ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    108คาถา

    ลำดับตอนที่ #1 : พระ คาถาชินบัญชร

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.พ. 51


    "พระคาถาชินบัญชร"

    คำนำ
    คาถานี้เป็นคาถาที่ดังและมีผู้ศรัทธามาก เชื่อถือกันว่าศักด์สิทธิ์ ผู้ใดสวดภาวนาเป็นประจำ
    จะเกิดความเป็นศิริมงคลต่อตัว สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ค้นพบในคัมภีร์โบราณ
    จึงนำมาดัดแปลงเป็นภาษาไทยและแก้ไขต้นฉบับเดิมไว้ให้ถ้อยความสละสลวย
    คาถานี้ให้ตั้งจิตแน่วแน่ต่อการสวด นอกจากจะได้รับอานิสงค์เป็นการทำบุญแล้ว
    ยังเป็นการเคารพต่อสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี อีกด้วย
    เนื้อความ ก่อนสวดระลึกถึงสมเด็จโตฯ ท่องนะโมฯ 3 จบ และสวดบทขึ้นต้นว่า 
    ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภทะนัง อัตถิกาเยกายะญายะ เทวานังปิยะตัง 
    สุตตะวา อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ มรณังสุขัง 
    อะระหัง สุคะโต นะโมพุทธายะ 

    เมื่อสวดบทต้นจบ ก็เรี่มสวดเนื้อคาถาได้เลย 
    1ชะยาสะนากะตา พุทธา เชตะวา มารัง สะวาหะนัง จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวังสุ นะราสะภา
    2ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเก เต มุนิสสะรา
    3สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร
    4หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะ ทักขิเณ โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะวามะเก
    5ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะ ราหุโล กัสสะโป จะ มะหานาโม
     อุภาสุง วามโสตะเก
    6เกสะโต ปิฏฐิตาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร นิสินโน สิริสัมปันโน โสภีโต 
    มุนิ ปุงคะโว
    7กุมาระกัสสะโป เถโร มะเหสี จิตตะวาทะโก โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง 
    ปะติฏฐาสิ คุณากะโร
    8ปุณโณ อังคุลิมาโลจะ อุปาลี นันทะสีวะลี เถรา ปัญจะอิเมชาตา 
    นะลาเฏ ติละกา มะมะ 
    9เสสาสิติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา เอเตสีติ มะหาเถรา 
    ชิตะวันโต ชิโนระสา ชะลันตา สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา 
    10ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะสุตตะกัง ธะชัคคัง 
    ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง 
    11ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง อากาเส 
    ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา
    12ชินา นานา วะระสังยุตตา สัตตัปปาการะลังกะตา วาตะปิตตาทิสัญชาตา พาหิรัชณัตตุปัททะวา
    13อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะเตชะสา วะสะโต 
    เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร 
    14ชินะปัญชะระมัชณิมหิ วิหะรันตัง มะหิตะเล สะทา ปาเลนตุ มัง 
    สัพเพ เต มะหาปุริสา สะภา
    15อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข ชินานุภาเวนะ ชิตูปัททะโว ธัมมานุภาเวนะ 
    ชิตาริสังโฆ สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะ รามิชินะปัญชเรติ

    คำแปล.
    1.พระพุทธเจ้าและพระนราสภาทั้งหลายผู้ประทับนั่งแล้วบนชัยบัลลังก์ 
    ทรงพิชิตพระยามาราธิราช ผู้พรั่งพร้อมด้วยเสนาราชพาหนะแล้ว 
    เสวยอมตะรสคือ อริยะสัจจธรรมทั้งสี่ประการ เป็นผู้นำสรรพสัตว์
    ให้ข้ามพ้นจากกิเลสและกองทุกข์ 

    2.มี 28 พระองค์คือ พระผู้ทรงพระนามว่า ตัณหังกร
    เป็นอาทิพระพุทธเจ้า จอมมุณีทั้งหมดนั้น 

    3.ข้าพระพุทธเจ้าขออัญเชิญมาประดิษฐานเหนือเศียรเกล้า 
    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่บนศีรษะ 
    พระธรรมอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง พระสงฆ์ผู้เป็นอากรบ่อเกิดแห่งสรรพคุณ อยู่ที่อก 

    4.พระอนุรุทธะอยู่ที่ใจ พระสารีบุตรอยู่เบื้องขวา พระโมคคัลลาน์อยู่เบื้องซ้าย 
    พระอัญญาโกณฑัญญะอยู่เบื้องหลัง 

    5.พระอานนท์กับพระราหุลอยู่หูขวา พระกัสสะปะกับพระมหานามะอยู่ที่หูซ้าย 

    6.มุณีผู้ประเสริฐ คือ พระโสภิตะผู้สมบูรณ์ด้วยสิริ ดังพระอาทิตย์ 
    ส่องแสงอยู่ทุกเส้นขน ตลอดร่างทั้งข้างหน้าและข้างหลัง 

