คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter3
Chapter3
เพราะป่วยหนัก
เมื่อคืนจุนไคเลยต้องย้ายที่นอนมานอนกับเลโอ เผื่อเกิดอะไรขึ้นตอนกลางคืน
เขาจะได้ช่วยทัน จุนไคเอาที่นอนมาปูข้างๆเตียง ก่อนนอน เลโอจับมือเขาไว้
จนตอนนี้เช้าแล้ว เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมปล่อยมือเขา
อาการตอนนี้เลโอถือว่าดีขึ้นมากแล้ว ผื่นก็ลดลง
ตัวก็ไม่ร้อนเหมือนเมื่อคืน จุนไคแกะมือตัวเองออกช้าๆ กลัวว่าอีกคนจะตื่น
เขาต้องรีบลุกไปทำอาหารให้คนป่วยทาน แต่ก่อนจะออกไป
จุนไคหันมามองคนตัวเล็กอีกครั้ง ถึงตอนนี้จะอ่อนแอแค่ไหน
ซักวันก็ต้องกลับมาเป็นเลโอคนเดิมอยู่ดี ถึงตอนนั้น เขาจะยังรู้สึกรักและเป็นห่วงเหมือนตอนนี้มั้ยนะ?
หลังทานอาหารเช้าเสร็จ
จุนไคก็บอกให้เลโอไปนอนพักต่อ แต่เลโอไม่อยากนอนแล้ว เขานอนมาพอแล้ว
“ให้ฉันทำอย่างอื่นบ้างไม่ได้เหรอ
ให้ฉันนอนทั้งวันไม่ไหวหรอกนะ ฉันปวดหัว”
“แล้วนายจะทำอะไร?”
“ให้ฉันเดินเล่นได้มั้ย?” ถามอย่างกล้าๆกลัวๆ ถึงแม้ว่าเมื่อคืนจุนไคจะดูแลเขาเป็นอย่างดี
แต่เขาก็ไม่แน่ใจนักหรอก ว่าจะอารมณ์ดีแบบนั้นตลอดรึเปล่า
“ฉันให้นายดินได้รอบๆบ้านนี่แหละ
ห้ามออกไปข้างนอก” เพราะร่างกายที่ยังอ่อนแอ
จุนไคจึงเป็นห่วงถ้าเลโอต้องออกไปไกล
“ตกลง
ฉันไม่ออกไปไหนหรอก” คนตัวเล็กยิ้มร่า
“เดี๋ยวฉันจะออกไปธุระข้างนอกนะ
นายอยู่คนเดียวได้รึเปล่า” เลโอหุบยิ้มทันที
เขาไม่กล้าอยู่บ้านคนเดียว แต่ถ้าบอกว่าอยู่ไม่ได้ก็กลัวอีกฝ่ายจะรำคาญ
“ได้สิ
แล้วนายจะกลับมาตอนไหนเหรอ”
“คงจะเย็นๆโน่นแหละ อ้อ
มีโจ๊กคัพอยู่ในครัว นายกินเป็นมื้อเที่ยงไปก่อนนะ”
“อืม…”
จุนไคเลิกคิ้วเล็กน้อย
ทำไมเลโอดูแปลกๆ แถมคำพูดยังดูฝืนๆอีกต่างหาก
“ฉันจะไปแล้ว
อยู่บ้านดีๆล่ะ แล้วห้ามออกไปไหนเด็ดขาด” กำชับก่อนจะหยิบกุญแจรถออกไป
เลโอได้แต่มองตาม นี่เขาจะต้องอยู่บ้านคนเดียวจริงๆเหรอเนี่ย
ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่สบายใจที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว
แต่จุนไคก็ยังพูดว่าเขาจะไป เขาคิดว่าเลโอต้องพึ่งตัวเองซะบ้าง
หมอนั่นอ่อนแอเกินไปแล้ว ถ้าขืนเขายังดูแลอยู่แบบนี้ เดี๋ยวจะเคยตัวซะเปล่า
จุนไคขับรถมาถึงหน้าคอนโดของเพื่อน
ก่อนจะโทรตาม
“กูอยู่หน้าคอนโดมึงแล้วนะ”
“ไอเหี้ย เช้าชิบหาย”
ฟังเสียงงัวเงียแบบนี้ก็รู้ว่าพึ่งตื่น
ทั้งๆที่เป็นคนนัดเขามาแท้ๆ
“มึงเร็วๆเลยนะไอ้หานโจว”
“มึงก็ขึ้นมารอบนห้องดิวะ”
พูดจบก็วางสายไป จุนไคจึงต้องเดินขึ้นไปบนห้อง
นี่เป็นคอนโดของหานโจว
