสดใส ทำให้คุณลูกค้าอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้
“ขอบคุณครับ
แล้ววันหลังผมจะมาใหม่นะ” พูดพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม
จนคริสตัลต้องกระแอม
“อะแฮ่ม!” ลูกค้าคนนั้นจึงรีบเดินออกไปทันที
“นายนี่เสน่ห์แรงไม่เบาเลยนะ
มิน่าล่ะ จุนไคถึงได้หวงนัก”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ” เลโอถ่อมตัว
“จริงเหรอ นายนี่น่ารักจริงๆเลยนะ
ไม่ต้องถ่อมตัวหรอก เออนี่ ถามอะไรหน่อยสิ”อยู่ๆคริสตัลก็เปลี่ยนโหมดเป็นเสียงจริงจัง
“นายกับจุนไคคบกันมากี่ปีแล้วเหรอ”
“ผมไม่รู้หรอกครับ”
“อ้าว ทำไมล่ะ?”
“คือ
จริงๆแล้วผมความจำเสื่อมน่ะครับ พอดีเกิดอุบัติเหตุ
รู้สึกตัวอีกที่ก็อยู่ที่โรงพยาบาล แล้วผมก็จำอะไรไม่ได้เลย”
“จริงเหรอเนี่ย เหลือเชื่อจริงๆ”
คริสตัลตกใจเล็กน้อย
เธอไม่คิดว่าจะได้เจอกับคนที่ความจำเสื่อมตัวเป็นๆ
“แล้วจุนไคเค้ารื้อฟื้นความทรงจำให้นายบ้างรึเปล่า”
“แรกๆก็มีนะครับ
แต่ทำยังไงผมก็จำไม่ได้ซักที จุนไคเลยเลิกพยายามไป”เลโอพูดเสียงอ่อย
“เอาน่า
ซักวันนายก็ต้องจำได้เองแหละ สู้ๆนะ” คริสตัลพูดปลอบใจ
ทำให้เลโอยิ้มออกมา
“มอคค่าเย็นแก้วนึงครับ”
เสียงของลูกค้าทำให้คริสตัลกับเลโอเลิกคุยกันก่อนจะไปชงกาแฟ
“เดี๋ยวรอซักครู่นะครับ” เลโอพูดในขณะที่คริสตัลกำลังทำมอคค่าเย็น
“เด็กใหม่เหรอครับ ไม่คุ้นหน้าเลย”
“ถามทำไมคะ? สนใจเหรอ?”
คริสตัลหันมาทันที เธอต้องดูแลเลโอให้ดีๆ ไม่งั้นเธออาจตายได้
“โธ่ ถามนิดหน่อยเองพี่
ก็เห็นน้องเค้าน่ารักดี ว่าแต่ น้องมีแฟนรึยังครับ” ประโยคหลังหันไปถามเลโอ
แต่คริสตัลก็ตอบให้แทน
“มีแล้วจ้ะ โน่น
แฟนเขาเดินมาโน่นแล้ว” เลโอหันไปมองตาม
จุนไคกำลังเดินหน้าบึ้งตรงมาที่เคาท์เตอร์อย่างรวดเร็ว
“นี่มันอะไรกัน!” จุนไคเดินมาหาคริสตัลทันทีก่อนจะพูดเสียงรอดไรฟัน
“อะไรเล่า!