    7.พระเถระกุมาระกัสสะปะผู้แสวงบุญทรงคุณอันวิเศษ 
    มีวาทะอันวิจิตรไพเราะอยู่ปากเป็นประจำ 

    8.พระปุณณะ พระอังคุลิมาล พระอุบาลี พระนันทะ และพระสีวะลี 
    พระเถระทั้ง 5 นี้ จงปรากฏเกิดเป็นกระแจะจุณเจิมที่หน้าผาก 

    9.ส่วนพระอสีติมหาเถระที่เหลือ ผู้มีชัยและเป็นพระโอรสเป็นพระสาวก
    ของพระพุทธเจ้าผู้ทรงชัย แต่ละองค์ล้วนรุ่งเรืองไพโรจน์ด้วยเดช
    แห่งศีลให้ดำรงอยู่ทั่วอวัยวะน้อยใหญ่ 

    10.พระรัตนสูตรอยู่เบื้องหน้า พระเมตตาสูตรอยู่เบื้องขวา 
    พระอังคุลิมาลปริตรอยู่เบื้องซ้าย พระธชัคคะสูตรอยู่เบื้องหลัง 

    11.พระขันธปริตร พระโมรปริตรและพระอาฏานาฏิยสูตร
    เป็นเครื่องกางกั้นดุจหลังคา อยู่บนนภากาศ 

    12.อนึ่งพระชินเจ้าทั้งหลายนอกที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ผู้ประกอบพร้อม
    ด้วยกำลังนานาชนิดมีศีลาทิคุณอันมั่นคง คือ สัตตะปราการเป็นอาภรณ์
    มาตั้งล้อมเป็นกำแพงคุ้มครองเจ็ดชั้น 

    13.ด้วยเดชานุภาพแห่งพระอนันตชินเจ้าไม่ว่าจะทำกิจการใดๆ 
    เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเข้าอาศัยอยู่ในพระบัญชรแวดวงกงล้อม
     แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอโรคอุปัทวะทุกข์ทั้งภายนอกและภายใน 
    อันเกิดแต่โรคร้าย คือ โรคลมและโรคดี เป็นต้น 
    เป็นสมุฏฐานจงกำจัดให้พินาศไปอย่าได้เหลือ 

    14.ขอพระมหาบุรุษผู้ทรงพระคุณอันล้ำเลิศทั้งปวงนั้น จงอภิบาลข้าพระพุทธเจ้า
     ผู้อยู่ในภาคพื้น ท่ามกลางพระชินบัญชร ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการคุ้มครอง
    ปกปักรักษาภายในเป็นอันดี ฉะนี้แล 

    15.ข้าพระพุทธเจ้า ได้รับการอภิบาลด้วยคุณานุภาพแห่งสัทธรรม 
    จึงชนะเสียได้ซึ่งอุปัทวะอันตรายใดๆ ด้วยอานุภาพแห่งพระชินะพุทธเจ้า 
    ชนะข้าศึกศัตรูด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ชนะอันตรายทั้งปวง
    ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ ขอข้าพระพุทธเจ้าจงได้ปฏิบัติและรักษา
    ดำเนินไปโดยสวัสดีเป็นนิจนิรันดร เทอญ. 

    เมื่อสวดตัวคาถาจบ ต่อด้วยบทจบเลย ว่า..

    โตเสนโต วะระธัมเมนะ โตสัฏฐาเน สิเว วะเร
    โตสัง อะกาสิ ชันตูนัง โตสะจิตตัง นะมามิหัง

    และเมื่อใดที่ต้องการบูชาสมเด็จโตฯ ว่าดังนี้

    อิติปิโส ภะคะวา ราชาโต ท้าวเวสสุวัณโณ พะละสุขัง พรหมรังสี 
    นามะโต อะระหัง พุทธะโต นะโมพุทธายะ.


    สรุป.
    บทสวดมนต์ชินบัญชรนี้สร้างขึ้นเพื่อให้บูชาพุทธศาสนาและบูชาสมเด็จพุฒาจารย์ โตฯ
    และเพื่อเป็นการตั้งสมาธิจดจ่ออยู่กับบทคาถา ถ้าท่องจนจำได้
    ก็เป็นการฝึกความจำ หาได้ไปทางไสยศาสตร์ไม่ การได้ผลบุญเป็นเพียงอานิสงค์เล็กๆน้อยๆ
    ถ้าเมื่อสวดมนต์แล้ว ทำสมาธิแบบอานาปานสติยี่งดี เพราะเป็นการฝึกจิต ทำให้จิตว่าง
    มีความระลึกรู้ และเป็นการฝึกการจดจ่ออยู่กับสี่งใดสี่งนึงได้นาน ทำให้เข้าใจสี่งนั้นอย่างท้องแท้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×