หานโจวเองก็ไม่ชอบกลับบ้าน เขาบอกว่าที่บ้านคนเยอะ น่ารำคาญ แต่จุนไครู้ว่าเหตุผลจริงๆน่ะ
คือบ้านมันเอาผู้หญิงไปกกไม่ได้ต่างหาก
อย่างวันนี้
ตอนที่เดินเข้ามา เขาก็สวนกับผู้หญิงท่าทางเซ็กซี่คนนึง
ที่ดูจะอ่อนเพลียจากการบรรเลงบทรักเมื่อคืน จุนไคก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ทั้งๆที่ชีวิตหมอนั่นดีขนาดนั้นแท้ๆ บ้านก็รวย หน้าตาก็ดี
แต่กลับไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน เปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ
“ลูกค้าของพ่อมึงที่นัดไว้
เค้าเป็นคนยังไงวะ” ระหว่างขับรถ จุนไคอดไม่ได้ที่จะถาม
เพราะธุระของวันนี้คือการไปพบลูกค้าแทนพ่อของหานโจว
“ก็เห็นว่าเป็นคนใหญ่คนโต
ถึงได้ให้มึงกับกูไปคุยไง”เพราะปกติจะเป็นลูกน้องของพ่อที่เป็นคนไปคุยกับลูกค้า
แต่นี่เห็นว่าเป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่ จึงต้องให้ลูกชายเจ้าของบริษัทไปคุยแบบนี้
ระหว่างที่รถติดไฟแดง
จุนไคหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนจะโทรออก
“ไอ้เสี่ยวหยาง
มึงตื่นรึยัง”
“เออ
กูตื่นเมื่อกี้แหละ มึงโทรมาทำไมแต่เช้าวะ”
จุนไคเหลือบมองนาฬิกา
12.30น. ...
“มึงไปบ้านกูหน่อย
เอาไอ้หมิงเทาไปด้วย”
“ไปทำไมวะ?”
“ไปดูคนให้กูหน่อย
วันนี้กูไม่อยู่บ้าน แค่นี้นะ”
จุนไครีบวางสายเมื่อเห็นว่าไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว
นี่ก็เที่ยงแล้ว ไม่รู้ว่าเลโอจะกินข้าวหรือยัง จะป่วยอีกรึเปล่า ถึงตัวเขาจะไม่อยู่
แต่ใจก็อดห่วงไม่ได้ ถึงได้บอกให้เพื่อนไปดูแลแทน
“หึๆ
เป็นห่วงกันจริงๆเลยนะ” หานโจวว่าขำๆ
จุนไคเลือกที่จะโทรไปบอกเสี่ยวหยางว่าเลโออยู่บ้านคนเดียว
ตอนที่อยู่ในรถแล้ว เพราะจะได้เป็นการล็อคตัวหานโจวไว้
ไอ้นี่แหละ ไว้ใจไม่ได้ที่สุด!
เลโอประหลาดใจเล็กน้อยที่เสี่ยวหยางกับหมิงเทามาหา
ทั้งๆที่บอกไปแล้วว่าจุนไคไม่อยู่บ้าน แต่ก็ดีใจเหมือนกัน ที่มีคนมาอยู่เป็นเพื่อน
“แล้วมันได้บอกรึเปล่าว่าจะกลับมากี่โมง”
หมิงเทาถามในขณะที่นั่งดูทีวีอยู่
“คงประมาณเย็นๆนั่นแหละ
พวกนายเบื่อรึเปล่า กลับไปก่อนก็ได้นะ” เลโอตอบอย่างเกรงใจ
ทั้งหมิงเทาและเสี่ยวหยางมองหน้ากัน เลโอดูจะเกรงใจพวกเขามากๆ
“พวกเราไม่กลับหรอก
อยู่เป็นเพื่อนนายนี่แหละ ว่าแต่ อีกตั้งนานกว่าหมอนั่นจะกลับ
แล้วพวกเรา...จะทำอะไรกันดีล่ะ” เสี่ยวหยางถามด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์
โป๊ก!
หมิงเทาจึงเขกหัวเพื่อนตัวดีไปหนึ่งที
“มึงคิดอะไรวะ”
“คิดอะไร!