ถามให้มันดีๆหน่อยสิ” เธอแหวใส่ทันที อยู่ๆก็มาว่าเฉยเลย
“ฉันบอกให้ดูแลเลโอดีๆ แล้วนี่อะไร”
พูดเสียงเย็นพลางชี้ไปที่เลโอ เขาว่าแล้วเชียว
ว่าคิดผิดที่ปล่อยให้เลโออยู่กับผู้หญิงคนนี้ ถูกจับแต่งตัวอะไรก็ไม่รู้
ไหนจะพวกผู้ชายในร้านที่พากันส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้คนของเขาอีก
“ทำไม ฉันดูแลเลโอไม่ดีตรงไหน
ขนมก็มีให้กิน น้ำก็มีให้ดื่ม ดีจะตาย” ตอบหน้าตาเฉยจนจุนไคเริ่มโมโห
“แล้วเสื้อนี่ล่ะ” เสื้ออะไรทุเรศชะมัด ถ้าจะทำมาบางขนาดนี้อย่าเรียกว่าเสื้อเถอะ
เอาไปทำผ้าเช็ดโต๊ะดีกว่า
“อ๋อ ทำไมล่ะ
ใสเสื้อตัวนี้ก็น่ารักดีนะ เรียกลูกค้าได้เยอะเลย”
“เธอนี่มัน!”
จุนไคทำท่าจะทำร้ายคริสตัลจนเลโอต้องมาห้ามไว้
“จุนไค อย่า! อ๊ะ!”
เพราะไม่ทันระวัง
แขนของทั้งคู่จึงไปชนเหยือกน้ำบนโต๊ะก่อนที่มันจะหกใส่เสื้อเลโอ
คนในร้านมองตาค้าง
เสื้อที่บางอยู่แล้วเมื่อเปียกน้ำก็ยิ่งแนบไปกับเนื้ออีก
เลโอตกใจรีบดึงกระดาษทิชชู่มาเช็ดทันที
แต่นั่นยิ่งทำให้ถูกมองเข้าไปใหญ่
ท่าทางที่เช็ดเสื้อนั่นมันช่าง...
“มองอะไรกันวะ!”
จุนไคหันไปตวาดคนที่มองคนของเขา
ก่อนจะใช้ตัวเองบังไว้
“นี่จุนไค
ให้ฉันไปเปลี่ยนเสื้อก่อน” เลโอกระซิบเบาๆ
“เดี๋ยวฉันพาไปนะ” คริสตัลเสนอ แต่จุนไคก็ขัดไว้
“ไม่ต้อง อยู่เฉยๆเถอะเธอน่ะ!”
พูดจบก็พาเลโอไปหลังร้านทันที
“วันนี้ซวยชะมัด
ไม่น่าฝากนายไว้กับยัยนั่นเลย” จุนไคบ่นอย่างหัวเสีย
“เลิกบ่นเถอะน่า
ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่”
“ก็นาย...” จุนไคหยุดชะงักทันที เมื่อเขาหันมามองเลโอ
เสื้อตัวบางที่แนบไปกับลำตัวขาวเนียน
มันช่างยั่วยวนเขาจริงๆ เลโอรู้สึกว่าตัวเองถูกมอง จึงรีบยกมือขึ้นมาปิดไว้ทันที
ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ
“ม...มองอะไรน่ะ”
จุนไครีบดึงสติกลับมา
“มองอะไร
เปล่าซักหน่อย นายไปเปลี่ยนเสื้อได้แล้วไป”
จุนไคกลบเกลื่อนทันที เลโอมองค้อนก่อนจะเข้าไปในห้องลองเสื้อ
“จะกลับแล้วเหรอ
ไว้คราวหน้ามาอีกนะ เลโอ นายยังกินเค้กฉันไม่หมดทั้งร้านเลย” คริสตัลพูดพลางพยายามก้าวขาให้ทันจุนไค
แต่ไม่รู้ว่าโครงสร้างของเขาประกอบไปด้วยเสาไฟฟ้าเป็นหลักหรืออย่างไร
เพราะขายาวเหลือเกิน แค่ก้าวช้าๆของเขาก็ทำให้เลโอกับคริสตัลตามไม่ทันแล้ว
“เดี๋ยววววว!!! จะทรมานสังขารฉันไปถึงไหน ช่วยหยุดฟังฉันพูดก่อนไม่ได้รึไง!” คริสตัลวิ่งมาดักไว้ข้างหน้า ถ้ามัวแต่เดินตามเธอคงตามไม่ทันแน่
จุนไคมองหน้าเธออย่างหาเรื่อง
“หลีกไป”
“ไม่
