ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Conservator of ALEPPO ผู้พิทักษ์แห่งอาเลปโป

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 54


     บทนำ

                    ซานฟานซิสโก แถบ Alamo square บ้านสไตล์วิกตอเรียกว่า 1900 หลัง นี่คือที่ตั้งของบ้านฉันเอง
    ฉัน อาเรียน่า อะเล็ทต้า อายุ
    18 ปี ขาว สูง ผมสีน้ำเงินเงาวับ ใบหน้าหวาน ตาโตสีน้ำตาลเข้ม ปาเล็กๆสีชมพูอ่อน หุ่นเพรียว อกเป็นอก เอวเป็นเอว บ้านรวยมหาศาล สรุปคือทุกอย่างมันลงตัว แหม..ฉันนี่มันเหมือนนางฟ้าชัดๆ

                    ฉันเป็นคนเอาแต่ใจ ใจร้อนบ้าง อะไรบ้างนิดๆหน่อย แต่อย่างว่าฉันมันสวยและรวยมาก ใครจะกล้าปฎิเสธฉันหละจริงไหม

                    วันนี้ฉันออกมาพักผ่อนกับน้องชายสุดรักที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนสีขาวจั๊วะ พอพูดถึงน้องชาย หมอนั่นก็เดินมาทันที แหม...ตายอยากจริงเชียว หมอนั่นเดินมาพร้อมกับกระป๋องน้ำอัดลม L&P .มายื่นให้ฉัน เขาชื่อ อาเทอร์ อะเล็ทต้า ดูเขาสิ หน้าตาหล่อ จมูกโง ตาสีเทา ผมดำขลับ ตัวสูง แหม...ช่างดูดีเหมือนฉันซะจริง

                    พี่ครับ เมื่อไรพ่อแม่จะกลับมาครับ อาเทอร์นั่งลงข้างๆฉัน

                    เห็นว่าอีกสองอาทิตย์นะ ทำไมนายคิดถึงหรอ

                    ก็นิดหน่อยนะพี่ อาเทอร์ถอนหายใจ

                    แหม ทำเป็นหงอยไป วันนี้พี่ไม่เห็นนายควงสาวเลย เอ..รึว่าสาวหนีไปหมดแล้ว

                    ไม่ควงที่ไหนหละ ก็วงสาวสวยที่ขึ้นชื่อว่า พี่สาวสุดน่ารัก ของผมอยู่นี่ไง อาเทอร์ว่าแล้วก็เอาแขนมารัดตัวฉันแน่น จนหายใจแทบไม่ออก แต่เมื่อมีเสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นอาเทอร์ก็ยอมปล่อยฉัน ฉันมองดูเบอร์งงๆ เพราะฉันไม่คุ้นเบอร์นี้เอาซะเลย ที่สำคัญมันไม่ใช่เบอร์ในอเมริกาแน่ ฉันมองหน้าอาเทอร์แล้วกดรับ

                    ฮัลโหล

                    สวัสดีครับ คุณอาเรียน่า อะเล็ทต้า ใช่ไหมครับ

                    เอ่อ ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าใครคะ

                    ผมโทรจากโรงพยายาบาลเวสซาเรีย ในไซบีเรียนะครับ คือพ่อแม่ของคุณประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกนะครับ ตอนนี้อาการสาหัสพอควร ได้ยินแค่นั้น ฉันถึงกับน้ำตาคลอ

                    โอ พระเจ้า... ฉันยกเอามือแนบอก อาเทอร์งงมากที่เห็นฉันท่าทีแบบนี้ เขาขวมดคิ้วมองฉันอย่างฉงน

                    ถ้าทางคุณสะดวก ผมอยากให้มาหาท่านด้วยนะครับ ปลายสายบอกแค่นั้นแล้ววางสายไปทันที ฉันมือสั่นจนทำโทรศัพท์หลุดจากมือ

                    พี่ครับ พี่เป็นอะไร อาเทอร์ถามฉันอย่างร้อนรน

                    พะ...พ่อแม่ ฉันพูดเสียงสั่น

                    พ่อ พ่อกับแม่เป็นอะไรครับพี่ อาเทอร์เขย่าแขนฉันจนตัวโยน

                    คะเครื่องบินตก ทะ ที่ไซบีเรีย

                    พระเจ้า!! ” อาเทอร์ปล่อยมือออกจากตัวฉัน เดินไปมาอย่างคนสติแตก ฉันพยายามตั้งสติให้มั่นคง

                    เรา เราต้องไปไซบีเรียเดี๋ยวนี้!” ฉันฉุดมืออาเทอร์แล้ววิ่งกลับไปที่บ้านเก็บข้าวของ แล้วหยิบสิ่งจำเป็นทุกอย่าง ตรงดิ่งไปที่ San Francisco International Airport  ทันที เราใช้เวลา 25 นาทีในการเดินทางมาที่แอร์พอร์ท และใช้เวลาบนเครื่องบินไป 18 ชั่วโมง เมื่อเราลงจากเครื่องเราคิดคิดจะสนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากโรงพยาบาลเวสซาเรีย ฉันมองแผนที่บนจอมอนิเตอร์ขนาดยักษ์ของสนามบินสายตากวาดไล่หาชื่อเวสซาเรีย เพียงไม่ถึง 2 วินาทีฉันก็เจอมัน แต่เอ๊ะ! โรงพยาบาลนี่มันอยู่ในซอกหลืบขนาดนั้นหากมองจากจุดที่ฉันยืนไปที่จอนั่น เห็นเพียงจุดเล็กๆเล็กประมาหัวของปากกาลูกลื่นเลยก็ว่าได้ โอ้พระเจ้า ฉันมองเห็นมันได้ไงเนี่ย? ฉันงงอยู่สักพักแล้วสะหัวไล่ความคิดบ้าๆ ก่อนจะหันไปหาอาเทอร์ที่ตั้งใจหาอย่างใจจดใจจ่อ