กูหมายถึงพวกเดินเล่น ดูหนัง ฟังเพลงไปโน่น มึงนั่นแหละคิดอะไร
แล้วยังมาเขกหัวกูอีก” เสี่ยวหยางลูบหัวตัวเองป้อยๆ
มองค้อนเพื่อนที่คิดไปไกล
เลโออดยิ้มออกมาไม่ได้
อย่างน้อยสองคนนี้ก็นิสัยดี แถมยังดูตลกอีกด้วย เห็นแบบนี้เขาก็ไม่อึดอัดแล้ว
“อยู่เฉยๆมันก็น่าเบื่อนะ
เราน่าจะหาอะไรเล่นกัน”เลโอเสนอ แววตาเป็นประกาย
“ฮ่าๆๆ
ฉันไม่ใช่เด็กห้าขวบนะ จะให้เล่นอะไร” เสี่ยวหยางถึงกับหัวเราะออกมา
เมื่ออีกฝ่ายชวนเขาเล่นเหมือนเด็กๆ
“ไม่ต้องเล่นอะไรทั้งนั้นแหละ
นายพึ่งออกจากโรงพยาบาล แถมเมื่อคืนก็ป่วย จะมาเล่นอะไรได้ยังไง
นี่ถ้าไอ้จุนไคมันรู้นะ มันเอาพวกฉันตายแน่” หมิงเทาพูดเรียบๆ
“เอ๋
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับจุนไคด้วยล่ะ”
“เกี่ยวสิ
ก็มันบอกให้พวกฉันสองคนมาอยู่ดูแลนาย ถ้าเกิดนายเป็นอะไรขึ้นมา พวกฉันก็แย่สิ”
คำพูดของหมิงเทาทำให้คนตัวเล็กค่อยๆยิ้มออกมา
นี่แสดงว่าจุนไคเป็นห่วงเขาสินะ ถึงจะทำเป็นไม่สนใจ ปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียว
แต่ก็ยังให้เพื่อนมาดูแล แค่คิด หัวใจดวงน้อยก็พองโตอย่างประหลาด
เขารู้สึกหวิวๆในท้อง เหมือนมีผีเสื้อบินอยู่นับร้อยตัว
นี่เขาตกหลุมรักหวังจุนไคเหรอเนี่ย แต่คงจะไม่แปลกหรอก ก็เคยเป็นแฟนกันนี่นา
“ยิ้มกว้างเชียวนะ”หมิงเทาอดแซวไม่ได้ เมื่อเห็นเลโอยิ้มอยู่คนเดียว
“ป...เปล่านะ
ฉันก็แค่...” เลโอพูดติดๆขัดๆ ใช่ เขากำลังเขินนั่นแหละ
เคร้ง!
“ฮ่าๆๆ นายแพ้แล้วเลโอ”
เสี่ยวหยางหัวเราะเยาะเย้ย ตอนนี้พวกเขากำลังเล่น ‘ตึกถล่ม’ กัน และเมื่อกี้เลโอก็เป็นคนทำล้ม
ร่างเล็กหน้ามุ่ย
“โธ่ อีกนิดเดียวเอง” เลโอโอดครวญ เมื่อกี้เขาแทบไม่ได้หายใจ แต่แค่ลบพัดวูบเดียวเท่านั้น
ไม้มันก็ร่วงลงมาทันที
“ไม่ต้องเลย
มาโดนทำโทษซะดีๆ” เสี่ยวหยางกระดิกนิ้วเข้าหาตัวเอง
เมื่อเลโอเข้ามาใกล้ ก็ดีดหน้าผากไปที่นึง
“เล่นอะไร
ปัญญาอ่อนชะมัด” หมิงเทาพูดเบาๆ เขากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่
ทั้งเสี่ยวหยางและเลโอหันไปมอง
“เหอะๆ
มีสาระจังนะมึง อ่านออกด้วยเหรอวะ” เสี่ยวหยางตอกกลับอย่างหมั่นใส้
ถ้าให้เขาอยู่เฉยๆก็คงจะน่าเบื่อตายเลย เลยหาอะไรมาเล่นกับเลโอ ทั้งหมากรุก
เกมกระดาน บิงโก
แต่ก็ถูงหมิงเทาว่าว่าปัญญาอ่อนทุกที
“ฉันเบื่อแล้ว
นายเบื่อรึยัง” เลโอถามขึ้น จะไม่ให้เบื่อได้ยังไง
เล่นมาสามรอบ ก็แพ้สามรอบ โดนดีดหน้าผากจนระบมไปหมดแล้ว
“ไม่เล่นก็ไม่เล่น
งั้นเก็บเถอะ” เสี่ยวหยางกับเลโอจึงช่วยกันเก็บทำความสะอาด
“หกโมงแล้ว
กูต้องกลับแล้วว่ะ มึงจะกลับรึยัง”หมิงเทาหันมาถามเสี่ยวหยาง
พลางมองนาฬิกา
“แล้วเลโอล่ะ”
เสี่ยวหยางถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรๆ
ฉันอยู่ได้ ถ้าพวกนายจะกลับก็กลับเถอะ” เลโอรีบพูดทันที
ทั้งสองคนมาอยู่เป็นเพื่อนเขานานแล้ว อีกไม่นานจุนไคก็คงจะกลับแล้ว
“แน่ใจนะ
งั้นพวกฉันสองคนคงต้องกลับล่ะ วันนี้ฉันสนุกมากเลย นายเล่นอะไรอย่างกับเด็กๆ
ไอ้ของเล่นพวกเนี้ย เมื่อก่อนไม่มีคนเล่นกับฉันหรอกนะ นายเองก็บอกว่ามันไร้สาระ” เสี่ยวหยางพูดขึ้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนเลโอคงไม่ยอมเล่นกับเขาหรอก
แต่เลโอคนใหม่กลับเป็นคนชวนเขาเล่นเอง
“งั้นเหรอ
งั้นวันหลังเรามาเล่นด้วยกันใหม่นะ ฉันจะเอาชนะนายให้ได้เลย” เลโอพูดอย่างอารมณ์ดี ทั้งสองคนบอกลาก่อนจะออกไป
เลโอหันมามองนาฬิกา
หวังจุนไค...