ช่วยฟังที่ฉันพูดก่อนได้มั้ย เอ้านี่ ฉันจะเอามาให้เลโอ” คริสตัลยื่นถุงกระดาษให้เล
โอ
“ผมเหรอ?” ถามอย่างงงๆ แต่ก็ยื่นมือไปรับไว้
“เอาอะไรให้คนของฉันอีก”
จุนไคหันมาถามทันที บอกตรงๆว่าตอนนี้เขาเกลียดผู้หญิงคนนี้สุดๆ
“ไปเปิดดูเองก็แล้วกัน
ฉันขอตัวก่อนล่ะ ไว้คราวหลังมาเที่ยวใหม่นะจ๊ะเลโอ” ยังไม่วายเอ่ยชวนให้มาอีก
แต่ก่อนที่จุนไคจะพูดอะไร คริสตัลก็รีบเดินกลับไปทันที
“อะไรเนี่ย” เลโอมองถุงอย่างงงๆ
“รีบกลับกันเถอะ
ฝนจะตกแล้ว” จุนไคหันมาเร่ง เพราะตอนนี้ฝนตั้งเค้ามาแล้ว
ลานจอดรถก็อยู่ไกล ถ้าฝนมาตกตอนนี้ก็ต้องหาที่หลบฝนก่อน เสียเวลาอีกแน่ๆ
ซ่าาาา!!!!
จนได้...
พอบอกว่าฝนจะตก ก็กระหน่ำเทลงมาทันทีทันใด
ท่าทางเทวดาบนฟ้าจะว่างมาก ถึงได้มีเวลามาแกล้งเขาแบบนี้
“มานี่เร็ว” จุนไคจูงมือเลโอไปหาที่หลบฝน ทั้งคู้เข้ามาหลบในศาลาใกล้ๆ
“บ้าชิบ!” จุนไคสบถอย่างอารมณ์เสีย เลโอมองอย่างหวาดๆ
เขาไม่อยากให้จุนไคอารมณ์ร้อนแบบนี้เลย มันทำให้เขากลัว
“จุนไค”
“หือ? มีอะไร”
“นายโอเครึเปล่า”
ถามอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะเขาเดาอารมณ์อีกฝ่ายไม่ถูก
ไม่รู้ว่าจะโมโหขึ้นมาเมื่อไหร่
จุนไคหันมามองคนตัวเล็กที่ยืนทำหน้าเป็นกังวล
เขายอมรับว่าวันนี้ตัวเองทำตัวแย่ ทำยังไงได้ ก็เขาหวงนี่นา
ทั้งๆที่คิดว่าจะมาเที่ยวกันสองคน แต่ยัยคริสตัลทำเสียแผนซะได้
ถ้าไม่จับคนของเขาเป็นตัวเรียกลูกค้า แถมมีแต่ลูกค้าหื่นๆแบบนั้น
เขาคงไม่โกรธขนาดนี้หรอก
จุนไคเดินเข้ามาใกล้
มือปัดผมหน้าม้าที่ปรกตาของเลโอออก
“ฉันขอโทษ
ถ้ามันทำให้นายไม่สบายใจ ก็ฉันไม่ชอบที่นายแต่งตัวแบบนั้น มันหงุดหงิด”
“หงุดหงิด? หงุดหงิดทำไม”
จุนไคถอนหายใจกับคำถาม
จะให้เขาตอบยังไงล่ะว่าเขา หึง
เขาไม่พูดอะไร
พอได้มาหลบฝนในศาลานี้ อยู่ๆก็นึกถึงความหลัง แต่เลโอจะจำมันได้มั้ยนะ
จุนไคนั่งลงก่อนจะพูด
“นายเคยมาที่นี่
จำได้มั้ย”
“ที่สวนสนุกนี่เหรอ
ขอโทษนะ แต่ฉันจำไม่ได้”
“หึๆ ใช่
เมื่อก่อนนายชอบมาที่นี่ แต่ฉันจะบอกอะไรให้นะ ก่อนหน้านั้นนายก็เคยมาที่นี่
ตรงนี้ ศาลานี้” เลโอมองหน้าจุนไคอย่างงุนงง
“ฉันไม่เข้าใจ
นายต้องการจะพูดอะไร”
“ตอนนั้นฉันอายุสิบสาม
วันนั้นฉันมาเที่ยวกับเพื่อน ฝนก็ตกแบบนี้แหละ วันนั้นเป็นวันแรกที่ฉันเจอนาย”
“เมื่อไหร่จะมาซักทีวะ”
เด็กหนุ่มบ่นอย่างหัวเสีย เขารอรถของที่บ้านมาจะชั่วโมงแล้ว
แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมา เพื่อนของเขาก็กลับกันไปหมด แถมฝนยังมาตกอีก
ทำไมซวยแบบนี้เนี่ย!