                    พี่ครับ เจอรึยัง อาเทอร์ถาม ทั้งๆที่สายตายังคงจ้องเขม็งไปที่มอนิเตอร์นั่น

                    เจอแล้ว ไปกันเร็ว อาเทอร์หันขวับมาหาฉันทันทีก่อนจะไปคว้าประเป๋าเดินทางทั้งสองใบวิ่งตามฉันมาทันที ผ่านไป 15 นาทีฉันและอาเทอร์ก็มาอยู่ที่โรงพยาบาล เรารีบลากกระเป๋าไปที่เคาเตอร์แล้วถามหาห้องพักของพ่อและแม่ เมื่อรู้ว่าห้องักอยู่ที่ไหน ฉันก็วิ่งไปทันที เมื่อเปิดประตูเข้าไปฉันแทบช็อค!! พ่อแม่เจ็บสาหัสมาก ผ้าผันแผลพันรอบกายยังกับมัมมี่ ฉันตาฉันไหลออกมาอย่าห้ามไม่อยู่อาเทอร์เข้าประคองฉันไว้ เขาพาฉันไปนั่งแล้วปลอบใจฉันสักพักจนน้ำตาฉันหยุดไหล เป็นเวลาเดียวกันที่มีร่างสูงใหญ่ของใครบางคนก้าวเข้ามาในห้อง เขาสวมโอเวอร์สีน้ำตาลเข้ม ผมสีขาวจั๊วะ ผิวขาวซีดจนไม่เหมือนคน ร่างนั้นค่อยๆก้าวเข้ามาหาเรา อาเทอร์ลุกขึ้นยืนบังฉันไว้ทันที

                    คุณเป็นใคร

                    เป็นใครเดี๋ยวฉันจะบอก แต่ตอนนี้ฉันจะบอกแค่ว่าฉันสามารถช่วยพ่อแม่เธอให้หายเป็นปกติได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน  ชายคนนั้นยืนกอดอก

                    ฮึ ขนาดหมอยังช่วยอะไรไม่ค่อยนาย คุณจะมาทำอะไรได้

                    อะไรกัน นายไม่เชื่อฉันเหรอ งั้นดูนี่สิ จู่ๆชายคนนั้นก็หายวับไปกับตา!! เราสองคนยืนอึ้ง ขณะที่อาเทอร์หันซ้ายหันขวาพยายามมองหาผู้ชายคนนั้น แต่ทันใดเขาก็มาปรกฏกายระหว่างเราสองคนแล้วดึงตัวฉันไปอย่างแรง

                    โอ๊ยยย!!” ฉันกรีดร้องลั่น อาเทอร์หันมาหาฉันอย่างรวดเร็ว

                    คุณจะทำอะไร !!” อาเทอร์ตะโกนถาม

                    ก็แบบนี้ไง ชายคนนี้ดึงแขนฉันแล้วเอามีดคมๆมากรีดที่แขน ฉันกรีดร้องลั่นสะบัดตัวไม่มาอย่างทรมาน เลือดสีแดงฉาดไหลออกมาทั่วแขนฉัน แตกหากไม่ทันไรชายคนนี้ก็วางมีดลงแล้วเอามือมาวางทาบที่แผลของฉัน จากนั้นก็เกิดแสงสีขาวสว่าง

                    วาบ!

                    แผลฉันหายวับไปทันที!!! เสียงฉันที่เคยกรีดร้องเหมือนถูกพลังแสงขาวๆนั่นกลืนหายไป ตอนนี้ฉันได้แต่เบิกตาโต นั่งตัวแข็งทื่อ ส่วนอาเทอร์ก็อยู่ในอาการที่ไม่ต่างกัน ชายคนนี้ปล่อยมือฉันแล้วเดินไปที่เตียงของพ่อ อาเทอร์เข้ามาพยุงฉัน เราสองคนมองไปหาเขาด้วยแววตาที่ไม่เชื่อ ว่าเขาคือคน...

                    เขาเอามือวางที่แขนของพ่อแล้วก็เกิดแสงสีขาวขึ้นอีกครั้ง แต่แสงนี่มันสว่างจนเราต้องเอามือปิดตาแทบจะทันที

                    วาบ!!

                    ผ้าที่เคยพันรอบๆตัวพ่อหายไป แผลทุกอย่างหายไปหมด และเขาก็หายไปด้วย!!! 


    ;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;
    . ฝากเม้นท์ 
    .ฝากติดตามผลงาน
    .ฝากทุกอย่างด้วยค่ะ (?) ^^ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×