ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกรักของนายจุ้น

    ลำดับตอนที่ #1 : การพบกันของยัยตัวร้าย

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 48


                               กี่ปีมาแล้วนะที่เธอจากผมไป เสียงของเธอยังดังก้องในโสตประสาทของผม ผมสามารถเห็นภาพเธอได้ชัดเลย

                   เด็กสาวธรรมดาๆคนนึง เธอมีผมสีน้ำตาลเข้ม มีดวงตาสีดำวาวสดใส เรื่องของผมเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น ที่รูปปั้นสุนัข

                   บ้านเกิดของผมเอง

                



                   5 ปีก่อน ณ จังหวัด P เวลา 5.13 น.

                              “ นี่นายน่ะรู้จักบ้านโคเท็สสึรึเปล่า “ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาถามผม ขณะที่ผมกำลังปั่นจักรยานกลับบ้าน

                   “ หา…เธอจะไปที่นั่นทำไมน่ะ “ ผมถามกลับไป เธอขมวดคิ้วและจ้องหน้าผม “ ไม่ใช่เรื่องของนาย ว่าไงนายรู้จักรึเปล่า

                   ถ้าไม่รู้จักฉันจะได้ไปถามคนอื่นต่อ “ เธอย้อนผม ผมคิดอยู่ในใจว่า ผมไม่ค่อยถูกชะตากับยัยผู้หญิงนี่เลย “ ทำไมฉัน

                   จะไม่รู้จักล่ะ ก็มันบ้านฉันนิ “ ผมตอบกลับหัวเสีย “ อ้าว…แลัวจะยืนหาสวรรค์วิมานอะไรก็พาฉันไปบ้านนายดิ “ เธอตอบ

                   กลับมาอย่างหน้าตาเฉย โหอย่างนี้ก็มีด้วยจะไปบ้านคนอื่นเค้า ยังมาว่าเค้าอีกผู้หญิงอะไรกันเนี่ย “ อ้าวจะยืนหัวโด่อะไร

                   อยู่อีก รีบเข้าสิ หรือว่าจะให้ฉันนำทางไปหาว่าไง “ เธอตะโกน เรียกผมแล้วยังยึดจักรยานผมไปขี่อีก โหยอะไรจะขนาด

                   นั้น “ เอ๊ะ..ยังไม่ได้ถามชื่อนายเลยชื่ออะไรน่ะ “ เธอตะโกนถามผม ขณะที่เธอให้ผมวิ่งไล่จักรยานของผมที่เธอขี่ “ ฉัน..

                   ชื่อ..ทากิ.. ” ผมตะโกนด้วยเสียงแหบแห้ง “ ชื่อนายห่วยจริงๆเลยนะ ฉันชื่อ เอกะ ทาสึกิ เอกะ “ เธอบอกแถมยังด่าผม

                   อีกถามชื่อคนอื่นแล้วยังด่าคนอื่นอีก เฮ้อ “ ฉันว่าฉันควรจะรีบกว่านี้อีกนะ เร็วๆ เข้าสิ ทากิจัง “ เธอบอกผมขณะ ผมกำ

                   ลังวิ่งไล่จักรยานอย่างสุดแรงเกิด “ นี่..อย่าเติมจังหลังชื่อฉันนะ แล้วก็..คอยกันด้วยเซ่ “ ผมตะโกนบอกเธอ แต่เธอทำ

                   คิ้วขมวดพร้อม บอกกับผมว่า “ รีบวิ่งเข้าสิเป็นผู้ชายยังไงกันน่ะ..แล้วอย่าตะโกนใส่ฉันอีกล่ะ เดี๋ยวจะหาว่าฉันไม่เตือน

                   “ โหย ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่แล้วเป็นอะไรกับบ้านเราไหงโหดอย่างนี้เนี่ย ทันใดนั้นก็เกิดเรื่องขึ้น เอาอีกแล้วสิผม

                   มันจะอะไรกันนักกันหนา มีผู้ชายสองคนเดินผ่านหน้ารถจักรยาน เธอเลี้ยวหักหลบแต่เธอก็พลัดตกจากรถจักรยาน “