“ฮือๆๆ” จุนไคได้ยินเสียงร้องไห้ลอยมาตามสายฝน แวบแรก เด็กหนุ่มขนลุกซู่
ผี?
บ้าน่า ผีมีจริงที่ไหน
สะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆออกไป
เมื่อลองฟังดูดีๆถึงได้รู้ว่าเสียงมันมาจากศาลาข้างหน้านั่น
ด้วยความอยากรู้
เด็กหนุ่มรีบเดินไปที่ศาลาทันที เมื่อมาถึงก็พบเด็กผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
ดูจากการแต่งตัวและผิวพรรณแล้ว ท่าทางจะเป็นลูกคนรวยซะด้วย
เมื่อเขาเงยหน้ามาสบตาจุนไค เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ
รู้สึกเหมือนมีผีเสื้อเป็นร้อยๆตัวบินอยู่ในท้อง
ใบหน้าสวยหวานราวกับผู้หญิงนั่นทำให้หัวใจเขาเต้นแปลกๆ
จุนไครีบดึงสติกลับมา
เด็กคนนี้นี่เองที่เป็นต้นเหตุของเสียง
เขาเห็นว่าดวงตากลมโตคู่สวยเปียกชื้นเพราะน้ำตา
“นาย...เป็นอะไรรึเปล่า” จุนไคถาม แต่อีกฝ่ายก็ไม่ตอบ จุนไคจึงเดินเข้าไปนั่งข้างๆ
แต่เด็กคนนั้นก็ขยับหนีไปจนติดมุม
นี่เขาทำอะไรผิดเนี่ย?
ก็แค่เป็นห่วง
เห็นมานั่งร้องไห้อยู่คนเดียว นี่ถ้ามีใครลากไปทำร้ายจะทำยังไง ตัวยิ่งเล็กๆอยู่
“นายรอใครอยู่เหรอ”
จุนไคถามทำลายความเงียบ
“...” ไม่มีเสียงตอบรับ
ดูท่าทางเด็กคนนั้นคงจะกลัวเขาไม่น้อย
นาเขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ จุนไคไม่ละความพยายาม ยังไงก็ต้องคุยกับอีกฝ่ายให้ได้
“ฉันรอให้คนขับรถมารับอยู่
รอมาตั้งชั่วโมงนึงละ ฉันว่าตาลุงนั่นต้องแอบไปเถลไถลที่ไหนแน่ๆ นายว่าป่ะ”
จุนไคชวนคุย และดูเหมือนจะเป็นผลเมื่ออีกฝ่ายตอบกลับมา
“นายก็รอให้คนมารับอยู่เหมือนกันเหรอ” เด็กหนุ่มถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
จุนไคว่าแล้วเชียว
เด็กคนนี้ต้องรอให้พ่อแม่มารับอยู่แน่ๆ แต่เพราะฝนตกแบบนี้การจราจรเลยลำบาก
ทำให้มารับช้า
“อื้ม
พวกผู้ใหญ่นี่แย่จริงๆเลยนะ ทำให้พวกเรารอแบบนี้ได้ไง เออนี่ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว
ให้ฉันนั่งรอเป็นเพื่อนนะ”
“เอ่อ...อืม”
แล้วก็กลับไปอยู่ในโหมดโลกส่วนตัวต่อ
ครืน ครืน
เสียงฟ้าร้องดังเป็นระยะๆ
จุนไคสังเกตว่าคนตัวเล็กสะดุ้งน้อยๆ ท่าทางคงจะกลัวมาก
เห็นดังนั้นจุนไคเลยขยับเข้าไปใกล้ มือเลื่อนไปกุมมือเล็กไว้หลวมๆเป็นเชิงปลอบ
อีกฝ่ายหันมามองทันที
เปรี้ยง!