เมื่อไหร่จะกลับมาซักทีนะ
“ฟู่! เหนื่อยชะมัด” หานโจวถึงกับถอนหายใจเมื่อเสร็จธุระ
ใครจะไปคิดว่าลูกค้าของพ่อจะเรื่องมากขนาดนั้น ยื่นข้อเสนออะไรก็ไมเห็นด้วย
จะเอาแต่ตัวเองได้ผลประโยชน์ฝ่ายเดียว สุดท้ายหานโจวที่ทนไม่ไหว
เลยลุกหนีออกมาโดยไม่สนใจคำตะโกนไล่หลัง เขาไม่สนใจหรอกว่าพ่อเขาจะว่ายังไง
และถ้ายังอยากทำงานกับคนพรรค์นั้นอยู่อีก เขาก็คงจะไม่ว่าอะไร
ปล่อยให้มาคุยกันเอาเอง
“ไปกินเหล้ากัน”
หานโจวเอ่ยชวน เขาชอบกินเหล้า เข้าผับตอนกลางคืน
และมักจะชวนเพื่อนไปด้วย ยิ่งเวลาเครียดๆ การดื่มเหล้าจะทำให้เขาสบายใจ
“กูจะกลับแล้ว”
ในเมื่อธุระของเขาเสร็จแล้ว ก็ควรกลับไปดูแลคนที่บ้านซักที
“มึงจะรีบไปไหนวะ
บ้านมันไม่หนีไปไหนหรอก หรือมึงกลัวคนที่บ้านมึงหนี”หานโจวพูดแทงใจดำ
แต่จุนไคไม่สะทกสะท้าน
“ไปเป็นเพื่อนกูแค่แป๊บเดียว
หรือมึงไม่เห็นกูเป็นเพื่อนแล้ว” จุนไคถอนหายใจ
เขาเบื่อกับข้ออ้างนี้แล้ว เขากับหานโจวเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ
จนพ่อของหานโจวเห็นเขาเป็นลูกอีกคนแล้ว จุนไคคอยช่วยงานที่บริษัทบ่อยๆ
แถมพ่อของหานโจวยังให้เงินเดือนเขาอีก หานโจวจึงชอบยกบุญคุณนี้มาเป็นข้ออ้าง
แต่ก็ไม่ได้จริงจังนักหรอก ก็เห็นใช้วิธีนี้ทีไร จุนไคก็ยอมทุกที
“เออ กูไปกับมึงก็ได้
แป๊บเดียวนะ เดี๋ยวไปเอารถที่คอนโดมึงก่อน กูจะได้ขับกลับเลย”
ตอนนี้ทั้งคู่ยืนอยู่ที่หน้าผับของหานโจว
พ่อของเขาเป็นคนลงทุนให้ แล้วให้เขาดูแลเอาเอง
เมื่อมาถึงทั้งคู่ก็สามารถเข้าไปที่ชั้นวีไอพีได้ทันที
หานโจวเรียนบริหาร
แต่เขาแทบไม่เข้าเรียนเลย ก็พ่อของเขารวยซะขนาดนั้น แถมตอนนี้เขาก็มีธุรกิจแล้ว
เขาไม่เห็นความสำคัญว่าไปเรียนภาคทฤษฎีอีกทำไม
เมื่อมาถึงก็มีเด็กเสิร์ฟเอาเหล้ามาให้ พร้อมกับผู้หญิงอีกสองคน พวกหล่อนมาคลอเคลียชายหนุ่มทั้งสองทันที หานโจวประกบปากกับหล่อนอย่างรำคาญ ส่วนจุนไค
“นั่งเฉยๆไม่ได้รึไง”
จุนไคพูดอย่างรำคาญ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ชอบ
ไม่ได้มีอารมณ์อย่างว่าเลยซักนิด หญิงสาวหงุดหงิดเล็กน้อย
ปกติไม่เคยมีผู้ชายปฏิเสธเธอหรอกนะ
“นายชื่ออะไรเหรอ”เมื่อเห็นว่าฝ่ายชายไม่เล่นด้วย เธอจึงชวนคุย
“ถามทำไม” จุนไคตอบเสียงเรียบ ตอนนี้เขาเริ่มมึนนิดหน่อย
ไม่อาจบอกได้ว่าเป็นเพราะเหล้าหรือดนตรีที่เปิดเสียงดังลั่น หรือทั้งสองอย่าง
“แหม เย็นชาจังนะ
ก็แค่ถามชื่อเอง” เธอตอบยิ้มๆ สนใจจุนไคอยู่ไม่น้อย
แต่ดูท่าแล้วถ้าจู่โจมเลยจุนไคคงคงไม่เล่นด้วยแน่ จึงต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป
ตอนนี้จุนไคเวียนหัวมาก
ทั้งๆทีปกติเขาคอแข็งจะตาย ไอ้หานโจวมันเอาอะไรให้เขากินเนี่ย!