                   อะไรกันไอน้อง ขับรถดูคนบ้างสิ “ ผู้ชายสองคนนั้นกล่าวพร้อมทำท่าทางหัวเสีย “ ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆนะครับ “

                   ผมรีบก้มหัวแล้วกล่าวคำขอโทษ แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น “ นี่..นายน่ะควรระวังหน่อยนะเดินกลางค่ำกลางคืนแบบนี้

                   ถนนเค้ามีไว้ให้รถขี่ไม่ใช่ให้คนมาเดินเที่ยวเล่นแล้วอ้อ..ลืมไปใครใส่ให้พวกนายใส่เสื้อสีขาววันนี้เป็นวันจันทร์ควรใส่

                   ชุดสีเหลืองไม่ใช่สีขาว “ เธอพูดพร้อมโมโห แถมไปต่อว่าเค้าอีก “ อ้าวแล้วทีเจ๊ยังใส่ได้ทำไมเราจะใส่ไม่ได้ล่ะ “ ผู้

                   ชายหนึ่งในสองคนนั้นตอบกลับท่าทางงุนงงในใจเค้าคงคิดว่า ยัยนี่เป็นใครไหงมาด่าเราหน้าตาเฉยเลย “ อ้าว..ไอ้นี่มี

                   ย้อนเหรอเดี๋ยวแม่ตบไม่เลี้ยงหรอก จำไว้นะว่าวันนี้นายต้องใส่เสื้อสีเหลืองจำไว้ กลับไปเปลี่ยนที่บ้านเลยไป “ เธอ

                   ตะโกนออกไปเสียงดัง ผู้ชายสองคนนั่นรีบวิ่งหายไปเลย “ เธอนี่เก่งจังเลยนะไล่พวกนั้นไปได้..ผั๊วะ “ ผมพูดไม่ทัน

                   จบเธอก็ต่อยผมเข้าทันที





                   หมัดเธอหนักไม่ใช่เล่นเลยทำเอากรามผมเกือบหักแน่ะ “ นายก็เหมือนกัน ตอนฉันล้มไม่มาช่วยฉันเลย เห็นฉันสำคัญ

                   กว่าน้อยกว่าพวกนั้นหรือไงหา “ เธอตะโกนว่าผม “ เอ่อ..ผั๊วะ “ ผมไม่ทันได้พูดอะไรอีกหมัดนึงก็เข้าหน้าผมไปแล้ว

                   ตกลงวันนี้มันวันอะไรของผมกันเนี่ย เกือบโดนนักเลงต่อยแถม ยังโดนต่อยไปอีกสองหมัด เฮ้อ วันนี้มันวันดวงซวย

                   ของผมจริงๆ มันคงไม่มีเรื่องซวยกว่านี้อีกนะ

                   บ้าน ซันโตริโอะ เวลา 7.50 น.





                             “ กลับมาแล้วเหรอ ทากิ มาช่วยแม่จัดจานเข้าตู้หน่อยสิลูก อ้าว..หนูเอกะจังไม่ได้เจอกันซะนานนะ เชิญเข้า

                   มาด้านในสิจ๊ะ “ แม่ผมเดินออกมาจากข้างในบ้าน “ แม่รู้จักเธอด้วยเหรอครับ “ ผมถามหวนๆ “ รู้จักซิจ๊ะ เค้าเป็นลูก

                   ของน้าซาอิไงที่มาบ้านเราประจำเมื่อก่อนไง เอางี้เอกะจังอยู่กับทากิไปก่อนนะเดี๋ยวป้าจะไปซื้อของที่ตลาดซะหน่อย

                    “ แม่ผมบอก “ ค่ะคุณป้า นี่..นายน่ะ ช่วยหน่อย ฉันเริ่มหิวแล้วล่ะทำอาหารมาให้ฉันกินหน่อย “ เอกะพูดพร้อมล้มตัว

                   นั่งบนเก้าอี้ พระเจ้าช่วยกล้วยย่างดูซิ มาบ้านเราแถมใช้เราทำกับข้าวอีก “ จะกินอะไรล่ะ “ ผมถามเธอ “ บะหมี่ ด่วน

                   “ เธอทำคิ้วขมวด พร้อมบอกผม “ นี่ทากิเดี๋ยวแม่ไปตลาดเดี๋ยวนะจะฝากซื้ออะไรไหม “ แม่ผมตะโกนจากหน้าบ้าน

                   “ ไม่ล่ะคร้าบ “ ผมตะโกนกลับไป “ นี่..ทากิจ้างจ๋า..มาทำบะหมี่ให้ฉันกินหน่อยดิ “ เธอตะโกนมาจากในครัว หวาว..