“ฮึก!” เด็กหนุ่มซุกไปที่อกจุนไคทันที พร้อมกับเสียงสะอื้น
“ฮือๆๆ
เมื่อไหร่พ่อกับแม่จะมาซักที ผมกลัว”
จุนไคลูบหัวเป็นเป็นเชิงปลอบใจ
“นาย หยุดร้องไห้เถอะ
เดี๋ยวพ่อกับแม่ก็มาแล้วนะ”
เมื่อรู้ตัวว่าเผลอกอดอีกฝ่ายเข้าเต็มๆ
ร่างเล็กจึงรีบถอยออกมา
“ขะ...ขอโทษ” นิ้วมือเรียวเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ นี่เขาเข้าไปกอดอีกฝ่ายได้ยังไงน่ะ
จุนไคงุนงงกับการกระทำของอีกฝ่ายที่ทำเอาเขาปรับอารมณ์ไม่ทัน
ทำไมต้องขอโทษด้วย แปลกคนชะมัด
“นายกลัวเสียงฟ้าผ่าเหรอ”
“อืม ก็มันเสียงดังนี่”
คนตัวเล็กตอบอ้อมแอ้มอย่างอายๆ
เขาไม่น่าแสดงความอ่อนแอให้อีกคนเห็นเลย
“นี่ รู้มั้ย
ฉันมีเครื่องรางกันฝนด้วยนะ นี่ไง” จุนไคเอาสร้อยของตัวเองออกมาให้ดู
“เครื่องราง
หมายความว่ายังไง”
“ก็ถ้านายใส่สร้อยเส้นนี้
ต่อไปก็จะไม่กลัวเสียงฟ้าผ่าอีก”
“จริงเหรอ”
จุนไคไม่ตอบ
แต่ถอดสร้อยของตัวเองออกมา มันเป็นสร้อยเชือกสีดำ
ที่มีจี้เป็นแหวนเงินเกลี้ยงเกลาหนึ่งวง
“อ่ะ ฉันให้ ต่อไปนายจะได้ไม่ต้องกลัวอีก” จุนไคยื่นสร้อยให้ อีกฝ่ายก็รับไปอย่างงงๆ
“แล้วมันจะช่วยยังไงเหรอ”
จุนไคมองลึกเข้าไปในดวงตากลมโตที่น่าหลงใหลของคนตรงหน้า
ก่อนจะพูดออกมา
“ก็ถ้านายใส่มันไว้
จะได้เหมือนกับว่าฉันคอยอยู่ข้างๆนายไง”
“สร้อยงั้นเหรอ?” เลโอพึมพำกับตัวเองเบาๆ
หลังจากที่ได้ฟังอดีตของเขาจากจุนไค
“สองปีก่อน
ตอนที่ฉันเจอนาย ฉันจำนายได้นะ เลยเข้าไปทัก แต่นายจำฉันไม่ได้เลย
ฉันต้องพูดตั้งหลายรอบ ตั้งนานกว่านายจะจำได้ ท่าทางจะความจำสั้นจริงๆนะนายเนี่ย”
จุนไคพูดขำๆ เพราะเมื่อสองปีที่แล้วที่เขาเจอเลโอ ก็จำได้ทันที ว่าเป็นคนเดียวกับที่เขาเจอที่ศาลา
แต่เลโอกลับจำเขาไม่ได้เลย
“สร้อย แหวน
เครื่องรางกันฝน” เลโอยังคงพูดกับตัวเอง
เขารู้สึกเหมือนเรื่องพวกนี้อยู่ในลิ้นชักชั้นในสุดของความทรงจำ