“เอาเหล้าเพิ่มมั้ย
เดี๋ยวฉันทำให้”หญิงสาวเสนอเมื่อเห็นว่าแก้วของหวังจุนไคหมดแล้ว
เขาทำได้แต่พยักหน้า รู้สึกหนักหัวชอบกล จุนไคพยายามมองหาหานโจว แต่ก็ไม่เห็นเลย
คงจะไปต่อกับผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ
“เอ้านี่ ของนาย”
ยื่นแก้วให้ก่อนจะนั่งลงข้างๆ
“ฉันชื่อคริสตัล
นายล่ะ”
“จุนไค”
“ชื่อน่ารักจัง
นายอายุเท่าไหร่เหรอ”
“สิบเก้า”
หญิงสาวเลิกคิ้วเล็กน้อย
สิบเก้าเองเหรอ?
“งั้นเหรอ เด็กจัง”
จุนไคฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
เขารู้สึกง่วงมากๆ ไม่มีแม้แต่แรงจะเงยหน้าขึ้น คริสตัลมองดูผลงานตัวเอง
เหล้าผสมยานอนหลับนี่มันแรงจริงๆ
“นี่
ไปนอนห้องฉันดีกว่ามั้ย เด็กน้อย”
มือเรียวลูบไล้ไปทั่วใบหน้า จุนไคไม่มีแรงต่อต้านใดๆทั้งสิ้น
หญิงสาวจึงประคองจุนไคมาที่รถของเขาก่อนจะขับออกไปที่ห้องเธอ
ห้าทุ่มแล้ว...
เสี่ยวหยางกับหมิงเทากลับไปแล้ว
เลโอบอกให้พวกเขากลับ เพราะคิดว่าอีกไม่นานหวังจุนไคก็จะกลับมา
แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แวว เลโอรู้สึกใจหวิวๆ ขอบตาเริ่มร้อนๆ
ทำไมจุนไคถึงยังไม่กลับมานะ จะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า หรือว่าเกิดอุบัติเหตุ
เลโอจำได้ว่ามีเบอร์โทรศัพท์จุนไคอยู่ในลิ้นชักบนห้อง
จึงรีบขึ้นไปเอาทันที
มือบางกดปุ่มโทรศัพท์บ้านพลางคิดไปต่างๆนาๆ
ถ้าคนที่รับไม่ใช่จุนไคล่ะ ร่างเล็กรอสายด้วยใจระทึก แล้วก็มีคนรับ
“ฮัลโหล” เสียงผู้หญิง?
“เอ่อ จุนไคเค้า...”
“หือ? หมอนั่นน่ะเหรอ นอนอยู่ข้างๆนี่แหละ มีอะไรรึเปล่า”
“เอ๋? คุณเป็นใคร” เลโอถามอย่างแปลกใจ
ทำไมถึงได้บอกว่าจุนไคนอนอยู่ข้างๆล่ะ
“ฉันเหรอ
ไม่ต้องสนใจหรอกน่า แค่คู่นอนเท่านั้นแหละ หมอนี่เวลาหลับน่ารักชะมัด เด็กน้อย~”
ปลายสายเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง เธอเมาแน่ๆ
“คู่นอน งั้นเหรอ...”เลโอพึมพำเบาๆ พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น
“คืนนี้เค้านอนกับฉันนะ
บอกที่บ้านให้ด้วย แค่นี้แหละ” พูดจบก็วางสายไป
เลโอยังคงถือโทรศัพท์ค้างไว้อย่างนั้น
น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลออกจากดวงตาคู่สวยช้าๆ
ก่อนที่ขาจะทรุดลงกับพื้น
อีกแล้ว...
