ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ใจทระนง

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 57


    นิวยอร์ก...
    กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
    กรี๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
    กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
    เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางไว้บนโต๊ะข้างๆหัวเตียงดังขึ้นติดกันอย่างนับไม่ถ้วน ความถี่ของเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ที่ได้ยิน กำลังบ่งบอกว่าปลายสายต้องมีเรื่องด่วนอะไรแน่ๆ 
    ภวินพลิกตัวมามองโทรศัพท์เจ้ากรรมที่กำลังส่งเสียงแผดลั่นอย่างรำคาญหู ใครกันช่างไม่รู้เวล่ำเวลา โทรมาตอนตีสองให้ตายเถอะ เขาเอื้อมมือหยิบมันมาดูเบอร์โทรเข้า
    ...เบอร์จากประเทศไทย...
    เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะกดปิดเสียงโทรศัพท์ แล้วโยนมันไปไว้ที่เดิมอย่างไม่ไยดี 
    ไหนบอกตัดเขาออกจากกองมรดกแล้วไง แล้วจะโทรมาทำไม ที่ส่งเขามาอเมริกาก็เพื่อไม่ให้เขาไปยุ่งวุ่นวายไม่ใช่หรือไง 
    'วิน แกมันตัวปัญหา ออกไปเลยนะ จะไปไหนก็ไป'
    เสียงของพ่อที่ดังขึ้นในห้วงความคิดทำให้ ภวิน ไม่สามารถข่มตาหลับต่อไปได้ เขาผุดขึ้นนั่งบนเตียง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ อยากจะให้สิ่งที่มันหนักอึ้งในสมองกระเด็นออกไปด้วยพร้อมลมหายใจ
    'ผมไม่อยากทำ บริษัทของพ่อนี่ ผมไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว พ่อก็ทำไปสิ' ภวินในตอนนั้นเพิ่งจะอายุ 18 พูดทุกอย่างออกไปโดยที่ยังไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร บิดาถึงยื่นคำขาดให้เขาไปเรียนต่อที่อเมริกา ตอนนั้น ภวิน กำลังติดเพื่อน และก็สอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านสยาม คณะที่เขาอยากเรียน คณะที่เขาใฝ่ฝัน แต่ทุกอย่างก็ต้องมาพังทลาย 
    'แกจะเรียนวิศวะไม่ได้ แกต้องเรียนบริหาร' บิดาเขายื่นคำขาด
    'ทำไมผมถึงเรียนวิศวะไม่ได้ ในเมื่อเพื่อนๆผมเขาก็เรียนกัน รุ่นพี่เขาก็เรียนกัน ผมไม่ชอบบริหาร ผมจะเรียนวิศวะ' ภวินเถียง
    'แกไม่ต้องเอาคนอื่นมาอ้าง แกต้องเรียนบริหาร เพราะฉันมีบริษัทให้แกดูแลต่อ ให้แกมาบริหารงานต่อจากฉัน'
    'พ่อถามผมสักคำหรือเปล่า ว่าผมอยากจะทำไอ้บริษัทบ้าๆนี้มั้ย บริษัทที่พ่อทุ่มเทกับมันมากกว่าผม บริษัทที่พ่อมีเวลาให้มันมากกว่าเวลาที่จะให้ผม บริษัทที่ให้กำไรกับพ่อได้อย่างมหาศาล และพ่อก็ใช้เงินกำไรนั้นมาเลี้ยงผม ไม่ใช่ความรัก' ภวินดวงตาแดงก่ำ เขาเจ็บปวดไม่น้อยกับภาพความทรงจำต่างๆที่ผ่านมา พ่อกับแม่ไม่เคยไปรับไปส่งเขาไปโรงเรียนเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ไม่เคยได้นั่งกินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ตั้งแต่เล็กจนโต ภวิน นั่งกินข้าวคนเดียวกับโต๊ะกินข้าวตัวใหญ่มาตลอด พ่อกับแม่ให้แต่เงิน เงิน และเงิน โดยไม่ถามเขาสักครั้งว่าจริงๆแล้วเขาต้องการอะไร ในสมองของพ่อก็มีแต่ ปีนี้ต้องได้กำไรมากกว่าปีที่แล้ว เดือนนี้ต้องได้กำไรมากกว่าเดิม 10% มีแต่เรื่องบ้าๆพวกนี้
    'วิน ไม่เอาลูก อย่าพูดแบบนี้' มารดาของเขาเข้ามากอดเขาไว้น้ำตาคลอ
    'แม่ก็เหมือนกัน แม่ไม่เคยสนใจผม'
    'แม่ขอโทษลูก แม่ขอโทษ' มารดาพร่ำบอกลูกชายน้ำตาไหลพราก เมื่อรับรู้ถึงความรู้สึกโดดเดี่ยวของลูกชาย บิดาของเขาพยายามระงับสติอารมณ์และหาวิธีหว่านล้อมใหม่