รู้สึกคุ้ยเคยเหลือเกิน
หลังจากนั่งรอจนฝนหยุด
จุนไคก็ชวนเลโอกลับบ้านทันที
รถติดอีกแล้ว
จุนไคถอนหายใจเบาๆในขณะขับรถ
ดูท่าทางคงจะอีกนานเลยกว่าจะถึงบ้าน ถ้ารถยังติดเยอะขนาดนี้
“จุนไค”
“หืม?” หันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะอมยิ้มน้อยๆ เลโอนอนหลับอยู่ แต่เมื่อกี้
คนตัวเล็กละเมอชื่อเขาออกมา
มือหนาเกลี่ยแก้มใสเบาๆ
เลโอเวลาหลับน่ารักจริงๆ จุนไคไม่อยากจะเชื่อ
ช่างแตกต่างกับเลโอคนเก่าอย่างสิ้นเชิง ราวกับเป็นคนละคนกัน เขาอดคิดไม่ได้
นี่ถ้าเลโอรู้ว่าอดีตของตัวเองเป็นยังไง เจ้าตัวจะรับมันได้มั้ย
จุนไคกระชับแจ็คเกตที่ใช้ห่มแทนผ้าห่มให้คนตัวเล็กแน่นยิ่งขึ้น
เพื่อเพิ่มความอบอุ่น เลโอขยับตัวเล็กน้อยจนชายเสื้อเลิกขึ้นมา
จุนไคกำลังจะดึงเสื้อลงมาปิดไว้ แต่ก็ต้องหยุดชะงัก
แปลก?
ปิ๊นนนนน!!
เสียงบีบแตรจากคันหลังทำให้จุนไคเลิกมองเลโอ
เขารีบขับรถไปเมื่อถนนเริ่มโล่งแล้ว
ในขณะที่มือจับพวงมาลัย
สายตาก็ยังเหลือบมองมายังคนข้างๆ เมื่อกี้ที่เขาเห็นเอวของเลโอ
เขารู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ
อะไรที่มันคาใจเขา
มันคืออะไรกันนะ
**********
TBC.
ตอนที่4มาแล้ว ยาวไปมั้ย ในเวิร์ดตั้ง20หน้าแน่ะ
ก็เราไม่รู้จะตัดจบตรงไหน555
ตอนแรกตั้งใจว่าจะเขียนให้จุนไคแบดๆแต่ไหงกลายเป็นผู้ชายอบอุ่นซะได้
ส่วนเลโอ รำคาญมั้ย แหะๆ เราตั้งใจเขียนให้เป็นคนอ่อนแอ ไม่ทันคนเองแหละ
ส่วนตัวชอบเคะแบบนี้มันเลยเขียนออกมาเป็นแบบนี้ อย่าพึ่งเบื่อกันนะคะ
เรื่องสอบยังสอบไม่เสร็จ แต่จะไม่พูดแล้ว พูดไปก็เจ็บกระดองใจT_T
สำหรับฟิคเรื่องนี้ หวังว่าจะชอบกันนะคะ ใครอ่านก็เม้นท์บ้าง
#กราบบบ!!! คือ อยากมีคนคุยอ่ะค่ะ ว่าอ่านแล้วสนุกมั้ย
เอาล่ะไปแล้ว ตอนหน้ามีแววว่าจะร้องไห้อีก(อ๊ากกกกก!!!)
บอกไว้ก่อน ^^
ความคิดเห็น