จุนไคทำให้เขาร้องให้อีกแล้ว ทำไม ไหนสัญญาว่าจะรีบกลับมา แล้วทำไมไปนอนกับคนอื่น
ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บ
เจ็บเหมือนหัวใจถูกบีบ เพราะรักมาก ถึงได้เสียใจแบบนี้ไง
หรือจะเป็นเพราะอดีตของเขาเคยทำร้ายจุนไค ตอนนี้จุนไคถึงได้เอาคืน
ดูเหมือนตอนนี้ความรักของจุนไคจะลดน้อยลง
แต่ความรักที่เลโอมีให้ กลับมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น
ปวดหัว!
นี่คือสิ่งที่คิดได้เมื่อตื่นขึ้นมา
ชายหนุ่มปรือตามองไปรอบๆ ทำไมห้องเขามันแปลกๆนะ?
จุนไคเด้งตัวขึ้นมา
นี่มันไม่ใช่ห้องของเขานี่!
ร่างสูงกวาดสายตาไปรอบๆห้องก่อนจะหยุดอยู่ที่ระเบียง
ที่มีผู้หญิงผมสีน้ำตาลดัดลอนยืนสูบบุหรี่อยู่
ผู้หญิงคนเมื่อคืน
“นี่มันเรื่องอะไรกัน
ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่!” จุนไคลุกขึ้นถามเสียงเข้ม
แต่คริสตัลไม่กลัวเลยซักนิด
“จะโวยวายทำไมห๊ะ
นายเป็นผู้ชายนะ ก็แค่เมื่อคืนนายเมามาก ฉันถึงได้พากลับมาที่ห้องนี่ไง
ขอบคุณซักคำก็ไม่มี”พูดด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น
จุนไคมองหญิงสาวที่นุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
“แล้วเธอทำอะไรฉันรึเปล่า”
“หือ? ว่าไงนะ”
“ฉันหมายถึง ฉันกับเธอ
ทำอะไรกันรึเปล่า”
“อ๋อ ทำสิ สนุกมากด้วย”ตอบพร้อยมกับยิ้มกวนๆ จุนไคดูจะตกใจไม่น้อย นี่เขาเมามากถึงขนาดไม่มีสติ
จำไม่ได้เวลา ทำ กันเลยเหรอ ชักจะหนักไปแล้วนะ
“ฮ่าๆๆ
ทำหน้าอย่างกับถูกพรากพรหมจรรย์อย่างนั้นแหละ ฉันล้อเล่นหรอกน่า นายน่ะอ่อนชะมัด
มาถึงก็หลับเป็นตายเลย ฉันพยายามปลุกแล้วนะ แต่นายก็ยังไม่ตื่น”
แหงล่ะ
ทั้งเหล้าทั้งยานอนหลับขนาดนั้น ถ้าตื่นได้ก็เทพแล้ว แต่ถ้าขืนบอกความจริงไป
ตัวเองก็เสี่ยงต่อการโดนกระทืบเหลือเกิน เพราะฉะนั้น แถๆไปนั่นแหละดีแล้ว
จุนไคมองคนตรงหน้าอย่างกับจะฆ่าให้ตาย
มาล้อเล่นเรื่องแบบนี้ได้ไง
“เอากุญแจรถมา”
“อยู่บนโต๊ะ อ้อ! จ่ายเงินให้ฉันด้วย”
จุนไควางเงินไว้บนโต๊ะจำนวนหนึ่ง
ถึงเขาจะไม่ได้ทำอะไรเธอ แต่ถ้าไม่ให้ อีกฝ่ายก็คงจะเอาให้ได้
ดังนั้นเขาจึงให้ไปเลยดีกว่า จะได้ตัดปัญหา
“นายไม่ต้องรีบก็ได้นะ
เมื่อคืนฉันบอกคนที่บ้านนายให้แล้วว่านายนอนกับฉัน
คริสตัลนั่งไขว่ห้างพูดด้วยท่าทางสบายๆ
คนที่บ้าน?