    'ถ้าแกไม่ไปอเมริกา แกก็อย่าหวังว่าแกจะได้เจอผู้หญิงของแกคนนั้นอีก อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ' บิดาเขายกเรื่องนี้ขึ้นมาขู่ เมื่อเห็นว่าเป็นทางออกสุดท้ายที่จะบังคับจิตใจลูกชายได้
    'พ่อจะทำอะไร พ่อห้ามแตะต้องมุกเด็ดขาดนะ'ภวินเสียงกร้าว
    'ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รักแกจริง เขารักที่เงินทองของแกต่างหาก'
    'ไม่จริง มุกรักผม ไม่ได้รักเงินของพ่อ'
    'แกกล้าพิสูจน์มั้ยล่ะ ถ้าผู้หญิงคนนั้นรักแกจริงอย่างที่แกว่า ฉันจะยอมให้แกเรียนคณะที่แกต้องการ แต่ถ้ามันเป็นจริงอย่างที่ฉันพูด แกต้องไปเรียนบริหารที่นิวยอร์ก'
    'หึ ได้ ถ้าพ่อจะเล่นแบบนี้ ผมจะพิสูจน์ให้พ่อเห็นเอง ว่ารักแท้มันมีจริง' ภวินจ้องหน้าบิดาเขม็ง เขามั่นใจ ว่ามุกระวีของเขารักเขาที่ตัวเขา ไม่ใช่เงินทอง
    'ก็ลองดู และนับจากวินาทีนี้ไป แกไม่มีสิทธิ์ในมรดกของฉัน บัตรเครดิตที่แกเคยใช้ รถที่แกเคยขับ เงินของฉันที่แกเอาไปปรนเปรอผู้หญิงคนนั้น ฉันจะยึดคืนทั้งหมด แกว่าเขารักแกที่ตัวไม่ใช่หรือไง' บิดาเขาเยาะ
    'แล้วเราจะได้รู้กัน'
    ภวินกล่าวทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ก่อนจะผลุนผลันออกจากห้องทำงานของพ่อไปด้วยอารมณ์คุกรุ่น
    หลังจากที่เพื่อนๆรู้ว่าเขาทะเลาะกับบิดารุนแรง และถูกตัดออกจากกองมรดก ยึดทั้งรถ ยึดทั้งบัตรเครดิต ภวิน คนนี้ก็เหลือแต่ตัว มุกระวี ผู้หญิงที่เขาคิดว่ารักเขาที่ตัวเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน มุกระวีให้เขากลับไปขอโทษบิดา และตัดพ้อต่อว่าเขาที่หาเรื่องทะเลาะกับบิดาจนโดนตัดออกจากกองมรดก แต่คนอย่าง ภวิน หรือ จะยอมเสียหน้า ในเมื่อเห็นว่าไม่ว่ายังไง ภวิน ก็คงไม่ยอมกลับไปคืนดีกับบิดาของเขาเป็นแน่ และเธอก็คงไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในกองมรดกของโชคชัยชรินทร์อีกต่อไป มุกระวีก็ตีตัวออกห่างภวิน และหันไปคบกับผู้ชายคนใหม่ที่เป็นลูกเจ้าของโรงแรม ภวินถูกส่งตัวไปอเมริกาทันทีที่บิดาเขารู้เรื่อง บิดาเขาไม่พูดอะไรสักคำตอนมาส่งเขาที่สนามบิน ภวินยินยอมที่จะไปอมเริกา เรียนบริหารตามคำสั่งของบิดาโดยดุษฎี
    เสียงสั่นของโทรศัพท์เรียกให้ภวินตื่นจากภวังค์ โทรศัพท์หลังจากปิดเสียงก็ยังสั่นไม่หยุด
    เขาเอื้อมมือหยิบมันขึ้นมาดูอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเป็นเบอร์ของเพื่อนสนิทเขา ณภัทร เพื่อนที่เป็นแพทย์ด้านจิตเวช
    "ว่าไงไอ้หมอ" ภวินกรอกเสียงลงไปตามสาย
    "ไอ้วิน ทำไมไม่รับโทรศัพท์วะ โทรไปตั้งหลายสาย รู้มั้ยเกิดอะไรขึ้นบ้าง"เสียงณภัทรที่ดังมาจากปลายสายร้อนใจมาก จนคนฟังถึงกับแปลกใจ มันเป็นอะไรของมัน
    "มีอะไร โทรมาตอนตีสอง คนจะหลับจะนอน"
    "กลับไทยด่วนเลยไอ้วิน ฉันจองไฟต์รอบตีสี่สิบนาทีให้แล้ว"
    "ไม่กลับ"ภวินพูดห้วนๆ เขาตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะไม่กลับ จะอยู่นิวยอร์กไปจนตาย อยากให้เขาเรียนบริหารก็เรียนให้แล้วไง แต่ไม่ไปบริหารให้หรอก ของพ่อ พ่อก็ทำเองสิ
    "แกเลิกประชดชีวิตซะทีไอ้วิน แกฟังฉันดีๆนะ และก็ทำใจดีๆด้วย ตอนนี้พ่อกับแม่ของแกประสบอุบัติเหตุโดนรถชน อาการโคม่าทั้งคู่"
    "ว่าไงนะ!!!" ภวินตกใจแทบสิ้นสติกับข่าวร้ายที่เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางดวงใจเขา
    "เข้าใจหรือยัง ว่าทำไมต้องรีบกลับ" ณภัทรตอบกลับมา แต่ภวินไม่สนใจที่จะฟังอีกต่อไปแล้ว เขาเด้งตัวจากที่นอน เก็บเสื้อผ้าและข้าวของที่จำเป็นใส่กระเป๋าอย่างลวกๆ
    'อย่าเป็นอะไรนะครับ ผมขอโทษ'
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×