                   ครั้งนี้เสียงหวานหยดย้อยเชียวคราวนี้คงมีอะไรดีๆบ้างล่ะ “ ครั้งนี้มีอะไรอีกล่ะหา “ ผมไปหาเธอแล้วพูดหวนๆ “ ที่เรียก

                   น่ะช่วยจัดห้องให้ฉันหน่อยสิพวกของเครื่องใช้น่ะฉันไม่พามาหรอกพรุ่งนี้ค่อยไปซื้อแล้วคืนนี้ฉันนอนห้องนายก่อนนาย

                   หาที่นอนเอาเองล่ะกัน “ เธอพูดหยิบขนมมากินแล้วไปห้องนั่งเล่นดูโทรทัศน์เฉยๆ ผมอยากรู้จริงว่าพ่อแม่เขาเลี้ยงมา

                   ยังไงกันเนี่ย ผมว่าผมไปนอนดีกว่าเผื่อมันเป็นความฝันผมจะได้ตื่นจากฝันร้ายเสียที

                   เช้าวันที่ 26 เดือน 10

                            



                            “ นี่ ทากิ นี่ นี่ “ เสียงผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ แปลว่าผมยังฝันอยู่แน่ๆ “ ไม่ตื่นใช่ไหม ได้ “ เธอเอ่ยขึ้น แล้วหายไป

                   เธอจะทำอะไรของเธอนะ “ ไฟไหม้ ไฟไหม้ ช่วยด้วย ไฟไหม้ “ ผมได้ยินเสียงวิ่งของเธอ วิ่งมา ผมนึกในใจว่า หึ หึ หึ

                   แบบนี้คงโกหกอีกล่ะสิ เอ๊ะ อะไรร้อนๆ หรือว่าจริงเนี่ย ผมลืมตาพรึ่บขึ้นมามีไฟไหม้จริงๆแต่ไม่ใช่ที่บ้านแต่เป็นที่ก้น

                   ของผมน่ะสิ “ เหวอ…ช่วยด้วยดับไฟหน่อย ร้อน ร้อน ร้อน!!! “ ผมตะโกนพร้อมลุกขึ้นจากเตียงวิ่งไปที่ห้องน้ำ แล้ว

                   ลงไปแช่ในน้ำที่ก้นผมมีฟองอากาศและมีเสียงดังฟู่ๆ เหมือนว่าไฟถูกดับลง ตอนนี้ในหัวผมมีแต่เรื่องที่จะแก้เผ็ด

                   เธอกลับ อืม…อ้อ!! รู้แล้ว…





                           “ นี่ เอกะทานข้าวแล้วยัง “ ผมตะโกนถามเธอจากครัวหลังจากอาบน้ำเสร็จ “ ยังเลยนายทำดิ ฉันหิวแล้วเหมือนกัน

                   “ เธอตอบกลับมาจากห้องรับแขกระหว่างที่เธอนอนดูโทรทัศน์ พลางกินมันฝรั่งทอดไปพลางๆ  “ “ แล้วจะทานอะไรล่ะ

                   ครับคุณนาย “ ผมถามเธอเชิงกวนโอ๊ยเล็กน้อย “ อยากตายหรือไง ทำอะไรก็ทำไปสิขัดใจตอนฉันดูรายการทีวีสุดโปรด

                   อยู่ได้ เดี๋ยวได้ตายหรอก “ เธอตะโกนอย่างไม่ค่อยพอใจ ผมก็เศร้าน่ะสิครับ ไอ้เราคิดจะทำอะไรให้ทานยังมาตะคอกใส่

                   เราอีก อ๊ะโด่ เซ็งเลยเรา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×