“ใคร?” จุนไคถามเสียงเรียบ แต่ในใจภาวนาให้ไม่ใช่คนที่เขาคิด
“ไม่รู้สิ
เมื่อคืนมีเบอร์บ้านโทรมา เป็นเสียงผู้ชาย ฟังดูหงอยๆยังไงไม่รู้ น้องชายนายรึเปล่า”
จุนไครู้สึกเหมือนตกลงมาจากที่สูง
เลโอโทรมาสินะ ก็เมื่อวานเขาเป็นคนบอกเองว่าจะรีบกลับ แต่กลับมานอนกับคนอื่นแบบนี้
“บ้าเอ๊ย!” สบถออกมาก่อนจะรีบวิ่งออกไป
เขามันโง่ชะมัด
ทั้งเรื่องเรียนหรือกีฬา เขาก็ไม่เคยแพ้ใคร แต่กลับมาถูกมอมเหล้าง่ายๆ ป่านนี้เลโอจะเป็นยังไงบ้าง
อาการป่วยจะหายดีรึยัง แล้วเมื่อคืนจะอยู่บ้านคนเดียวได้ยังไง
จุนไคคิดไปต่างๆนาๆ
เขาขับรถเหมือนคนบ้า อารมณ์เสียทุกครั้งที่รถติดไฟแดง
จิตใจมัวพะวงอยู่กับคนตัวเล็กที่บ้าน
เมื่อมาถึง
จุนไคก็รีบตามหาทันที
“เลโอ!!!” ก่อนจะพบว่าคนที่ตามหาอยู่ในครัว
เลโอพึ่งล้างจานเสร็จ...
จุนไคหอบแฮ่ก
เขาเดินตรงไปหาเลโออย่างรวดเร็ว เมื่อมองหน้าใกล้ๆ ก็เห็นว่าร่างเล็กตาบวมมาก
แถมยังแดงอีกต่างหาก เห็นแบบนี้จุนไคก็รู้สึกผิดขึ้นมา
“เมื่อคืนฉัน...”
จุนไคยังพูดไม่ทันจบแต่เลโอก็ทำท่าจะเดินออกไปก่อน
ร่างสูงดึงแขนบอบบางกลับเข้ามา
เขาไม่ปล่อยไปหรอก!
“นายจะไปไหน! ไม่เห็นเหรอว่าฉันพูดอยู่!” จุนไคพูดเสียงดังจนเลโอสะดุ้ง
“ฉันต้องฟังด้วยเหรอ
นายจะทำอะไรมันก็เรื่องของนายสิ!” ตัดพ้ออย่างน้อยใจ
“นี่เลโอ อย่ามางี่เง่าได้มั้ย”
งี่เง่า เหอะ! เขามันงี่เง่าจริงๆนั่นแหละ ทำอย่างกับว่าอีกฝ่ายจะมาง้อเขาอย่างนั้นแหละ
เลโอพยายามแกะมือจุนไคออก
แต่มือหนาก็จับมันไว้แน่น ก่อนจะดันให้อีกฝ่ายติดผนังทันที
“ฟังฉัน ห้ามหนีไปไหน”
จุนไคใช้แขนทั้งสองข้างยันกำแพงไว้เพื่อกันไม่ไห้เลโอหนี
“เมื่อคืน...นายนอนกับใคร”
จุนไคก็ยังเป็นจุนไค คนที่ปากไม่ตรงกับใจ
แม้จะเป็นห่วงแค่ไหนแต่เขาก็ไม่แสดงออกมา เขาไม่อยากขอโทษ
เพราะมันเหมือนกับว่าเขาเป็นคนผิด
“คนเดียว” เลโอก้มหน้าตอบ กำลังซ่อนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียใจ
“แล้วนาย...นอนได้รึเปล่า”
“อืม”
จุนไคถอนหายใจ
ทำไมมันถึงได้พูดยากอย่างนี้นะ แค่ขอโทษเอง เขากลัวอะไรอยู่ กลัวใจตัวเองรึไง จุนไคคิดก่อนจะอธิบายสิ่งที่อยากพูดออกมา
“เมื่อคืน
ฉันขอโทษนะที่ไม่กลับมา เพราะว่าฉันเมามาก เลยต้องไปค้าง...บ้านเพื่อน” จุนไคเลือกที่จะใช้คำว่าเพื่อน เผื่อจะทำให้เลโอสบายใจขึ้น
“ฮึก!” เสียงสะอื้นที่พยายามกลั้นไว้ดังออกมา
ไหล่น้อยๆนั่นสั่นไหวจนจุนไคต้องเลื่อนมือไปโอบไว้
ก่อนจะดึงคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอด
“ร้องไห้อีกแล้วนะ”
พูดพลางลูบหัวคนตัวเล็ก เขาไม่ชอบเลยเวลาเห็นน้ำตาของเลโอ
“ทำไมนายปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวล่ะ
นายไม่ ฮึก! เป็นห่วงฉันบ้างเหรอ” ถามไปก็เจ็บไป
นี่เขายังหวังให้อีกฝ่ายมาเป็นห่วงอีกเหรอ
แต่จุนไคไม่ปฏิเสธเลยซักนิดว่าเป็นห่วงอีกคนมากแค่ไหน
เขาคลายกอดออกก่อนจะประคองให้เลโอเงยหน้าขึ้นมา แล้วจูบซับน้ำตาให้คนตัวเล็ก
สัมผัสที่แผ่วเบา
และนุ่มนวล
ใบหน้าขาวนวลขึ้นสีแดงระเรื่อทันทีราวกับลูกตำลึงสุก
“เงียบเถอะนะ” จุนไคพูดพร้อมกับยิ้มน้อยๆ เลโอหน้าร้อนฉ่า ถึงแม้จะมองไม่เห็นมัน
แต่เขาก็รู้ว่าหน้าตัวเองต้องแดงมากแน่ๆ
มือบางเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ ก่อนจะดันคนตัวสูงออก
“นายไปอาบน้ำก่อนเถอะ
กลิ่นเหล้าหึ่งเลย” เลโอรีบไล่ให้จุนไคไปอาบน้ำ
แต่ไม่ยอมสบตาเขาเลย
จุนไคลอบยิ้ม เห็นท่าทางแบบนั้น
อยู่ๆก็นึกอยากแกล้ง
“จริงเหรอ ไหนดูอีกทีซิ” ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนอีกฝ่ายตั้งตัวไม่ทัน เลโอเกือบจะเสียหลักล้มลงไปแล้ว
แต่จุนไคก็ช่วยไว้ซะก่อน มือหนารั้งเอวบางเข้ามาหาตัว จนตอนนี้
หน้าของทั้งคู่ห่างกันไม่ถึงคืบ
เลโออ้าปากค้าง เขินจนทำอะไรไม่ถูก
“ว่ายังไง
ยังได้กลิ่นอยู่รึเปล่า” เข้าไปใกล้อีกจนเลโอต้องเอามือบังไว้
“พะ...พอเถอะ
นายไปอาบน้ำเถอะ” หน้าทั้งหน้าแดงไปจนถึงใบหู
จุนไคยอมปล่อยคนตัวเล็กให้เป็นอิสระ เขามองดูเลโอที่ก้มหน้างุด
ซ่อนอาการเขินสุดขีดไว้ มันช่างน่ารักจริงๆ
ดูเหมือนว่าจุนไคจะตกหลุมรักเลโออีกครั้งซะแล้ว
**********
TBC.
มาอัพอีกแล้วค่ะ หวังว่ายังไม่ลืมกัน(เดี๋ยวๆ พึ่งสองวันมั้ย?) ตอนนี้อาจจะไม่ค่อยลื่นไหล สารภาพว่าพยายาม ยัด เข้ามาค่ะ แต่พอมาอ่านดู อ้าวเฮ้ย! ร้องไห้สองตอนรวดเลยนี่หว่า ตอนหน้าไม่ร้องไห้แล้วค่ะ สัญญา
เราสอบยังไม่เสร็จค่ะ แต่ก็มาอัพให้ก่อน รู้สึกว่ารีดจะเดากันหลายคนเลย โถถถถถถ พึ่งจะสองตอนเอง ใจเย็นๆก่อนสิคะ ส่วนเรื่องหานโจวที่ว่าจะเปิดศึกชิงนายกับจุนไค หึๆ!(ยิ้มมุมปาก) เค้าเป็นเพื่อนกัน เค้าไม่แย่งกันหรอกค่ะ แต่นายเอกของเราน่ารักขนาดนี้ มีคนชอบตั้งเยอะ ไล่ไปตั้งแต่พระเอก เพื่อนพระเอก ดาวร้ายรายทาง และพระรองผู้แสนดี...
คู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกับจุนไคยังไม่ออกค่ะ แต่หล่อกว่าแน่นอน555 เรายังเทใจให้เลย เดาได้เลยใช่มั้ยคะ(เดาไม่ออกก็อย่าพยายามค่ะ เดี๋ยวหมดสนุก) อยากจะบอกว่าเราอ่านคอมเม้นท์แล้วยิ้มเป็นบ้าอยู่คนเดียว^.^ ถึงมันจะแค่สิบกว่าเม้นท์ก็เถอะ ที่เราอยากจะบอกก็คือ คอมเม้นท์ถือเป็นยาชูกำลังสำหรับเราเลยนะคะ^^ เอาล่ะ ไปแล้ว
ปล.ขอเล่าเรื่องนิดนึง คือระหว่างที่เรากำลังแต่งนิยายในโทรศัพท์อย่างเมามัน จะจบตอนแล้วค่ะ ไปคลุมดำจะ copy แต่ดันกด delete
ฟึ่บ! ตัวอักษรแปดพันสองร้อยสามสิบเก้าตัวอันตรธานหายไปในพริบตา เหลือเพียงแต่ความว่างเปล่ากับเสียงหัวใจที่แตกสลาย
หึๆ ช่วยไว้อาลัยให้กับความโง่ของเราด้วยค่ะ 555#ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่ สรุปเลยต้องแต่งไหม่ตั้งนาน ชีวิต ดี๊ดี!
ความคิดเห็น